Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

10 เทพนิยายโหดร้ายเลือดสาด ที่หลายคนยังไม่รู้จัก

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

สำหรับกระทู้นี้ตั้งขึ้นเพื่อให้ทุกท่านสนใจสามารถคัดลอกไปเผยแพร่ได้ครับ

ขอบคุณคุณ Snowy29 และ blaze และทุกท่านที่ช่วยเหลือครับ

 

                นิทาน (เทพนิยาย) เหล่านี้ ไม่มีทางที่ดิสนีย์จะนำไปสร้างแน่นอน เพราะเนื้อหาเต็มไปด้วยเลือดสาด น่ากลัว และน่าหวาดเสียว และมันได้ทำลายความคิดของทุกคนที่มักคิดว่านิทานเป็นเรื่องของเด็กตลอดกาล และนี่คือ 10 นิทานน่าขนลุกที่พ่อแม่ของคุณหรือแม้แต่คุณเองไม่เคยได้ยิน

อ้างอิงจาก http://listverse.com/2012/12/23/10-greatest-enemies-of-godzilla/



ติดตามผลงายของคนเขียนได้ที่ต่วยตูน เดือนเมษายน

- 10 สัตว์ประหลาดโจมตี
- ตำรวจชั่ว

ออ ลืมบอกไป ที่เห็นอยู่นี้เป็นภาค 2 ครับ และมีภาค3 เร็วๆ นี้ (ภาค 3 จะเน้นเทพนิยายดังจากประเทศต่างๆ เช่น เจ้าหญิงผมยาว บ้านขนมบาดคอหอย อะไรประมาณนั้นแหละ)

แสดงความคิดเห็น

>

78 ความคิดเห็น

cammy 10 เม.ย. 57 เวลา 11:07 น. 1

10 สาวห่าน (The Goose Girl)


                ภาพจาก http://thatsmyskull.blogspot.com/2008/06/goose-girl.html

สาวห่านเป็นเทพนิยายกริมส์ โดยกาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีพระราชินีม่ายองค์หนึ่ง ได้ส่งลูกสาวของเธอไปแต่งงานกับคู่หมั้นที่เป็นเจ้าชายในดินแดนที่ห่างไป โดยราชินีได้มอบ ได้ม้าพูดได้ชื่อ ฟาลาดา” (Falada)  กับสาวใช้มาดูแลเธอตลอดการเดินทาง นอกจากนี้เจ้าหญิงจะได้รับเครื่องรางพิเศษของแม่ที่จะปกป้องเธอตราบเท่าที่เธอสวมมัน

เครื่องรางพิเศษของเจ้าหญิงก็คือผ้าเช็ดหน้าที่พระราชินิเอาเข็มจิ้มที่นิ้วก้อยตัวเองให้เลือดหยดลงบนผ้าเช็ดหน้า 3 หยดเพื่อเป็นเครื่องยืนยันฐานะเจ้าหญิง

เจ้าหญิงได้เดินทางพร้อมกับคนใช้คนของเธอ จนกระทั่งระหว่างทาง เจ้าหญิงเกิดหิวน้ำ จึงได้ขอให้คนรับใช้เอาน้ำมาให้ แต่ไม่รู้เพราะอะไรคนรับใช้ปฏิเสธคำขอ พร้อมบอกว่า “ถ้าคุณต้องการน้ำ ควรทำด้วยตนเอง ฉันไม่ได้เป็นทาสของท่าน” ทำให้เจ้าหญิงต้องไปดื่มน้ำเองที่ลำธารที่อยู่ใกล้ๆ เมื่อเธอโน้นตัวลงไปในน้ำ หากแต่แล้วเธอได้ทำเครื่องรางพิเศษ หล่นลอยไปตามน้ำ สาวใช้เห็นเครื่องยืนยันความเป็นเจ้าหญิงหล่นหายไปแล้วจึงบังคับเปลี่ยนตัว พร้อมบังคับให้เจ้าหญิงสาบานว่าเจ้าหญิงจะต้องปกปิดตัวจริงเพื่อไม่ให้คนอื่นรู้ หากเจ้าหญิงผิดสัญญาจะถูกฆ่าและนำศพไปทิ้งในป่าลึก

พอมาถึงอาณาจักรเนื่องจากเจ้าหญิงไม่มีหลักฐานยืนยันตัวจึงยอมเป็นสาวเลี้ยงห่านในวัง ส่วนสาวใช้กลัวฟาลิดาพูดความจริงจึงสั่งให้ตัดหัวซะเพื่อปิดปาก แต่เจ้าหญิงได้จึงหัวของฟาลิดาแขวนไว้ที่ประตู แล้วทุกคืนเจ้าหญิงจะไปร้องไห้ปรับทุกข์กับหัวฟาลิดาถึงเรื่องราวทั้งหมด ซึ่งหัวของฟาลิดาก็จะพูดปลอบใจทุกครั้ง

อยู่มาวันนึงมีเด็กเลี้ยงม้าไปได้ยินเรื่องที่เจ้าหญิงคุยกับฟาลิดาจึงตามแอบดูขณะที่นางกำลังเลี้ยงห่าน เจ้าหญิงได้ปล่อยหมวกและปล่อยผมสีทองเป็นประกายยาวออกมา เด็กเลี้ยงม้าไม่เคยเห็นเส้นผมสีทองสวยแบบนี้มาก่อนก็นึกอยากได้จึงย่องไปหมายดึงออกมาซักสองสามเส้น แต่เจ้าหญิงเห็นซะก่อนจึงอธิษฐานว่า "สายลมเอ๋ยจงพัดให้หมวกปลิวไปไกล คนที่จับจับต้องเส้นผมฉันได้มีเพียงแต่สามีของฉันเท่านั้น" ทันใดนั้นก็เกิดลมพัดหมวกของเด็กเลี้ยงม้าปลิวออกไป พอเด็กเลี้ยงม้าไล่ตามเก็บกลับมาเจ้าหญิงก็รวบผมเก็บเรียบร้อยแล้ว

วันต่อมาเด็กเลี้ยงม้าได้เล่าเรื่องนี้ให้เจ้าชายฟัง วันต่อมาเจ้าชายก็ตามไปแอบดูก็เห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง คืนนั้นเจ้าชายจึงไปซุ่มอยู่หลังประตูก็พบว่าสาวเลี้ยงห่างก็คือเจ้าหญิงนั้นเอง จึงรับเธอเข้าในวัง ส่วนสาวใช้ถูกลงโทษโดยจับเปลือยกายแล้วยัดลงถังที่ตอกตะปูรอบด้าน แล้วถูกลากแห่ประจายไปรอบมืองด้วยม้า และแล้วเจ้าหญิงก็แต่งงานกับเจ้าชายและอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข

0
cammy 10 เม.ย. 57 เวลา 11:08 น. 2

9.เจ้าเม่นฮันส์ (Hans The Hedgehog)


                ภาพจาก
http://www.theguardian.com/books/2009/oct/16/hans-my-hedgehog

สำหรับนิทานเรื่องนี้ของพี่น้องกริมม์เนื้อหาอาจจะคล้ายๆ เงาะป่า บวกกับเจ้าชายกบนิดๆ หน่อยๆ โดยกาลครั้งหนึ่งมีพ่อค้ามั่งคั่งคนหนึ่งที่มีทุกสิ่งทุกอย่างหากแต่เขาไม่มีลูก จนเป็นเหตุทำให้ชาวบ้านเยาะเย้ย และนั้นทำให้พ่อค้นโกรธมาก เขาเลยตะโกนด่าชาวบ้านว่า ฉันจะมีลูกแม้ว่ามันจะเป็นเม่นก็ตาม

และเมื่อเขากลับมาบ้านก็พบว่าภรรยาของเขากำเนิดบุตรเป็นทารศเพศชายที่เป็นครึ่งบนเป็นเม่น ส่วนครึ่งล่างเป็นคน พวกเขาตั้งชื่อลูกสาวฮันส์

อย่างไรก็ตาม ด้วยความอับอายที่มีลูกเป็นเม่น พ่อแม่ก็ตัดสินใจวางเด็กหลังเตา และทิ้งเด็ก จนเวลาผ่านไปแปดปี ที่น่าแปลกคือเด็กไม่ตาย แถมเด็กยังขอพ่อจัด ปี่และไก่ (ซึ่งต่อมาไก่ตัวให่ยักษ์) เพื่อให้เขาขี่มันเข้าไปในป่า และเป่าปี่เล่นบนต้นไม้ และใช้เวลาส่วนใหญ่ในการเฝ้าดูสุกรและลา

จนกระทั่งวันหนึ่งมีพระราชาองค์หนึ่งได้เกิดหลงป่า และถามทางออกจากป่าจากฮันส์ เมื่อได้ยินฮันส์เลยมีข้อเสนอให้พระราชาสัญญาว่าหากเขาช่วยจะต้องให้รางวัลกับเขาก็จะตอบแทน โดยให้สิ่งแรกที่ฮันส์เห็นเมื่อเขามายังอาณาจักรของพระราชา แน่นอนว่าเม่นได้ตกลงกันโดยทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร และรางวัลที่เขาควรได้คือสิ่งแรกที่เม่นเห็นคือเจ้าหญิงที่แสนงดงาม หากแต่ตอนท้ายพระราชาได้เล่นแง่ว่าฮันส์ไม่รู้หนังสือ  สัญญาที่ทำไว้เป็นโฆษะ เขาเลยสัญญาว่าจะให้เขาแต่งงานกับเจ้าหญิง แต่กลายเป็นว่าเมื่อฮันส์ช่วยพระราชาแล้ว พระราชาได้สั่งทหารไล่คนครึ่งเม่นขี่ไก่ยักษ์ให้กลับป่าและอย่าให้เข้ามาอาณาจักรเข่าอีก

เม่นเจ็บใจที่พระราชาไม่ทำตามสัญญา  ในเวลาต่อมาก็มีพระราชาอีกเมืองหลงเข้ามา และขอให้ฮันส์ช่วยเหลือ คราวนี้พระราชาคนนั้นไม่ได้หลอกลวงฮันส์ และสัญญาแบบพระราชาองค์แรก และรางวัลคือเจ้าหญิง ซึ่งพระราชาคนที่สองให้เจ้าหญิงแก่เม่นตามสัญญา

จากนั้นเม่นก็ได้เดินทางไปยังดินแดนของพระราชาองค์แรกและ บังคับให้เจ้าหญิงลูกสาวพระราชาองค์แรกถอดเสื้อผ้าเธอออกแล้วฮันส์ก็ใช้ขนที่อยู่ด้านหล้งเสียบร่างเจ้าหญิงจนเลือดออกเป็นการแก้แค้น และส่งเธอกลับไปที่ของพ่อของเธอ (เจ้าหญิงไม่ตาย) หลังจากนั้นเขาก็กลับมายังอาณาจักรของพระราชาที่รักษาสัญญาและแต่งงานกับเจ้าหญิง

และในคืนวันแต่งงาน ฮันส์ได้ถอดผิวหนังเม่นออก และเขาสั่งให้ทหารเผาผิวหนัง และเม่นก็ได้กลายเป็นชายหนุ่มรูปงาม ครองรักอย่างมีความสุข

 

1
cammy 10 เม.ย. 57 เวลา 11:09 น. 3

8. สาวไร้มือ (The Girl Without Hands)


          ภาพจาก
http://kaskianiohchan.deviantart.com/art/The-girl-without-hands-181615606

นิทานของพี่น้องตระกูลกริมม์ กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเจ้าของโรงสีคนหนึ่งได้ไปตัดไม้ในป่า ระหว่างทางได้เจอชายชราคนหนึ่ง ชายชราได้มีข้อเสนอว่าจะทำให้เขาเป็นคนร่ำรวยที่สุดในโลก โดนแลกกับสิ่งที่ยืนอยู่ข้างหลังโรงสีของเขา ตอนแรกเขาคิดว่าคงเป็นต้นแอปเปิ้ลเก่าที่อยู่ด้านหลังโรงสี เขาเลยตอบตกลง ชายชราคนนั้นได้บอกว่าเขาจะกลับมาทวงสัญญาในอีกสามปีให้หลัง และเมื่อเขากลับไปถึงบ้านก็พบว่าลูกสาวของเขายืนอยู่ใต้ต้นไม้

                ชายชราคนนั้นเป็นปีศาจ สามปีต่อมามันได้กลับมาทวงสัญญาที่ให้ไว้  หากแต่ลูกสาวของเจ้าของโรงสียังคงบริสุทธิ์ เนื้อตัวของเธอสะอาด ทำให้ปีศาจไม่สามารถพาเธอไปได้ มันจึงสั่งให้เจ้าของโรงสีเก็บน้ำให้ห่างจากตัวเธอไม่ให้เธอล้างตัว พรุ่งนี้เขาจะมารับอีกครั้ง

วันต่อมาปีศาจก็ไม่สามารถรับตัวเธอได้อีกเพราะเธอได้ร้องไห้ น้ำตาได้ถูกมือของเธอจนสะอาดบริสุทธิ์ ปีศาจจึงสั่งให้พ่อของเธอเอาแขนวางพาดกับตอตัดไม้ แล้วใช้ขวานตัดข้อมือสองข้างของหญิงสาวออกเพื่อให้เธอไม่บริสุทธิ์ หากไม่ทำปีศาจจะพาเขาไปแทน แน่นอนว่าทำให้พ่อของเด็กสาวจำใจต้องทำ เขาตัดแขนทั้งสองของลูกสาว  แต่กลายเป็นว่าระหว่างที่เด็กสาวถูกตัดมือเธอได้ร้องไห้ น้ำตาบริสุทธิ์ลงบนต้นแขนของเธอ(มือ) จนมันสะอาด จนปีศาจต้องตัดใจไป

ต่อมาหญิงสาวได้ตัดสินใจออกจากบ้านหลังนี้ หลังจากที่เธอเดินทางก็เกิดหิวขึ้นมา จนมาถึงสวนในพระราชวังของพระราชาองค์หนึ่ง ซึ่งเต็มไปด้วยลูกแพร์ที่น่าอร่อย แต่มีคูเมืองมาขวางกั้น หญิงสาวจึงได้สวดภาวนา ก็มีทูตสวรรค์ปรากฏตัวแล้วระบายน้ำคูเมืองออก จนแห้ง หญิงสาวจึงสามารถเดินข้ามไปกินลูกแพร์ได้

เช้าวันรุ่งขึ้น พระราชาได้ไปที่สวนก็พบว่าผลไม้ในสวนถูกมือดีขโมยไป และคืนวันนั้นพระองค์เลยแอบซ่อนตัวในสวน เพื่อหาหัวขโมย จนได้เห็นหญิงสาวไร้มือสองข้างข้ามคูน้ำไปเก็บผลไม้ในสวนของพระองค์ และนั้นทำให้พระราชาแต่งงานกับเธอคนนั้น และมือสองข้างที่หายไปถูกแทนที่ด้วยมือที่ทำจากเงิน 

แต่เรื่องราวไม่จบง่ายๆ ปีศาจยังโกรธแค้นเรื่องในอดีตอยู่ หญิงสาวเป็นของมัน ไม่ใช่ของพระราชา ต่อมาพระราชาได้ออกไปรบต่างเมือง และฝากราชินีอยู่ภายใต้การดูแลของแม่ของเขา ระหว่างนั้นราชินีได้คลอดบุตรชาย จึงได้เขียนจดหมายบอกข่าวให้พระราชาทราบ หากแต่ระหว่างทางปีศาจได้สับเปลี่ยนเนื้อหาจดหมายว่า "ภรรยาของเขาได้คลอดบุตรที่เกิดมาถูกสับเปลี่ยนโดยปีศาจ" (เป็นความเชื่อพื้นบ้าน ที่ว่าพวกภูตมักสับเปลี่ยนเด็กของพวกเขา กับเด็กของมนุษย์ เพื่อให้มนุษย์เลี้ยงดู)  พระราชาได้ทราบขาวก็นึกเสียใจ แต่ก็ได้เขียนจดหมายเนื้อความว่า "ให้ทหารดูแลพระราชานีและลูกให้ดี แม้ว่าเด็กคนนั้นจะถูกสับเปลี่ยนโดยปีศาจก็ตาม"  แต่ระหว่างทางจดหมายได้ถูกปีศาจอีก และสับเปลี่ยนเนื้อหาสั่งให้ทหารฆ่าพระราชินีและเด็ก แล้วนำลิ้นและตาพระราชินีเป็นหลักฐาน (บางเวอร์ชั่นเป็นหัวใจ)

อย่างไรก็ตาม แม่ของพระราชาและพวกคนรับใช้ไม่สามารถฆ่าพวกเขาได้ จึงบอกให้พวกเขาหนีไป  แล้วฆ่าควักตา และตัดบลิ้นกวางมาแทน ระหว่างนั้นราชินีและลูกก็หนีเข้าไปป่า แล้วทูตสวรรค์ก็ช่วยเธอด้วยการให้เธอพักกระท่อมเล็กๆ ที่ปลอดภัย

เจ็ดปีต่อมาพระราชายังคงตามหาราชินีของตนทุกหนทุกแห่ง ไม่ว่าจะเป็นถ้ำหรือหน้าผาหินก็ไม่พบ เขาไม่กินหรือดืมเอาแต่คนหา จนทูตสวรรค์เห็นใจ ในที่สุดขาพบกระท่อมหลังหนึ่งใกล้ปราสาท และได้พบภรรยาของตนเองและลูกชายของพวกเขา หลังจากปรับความเข้าใจกัน (มีลูกงอนนิดหน่อย) พระราชาก็รับพวกเธอกลับวังและแต่งงานกันอีกครั้ง ทั้งคู่อยู่กินกันอย่างมีความสุขเรื่อยมา

0
cammy 10 เม.ย. 57 เวลา 11:10 น. 4

7. ใบไม้งูสามใบ (The Three Snake Leaves)


                ภาพจาก http://thewoundweleave.wordpress.com/category/fairy-tales/

นิทานของพี่น้องกริมม์ยังมีนิทานที่หลายคนไม่รู้จัก แต่น่าสนใจ กาลครั้งหนึ่งมีพระราชาองค์หนึ่งมีลูกสาวที่สวยงดงามมาก แต่แปลกคือแม้จะมีคู่ครองหลายคนมาจีบ แต่ทุกคนล้วนไม่ได้ตัวเจ้าหญิง เพราะเจ้าหญิงตั้งเงื่อนไขว่า หากได้ฉันเป็นผู้ครอง หากวันใดวันหนึ่งใครตายไป คนที่มีชีวิตอยู่จะต้องถูกฝังทั้งเป็น ในหลุมศพเดียว เพื่ออยู่ด้วยกันตลอดไป

                จนกระทั่งวันหนึ่งมีเด็กชาวนาคนหนึ่งได้ออกจากบ้านและทำงานเป็นทหาร และสามารถสู้รบจนได้รับชนะกลับมาบ้านเกิดได้ พระราชาได้ทราบวีรกรรมความกล้าหาญของเขา จึงตอบแทนด้วยสมบัติล้ำค่าและแต่งตั้งให้เขาเป็นอัศวิน

ต่อมาเขาได้ไปเยือนปราสาทและได้พบเจ้าหญิง เขาตกหลุมรักทันที เขาจึงขอเธอแต่งงาน และยอมรับเงื่อนไขที่เธอตั้งเอาไว้ ทั้งสองกินอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขมานานหลายปี จนเจ้าหญิงป่วยและเสียชีวิต สามีของเธอเสียใจมากและได้ทำสัญญาตามที่ว่าไว้ ด้วยการฝังทั้งเป็นอยู่กับเธอในห้องสุสาน ใต้ถุนโบสถ์

ในขณะที่เขากำลังอดตายอยู่นั้น เขาได้เห็นงูเลื่อยผ่านรอยแยกในผนัง เขาเลยจัดการฆ่ามันเพื่อปกป้องศพของภรรยาของเขา และเขาก็ตัดงูตัวขาดเป็นสามท่อน และทันใดนั้นก็มีงูตัวหนึ่งคาบใบไม้สามใบมาวางบนแผลงู จนงูตัวที่ตายคืนชีพมีชีวิตอีกครั้ง งูทั้งสองหายไป แต่ยังมีใบไม้ตกอยู่บนพื้นดิน เจ้าชายเห็นจึงได้ใช้ไบไม้นี้คืนชีพเจ้าหญิง มันก็ได้ผล ทั้งสองหนีออกจากห้องและขึ้นเรือกลับปราสาท เพื่อไปหาพระราชา

เรื่องควรจบลงแบบแอปปี้ แต่ยังก่อน ยังมีต่ออีก แม้ว่าเจ้าหญิงจะคืนชีพเป็นคนรักของอัศวินอีกครั้ง หากแต่เมื่อวันเวลาผ่านไปความรักของเจ้าหญิงที่มีต่อสามีก็เหือดแห้งลงไปจากเธอจนหมดสิ้น จนวันหนึ่ง ระหว่างที่ทั้งสองเดินทางด้วยเรือล่องทะเลเพื่อมาเยี่ยมพ่อของสามีอยู่นั้น เจ้าหญิงได้ตกหลุมรักกับกัปตันเรือ  ความรักครั้งใหม่ของเจ้าหญิงทำให้ลืมความรักและบุญคุณของสามีจนหมดสิ้น และแล้วเจ้าหญิงได้ขอให้กัปตันเรือร่วมมือฆ่าสามีตนด้วย การจับโยนลงไปในทะเลและจมน้ำตาย แต่คนดีตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้เพราะภายหลังข้ารับใช้ได้ช่วยเหลือชายหนุ่มแล้วใช้ใบไม้สามใบคืนชีพเขา และกลับมาอาณาจักรเพื่อเปิดโปงชายโฉดหญิงชั่ว และพระราชาก็จัดการลงโทษคู่นั้นด้วยการส่งพวกเขาออกทะเลด้วยเรือที่ใต้ท้องเรือถูกเจาะจนพรุน

 

0
cammy 10 เม.ย. 57 เวลา 11:12 น. 5

6.นกฟิทเชอร์ (Fitcher's Bird)


                ภาพจาก
http://lauramaurerfgtd.blogspot.com/2012/11/bluebeard-robber-bridegroom-and.html

เทพนิยายกริมส์มีเทพนิยายเรื่องหนึ่งคล้ายๆ เรื่อง เคราน้ำเงินหรือ ห้องต้องห้ามโดยกาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีพ่อมดคนหนึ่งได้ปลอมตัวเป็นคนขอทาน แล้วไปบ้านหลังหนึ่งที่มีพี่น้องสามสาว เขาสัมผัสกับพี่สาวคนโตของบ้าน แล้วก็ใส่ตัวเธอลงในตะกร้าใบใหญ่ของเขา เขาลักพาเธอไปยังบ้านสีทอง โดยเขาสัญญากับเธอว่า เธอจะได้ทุกอย่างตามที่ต้องการหากเธออยู่ที่นี้และกลายเป็นภรรยาของเขา

                อย่างไรก็ตาม ต่อมาพ่อมดจำต้องออกไปทำธุระข้างนอก เขาได้ให้กุญแจเธอที่สามารถไขทุกห้องในบ้านหลังนี้ได้ แต่กำชับว่า ห้ามว่าเข้าไปในห้องพักของฉันเด็ดขาด ไม่งั้นจ้าอาจถูกลงโทษถึงตายได้   นอกจากนี้เขายังมอบไข่ให้เธอใบหนึ่งและบอกเธอว่า ดูแลไข่ใบนี้ให้ดี ให้มันติดตัวเจ้าตลอดเวลา หากละเลยเจ้าอาจโชคร้าย แต่จะโชคดีหากเธอดูแลมัน

หลังจากที่เขาออกไป ด้วยความอยากรู้อยากเห็นของหญิงสาวเธอก็ได้เข้าไปห้องต้องห้าม ที่นั่นเธอพบอ่างที่เต็มไปด้วยเลือด ซากหญิงสาวที่ตายแล้วถูกหั่นเป็นท่อนๆ และขวานขนาดใหญ่และเขียงที่ใช้หั่นศพวางเด่นในห้อง

ด้วยความตกใจสิ่งที่เห็นตรงหน้า เธอได้ทำไข่ตกลงไปในแอ่งเลือดพอดี หญิงสาวพยายามเอาไข่มาทำสะอาดเท่าไหร่ก็ไม่สะอาด และเมื่อพ่อมดกลับมาเห็นไข่เปื้อนเลือด และนั้นเองทำให้พ่อมดรู้ว่าภรรยาของตนเข้าห้องต้องห้ามแล้ว เขาพยายามที่ฆ่าเธอ ด้วยการสับเธอเป็นท่อนๆ

จากนั้นพ่อมดก็ไปบ้านน้องสาวคนกลาง และพาเธอมาเป็นภรรยาของเขา อย่างไรก็ตามน้องสาวคนกลางก็ตามรอยพี่สาวคนโต ด้วยการเข้าห้องต้องห้ามและทำไข่เปื้อนเลือด แน่นอนพ่อมดรู้เข้า ก็จัดการน้องสาวคนกลางเช่นเดียวกับพี่สาวคนโต

ต่อมาพ่อมดก็ไปบ้านน้องสาวคนเล็ก เพื่อนำไปเป็นภรรยาของเขา อย่างไรก็ตาม น้องสาวคนเล็กคนนี้เป็นฉลาด ไม่ได้เคี้ยวง่ายๆ เหมือนเหล่าพี่สาวของเธอ น้องสาวคนเล็กได้ซ่อนไข่ก่อนที่จะเข้าไปในห้องต้องห้าม และพบชิ้นส่วนของเหล่าพี่สาว จึงนำมาต่อกันจนพี่สาวฟื้นคืนชีพ เมื่อพ่อมดกลับมาก็พบว่าไข่ไม่เปื้อนเลือดเลย พ่อมดจึงบอกว่าเธอผ่านการทดสอบที่เธอจะได้กลายเป็นเจ้าสาวที่แท้จริงของเขา และเธอจะได้ของขวัญงานแต่งงาน ซึ่งน้องสาวคนเล็กได้ขอตะกร้าทองคำ (หรือตะกร้าใส่ทองคำ?) ให้แก่พ่อของเธอ โดยเธอแอบซ่อนสองพี่สาวภายในตะกร้า

ระหว่างที่พ่อมดไปส่งของขวัญงานแต่งงาน  น้องสาวคนเล็กก็วางกะโหลกใกล้หน้าต่างของบ้านเพื่อให้เหมือนว่าเธอเฝ้าดูข้างนอก  จากนั้นเธอก็ทาน้ำผึ้งทั่วตัวแล้วเอาขนนกมาติดตามตัวซ่อนตัวอยู่ต้นไม้จนเหมือนนก เมื่อพ่อมดกลับบ้านพร้อมกับแขกจำนวนมากมาย นกก็ออกมาบอกว่าเจ้าสาวอยู่ในบ้านเพื่อเตรียมงานแต่งงาน เมื่อพ่อมดและแขกมองมาที่หน้าต่างก็ได้เห็นหัวกะโหลกก็คิดว่าหญิงสาวอยู่ในบ้าน จนเมื่อพ่อมดกับแขกเข้าไปในบ้านเพื่อจัดงานแต่งงาน เธอและญาติก็จัดการล็อกประตูจากภายนอกและจุดไฟเผาบ้าน ย่างสดพ่อมดและพวกตายอนาถ

0
cammy 10 เม.ย. 57 เวลา 11:13 น. 6

5. โครงกระดูกร้องเพลง (The Singing Bone)


             กระดูกร้องเพลง เป็นนิทานของพี่น้องกริมม์ โดยกาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีอาณาจักรหนึ่งกำลังประสบปัญหามีหมูป่ายักษ์ตัวหนึ่งทำลายพื้นที่เพาะปลูกของชาวนา และฆ่าสัตว์เลี้ยงและชาวบ้านตาย พระราชาจึงเสนอรางวัลหากใครจับหรือฆ่าหมูป่าได้จะได้ลูกสาวคนเดียวของเขาไปครอง

ที่อาณาจักมีชายหนุ่มสองคนที่เป็นพี่น้องกัน คนพี่เป็นคนแข็งแรง ส่วนคนน้องเป็นคนแคระแต่มีสติปัญญา ทั้งสองได้อาสาวางแผนฆ่าหมู่ป่า โดยสองพี่น้องแยกกันออกตามล่า ซึ่งคนน้องเป็นฝ่ายพบหมูป่าและได้ใช้หอกที่เขาทำขึ้นแทงหมูป่ายักษ์จนตาย แน่นอนว่ารางวัลน่าจะเป็นของคนน้อง หากแต่ระหว่างทาง พี่น้องได้ไปพักโรงเตี๊ยมคนพี่เกิดความโลภอยากได้รางวัลแต่เพียงผู้เดียว จึงรอโอกาสที่คนน้องเมาไวน์ไม่ได้สติ จัดการฆ่าน้องชายและฝังเขาใต้สะพาน ส่วนเขาแบกร่างหมูป่าและแต่งงานกับลูกสาวพระราชาแทน

วันหนึ่งคนเลี้ยงแกะได้เห็นกระดูกสีขาวเหมือนหิมะใต้สะทานสะพาน เขาจึงหยิบมัน แล้วทำเป็นแตร (บางเวอร์ชั่นเป็นขลุ่ย)  เมื่อเด็กเลี้ยงแกะเป่าเครื่องดนตรีนั้น ก็เกิดเรื่องแปลกขึ้นเสียงได้ออกเป็นเพลงที่มีเนื้อเพลงประหลาด บอกเล่าสองพี่น้องฆ่าหมูป่า ไปจนถึงคนพี่ทรยศคนน้อง คนเลี้ยงแกะจึงเอาเครื่องดนตรีประหลาดนี้ไปให้พระราชาได้ฟัง พระองค์จึงสั่งคนจึงขุดกระดูกคนน้องขึ้นมา จนพิสูจน์ว่าเพลงที่โครงกระดูกร้องเป็นจริง แล้วพี่ชายจอมโลภก็ถูกตัดสินประหารฐานหลอกลวงเบื้องสูงโดยการจับยัดกระสอบแล้วเย็บ เอาไปโยนลงทะเล

0
cammy 10 เม.ย. 57 เวลา 11:14 น. 7

4. คุณแม่โฮลล์ (Mother Holle)


               ภาพจาก
http://www.pinterest.com/OnceUponABlog/mother-hulda-frau-holle/

เทพนิยายกริมม์มีนิทานที่เต็มไปด้วยข้อคิดสอนเด็กอีกเรื่อง กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีแม่ม่ายคนหนึ่งมีลูกสาวคนหนึ่ง คนหนึ่งเป็นลูกสาวแท้ๆ แต่มีหน้าตาน่าเกลียดและขี้เกียจ แต่เธอเอาใจลูกคนนี้ทุกอย่าง ส่วนลูกอีกคนเป็นลูกติดแต่เป็นคนหน้าตาดี แน่นอนว่าแม่ม่ายคนนี้เกลียดลูกติดยิ่งกว่าขี้ และบังคับให้ลูกติดนั่งปั่นผ้าจนนิ้วมืดของเธอเต็มไปด้วยเลือดจากบาดแผล

                จนกระทั่งวันหนึ่ง ระหว่างที่เธอปั่นผ้าอยู่นั้น เลือดที่นิ้วของเธอได้หยดลงแกนผ้าขาวจนเปื้อนเลือด  และเมื่อเธอพยามยามนำแกนผ้ามาล้างที่บ่อน้ำ แต่เธอก็ทำมันตกลงไปในบ่อ เธอกลัวถูกลงโทษ จึงตัดสินใจฆ่าตัวตายโดยการกระโดดลงบ่อน้ำนั้น

เมื่อเธอลืมตาตื่นขึ้นมา ก็พบว่าตนเองไม่ได้ตาย  หากแต่มาอยู่บนโลกที่เธอไม่รู้จัก มันเป็นโลกที่มีแต่ทุ่งหญิงสวยงาม เต็มไปด้วยแสงแดด เธอเดินสำรวจในดินแดนแห่งนี้ ระหว่างทางเธอได้ช่วยพวกขนมปังออกจากเตาอบเพื่อไม่ให้ไหม้ และช่วยต้นแอปเปิ้นเขย่าเอาผลออก

ในที่สุดหญิงสาวก็มาถึงบ้านคุณแม่โฮลล์ เธอเป็นหญิงแก่หน้าตาน่าเกลียด เธอได้ขอให้หญิงสาวช่วยทำความสะอาดบ้านของเธอ และหญิงสาวก็ทำงานบ้านโดยไม่ปริปากบ่น  คุณแม่โฮลล์ก็ตอบแทนหญิงสาวด้วยการมอบแกนปั่นผ้าและทองคำจำนวนมากให้เธอ และให้เธอกลับไปยังโลกมนุษย์

                เมื่อแม่ม่ายพบว่าลูกติดมีทองคำกลับมา ก็เกิดความโลภ จึงบอกให้ลูกสาวแท้ๆ ของเธอทำบ้าง โดยให้ลูกสาวขี้เกียจปั้นทผ้ามีนิ้วเปื้อนเลือด และกระโดดดลงไปในบ่อ แน่นอนว่าลูกสาวขี้เกียจไปยังโลกที่ว่า แต่เธอขี้เกียจจะช่วยขนมปัง ไม่ได้ช่วยต้นแอปเปิ้ล อีกทั้งยังขี้เกียจช่วยเหลือคุณแม่โฮลล์ และนั้นเองเมื่อเด็กสาวขี้เกียจกลับโลก คุณแม่โฮลล์ก็มอบแกนปั่นผ้าให้ แต่แทนที่สาวขี้เกียจจะได้ทองคำเหมือนลูกติด เธอกลับได้ยางเหนียวที่เคลือบเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าแทน และมันติดตัวเธอไปตลอดชีวิตของเธอ

                ดูเวอร์ชั่นการ์ตูนได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=YSxrDdsTSzo

0
cammy 10 เม.ย. 57 เวลา 11:14 น. 8

 3 เอ็นชานท์เท็ด ซาเรวิช (The Enchanted Tsarevich)

451912285
            ผมค้นชื่อนี้ดูก็พบว่ามันก็คือนิทาน
โฉมงามกับเจ้าชายอสูร เวอร์ชั่นรัสเซียนั้นเอง กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีพ่อค้านิสัยคนหนึ่ง มีลูกสาวสามคน วันหนึ่งพ่อค้าได้เดินทางเพื่อทำธุรกิจในดินแดนที่ห่างไกล จึงถามลูกสาวว่าอยากได้ของฝากอะไร

                คนโตได้ขอเสื้อใหม่ คนกลางก็ขอเสื้อใหม่เหมือนกัน แต่น้องคนสุดท้องนอภาพวาดของดอกไม้ชนิดหนึ่งมาให้พ่อ และบอกว่าอยากได้ดอกไม้ที่อยู่ในภาพนี้

                เมื่อพ่อค้าทำงานต่างเมือง ก็สามารถหาเสื้อผ้ามาให้ลูกสาวสองคนได้ ยกเว้นแต่ดอกไม้ ซึ่งเขาไม่ได้เลย จนกระทั่งเขาเดินทางมาถึงปราสาทที่ดูรกร้างน่ากลัวแห่งหนึ่ง และพบว่ามีดอกไม้ที่ตรงกับภาพวาดบนกระดาษ เขาจึงหยิบดอกไม้ หากแต่ทันใดนั้นเองก็มีงูประหลาดมีปีกและมีสามหัวปรากฏอยู่ตรงหน้าเขา พ่อค้าได้ร้องขอชีวิต และเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนเขาจะยกลูกสาวคนเล็กเป็นภรรยา

                ลูกสาวคนเล็กทราบเรื่อง สมัครใจที่จะเป็นภรรยาของงู  ตั้งแต่เช้าจนเย็นเธอจะอยู่คนเดียว คืนแรกยังไม่มีอะไร หากแต่เมื่อถึงคืนที่สองงูก็มานอนข้างๆ คืนที่สามงูก็นอนเตียงกับสาวด้วยกัน แล้วงูจะหายไปทุกเช้า และตอนเย็นจะกลับมาอีกครั้ง เป็นแบบนี้เรื่อยมา

                งูนั้นรักผู้หญิงคนนั้นมาก จนกระทั่งวันหนึ่งเธอคิดถึงครอบครัว จึงขอร้องให้งูอนุญาตให้เธอกลับไปหาครอบครัว งูจึงตั้งเงื่อนไขว่าเธอต้องกลับมาในเย็นวันเดียวกัน และเมื่อเธอกลับมาที่บ้าน พี่สาวสองคนได้อิจฉาน้องคนเล็กที่มีชีวิตที่สุขสบายกว่าตาน  พี่สองคนจึงแสดงละครจะแอบถูกหัวหอมเพื่อบีบน้ำตาร้องไห้ไม่ให้เธอกลับไปปราสาท จึงเป็นเหตุทำให้เธอผิดสัญญาเอาไว้กับงู และเมื่อเธอกลับไปที่ปราสาทเธอก็ไม่พบงู เมื่อค้นหาก็พบงูนอนตายอยู่ในบ่อ เพราะมันตรองใจตายที่หญิงที่เขารักผิดสัญญา (หรือไม่ก็ฆ่าตัวตาย) เธอเลยลงไปในบ่อน้ำเพื่อหางู เธอกอดหัวและจีบมัน และแล้วก็เกิดเรื่องอัศจรรย์ขึ้นงูได้กลายเป็นเจ้าชายหนุ่มรูปงาม ทั้งคู่ครองรักตลอดชั่วกาลนาน

0
cammy 10 เม.ย. 57 เวลา 11:15 น. 9

2 สามแพทย์ทหาร (The Three Army Surgeons)


               ภาพจาก
http://milenamurawska.pl/fotografie_en.html

นิทานกริมส์ กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีแพทย์ทหารสามคนได้ออกเดินทางมาถึงโรงแรมกลางป่าที่เงียบสงบ ทั้งสามได้พบเจ้าของโรงแรม แล้วเจ้าของโรงแรมสงสัยเรื่องความสามารถของแพทย์ทหารว่ามีฝีมือขนาดไหน จึงขอให้แพทย์ทหารทั้งสามพิสูจน์ฝีมือ

                แพทย์ทั้งสามรับคำท้า แพทย์ทหารคนแรกจัดการตัดมือของตนเอง เพื่อที่เขาจะต่อมันใหม่ในเช้าวันรุ่งขึ้น,  แพทย์ทหารคนที่สองควักหัวใจของตนเองเพื่อจะใส่มันในเช้าวันรุ่นขึ้น และ แพทย์คนที่สามกระชากดวงตาของเขาเองเพื่อนำมาใส่วันรุ่งขึ้น

                อวัยวะเหล่านี้ถูกนำมาวางบนจาน และมอบให้เจ้าของโรงแรมเก็บรักษาเอาไว้ให้ดีๆ  จนถึงวันรุ่งขึ้น เจ้าของโรงแรมจึงฝากอวัยวะของเขาให้แก่สาวใช้โรงแรมเก็บรักษาให้ปลอดภัยภายในตู้จนถึงเช้า

                หากแต่มันก็เกิดเรื่องขึ้น  เมื่อสาวใช้คนนั้นมีความรักกับคนรักที่เป็นทหาร และเธอก็ลืมปิดตู้ที่มีจานใส่อวัยวะของเจ้าของโรงแรมอยู่ข้างใน พอดีเวลานั้นเองก็มีแมวตัวหนึ่งแอบเข้ามาตู้และกินอวัยวะในนั้นจนหมด  และเมื่อสาวใช้กับแพทย์ทหารรู้สึกตัวมันก็สายไปแล้ว

                ทั้งสองพยายามหาวิธีแก้ปัญหา ในที่สุดสิ่งที่คิดออกก็คือ มือแพทย์คนแรกถูกแทนที่ด้วยมือขโมย หัวใจแพทย์คนที่สองถูกแทนที่ด้วยหัวใจหมู และตาศัลยแพทย์คนที่สามถูกแทนที่ด้วยตาแมวขโมยตัวนั้น

                วันรุ่งขึ้นแพทย์ทหารทั้งสามก็จัดการต่ออวัยวะของตนเองเข้าไปในร่างกายเรียบร้อย แต่สิ่งที่ตามมาคือ แพทย์คนแรกพบว่ามือของเขาพยายามขโมยเงินจากคนแปลกหน้าโดยไม่สามารถควบคุมได้, แพทย์คนที่สองไม่สามารถข่มแรงกระตุ้นที่อยากจะม้วนกลิ้งลงโคลน และแพทย์คนที่สามไม่สามารถนอนหลับกลางคืนได้เพราะหากเห็นหนูวิ่งบนพื้นก็อยากจะจับหนู และนั้นเองทำให้แพทย์ทั้งสามรู้เลยว่าอวัยวะที่ใส่เข้าร่างกายไม่ใช่ของตน

                สามแพทย์ทหารจึงกลับไปในโรงแรม   ขู่ว่าจะเผาโรงแรมหากเจ้าของโรงแรมไม่คืนอวัยวะที่แท้จริงให้พวกเขา แต่อนิจจาสาวใช้ตัวต้นเหตุได้หนีไป ทำให้ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา  เป็นเหตุให้เจ้าของโรงแรมชดใช้ด้วยเงินทั้งหมดที่เขามีให้แก่สามแพทย์ทหาร แม้ว่าพวกเขาต้องการอวัยวะของตนคืนก็ตาม

0
cammy 10 เม.ย. 57 เวลา 11:17 น. 10

1.หนู, นก และไส้กรอก (The Mouse, The Bird, And The Sausage)

 
               ภาพจาก
http://aurianredson.blogspot.com/2011/05/brothers-grimm.html

อันดับ 1 ตกเป็นเทพนิยายกริมม์ที่มีเนื้อหาอันแสนประหลาด ในชื่อหนู, นก และไส้กรอก ซึ่งหลายคนอาจคุ้นเคยไม่มากก็ไม่น้อย กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ยังมีหนูตัวหนึ่ง, นกตัวหนึ่ง และไส้กรอกมีชีวิตอันหนึ่ง ทั้งหมดอาศัยอยู่ด้วยกันในกระท่อมในป่าที่สวยงาม และสมาชิกในบ้านต่างแบ่งงานทำกัน งานของนกคือบินออกออกจากป่าและเอาไม้มาทำฟืน หนูตักน้ำ ก่อไฟ จัดอาหารบนโต๊ะ และดับไฟ ส่วนไส้กรอกทำอาหารด้วยการเอาตัวไปจุ่มลงหม้อซุป ทั้งหมดอยู่อาศัยร่วมกันโดยไม่เดือดร้อนเลยสักนิด

หากแต่วันหนึ่ง ขณะที่นกไปเก็บเศษไม้ในป่า นกได้เจอเพื่อนเก่าที่เป็นนกด้วยกัน คุยไปคุยมา นกได้เปิดปากว่ามันอาศัยอยู่ร่วมกับหนูและไส้กรอก และตนมีหน้าที่เก็บกิ่งไม้ เมื่อเพื่อนนกได้ยินก็หัวเราะเยาะเย้ยนกว่า เอ็งมันโง่ที่ทำงานหนัก ส่วนหนูและไส้กรอกได้งานเบาๆ อยู่แต่ในบ้านไม่ทำอะไรเลย

                เพื่อนนกยังพูดต่ออีกว่า หนูน่ะอย่างมากแค่ดักน้ำ จุดไฟ  แล้วมันก็อยู่แต่ในบ้านเฉยๆ  จนกว่าจนถึงเวลาปูโต๊ะอาหาร จึงออกมาทำหน้าที่ของตนที่ต้องดับไฟ ส่วนไส้กรอกอยู่ริมเตาไฟ จนกว่าอาหารจะเสร็จพร้อม มันอยู่แต่ในบ้าน ไม่ได้ออกนอกบ้านเลย

แน่นอน นกได้ยินมันก็คิดได้ และแล้ววันรุ่งขึ้น นกก็บอกกับเพื่อนว่า มันไม่ต้องการจะเป็นทาสของพวกเขาอีกต่อไป ต่อไปนี้ถึงคราวที่เปลี่ยนงานได้แล้ว ด้วยเหตุนี้ทั้งสามจึงจับฉลากกันว่าใครจะรับหน้าที่ใด ผลก็คือไส้กรอกต้องไปหาฟืน หนูทำหน้าที่ปรุงอาหาร ส่วนนกตักน้ำและจุดไฟ

อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเวลางาน ไส้กรอกที่เข้าไปในป่าเพื่อเก็บรวบรวมไม้ก็ไม่กลับมาเสียที นกจึงต้องปิดออกไปดูก็พบว่าสุนัขตัวหนึ่งกำลังคาบไส้กรอกจะเอามากินเป็นอาหาร นกขอร้องให้สุนัขปล่อยไส้กรอก แต่สุนัขไม่ยอม ซ้ำบอกว่ามันเห็นตัวหนังสือที่ประทับไส้กรอกว่าเป็นของอร่อย ดังนั้นมันจึงต้องกิน

เรื่องเลวร้ายไม่จบเท่านั้น เมื่อนกกลับมาบ้านก็พบว่าหนูที่ปรุงอาหารได้ตายไปแล้ว โดยมันเอาตัวของมันกระโดดลงในหม้อต้มซุปเหมือนที่ไส้กรอกมันทำ แต่หนูไม่ใช่ไส้กรอกมันเลยถูกน้ำลวกขาดใจตายอนาถ  อีกทั้งฟืนยังไปถูกไฟเข้าเลยลุกจนทำให้ไฟไหม้กระท่อม นกได้เห็นไฟ นกจึงรีบไปตักน้ำมาดับ หากแต่ถังในมือมันหลุดไปในบ่อและฉุดตัวมันตามไปด้วย มันเลยจมน้ำตายตามไส้กรอกและหนูไปในที่สุด

 

0
Reshiram ♕ 10 เม.ย. 57 เวลา 11:24 น. 11

สมควรแล้วที่ไม่เอาไปสร้าง แต่ละเรื่องช่าง...

สงสัยอยู่อย่างแฮะ งูกับคนมันมีเพศสัมพันธ์กันด้วยวิธีไหนละนั่น
อย่าบอกนะว่างูเลื้อยเข้าไปใน......



ป.ล. ในเรื่องที่ 3 ตรงท่อน 'เธอกอดหัวและจีบมัน'
ใช่ 'จับมัน' หรือเปล่าคุณแคมมี่ =w=
0
blaze 10 เม.ย. 57 เวลา 11:52 น. 13

ผมถึงได้บอกให้ท่านแคมมี่แก้ประโยคนี้ให้ชัดเจนไง == //ความจริงแล้วงูกับเจ้าหญิงไม่ได้ทำอะไรกันครับ แค่นอนห้องเดียวกันเฉยๆ แถมฉบับอังกฤษยังมีรายละเอียดถึงการนอนในสามคืนอีกด้วย คือคืนแรกมันนอนนอกห้องด้วยซ้ำไป แต่ที่ตัดไปก็เพื่อย่อเนื้อเรื่องไม่ให้ยาวเกินไปครับ

0
blaze 10 เม.ย. 57 เวลา 11:55 น. 14

เดี่ยวก่อนนะ...(เพิ่งไปอ่านในกระทู้) //ฉากมีอะไรกันมันมาจากไหนครับ ==

0
น้องหญิงมันเผา [เซเลอร์แบ๊วเบอร์รี่] 10 เม.ย. 57 เวลา 12:00 น. 16

ตอนเด็ก ๆ เคยดูโฉมงามกับอสูรเวอร์ชั่นนี้นะคะ แต่ถูกดัดแปลงไป โดยรวมเนื้อหาแนว ๆ นี้

0
PetShall 10 เม.ย. 57 เวลา 12:10 น. 17

เคยเจอแบบที่เขาเอามาดัดแปลงด้วยบางเรื่อง (โครงกระดูดร้อเพลง) ให้ออกแนวน่ารัก (คืออ้างอิงถึง) จำไม่ได้ว่ากล่าวว่ายังไงบ้าง

หลายเรื่องในนี้ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย เฮอๆ ว่าแล้วก็จดลงเมมโมรี่ไว้ มีเรื่องมากมายที่เาไม่เคยรู้เลยนะเนี่ย ชอบอ้ะ(โชกเลือด)

0