[สงสัย] ทำไมก่อนอ่านเนื้อเรื่องต้องเปิดอ่านตอนจบก่อนด้วยล่ะครับ?
ตั้งกระทู้ใหม่
เห็นหลายคน(จากกระทู้อื่น)บอกว่า ชอบเปิดอ่านตอนจบก่อนอ่านเนื้อเรื่องอ่ะครับ ผมเลยไม่เข้าใจว่า ทำไมต้องอ่านตอนจบก่อนล่ะครับ? รู้ตอนจบก่อนแบบนั้น ก็อดลุ้นไปกับเรื่องสิฮะ แบบนั้นจะสนุกอะไรอ่ะครับ
เพิ่มอีกนิดครับ ถ้าเปิดอ่านตอนจบก่อน เปิดทุกแนวเลยรึเปล่าครับ? หรือว่าเป็นบางแนว? แล้วแนวไหนที่ไม่เปิดอ่านก่อนมีไหมครับ?
สุดท้ายนี้..ผมอยากจะบอกว่า ผมไม่ได้ห้ามใครเปิดอ่านตอนจบก่อนหรอกนะครับ 'โปรด' อย่าเข้าใจผมผิดไป
ขอขอบคุณทุกความคิดเห็นมาณ.ที่นี้ด้วยครับ
ราตรีสวัสดิ์ครับ
เพิ่มอีกนิดครับ ถ้าเปิดอ่านตอนจบก่อน เปิดทุกแนวเลยรึเปล่าครับ? หรือว่าเป็นบางแนว? แล้วแนวไหนที่ไม่เปิดอ่านก่อนมีไหมครับ?
สุดท้ายนี้..ผมอยากจะบอกว่า ผมไม่ได้ห้ามใครเปิดอ่านตอนจบก่อนหรอกนะครับ 'โปรด' อย่าเข้าใจผมผิดไป
ขอขอบคุณทุกความคิดเห็นมาณ.ที่นี้ด้วยครับ
ราตรีสวัสดิ์ครับ
43 ความคิดเห็น
บางคนเขามีความสามารถในการลบความทรงจำตัวเอง
ดีกว่าการมานั่งจิตตกคนเดียวหลังจากลั้ลลามาทั้งเล่มแล้วระเบิดตู้มตอนจบ
แบบนั้นคงลบออกไปจากความทรงจำไม่ได้
แต่ตัวผมเป็นพวกชอบเสี่ยง ก็เลยไม่เคยเปิดดูตอนจบเลย แปะๆๆ
(แต่ก็มีหลังหักบ่อยๆ เหมือนกัน)
อยากรู้
จบไหมครับ? - -
ถ้านิยายมันสนุก ต่อให้รู้ตอนจบ ผมก็อ่าน แต่ถ้ามันไม่สนุก รู้ตอนจบไปแล้วย้อนอ่านไปครึ่งเล่ม ผมก็โยนทิ้งเหมือนกัน
เมื่อก่อนผมไม่เคยเปิดอ่านตอนจบก่อนเลยนะ
แต่พอเจอนิยายเรื่องหนึ่ง... ตอนจบทำให้ผมช็อค ซึม และนอนไม่หลับอยู่หลายอาทิตย์ถึงขั้นต้องลุกขึ้นมาแต่งต่อให้พระเอกนางเอกกลับมาเจอกันและรักกัน
หลังจากวันนั้นผมก็หวาดผวากับตอนจบมาก ๆ เลยต้องแอบแง้มตอนจบดูก่อนทุกครั้งว่าแฮปปี้เอ็นดิ้งหรือเปล่า ไม่งั้นผมไม่อ่านครับ ไม่อยากเจอประสบการณ์ช็อคอีกแล้วอ่ะ
มันก็ไม่ได้ลุ้นสิฮะ ยิ่งถ้าสมมุติว่านิยายเล่มนั้นนักเขียนบรรยายหลอกเรามาว่านาย 'ปูด' ตัวเอกของเรื่องเป็นคนดีที่รักเพื่อนมากแต่เพื่อนทุกคนทยอยตายจากเขาไปเรื่อยๆ โดยที่ยังจับฆาตกรไม่ได้ จนสุดท้ายนักเขียนมาเฉลย'ตอนจบ' ว่านายปูดนั่นล่ะที่เป็นฆาตกรฆ่าเพื่อนตัวเอง
มีการวิจัยออกมาแล้วว่า
ความจริงหากอ่านตอนจบหรือรู้เนื้อหาสำคัญก่อน
จะทำให้ความสนุกในการอ่านเพิ่มขึ้นกว่าการไม่รู้นะ
เพราะมันจะขจัดความกังวลใจ ระหว่างที่อ่านเรื่องเพื่อไปถึงจุดคลายปมนั้นได้
ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่หากหลายคนจะแอบดูตอนจบก่อน
อันนี้เป็นผลการวิจัยทางสถิติ เป็นข้อเท็จจริง
แต่แน่นอน มนุษย์เราไม่ใช่หุ่นปั้มจากโรงงาน ย่อมคิดแตกต่างกันได้อยู่แล้ว
ดังนั้นพวกที่ไม่อ่านช่วงนั้นก่อน แล้วไล่อ่านตั้งแต่ต้นทำให้สนุกกว่า ก็มีเช่นกัน
มันเป็นรสนิยมในการอ่านของแต่ละคน จขกท.มีสิทธิและอำนาจมากพอไปบีบบังคับให้คนอื่นคิดและปฏิบัิติอย่างที่ตัวเองต้องการได้เหรอครับ?
อีกอย่างถึงจะรู้ว่าใครเป็นฆาตกรแล้ว แต่ส่วนสำคัญมันใช่จะอยู่ที่ตรงนั้นเสมอไป แต่มันอยู่ที่ว่านักเขียนจะสามารถดำเนินเรื่องไปสู้ตอนจบที่ตัวเองเสนอออกมาได้ดีแค่ไหน นำเสนอได้สนุกเพียงใด และเทคนิคในการแก้ปมปริศนาของคดีดีแค่ไหน ผมสนใจที่ตรงนี้
ถ้าจขกท.ไม่ชอบ...มันก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับจขกท.อยู่แล้วไม่ใช่หรือ? มันเหมือนกับวิธีการอ่านของจขกท.ไม่ได้กระทบกับชีวิตความเป็นอยู่ และรสนิยมในการอ่านของผมนั่นแหละ
มันยากจะเข้าใจขนาดนั้นเลยหรือครับ?
สรุปสั้นๆ ใครจะอ่านแบบไหน มันก็เรื่องส่วนตัวของแต่ละบุคคล
ผมอ่านเฉพาะหน้าสุดท้ายของตอนจบนะ ไม่ได้อ่านทั้งตอน
เหตุผลก็เพื่อจะดูว่ามันจะจบแนวไหน คิดจะเล่นต่ออีกหรือเปล่า ซึ่งแค่หน้าท้ายหน้าเดียวผมว่าทำให้ความสนุกหายไปหรอก ตรงข้ามถ้ารู้ว่ามันจะจบเคลียร์ผมยิ่งอ่านสบายใจ ไม่ระแวงว่าจะโดนหักหลังหักคอเอาท้ายเรื่อง
ส่วนตัวมองว่านิยายสนุก ต่อให้รู้ตอนจบก็ยังสนุกครับ
ผมเป็นคนหนึ่งที่ชอบอ่านสปอยหนังก่อนไปดูในโรง
เหตุผลก็เพื่อให้มันคุ้มกับราคาตั๋วซึ่งแพงขึ้นทุกวันๆ การดูสปอยหลายๆเจ้าจะช่วยกรองได้ระดับหนึ่งว่าเข้าแนวเราหรือไม่ ดูแล้วออกมาเฟลหรือไม่
นิยายก็คือกันครับ ถ้ามีสปอยคร่าวๆ หรือเปิดอ่านตอนจบผ่านๆจะช่วยสแกนส่วนนี้ได้เยอะ
เพราะถ้ามันปูมาตามลำดับขั้นตอนจริงๆ ความสนุกของฉากจบมันจะเริ่มตั้งแต่ตอนก่อนจบด้วยซ้ำครับ มันจะพีคที่สุดช่วงนั้น ตอนจบคือการสรุปภาพรวมอีกที ซึ่้งรู้ไปก็ไม่ทำให้สนุกน้อยลงหรอกครับ แต่ทำให้การลุ้นลดลงมากกว่า (อย่างน้อยถ้าเป็นแนวโหดๆก็รู้ว่าใครรอดบ้าง) เท่านั้นเองครับ ซึ่งมันก็อยู่ในขอบเขตที่ผมรับได้นะ
ผมก็แค่สงสัยเฉยเองฮะ แล้วผมก็ไม่ได้จะห้ามใครอ่านตอนจบหรอกนะครับ พออ่านที่ท่านแสดงความคิดเห็นมาจบ ผมกลับรู้สึกเหมือนโดนต่อว่ายังไงก็ไม่รู้สิครับ
ไม่ได้ต่อว่าครับ แต่เป็นการแสดงความคิดเห็นที่ตรงต่อความคิดที่สุดครับ
จับมือท่านเขย่าแรง เรามันพวกเดียวกันครับ ผมก็ไม่เคยเปิดอ่านตอนจบเหมือนกันครับ อยากลุ้นไปพร้อมๆกับตัวละครมากกว่า ได้คิดโน่นคิดนี่ไปกับตัวละคร มันสนุกดีออก ดีใจที่เจอความคิดเห็นของท่านครับ // ขอเขย่ามือแรงๆอีกสักรอบ
สำหรับเรา ที่อ่านตอนจบก่อน
เพราะจะได้รู้ว่าใครเป็นนางเอกค่ะ
#ผู้พ่ายแพ้ในสงครามกองอวยตลอดมา
ผู้พ่ายแพ้ในสงครามกองอวยตลอดมา คืออะไรหรือครับ?
รู้สึกดีที่คุณไม่ได้ต่อว่าผมครับ
เข้าใจความรู้สึกนี้ครับ บางทีอวยคนนี้ แต่ตอนจบดันพลิกล็อคเป็นอีกคน มันเจ็บจี๊ดเหมือนโดนมีดแทงเลย หลายครั้งที่ผมพ่ายแพ้ในการอวย มันช่างโหดร้ายในความรู้สึกจริง ๆ
ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่เปิดอ่านตอนจบก่อน
เฉพาะย่อหน้าสุดท้ายนะ
ถามว่ารู้เรื่องไหม?
ไม่
และอ่านทำไม?
อยากรู้ว่าท่อนสุดท้ายเขียนอะไรไว้ แล้วพอผมกลับมาอ่านอีกครั้งหลังอ่านตั้งแต่ต้นจนจบเสร็จ ไอข้อความสุดท้ายนั่นน่ะ มันทำให้ความรู้สึกผมเปลี่ยนไปไหม ประทับใจมากขึ้นกว่าเดิมหรือเปล่า (ซึ่งส่วนใหญ่ประสบความสำเร็จ)
ย่อหน้าสุดท้ายก่อนขึ้นคำว่า The End มันสำคัญมากนะ เวลาแง้มไปดูก่อนอ่าน กับอ่านเสร็จแล้วไปเจอ ฟิลลิ่งมันต่างกันจริงๆ
เปิดเป็นบางเรื่องครับ ส่วนใหญ่นิยายที่ผมเลือกจะซื้อกลับมาอ่าน จะได้อ่านรีวิวมาบ้างแล้วว่าเนื้อหาเป็นมายังไง ถ้าตอนจบไม่เวิร์ค ผมก็ไม่เลือกที่จะหยิบตั้งแต่ต้น และส่วนใหญ่นิยายที่เลือกมาอ่าน ตอนจบเป็นจบแบบมีความสุข ไปถึงจบแบบไม่ได้เสียอะไร ผมเลยไม่กังวลหรือคอยพะวงตอนจบนัก สามารถอ่านไปเรื่อยๆ ได้
ถ้าจะมีนิยายเรื่องไหนที่ผมจะเปิดอ่านตอนจบคือ
นิยายที่ไม่เคยอ่านรีวิว หรือรู้เนื้อหามาก่อน ผมจะเปิดอ่านหนึ่งหรือสองตอนแรก แล้วอ่านตอนจบว่ามัน ซึ่งเอาเข้าจริงๆ ก็ไม่ได้อ่านทั้งบทหรอกครับ อ่านแค่หน้าสองหน้าท้ายๆ เท่านั้นเอง (บางทีอ่านแล้วยังบอกตัวเองไม่ได้เลยว่า ตกลงมันจบสุขหรือเศร้าวะ 5555+)
กับอีกแบบคือเป็นนิยายที่ผมชอบมาก และมีหลายเล่มจบ มันอดไม่ได้จริงๆ ที่จะพลิกอ่านตอนจบว่ามันเป็นยังไง วางอะไรเด็นๆ ไว้ล่อเราให้อ่านเล่มต่อไปบ้าง
ปกติก็ไม่ชอบอ่านตอนจบก่อนเหมือนกันนะคะ ขนาดอ่านถึงตอนเกือบๆ พีคยังต้องคอยเอามือปิดตอนต่อไปไว้ด้วย เพราะว่าตาชอบเหลือบไปมอง อย่างเช่น ถ้ากำลังอ่านด้านบนของหน้าซ้าย ตาก็จะชอบเหลือบไปมองท้ายๆ ของหน้าขวา
แต่มีครั้งนึง ไปหาหนังสืออ่านเล่นที่ร้านหนังสือ ตอนนั้นถูกใจหนังสือแฟนตาซีอยู่เล่มหนึ่ง อยากรู้ว่าจะมีเล่ม 2 หรือเปล่า เพราะอารมณ์ตอนนั้นอยากอ่านเล่มเดียวจบ ก็เลยลองเปิดหน้าสุดท้ายดู ถ้านั่นเป็นเล่ม 1 ก็คงจะมีตัวหนังสือบอกว่า ติดตามต่อได้ในเล่ม 2 แต่ปรากฏว่าไม่มี แสดงว่าเป็นเล่มเดียวจบจริงๆ บวกกับเท่าที่ลองอ่านก่อนหน้าสุดท้ายนิดนึงก็คิดว่าน่าจะคลี่คลายปริศนาอะไรหมดทุกอย่างแล้ว แต่ตอนนั้นถึงอ่านไปก็ไม่รู้เรื่องหรอกค่ะว่าปริศนามีอะไรบ้าง แค่กันไว้ก่อน เผื่ออ่านจบเล่มปุ๊บ ปรากฏว่าปริศนายังคลี่คลายไม่หมด เล่ม 2 ก็ยังไม่ออก มันจะเซ็งมากเลยค่ะ เพราะจะรู้สึกค้างมาก
หนังสือที่มีอยู่ตอนนี้ก็มีหนึ่งเรื่องที่ยังออกไม่ครบทุกเล่ม แต่นักเขียนก็บอกไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่ามีกี่เล่มจบ ก็เลยต้องรอต่อไป อารมณ์เหมือนตอนรอแฮร์รี่ พอตเตอร์ น่ะค่ะ ถึงจะค้างแค่ไหน แต่ถ้าเล่มต่อไปยังไม่ออกก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี มีแต่ต้องรอต่อไป หลังจากแฮร์รี่จบแล้วก็เลยพยายามหลีกเลี่ยงหนังสือที่มีหลายๆ ภาค เพราะกว่าจะจบมันทรมานเหลือเกิน เหลือแต่เรื่องที่ว่าเนี่ยแหละค่ะ ตั้งแต่แฮร์รี่ยังไม่จบแล้ว
แล้วก็มีนิยายอีกเล่ม เป็นเล่มเดียวจบ แต่ตอนจบเศร้ามากเลยค่ะ อ่านแล้วหดหู่มาก พระเอกโดนนางร้ายแทงตาย พระรอง(ซึ่งอยากให้เป็นพระเอกมาก)ป่วยตาย นางร้ายเป็นบ้า เหลือแต่นางเอกคนเดียว
อันนี้นอกเรื่องหน่อยนะคะ ไม่ใช่หนังสือ แต่เป็นซีรี่ส์เกาหลี เป็นเรื่องที่ยาวมากๆ ดราม่าสุดๆ ดูกับคุณแม่ ดูไปจนถึงครึ่งเรื่อง รู้สึกว่าดำเนินเรื่องช้าจัง แล้วก็เริ่มรู้สึกว่าน่าเบื่อ กว่าจะจบก็อีกนาน เลยข้ามไปดูตอนจบก่อนเลย จะได้หายคาใจว่าสุดท้ายแล้วจะจบยังไงกันแน่ แล้วค่อยกลับไปดูหลังจากครึ่งเรื่องใหม่อีกครั้งก็จะไม่เครียดมากเกินไปและไม่น่าเบื่อด้วย
อย่างที่บอกว่าปกติจะไม่อ่านตอนจบก่อน แต่บางทีก็มีแอบไปอ่านก่อนบ้างนิดหน่อย ตอนนี้มีเรื่องหนึ่งที่อ่านไม่จบสักที เล่มหนามาก อ่านแล้วรู้สึกเบื่อ กำลังคิดว่าอาจจะไปอ่านตอนจบก่อนเลย จะได้มีกำลังใจในการอ่านต่อ หรือถ้าจบแบบไม่น่าประทับใจ ก็จะได้ไม่ต้องอ่านต่อแล้ว
เรื่องที่มีปริศนาเยอะๆ พออ่านจนจบแล้ว มักจะกลับไปอ่านใหม่อีก ทำให้ได้อีกความรู้สึกหนึ่ง เพราะเรารู้ปริศนาหมดทุกอย่างแล้ว สนุกกว่าอ่านครั้งแรกด้วยซ้ำไปค่ะ บางทีก็ร้องไห้ทั้งที่ฉากนั้นไม่เศร้าเลย เพราะรู้ว่าตัวละครโดนหลอก (นักอ่านก็โดนหลอกด้วย)
ปล.เพิ่งเห็นที่เจ้าของกระทู้มาเพิ่มเติม ราตรีสวัสดิ์นะคะ
นิยายไม่ค่อยอ่านตอนจบเพราะอ่านแปบเดียวก็จบแล้วต่อให้เล่มหนาขนาดไหนก็ไม่เกินวันหรอก เพราะนิยายที่อ่านเราจะดูจากสนพ.ที่ตีพิมพ์เป็นอันดับแรก เพราะแต่ละหมวดของสนพ.นั้นๆจะมีลักษณะของเรื่องคล้ายกัน แต่พล็อตต่างกันและทำให้ความสนุกมากขึ้นกว่าเดิมหรือน้อยลงอยู่ที่ฝีมือของผู้แต่ง ดังนั้นสนพ.แต่ละสนพ.ก็การันตีคุณภาพการเขียนออกมาได้แล้ว เช่นบางสนพ.ไม่มีการมารีไรท์หรือมาตรวจสอบเรื่องก่อนพิมพ์ทำให้เจอคำผิด คำหาย บรรทัดตกหล่นก็มี ซึ่งต่อให้เรื่องสนุกขนาดไหน เจอแบบนี้คนอ่านก็เฟลได้เหมือนกัน แต่ถ้าเป็นสนพ.ที่ค่อนข้างเรื่องมากในการตีพิมพ์ตั้งแต่พล็อตเรื่อง การจัดย่อหน้า ตัวหนังสือ คำผิด จนถึงขนาดให้นักเขียนไปรีไรท์มาส่งใหม่มักจะการันตีได้ว่าอย่างน้อยๆอ่านไปก็ไม่สะดุดหรือเฟลกลางคันล่ะ(วะ) ตอนแรกๆที่อ่านนิยายก็อ่านตอนจบแหละ เพราะจะดูว่าจบได้ดีมั้ยหรือมันยังไม่จบหรือว่ามันดราม่าหว่า ซึ่งตอนนั้นที่อ่านคือมันเป็นแนวรักหวานแหวว= ="" และตอนนี้ไม่อ่านแล้วไง เพราะยิ่งอ่านไปเยอะๆ ต่อให้ไม่อ่านตอนจบแต่อ่านไปก็เดาทางเรื่องได้อยู่ดี.... แต่ถ้าเป็นการ์ตูนที่โคตรชอบหรือเนื้อเรื่องสนุกมาก เช่นวันพีช ต่อให้รู้ล่วงหน้าขนาดไหน(อย่างอ่านมังงะล่วงหน้าแล้วค่อยดูเมะเป็นต้น) ย้อนกลับมาดูกี่รอบก็ลุ้นอยู่ดี คือเป็นได้สองแบบคือ 1.ลบช่วงที่อ่าน/ดูไว้ก่อนออกไป อันนี้ดูยังไงก็สนุกอยู่แล้ว 2.ไม่ลบแต่ก็ลุ้นอยู่ดี ว่าเฮ้ยๆๆ -นี่จะออกมาแล้ว จะได้สู้แล้ววววว มันเป็นการลุ้นว่าเรื่องมันจะเป็นไปตามพล็อตสินะ เพราะเมะบางเรื่องมันดันไปคนละทางกับมังงะนี่สิ....
ตามที่คุณบอกนะ ว่าถ้าอ่านกระทู้ก่อนๆ ที่ว่าทำไมถึงมีคนชอบอ่านตอนจบกัน คุณจะรู้ว่าเป็นเพราะอะไร เพราะหลายคนรวมทั้งเราเองใส่เหตุผลไปในกระทู้ที่ตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ไปแล้ว คือว่าคำตอบของคำถามนี้มันน่าจะได้บทสรุปที่มากพอตั้งแต่อ่านกระทู้นั้นมาแล้ว
แต่ถ้า จขกท.อยากให้ตอบ อยากให้สรุปก็จะตอบให้อีกรอบ
1. เพราะเวลาซื้อหนังสือเราจะอ่านทั้งคำโปรย บทนำ และพลิกอ่านตอนจบ หากรู้สึกว่าถูกจริต เนื้อเรื่องโดนก็จ่ายเงิน แต่ถ้ากรณีไม่ได้อ่านตอนจบไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด แล้วมาเจอสภาพความไม่สมเหตุสมผล ความโอเวอร์หวานเลี่ยนแบบชีวิตจริงมันไม่มีใครเขาทำกันไม่ได้ โอเคนี่มันแค่นิยาย แต่เราไม่อยากอ่านนิยายแบบนี้ รับตอนจบไม่ได้ ผิดหวัง นี่มันอะไรกัน บลาๆๆ พอเจอเยอะเข้ามันเลยเข็ด และนี่เป็นนิสัยส่วนตัว การซื้อหนังสือสำหรับเราเหมือนการลงทุนอย่างหนึ่ง กำไรที่หวังคือความสนุกตั้งแต่ต้นจนจบ หากตอนจบรับไม่ได้มันก็เท่ากับขาดทุน
2. หนังสือบางเรื่องอ่านตอนจบไม่ได้ เพราะห่อพลาสติกไว้ หรือสั่งมาทางเน็ต แม้จะเคยอ่านรีวิวแต่ส่วนใหญ่รีวิวมันไม่ยอมบอกตอนจบที่ละเอียดนี่นา พอได้มาอ่านเอง ผ่านไปได้สักพักต่อมอยากรู้อยากเห็นมันดันระเบิดตูมขึ้นมา เราอยู่แบบรู้ครึ่งๆ กลางๆ ไม่ได้ (เป็นเฉพาะเวลาอ่านหนังสือเท่านั้น) และหากความหนาของหนังสือเหลืออีกเยอะและยังไม่ได้รับคำตอบที่อยากรู้ เราจะนอนไม่ได้ จะโหมอ่านมันทั้งวันทั้งคืน หยุดงานอ่านนิยายยังเคยมาแล้ว (ล่าสุดก็เรื่องนางซินของคุณหนมปัง ความหนาเกือบ 700 หน้า และไม่ได้มีแค่เล่มเดียวจบ) ดังนั้นเพื่อสุขภาพกายและจิตที่ดีของตัวเอง เลยพลิกอ่านตอบจบซะ ขจัดความอึดอัดเพราะไม่รู้ของตัวเองออกไป ความสนุกลั้นลามีมากกว่าเดิม รู้สึกสบายใจ
ง่า...นิยายเรื่องนึงมันแพง ทำกระเป๋าแฟบไปได้หลายวัน ดังนั้น อย่างน้อยก่อนจะซื้อก็ขอแสกนดีๆหน่อย เราชอบอ่านนิยายไต้หวันเพราะสำนวนเค้าฮาดีค่ะ แต่ข้อเสียของนิยายพวกนี้คือจะได้รับอิทธิพลทางพล็อตมาจากจีนแผ่นดินใหญ่เล็กน้อย กว่าจะจบได้พระเอกต้องตกระกำลำบากปานจะฆ่าให้ตาย บางเรื่องลำบากแล้วจบสวยก็ดีไป แต่บางเรื่องนี่...วนลูปเริ่มต้นใหม่ แล้วที่เราอ่านมาทั้งหมดคืออาร๊าย! หลังจากประสบดับความเฟลจากนิยายเรื่องนั้น ก่อนจะอ่านนิยายเรื่องไหนเราก็เลยต้องตามไปอ่านสปอยล์ตอนจบในเน็ตก่อนเรื่อยมา... แล้วเราเคยเจอนิยายจำนวนมากที่จบภาคแบบโคตรค้างด้วยค่ะ ทำเอาอยากรีบแจ้นไปปาระเบิดลงบ้านนักเขียนจริงๆ แต่โชคดีที่นิยายเรื่องนั้นมีให้อ่่านต่อในเน็ต เราก็เลยไม่ลงแดงมากนัก แต่ว่าถ้าเป็นนิยายไต้หวันล่ะก็ ต้องลงแดงไปอย่างน้อยสามเดือนเลยนะ! ขาดใจตายก่อนพอดี ดังนั้นเพื่อประโยชน์สุขของหัวใจดวงน้อยๆของเราแล้ว ต่อให้ตอนอ่านเนื้อเรื่องตรงกลางจะสนุกน้อยลงบ้างก็ไม่เป็นไรค่ะ
อยากรู้ ไม่อยากลุ้น ค่ะ ถึงจะอ่านแล้วงงๆว่านี่ใคร นั่นใคร มันคืออะไร ก็เถอะ แต่นั่นแหละ มันอยากรู้ค่ะ
นั่นสินะ...
แต่ถึงรู้ไปผมก็ยังจะอวยเฉพาะคนที่ชอบอยู่ดีนั่นแหละ
ปกตินิยายทั่วไปผมไม่อ่านตอนจบน่ะ ยกเว้นแนวเดียวฮาเร็ม ซึ่งผมต้องดูสปอยว่าจบฮาเร็มหรือไม่ฮาเร็ม (ยิ่งเป็นการ์ตูนผมเปิดหน้าสุดท้ายเลย)
เนื่องด้วยนิยายมีราคาแพงขึ้นทุกวัน การหานิยายที่ตรงกับสเป็กเราตั้งแต่ต้นจนจบนั้นสำคัญมาก
ดังนั้นการสปอยถุือว่าสำคัญมากว่านิยายที่เราติดตามจบยังไง เพราะจบไม่ตรงกับที่เราคิด ก็ไม่ต้องดู ไม่ต้องซื้อ จะได้ไม่เสีนความรู้สึก
เมื่อรู้ตอนจบดี แล้วมันขนัดความกังวลใจ ทำให้ลดการติดตามเหรอ ขอตอบว่าไม่ เพราะกลายเป็นว่าสาเหตุใดถึงจบแบบนั้น พระเอกใช้มนต์อะไรสามารถทำให้จบมีความสุขได้ต่างหาก
ไม่ชอบอ่านตอนจบก่อนครับ ^ ^
เป็นคนต้องอ่านตอนจบก่อนเฉพาะบางเรื่อง
เช่น เห็นเรื่องนี้น่าอ่าน แต่ไม่รู้จักนักเขียน ก็จะอ่านบทนำนิดหนึ่งและมองผ่านๆตา
แล้วไปอ่านตอนจบดูว่าจบโอเคพอน่าอ่านไหม
ส่วนตัวเป็นแบบนั่น
อยากรู้ตอนจบก่อนสำหรับนิยายโรมานซ์ค่ะ ใครเป็นพระเอกนางเอก จะได้เชียร์ถูก บางทีอ่านๆไปคนที่เราคิดว่าใช่กลับไม่ใช่อะไรแบบนี้ ก็เซ็งๆไปเหมือนกัน อีกอย่างคืออยากรู้ว่าจบแฮ้ปปี้มั้ย
แต่ถ้าเป็นเรื่องลึกลับเรื่องสั้นหักมุม แนวสืบสวน แบบนี้จะไม่เปิดอ่านเลยค่ะ เพราะมันจะหมดสนุก เสียอรรถรสไปเยอะเลย
ต่อให้นิยายสนุกแค่ไหน ถ้าตอนจบมันไม่ใช่ที่เราคาดหวังไว้ มันก็รู้สึกจิตตก เพราะดำเนินเรื่องแฮปปี้รักหวานแหววทั้งเรื่อง ตอนจบพระเอกตาย โคตรจิตตกอ่ะ ;_____; เมื่อก่อนเราไม่เคยอ่านตอนจบนะ แต่พออ่านนิยายเล่มนึงแล้วตอนจบมันไม่เหมือนที่เราคิดไว้ มันเฟล มันไม่จบ(สำหรับเรา) มันพูดไม่ออก จากนั้นมาเราเลยต้องอ่านตอนจบก่อน...5555555
เพราะว่าเราเคยซื้อนิยายมาเล่มนึง แล้วสุดท้ายพระเอกตายอ่ะค่ะ แล้วเราชอบมากเลย ความรู้สึกตอนนั้นคือ อยากตัดหน้าที่พระเอกตายทิ้งไปซะเดี๋ยวนั้น
หลังๆก็เลยเข็ด ชอบอ่านบทสุดท้ายก่อนซื้อน่ะค่ะ ไม่อยากมาปวดตับทีหลัง
เคยทำเหมือนกันน่ะ สมัยที่การ์ตูน 'ยูกิโอ' ออกฉบับรวมเล่นเมื่อหลายๆ ปีก่อน เล่นนั้นเป็นตอนที่ยูกิดวลกับไคบะ ก่อนที่จะเข้าไปสู้กับเปกาซัสในปราสาท พอดปิดไปปุ๊ป! ยูกิยอมแพ้ซะอย่างนั้น!!! ทำให้ไม่อยากเปิดหน้าแรกอ่านอีกเลย หลังๆ มาไม่ว่าจะเป็นการ์ตูนภาพหรือนิยาย ผมจะไม่เปิดไปดู้ท้ายเล่มอีกเลย
ถ้าตอนจบไม่สนุกเราจะไม่ซื้ออ่ะค่ะ เลยต้องเปิดอ่านก่อน
ถ้าเราจะซื้อนิยายสักเล่มนึง...เราก็ชอบเปิดอ่านตอนสุดท้ายอันดับแรกเลยค่ะ เหตุผลคือ ไม่ชอบลุ้นค่ะแล้วก็จะได้รู้ด้วยว่าเรื่องนี้น่าอ่านหรือไม่ค่ะ
แล้วแต่เรื่องค่ะ ถ้าเรื่องที่สนใจมากๆ เราจะไม่เปิดอ่านตอนจบ แต่ถ้าเป็นเรื่องที่สนใจนิดหน่อยเราก็จะเปิดไปอ่านตอนจบ(เผื่อจะทำให้สนใจมากขึ้น 555)
เอาจริง ๆ จขกท ไม่เคยทำสักครั้งเลยจริงอะ ==?
เคยทำครับ ครั้งเดียว เพราะสงสัยไงเลยลองมั่ง แต่ปรากฏว่าไม่ชอบครับ ก็เลยไม่ทำอีก ขนาดอ่านการ์ตูนผมยังไม่เห็นภาพหน้าซ้ายมือเลย(ส่วนมากน่ะครับ)
อ่านดูประโยคจบสองสามหน้า ถ้าคาดเดาไม่ได้ กลับไปอ่านตั้งแต่เริ่มโดยเร็ว
อยากรู้ว่าตอนจบจบยังไงอ่ะ
นิยายเปิดดูหน้าสุดท้ายของตอนจบทุกแนวค่ะ เพื่อให้แน่ใจว่าเรื่องจบแบบไม่ค้างคาใจ พระ-นาง ไม่ตายตอนจบประมาณนั้น
แหม...อ่านมาแบบสนุกลุ้นระทึกเกิดพระ-นางตายตอนจบมันก็ ฮึ่ม...
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?