Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เราหัวโบราณจริงหรือ?!?

ตั้งกระทู้ใหม่
(ขอโทษถ้าผิดบอร์ดนะคะ)
คือ เมื่อวานเราได้คุย Omegle กับเด็กผู้ชายอเมริกันคนนึง ซึ่งเค้าก็ดูพูดดีไม่ horny เหมือนคนอื่นๆ (คนที่เล่น omegle น่าจะเข้าใจ) แถมยังเคยมาเมืองไทยอีกค่างหาก หลังจากนั้นเราเลยคุยกันต่อใน kik คือเราสมัคร kik เพื่อคุยกะเค้าเลยนะ (เพราะว่ามีครั้งนึงเราก็เคยคุยกับคนที่นิสัยดีมากๆแล้วก็ไม่ได้ติดต่อกันอีก เราจึงเสียดายมาก ตั้งใจว่าถ้าเจอคนที่ nice จริงๆจะไม่พลาดอีก) เวลาขณะนั้นค่อนข้างดึก เกือบตี 1 แแล้วก็เลยมึนๆ งงๆ พูดไม่ค่อยรู้เรื่องบ้างอ่ะคะ เพราะสมองเริ่มหยุดทำงานแล้ว...แล้วไปไงมาไงก็ไม่รู้ เราอธิบายให้เค้าฟังเกี่ยวกับค่านิยมบ้านเราที่ should keep virginity until your marriage's night คือ ควรจะรักนวลสงวนตัวจนกระทั่งคืนแต่งงาน(ไม่รู้ใช้ศัพท์ถูกรึเปล่านะคะ) แล้วเค้าก็เหมือนแปลกใจว่าบ้านเค้าไม่เห็นมีแบบนี้เลย แล้วก็ถามว่าเธอไม่ต้องการมี sex หรอ เราก็เริ่มงงๆ เราเลยตอบกลับไปว่า Yeah, I do too. It's a basical need for every human. แล้วเค้าก็ถามว่า แล้วเธอทำยังไง ช่วยตัวเองหรอ ถึงตอนนี้เริ่มรู้สึกแปลกๆนะคะเพราะว่าบ้านเราเค้าไม่คุยเรื่องแบบนี้กัน แต่เราก็ตอบไปว่าไม่ แล้วเค้าก็ถามว่าแล้วเธอโอเคกับมันหรอ มัน นี่คือ ค่านิยมที่ว่าค่ะ เราก็ตอบว่าโอเคมั้ง (ก็จะให้ตอบอะไรล่ะ ชั้นง่วง!!) อาจจะฟังดู silly ไปนิดนะ ...แล้วเราก็ถามว่าผู้ชายไม่ดีใจหรอที่ได้ภรรยาที่บริสุทธิ์อ่ะ เค้าก็ตอบมาว่าไม่ เพราะแสดงว่าภรรยาเค้าต้องมีปัญหาผิดปกติทางด้าน sex แน่ๆ เราก็เลยพยายามอธิบายจุดประสงค์ของการรักนวลสงวนตัวให้ฟัง(ทั้งๆที่หนังตาจะปิดอยู่แล้ว) แล้วเค้าก็บอกว่า Stop it! I don't want to know. อย่างนี้เลยค่ะ เราก็เริ่มโกรธก็เลยแบบว่าเค้าไปนิดๆ เค้าก็เลยบอกว่าเค้าไม่อยากอินไปกับค่านิยมนี้ เลิกอธิบายสักที ประมาณนี้น่ะค่ะ เราก็เลยรู้สึกผิดขอโทษเค้าที่ไปพล่ามใส่เค้าอ่ะนะ คือเค้ายังว่าเราหัวเก่าเลยอ่า แถมยังไม่อยากคุยกับเราต่อด้วยซ้ำ เราก็โอเคๆ แต่คือแบบเสียความรู้สึกมากอ่าที่โดนว่าว่าหัวโบราณ เค้าบอกเราด้วยซ้ำว่าเค้าเสียจิ้นตั้งแต่ 16 แล้ว เราก็เหวอนิดๆ แต่ก็เป็นธรรมดาของผู้ชายที่นู่นมั้งคะ หลังจากนั้นเราเลยไปนอนด้วยความนอยด์สุดๆที่โดนด่า 55
คือสำหรับเราแล้วเนี่ย เรื่องรักนวลสงวนตัวเป็นกุศโลบายของคนรุ่นเก่าที่อยากให้ผู้หญิงมีเซ็กซ์กับคนที่รักเราจริงๆ รอได้จนถึงวันแต่งงาน เพื่อไม่ให้ผู้หญิงท้องก่อนแต่ง ถามว่าทำไมไม่ป้องกัน เราคิดว่าถึงป้องกันแล้วก็มีโอกาสพลาดได้อยู่ดีใช่มั้ยล่ะคะ แต่เราก็ไม่คิดว่าคนไม่ซิงเป็นคนไม่ดีนะคะ เพราะสถานการณ์เค้าอาจจะต่างจากเรา ความพร้อมเราอาจจะต่างกัน ความต้องการเราอาจจะต่างกัน แต่เราก็ไม่อยากใหมองคนที่คิดแบบเราเป็นคนหัวเก่าหรือหัวโบราณเช่นกัน สำหรับเราแล้ว คนที่รักจริงรอเราได้ค่ะ แล้วจริงๆสำหรับเราเรื่องเซ็กซ์ก็ไม่ใช่เรื่องที่สำคัญที่สุดในชีวิตคู่นะคะ เพราะถึงจุดหนึ่งที่ sexual drive คุณหมดแล้ว คุณก็จะเริ่มไม่เห็น sex สนุกอีกต่อไป มันเป็นเรื่องของความเข้าใจกันมากกว่า ถ้าไม่เข้าใจกัน พูดกันไม่รู้เรื่องแล้วเนี่ย ทะเลาะกันบ่อยๆ ก็อาจจะเลิกกันได้ใช่มั้ยล่ะคะ
ก็ไม่รู้เราหัวเก่าไปมั้ย ใครที่คิดไม่เหมือนเราก็ไม่เป็นไรนะคะ อยากรับฟังความคิดเห็นของทุกคนค่ะ
เศร้าจัง

แสดงความคิดเห็น

>

35 ความคิดเห็น

ไอซ์ดราก้อน 12 ม.ค. 57 เวลา 11:15 น. 2

เราคิดเหมือนเธอแหละ 

เดี๋ยวนี้ผู้หญิงชอบบอกว่าค่านิยมนี้มันเก่าเกินไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องรักษาก็ได้
บางคนก็บอกว่าคนไทยสมัยก่อนไม่รักษาความจิ้นหรอก
ประเพณีนี้มันพึ่งมีสมัยวิคตอเรียน เพราะอังกฤษอยากควบคุมจำนวนประชากรไม่ให้มากล้นประเทศ

เราฟังแล้วก็ไม่ว่าอะไรนะ ถ้าคนอยากมีเซ็กส์ก่อนแต่งงานก็ไม่เป็นไร
เป็นสิทธิของเขา ถ้าเขาป้องกันดี มั่นใจว่าไม่ท้อง
แต่เราเชื่อว่าผู้ชายทั้งโลกไม่มีใครอยากได้ผู้หญิงใจง่ายมาเป็นแม่ของลูกหรอก
ถ้าคบกันได้สองวัน ผู้หญิงยอมมีอะไรด้วยแล้ว
ต่อให้เป็นฝรั่ง ผู้ชายเขาก็ไม่อยากคบด้วยต่อนะ
เพราะถ้าผู้หญิงคนนี้ใจง่ายกับเขา เธอก็ไปใจง่ายกับคนอื่นได้เหมือนกัน
คบกันต่อไปจะมีแต่ปัญหา

อีกอย่างคือผู้ชายชอบความท้าทาย
ถ้าคบแปปเดียวแล้วเรายอม ผู้ชายก็คิดว่า...ยัยนี่ทำไมง่ายจัง
ไม่มีความท้าทายในการคบเลย 

แต่ถ้าเราเล่นตัวสักหน่อย ตั้งข้อแม้ว่าจะไม่เสียซิงถ้ายังไม่แต่งงาน
และถ้าผู้ชายรักเราจริง เขาก็จะรออย่างตั้งใจเพราะคิดว่าการได้ความซิงของเรามามันเป็นเรื่องยาก พอถึงวันที่เขาได้มาจริงๆ เขาจะเห็นค่าในสิ่งที่ได้

ที่พิมพ์มานี้ เราไปเอามาจากหนังสือเรื่อง why men love 3itch  (จริงๆเป็นตัวบีแต่พอพิมพ์บีแล้วเว็ปเซ็นเซอร์)
หรือ ผู้หญิงร้าย ผู้ชายรัก เป็นหนังสือที่ไปสำรวจความคิดเห็นผู้หญิงและผู้ชายอเมริกันมาอย่างดี เป็นเบสเซลเลอร์ด้วย ถ้าจขกท.สนใจก็ไปอ่านได้นะ


ปล.เราคิดว่าคนที่จขกท.คุยด้วยยังอายุไม่มาก ไม่น่าเกินยี่สิบ
เลยยังไม่จริงจังกับการหาแม่ของลูก และเห็นการมีแฟนเป็นการมีเซ็กซ์
ถ้าเขาโตขึ้นเขาจะเข้าใจเอง

0
นิดนิด 12 ม.ค. 57 เวลา 13:45 น. 3

เห็นด้วยกับสิ่งที่ คุณคิด เลย เค้าจะหาว่าหัวโบราณก็เรื่องของเค้าดิ เค้าโกรธก็เพราะเค้าอยากได้ในสิ่งที่เค้าต้องการเท่านั้นเองแหละ

0
จขกท. 12 ม.ค. 57 เวลา 17:01 น. 4

จขกท.เองนะคะ...
หนังสือ Why men love b*tches เราก็เคยอ่านนะคะ ฮาดี แล้วเราก็ชอบความหมายของ b*tch ที่ผู้เขียนสื่อ คือเป็นแบบหญิงมั่นที่ไม่ใจง่าย แล้วก็ดูแกร่ง เข้มแข็งดี ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไม่ดีอะไรทำนองนั้น

คนที่เราคุยด้วยยังไม่ยี่สิบค่ะ แต่เราก็อายุน้อยกว่าเค้าอีกนะ -*- เค้าคงคิดว่าการมีอะไรกันสำหรับเค้าแล้วมันไม่ได้สำคัญอะไรนอกไปจากการปลดปล่อยความต้องการทางเพศกับคนที่โอเคด้วยน่ะค่ะ เราก็ไม่ได้ว่าอะไรเค้านะคะ แบบ no comment เลย 55 แต่สำหรับผู้หญิง(ส่วนใหญ่)การที่จะมีอะไรกับใครสักคนมันไม่ใช่แค่นั้นใช่มั้ยล่ะ มันต้องใช้ความรักแล้วก็ความพร้อมด้วย ถึงรักแต่ไม่พร้อมมันก็ไม่ใช่อยู่ดี เนอะ
ผู้หญิงอีกหลายๆคนอาจจะไม่คิดแบบจขกท.ก็ได้ค่ะ หลายคนก็หลายมุมมองเนอะ แต่ที่เราโกรธคือเค้าหาว่าความคิดเรามันแปลก ไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไร นี่มาด่าอีก ฮึ้ย!
โกรธแล้วนะ

0
chuuuuw 12 ม.ค. 57 เวลา 17:03 น. 5

จขกท.ไม่หัวโบราณหรอกค่ะ (: ค่านิยมเรื่องรักนวลสงวนตัวก็เป็นค่านิยมของไทยก็ถูกแล้ว(เราเองก็ถือค่านิยมนี้ค่ะ5555555555) ส่วนผชเขาเป็นคนอเมริกาใช่มั้ยคะ ค่านิยมของทางเขาไม่ซีเรียสกับเรื่องนี้ ในขณะที่ทางเราซีเรียสกับเรื่องนี้มาก แค่ความเห็นไม่ตรงกัน อย่าคิดมากเลยค่ะ :))

0
แหะๆ 12 ม.ค. 57 เวลา 18:42 น. 6

ไม่หัวโบราณหรอกค่ะ เราเองก้คิดแบบนี้นะ ก้ยังมีเพื่อนเราบางคนว่าเราหัวโบราณเหมือนกันค่ะ 555555555555 แค่เราบอกว่า การจูบทั้งที่อายุยังน้อย มันไม่ถูกต้องค่ะ 5555555555

0
Bee_happy 12 ม.ค. 57 เวลา 19:46 น. 7

เราคงยิ่งกว่าหัวโบราณเลย ไม่ต้องสนใจเขา เราเป็นอย่างนี้ตามค่านิยมของเราก็พอ
ส่วนเขายังไม่เข้าใจค่านิยมของเรามันก็เหมือนกับที่เราไม่เข้าใจค่านิยมของเขา
ไม่เป็นอะไรหรอก
ต่างคนต่างความคิด

0
MaLookGukgig 12 ม.ค. 57 เวลา 19:58 น. 8

ธรรมดาค่ะเรากับเค้าไม่เหมือนกันวัฒนธรรมต่างกันบ้านเค้าเปิดกับเรื่องพวกนี้มาก ปาร์ตี้ประจำ อย่าไปคิดมากค่ะเราแค่ต่างวัฒนธรรมกันคุยเรื่องอื่นดีกว่า เยี่ยม

0
Disaster 12 ม.ค. 57 เวลา 20:35 น. 9

เราคิดว่าเป็นเรื่องดีแล้วนะคะ ที่จขกท.พูดแบบนั้น อย่างน้อยถ้าเขาจะคิดว่าเราหัวโบราณ ยังดีกว่า คิดว่าคนไทยง่ายน่ะค่ะ (ส่วนตัว คือคิดว่าเรื่องฟรี เรื่องเปิดเกี่ยวกับ sex ก็ยังเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ในหลายๆประเทศนะคะ)
เราเคยไปเรียนตปท. แล้วสนิท(เป็นพิเศษ)กับเพื่อนผุ้ชายคนนึง
เคยคุยกันเรื่องนี้ด้วย อารมณ์แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมเบาๆ 555555
คล้ายๆกัน คือเราก็บอกเขาว่าผญ.ไทยไม่ควรมีเซกซ์ก่อนแต่งงาน
เขาก็บอกว่าโลกเปลี่ยนไปแล้ว เราก็บอกว่า เราก็เข้าใจ ไม่ได้ต่อต้าน มันเป็นสิทธิของแต่ละคน
ผญ.ไทยบางคนก็ค่อนข้างหัวใหม่ ก็มีอะไรกับใครก็ได้ก็มี
แต่สำหรับเรา เรายังอยากเก็บไว้ให้สามีอยู่ดี
เขาก็บอกว่าเราอ่ะแปลก คนที่ประเทศเขาถูกใจกันในผับ ก็ไปนอนกันแล้ว
เราก้บอกว่า บางคนในไทยก็เป็นแบบนั้น ไม่ได้ปฏิเสธ แต่ก็บอกว่าคนที่เป็นแบบนั้นคือ -es ทำนองนั้น
เขาก็บอกว่า อ๋อ ประเทศเขาก็ -es นั่นแหละ แต่ -es เป็นเรื่องปกติ หาได้ยากแล้วผู้หญิงที่จะเก็บ first sex จนกระทั่งแต่งงาน เราก้งงๆ อ่าวคือ -es แต่ก็ไม่แคร์ว่างั้น? แต่คือฉันแคร์ไง?
แล้วก็ลามมาถึงเรื่องจูบ แบบจูบปาก เขาก็ถามเราว่าเคยจูบใครมั้ย เราก็บอกว่าแบบจูบปากอ่ะไม่เคย
เขาก็เลยบอกว่า งั้นจะเก็บจูบไว้จนแต่งงานเลยมั้ย..
เราก็แบบเอ๋อๆ คือตัวเองก็ไม่ได้หัวโบราณขนาดจะเก็บจูบไว้จนแต่งงานอ่ะ แต่คือแค่รู้สึกยังเด็กไป (เราอายุ 20) ที่จะจูบใครสักคนมากกว่า ก็เลยตอบไปแค่ว่า -จูบ เราไม่ค่อย mind ถ้ารู้สึกว่าพร้อมหรืออะไรบางอย่างอาจจะจูบกับคนรัก แค่รู้สึกยังไม่ถึงวันนั้นเฉยๆ 5555+ แต่เรื่องเซ็กซ์นิ มั่นใจว่าจะเก็บวันแต่งงานแน่ๆ
เขาก็เลยบอกว่า เมื่อไหร่จะพร้อมจูบ กับยิ้มขำๆให้ เราก้เลยเปลี่ยนเรื่องเลย เขาก็ขำๆ แต่ก็ยอมเปลี่ยนเรื่องตามนะ 555555

0
Over Queen 12 ม.ค. 57 เวลา 20:43 น. 11

เธอไม่หัวโบราณหรอก :) เพราะเราก็คิดเหมือนเธอ (เอ๊ะยังไง?)
เราเคยไปแลกเปลี่ยนเมืองนอก ถึงแม้จะไม่นานเป็นปีแต่เราเป็นพวกไหวตามสังคมนิยมในหลายๆเรื่อง แต่เรื่องที่เราถือจะเราเคร่งครัดที่สุดเลยคือ เซ็กส์! , เพศตรงข้าม และภาษาไทย
เรามีแฟนเราก็ไม่ชอบจับมือ เราหวงตัวจนบางทีเราก็คิดว่านี่เรากลัวผู้ชายปะวะ 555+

0
LOOP 12 ม.ค. 57 เวลา 21:07 น. 12

มันเป็นเรื่องปกติสำหรับที่นู้นละมั้ง แต่ที่ไทย เราเป็นผู้หญิงต้องรักนวลสงวงตัว

0
แวะมา 12 ม.ค. 57 เวลา 21:36 น. 13

เราก็คิดแบบนี้เลยเด๊ะๆ อยากเก็บไว้จนกว่าจะแต่ง
แต่เราก้เข้าใจค่านิยมที่นั่นอ่ะ ดูซีรี่ย์บ่อยไง55555
แต่ก็แปลกนะ ปัญหาท้องก่อนแต่งของไทยกลับมีมากกว่าอีก แล้วเขากลับชอบมองว่าผู้หญิงประเทศไทยขายบริการ เราถึงแบบคิดว่ามันไม่แฟร์เลยอ่ะ-_-ทั้งๆที่วัยรุ่นไทยอีกส่วนนี่รักนวลสงวนตัวจะตาย

0
แวะมา 12 ม.ค. 57 เวลา 21:39 น. 14

อยากรู้ว่าเล่มนี้หาซื้อที่ไหนเหรอคะ
แล้วซ์้อเป็นเวอร์ชั่นไทยหรอออังกฤษดีอ่า
เราไปร้านหนังสือมองหาที่ไรไม่เคยเจอเลย้

0
Smile...^^ 12 ม.ค. 57 เวลา 22:42 น. 15

คนเมกามันเรื่องปกติอ่ะ เพื่อนเราตอนไปเรียนที่เมกาคุยกับเพื่อนสาวว่าเสียจิ้นกันตอนไหนพวกชีส่วนใหญ่บอกนะว่าตั้งแต่ 14-15 แล้ว=0=!!!! แต่เมกามันดีตรงที่ทำแล้วมันรู้วิธีป้องกันไงเลยไม่เปนไร ส่วนที่ไทยมันเป็นค่านิยม แล้วแต่คนว่าจะทำตามไหม ใครจะทำอะไรมันก็เป็นสิทธ์ของเขาอ่ะ ช่างมัน แต่เราก็คงหัวโบราณเหมือนเธออ่ะ 555 ปีหน้าจะยี่สิบยังไม่มีแฟนเล้ยยยย 555 คือบอกตามตรงนะเราก็อยากลองอ่ะ (เรื่องธรรมชาติของมนุษย์นิ) แต่ก็นะ ถ้าไม่ใช่คนที่เรารักจริงๆเราก็ไม่ทำหรอก -w- และสุดท้ายนะเรากลัว กลัวป้องกันไม่ได้ กลัวท้อง กลัวนู่นนี่ บลาๆๆเลยทำให้เราคิดว่าไม่จนกว่าจะแต่งงานดีกว่า เพราะถ้าเรามีไปแล้วต้องมาคิดมากว่าตรุจะท้องไหมเนี่ยตลอดเวลามีหวังเราจิตตกกันพอดี = =;;; เราว่าจขกทคิดดีแล้วล่ะ คือถ้าเรายังไม่พร้อมจริงๆจะมีไปทำไม ความสนุกเพียงแค่ชั่วยาว จะทำให้เราเครียดไปตลอดนี่จะทำทำไม เก็บไว้ให้คนที่เรารักจริงๆดีกว่า 



0
จขกท. 13 ม.ค. 57 เวลา 00:35 น. 16

ตอบคห.1-2
Why men love -es เป็นหนังสือของ Sherry Argov ค่ะ แปลภาษาไทยโดยกะละแมร์ เราคิดว่าภาษาก็ไม่ยากเกินไปนะคะ อ่านได้แบบไม่ติดขัดเท่าไหร่ แต่คนแต่งบางทีเค้าเล่นมุกของฝรั่งซึ่งบางทีเราก็ไม่เข้าใจ 55 นอกนั้นเนื้อหาก็สนุกมากกกกก จิกกัด "nice girl"ได้ฮาสุดๆ แถมเราชอบที่เค้าสร้างให้ "-" ในที่นี่ไม่ใช่ผู้หญิงไม่ดีแบบอย่างนั้น แต่ออกจะเป็นผู้หญิงที่มั่นๆ มีเสน่ห์ แล้วก็ไม่เคยต้องไล่ตามจับผู้ชายเพราะนางจะปั่นหัวผู้ชายให้วิ่งเข้าหานางแทน แล้วก็แกร่ง เข้มแข็ง เป็นตัวของตัวเอง ฯลฯ อ่านจบแล้วอาจจะอยากเป็น - ขึ้นมาทันที อารมณ์ประมาณอ่านหนังสือละครที่มีตัวละคร 3 ตัว คือ a man, a - and a nice girl. ซึ่งนางเอกไม่ใช่ nice girl แต่เป็น - ค่ะ 555

เราเคยลองอ่านฉบับแปลของคุณกาละแมร์เค้าก็แปลดีนะคะ คุณ แวะมา ลองไปหาเอาในร้านหนังสือทั่วไปน่าจะมีค่ะ ส่วนเวอร์ชั่นอังกฤษน่าจะมีที่ Asia Books หรือ Kinokuniya นะคะ แต่เนื่องจากฉบับภาษาอังกฤษค่อนข้างแพง เราแนะนำให้ลองอ่าน sample เล็กๆดูก่อน ที่ http://genuineperverts.files.wordpress.com/2012/08/why-do-men-love--es.pdf เป็น pdf นะคะ อ่านแล้วถ้าถูกใจอย่าลืมซื้อของจริงนะคะ เดี๋ยว Sherry Argov จะมาฆ่าจขกท.เอาได้

0
จขกท. 13 ม.ค. 57 เวลา 00:38 น. 17

ขอโทษค่ะ โดน censor ซะงั้น...
ตอบคห.1-2
Why men love bi tches เป็นหนังสือของ Sherry Argov ค่ะ แปลภาษาไทยโดยกะละแมร์ เราคิดว่าภาษาก็ไม่ยากเกินไปนะคะ อ่านได้แบบไม่ติดขัดเท่าไหร่ แต่คนแต่งบางทีเค้าเล่นมุกของฝรั่งซึ่งบางทีเราก็ไม่เข้าใจ 55 นอกนั้นเนื้อหาก็สนุกมากกกกก จิกกัด "nice girl"ได้ฮาสุดๆ แถมเราชอบที่เค้าสร้างให้ "bi tch" ในที่นี่ไม่ใช่ผู้หญิงไม่ดีแบบอย่างนั้น แต่ออกจะเป็นผู้หญิงที่มั่นๆ มีเสน่ห์ แล้วก็ไม่เคยต้องไล่ตามจับผู้ชายเพราะนางจะปั่นหัวผู้ชายให้วิ่งเข้าหานางแทน แล้วก็แกร่ง เข้มแข็ง เป็นตัวของตัวเอง ฯลฯ อ่านจบแล้วอาจจะอยากเป็น bi tch ขึ้นมาทันที อารมณ์ประมาณอ่านหนังสือละครที่มีตัวละคร 3 ตัว คือ a man, a bi tch and a nice girl. ซึ่งนางเอกไม่ใช่ nice girl แต่เป็น bi tch ค่ะ 555

เราเคยลองอ่านฉบับแปลของคุณกาละแมร์เค้าก็แปลดีนะคะ คุณ แวะมา ลองไปหาเอาในร้านหนังสือทั่วไปน่าจะมีค่ะ ส่วนเวอร์ชั่นอังกฤษน่าจะมีที่ Asia Books หรือ Kinokuniya นะคะ แต่เนื่องจากฉบับภาษาอังกฤษค่อนข้างแพง เราแนะนำให้ลองอ่าน sample เล็กๆดูก่อน พิมพ์ชื่อหนังสือแล้วตามด้วย pdf นะคะ จะมีหนังสือจริงให้ลองอ่านอยู่ อ่านแล้วถ้าถูกใจอย่าลืมซื้อของจริงนะคะ เดี๋ยว Sherry Argov จะมาฆ่าจขกท.เอาได้

ยิ้มฟันขาว

0
ก็ไม่รู้สิน้ะ 13 ม.ค. 57 เวลา 00:49 น. 18

น้องไม่ได้หัวโบราณหรอกจ่ะ แค่ค่านิยมในไทยมันไม่เป็นสากล

มันเรื่องธรรมชาติอะ มีแฟนมีอะไรกันมันก็เรื่องปกติ แบบฝรั่งอะ
แต่ประเด็นคือ …​ในชีวิตผู้หญิงคนนึงจะมีแฟนซักกี่คน
ถ้าน้องมีแฟน 3 คน มีอะไรกันหมดทั้ง 3 คน … คนไทยอาจจะมองว่าไม่ดี
แต่ในเมื่อเวลานั้น มันเกิดจากความรักและมันผิดยังไง ถ้ารู้จักป้องกัน
คือถ้าไปเล่นสนุกและไม่ป้องกัน ก็สมควรท้องอะ
คนโบราณเขาเลยมีกุศโลบาย เรื่องต้องแต่งงานก่อน ถึงจะมีอะไรกัน เพราะท้องแล้วก็รับผิดชอบได้
หาตัวพ่อเด็กได้ ถูกกฎหมาย มีคนเลี้ยง เด็กไม่ถูกทิ้งเรี่ยราด ไม่เป็นภาระสังคม

เคยเห็นฝรั่งปาร์ตี้กัน ไม่ได้รู้จักกัน เดินมาขอเต้นรำ พอเต้นเสร็จก็หอมแก้มกัน
มันคือวัฒนธรรมที่ปกติสำหรับบ้านเขาค่ะ - -''

สำหรับเราคำว่าหัวโบราณคือ ในหัวมีแต่ความคิดเก่าๆ และปิดทึบจนไม่รับอะไรใหม่ๆเลย
และมองสิ่งใหม่ๆเป็นสิ่งที่ผิด เพราะถือคติว่าความคิดของตัวเองนั้นถูก
(อันนี้นิยามสำหรับเราเอง)

0
ทะลึ่งตึงตัง 13 ม.ค. 57 เวลา 02:00 น. 19

ระหว่างน้องกะเค้ามันเป็นความแตกต่างทางวัฒนธรมอ่ะ
อย่าไปนอยด์หรืออะไรเลย เค้าไม่ได้จะว่าอะไรหรอก
แต่ฝรั่งเค้าเป็นคนตรงๆกัน ไม่ใช่ว่าไม่รักษาน้ำใจ
พี่ว่าถ้าน้องไม่ไปว่าเค้าที่เค้าบอกให้น้องหยุด เค้าก็ไม่อะไรหรอก
ส่วนเรื่องรักนวลสงวนตัวพี่ก็คิดแบบน้องนะ
แต่โดนเพื่อนว่าหัวโบราณหลายคนเลย
อยู่มหาลัย หลายๆคนไม่ได้คิดแบบนี้แล้ว
ถ้าน้องได้ไปเรียนระดับมหาลัย ก็อย่าไปแอนตี้อะไรละกัน
เพราะถ้าถามว่ามี sex กันในวัยเรียนวัยนักศึกษาผิดมั้ย?
แน่นอนว่ามันไม่ผิดเลย เพราะมันไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน
ถ้ารู้จักป้องกัน รับมือได้ มันก็เป็นแค่กิจกรรมนึงที่คนเราทำกัน
ถ้าจะผิด มันก็ผิดตรงที่ท้องมาแล้วรับผิดชอบกันไม่ได้
เดือดร้อนพ่อแม่ สังคม อะไรแบบนี้มากกว่า
แต่ตอนนี้ free sex ในไทยยังไม่ถึงขนาดฝรั่ง ที่ยอมรับกันได้หมด
เพราะผู้ชายหลายๆคนก็ยังยึดติดกับ virgin ของผู้หญิง
แต่ถามว่าให้ฟรีมันเอามั้ย มันก็เอา แล้วเรียกร้องหญิงเวอร์จิ้นหา.....??? บางทีก็สงสัย
เริ่มเวินเว้อ สรุป ใครคิดว่าอะไรทำแล้วดีก็ทำไปเถอะ
พี่คิดว่าเก็บเวอร์จิ้นไว้แล้วดี พี่ก็ทำแบบนั้น ถึงแม้บางทีจะอยากลองมั่งไรมั่ง
ก็ดูหนังโป๊ศึกษาไปก่อนละกัน 55555555555555

0
คนที่เดินผ่านมา 13 ม.ค. 57 เวลา 03:19 น. 20

ฟังเเล้วเหมือนเเฟนเก่าเราเลย เลิกกันเพราะเรื่องเเบบนี้เเหละ เบื่อผู้ชายต่างชาติก็ตรงนีัเเหละ เเต่อีกอย่างเค้ายังเด็กอยู่ด้วยมั้ง เพราะคนโตๆเราไม่เห็นเค้าคุยเรื่องนี้

ปล อย่าบอกนะคนที่คุยเป็นคนฮอนเเลน 555 เเต่เเฟนเก่าไม่เคยมาไทย

0
ท่านฟีฟี่ 13 ม.ค. 57 เวลา 06:50 น. 21

คุณไม่ได้หัวโบราณหรอกค่ะ ทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว
ฝรั่งเค้าก็อย่างนั้นแหละมั้ง แต่คงเหมือนกับไทย ที่มีบ้างในสังคมแต่ไม่ใช่ทุกคนหรอก

ดีแล้ว ที่รักษาภาพพจน์และค่านิยมที่ดีของไทยเรา เพราะเดี๋ยวนี้ ฝรั่งเค้าคิดว่าคนไทยเป็นอย่างว่าเยอะเลย T^T

0
แค่นี้แหละ 13 ม.ค. 57 เวลา 09:18 น. 22

สิ่งที่คุณคิดว่าดีแล้ว จงทำต่อไปครับ อย่าไปหวั่นไหวกับสิ่งรอบข้าง ยืนหยัดด้วยแนวทางของคุณเอง ไม่จำเป็นต้องตามใครครับ

0
พึมพำพรรณนา 13 ม.ค. 57 เวลา 10:28 น. 23

พี่ก็ชอบค่านิยมคนสมัยก่อนเหมือนกัน พี่เองก็เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนแต่พี่ก็ไม่ชอบเรื่องพวกนี้นะว่าคบกันแล้วต้องมีไรกัน หรือถึงเนื้อถึงตัว ดีแล้วล่ะ

0
blabla 13 ม.ค. 57 เวลา 17:25 น. 26

ไม่หรอก ไม่โบราณเลย




ว่าแต่เราเข้า omgle ไม่ได้สักพักแล้วนะ กระทรวงเค้าปิด ไม จขกทเข้าได้หวา





0
BE.Rapunzel 13 ม.ค. 57 เวลา 19:30 น. 27

ตอนแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมน่ารักอ่ะ เหมือนนิยายเลย5555 เราจิ้นคุณDisasterกับเพื่อนชายคนนั้นค่ะ 55555 #ผิดเรื่องอย่างแรง

0
BE.Rapunzel 13 ม.ค. 57 เวลา 19:43 น. 28

ไม่ใช่แค่ Omegle นะคะ CR หนุ่มฮอนนี่ก็เยอะค่ะ แต่แบบบางคนหน้าตาดีเราให้อภัย#ผิด หลายคนบอกอยากเห็นหน้าเราเพราะวัฒนธรรมเขาเปิดเผย แต่เราดันปิดเผยเพราะเราปลวก ไม่ได้ไม่กล้าค่ะแค่ปลวกเกินปลวก =*= กลัวแบบเปิดกล้องมาเขาnextหนี อะไรแบบนี้ #ไม่เกี่ยวกับกระทู้เล้ยยย 

เอาเป็นว่าเราค่อนข้างคิดเหมือนจขกท.แหละคะ เราเข้าใจว่าวัฒนธรรมเขากับเรามันไม่เหมือนกัน วัฒนธรรมของเขามันเปิดเผย เราเคารพในวัฒนธรรมของเขาค่ะแต่เรายังคงวัฒนธรรมของเราไว้อยู่คือ ปิดเผยเพราะปลวก เอ้ย! คือรักนวนสงวนตัวและเล่นตัวเป็นชีวิตจิตใจ แต่บางคนที่เราคุยด้วยก็เข้าใจเรานะ หน้าตาดีด้วย =q= 5555 แต่บางคนก็ไม่เข้าใจถามอยู่นั่นแหละ ทำไมกลัวคนฮอนนี่ เราไม่ได้กลัวนะแต่เราไม่ชอบอ่ะ มันรุกแบบรุกเกินไป เรารำคาญnextหนีเลย 

สำหรับเราคือจูบอ่ะพอได้ มันดูน่ารักมุ้งมิ้ง แต่ก็อย่าให้มันลามปามมาก ถึงเนื้อถึงตัวเกินก็ไม่ชอบเหมือนกัน(โครตเรื่องมาก) ส่วนเซ็กส์ก็เก็บไว้ให้เนื้อคู่ล่ะกันเนอะ 5555 

0
Klang 13 ม.ค. 57 เวลา 20:28 น. 29

จะบอกว่า จขกท หัวโบราณก็ได้นะครับ 555

คือคนเมกันที่ conservative จ๋าก็มี ไม่ยอมมีอะไรจนกว่าจะแต่งงาน พยายามรักษา virgin ไว้ แค่เป็นส่วนน้อยของสังคม

ในขณะที่คนไทยที่มีอะไรกันตั้งแต่ 14-15 ก็มี แค่พวกเราอาจไม่ค่อยรู้จักเท่าไหร่ (เคยได้ยินปะ ข่าวที่เด็ก ม.ต้นมีอะไรกันแล้วใช้ถุงก๊อบแก๊บง่อยๆ แทนถุงยาง) เพราะหลายคนโตมาในสังคมที่มีความเชื่อคล้ายๆ กันว่าหญิงไทยควรรักนวลสงวนตัว ถ้าแบบใครจะแอบไปมีอะไรกับใครก็คงไม่มีใครพูดตรงๆ ง่ายๆ

มีรุ่นพี่ผมเค้าเคยอยู่คอนแวนต์ แต่เค้าบอกว่าเค้ามีอะไรครั้งแรกตอน ม.4 ในรถ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แล้วแต่คนจะคิด เพราะถ้ามองอีกมุมนึง เซ็กส์คือหนึ่งในชีวิตหลังแต่งงาน

การมีเซ็กส์กันหรือการย้ายมาอยู่ด้วยกันก่อนแต่งงานมันก็ถือเป็นการทดลองดูว่าเราสามารถใช้ชีวิตกับคนคนนี้ได้จริงๆ มั้ย เพราะก็มีหลายเคสที่แต่งงานกันแล้วไปไม่รอดเพราะความเห็นเรื่องเซ็กส์ไม่ตรงกันบ้าง (มีข่าวว่าหนุ่มสาวแต่งงานกันแล้วสุดท้ายฝ่ายหญิงหนีออกจากบ้านเพราะผู้ชายเซ็กส์จัด) หรือว่าอยู่ด้วยกันแล้วไลฟไสตล์ขัดกันบ้างจนสุดท้ายก็หย่ากันไป เสียทั้งเงินจัดงานแต่งงานเสียทั้งประวัติฝ่ายหญิงว่าเคยแต่งงานแล้วหย่า ยิ่งถ้าฝ่ายไหนมีลูกติดมาด้วย จะแต่งอีกทีก็ยากขึ้นไปอีก

สำหรับผมนะ อยากทำอะไรก็ทำไปเถอะ เพียงแค่ว่าเรารู้ตัวว่าเราทำอะไรอยู่ก็พอแล้ว เช่น ถ้าเกิดเราอยากมีเซ็กส์ เราก็ต้องมั่นใจว่าฝ่ายหญิงจะไม่ท้อง หรือถ้าเกิดพลาดทั้งคู่ก็ต้องเลี้ยงดูเด็กได้

ยังไงก็นะ (นอกเรื่องนิด) สำหรับคนที่ไม่อยากจะมีอะไรจนกว่าจะแต่งงาน ผมอยากให้คุณคิดว่าทำไมเราถึงยังไม่อยากมีเซ็กส์ มากกว่าจะมาอ้างว่าเพราะค่านิยมไทยเรามันเป็นอย่างนั้นเลยทำตามอย่างนั้น เพราะถ้าเราตอบทื่อๆ อย่างนั้น ก็ไม่แปลกถ้าคนประเทศอื่นจะงงแล้วว่าคุณเป็นคนหัวโบราณ

0
white_violet 14 ม.ค. 57 เวลา 11:03 น. 30

บอกได้คำเดียวคือวัฒนธรรมของเขากับเรามันต่างกันอ่ะจ้ะ เราพูดบอกในมุมมองของเรา เค้าตอบกลับมาในมุมมองของเขา เค้าอาจไม่ได้มารู้ว่ามีอีกหลายสังคมที่มีค่านิยมให้ผู้หญิงรักนวลสงวนตัวจนกว่าจะแต่งงาน บางสังคมเราว่าค่านิยมนี้เคร่งครัดกว่าของเราอีกนะ ถามว่าทางฝ่ายนั้นมีคนที่เก็บจิ้นไว้ให้คนรักในคืนแต่งงานมั้ย เราว่ามี(แต่น้อยอ่ะนะ) ทางฝ่ายเราล่ะก็มีเหมือนกัน แต่ขึ้นกับสังคมที่เราอยู่ด้วย เพื่อนเราเคยมาเล่าให้ฟังว่าโรงเรียนที่มันเคยอยู่อ่ะ เรื่องเสียจิ้นปกติ จนเพื่อนบางคนท้องต้องลาออกไปเรียน กศน ก็มี (คือแบบของทางนู้นเค้าป้องกันไง แต่ไทยเราไม่ค่อยสอนอ่ะรับวัฒนธรรมมาผิดๆ ) เราเป็นแบบ จขกท นะ ฮะๆ อยากรู้แต่ไม่อยากลองอ่ะจ้า สำหรับคนที่เปิดกว้างเราก็ไม่ได้ว่าอะไร ขอแค่เค้าป้องกันกันก็พอจะได้ไม่ทำให้ตัวเองเดือดร้อนเนอะ ^_^

0
ไอซ์ดราก้อน 14 ม.ค. 57 เวลา 21:47 น. 31

เราเป็นคนที่จะเก็บจิ้นไว้จนวันแต่งงานนะ

แต่เรากดถูกใจความคิดเห็นนี้ เพราะเราก็ไม่ชอบคนที่รักษาจิ้นไว้เพราะประเพณีเหมือนกัน
ประเพณีเป็นแค่ส่วนหนี่ง แต่เราควรตั้งคำถามกับประเพณีต่างๆด้วยว่ามันสมควรอนุรักษ์มั้ย
เพรราะถ้าทุกคนทำตามสิ่งเก่าเพียงเพราะมันมีมานานแล้ว สังคมก็ไม่พัฒนาหรอก
(รวมเประเพณีทุกอย่างนะไม่ใช่รักษาจิ้นอย่างเดียว

ปล.แต่จขกท.เขามีเหตุผลนะนาย
เขาอธิบายในคห.1-4 อะ

0
ฟหกด 14 ม.ค. 57 เวลา 21:56 น. 32

ตามความเป็นจริงแล้วเรื่องเพศของคนอเมริกันไม่ได้เป็นอย่างที่คนไทยเข้าใจกันส่วนมากหรอก
เคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับประเทศนี้แหละ ที่คนภายนอกเห็นในภาพยนตร์คิดว่าคนอเมริกัน
เซ๊กจัด อะไรแบบนี้ ที่จริงแล้วไม่ใช่หรอกมันในหนังนำมาเป็นจุดขายในประเทศเค้า และคนอเมริกัน
ไม่ได้เห็นด้วยกับเรื่องแบบนี้ทั้งประเทศ คนประเทศนี้อพยพมาจากทั่วโลกจึงมีหลายวัฒนธรรมรวมกัน
ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาหรือบางครอบครัวจะทิ้งวัฒนธรรมดั้งเดิมของตนเองไปซะทีเดียวหรอก เรื่องการไม่เสียเวอร์จิ้นก่อนแต่งก็มี ในแถบภาคใต้ของอเมริกาพวกเขาหัวโบราณและเคร่งศาสนากว่าเราเยอะ

ส่วน จขกท.ไม่ต้องกังวลหรอกค่ะว่าเป็นคนหัวโบราณ คนเมกันหัวโบราณก็มีเยอะ คนไทยน่ะคิดไปเอง
ที่จริงประเทศเรากับเค้าก็มีวัยรุ่นท้องตอนเรียนเยอะเหมือนกัน ปัจจุบันวัยรุ่นเมกัน โน เซ๊ก กันแล้ว
ส่วนประเทศเรารับด้านไม่ดีเค้ามา

0
Maylita 16 ม.ค. 57 เวลา 14:10 น. 34

จขกทไม่ได้หัวโบราณหรอก
เราแค่รักนวล สงวนตัวเอง เพราะเราก็มีความเชื่อแบบเทอว่าควรเก็บเวอร์จิ้นไว้ในคืนแต่งงานเท่านั้นจ้า 
เราก็เป็นขนาดเรื่องจูบ กอด แตะเนื้อต้องตัว เรายังคิดมากเลยยยย
ถ้าจขกทหัวโบราณ เราโคตะระโบราณกว่าาาาา



0
รักความเป็นไทย 18 ม.ค. 57 เวลา 23:45 น. 35

ว่าจะอ่านเฉยๆ แต่ก็อดไม่ได้ค่ะ

ใครจะว่าอย่างไร ก็คงไม่เท่าในสิ่งที่เราคิดเองว่า เก็บความเวอร์จิ้นไว้เพื่ออะไร

จะเพื่อตัวเอง หรือ เพื่อสามีในอนาคต หรือเพื่อใคร หรือ อะไรก็ตาม

ในขณะที่สังคมไทยยึดติดกับการรักนวลสงวนตัวเรื่องเพศเป็นเรื่องปกปิด แต่เรากลับมีเด็กที่ท้องโดยไม่พร้อมมากติดอับดับ
แต่สังคมอเมริกันที่ดูเหมือนว่าเขาจะฟรีเซ็กส์ แต่ปัญหาอย่างนี้มีไม่สูงนัก เท่าที่เห็นพ่อแม่อเมริกันก็ไม่ได้บีบบังคับลูกเรื่องการเรียนหนักอย่างบ้านเรา เด็กเขาอิสระ แต่ก็รู้หน้าที่ เด็กม.ปลายนี่เขาดูเป็นผู้ใหญ่แล้ว คิดเองเป็น หาเงินได้เองด้วยซ้ำ ได้เห็น ได้คุยแล้วทึ่ง อาจเพราะวิถีเขาเป็นอย่างนั้น

คาดว่าการเลี้ยงดูแบบไทย บางครั้งทำให้ลูกๆ อยากแหกกฎ เพราะควบคุมไปซะทุกด้าน ก็ขนาดควบคุมยังเป็นอย่างนี้ อันนี้คงขึ้นกับพื้นฐานครอบครัวด้วย

พูดแล้วก็เดี๋ยวจะสรุปไม่ลง เอาเป็นว่าคิดว่าคนสมัยก่อนเขาคิดไว้ดีแล้ว หลายสิ่งควรรักษาไว้ ซึ่งเรื่องนี้ก็เช่นกัน อย่างน้อยก็ควรมีอะไรในตอนที่ต่างคนต่างเป็นผู้ใหญ่หรือทำงานหาเงินได้เองโดยไม่ต้องพึ่งพ่อแม่แล้วนั่นแหละ อย่างน้อยถ้าพลาดมีลูกโดยไม่ตั้งใจ อย่างน้อยก็มีงานมีเงินที่สามารถเลี้ยงเขาได้

โลกและสังคมยุคนี้เปลี่ยนไปมาก อยากให้ความเปลี่ยนคือสิ่งของหรือเทคโนโยี แต่อยากให้คงไว้เรื่องจิตใจ จิตสำนึก หรือความเป็นไทย ที่คนไทยยุคนี้แทบจะจำไม่ได้แล้วว่า ความเป็นไทยคืออะไร

0