Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ถามเรื่องการสวดมนต์

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
อยากรู้อ่ะค่ะว่า ถ้าจะสวดมนต์ให้พระเจ้าอยู่หัว กับประเทศชาติ จะใช้บทสวดไหนดีคะ

แสดงความคิดเห็น

>

8 ความคิดเห็น

einherjar 4 ธ.ค. 56 เวลา 20:31 น. 1

ขอตอบตามคำสอนจริงๆเลยก็แล้วกันนะครับ

สวดมนต์ไปก็ไม่ช่วยอะไรหรอก ศาสนาพุทธไม่ได้สอนเรื่องโชคลางคาถาอาคมหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ถ้าอยากให้สิ่งใดดีก็ต้องลงมือทำ สิ่งใดที่เกินกำลังที่เราจะจัดการได้ก็ให้วางเฉยเสีย

ถ้าสวดบทไหนแล้วสบายใจก็สวดไปเถอะครับ เพราะตามบาลีมันไม่มีบทไหนสวดให้ผู้อื่น เต็มที่ก็บทแผ่ส่วนบุญแหละครับ

0
ร่างทรงแม่ชี@Palm สาขาเด็กดี 4 ธ.ค. 56 เวลา 22:52 น. 2

เวลาเราจะสวดมนต์ หนูดูที่คำแปลเป็นสำคัญนะคะ
ส่วนใหญ่ที่เราสวดมันก็จะเป็นการสรรเสริญคุณพระรัตนตรัยค่ะลูก
ที่พิเศษขึ้นมาหน่อยก็จะเป็นชินบัญชร ที่เป็นการเชิญพระพุทธเจ้ายี่สิบแปดพระองค์ กับพระอรหันต์ทั้งหลายมาคุ้มครองผู้สวดค่ะ
เพราะฉะนั้นจะสวดอะไรก็ไม่ต่างกันค่ะ สำคัญว่าพอสวดเสร็จแล้ว
เราอฐิษฐานอาราธนาคุณพระรัตนตรัยเพื่ออวยพรให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและประเทศชาติก็ได้ค่ะ 

ถ้าแม่แนะนำ แม่แนะนำมงคลสูตรค่ะ สวดบาลีแล้วอย่าลืมอ่านคำแปลนะคะ
มีประโยชน์มากค่ะ อนุโมทนาค่ะลูก 
จิตที่เป็นกุศลย่อมบังเกิดผลดีค่ะ

0
White Frangipani 6 ธ.ค. 56 เวลา 10:39 น. 3

สวัสดีค่ะ

"อยากรู้อ่ะค่ะว่า ถ้าจะสวดมนต์ให้พระเจ้าอยู่หัว กับประเทศชาติ จะใช้บทสวดไหนดีคะ"...คำถามของคุณนั้นเห็นหลายวันแล้วค่ะ แต่เข้ามาตอบไม่ได้ คุณมีใจเป็นกุศลมากเลย ขออวยพรให้คุณเป็นสุขนะคะ^___^

ช่วยตอบเพื่อเสริมและเพิ่มเป็นกำลังใจให้คุณค่ะ

คำตอบของคุณเจ้าของความเห็นที่1 ดิฉันเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะขออนุญาตยกมานะคะ

"ถ้าสวดบทไหนแล้วสบายใจก็สวดไปเถอะครับ เพราะตามบาลีมันไม่มีบทไหนสวดให้ผู้อื่น เต็มที่ก็บทแผ่ส่วนบุญแหละครับ"...และ ก็ขอช่วยต่อไปอีกว่า ขอให้คุณตั้งจิตให้แน่วแน่เพื่อแผ่ส่วนบุญกุศลและเมตตาให้กับเหล่าสัตว์โลกทั้งหลาย(รวมผู้คนด้วยนะคะ)เหล่าสุขเหล่าทุกข์และขมขื่นทรมานทั้งหลายนั้นขอให้พ้นทุกข์ หากมีสุขก็ขอให้สุขยิ่งๆขึ้นไปขออย่าเบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย


จากที่เห็นข่าวนั้นสงสารทุกคนเช่นกันค่ะ มากกว่านั้นใกล้เวลาที่จะถึงปีใหม่เข้ามาทุกๆวัน อ่านจากที่ต่างๆชาวต่างชาตินักท่องเที่ยวทั้งหลายกำลังจะเดินทางสู่เมืองไทย แขกบ้านแขกเมืองกำลังจะมาสายการบินเป็นร้อยเป็นพันสายถูกจองเต็มแน่นตั้งแต่ต้นปี กำลังจะบินตรงสู่เมืองไทย หลายๆคนตั้งใจจะไปพักผ่อนที่เมืองไทย เมืองไทยวัฒนธรรมประเพณี ศาสนาที่ใครก็เชื่อมั่นและนับถือเขาทั้งหลายสู้เก็บเงินทองสะสมเวลาออฮลิเดย์เพื่อเดินทางมาเฉลิมฉลองปีใหม่กฤษยามที่จะเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆที่เมืองไทย แต่เหตุการณ์ที่ไม่สงบนั้นกำลังนำมาซึ่งทุกข์กังวลและทรมานให้กับหลายๆคนด้วยโดยไช่เหตุ ไม่ไช่ทำให้หลายๆคนทุกข์เท่านั้น ยังทำให้เสียภาพพจน์อีกด้วยไม่ดีเลย


นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเขาทั้งหลายนำเงินมาใช้ที่บ้านเมืองเราทำให้ประชาชนมี รายได้เป็นเรื่องดีที่จะเกิดขึ้นได้ ทำให้ ตาสี ยายสามีรายได้ แม่ค้าพ่อค้าระดับยอดหญ้าหรือแม้แต่แท็กซี่ซึ่งเป็นประชากรจำนวนไม่น้อยที่ทำอาชีพนี้ก็จะพลอยมีรายได้เพิ่ม  เคยมีโอกาสพูดคุยกับเขาเหล่านี้เมื่อยามที่บ้านเมืองไม่สงบช่วงที่เขาทั้งหลายจะมีโอกาสหารายได้เพิ่มก็ต้องขาดไปเขาทั้งหลายทุกข์ทรมานน่าสงสารมากเลย  การที่จะให้ความรู้สึกดีๆความสงบรื่นรมณ์กับผู้มาเยือนเป็นวัฒนธรรมที่สวยงามของไทยอยากให้หลายๆคนคิดถึงตรงนี้บ้างค่ะ รักเมืองไทยนะคะ(บางตอนที่นอกประเด็นต้องขออภัยเจ้าของกระทู้ค่ะอารมณ์พาไป)


"ขออวยพรให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่สงบได้อย่างที่เคยเป็นมาช้านานค่ะ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม หากประเทศชาติสงบพระเจ้าอยู่หัวท่านก็มีความสุขอย่างแน่นอนค่ะ เพราะตลอดชีวิตของท่าน ท่านก็ทำทุกอย่างเพื่อให้บ้านเมืองสงบและเป็นสุขตามที่เห็นๆมา"(ทุกคนลืมไปแล้วหรือ) ขอให้ท่านมีสุขภาพที่แข็งแรงค่ะ"

ดิฉันกราบพระและแผ่เมตตาก่อนนอนทุกคืนเช่นกันจะช่วยคุณแผ่ต่อไปในทุกๆคืนค่ะ ^___^

จะทำอะไรได้มากกว่านี้.

0
GGfcc 7 ธ.ค. 56 เวลา 18:24 น. 4

ขอบพระคุณทุกความคิดเห็นมากๆเลยนะคะ  แต่่มีอยู่อย่างหนึ่งที่หนูมักทำไ่ม่ค่อยได้ คือ เวลาสวดมนต์ หรือนั่งสมาธิ จะอยู่นิ่งได้ไม่นาน นานสุดก็ 5 นาที ต้องลืมตาอยู่บ้าง(แต่ปกติไม่ใช่คนสมาธิสั้นนะคะ )  แล้วเวลาสวดมนต์ นั่งสมาธิก็ชอบคิดไปเรื่องอื่น ไม่รู้จะทำใจให้จดจ่อ แน่วแน่ มั่นคงยังไงอ่ะค่ะ

0
einherjar 7 ธ.ค. 56 เวลา 19:08 น. 5

"สมาธิ" คือการจดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ตัวสมาธิเองไม่ได้มีบุญกุศลใดๆเป็นพิเศษนะครับ ส่วนสิ่งที่ใช้ควบคู่กันคือ "สติ" ครับ สติ คือการรู้สึกตัว รับรู้ในการกระทำทุกอย่างของตนอยู่เสมอ
...นอกเรื่องแฮะ

การนั่งสมาธิความจริงไม่ต้องหลับตาก็ได้ครับ จะลืมตาก็ได้ สิ่งสำคัญคืออย่าวอกแวก ถ้าทำได้ก็มองแบบไม่จดจ้องไปที่ใดที่หนึ่ง มองทุกอย่างแบบผ่านๆเลยไปก็ไม่ผิดครับ หรือถ้ายังทำไม่ได้ก็ตั้งใจจดจ่อไปที่ใดที่หนึ่ง มองแค่สิ่งนั้นสิ่งเดียว จะคิดอะไรก็ได้แต่ต้องไม่นอกเหนือไปจากสิ่งนั้น ก็ยังนับเป็นการทำสมาธินะครับ

หรือถ้าเป็นพวกชอบคิดเรื่อยเปื่อย ผมแนะนำให้หลับตาแล้วจับความรู้สึกของร่างกายตัวเองเอาครับ เป็นหนึ่งในสติปัฏฐาน4 ประกอบไปด้วย กาย เวทนา จิต ธรรม

หรือคุณจะเลือกแบบอื่นก็ได้นะ กาย คือการกำหนดสติรับรู้ความเป็นไปของร่างกาย
เวทนา คือความรู้สึกที่เกิดขึ้นในตัว เช่นปวดเมื่อย ร้อน เย็น เป็นต้น
จิต คือการกำหนดรับรู้ความเป็นไปของจิตที่เกิดและดับในแต่ละช่วงเวลา มากกว่านี้ผมก็ไม่ค่อยรู้แล้วครับ
ธรรม อันนี้หมดปัญญาจะอธิบายจริงๆ ต้องไปถามพระที่ท่านเจริญวิปัสนาบ่อยๆเอา

ปล. สติและสมาธิไม่จำเป็นต้องนั่งนิ่งๆอย่างเดียวนะ สามารถทำได้ตลอดเวลาในชีวิตประจำวัน ที่นั่งกันนั่นคือการฝึก พอเชี่ยวชาญแล้วก็ทำอยู่ตลอดเวลาเลย มีประโยชน์ในชีวิตประจำวันมากเลยล่ะครับ

0
๛ไหลฤา๛ 9 ธ.ค. 56 เวลา 09:04 น. 6

เคยไปสวดที่วัดสุทัศน์ เป็นบทที่แต่งขึ้นสำหรับสวดให้พระเจ้าอยู่หัวโดยเฉพาะ  แต่สวดยากมากแหละครับ คำบาลียากมาก ลองไปถามดูครับ

เรื่องนักท่องเที่ยว ผมว่ามาน้อยๆแหละดี เอาที่เขารักเมืองไทยจริงๆ ประเภททัวร์ ศูนย์เหรียญ อย่ามาเลยครับ  ขายขี้หน้าเขาจริงๆ 

0
White Frangipani 13 ธ.ค. 56 เวลา 08:33 น. 7

สวัสดีค่ะ

"ศูนย์เหรียญ"...แปลว่าอะไร ช่วยขยายความด้วยค่ะ

ทำไม่ถึงต้อง"ขายหน้าเขาด้วย"

อยากรู้และเข้าใจให้ชัดเจนเท่านั้นค่ะ ช่วยตอบด้วยนะคะ^___^

0
White Frangipani 13 ธ.ค. 56 เวลา 09:30 น. 8

สวัสดีทุกคนค่ะ

ขอช่วยตอบเจ้าของกระทู้เพิ่มเติมจากความเห็นที่4-1 ซึ่งตอบมาดีมากแล้วนะคะ

ก็เริ่มจากห้านาทีนั้นก่อนก็ได้ค่ะ ในห้านาทีที่คุณทำได้นั้นเป็นจุดเริ่มแล้วพยายามสัมผัสให้ได้กับลมหายใจเข้าออกอย่างแท้จริงและชัดเจนนั้นคือลองสัมผัสให้ได้ตั้งแต่เมื่อหายใจออกสิ้นสุดและจุดที่เริ่มหายใจเข้าให้เต็มปอด(สัมผัสให้ได้ถึงเส้นสายของลมหรืออากาศที่สูดเข้าออกนั้น)และเมื่อหายใจเข้าออกนี้ให้สติของเราสัมผัสให้ได้ว่าถึงจุดเริ่มและสิ้นสุดตลอดเวลาที่นั่งอยู่ (ขณะที่นั่งสมาธิ) ลองฝึกสูดลมหายใจเข้าออกให้ยาวๆและลึกๆดูนะคะ ให้เพียงแค่ห้านาทีนี้ที่คุณทำได้นี้ก่อน และเริ่มเพิ่มเป็นหก เจ็ด แปด เก้า และสิบนาทีในวันต่อๆไปค่ะ เช่นคุณอาจจะใช้เวลาเป็นอาทิตย์เพื่อเพิ่มขึ้นหนึ่งนาทีก็ได้ค่ะทำให้การฝึกมั่นคงด้วย ในที่สุดขอให้คุณทำให้ได้อย่างน้อยครึ่งชั่วโมง เมื่อทำมาได้ถึงครึ่งชั่วโมงแลัวก็ขอให้คุณมั่นทำเป็นกิจวัตร ต้องบังคับตัวเองนะคะหากคุณตั้งใจอยากฝึกจริงๆ หาสมุดเล่มเล็กๆสักเล่มมาลงบันทึกอย่างเป็นจริงเป็นจังหานาฬิกามาตั้งตรงหน้า หากวันไหนทำสำเร็จลงบันทึกว่า "สำเร็จ" ลงด้วยว่า(ดีใจและเป็นสุข ไชโย ^ ^) หากวันไหนไม่ครบครึ่งชั่วโมงลงบันทึกปัญหาไว้ด้วยว่าเป็นเพราะอะไร คุณจะได้แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ในวันต่อไปค่ะ


การฝึกนั่งสมาธิใหม่ๆนั่นไม่ไช่เรื่องง่ายๆหากไม่ได้ฝึกมาตั้งแต่เด็ก จะมีอาการเจ็บปวด ข้อ หัวเข่า หลัง ไต หรือแม้แต่ต้นคอ นี่เป็นอีกอุปสรรคของการนั่งสมาธิของผู้เริ่มฝึกใหม่(จะเจ็บปวดและทรมานมาก) ลองพยายามใช้จิตที่มีสมาธิแล้ว (จากที่ฝึกมาห้าถึงสิบนาที)สัมผ้สให้ได้ว่าสัมผ้สรู้ได้ถึงความเจ็บปวดนั้น เมื่อจิตสัมผัสได้แล้วรับรู้แล้วว่านั้นคือความรู้สึกเจ็บปวดเมื่อจิตรับรู้แล้วว่าเจ็บต้องแก้ไขและผ่อนปรน พยายามดึงความแน่วแน่ของจิต(ใจ)มาที่ลมหลายใจเข้าออกให้ลึกๆยาวๆ ยึดมั่นและตรึงตรงนั้นให้ความรู้สึกสัมผัสให้รู้ถึงลมเข้าออกทุกเสี่ยววินาที มหัศจรรย์มากเพียงคุณสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่เข้าออกอย่างสงบนิ่ง ขณะเดียวกันคุณก็สามารถสั่งให้ความเจ็บปวดของร่างกายคุณให้ผ่อนคลายความเจ็บปวดที่กล่าวมานี้ได้ นั้นคือรู้แล้วว่าเจ็บรู้แล้วว่าปวดและก็จะไม่เจ็บและปวดอีกต่อไป(จิตที่มีสมาธิมีพลังสั่งสังขารได้หรือว่าจิตอุปโลกไปแต่หายเจ็บปวดได้จริงแปลกจัง) ด้วยวิธีนี้หลายๆคนซึ่งมีประสบการณ์หรือความเคยชินนั้นจะสามารถนั่งสามธิตัวและสันหลังตรงเป๊ะเป็นเวลานานๆ คุณอาจจะมีโอกาสเห็นมาบ้างเช่นกัน บางครั้งบางคนนั่งนิ่งๆไม่เคลื่อนไหวได้เป็นเวลาครึ่งๆวันหรือเป็นวันหรือจากวันต่อวัน

หมายเหตุ...การขยับตัวเพื่อเปลี่ยนท่าบ้างนั้นทำได้ขณะนั่งสมาธิแต่ความเจ็บปวดสามารถกลับมาได้อีกเพียงไม่กี่นาทีลองใช้วิธีให้จิตสั่งดูว่า เจ็บแล้ว รู้แล้ว และให้หายไปนะ ลองดูนะคะ ช่วยได้มากเลย

เมื่อคุณทำมาได้เป็นเวลาครึ่งชั่วโมงอย่างชำนาญแลัวร่างกายและจิตใจจะผลักใสและเรียกร้องให้คุณนั่งนานๆต่อไปตามที่คุณต้องการค่ะ (จะเกิดอาการติดความสงบ) ทุกอย่างจะเป็นไปเองโดยธรรมชาติ ความเคยชินเป็นธรรมชาติทุกอย่างจะดำเนินไปเมื่อธรรมชาตินั้นได้บังเกิด "พยายามฝึกให้เกิดความเคยชิน"นะคะ ครั้งแรกๆดูเหมือนอะไรๆก็ยากทุกอย่างไม่เพียงการฝึกสมาธิเท่านั้น และนั้นก็เป็น"ธรรมชาติ"เช่นกัน

และเมื่อ...คุณฝึกสำเร็จถึงจุดสูงสุดคุณก็จะมี "สติรู้ รู้ตัว รู้ตน รู้เหตุรอบๆตัวคุณทุกเสี้ยววินาที"ค่ะ คุณจะสัมผัสได้ถึงเส้นสายของอากาศและลมเข้าออกในการหายใจสัมผัสได้ถึงทุกอณูของความรู้สึกนึกคิดของตัวเอง โดยที่ไม่ต้องนั่งหลับตานิ่งๆอีกต่อไป ไม่ว่าคุณจะทำอะไรอยู่ คุณจะมีสติไม่ว่าเหตุใดจะเกิดขึ้นรอบๆตัวคุณก็ตาม แล้วคุณก็จะเป็นสุขสงบทุกวินาที เมื่อจิตของคุณจะสามารถจดจ่อได้กับความรู้สึกที่ต้องการ เพราะคุณสามารถสัมผัสได้ถึงอารมณ์และความรู้สึกนั้น คุณจะสามารถทำได้ในที่สุด คุณจะสามารถควบคุมให้ความสุขสงบอยู่ในจิตใจของคุณได้ทุกวินาที "อารมณ์ที่สุขสงบ" ที่ใครๆก็อยากมีในทุกเสียววินาทีที่มีชีวิตอยู่

ดูยาวหรือยากเกินไปหรือเปล่า การทำสมาธิที่ใได้ผลต้องทำเพราะใจรักและศรัทธาที่จะทำ หากผลักใสนั้นจะไม่เกิดเป็นผลที่เกิดขึ้นได้ง่าย ค่อยเป็นค่อยไป พยายามเข้านะคะ ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ ^___^

ที่เขียนมานี้เป็นเทคนิคของดิฉันนะคะซึ่งอาจจะแตกต่างจากหลายๆคนนั้นก็เป็นได้ค่ะ.


0