ถามเล่นๆถ้าหมอเงินเดือนสตาร์ท 15000 อยากเรียนอยู่ไหม

ค่านิยมของคนไทย เรียนหมอมันดูโก้ไงพี่ มีเกียรติมีศักดิ์ศรีมากกว่าอาชีพอื่นในสายตาคนไทย เพราะสอบเข้ายาก เรียนยาก ต้องเรียนเก่งเท่านั้นที่จะเข้าได้ พ่อแม่สมัยนี้ก็ค่านิยม สนับสนุนลูกให้ไปเรียนหมอ สอบเข้าหมอ เรียนกวดวิชา ต้องเสียเงินไปเท่าไร ก็ยอมเพื่อที่จะให้ลูกได้เป็นหมอ จะได้มีหน้ามีตาในสังคม ลูกฉันเก่งเรียนหมอ ต้องยอมรับจริงๆนะว่าหมอเงินเดือนเยอะกว่าอาชีพต่างๆในสังคมไทย เพราะเสี่ยงต่อชีวิต คนอันนี้ก็รับได้ว่าเงินเดือนเยอะกว่า แต่หมอขาดเนี่ยเห็นด้วยเพราะส่วนใหญ่รักสบาย เข้ามาทำงานในเมืองใหญ่ๆ เพื่อความก้าวหน้าของตนเองทั้งนั้นละ ถามหน่อยเถอะจะมีใครมายอมทนรำบากอยู่ตามชนบทรักษาคนจนๆ ทุกคนก็ต้องการความก้าวหน้าในชีวิตการงาน ความมั่นคงทั้งนั้นละ อย่ามาบอกว่าเรียนเพราะใจรักเลย ถ้าคะแนนสอบเข้าถึง แต่ไม่ชอบ สุดท้ายก็มาเรียนอยู่ดี ใครจะไปเลือกเรียนสาขาที่ตัวเองชอบแล้วตกงาน จริงปะละ จบหมอมามีเกรียรติในสังคม ไม่ต้องวิ่งหางาน จบมาเงินเดือนเยอะกว่าหลายๆอาชีพ ใครบ้างไม่อยากจะเรียน พูดแบบตรงๆนี้ละ หมอก็คนอย่ามาโลกสวยว่าไม่หวังเงินทอง ชื่อเสียง หน้าตาในสังคม

ได้บ่น ได้ระบาย
คงสบายใจแล้วนะ

เชื่อว่ายังมีหมอดีๆในสังคมอยู่นะคะ แต่มีน้อยมากก็แค่นั้นเอง
ลองดูคลิปในลิ้งนี้นะคะ แล้วจะเข้าใจ

https://www.youtube.com/watch?v=mH6OFQC0Z20

ก็ต้อง ให้หมอทำงาน 8 ชม เท่าคนจบปริญญาตรี นะ
ถ้าไม่ได้ก็อย่าพูดดีกว่า หมอเงินเดือนเยอะ เพราะ ต่อวัน ทำมากกว่า อาชีพอื่น 2เท่า เสาร์อาทิตย์ ก็ไม่ได้หยุด พอหารออกมาเป็น ชม ก็ พอๆกันแหละ

ง่ายๆนะครับ หมอมันได้ครบไงครับ
ทั้งในทางได้ช่วยเหลือ(ที่ว่าโลกสวยงามนั่นแหละ) และเรื่องของความมั่นคง และเงิน
อาชีพเดียว ได้ครบขนาดนี้ ใครจะไม่อยากเป็นครับ

จขกท.คิดเรื่องของเงินในแง่ลบเกินไปนะครับ เลิกอคติกับเงินเถอะครับ เงินที่ได้มาสามารถเอาไปใช้ทำสิ่งที่ดีได้นะครับ

ย้ำอีกทีนะครับ "เงินสามารถเอาไปใช้ทำสิ่งที่ดีได้นะครับ"

ปล.จขกท.เรียนหมอจริงๆรึป่าวครับเนี่ย คำตอบก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจ ทำไมต้องถามครับ

ตอนนี้น้องเงินเดือนเท่าไร

การที่เงินเดือนรวมสุทธิหมื่นห้า มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วค่ะ
แต่เงินเดือนจริงๆก็หมื่นห้า เราแค่บวกค่าอยู่เวร ค่าใบประกอบ นู่นนี่นิ เลยได้เยอะ
คืออันนี้หนูว่า หนูไม่เคยคิดว่าเงินเดือนน้อยแล้วอยากหรือไม่อยากเป็นหมอนะ แต่หนูมองว่าค่าตอบแทนกับสิ่งที่เราทำมันก็เหมาะกัน เราไม่ได้เอาเปรียบประชาชนด้วย

สำหรับตัวหนู หนูไม่เคยพูดว่าอยากเป็นแพทย์ เพราะตัวเองไม่ได้อยากเป็น อาจจะจริงที่หนูเรียนแพทย์ตามเพื่อน เพื่อนยุ(พ่อแม่ไม่ได้ยุ)
แล้วยังไง การที่เราเลือกที่จะเรียนแล้ว หนูก็คิดว่าหนูจะทำให้ดีที่สุดนะ ไม่ใช่ว่าอยากเรียนหรือไม่อยาก การที่เลือกเข้ามาแล้ว ถ้าเรายังมีจริยธรรม บวกกับ ความเป็นคนอยู่ หนูมั่นใจนะว่า ต่อให้ไม่อยากเป็นหมอ เรา ก็เป็นหมอที่ดีได้ พี่สาวเองก็เช่นกันค่ะ คิดเหมือนหนู

เรื่องช่วยคนแล้วมีความสุขมันก็จริงอยู่แล้วค่ะ งานดี เงินดี ได้ช่วยเหลือคน คือ หนูว่าอาชีพนี้ก็ครบนะ
คือหมอที่ดีก็มีอยู่เยอะแยะ

อย่าพูดว่า คนไม่อยากเป็นหมอ แล้วจะเป็นหมอที่ดีไม่ได้นะคะ อันนี้หนูว่ามันไม่จริงอะ

เรียนทำห่าไรล่ะ ต้องรวยๆๆไว้ก่อนสิ

เป็นพ่อแม่หมอที่ไม่ได้เป็นหมอ

ตั้งแต่ลูกสอบได้เป็นนักศึกษาแพทย์ ลูกเริ่มดูแลสุขภาพ รวมทั้งอาหารการกินให้พ่อและแม่
ทั้งพูดว่าตั้งใจจะไม่เปิดคลีนิคแน่นอนหลังเรียนจบและจะใช้ทุนให้ครบ 3 ปี ตั้งใจจะเป็นหมอที่ดีสมกับที่ได้ทุนเรียนฟรีตั้งแต่ ม.ปลาย

ในฐานะที่เป็นแม่ฟังแล้วปลื้มใจ เพราะลูกเป็นหมอด้วยความสมัครใจและไม่ได้คิดเรื่องเงินเป็นสำคัญ

"ไม่ได้เงินก็ไม่เรียน ไม่ได้มีอุดมการณ์อย่างใคร" ที่จะทำอะไรไปโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน แต่ก็ใช่ว่าคนที่เรียนจะไม่มีจิตใจอยากจะช่วยคนอื่นเลยซักหน่อย หัดมองในมุงมองของคนอื่นบ้าง...

ถ้าอยากช่วยคนกันจริงทำไมต้องแย่งกันเข้าหมอผิวหนังด้วย
ไหนบอกอยากช่วยคนหมอผิวหนังนี่ช่วยคนตรงไหน มีแต่ช่วยพวกเสพติดความงาม กับโกยเงินได้มากเพราะคนมาหาเยอะ
สุดท้ายไม่ไปอยู่นิติพลก็กระจุกอยู่เมืองกรุงกันหมดเสียดายภาษีจริงๆ น่าจะให้จ่ายตังเรียนกันเองได้แล้วไม่น่าอุดหนุนเลยหมอเนี่ย

เรียน

พอใจยัง?

คนอยากไปเรียนต่อต่างประเทศไม่ใช่คนที่ไม่รักประเทศไทยนะคะ เข้าใจซะใหม่

โลกแคบเกินไปหรือเปล่าครับ ยอมรับนะว่าทุกคนย่อมมีความเห็นแก่ตัวอยู่แล้ว(จะมากหรือน้อยเท่านั้นเอง) ก็ต้องอยากใช้ชีวิตสบายๆ ให้คุ้มกับที่เหนื่อยจากงานทั้งวันบ้าง ส่วนคนที่ไปต่อนอกสายอื่นก็บางส่วนเท่านั้นแหละครับ เรื่องหมอเหยียบหัวคนไข้นี่ อันนี้ผมไม่รู้นะ แต่ส่วนใหญ่ที่เห็นๆคือ หมอโดนฟ้อง เรื่องไม่เป็นเรื่อง ทั้งนั้น หมอดีๆก็เริ่มหดหายไง รักษาหายขอบคุณเทวดา รักษาไม่หายไม่โทษเทวดาด้วยละครับ?

จบมาอย่าให้บริษัทยาจูงจมูกหละลูกๆ
ตามนี้แหละ

มันก็เเค่ข้ออ้างของคนไม่ติดหมอเท่านั้นเเหละ :)

ไม่ได้เงินก็ไม่เรียน ไม่ได้มีอุดมการณ์อย่างใคร"
ตอบ ออกมาจากใจจรืงๆไม่เฟคแบบนี้ ชอบอะ

ขอเถียงครับหมอคนทำงเยอะก็จริง แต่มีอาชีพหนึ่งทำงานเยอะพอๆกับหมอคน ความรู้ก้พอกันๆ แถมยังเสียงอันตรายมากกว่าหมอคนอีกหลายเท่า แต่เงินเดือนน้อยกว่าหมอคนมาก วันหยุดก็ไม่ค่อยมีเพราะจำนวนคนทำงานยังน้อยจนนับคนได้ในประเทศไทย อาชีพนั้นคือสัตวแพทย์สัตว์ป่า บางคนไม่เคยรุ้ว่าเป็นไปเพื่ออะไรจะบอกนะคับ ไม่มีคนป่าอยุ่ได้ แต่ถ้าไม่มีป่าคนอยุ่ไม่ได้ นี้แหละคับคืออาชีพที่ปิดทองหลังพระอย่างแท้จริง บางคนเคยบอกว่าสัตวแพทย์สอบเข้าง่ายกว่าหมอ ก้พอๆกันนั้นแหละคับดูคะแนนกันก้รุ้ล่ะ แถมในต่างประเทศเช่น อเมริกา สอบเข้ายากมากๆ ยากกว่าหมอซะด้วยซ้ำ
ถ้าคุณคิดจะเรียนหมอคน แล้วคุณแต่เรื่อง เกียรติยศ ความดูดีของตัวเอง ความเท่ของเครื่องแบบของบางสถาบัน เงินทอง เอาไว้ข่มผู้อื่น มากกว่าการเสียสละ การจะช่วยชีวิตผู้อื่นด้วยใจจริง อย่าเรียนเลยคับหมอสงสารคนผู้ป่วย

อย่างว่านะครับ คนเราก็นานาจิตตัง คิดแตกต่างแต่ถ้าถามผมนะ ผมจะให้เหตุผลว่า หมอเค้าทำงานหนัก บางที่มีหมอแค่คนเดียวในโรงบาล บางที่หมอคนเดียวรับผิดชอบคนเป็นหมู่บ้าน ต้องแบกภาระ ทั้งควาเหนื่อย ความลำบาก ความเสี่ยงต่างๆ พวกเขาเลือกไม่ได้ ว่าวันนี้จะทำหรือไม่ทำเหมือนอาชีพอื่น อยู่ดีๆก็จะหยุดกลางคันมันไม่ได้ ว่างๆถูกเรียกตัวก็ต้องมา ทำอะไรก็ต้องมีห่วง เงินเดือนที่รัฐบาลให้กับหมอที่ทำงานในโรงบาลรัฐ บางคนเขาก็ตัดสินใจไปทำงานภาคเอกสน ก็เพราะพวกเค้าเทียบแล้วว่าเงินที่ได้มันน้อยไม่คุ้มค่ากับความเหนื่อยงัย ลองคิดดูนะครับว่าถ้าเงินที่รัฐจ่ายมันเพียงพอ มันคุ้มแล้วกับความเหนื่อย โรงบาลเอกชนทั้งหลายมันจะขึ้นเแป็นเกสรดอกไม้หรือ เงินไม่ใช่ทุกสิ่งนะ อย่าตีเหมารวม หมอที่เขาเสียสละมีอยู่เยอะ ที่อยู่ในเมืองก็มีเหตุผลของเขา ที่ทำงานเอกชนก็มีเหตุผลของเค้าเช่นกัน ด้วยความเคารพนะครับ      ก็เหมือนครูอะครับ บางท่านก็ทำงานภาครัฐด้วยสอนพิเศษด้วย อาชีพอื่นๆก็ต้องหาเลี้ยงตัวเองกับครอบครัวกันทั้งนั้น แล้วที่บอกว่าทำไมต้องแย่งกันเรียนแพทย์ทางผิวหนังทางศัลยกรรมตกแต่ง แล้วคุณไม่ลองถามตัวเองหรือว่าทำไมคุณต้องการอยากจะสวยแบบศัลยกรรม ทั้งนี้ผมไม่ได้ว่านะแต่ตั้งคำถาม คือพวกเค้าก็มีหน้าสนองความต้องการของพวกคุณ เรา หรือคนอื่นๆไง แล้วที่บอกว่าที่ไปเรียนต่อต่างประเทศคือพวกไม่รักประเทศไทยนั้น ขอให้ลองกลับไปนั่งคิดใหม่นะ วิทยาการที่เราใช้ที่เราศึกษากันอยู่นี้ ไม่ใช่ว่าเราเอาของต่างชาติเขามาศึกษาหรอกหรือ ตั้งแต่ระดับประถม เรื่อยมาจนปริญญา ส่วนใหญ่ๆก็ของต่างชาติเค้านิ แล้วไม่ต้องพูดถึงหมอเลย Journal ที่หมอเล็กหมอใหญ่ ลงมาถึงนักศึกษาทั้งหลายอ่านกันจนตาหวานนี้ส่วนใหญ่ก็ของต่างชาติกันทั้งนั้น ลองคิดนะครับว่า ขนาดเราเพิ่มสถาบันผลิตแพทย์ ทันตแพทย์ พยาบาล เภสัชกร ไม่ต้องพูดภึงผู้ช่วยทั้งหลาย เมื่อเทียบกับช่วง 10 ปีที่แล้ว มันเยอะมาก มันมีเยอะมาก ถึงมันจะมากเมื่อเทียบกับช่วง 10 ปีก่อนแล้ว ถึงเท่าตัวมันก็ยังไม่พอ คนเราเจ็บมันหยุดไม่ได้ จะตายก็ห้ามไม่ได้  แล้วบอกว่าหมอไม่เคยฟังคนอื่นเลย ให้กลับไปถามตัวเองว่า หมอเป็นแบบนั้นทุกคนหรือไม่ แล้วเจ้สของกระทู้ก็บอกว่าเคยเรียนหมอ เป็นหมอ ลองถามตัวเองสิว่า เป็นแบบที่เล่าหรือไม่ ตรงที่เห็นแก่เงิน มีนิสัยที่ฟังๆที่เล่ามาค่อนข้างจะแย่ไปนิด ผมไม่ได้ว่านะ แต่อยากให้กลับไปมองดูตัวเองก่อน และที่ผมจะฝากให้อีกนิดนะครับ มันมาจากการ์ตูนนะครับ พระเอกบอกสัตว์ประหลาดว่า มนุษย์สมควรที่จะอยู่จนถึงวินาทีสุดท้าย เพราะอะไรหรอนะครับ พระเอกบอกไว้อย่างฟังแล้วเข้าใจเลยว่า  เพราะมนุษย์มีสิ่งที่เรียงว่าความฝันที่เรียกอีกอย่างว่าความหวัง และอีกสั้นๆ ว่าอย่าดูถูกความใฝ่ฝันของคนอื่นเพราะมันไม่ใช่ความใฝ่ฝันของคุณ เพราะทุกๆความใฝ่ฝันมันคือสิ่งที่มีค่ามากที่สุดของคนๆนั้น

เราว่านายหลงประเด็นเขาไม่ได้ว่าคนไปเรียนนอกสักคำเขาตั้งคำถามว่าถ้าตอนเรียนม.ปลายบอกอยากเรียนหมอแต่พอสอบติดหมอแล้วได้ทุนไปเมืองนอกด้วย ทำไมไม่อยากเป็นหมอแล้ว ที่เขาว่าคนที่ไปเรียนนอกก็คือพวกที่ยอมให้ต่างชาติซื้อตัวไปเลยไม่ต้องกลับมาใช้ทุนเมืองไทย

ตอบในฐานะอยู่ในสายอาชีพนี้นะคะ
ติดกสพทปีนี้ค่ะ แต่พ่อแม่ไม่ให้เรียนหมอ เพราะก่อนหน้านี้ติดหมอฟันที่นึง พ่อแม่คิดว่าหมอฟันงานสบายกว่าค่ะ คือไม่ต้องเข้าเวร และการสอบ NL ง่ายกว่า ไม่ต้องกังวลเรื่องการต่อเฉพาะทาง เพราะหมอฟันต่อหรือไม่ต่อก็สามารถทำงานได้ แต่หมอต้องต่อเท่านั้น ซึ่งการต่อเฉพาะทาง คนในรู้ดีค่ะว่า ยากกว่าการเข้าหมอหลายเท่าเลยหล่ะค่ะ

ส่วนตัวเสียใจนะคะที่พ่อแม่ไม่ยอมให้ไปสัมภาษณ์ เราอยู่ตจว. จะไปกทม. แบบโต้งๆเลยคนเดียว คงทำไม่ได้ค่ะ ทางครอบครัวไม่สนับสนุนด้วย
ส่วนเรื่องที่ถามว่า เงินเดือน 15000ยังอยากเป็นมั้ย ตอบเลยว่าอยากเป็น เพราะ ชอบศัลยกรรมค่ะ ไม่ได้อยากช่วยเหลือคนให้รอดชีวิตค่ะ อยากศัลยกรรมให้คนสวยงามค่ะ เพราะเจอคนโดนด่า คนมองที่รูปกายภายนอกมาตั้งแต่เด็ก คนผิวดำก็โดนด่าว่า อิดำ บ้างก็ จมูกบาน ตาตี่ หน้าอัปลักษณ์ ปากหนา หน้าเหลี่ยม หน้าบาน เถิก คือเราคิดว่า ผู้หญิงทุกคนอยากสวย เราก็อยากสวย อยากศัลยกรรมเหมือนกัน ถ้าโตกว่านี้ก็อยากศัล ใครจะว่าว่า เออศัลยกรรม พวกไม่มั่น พวกอะไรก็ว่าไปสิคะ เราทำเพื่อความมั่นใจ อยากสวย และ เราก็อยากทำให้คนอื่นสวยด้วย ใครจะมาว่า สนแต่รุปกายภายนอก แล้วไง? เราไม่ได้ศัลยกรรมจิตใจนะคะ เราก็ยังเป็นคนดีได้ และสวยได้ด้วย ชีวิตนึงมีหนเดียว อยากทำอะไรก็ทำเถอะค่ะ แค่ต้องปลอดภัย และความเสี่ยงน้อยที่สุด ศัลยกรรมมีความเสี่ยงเสมอค่ะ ไม่ว่าจะกับหมอไหน แต่เราก็ต้องศึกษาให้ละเอียด เพื่อการตัดสินใจเนอะ

ไม่ได้โลกสวยนะ เพราะถ้าเงินเดือน15000 +ทุกอย่างแล้วเท่านี้จริงๆ ก็อาจจะทำธุนกิจเพิ่มเงินด้วย เพราะ15000 สำหรับเรา อยู่ค่อนข้างลำบากหน่อย ทางครอบครัวก็มีธุรกิจ ที่ดิน อยู่แล้ว หากินส่วนนั้นก็ไม่อดตายแล้วค่ะ ฉะนั้นเรื่องเงินเดือนสำหรับเรา ถือว่าตัดไปนะ เราเชื่อว่าหมอไม่จำเป็นจะต้องอยากรักษา"ชีวิต" ผู้ป่วยเท่านั้นหรอกค่ะ มันมีหลายความหมายค่ะ ในโดยรวมๆแล้วคือ ทำให้คนที่มารับการรักษา ได้รับความมั่นใจและความสุขกลับไปดีกว่า
ต่อไป ถ้าเราเรียนหมอฟัน เราก็วางแผนอยากเรียนศัลยกรรมในช่องปากนะ แต่อนาคตก็ไม่แน่ เพราะต้องลองไปเรียนจริงๆ อาจจะพบตัวตนใหม่ก็ได้ :)

เราเห็นด้วยนะ
เราคิดว่าอาชีพที่เด็กเก่งๆระดับหัวกะทิทั้งหลายควรมาเรียนคือ "ครู"
เพราะอาชีพครูคืออาชีพที่สร้างคน ถ้ามีครูเก่งๆมาสอนและช่วยพัฒนาให้เด็กเก่งขึ้นๆ ประเทศก็จะยิ่งพัฒนาได้ดียิ่งขึ้น ในต่างประเทศอาชีพครูมีความสำคัญมากนะ เพราะหมายถึงอนาคตของเด็ก ซึ่งก็คืออนาคตของประเทศเลยทีเดียว

ในปัจจุบัน เด็กต้องไปเรียนกวดวิชาเยอะแยะ สถาบันกวดวิชาขึ้นเป็นดอกเห็ด เพราะอะไร เพราะครูที่โรงเรียนสอนไม่ดี แล้วทำไมครูที่โรงเรียนสอนไม่ดีละ บางคนก็กั๊ักวิชาให้เด็กตามไปเรียนที่ดรงเรียนกวดวิชาของตัวเองบ้าง
และอีกอย่าง เราไม่ได้ว่าคนเรียนครูนะ แต่เอาจริงๆ คนที่เลือกเรียนครู(บางคนย้ำว่าบางคนนะไม่ใช่ทุกคน) คือคนที่สอบไม่ติดทั้งแพทย์ ทันตะ เภสัช วิศวะ คือบางทีไม่รู้จะเรียนอะไรแล้ว เลยมาเรียนครู ทำให้คนที่มาเรียนไม่ใช่คนเก่งมากและยิ่งมาเรียนด้วยใจที่ไม่ได้รักที่จะเป็นครู พอจบออกมาไปเป็นครูเต็มตัว ก็สอนแบบขอไปที ให้มันจบๆไป สอนก็ไม่รู้เรื่อง เด็กถามอะไรก็ไม่สามารถตอบได้ เอาแต่สั่งรายงาน ทำให้เด็กบางคนต้องหนีไปเรียนพิเศษที่สถาบันกวดวิชา
หรือครูบางคนที่ไปเปิดโรงเรียนกวดวิชา แล้วกั๊กความรู้เวลาสอนเด็กที่โรงเรียนปกติ เพราะอะไร ก็เพราะเงินเดือนครูมันน้อยไง ครูก็ต้องหาเงินเพิ่มไว้กินไว้ใช้เป็นค่าใช้จ่าย
เราว่านะ อาชีพครูเองก็มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าอาชีพหมอเลย หมอน่ะเกี่ยวข้องกับชีวิตคน ความเป็นความตายของคน แต่อาชีพครูเกี่ยวข้องกับอนาคตของคนและอนาคตของประเทศ อาชีพครูก็เป็นอาชีพที่ได้ช่วยเหลือคนเหมือนกัน ช่วยให้คนที่ไม่รู้กลายเป็นคนที่รู้และกลายเป็นคนที่ฉลาด และนำความรู้นั้นไปพัฒนาต่อไป คนจะเป็นเป็นก็ต้องมีครูเหมือนกัน อาชีพครูก็เป็นอาชีพที่ศักดิ์สิทธิ์ไม่น้อยไปกว่าหมอเลย

ถ้าเรายกย่องอาชีพครูให้มีเกียรติศักดิ์ศรีมากกว่าที่เป็นอยู่นี้
ถ้าเราเพิ่มเงินเดือนครูให้สูงขึ้นกว่านี้ ให้พอๆกับหมอเลยก็ได้
เราว่าเด็กเก่งๆก็อาจจะหันมาเรียนครูกันมากขึ้น หันมาแย่งกันเข้าคณะครุศาสตร์ คะแนนคณะครูศาสตร์สูงลิ่ว ให้กว่าจะเข้าได้ไม่ใช่ง่ายๆ ให้ยากพอๆกับหมอ
เราก็จะมีครูที่เก่งๆมากขึ้น สามารถตอบคำถามเด็กได้ นำความรู้ที่ตนเคยได้รับมาถ่ายทอดให้นักเรียน เด็กจะได้เก่งเหมือนที่ครูเก่ง เมื่อเพิ่มเงินเดือนเยอะขึ้น ครูจะได้ไม่ต้องกั๊ักวิชาเพื่อจะไปเปิดโรงเรียนกวดวิชาให้เด็กตามไปเรียน ให้ครูทุ่มเทกับการสอนที่โรงเรียนให้มากที่สุด ให้เด็กได้ความรู้ในโรงเรียนเต็มที่ เด็กก็ไม่ต้องไปกวดวิชาข้างนอกให้เสียเงินเยอะแยะ

ปล. แค่ความคิดเห็นของคนๆหนึ่ง ถ้าขัดใจใครก็ขออภัยด้วย

"หมอก็คนอย่ามาโลกสวย" ถูกค่ะ
แต่คุณทนอยู่ได้หรอกับสังคมห่วยๆ มันก็ยิ่งห่วยลงทุกวันๆนั่นแหละ ถ้ายังคิดกันแบบนี้ก็หายข้องใจแล้วว่าทำไมประเทศไม่เจริญซักที

ถ้าขนาดกลุ่มคนที่ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นหัวกระทิของประเทศบางคนยังคิดเห็นแก่ตัวอยู่แบบนี้

ลองพิจารณาดู

ปล.เราเป็นหนึ่งในคนที่เลือกเรียนที่ตัวเองชอบโดยไม่สนใจว่าจะตกงานรึเปล่า เราว่าคุณตัดสินแบบนี้ก็ไม่ถูกนะ เพราะการตัดสินใจ เงื่อนไข สภาพแวดล้อมของแต่ละคนมันต่างกัน

หนูไม่เคยสนใจว่าเงินเดือนมันจะเท่าไหร่
เอาจริงๆสุดก้นบึ้งของหัวใจเลยค่ะ ยังไงหนูก็จะเรียน ไม่ได้อยากเรียนไปเพื่อหวังเงิน แต่อยากเรียนไปไว้ช่วยคนจริงๆ พี่กล้าเห็นคนที่เค้ากำลังบาดเจ็บตายลงไปต่อหน้าเลยหรอคะ 

อยู่เมืองกับอยู่ชุมชนมันคนละประเด็นกับการอยากช่วยคนคับ

จำเป็นหรอคับว่าอยากช่วยคนต้องทนลำบาก ในเมื่อสามารถช่วยคนไปด้วยแล้วก็มีชีวิตที่สะดวกไปด้วย

ถ้าคุณเรียนหมอจริงๆ จะรู้ว่าตามคลินิกความงาททั้งหลายมีแต่ GP นะครับเวลาเข้าคัดเลือกหน้าตาด้วย

ส่วนหมอผิวหนัง รักษาคนได้มากมายครับ กลาก เกลื้อน มะเร็งผิวหนัง และโรคแปลกๆอีกมาก เพราะผมก็ยังเรียนไม่ถึงเช่นกัน แต่ทำไมหมอผิวหนังถึงอยู่ตาม รพ ใหญ่ๆ ก้เพราะเครื่องมือมันขาดอ่ะครับ จบมาแล้วไม่มีอุปกรณ์ทำ แล้วจะไปอยู่ทำไมล่ะ สุดท้ายถ้าคนไข้หนักจริงเค้าก้ refer มาอยู่ดีครับ

ไม่รู้สิ อย่าว่าเด็กเตรียม เด็กมหิดลเลยครับ
รุ่นพี่เราชีวะเหรียญทองโอลิมปิก ก็มาอยู่หมอจุฬา หมอรามา ก็มีครับ (และน่าจะมีอีกแต่ผมแค่ไม่รู้จักเท่านั้น) และจะบอกว่า เด็กทุนคิงทุกคนเขากลับมาทำงานในเมืองไทยทั้งหมดนะ และเด็กทุนอนันด้วย อย่าไปเหมาๆเอาว่า เด็กเตรียม เด็กมหิดลที่เก่งๆทำไมถึงไปเรียนวิทยา มันอาจจะเป็นความชอบของเค้าก็ได้นะ คุณรู้ได้อย่างไร


ถ้าหมอเงินเดือน 15,000 จริง คนเรียนคงน้อยลง แต่ก็มีคนเรียนอยู่ดีครับ เพราะเราเชื่อว่าในสังคมยังมีคนที่เลือกตามความชอบมากกว่าเงินทองครับ
อีกอย่างอย่าดูถูกวิทยาศาสตร์ในไทยนครับ เพราะคุณลุงเราจบ food sci มาเริ่มแรกเงินเดือนแค่ 6000(หลายปีแล้ว) ปจบ ลุงอายุ 41 ปี ตำแหน่งผู้บริหารงานโรงงาน เงินเดือน 250,000 ครับ ในขณะที่หมอส่วนใหญ่เงินเดือนคงที่นะ ไม่ค่อยก้าวหน้า จบใหม่อาจจะเงินเดือนมากกว่าเพื่อนคณะอื่น แต่ลองเทียบตอนแก่ดูสิ มากกว่าหมอด้วยซ้ำโดยเฉพาะนักธุระกิจ


อาจารย์หมอท่านนึงกล่าวไว้ว่า "อาชีพหมอไม่ใช่อาชีพที่รวย แค่พออยู่พอกิน ไม่ขัดสนครับ"

สุดท้ายเราเชื่อว่า "คนดี" ในสังคมไทย ยังมากกว่า "คนไม่ดี" และไม่ว่าจะเป็นหมอหรืออาชีพไหนๆ สังคมย่อมมีทั้งคนดี และคนไม่ดีคละๆกันไป ขึ้นอยู่กับดวงแหละครับ ว่าคุณจะเจอคนแบบไหน

คือ-ข้างบนมันคงจะพูดถึงกระทู้ที่ 13 กระมังครับ ก็เค้าเล่นว่าซะ "คนอยากไปเรียนต่อต่างประเทศไม่ใช่คนที่ไม่รักประเทศไทยนะคะ เข้าใจซะใหม่ " ข้างบนเค้าว่าแบบนี้ พี่เค้าคงแก้ในส่วนนี้ด้วยมังครับ

ทำงานไปเรื่อยๆเดี๋ยวเงินเดือนก็อัพเองแหละ
แต่ว่าหมอถ้าสตาร์ทแค่นั้นน้อยไปป้ะ - -

เราเคยไปรักษาเชื้อราอยู่นะ ก็หมอผิวหนังปะ?
คืออยากจะบอกว่า ที่ไปนิติพนอะไรนั่นน่ะ คนที่ไปก็ถูกเพื่อนนินทา แบบคนนี้มันไปทำอย่างนู้นอย่างนี้ สังคมหมอเค้าไม่ได้มองว่าหมอที่ไปทำกับคลินิกเสริมความงามแล้วมันดีนะคะ เค้ามองว่าไม่ดีค่ะ

เป็นค่ะ ขอแค่ให้ได้ช่วยชีวิตคนๆหนึ่ง ก็สุดยอดแล้วล่ะ แค่ได้ทำอาชีพที่ตัวเองรักก็พอ คนที่เค้าทำงานได้เงินเดือนไม่ถึงหมื่นยังอยู่ได้ ทำไมถ้าหมอเงินเดือนเหลือเเค่ 15000 จะอยู่ไม่ได้ล่ะน่อ
 

เว้นวรรค เว้นบรรทัด บ้างสิ ยาวพรืดแบบนี้มีคนอ่านด้วยหรอ

ลองให้ 15000 จริงๆสิครับ ผลก็จะออกมาเอง ที่บอกว่าอยากเป็นกันอยู่โลกสวยใจสลวยสุดๆจะว่ากันยังไง

เงินเป็นปัจจัยนึงที่สำคัญแม้ไม่ใช่ทุกอย่าง แต่เชื่อเถอะว่าถ้าเงินเดือนไม่เยอะแบบนี้ ไม่แห่กันไปหรอกครับ

เห็นด้วย ผมเป็นพ่อแม่ที่ไม่ได้เป็นหมอ พอลูกเรียนหมอ ลูกคอยเตือนผมเรื่องอาหารการกินที่มีผลต่อร่างกาย เราไม่ใช่ครอบครัวที่มีเงิน บางครั้งต้องหายืมเงินคนอื่นส่งลูกเรียน สิ่งที่สำคัญลูกบอกว่า เมื่อลูกจบทำงานแล้ว ลูกจะดูแลเลี้ยงดูพ่อแม่ ไม่ต้องทำงานให้เหนื่อยอีกต่อไป นี่คือสิ่งภูมิใจทั้งๆลูกก็รู้ว่าต้องเจอความลำบาก เหนื่อยยาก งานหนักในอนาคต

ทำไมชอบว่าคุณหมอกันจัง คนดีไม่ดีก็มีคละกันไปอยู่แล้ว ก็มัวแต่คิดลบกันอย่างนี้ คนดีๆถึงได้แทบไม่เหลือไงคะ เพราะว่าทำดีแล้วไม่ได้ดี ได้แต่โดนว่าคิดร้ายอย่างนู่นอย่างนี้ บั่นทอนกำลังใจกันตลอด. ก็ความรู้สึกมันบอกมาอย่างนั้น พูดดีๆก็หาว่าเฟค อย่าเอาตัวของเราไปเปรียบเทียบกับคนอื่นสิคะ มาตัดสินว่าคนอื่นเป็นคนยังไงทั้งที่ไม่รู้จักกันจริงๆ. แต่ละคนทำหน้าที่บทบาทของตัวเองให้ดีที่สุดก็พอ อาชีพหมอก็เป็นงานสุจริต ไม่ได้ไปคดโกงใครซะหน่อย ทุกอาชีพก็ต้องต่างพึ่งพาซึ่งกันและกันอยู่แล้วนี่นา เพราะถ้าคุณเคยเห็นคนที่กำลังตายต่อหน้า แล้วเราช่วยอะไรเขาไม่ได้เลย. มันยากที่จะพูดออกมานะคะ. เป็นกำลังใจให้คุณหมอหรือคนอยากเป็นหมอทุกคนนะคะ อย่าเอาคำคนอื่นมาทำให้ท้อแล้วเปลี่ยนอุดมการณ์ดีๆของตัวเอง เงินที่ได้มาจากการทำงานก็สามารถนำไปช่วยเหลือคนด้อยโอกาสได้เหมือนกันค่ะ ลองนึกถึงเด็กเอธิโอเปียดูสิคะ แล้วจะเห็นว่าทำไมถึงอยากช่วยเหลือคน ขอโทษนะคะไม่ได้ดรามา แต่มันรู้สึกจริงๆ

เห็นด้วยกับกระทู้นะคะ

เอะอะอะไรก็เป็นหมอ.....เบื่อ

เถียงไปก็ไร้ประโยชน์ เปลืองน้ำลายเปล่าๆค่ะ

"หมอ...มันก็ไม่ต่างอะไรจากนักการเมือง"

เงินเดือนหมื่นห้าก็ไม่คุ้มกับการเรียนหนักๆน่ะสิค่ะ กว่าจะเรียนจะจบมาได้ ต้องรับผิดชอบชีวิตคนอีก
ยังไงซะดิฉันก็ยังว่าการเป็นหมอนี่ก็ดีเหมือนกันแหละค่ะ 
ว่าเค้าสะแย่เลย 

ก็-โฆษณา อยากเป็นหมออออ ไงครับ

ข้อสอบเข้าหมอของมหาลัยต่างๆ ก็แม่งยากอยู่คณะเดียว

คนเก่งๆ ก็ไปเรียนหมอกันหมด ไม่ชอบก็ซิ่วออกมาอีก

สำหรับความจริงที่จะเกิด

หมอกำลังจะล้นตลาด หมอก็จะเหมือนอาชีพทั่วๆไป
การผลืตปีล่ะ 1500 คน ดูเหมือนจะดี แต่จะเปิด AEC ปี58
หมอจากพม่าจะมาไทย ที่นั่นผลิตปีล่ะ 3000 คน มาหลายปีแล้ว
มาไทยแน่นอน แพทยสภา หาจุดสกัดไม่ได้ เพราะเป็นข้อตกลง

เมื่อก่อนก็ไม่เคยคิดว่า วิศวกรจะล้น
พอเวลาผ่านไป โอ่แม่เจ้า ล้นยิ่งกว่า ปวช-ปวส
ยื่งเปิด AEC ก็เป็นโอกาสของวิศวกร ไปทำงาน ลาว เขมร พม่า
ไปพัฒนาประเทศเขา เพราะต้องการอีกมาก

กลับเข้ามาเรื่องหมอ แพทยสภาบอกว่าจะออกข้อสอบ ใบประกอบ เป็นภาษาไทย
หมอเมืองนอก ไม่สามารถเข้าใจได้ คิดแบบเด็กๆ
เขาบังคับให้ใช้ภาษาอังกฤษเพราะเป็นภาษาอาเซียน
พม่าเก่งภาษาอังกฤษ ฟิลิปิน เก่งอังกฤษ .. คนไทยซะอีก
หมอไทย ก็ยังภาษาอังกฤษห่วย เทียบกับหมอเพื่อนบ้าน

พูดแบบโลกไม่สวย อีก 6 ปีข้างหน้า น้องๆจบหมอมา
ไม่แน่ว่าจะเผชิญขะตากรรมเหมือน วิศวตอนนี้
มีอย่างเดียวจะสู้เขาได้ ต้องเก่ง และวิ่งไปเฉพาะทาง
รักษาแค่โรคพื้นฐานก็จะมีคู่แข่งเยอะ

ธรรมชาติจะวิ่งสู่สมดุลเสมอ หมอขาด มีไม่นานหรอก

ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ หมอใหม่ทุกคน .....

จะว่าไงก็ตามกระทู้นี้ทำให้เห็นความคิดของคนที่อยากเป็นหมอแบบไม่เฟกที่สุดละเท่าที่เคยเจอมา

เรียนหมอ ถ้าทำงานแล้วได้เงิน 15000 ตอนนี้บอกตรงๆก็คงจะไม่ได้อยากทำหรอกค่ะ สู้ไปเรียนอันอื่นที่ได้ค่าตอบแทนดีกว่าเลยดีกว่า ปกติไม่ใช่คนโลกสวยอยุ่แล้ว คิดแล้วคิดอีกว่าถึงเราเรียนมีเงินแต่คงไม่ได้มีเวลาใช้มันเท่าไหร่ คงไม่ได้มีเวลาให้ครอบครัวมากกว่าใครๆ จะเป็นดีไหม อยากเป็นจริงๆเหรอ ถามตัวเองหลายรอบจนตอนนี้ก็ยังไม่ได้คำตอบชัดเจนอะไร เพราะรู้ดีว่าอาชีพนี้เป็นยังไง แต่ถึงอย่างนั้นในตอนนี้ก้ยังเลือกที่จะเป็น เราคิดมาตลอดอยู่แล้วค่ะว่าคนทุกคนเห็นแก่ตัว ส่วนใหญ่ที่มาเรียนหมอไม่มีคนไหนหรอกค่ะที่ไม่อยากได้เงิน ความมั่นคง และความมีหน้ามีตา ต่อให้บอกว่าตัวเองไม่ได้เป็นแบบนั้น แต่ในใจลึกๆก็คิดอยู่ดี
สำหรับเราถ้าไม่เกิดเหตุการณ์นี้ก็คงไม่เลือกที่จะเป็นแน่นอน มันมีอยู่ครั้งหนึ่งที่เรามีโอกาสได้ช่วยเหลือคนโดยที่ไม่ได้ค่าตอบแทนอะไร เราเห็นเค้าเจ็บเราก็อาสาเข้าไปช่วยด้วยความตั้งใจของเราเอง
จนเดี๋ยวนี้ยังจำความรู้สึกนั้นได้ขึ้นใจ ว่ามันมีความสุขมากแบบที่ไม่เคยเป็น ได้บอกเค้าว่า โอเค ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้วนะ แล้วเค้าก็ขอบคุณเรา จะด้วยใจจริงหรือไม่แต่เรารู้สึกดีใจมาก ถึงในตอนนี้เราจะคิดวนไปวนมาว่าเป็นไปทำไม ต้องการอะไร แต่สิ่งที่เรารู้คือถ้าเราได้ช่วยเหลือใครแบบไม่หวังอะไร ตัวเราเองก็จะมีความสุขไปด้วย

ส่วนเรื่องเงินก็เป็นสิ่งจำเป็นในการใช้ชีวิตอยู่แล้วค่ะ แต่ถ้าเราช่วยเหลือผู้อื่น ได้รับเงินเดือนปกติ อยู่กินแบบที่เราหวังไว้ได้เราก็จะเป็นต่อไป

หมื่นห้าหนูก็ยังจะเรียนนะเพราะหนูอยากช่วยคนจริงๆไม่ได้อยากเป็นหมอเอาโก้ความฝันของหนูคือเป็นหมอเเล้วไปทำงานในชนบทที่ที่หา-ากหนูอยากไปทำงานที่เเบบนั้นเเหละอาชีพหมอของหนูคือคำว่าขอบคุณจากคนที่หนูช่วยก็พอเเล้ว คุณอาจจะคิดว่าหนูพูดเอาโก้พูดให้ดูดีเเต่หนูคิดงั้นจริงๆนะที่หนูพยายามเรียนอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะอยากช่วยคนในชนบทกับคำว่าขอบคุณนี่เเหละ :)

เอ่อเเล้วหนูสงสัยหมื่นห้าไม่พอตรงไหนเหรอคะมันน้อยมากเลยเหรอความเห็นส่วนตัวนะคะเเค่ข้าว 3 มื้อกิน 30 วันถึงหมื่นห้าเลยเหรอคะยังไงมันก็ต้องมีเห็นเก็บไม่ใช่เหรอถึงจะเอาไปเที่ยวเล่นยังไงก็เถอะจะใช้เดือนนึงถึงหมื่นห้าเชียวเหรอคะสงสัย

หมื่นห้าผมก็จะเรียน ผมอยากเป็นหมอฟัน ผมอยากทำงานนี้อะ ผมชอบ ผมสามารถทำได้เรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นคาร์ฟฟัน อุดฟัน ถอนฟัน กรอฟัน บลาๆ ผมอยากทำทั้งหมด ผมมีความคิดเกี่ยวกับเรื่องอาชีพในอนาคตว่า อาชีพที่ผมเลือก ผมจะไม่มีวันพูดตอนตื่นเช้าก่อนไปทำงานว่า "ต้องไปทำงานอีกแล้วหรอ"

สำหรับหนูนะคะ หนูมีความตั้งใจว่าหนูอยากจะเป็นหมอมาตั้งแต่ม.2 ไม่ใช่ว่าเงินเดือน ดี แต่หนูมีความฝันว่าอยาดจะเป็นหมออาสา หนูยอมรับว่าหนูอาจจะดูโลกสวย แต่เป็นความตั้งใจจริงๆของหนู อยากจะให้มองว่าถึงจะมีบางคนที่อาจเห็นแก่ตัวเลือกเรื่องหมอเพราะอยากรวย แต่ก็มีจำนวนไม่น้อยนะคะที่อยากเป็นหมอเพราะจะได่ช่วยเหลือคนอื่น สังเกตได้จากแพทย์อาสาค่ะ หนูชื่นชมพวกพี่ๆหมอและจะยึดถือพวกเขาเป็นไอดอลค่ะ ^^

เดี๋ยวอนาคตเราจะเป็นนักการเมือง แล้วจะส่งเสริมนโยบายเป็นหมอต้องได้หมื่นห้าเท่านั้น มากกว่านั้นไม่ดี เพื่อจะได้มีหมอเทพๆที่ไม่สนเรื่องเงินเป็นหลักกันทั้งประเทศ อย่าลืมออกมาสนับสนุนด้วยนะ

แหม...ดีจังเลยนะครับ พูดอะไรแบบไม่ต้องคิดมากเนี่ย เคยคิดถึงหัวใจของคนที่เค้าตั้งใจจริงๆหรือเปล่าครับ? อาการเหมารวมแบบนี้เนี่ยคงโลกแคบหรือไปเจออะไรที่รับไม่ได้มาจากโลกภายนอกจนปิดหูปิดตาใช่ไหม?=> ถ้าผมเหมารวมคุณแบบนี้จากความคิดเห็นของคุณความคิดเห็นเดียวแบบนี้คุณรู้สึกอย่างไรมั่งครับ?

จขกท.ไปเจออะไรมาล่ะครับนั่นถึงได้ออกมากล่าวหาวิชาชีพตัวเองเสียๆหายๆอย่างนั้น? คงเก็บกดสินะ? ชีวิตคงเศร้าน่าดู ไม่มีใครรัก?

ถ้าผมบอกกับคุณอย่างนี้เพียงเพราะผมอ่านกระทู้นี้ของคุณกระทู้เดียวคุณจะรู้สึกยังไงครับ? คงคิดว่าผมเห็นคุณเพียงส่วนเดียวแล้วมาว่ากล่าวคุณได้ไงใช่ไหมครับ? นั่นแหละ คุณเองก็กำลังเป็นแบบนั้นอยู่เหมือนกัน


โลกของคุณน่ะแคบ มองอะไรแต่ผิวแต่เปลือก คิดว่าตัวเองมองอะไรที่เป็นความจริงแล้ว แต่มันเป็นผิวชั้นที่สอง ชั้นที่สามเท่านั้นเอง ไม่เคยมองลึกไปถึงจริงๆหรอก

ผมเป็นคนหนึ่งล่ะที่จะเรียน แม้จะมีเงินเดือนหมื่นห้า ถามว่าทำไม?

ก็อยากช่วยคน

ไม่ต้องมาบอกว่าผมโลกสวย ไม่เป็นไร ผมรู้ตัว


แต่ถ้าผมไม่คิดที่จะทำให้โลกมันสวยซะก่อนแล้วโลกมันจะสวยขึ้นจริงๆไหม?

เท่าที่อ่านมา อย่างน้อย จขกท.คงจะขึ้นชั้นคลีนิคมาแล้วเป็นอย่างน้อยสินะครับ?

อยากจะรู้จริงๆว่าอีตอนรักษาคนไข้น่ะ ไม่เคยรู้สึกดีมั่งเลยหรือครับที่รักษาให้เขาหายจากโรคน่ะ?



ถ้าไม่เคยเลย...ไม่ว่าคุณจะเรียนอยู่หรือจบไปทำงานแล้วก็เถอะ ผมขอให้คุณหันหลังให้กับวิชาชีพนี้ซะนะ เพราะอยู่ไปก็สงสารคนไข้เปล่าๆ




เงินเดือนของคุณไม่ว่าจะมากมายแค่ไหนก็คงไม่ช่วยเยียวยาจิตใจของคุณเท่าไหร่หรอกนะ

อาจจะไม่พอค่ะ เลี้ยงพ่อแม่ ดาวน์รถ ซื้อบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่านู่นนี่จิปะถะ ของใช้ เครื่องครัว ><

ป่วยมาไม่ต้องหาหมอก็ได้นะคะ หมอเลวทั้งประเทศสินะ
มีขาวย่อมมีดำ เข้าใจว่ามีหมอไม่ดี แต่ไม่ชอบการเหมารวมแบบนี้
คืออาชีพที่คุณทำอยู่มันมีคนดี 100% งั้นสินะคะ
ถ้าอาชีพของคุณมีคนเลวหนึ่งคนจากร้อยแล้วเราบอกว่าอาชีพคุณมันก็ไม่ต่างอะไรกับนักการเมือง คุณก็รับได้ใช่ปะ
เราขอคืนคำนั้นให้คุณเลยละกัน

คำตอบที่ว่า "อยากช่วยคน" ผมว่าบางคนก็พูดจากใจนะครับ ญาติที่เป็นหมอผมอยู่ที่ชนบทครับ ไม่มีเซ

เว่น เค้าเล่าให้ฟังว่า "อยากเป็นหมอตั้งแต่เด็กๆเลย เพราะเคยเห็นคนประสบอุบัติเหตุต่อหน้าต่อตา

หลายครั้งแล้ว แต่ตัวเองทำอะไรไม่ได้เลย เลยรู้สึกเจ็บใจ แล้วอยากเป็นหมอครับ

เค้าบอกว่าเงินไม่ค่อยสำคัญครับ แค่พออยู่พอกินก็พอ ถ้าทุกคนแข็งแรงหมอก็ไม่จำเป็นหรอก

แต่ทุกวันมันตรงกันข้าม คนไม่ดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะที่สะเทือนใจคือ พวกติดเหล้า ติดบุหรี่ มันจะไม่

เข้าโรงบาลได้ไงละ เมาแล้วขับรถชน มะเร็งปอด โรคตับ

ดังนั้นหมอมันจึงมีความจำเป็นกับโลกยุคนี้ไง ที่คิดว่าการละเลยเรื่องสุขภาพเป็นเรื่องปกติ ใครๆก็ทำ ป่วย

ก็ไปหาหมอ ก็เท่านั้น"



ปล ผมรู้ว่าเจตนาของ จขกท คือหวังดีครับ ก็เป็นเรื่องที่น่าคิดเหมือนกัน ค่านิยมเรื่องหมอมันแรงจริงๆ
แต่ผมเชื่อนะ ว่าเด็กหลายๆคนอยากเป็นหมอจริงๆครับ

พี่พูดถูกนะคะ ยอมรับเลยว่า ที่ต้องการจะเรียนไม่ใช่เพราะคำตอบโลกสวย แต่เพราะว่า มันคืออาชีพที่มองเห็นอนาคตได้ตั้งแต่ยังเรียนไม่จบณ ปัจจุบัน ถึงไม่ได้มีจิตวิญญานอุทิศตนเป็นหมอ แต่ด้วยจิตสำนึก ก็บอกได้เลยว่า ก็เป็นหมอที่ดีได้คนนึงค่ะ ไอ่เรื่องเห็นแก่ตัว เหยียบหัวชาวบ้าน คิดว่าเป็นเรื่องแล้วแต่บุคคลค่ะ มันขึ้นกับกมลละสันดารของบางคน ถึงส่วนมากจะเห็นเยอะก็ตามที
-ขอบคุณค่ะ-

ตั้งแต่เล็กจนโต ใครถามว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไรก็บอกว่าอยากเป็นหมอไม่เคยอยากเป็นอย่างอื่นเลย  จริงอยู่ที่เงินเดือนดี แต่เพราะข้อที่สำคัญอยากดูแลพ่อแม่ตอนแกไง  แล้วพ่อแม่ไม่เคยบังคับเลยว่าต้องเรียนอย่างโน้นอย่างนี้น่ะ
แล้วที่คุณบอกว่า 15000 น่ะมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว (ถึงจะสมมติก็ตาม) แค่ค่าเรียนมันก็ไม่คุ้มกันแล้วประเทศเรา สังคมเราไม่ได้รวยกันทุกคนหน่ะ จริงอยู่ที่เค้าอาจจะได้ทุนไป ศึกษากันต่างประเทศ ก็เพราะเค้าใช่มันสมองที่เค้าอุสาเรียนมาจนมันเกิด ผลดีกับตัวเค้าเองมันผิดตรงไหนที่เค้าจะได้รับมัน   เงินน่ะเป็นปัจจัยทุกอย่างของสมันนี้ก็จริงทุกคนเรียนจบมาก็ต้องทำงาน  ต้องการเงินมาเลี้ยงตัวเอง   ครอบครัวกันทั้งนั้น   อยู่ที่จะมีจันญาบันของตัวเองมากแค่ไหนที่จะไม่โลภมากจนเกินไป

เอาน่า ตรงไหนเงินเยอะ ตรงนั้นคนเก่งอยู่ก็ไม่ผิด อุตส่าตั้งใจเรียนทั้งชีวิต เพื่อหาเงินให้ชีวิตสบายก็คุ้มแล้วที่เขาพยายามตั้งใจมา จะไปว่าเพราะเขาประเทศถึงไม่เจริญก็ไม่ถู๊กกกกก

ซึ้งเลยเห็ยแล้วอยากเป็นหมอ แต่ สมองไม่เอื้ออำนวย

ก็ว่าใครไม่ได้นะครับในเรื่องของมุมมอง หลายคนเขาก็คิดไม่เหมือนกันไม่ว่าจะเป็นหมอหรืออะไรก็ตาม อีกทั้งในเรื่องของอุดมคติก็ไม่เหมือนกันมาตั้งแต่ต้น ประสบการณ์เท่านั้นแหละครับจะเป็นคำตอบของแต่ละคน
" ในวันนี้คุณแต่ละคนคิดแบบนี้ แต่ในวันข้างหน้าความคิดของคุณแต่ละคนอาจจะเปลี่ยนไปตามเหตุการณ์ต่างๆในชีวิตก็เป็นไปได้ ขอให้คุณอย่าลืมคำพูดของคุณก็พอ "