Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

(แชร์) TOP 3 หนังสือที่มีอิทธิพลต่อชีวิตของคุณ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
อยากแชร์หัวข้อนี้มานานแล้วค่ะ ^^
จริงๆ มีเป้าหมายแอบแฝงคือมาหาหนังสืออ่านนั่นเอง

มาแชร์กันค่ะ!

TOP 3 ของหนังสือที่มีอิทธิพลต่อชีวิตคุณคือเล่มไหนกันบ้าง?

จะเป็นหนังสือแนวไหนก็ได้นะคะ ที่ท่านคิดว่าเล่มนี้แหละมันเปลี่ยนชีวิตหรือลืมไม่ลง อะไรประมาณนั้น

อนึ่ง...ของเรามีแต่นิยายค่ะ 55+

1. The Lord of the Rings Trilogy โดย JRR Tolkien: 
       หยิบขึ้นมาพร้อมความคิดที่ว่า "เล่มหนามาก" เป็นหนังสือที่มีความหนาเป็นพิเศษเล่มแรกในชีวิตที่ได้อ่าน และเมื่ออ่านไปก็ผล็อยหลับคาตัวหนังสือไปตั้งแต่ยังไม่ผ่าน 50 หน้าแรก แต่...แต่ว่า...!! เมื่อไปดูหนังแล้วค้างงงงงงงงงง ด้วยความอยากรู้ตอนต่อไปของเรื่อง (ขอขอบคุณความช่างสงสัยในตอนนั้นที่ทำให้มีวันนี้) ก็ทำให้หยิบหนังสือขึ้นมาอ่านอีกครั้ง กลายมาเป็นหนังสือขึ้นหิ้งของเราในปัจจุบัน และได้รับอิทธิพลต่อการเขียนนิยายของเราเต็มๆ เป็นมาเช่นนี้แล

2. ไมรอน โดย พัณณิดา ภูมิวัฒน์: 
       เป็นนิยายที่โดนตะเกียงของหน้าปกดึงดูด (ฮา) ชอบมากทั้งภาษาการบรรยาย มุมมองการเล่าเรื่อง ทัศนคติ และข้อคิดที่ต้องการถ่ายทอดของเรื่อง เป็นหนังสือในดวงใจที่ชอบที่สุดตอนนี้ของคุณลวิตร์เลยล่ะ ^^ ถามว่าได้รับอิทธิพลมายังไง ยอมรับว่าเชื่อในประโยคที่ว่า นักเขียนแต่ละท่านมีสำนวนภาษาของตัวเอง เพราะเล่มนี้ค่ะ (ฮา) เป็นเพราะเราเป็นคนอ่านหนังสือน้อยด้วยล่ะ แต่พออ่านงานของคุณลวิตร์แล้ว มันเป็นความรู้สึกเลยว่า อืม...เรื่องนีุ้คุณลวิตร์เขียน คำมันลื่น ไม่ซ้ำ กระชับ และลักษณะเฉพาะน่ะคะ ไม่รู้จะอธิบายยังไง แต่ว่าชอบมากค่ะ

3. GOTH โดย Otsu-Ichi: 
       ในชีวิตนี้นอกจากการ์ตูนญี่ปุ่นแล้ว ก็ไม่คิดว่าจะหยิบนิยายญี่ปุ่นขึ้นมาอ่าน เนื่องด้วยนิยายญี่ปุ่นที่ผ่านตาในขณะนั้น หน้าปกล้วนหน้ากลัวทั้งสิ้น ความที่ไม่ชอบเรื่องสยองขวัญและเกลียดการเล่าเรื่องผีมาตั้งแต่เด็กๆ ทำให้แม้จะชอบแนวๆ ญี่ปุ่นมาก แต่เรื่องหลอนๆ นี่ก็ขอผ่านค่ะ ...กระทั่งได้ไปอ่านรีวิวหนังสือเล่มนี้จากเอนทรีนึง (ที่ชอบการเขียนรีวิวของเจ้าของเอนรีนี้มาก แต่เงียบหายไปแล้วในปัจจุบัน TT) ว่า "คุณไม่ควรรู้อะไรเกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้" เท่านั้นแหละ...แม่พลิกแผ่นดินหาเลยค่ะ จนสุดท้ายก็ได้มาอ่านในที่สุด ซึ่ง...มันลึกซึ้งอย่างที่ว่า คุณไม่ควรจะรู้จริงๆ นั่นแหละ 55+ และเล่มนี้ก็เป็นเล่มที่ทำให้เราหลงมาอยู่ในแนวดาร์กๆ ล่ะมั้ง (ฮา)

ตามนี้ค่ะ...

อยากจะบอกว่า...เลือกยากมาก มีอีกหลายๆ เล่ม แต่เลือกๆ ไปก็รู้สึกว่าตัวเองอ่านหนังสือน้อย ไม่ค่อยกว้างเท่าไรเหมือนกันนะ อยากทำเป็น Top 5 จัง ฮือ...

แสดงความคิดเห็น

>

109 ความคิดเห็น

isomer_cat 29 ต.ค. 56 เวลา 02:38 น. 1

ตอบเล่มเดียวก่อนได้มั้ยคะ 555 เพราะนึกออกเล่มเดียว
(แต่จะเรียกเล่มเดียวก็ไม่ถูก เรียกว่าเรื่องเดียวดีกว่า)

เรื่องที่อ่านแล้วรู้สึกว่ามีอิทธิพลกับแนวความคิดหน่อยๆคือ การเดินทางของคิโนะ ค่ะ (kino no tabi) แต่น่าเสียดายที่ฉบับแปลไทยสนพ.ไม่ได้ทำแล้ว แล้วลิขสิทธิ์ไม่รู้ไปว่าจะยังไง 

ถ้าให้บอกถึงความชอบ เราว่าเป็นที่การดำเนินเรื่องที่เหมือนจะแฝงบางอย่างไว้ อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน ฮ่าาา

เป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจให้เรากล้าเชือดตัวละครที่คนอ่านอวยได้ค่ะ//ไม่เกี่ยวกับคิโนะแล้ว


จบดีกว่า

0
ainaree 29 ต.ค. 56 เวลา 03:03 น. 2

เอ่อ...จะบอกว่ามีอิทธิพลในเเง่ร้ายได้ไหมคะ 555
1...จำชื่อไม่ได้ แต่เป็นการ์ตูนเรทx เเรงมาก ของสมัยก่อน แนวต้องห้าม..พี่น้อง เราอ่านตอน ป.2(ของปะป๋า) จำได้ว่าแอบอ่านในซอกหลีบของตู้เเบบค้นเจอ อ่านเข้าใจไม่กี่คำหรอก แต่มันเหมือนสมองพองโตมาก ตกใจ ใจสั่นไปหมด กลัวด้วย แต่ก็อยากรู้อยากเห็น
ผลกระทบ... มันจำฝังใจ มันทำให้เรากลายเป็นพวกชอบเรื่องต้องห้ามเป็นพิเสษ เกี่ยวไหมไม่รู้ ตอนแรกเราก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเวลาอ่านเรื่องรักพี่น้องต้องตื่นเต้นทุกครั้ง...แต่เราว่ามันคงเป็นอะไรที่ทำให้ซ้ำรอยกับครั้งแรกที่เปิดอ่าน...เราว่าเรื่องราววัยเด็กมีผลกระทบกับเด็กมาก...เรากลายเป็นคนเสพอะไรดาร์กๆไปเลย (ใครมีน้องมีลูกมีหลานควรระวังให้ดีเรื่องสิ่งที่เด็กได้รับรู้ตอนเด็กๆ)

2.ถ้าจะบอกว่าเกมส์ออนไลน์นี่ฮาไหม... คือเราอ่านบรรดาเกมส์ออนไลน์ ชีวิตต้องสู้ ต้องกัดฟันทน มันทำให้รู้สึกว่า โหหหห พระเอกอย่างเท่เลยอ่ะ!!
ดังนั้นมันมีผลกระทบกับเรายังไง?
555ฮามาก...คือเราไปทำฟัน เเล้วมันเจ็บมากกก(ฟันคุด) แล้วเราก็จะคิดในใจว่า...เอ้ยพระเอกเรื่องนั้นมันยังทำได้เลย...เราต้องทนได้สิ มันเทียบกันไม่ได้เลย เราต้องสู้เว้ย เจ็บต้องทนเเล้วมันจะผ่านไปได้5555

3 เรื่องยุทธการล่าบัลลังก์ของจิ่วถู่...เราชอบหลี่ซีมากกก มันทำให้เรามีกำลังใจในการทำการบ้าน555555 เราคิดว่าถ้าไม่ทำก็ไม่สำเร็จเเบบพระเอก พระเอกขยันมาก...เราต้องทำให้ได้บ้างเว้ยเอ้ย ถ้าเราขยัน อดทน ต่อสู้แบบพระเอก เราก็จะประสบความสำเร็จ(คิดๆดูก็ฮาตัวเอง...แต่มันเป็นแรงบันดาลใจจริงๆ)
0
Pleonaste 29 ต.ค. 56 เวลา 06:05 น. 3

1.วันพีช
เราขอบเรื่องนี้มากจริงๆค่ะ ชอบทั้งแนวคิด การดำเนินเรื่อง การผูกเรื่อง ปล่อยมุกแป้ก ดราม่า ความผูกพันระหว่างพวกพ้อง ตัวละคร ชอบจนไม่รู้จะชอบยังไงดีแล้ว ถ้าไม่มีวันพีชป่านนี้เราไม่ติดการ์ตูนขนาดนี้ แต่นั่งอ่านนิยายไปเรื่อยๆ ไม่ได้ค้นพบความสุขอีกด้านของชีวิต T w T (เว่อร์ไป)

2.นารูโตะ
เป็นการ์ตูนที่ทำให้เราหันมาดูการ์ตูนบู๊ๆอย่างวันพีช ตอนแรกดูแต่โคนัน ถึงตอนนี้จะเริ่มเอือมๆการต่อสู้กับโอบิโตะไปบ้างแต่ก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยก็เป็นผู้มีพระคุณที่ทำให้ได้พบกับวันพีช

3.1/2 Prince
เป็นนิยายที่ทำให้เราค้นพบรสนิยมของตัวเองค่ะ ตอนแรกคิดว่าเราชอบนิยายสืบสวนสอบสวนซะอีก แต่พอได้มาอ่านเรื่องนี้ก็พบว่าตัวเองชอบอะไรฮาๆมากกว่าตั้งเยอะ หลังจากนั้นก็เปลี่ยนแนวการอ่านมาสถิตอยู่กับหนังสือฮาๆตลอดไป = w =

0
Choc Witch 29 ต.ค. 56 เวลา 07:22 น. 4
คำว่ามีอิทธิพลต่อชีวิต สำหรับเราแล้ว ส่วนใหญ่จะมีผลต่อการอ่าน การแต่งนิยายของตัวเองซะมากกว่าที่จะมีอิทธิพลอย่างอื่น เพราะงั้นเลยขอยกนิยาย 3 เรื่องนี้ขึ้นมา (คิดว่าใครๆ ก็รู้จักล่ะนะ)
The Thief of Baramos หัวขโมยแห่งบารามอส
นิยายเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องแรกที่เราอ่านเลยก็ว่าได้ เมื่อก่อนไม่ใช่คนอ่านหนังสือ ทั้งหนังสือเรียนและการ์ตูน ถึงรูปเยอะ ดึงดูดแค่ไหนก็ไม่อ่าน เจอเล่มนี้เข้าไป เหมือนได้ค้นพบว่ามีหนังสือที่สนุกอยู่ หนังสือก็ไม่ได้เลยร้าย ลองอ่านสักหน่อยก็ได้ หลังจากนั้นก็เริ่มอ่านการ์ตูน (พอเริ่มแล้วก็ติดซะงั้น) เริ่มอ่านหนังสือเรียน ตอนนั้นเองที่ได้รู้ว่าหนังสือเรียนบางเล่มก็เขียนดีนะ ถ้าสนุกไปกับมันก็ไม่ได้น่าเบื่ออะไรมาก ที่สำคัญคือมันทำให้เราเริ่มหัดแต่งฟิคด้วย สำหรับตัวเรื่อง เราชอบทั้งตัวละคร เนื้อเรื่องและการดำเนินเรื่อง เพราะสนุก อ่านเพลิน มีมุขที่สอดแทรกลงไปตามนิสัยตัวละครเป็นระยะ กับเรื่องราวความสัมพันธ์ฉันเพื่อน ตอนนั้นชอบมาก อ่านซ้ำหลายรอบจนจำขึ้นใจ แต่หลังจากเว้นว่างจากการอ่านเรื่องนี้ไปหลายปี พอแก่แล้วค่อยกลับมาอ่าน ถึงได้รู้ว่ามันสนุกนะ แต่ไม่ได้รู้สึกว่ามันสนุกมากๆ เหมือนเมื่อก่อนแล้ว (หรือเพราะเราอ่านซ้ำหลายรอบแล้วกันนะ)
Sevena มหานครแห่งมนตรา
เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่สองที่เราอ่าน เนื้อหาตอนแรกๆ ไม่ได้ดึงดูดเราเท่าไหร่นัก แต่อ่านไปอ่านมาชักเริ่มชอบ เริ่มติด (ตั้งแต่ช่วงเริ่มเข้าโรงเรียน) นั่นทำให้เราได้รู้ว่าตอนนั้นเรากำลังติดใจพล็อตแนวโรงเรียน แล้วก็เที่ยวตามหานิยายแนวนี้อ่าน รวมทั้งเริ่มแต่งนิยายเป็นของตัวเองด้วย นิยายเรื่องนี้เราชอบความซับซ้อน ชอบความพยายามของนางเอก ชอบเรื่องราวในโรงเรียน เรื่องตอนออกนอกโรงเรียนก็ชอบเรื่องราวตอนอยู่ร่วมกันกับเพื่อน กับพระเอก รวมถึงตอนทำกิจกรรมต่างๆ ที่แสดงให้เห็นว่านางเอกไม่ธรรมดา ไปๆ ถึงได้รู้ว่าตัวเองชอบอะไรแนวนี้ ฮ่าๆ
No Hero รัตติกาลอันตราย
เรื่องนี้ถือเป็นนิยายแปลเรื่องแรกที่เริ่มอ่าน (อ่านของคนไทยมานาน เพิ่งได้เริ่มอ่านนิยายแปล) อ่านแล้วชอบมาก ทั้งเรื่องราว ตัวละคร และความน่ารักของตัวละครเองด้วย มุขตลกถึงไม่ได้ฮาก๊าก แต่ก็น่ารัก ชวนให้อมยิ้ม เอาตามตรง ในบรรดานิยายของอวี้หว่อที่อ่านมาทั้งหมด ความฮาเรื่องนี้อาจสู้เรื่องอื่นไม่ได้ แต่เนื้อเรื่องเราชอบเรื่องนี้มากที่สุด (แล้วแต่คนด้วยมั้ง) ภาษาก็อ่านง่าย ลื่นไหล ไม่ใช้คำฟุ่มเฟือยด้วย สุดท้ายนิยายเรื่องนี้เลยมีอิทธิพลทำให้เราเปลี่ยนสไตล์การแต่ง
0
ELVHA 29 ต.ค. 56 เวลา 07:41 น. 5

1.

อภิมหาอมตะนิรันดร์กาล

และก็คงจะเป็นแบบนี้ไปอีกนานแสนนาน


ผมเกิดมาในสมัยที่โดราเอม่อนยังออกตอนพิเศษมาได้ไม่กี่ตอน

ช่วงนั้นสำนักพิมพ์ไพเรทยังมีมากมายมหาศาล และก็มักจะพบกับโดราเอม่อนฉบับไพเรทวางขายอยู่ตรึม

ด้วยความที่พ่อแม่ผมท่านยินดีซื้อการ์ตูนให้อ่าน

ผมเลยได้อ่านการ์ตูนมามากมายจนไม่อาจนับเรื่องได้

และโดราเอม่อน ก็เป็นหนึ่งในเรื่องที่อยู่ในใจผมมาตั้งแต่นั้น 

ตั้งแต่เด็ก มาจนโต จนถึงทุกวันนี้ โดราเอม่อนก็คงอยู่กับผม

ผมไม่อาจพูดได้ว่าผมผ่านอะไรมาเยอะนักเมื่อเทียบกับหลาย ๆ ท่าน

แต่ผมเชื่อว่าผมเป็นคนหนึ่ง ที่ได้มองเห็นวิวัฒนาการและกระแสการเปลี่ยนแปลงครั้งแล้วครั้งเล่าในวงการการ์ตูนมาตลอด

ผมมองเห็นโดราเอม่อนขยายโลกของโดราเอม่อน โนบิตะ และผองเพื่อนออกมาให้ผมได้เห็น 

และผมได้เห็นการเติบโตของโดราเอม่อน เห็นว่าโดราเอม่อนมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางไหน

และท่ามกลางการล้มหายตายจากไปจากกระแสของอนิเมและการ์ตูนเรื่องแล้วเรื่องเล่า  ผมก็ยังคงมองเห็น โดราเอม่อน

ที่แม้จะไม่โดดเด่น ไม่ออกตัวรุนแรง แต่ก็ยังมีพลังในตัวเองที่ทำให้ทุกคน และตัวผม จดจำได้ถึงทุกวันนี้ 

และเชื่อว่า คงยากที่จะลืมได้




2.  จึงทำให้เกิด

ให้ทั้งสองเล่มเท่าเทียมกัน


ในช่วงก่อนปี 2,000 นั้น

จำได้คลับคล้ายคลับว่า ตอนปี 1,996 - 1,997 

ช่วงนั้นผมเพิ่งขึ้น ม.ต้น  และเป็นช่วงที่เริ่มหันเข้าหาเส้นทางและวงการการ์ตูนอย่างจริงจัง

และที่ทำให้ผมหันไปในเส้นทางนั้นได้ ก็ด้วยแรงจูงใจจากทั้ง 2 เล่มนั้นครับ



ตอนแรกนั้น ผมได้เช่า Eva อ่านอยู่ก่อนแล้ว 

แต่ในขณะที่กำลังอ่านเล่มต้น ๆ อยู่  ก็บังเอิญได้พบกับนิตยสาร Comic Quest วางขายที่แผงหนังสือใกล้บ้าน

จำได้ว่าเป็นเล่มที่ 7  มี Eva ขึ้นปก ปกออกโทนสีแดงเข้ม

ด้วยความที่ตอนนั้นกำลังเช่าอ่านอยู่ ผมสนใจเลยซื้อ Comic Quest เล่มนั้นมา

และ ด้วยสกู๊ปข้อมูลของ Eva ที่ลงใน Comic Quest เล่มนั้นนี่เอง

ที่ทำให้ผมรู้สึกสนใจในวงการอนิเมมากขึ้น อยากรู้ว่าจะมีอะไรอีก

หลังจากนั้น ผมได้ตามซื้อ Comic Quest ทุกฉบับที่วางแผง

และมันได้ทำให้ผมได้เรียนรู้ ได้รับทราบ ว่าในวงการนั้นเป็นอย่างไร

ทำให้ผมได้รู้จักอนิเมเรื่องนั้น เรื่องนี้ การ์ตูนอีกมากมาย  

จนทำให้ผมติดแหง็กอยู่ในวงการนี้จนถอนตัวไม่ขึ้น อย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้

ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่า 

เพราะมี Comic Quest  จึงทำให้ผมสนใจ Eva อย่างจริงจัง

แต่ก็เพราะ Eva ด้วยเช่นกัน ที่ทำให้ผมตัดสินใจซื้อ Comic Quest เล่มนั้น




3.    ผสมผสานกับ


อย่ากัดผมนะ

ถ้าผมจะบอกว่า ต้นตอของเล่มซ้าย มันไม่ใช่หนังสือ แต่เป็น "โดจินเกม"



เล่มซ้ายคือ "สารานุกรม" ที่เลือกหยิบภาพปกของเล่ม 2 มาโพสต์

ซึ่งมันเป็นหนังสือรวบรวมข้อมูลตัวละครและขยายความในส่วนต่าง ๆ ของ "โดจินเกม" ในซีรี่ส์ที่ทำออกมาต่อเนื่องสิบกว่าภาคแล้ว ที่ชื่อว่า "Touhou" 

เป็นเกมแนวยานยิง ( Shooting )  ที่บังคับตัวละครเอกบินไปตามทาง

เผชิญกับเหล่าศัตรูที่เต็มไปด้วยเหล่าภูตผีปีศาจนานาสารพัดชนิดทั้งธรรมดา ทั้งร้ายกาจ

พร้อมกับพลังอำนาจที่กล้าแข็งชนิดต่าง ๆ ที่ส่งผ่านออกมาในรูปแบบของ "ห่ากระสุน" ( Danmaku )

กลุ่มกระสุนพลังทำลายล้างที่ออกมาในรูปแบบต่าง ๆ  ซ้ำยังล้วนแต่จับกลุ่มและสอดประสานทั้งยังมีทิศทางการเคลื่อนที่และการเปลี่ยนแปลงที่สุดแสนจะอลังการตระการตาดาวล้านดวง

ซ้ำ ตัวละครแต่ละตัว ที่ตอนนี้ปาเข้าไปกว่า 100 ตัวแล้ว ต่างก็ล้วนแต่มีเอกลักษณ์ของตัวเอง

ทั้งนิสัย ทั้งเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย และเรื่องราวความเป็นมาต่าง ๆ ของตัวเอง

บ้างก็สุข บ้างก็เศร้า บ้างก็เหงา บ้างก็เคล้าน้ำตา บ้างก็ดราม่ากันจนแทบจะขาดใจ

และจุดนั้นได้ทำให้โทโฮยังคงครองความนิยมอยู่จนถึงปัจจุบันครับ



เล่มขวาคือซีรี่ส์ "Toaru Majutsu no Kinsho Mokuroku"  

หรือรู้จักกันดีไปทั่วในชื่อว่า "Toaru Majutsu no Index"

ซึ่งเป็นไลท์โนเวลชั้นเยี่ยมเรื่องหนึ่งของเดงเกคิบุงโกะ ผลงานของ "Kazuma Kamachi" 

เรื่องราวของ "คามิโจว โทมะ" เด็กหนุ่มที่มีพลังลบล้างพลังเหนือธรรมชาติในมือขวา ได้พบกับเด็กสาวนาม "Index" ที่ครอบครองตำราเวทมนตร์คาถาถึง 103,000 เล่ม

และนั่นได้ทำให้เธอตกเป็นเป้าของการโจมตีจากเหล่าผู้ใช้เวทมนตร์ เดือดร้อนเด็กหนุ่มต้องคอยใช้มือขวานั่นช่วยเหลือและจัดการคลี่คลายปัญหาต่าง ๆ นา ๆ

ซ้ำ ยังต้องพลอยถูกลากเข้าไปพัวพันกับเรื่องราวเหนือธรรมชาติต่าง ๆ

ทั้งเรื่องของเวทมนตร์คาถา และพลังเหนือธรรมชาติอย่างอำนาจจิตในรูปแบบต่าง ๆ


สองซีรี่ส์นี้มีอิทธิพลกับตัวผมมาก

เพราะ Touhou ทำให้ผมหันกลับมาแต่งนิยายอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่หยุดพักไปหลายปี

และยังเป็นตัวกำหนดรูปแบบนิยายของผมใหม่

จากเดิมที่แต่งแต่ รัก - ดราม่า - โรแมนซ์ (ไม่มีฉาก 18+ )

กลับกลายเป็น แอ็คชั่น - แฟนตาซี - ไซไฟ - ดาร์ค ไปเสียได้ (แต่ก็ยังไม่ทิ้ง รัก - ดราม่า - โรแมนซ์ นะ)

และ แนวทางนั้น ถูกซ้ำให้หนักแน่นขึ้น ด้วยซีรี่ส์ Index

ที่ขยายความเป็นไปได้ของแนวแฟนตาซีให้ผมได้เข้าใจ

ว่าแม้แต่โลกปัจจุบัน ก็ยังแฟนตาซีได้ ซ้ำยังใส่ความเป็นไซไฟลงไปเต็ม ๆ ได้

และนั่นเป็นรูปแบบที่ผมชอบและโปรดปรานมาก



ก็ คงจะประมาณนี้ล่ะนะครับ

ก็ต้องขออภัยด้วยจริง ๆ ที่ยาวเหยียดไปหน่อย

0
timmy 29 ต.ค. 56 เวลา 08:13 น. 6

ข้าน้อยก็ชอบนะเรื่องนี้>< ถึงขนาดถ่อไปคิโนะที่อยู่ถึงเซ็นทรันเวิลเพื่อนซื้อฉบับญี่ปุ่นเล่มล่ะ3ร้อยมานั่งอ่านเลย(แต่ก็อ่านไม่ออก คิดว่าจะลองไปเรียนญี่ปุ่นดูเจ้าค่ะ...)

0
timmy 29 ต.ค. 56 เวลา 08:24 น. 7

เรื่องที่ทำให้เริ่มแต่งคือยมทูตสีขาวเจ้าค่ะ(ไลท์โนโวลที่ไม่มีแปลไทยอีกแล้ว...ไปหาฉบับญี่ปุ่นก็หาไม่เจอT T)
มันเป็นไลท์โนโวลออกแรวดราม่า(ไม่)นิดเจ้าค่ะ หลายคนที่อ่านหรือดูเมะบอกว่ามันไม่ค่อยน่าสนใจ(ก็แหงล่ะ มันจะไปสู้เรื่งที่บู๊แหลกลาญได้ไง...)แต่ข้าน้อยชอบคาแร็คเตอร์ของนางเอกมาก คือเธอเป็นบมทูตนอกคอกที่ดันมีหน้าตาคล้ายกับยมทูตที่น่ากลัวที่สุด แล้วนางเอกของเราก็มักจะร้องไห้ให้กับวิญญาณผู้ล่วงลับเสมอๆ

แต่พอแต่งไปพักหนึ่งก็เลิกเจ้าค่ะ สาเหตุเพราะ...ติดเกมส์....
แล้วพอคิดจะเริ่มแต่งใหม่อีกทีก็ตอนที่หยิบนิยายเรื่องการเดินทางของคิโนะมาอ่านเล่นแก้เซงค่ะ ทีจริงข้าน้อยชอบคิโนะตั้งแต่อ่านครั้งแรกแล้วนะ แต่แบบ...เกมส์มันชวนให้ลืมทุกสิ่งจริงๆ555 หลังจากอ่านคิโนะก็บังเอิญไปเจอะเมะหรื่องหนึ่งที่เขาบอกว่ามันเป็นตำนาน เรื่องบร๊ะแม่มาโดกะแหละเจ้าค่ะ... 2ตอนแรกทำข้าน้อยเซงมากและเกือบจะเลิกดูแต่เนื่องด้วยอ่านสปอยด์มาแล้วเขาบอกไคล์แมคอยู่ตอนที่3...จากนั้นก็ติดเลย
สาเหตุที่ชอบมาโดกะเพราะมันกระตุ้นต่อมน้ำตาดีเจ้าค่ะ เเม้ตัวละครอาจจะไม่ดูดีเท่าเรื่องอื่นแต่ด้านการสื่อการมณ์ประทับใจมาก(ตอนจบนี่ดู3รอบร้องไห้ตลอดจริงๆ)ส่วนคิโนะก็ชอบที่เขาหลอกเรามาตั้งนานว่าคิโนะเป็นผู้ชาย(และข้าน้อยก็เชื่อว่าคนแปลเองก็โดนหลอกเช่นกัน)แล้วเธอเป็นนางเอกที่เท่มาก...จะถามว่าชอบตรงไหนก็คงเป็นมุมมองในการมองชีวิตของเธอล่ะมั้ง(แต่พอเจอGakuen kinoที่เป็นพาราเรลเวิลนี่...ยอมเขาเลย 5555)

0
ELVHA 29 ต.ค. 56 เวลา 08:35 น. 8

ไม่ต้องห่วงครับ

อย่างน้อยผมก็อีกคนที่ให้คะแนนกับโมโมะนะ
เพราะ มันเป็นไลท์โนเวลเล่มแรกในชีวิตของผม

และ ใครจะไปนึกว่า แค่เปิดมาเรื่องแรกของเล่ม 1 ก็เจอกับเนื้อหาดราม่าสุดมืดหม่นขนาดนั้น

ที่จริง บลีสก็ออกครบ 12 เล่มแล้วไม่ใช่เหรอครับ??

ผมจำได้ว่า อย่างกับเคยอ่านตอนที่เหมือนตอนจบไปแล้วนะ

จะขาดก็แค่ภาคพิเศษที่โมโมะเปลี่ยนลุคไปเลย นั่นแหละ

0
timmy 29 ต.ค. 56 เวลา 08:59 น. 9

ข้าน้อยก็ซื้อเล่ม12มาแล้วเจ้าค่ะ....แต่ประเด็นมันอยู่ที่เล่ม1-6...ข้า้นอยไม่ได้ซื้อ!ครั้นจะสั่งซื้อก็ไม่มีเงินT T แบบว่า...เสียดายฝุดๆ//อีกเรื่องที่เสียดายคือใต้ฟ้าจันทร์ครึ่งดวง...สอยเล่ม8ไม่ทัน อันนี้ช็อคยิ่งกว่า

0
ELVHA 29 ต.ค. 56 เวลา 09:10 น. 10

ไม่ลองไปเช็คในงานหนังสือดูเหรอครับ??

บลีสยังเอาของเก่า ๆ ทยอยมาขายอยู่เรื่อย ๆ นะ

เมื่อวันศุกร์ผมยังเดินผ่านบูธนี้อยู่เลย

แต่ตอนนี้หมดงานไปแล้ว คงต้องรองานครั้งต่อไปเดือนมีนาล่ะนะ

0
p.t.dreamm 29 ต.ค. 56 เวลา 09:19 น. 13

ท่านเป็นคนน่ารักมากๆ ค่ะ *o*

เราว่าหนังสือที่ได้อ่านตอนเด็กมีอิทธิพลมากเลยล่ะ เราว่าเราก้ได้รับอิทธิพลมาเยอะค่ะ แต่ยังหาต้นตอไม่เจอ งือ...

ชอบเรื่องทำฟันมาก น่ารักดีค่ะ <3

0
p.t.dreamm 29 ต.ค. 56 เวลา 09:20 น. 14

ตอนแรกนึกว่าอันดับสามจะเป็นบลีช...พลิกล็อค

ชอบวันพีชมากๆ เหมือนกันค่ะ อ่านกี่ทีกี่ทีก็ไม่เบื่อเลย เห็นรอยยิ้มของลูฟี่แล้วมีความสุข ^^

0
ปาทองโก๋ 29 ต.ค. 56 เวลา 09:25 น. 15

1.เมื่อสวรรค์ให้รางวัลผม
ถ้ามีใครอ่านก็คงจะมีความรู้สึกเดียวกับเราว่า หนังสือแนวนี้หาอ่านยากมากๆ
มีมาทำเป็นอนิเมะแล้วด้วยนะคะ
อ่านนิยายเรื่องนี้แล้วทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปเลยค่ะ เมื่อก่อนคิดว่าชีวิตมันก็งั้นๆ แต่พอมาเจอเรื่องนี้ทำให้รู้สึกว่าชีวิตมีคุณค่ามาก เราบอกไม่ถูกเหมือนกันแต่ถ้าไปหาอ่านเองคุณก็จะเข้าใจ

2.Juuni kokuki (12อาณาจักรเทพยุทธ์)
เป็นแนวที่เครียดมาก โคตรเครียดอ่ะ ตายเป็นตาย แล้วก็สอนให้รู้เรื่องการไว้ใจคน การหักหลัง และการปกครองประเทศเป็นอะไรที่ลำบากมากๆ การหาคนที่ไว้ใจได้นี่ไม่ได้หาง่ายๆ ปกครองประชาชน แล้วก็มีพวกกบฏรอบทิศทาง ถ้าไม่ตั้งใจดูก็จะไม่เข้าใจเนื้อเรื่องเลยนะคะ
เรื่องอะไรให้หลายอย่าง

อันที่สามไม่มีค่ะ(คิดไม่ออก)

0
p.t.dreamm 29 ต.ค. 56 เวลา 09:26 น. 16

ชอบบารามอสเหมือนกันค่ะ จริงๆ รักเลยล่ะ (ตอนแรกกะจะเอาขึ้น Top3 เหมือนกัน แต่จริงๆ อิทธิพลของไมรอนมันมากกว่า เลยตกไป OTL)กระทู้เมื่อไม่นานนี้ทีเ่ป็นคำถามเกี่ยวกับบารามอสทำให้เรารู้ว่าตอนอ่านเรื่องๆ นี้มีความสุขมากๆ เลยล่ะ ...ถ้าปั่นนิยายจบ หนุจะเอามาอ่านซ้ำ (รอยที่เท่าไรไม่รู้ ^^)

ยังไม่เคยได้อ่านเซวีน่าเลย เดี๋ยวว่างๆ จะไปลองหามาอ่านค่ะ

อีกเรื่องหนึ่ง กรี๊ดดดดดดดดดดดด เราก็ชอบอันเซียร์ค่ะ น่ารักมาก แต่เราเพิ่งอ่านงานของอวี้หว่อไม่กี่เรื่องเองค่ะ สารภาพว่าซื้อ no hero กะ LSK เล่ม 1+2 มาดองไว้หลายปีมาก 55+ แล้วไม่ได้เริ่มอ่าน ปล่อยเด็กๆ ตามกระแสกันไป แต่พออ่านเท่านั้นแหละ...หนูเข้าใจแล้วว่าเค้ากรี๊ดอะไรกัน /ช้าเนอะ ^^

0
p.t.dreamm 29 ต.ค. 56 เวลา 09:31 น. 17

ยาวไม่เป็นไรค่ะ มันแสดงออกถึงความชอบของแต่ละคนค่ะ จะยาวจะสั้นไม่เกี่ยงอยู่แล้ว

เราไม่กัดท่านหรอกค่ะ ...แต่แอบคำนวณอายุ /โดนโบก

TOP 3 ของท่านเป็นเรื่องชอบของเราเลยค่ะ <3 แต่โทโฮยังไม่มีโอกาสเสพ หนูเริ่มไม่ถูกค่ะ OTL

0
p.t.dreamm 29 ต.ค. 56 เวลา 09:39 น. 18

เรื่องเกมส์นี่มันห้ามกันไม่ได้จริงๆ ค่ะ

เราชอบทั้งโมโมะทั้งคิโนะเลย ทำให้ตอนข่าวบลีชออกมา แทบอยากจะกรี๊ดลั่นบ้านค่ะ แต่ที่เสียดายที่สุดคือโลกอลเวงของคุณฮาริยามะ อีกเล่มเดียวแท้ๆ และเรกิอัสที่เพิ่งออกเล่มหนึ่ง ...รอมานาน แต่ดันทำร้ายกันได้นะ ฮือ...โชคดีที่ LP เอามาพิมพ์แล้ว แต่เรื่องแรกนี่สิ งือ...

คิดว่ายมทูตสีขาวเล่มแรกๆ น่าจะหายากแล้วค่ะ ขณะตอนบลีชยังไม่ล่ม มันก็ยากแล้ว แต่ลองแว่บๆ หาแถวงานหนังสือดูค่ะ ที่จัดตามห้าง/งานห้องสมุดก็ได้ บางทีก็มีเห็นๆ แว่บไปโผล่อยู่ค่ะ แต่อาจกระจัดกระจาย

ขอให้หาได้ครบไวๆ นะะค ^_____^

0
p.t.dreamm 29 ต.ค. 56 เวลา 09:41 น. 19

/จดลิสต์ เดี๋ยวจะไปลองหามาอ่านนะคะ ^^

12 อาณาจักรเทพยุทธ์เห็นแว่บๆ มานานแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสได้อ่านเลยค่ะ ส่วนเมื่อสวรรค์มให้รางวัลผม ชื่อคุ้นจัง เดี๋ยวจะไปลองหาดูค่ะ

0
ELVHA 29 ต.ค. 56 เวลา 09:55 น. 20

ขอบคุณครับ

สำหรับ Touhou

ผมขอแนะนำให้ไปเริ่มจากหน้านี้ครับ

http://sabre.exteen.com/page-5


หากมีข้อติดใจ สงสัย

สามารถสอบถามท่านอื่น ๆ ที่อยู่ในกล่องตะโกน (Shoutbox) ที่อยู่ข้างบนหน้าบล็อคได้เลยครับ



ส่วนอายุของผม....

...หึหึหึหึหึ

พูดไม่ออก


แหม่ ล้อเล่นครับ

ผมเกิดปี 85 ลองเดา ๆ ดูนะว่าตอนนี้อายุเท่าไร

0
p.t.dreamm 29 ต.ค. 56 เวลา 10:06 น. 21

บอกขนาดนี้ ไม่ต้องเดาแล้วก๊ะ = ="
มีข้อมูลโทโฮเต็มเลย เดี๋ยวปั่นนิยายจบจะไปเสพนะคะ TT ขอบคุณค่า

0
ELVHA 29 ต.ค. 56 เวลา 10:18 น. 22

ครับ

ขอให้สนุกกับการได้สัมผัสโลกของโทโฮ

และถ้าติดใจไปกับมันแล้ว มีอะไรก็พูดคุย ซักถามได้ครับ

เพราะผมเองก็สิงอยู่ในกล่องตะโกนของบล็อคนั้น

0
timmy 29 ต.ค. 56 เวลา 10:19 น. 23

ขอบคุณเจ้าค่ะTwT ที่เศ้ราจริงๆคือใต้ฟ้าจันทร์ครึ่งดวงเล่ม8 อีกแค่เล่มเดียวจะครบแล้ว.... ตอนนั้นมันออกมาแล้ว ออกมาอยู่ตรงหน้า แต่...ไม่ซื้อ!ไม่คิดว่าจะล่ม!สรุป ผ่านไป1อาทิคตย์ หาย!แทบกรี๊ดลั่น5555

ตอนนี้คิดกำลังเก็บเงินสอยคิโนะภาญี่ปุ่นอยู่เจ้าค่ะ แต่ค่าเล่มมันแพงจริงๆ 555

0
Prisma Dominatus 29 ต.ค. 56 เวลา 10:42 น. 24

เลือกยากแฮะ...เอาที่อ่านแล้วลืมไม่ค่อยลงแล้วกันครับ

1. สามก๊ก ฉบับร้อยแก้ว จำไม่ได้แล้วว่าของท่านใดแปล จำได้แค่ว่าเก่ามาก มันสำคัญสำหรับผมเพราะมันเปิดมุมมองให้รู้จักโลกมากขึ้น

2. MP5 operation manual มันสำคัญเพราะเป็นเอกสารคู่มือฉบับแรกที่อ่านตั้งแต่ต้นจนจบ และทำให้ออกไปเผชิญกับพิสูจน์มุมมองในโลกกว้างได้

3. Hagakure เป็นตัวเปรียบเทียบแนวทางชีวิต

0
ELVHA 29 ต.ค. 56 เวลา 10:48 น. 25

ถ้าไม่ถือสาก็อยากจะขอตบไหล่เบา ๆ

เข้าใจความรู้สึกดีครับ

เพราะ ผมเองก็มีเรื่องค้างคาอยู่กับบลีสหลายเรื่องมาก

เช่น

1. EMP

ที่ออกมาถึง 5 เล่ม อีกแค่เล่มเดียว (เล่ม 6 ) ก็จะจบซีรี่ส์แล้ว

แล้วตกลงน้องสาวที่เจ้ายูยะบอกว่าเห็นที่โลกคู่ขนาน จะทำยังไง จะกลับมาได้อีกไหม



2. ชานะ...

...โอ๊ย โอย ค้างคาอยู่เล่ม 14 ตรงยูจิโดนนาคาการพิธีจับไปรวมร่าง แล้วก็ไม่ออกต่อ

แล้วจะรู้ไหมเนี่ยว่าจากนั้นชานะกับคาสึมิที่รอเก้อแบบนั้นจะทำยังไงต่อไป


3. โทระโดระ

อันนี้ยังไม่กี่เล่มก็จริง แต่ก็เศร้านะ

ตอนนี้เล่มภาพเปิดสีกลายเป็นแรร์เสียยิ่งกว่าแรร์


4. สวรรค์ยังส่ายหน้า(เชียวนะ)

อันนี้แหละครับ เจ็บปวดที่สุดละ

ออกมา 11 เล่มแล้ว

อีกแค่เล่มเดียว (เล่ม 12) ก็จะจบซีรี่ส์แล้ว

อุตส่าห์ออกมาไกลขนาดนั้น แต่กลับค้างอยู่ที่จุดนี้

เหมือนวิ่งมาราธอน เห็นเส้นชัยอยู่ข้างหน้า แต่ดันมีหุบเหวกว้างใหญ่ขวางอยู่ตรงหน้า นั่นแหละ


เหมือนจะมีมากกว่านี้อีก

แต่ที่หนักมากก็ 4 เรื่องนี้แหละครับ

0
The explorer new world 29 ต.ค. 56 เวลา 11:18 น. 26

นารูโตะนี่การ์ตูนในดวงใจเราเลย แต่หลังๆนี่เราว่ามันเยอะเกิน จนอ่านไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ยังไงก็รักไปแล้ว ยังไงก็จะติดตามให้จบ แล้วเดียวจะหาภาคอนิเมมาดู เพราะสารภาพหลังๆนี่อ่านไม่รู้เรื่อง

แต่ก็นับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดีของเราเรื่องนึง เป็นเรื่องที่ให้แง่คิดในชีวิตเราอีกเรื่องเลยแหละ

เราดูเรื่องนี้นะ เราก็คิดว่าคนเราไม่มีใครเลวอย่างแท้จริง ทุกอย่างมันมีที่มาหล่อหลอมให้เขาเป็นอย่างนั้น จะไปโทษใครเต็มๆก็ไม่ถูก และก็อย่ามองคนแค่ผิวเผินด้านเดียว

แล้วเรื่องนี้มันจำลองให้เห็นภาพชัด เรื่องของผลกระทบ ของการกระทำของคนรุ่นก่อนที่ส่งมาถึงคนรุ่นปัจจุบันได้ดี สงครามความแค้นงี้ ถือว่าเป็นเรื่องที่เรารักเรื่องนึงเลย

0
The explorer new world 29 ต.ค. 56 เวลา 11:46 น. 27

หัวขโมยแห่งบารามอส กับ พ่อมดฮาล์ว สองเรื่องนี้ทำให้เราอยากแต่งนิยาย

นารูโตะ นี่เป็นการ์ตูนที่เราชอบมากให้แง่คิดหลายอย่าง 


ส่วนเรื่องที่ทำให้เราอยากเปลี่ยนชีวิตนี่มีหลายเรื่องนะ ถึงจะไม่ใช่เรื่องที่ชอบที่สุด แต่พออ่านจบแบบได้แนวคิดดีๆ แล้วได้กลับมามองตัวเอง แล้วก็อยากพยายาม หรืออยากเปลี่ยนอะไรที่ไม่ดีในตัวเองบ้าง

อย่างล่าสุด
อ่านเรื่อง little match girl ไม้ขีดนิรมิต ก็ให้แง่คิดให้คนพยายามสู้ชีวิตดี




0
ainaree 29 ต.ค. 56 เวลา 12:43 น. 28

5555 เเต่เราว่าฮามากกว่านะ พี่หมอพูดปลอบไม่เข้าหัว แต่คิดเองเออเองเรียบร้อย

อิทธิพลวัยเด็กนี้มักเป็นพวกเรื่องเเรกคะ...จริงๆเราอ่านพวกนักกล้ามเช่นเคนชิโร่ด้วยตอนนนี้กลายเป็นชอบผู้ชายมีกล้ามไปเเล้ว..T T ไม่กล้ามโตไม่มอง หน้าเถื่อนก็เท่ ลองนึกๆดูคะ เราว่ามันต้องอยู่ในจิตสำนึกลึกๆเเน่ 5555555555

0
แมงมุมดำ ตัวน้อย 29 ต.ค. 56 เวลา 12:45 น. 29

อาจจะไม่ถึงกับขนาดมีอิทธิพลกับชีวิตนะคะ
1. แนวรักใสๆอ่านตอน ม. ต้น 
(แอบ) รักหมดใจ เจ้าชายของฉัน ของทิวลิปสีฟ้า
2. Hunter x Hunter
3. ปราสาทแห่งคำสาป (หรือ สาปรักเคหาสน์สีเลือด) ของ Luckyseven 


0
น่าเบื่อ... 29 ต.ค. 56 เวลา 13:18 น. 30

หนังสือเรียนและเตรียมสอบ มีอิทธพลสูงต่อวัยเรียนเป็นพิเศษ 

อ่านหนังสือเรียน = สอบผ่าน สอบได้ สอบติด มีชีวิตและอนาคตที่สดใส

ไม่อ่านหนังสือเรียน = สอบไม่ผ่าน สอบไม่ติด เอ็นไม่ได้ไปขายส้มตำหน้าปากซอย = =;

0
nacker sign 29 ต.ค. 56 เวลา 13:56 น. 31

Yu wo อ่านว่า...อวี้หว่อ เหรอ
อ่าน Kill no more มาตั้งนาน(พึ่งจะรู้ตอนอ่าน คห นี้แหละ)
เผลออ่าน ยูโว่ มาตลอดเลยง่ะ(=_=)

0
&gt;_nut_&lt; 29 ต.ค. 56 เวลา 14:10 น. 32

ถ้าเล่มแรกที่อ่านนิยายเรื่องยาวจบคงเป็น
1. หัวขโมยแห่งบารามอสค่ะ
เป็นหนังสือที่ทำให้เรารักการอ่าน ... อ่านจบทั้งหมดภายในสองอาทิตย์
นับเป็นสถิติที่เร็วมาก (สำหรับเรานะ) อ่านเล่มนี้แล้วเปิดจินตนาการมาก

2.หัวแตงโม 
เล่มนี้อ่านแล้ว ทำให้รู้สึกชอบ ... มันมีอะไรมากกว่าลายเส้น 
มันดึงดูดให้แง่คิดในหลายๆความหมาย
แล้วก็ทำให้เราชอบการอ่านหนังสือประเภทนิยายภาพมากขึ้นด้วยค่ะ

3.ห้องเรียนที่ไม่ยอมเปิดรับ
เล่มนี้ทำให้เราคลั่งไคลนิยายแนวสยองขวัญมาก 
อ่านเล่มนี้ครั้งแรก ตอนหลงเข้าไปในห้องสมุดโรงเรียน
ข้างกับหัวแตงโมเลย (จนปัจจุบันยังไม่รู้ว่าไปอยู่ข้างกันได้ยังไง
จะว่าหมวดเดียวกันก็ไม่น่าจะใช่ ?)
และตอนที่ประทับใจที่สุดคงเป็นตอน 'พันหนึ่งราตรี'
ว่างๆ ก็ยังเอามาแต่งต่ออยู่ เลือดสาดเล็กๆ
จนปัจจุบันเรากลายเป็น ประเภทดูนิยายหวานแหววอยู่ดีๆ
เดินเข้าไปหยิบหนังสือสยองขวัญมามองเฉยเลย
เพื่อนยังถามอยู่ว่าปรับอารมณ์ทันได้ไง

0
Moshihara Susaku 29 ต.ค. 56 เวลา 14:47 น. 33

1. the lord of the rings ของ เจ.อาร์.อาร์. โทลคีน 

เรื่องนี้เป็นนิยายแฟนตาซีที่ชอบมาก แม้มันจะหนาไปสัก(หลาย)หน่อย แต่สำนวนภาษา เนื้อเรื่อง เป็นอะไรที่ได้ใจมากๆ สำหรับเรื่องนี้ชอบทั้งแบบภาพยนตร์และนิยายเลยค่ะ ดีทั้งคู่

2.หัวขโมยแห่งบารามอส และ แฮรี่ พอตเตอร์  

ชอบทั้งคู่เท่าๆกันเลยให้อยู่ในอันดับเดียวกัน หัวขโมยแห่งบารามอสนี่เป็นแฟนตาซีโดยนักเขียนไทยที่รู้สึกชอบมากพอสมควร เล่มแรกนี่ติดงอมแงม แต่ไม่ได้อ่านจนจบทั้งสี่ภาค อ่านจบแค่ภาคแรกภาคเดียวกับเล่มสามนิดหน่อย(ที่อ่านไม่จบเล่มเพราะจะรออ่านเล่มสองก่อน สุดท้ายเลยไม่ได้อ่านต่อเพราะเล่มสองของเพื่อนหายไปไหนก็ไม่รู้(เรายืมของเพื่อนอ่านน่ะ บ้านเราอยู่ไกล้ร้านหนังสือ ขี้เกียจนั่งรถเข้าตัวเมือง ร้านแถวบ้านมีแต่รักหวานแหวววัยรุ่น)) แต่แม้จะอ่านไม่ครบสี่ภาคแต่มันก็เป็นแรงบันดาลใจให้เราอย่างมาก ส่วนแฮรี่ นี่ได้อ่านกี่ภาคไม่แน่ใจแต่ตามดูที่เป็นภาพยนตร์ตลอด เป็นแฟนตาซีที่สร้างสรรค์และสนุกมากที่ชอบที่สุดคือภาคสอง

3.พวกหนังสือเกี่ยวกับศาสนาอ่ะค่ะ มีชอบหลายเล่มมาก ที่ชอบและมีอิทธิพลต่อเรามากๆเลยก็คือ เสียดายคนตายไม่ได้อ่าน มนุษย์และศาสนา อิทิปปัจจยตา อะไรประมาณเนี่ยอ่ะค่ะ จริงๆพวกพระไตรปิฎกก็เคยอ่านอยู่แต่ภาษาที่แปลเป็นไทยมันเข้าใจยากไปนิด ชอบเนื้อหา(ก็นั่นมันหลักธรรมทั้งหมดนี่นา)แต่มึนกับภาษา 55 เราแนะนำให้อ่านนะคะพวกหนังสือที่เราเอ่ยนามมา เป็นหนังสือที่ดีมากจริงๆค่ะ

0
Nobita 29 ต.ค. 56 เวลา 15:05 น. 34

จอมคาถา มหาติงต๊อง

เป็นนิยายเรื่องแรกที่ผมอ่านจบ อ่านที่ห้องสมุดอะนะ ชนิดว่าบรรณารักษ์ต้องไล่เราออกเลย//อ่านเพลินจนลืมเวลาปิด

อ่านจบ 8 เล่มแล้วก็ยังอ่านซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตัดสินใจว่าจะทำงานหาเงินแล้วสั่งซื้อให้ได้!!!



0
nacker sign 29 ต.ค. 56 เวลา 15:14 น. 35

harry potter ครับ
เป็นนิยายเรื่องแรกที่ผมอ่านจบและชื่นชอบนิยายมาจนถึงทุกวันนี้ และอีกอย่างคือทำให้มีทักษะทางด้านภาษาไทยเยอะกว่าเพื่อนรุ่นเดียวกัน(เย้!) ...ตอนนั้นยังอยู่ ป.1 (มั้ง จำไม่ได้)

อีกเรื่องคงเป็น เทพจิ้งจอกจอมยุ่งประจำบ้าน
เรื่องแนวฮาๆ เป็นไลท์โนเวลเรื่องแรกที่อ่านครบทุกเล่ม(เรื่องอื่นซื้อไม่ค่อยครบ)

0
Choc Witch 29 ต.ค. 56 เวลา 17:19 น. 36

#4-1 ชอบอันเซียร์เหมือนกันเลยค่ะ แล้วก็ชอบคุณพ่อบ้านด้วย รู้สึกตัวละครเรื่องนี้มีเสน่ห์ น่ากรี๊ดมาก ^^ ของอวี้หว่อเราอ่านมาหลายเรื่องเหมือนกัน ส่วนใหญ่ยืมเพื่อน มีแต่ No hero นี่แหละที่หลังอ่านของเพื่อนเสร็จแล้วซื้อมาเก็บไว้เองด้วย (เช่นเดียวกัยTop1-2) อย่าง LSK ก็อ่านแล้ว สนุกอยู่นะ ฮาด้วย แต่ว่าตอนจบแอบค้างคาไปหน่อย (อาจเป็นแค่เราก็ได้ที่คิดแบบนั้น)

#4-2 อ่านว่าอวี้หว่อค่ะ เป็นการอ่านแบบจีน ถ้าเอาตามวิธีอ่านจริงๆ ต้องมีวรรณยุกต์ในคำว่า yu wo ด้วย แต่เหมือนเขาตัดออกไปเพื่อให้ง่ายต่อการอ่านสำหรับคนที่ไม่เคยเรียนภาษาจีน (ล่ะมั้ง ^^)

0
sarinubia 29 ต.ค. 56 เวลา 17:52 น. 37

ยุทธการล่าบัลลังก์นี่เพิ่งอ่านจบไปหมาดๆค่ะ
ชอบหลี่ซีเหมือนกัน :)
เค้าเขียนให้เห็นภาพหลายมุมมอง อ่านแล้วสนุกค่ะ วางไม่ลง
(แต่กว่าจะรอคิวยืมในห้องสมุดทีนี่ก็นานเลยค่ะ)

0
sarinubia 29 ต.ค. 56 เวลา 17:57 น. 38

บารามอสกับเซวีน่านี่เป็นหนังสือในดวงใจเราเลย : )
เป็น 1 ในหนังสือที่ทำให้เราอยากแต่งนิยาย (ปัจจุบันยังไม่ถึงไหนเลยค่ะ ห้าๆๆ)
No hero เรายังอ่านไม่จบแต่ชอบสไตล์การเขียนของอวี้หว่อมากเลย
อย่างเรื่อง Legend of sun knight นี่อ่านแล้วก็แอบฮาพ่อตัวเอกเหมือนกัน

0
sweethaze(หมอกหวาน) 29 ต.ค. 56 เวลา 18:16 น. 39

1. นิรมิต ของแก้วเก้าครับ เป็นนิยายเรื่องแรกที่ผมอ่าน และนับจากวันนั้นผมก็ยึดอาจารย์เป็นอาจารย์ด้านการเขียนมาตลอดครับ ทุกวันนี้ก็ตามเก็บงานของอาจารย์ เน้นนามปากกาแก้วเก้า (เพราะอาจารย์มีนามปากกาว.วินิจฉัยกุลอีกอัน) 

2. หน้ากากแก้วครับ เป็นการ์ตูนญี่ปุ่นที่เปลี่ยนวิธีการดำเนินเรื่องนิยายรักโรแมนติคของผมอย่างสิ้นเชิง เป็นการ์ตูนเรื่องแรกและเรื่องเดียวที่ผมอ่านแล้วใจเต้นตึก ๆ ไม่หยุดเลย ฮ่าๆๆ


3. เซเลอร์มูนครับ เป็นการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่องแรกที่ผมติดงอมแงม ผมหัดวาดรูปเพราะเซเลอร์มูน เขียนการ์ตูนจบเรื่องแรกเพราะเซเลอร์มูน เริ่มเขียนนิยายเรื่องแรกเพราะเซเลอร์มูน และเซเลอร์มูนยังคงมีอิทธิพลต่อการเขียนของผมมาก คือ ผมชอบเขียนให้นางเอกหรือพระเอกตายครับ ฮ่าๆๆ มันจำฝังใจมาจากฉากจบภาคแรกของเซเลอร์มูนที่ทุกคนตายหมด (โดยเฉพาะตอนมาโมรุอยู่ในอ้อมแขนของเซเลอร์มูนมัน...สุด ๆ) ตั้งแต่วันนั้นมา นิยายของผมต้องมีตัวเอกสักคนสังเวยชีพ ฮ่าๆๆ ผมพยายามแก้นิสัยนี้ แต่แก้ไม่เคยหายครับ


อันนี้เก็บไว้ตั้งแต่ป.4 ครับ


แต่สิ่งที่มีอิทธิพลต่อชีวิตของผมจริง ๆ กลับไม่ใช่หนังสือ แต่เป็น...ฮิบาริฮารุครับ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ นิยายเกินครึ่งของผมได้รับแรงบันดาลใจมาจากคู่นี้ เป็นคู่ที่สร้างอะไรให้ผมเยอะจริง ๆ ถึงขนาดถ้าผมตาย ผมก็ขอเอารูปฮิบาริฮารุติดตัวไปด้วยหนึ่งรูปครับ ฮ่าๆๆ

ขอรูปนี้นะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

เออ...พอดีกว่า เผอิญผมรั่ว ๆ คลั่ง ๆ อ่ะครับ อย่าใส่ใจเลย ฮุๆๆ

0
aris_lice 29 ต.ค. 56 เวลา 19:27 น. 40
ไม่แน่ใจนะว่ามีอิทธิพลต่อชีวิตรึเปล่า= =
แต่ก็ชอบอ่านแล้วก็มีข้อคิดอยู่

ก็เป็นหนังสือของ ศิเรมอร อูณหธูป(เก่าแล้ว) ทั้งทางเลือกมีมากกว่าหนึ่ง อกแผ่นดิน ลำเนาป่า หน้าต่างบานโตชอบ มีข้อคิดเยอะ
อยากให้หลายๆคน(ในยุคนี้)ได้อ่านหนังสือของเขาจริง แม้จะมีเสียดสีเยอะก็เหอะ- - แต่แฝงข้อคิดไว้เยอะ อยากให้วับรุ่นหันมาอ่านบ้าง-3-

แล้วก็หนังสือของชาติ ภิรมย์กุล ก็อ่านเล่นได้ ไม่หนักมาก ตลกเยอะ แต่ก็มีข้อคิดกับเสียดสีแฝงไว้
แล้วก็พวกหนังสือซีไรต์ ชอบคนแคระ แต่อ่านค่อนข้างยาก ครอบครัวกลางถนนก็ดี
แล้วหนังสือพวกสุขภาพต่างๆ ชอบนะ(แต่ไม่เคยทำตาม)
มีหนังสือหลายเล่ม แต่จำไม่ค่อยได้ เพราะยืมมาจากห้องสมุดโรงเรียน 
เรามักจะชอบอ่านหนังสือหลายๆเล่ม หยิบความคิดต่างๆ มาประมวลผล ให้กับตัวเอง
ส่วนใหญ่ชอบอ่านหนังสือที่มีข้อคิด แต่ก็อ่านสบายบ้าง แล้วแต่อารมณ์

แต่ที่แน่นอน อ่านแต่หนังสือนอกเวลา หนังสือเรียนไม่แตะ5555

#พิมผิดเยอะแหะ== 
0