Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ยาโยอิ คุซามะ คนบ้าวัย 84 ปี ที่จี๊ดที่สุดในวงการแฟชั่น !

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

 ยาโยอิ คุซามะ คนบ้าวัย 84 ปี ที่ จี๊ดที่สุดในวงการแฟชั่น

           ยาโยอิ คุซามะ ผู้หญิงที่เกิดมาบนความแตกต่าง เธอมองเห็นโลกไม่เหมือนใคร ถูกจำแนกว่าเป็น “คนบ้า”จำพวกหนึ่ง แต่ในประเทศพัฒนาแล้ว และสังคมที่เปิดกว้าง “คนบ้า” คนนี้มีคำเรียกขานตามสิ่งที่เธอบรรจงสร้างมาทั้งชีวิตว่า “ศิลปิน”

ยาโยอิ คุซามะ

      ยาโยอิ คุซามะ ( Kusama Yayoi ) หลายคนคงไม่รู้จักเธอ แต่เมื่อบอกว่าเธอเป็นผู้ทำให้ลายจุด “Dot Infinity” ฮิตฮอตไปทั่วโลก หลังจับมือกับแบรนด์ดังอย่าง Louis Vuitton ออกแบบคอลเลคชั่นพิเศษที่มีชื่อว่า “Louis Vuitton – Yayoi Kusama” ที่นำเอกลักษณ์งานศิลป์ของเจ้าแม่ลายจุดมาตีความใหม่และถ่ายทอดออกมาเป็นผลงานแฟชั่นสุดไฮโซ

       ยาโยอิ คุซาม เกิดที่เมืองมัตสึโมโตะ จังหวัดนางาโนะ เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 1929 ตอนนี้คุณยายตัวจี๊ดวัย 84 ปี นางนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็ เจ้าแม่ศิลปะแนวป็อปอาร์ตสุดเฟมินิสต์ และยังเป็นศิลปิน อาวองต์-การ์ด (Avant-Guard Fashion) แถวหน้าของญี่ปุ่นอีกด้วย โดยสร้างชื่อเสียงโด่งดังจากลายจุดสารพัดจินตนาการ

ยาโยอิ คุซามะ

      จุดเด่น การสร้างสรรค์ผลงาน ของคุณยายตัวจี๊ด วัย 84 ปี นางนี้ ก็คือการมองเห็นอะไรรอบข้างเป็น “จุดจุด”การเห็นอะไรเป็น “จุดจุด” แบบนี้ดูเหมือนจะเป็ยนสิ่งที่สวรรค์มอบให้เธออย่างตั้งใจ เพราะ สิ่งที่เรามองเห็นผ่านผลงานของเธอ คือ สิ่งที่เธอมองเห็น ในชีวิตประจำวันของเธอเอง กล่าวคือในสายตาของเธอ เวลาเธอมองไปรอบๆ ก็เห็นเป็น “จุดจุด” เต็มสายตาไปหมด เรื่องจริงคือ นั่นเป็น อาการผิดปกติทางสมอง ทางจิตประสาทแบบหนึ่ง และทางการแพทย์ก็จำแนกว่าเป็นอาการของ “คนบ้า” จำพวกหนึ่ง

ยาโยอิ คุซามะ

          ครอบครัวของ ยาโยอิ คุซามะ ในวัยเด็กนั้นเป็นครอบครัวค้าขาย ร่ำรวยจากการขายเมล็ดพันธุ์พืช เธอเริ่มสร้างผลงานศิลปะตั้งแต่วัยรุ่น เมื่ออายุ 19 ปีได้เดินทางไปยังเกียวโตเพื่อเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนศิลปะและช่างศิลป์แห่งเกียวโต โดยเน้นด้านการวาดรูปในแบบภาพเขียนญี่ปุ่น ซึ่งเป็นศิลปะการวาดรูปโบราณของญี่ปุ่น (Nihon Ga) ที่สืบทอดกันมายาวนานกว่าพันปี และด้วยความเป็นศิลปินหัวก้าวหน้า เธอจึงรู้สึกเบื่อกับวิถีดั้งเดิม ศิลปะโบราณที่อยู่ในกรอบของญี่ปุ่น เสมือนว่าเธอต้องพาตัวเองย้อนกลับไปในสมัยเมจิ ตอนนั้นเธอรู้สึกว่าไม่มีความสุขกับการเรียนศิลปะแขนงนี้เอาเสียเลย พอรู้สึกดังนั้น เธอเลยกบฏต่อศิลปะนิฮงกะ และหันมาศึกษาศิลปะแนวอาร์วอง-การ์ดของศิลปินยุโรปและอเมริกาแทน โดยในช่วงทศวรรษ 1950 เป็นยุคแรกของการสร้างชื่อเสียง มีการจัดแสดงผลงานเดี่ยวๆของเธอหลายครั้งที่โตเกียวและที่มัตสึโมโตบ้านเกิดของเธอ

Yayoi-Kusama

       หลังจากนั้นในปี 1957 เธอจึงตัดสินใจเดินทางไปตั้งรกรากอยู่ที่นิวยอร์ค และสร้างผลงานสิลปะมากมาย ซึ่งผลงานศิลปะส่วนมากเป็นแนวเหนือความเป็นจริงแบบเอ็กซ์เพรสชั่นนิสต์ นอกจากนี้ก็มีผลงานด้านประติมากรรมกลางแจ้งตลอดจนงานปั้น แกะสลักและงานหล่อ ด้วยจินตนาการสุดล้ำและความกล้าบ้าบิน ทำให้เธอโดดเด่นขึ้นมาและยืนอยู่แถวหน้าของเหล่าศิลปินในฐานะศิลปินแนวอาวองต์-การ์ดชื่อดังของนิวยอร์ค ซึ่งผลงานที่สร้างชื่อเสียงและเรียกเสียงฮือฮาให้เธอมากที่สุด นั่นก็คือ เธอเอาตัวเองออกมาทำงานเปือย วาดภาพลาดจุดไปทั่วทั้งตัว ตลอดจนตัวม้า แล้วก็ถ่ายภาพคู่กัน และสร้างสรรค์ผลงานเป็นหนังสั้นออกมา

นอกจากนี้ ยาโยอิ คุซาม ยังทำงานอย่างอื่น ร่วมอีกด้วย นั่นก็คือ เขียนหนังสือ เขียนิยาย วรรณกรรม โคลงกลอน บทกวี เรียกได้ว่า เธอคืออาร์ตตัวแม่ เธอสร้างสรรค์งานศิลปะ ออกมาทุกมิติ เท่าที่เธอทำได้

Yayoi-Kusama

       ช่วงต้นทศวรรษ 1960 เธอก็โด่งดังสุดขีดจากบอร์ดี้เพนท์ที่เป็นผลงานสร้างสรรค์ของเธอ โดยมีลายจุดสีสันจัดจ้านชื่อว่า “อินฟินิตี้ เน็ตส์” ซึ่งเป็นกลายเป็น Signature ประจำตัวเธอต่อมา

      หลังจากนั้นไม่นาน ยุคทองของเธอก็ได้หมดลงเมื่อเธอตัดสินใจเก็บกระเป๋ากลับบ้านเกิด เพื่อรักษาอาการประสาทอย่างรุนแรง เธอต้องใช้ชีวิตที่เหลือในโรงพยาบาลบ้าแต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคอะไร เธอเริ่มศึกษาบทกวีและบทประพันธ์และนำเสนอออกมาในมุมมองเกี่ยวกับจิตใต้สำนึกของมนุษย์ เซ็กส์และการต่อสู้เพื่อสิทธิสตรี จน ยาโยอิ คุซามะ ได้รับการบันทึกว่าเป็นหนึ่งในศิลปินแนวอาวองต์-การ์ดที่ทรงอิทธิพลที่สุดในบรรดาศิลปินที่ยังมีชีวิตอยู่และเป็นศิลปินหญิงยุคปัจจุบันที่ขายผลงานได้แพงที่สุดในโลก

       ปัจจุบันเธอยังเป็นคนไข้อยู่โรงพยาบาลจิตเวช “Seiwa Hospital” ในย่านชินจูกุ โตเกียว ในทุกๆเช้า ยาโยอิ ก็จะเดินออกจากโรงพยาบาล เพื่อไปสตูดิโอส่วนตัวตั้งอยู่ใกล้ๆโรงพยาบาล เพื่อทำงานศิลปะ แล้วก็กลับมาที่โรงพยาบาล เธอทำแบบนี้มาตลอด 40 ปี

Yayoi-Kusama

        “ถ้าไม่ใช่ เพราะศิลปะ ฉันคงฆ่าตัวตายไปแล้ว”

        ซึ่งความจริงแล้ว เธอพยายามฆ่าตัวตายมาตั้งแต่เด็ก และสิ่งที่เธอมองเห็นมาตลอดชีวิต แล้วก็ใคร่ครวญมาตลอด นั่นก็คือความตาย ความตายอันเป็นนิรันดร์ มันไม่มีจุดสิ้นสุด

      ยาโยอิ คุซามะ ไม่เคยคิดว่าอาการผิดปกติในสายตาของเธอนั้น เป็นความแปลก หรือความอาภัพ แต่อย่างใด แต่ลายจุดจุด ที่เธอมองเห็นนั้นเปรียบเสมือนดวงอาทิตย์ ซึ่งเป็นแสงสว่างและความหวังของชีวิต เปรียบดังจันทราแสนงดงาม สงบนิ่งแต่น่าพิศวง และเหนืออื่นใดแล้ว ยังเป็นหนทางสู่ความเป็นนิรันดร์ด้วย

 “คนเราตราบใดที่มีชีวิต มีลมหายใจ ก็เท่ากับว่า เรายังมีความหวัง ความฝัน ที่ยังสานต่ออยู่ได้” - ยาโยอิ คุซามะ

แสดงความคิดเห็น

>

48 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

กดกดกดก 31 ธ.ค. 56 เวลา 14:13 น. 12

ไม่ควรใช้คำว่าคนบ้านะครับ ควรบอกไปเลยว่าเป็นโรคอะไรเช่นโรคจิตเภท โรค...
มันไม่เหมาะสมครับ โรงพยาบาลบ้าไม่มีนะครับ หมายความว่าคนที่นั่นบ้าเหรอครับ

0