Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ถ้าให้เลือกได้ระหว่าง แอดมิชชั่น กับ เอ็นทรานซ์ คุณจะเลือกอะไร

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ตามหัวข้อเลยครับ

ถ้าให้เลือกได้ระหว่าง แอดมิชชั่น กับ เอ็นทรานซ์ คุณจะเลือกอะไร
(จำนวนคนโหวต 65 คน)
แอดมิชชั่น
16 โหวต
เอ็นทรานซ์
49 โหวต

แสดงความคิดเห็น

>

18 ความคิดเห็น

ผ่านมา 10 เม.ย. 57 เวลา 20:18 น. 1

ไม่มี log in ขอโหวต Ent แบสอบ 2 ครั้ง รู้คะแนนก่อนเลือกคณะ
และคะแนนเก็บแยกวิชาไวไ้ได้ 2 ปี ยุคนั้นคือยุคที่ดีที่สุดแล้วหละ

https://www.youtube.com/watch?v=wlI8O9gffNo เครดิต อ.อรรณพ

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

AuttazA 10 เม.ย. 57 เวลา 20:35 น. 3

เราเลือกเอนอะ เพราะการให้เกรดแต่ละโรงเรียนมันไม่ได้อยู่ในมาตรฐานเดียวกัน

แล้วใช้ % จากเกรดเยอะขนาดนั้นมันโคตรจะไม่ยุติธรรมเลย

0
nuk2455 11 เม.ย. 57 เวลา 01:36 น. 6

เลือกไม่ถูกครับ เพราะไม่เคยมีประสบการณ์เอ็นทรานซ์ เลยไม่รู้มันโหดขนาดไหน

0
ผ่านมา 11 เม.ย. 57 เวลา 04:29 น. 7

อันนั้นคือ Ent ระบบเก่าสุดๆครับ ยกเลิกไปตั้งแต่ประมาณปี 2542
หลังจากนั้นมา ENT จะรู้คะแนนก่อนเลือกคณะ สอบได้ 2 ครั้งต่อปี
สอบแยกวิชาหมดและเลือกคะแนนที่ดีที่สุดในแต่ละวิชามารวมกัน
รวมถึงคะแนนเก็บไว้ได้ 2 ปี ยุคนั้นหากใครเกือบจะได้ติดหมอ
จะไม่ลังเลที่จะซิ่วเลย เช่นคะแนนดีหมดยกเว้น เลข เค้าก็เก็บคะแนนวิชาอื่นไวไ้ได้
แล้วซิ่วระหว่างรอ ENT ใหม่ก็เตรียมตัวสอบแต่เลขทั้งปี เพราะคะแนนวิชาอื่นดีอยุ่แล้ว
แล้วพอสุดท้ายก็เอาคะแนนเลขครั้งใหม่ไปรวมกะคะแนนวิชาอื่นปีก่อน
แล้วยื่นคณะแพทย์ อะไรแบบนี้น่ะครับ ดีกว่าแบบปจ.นี้มากใช่มั้ยล่ะครับ

ปจ.สอบ PAT ก็ต้องสอบรวมทุกวิชา สอบทีก็ต้องพร้อมทุกวิชาทั้งฟิสิกส์เคมี ชีวะ
ในขณะที่แต่ก่อน สอบครั้งแรกอาจเก็นเคมีกะฟิสิกส์ไปก่อนเลยช่วงตุลา
แล้วมีนามาเก็บชีวะแค่ตัวเดียวแบบนี้ก็ได้ ทิ้งฟิสิกส์กะเคมีไปเลยก็ได้ถ้าคะแนนดีแล้ว
และในการสอบตอนตุลาก็ไม่มาดึงคะแนนรวมแบบ PAT เพราะถ้าพร้อมแค่เคมี
ก็เก็บแค่มีได้เลยเต็มไปก่อนเลย อีก 2 วิชา 0 ก็ไม่เป็นไป

เด็กยุคใหม่มักโดนหลอกให้กลัวระบบ ENT ทั้งๆที่มันดีกว่านี้มากๆ ไม่เครียดเลย
ENT ยุคเก่าโน้นเลิกไปตั้งแต่ช่วงปี 42 ละหละครับ .....

อยากรู้ว่า ENT ช่วงนั้นดียังไง หาโอกาสคุยกับอาจารย์ที่จบมาช่วงนั้นดู
อย่างหมอพิชญ์(เจ๊บีม)ก็เคยพูดว่าระบบนั้นแหละเวิร์คสุดแล้ว สอบไม่เยอะไป
ไม่น้อยไป แล้วก็ไม่เครียดด้วย ข้อสอบก็ดี ลองหาโอกาสไปคุยกะเจ๊ดูก็ได้นะ

0
เพิ่มเติม 11 เม.ย. 57 เวลา 04:30 น. 8

คนชอบเข้าใจระบบ ENT ผิด เข้าใจว่า ENT ไม่รุ้คะแนนก่อนเลือกคณะซึ่งไม่จริงเลย
อันนั้นมันคือ Ent ระบบเก่าสุดๆครับ ยกเลิกไปตั้งแต่ประมาณปี 2542
หลังจากนั้นมา ENT จะรู้คะแนนก่อนเลือกคณะ สอบได้ 2 ครั้งต่อปี
สอบแยกวิชาหมดและเลือกคะแนนที่ดีที่สุดในแต่ละวิชามารวมกัน
รวมถึงคะแนนเก็บไว้ได้ 2 ปี ยุคนั้นหากใครเกือบจะได้ติดหมอ
จะไม่ลังเลที่จะซิ่วเลย เช่นคะแนนดีหมดยกเว้น เลข เค้าก็เก็บคะแนนวิชาอื่นไวไ้ได้
แล้วซิ่วระหว่างรอ ENT ใหม่ก็เตรียมตัวสอบแต่เลขทั้งปี เพราะคะแนนวิชาอื่นดีอยุ่แล้ว
แล้วพอสุดท้ายก็เอาคะแนนเลขครั้งใหม่ไปรวมกะคะแนนวิชาอื่นปีก่อน
แล้วยื่นคณะแพทย์ อะไรแบบนี้น่ะครับ ดีกว่าแบบปจ.นี้มากใช่มั้ยล่ะครับ

ปจ.สอบ PAT ก็ต้องสอบรวมทุกวิชา สอบทีก็ต้องพร้อมทุกวิชาทั้งฟิสิกส์เคมี ชีวะ
ในขณะที่แต่ก่อน สอบครั้งแรกอาจเก็นเคมีกะฟิสิกส์ไปก่อนเลยช่วงตุลา
แล้วมีนามาเก็บชีวะแค่ตัวเดียวแบบนี้ก็ได้ ทิ้งฟิสิกส์กะเคมีไปเลยก็ได้ถ้าคะแนนดีแล้ว
และในการสอบตอนตุลาก็ไม่มาดึงคะแนนรวมแบบ PAT เพราะถ้าพร้อมแค่เคมี
ก็เก็บแค่มีได้เลยเต็มไปก่อนเลย อีก 2 วิชา 0 ก็ไม่เป็นไป

เด็กยุคใหม่มักโดนหลอกให้กลัวระบบ ENT ทั้งๆที่มันดีกว่านี้มากๆ ไม่เครียดเลย
ENT ยุคเก่าโน้นเลิกไปตั้งแต่ช่วงปี 42 ละหละครับ .....

อยากรู้ว่า ENT ช่วงนั้นดียังไง หาโอกาสคุยกับอาจารย์ที่จบมาช่วงนั้นดู
อย่างหมอพิชญ์(เจ๊บีม)ก็เคยพูดว่าระบบนั้นแหละเวิร์คสุดแล้ว สอบไม่เยอะไป
ไม่น้อยไป แล้วก็ไม่เครียดด้วย ข้อสอบก็ดี ลองหาโอกาสไปคุยกะเจ๊ดูก็ได้นะ

0
jirayuhansa2 11 เม.ย. 57 เวลา 10:56 น. 12

มันเป็นยังไงอ่ะครับ แล้วโอเน็ตรุ่น ผ้าปูโต๊ะ นี่แอดรุ่นแรกเลยหรือเปล่าครับ

0
Paramical 11 เม.ย. 57 เวลา 13:48 น. 14

ent. เถอะครับ ไม่อยากให้คะแนนโอเนตติดตัวไปตลอด ent. วัดความสามารถล้วนๆ ครับ ทุกคนเท่าเทียมกันหมด

0
กรุณากรอกชื่อ 11 เม.ย. 57 เวลา 16:40 น. 15

คือ... PAT อ่ะ ความถนัดทางวิชาชีพ
ข้อสอบแนว วิชาชีพ น้อยมากที่จะได้สอนในห้องเรียน (จริงไหม?)
ยังไงคนส่วนใหญ่ก็จะต้องไป หาซื้อหนังสือ หรือไปกวดวิชากันซะมากกว่า (จริงไหมล่ะ) หรือตอนสอบจะให้เดาสดๆ ก็คะแนนน้อยน่ะสิ
แล้วแบบนี้ กวดวิชาก็จะยิ่งเยอะขึ้นสิ (จริงไหม)

สำหรับผมนะ (อันนี้ผมคิดเองแต่งเองเล่นๆ)

Ent 70% สอบเก็บคะแนนแยกรายวิชา ปีละ2รอบ คะแนนอยู่ได้2ปี สอบ7วิชา วิชาวิทยาศาสตร์ย่อยสอบพร้อมกัน 3วิชา
แต่ทว่าคะแนนส่วนนี้สามารถปรับสั-ดส่วนได้ตามคณะ เหมือนรอบแอด
เช่น
สมมติ คณะเทคนิคการแพทย์ คณิต10%/วิทแยก(ฟิสิก 10% เคมี10% ชีวะ20%)/ไทย5% /อัง10% /สังคม5%/ภาษาอื่นๆ0%

หรือ คณะมนุษย์ศาสตร์ สาขาภาษาญี่ปุ่น คณิต5% /วิทแยก(ฟิสิก5% เคมี5% ชีวะ5%) /ไทย5% /สังคม5% /อังกฤษ 10%/ภาษาอื่นๆ(ญี่ปุ่น) 30%

ปล.อย่างต่ำวิชาภาษาอื่นๆ0% วิชาทั่วไป5% อย่างมากวิชานั้นๆ40%
คือ ให้ปรับคะแนนรายวิชาตรงส่วนนี้ได้ตามคณะและสาขาอะไรประมาณนั้น
เหมือนรอบแอด จะได้มีการคัดนักเรียนที่ถนัดด้านนั้นมากขึ้น

แล้วเด็กวิทย์-เด็กศิลป์ ไม่ล้ำกันหรอ คำตอบก็คือ คะแนนสั-ดส่วนจะแปรผันตามคณะ สมมติเด็กวิทย์จะเข้ามนุษย์ ENG เด็กสายวิทย์คนนั้นก็ควรจะต้องทำคะแนนอังกฤษให้ได้มากๆ เพราะ คณะนั้นเน้นภาษาอังกฤษจะเรียนศิลป์หรือวิทย์ เขาก็เน้นอังกฤษ สั-ดส่วนเขาเน้น อังกฤษ และเจ้าตัวสั-ดส่วนนั้นเองแหละที่เป็นตัวบอกความถนัดในคณะนั้นๆ แทนPATได้นิดหน่อย เพราะถ้าคะแนนวิชาที่สั-ดส่วนเยอะๆนั้นดันน้อย ก็ทำให้เข้าคณะนั้นยากขึ้น (ก็ยังดีกว่าการกำหนดคะแนนขั้นต่ำในO-net ที่ไม่สามารถแก้คะแนนได้เลย)

สรุปง่ายๆ เด็กวิทย์จะเข้าคณะสายศิลป์ ก็ควรจะทำคะแนนวิชาศิลป์ให้ได้มากๆ
หรือเด็กศิลป์จะเข้าคณะสายวิทย์ ก็ควรจะทำคะแนนวิทย์ให้ได้มากๆ
เพราะถ้าทำได้น้อยตามสั-ดส่วน ก็จะทำให้เข้าคณะนั้นยากขึ้น
(คำว่ายากขึ้น ไม่ได้แปลว่าเข้าไม่ได้)

ส่วนอีก30% ที่เหลือก็คือ

GPA 10 %  เกรดเฉลี่ย6เทอม เดี๋ยวเด็กไม่ยอมเข้าเรียน มัวแต่อ่านกับติว คะแนนส่วนนี้อยู่กับเราตลอดชีพ
GAT 20 % พูดง่ายๆก็คือ ทักษะการแก้ปัญหา ในรอบแอดใช้ทุกคณะใช่ป่ะ ยังไงก็ควรมี ซัก 20 % เพราะเหมือนเป็นตัวคะแนนฐานให้เลยเพราะไม่ปรับสั-ดส่วน คะแนนอยู่ได้2ปี
(GATควรให้สอบพร้อมๆโอเนต จะได้ไม่เสียเวลามาก)


ปล.2 ทั้งหมดนี้ผมคิดเองนะ ผมคิดว่าถ้าเป็นแบบนี้ได้จริง คงจะดี

0
เด็กเครียด 11 เม.ย. 57 เวลา 18:55 น. 16

Like!!!!!!!!!เลยครับ อย่างที่คุณบอกเกรดไม่สามารถวัดอะไรได้จริงๆ ลองคิดดูระหว่างเกรดโรงเรียนนานาชาติโคกอีแร้ง ยัดตังได้เกรด4.00 เตรียมอุดมศึกษาพญาไท เด็กเรียนจนหัวจะหงอกเพิ่งได้3.00 มันวัดกันได้ที่ไหน ฮึ!! ส่วนอย่างอื่นเอนกับลแอดก็ไม่ต่างกันแค่เอนสอบ7วิชา2รอบ แอดสอบ7วิชารอบเดียวข้อสอบมีประสิทธิภาพพอกัน แต่TAGกับTAP ข้อสอบนี้มีไว้ให้เทพสอบ บ้าบอออกมาได้ไง!!หน้าซีด

0
latus 12 เม.ย. 57 เวลา 01:06 น. 17

โอเน็ตรุ่นผ้าปูโต๊ะ คือ รุ่น GAT PAT รุ่นแรกครับ ไม่ใช่แอดรุ่นแรก
[ตอนเจอผ้าปูโต๊ะครั้งแรก เงิบจริง 555+]
- เป็นรุ่นที่Onet วิชาสังคมเริ่ม มีpartเลือกตอบได้หลาย choice
- PAT1 ยังเป็น choiceล้วน

0
someone walking 12 เม.ย. 57 เวลา 02:46 น. 18

_______เราคงเลือก ENT รุ่นหลังปี42 ค่ะ อยากให้เพื่อนๆอ่านให้จบนะคะ
เพราะเนื่องจากว่าดูเป็นการเอื้อต่อเด็กซึ่งเป็นผู้สอบมากสุดแล้ว
มิไช่ เอื้อต่อคะแนนหลังสอบเพื่อมาประเมินสถานศึกษา นี่ นั่น โน่น
ก็เพราะหวังผลประเมินจาก โอเน็ต ซึ่งเป็นองค์ประกอบในการแอดมิชชั่นถึง30%มากเกินไป
จนไม่เห็นหัวเด็กซึ่งเป็นผู้สอบเลยว่า ถ้า ผิดพลาดในส่วนใหนไป = ผิดพลาดไปตลอดชีวิตนี้เลย
แก้ไขไม่ได้เพราะโอเน็ตสอบได้ครั้งเดียวตลอดชีวิต มันดูแปลกประหลาดนะคะ
คะแนนที่สอบเข้ามหาลัยที่มี-ส่วนสูงถึง30%และอาจมีแนวโน้มไปถึง50%.
้เป็นคะแนนที่แก้ไขอะไรไม่ได้ แล้วถ้าเด็กอยากแก้ตัวละคะ อยากสอบใหม่
มีชิวิตที่ดีขึ้น ตั้งต้นใหม่ ก็ทำไม่ได้ เพราะไม่สามารถทำได้ มันแปลกใหมละคะ
ก็เนื่องจากว่าพวกผู้ใหญ่ไม่เคยเห็นหัวเด็กไงคะ คิดแต่ว่าจะทำยังไงดีถึงจะ
ปิดกั้นการกวดวิชาของเด็กให้น้อยลง ทำยังไงถึงจะให้เด็กเรียนในห้องไม่โดดมาอ่านหนังสืออยุ่บ้าน
_______ทำไมพวกท่านถึงไม่เดินไปถามเด็กๆเองหละคะว่าปัญหาเป็นแบบใหน อะไรที่ต้องแก้
แล้วอะไรที่ต้องการ ถึงจะบอกว่าข้อสอบง่าย ไม่อยากเกินไป ถึงอย่างงั้นเถอะค่ะ
คนเราผิดพลาดได้เสมอ เมื่อผิดพลาดก็อยากแก้ไข แต่ทำแบบนี้เหมือนไม่ให้โอกาศเด็กอีกเลยตลอดชีวิต
_______ส่วนตัวเคยคุยเรื่องนี้กับคุณพ่อ คุณพ่อก็เล่าเรื่องการสอบเข้ามหาลัยของเด็กเกาหลีใต้ให้ฟัง
ซึ่งทุกคนจะพอรู้นะคะว่าถ้าพูดถึงการสอบเข้ามหาลัย เกาหลีใต้นั้นเป็นอันดับต้นๆของโลก
ที่ให้ความสำคัญกับการสอบเข้ามหาลัยของเด็กๆอย่างมากเลย
ถ้าจำไม่ผิด เค้าเรียกว่าการสอบ CSAT ทุกวิชาทั้งหลายจะสอบเสร็จภายในวันเดียว
และจะจัดสอบทุกๆเดือน พ.ย ซึ่งถ้าไม่พอใจคะแนนก็สามารถสอบใหม่ปีถัดไปได้ค่ะ
เพราะไม่มีคะแนนส่วนใหนที่ไม่สามารถแก้ไขโดยการสอบใหม่ไม่ได้
และถึงแม้มันจะนาน แต่ส่วนตัวคิดว่าก็ยังดีกว่า30%ที่ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้เลย
มิหนำซ้ำเห็นแว่วๆว่า จะเพิ่มเป็น50%ในไม่ช้า โอ้พระเจ้า จะทำร้ายเด็กไปถึงใหนกันน้า
_______จะเห็นได้ว่าคล้ายๆกับENTแบบใหม่เมื่อปี42มากเลย และเราดีตรงที่ สอบได้อีกครั้งนึง ของปี ไม่ตึงเครียดเเละไม่ยืดหยุ่นเกินไป วัดกันไปเลย ไม่ต้องมามีตระเวนสอบตรง สอบ7วิชา สอบโอเน็ต สอบGAT PAT ทำไมทาง สกอ ไม่รวบทุกระบบการตระเวนสอบ ด้วยการสอบ
เพียง2ครั้งต่อปี ด้วยระบบ ENTแบบใหม่ เหมืิอนแต่ก่อน จะต่างกันตรงใหนถ้าเด็กต้องวิงรอก
สอบมันให้วุ่นขนาดนี้
_______ทาง สกอ น่าจะรู้ได้บ้างแล้วนะคะ ว่าทำไม สถานศึกษาชื่อดังหลายแห่ง ถึงลดอัตราจำนวน
การเข้ารับศึกษาจากแอดมิชชั่นน้อยลง น้อยลงทุกปี และไปเพิ่มที่รับตรงแทน
ไม่ไช่เพราะอยากเลี่ยงโอเน็ตกับเกรด ที่มีความเลื่อมล้ำทางการศึกษาที่ไม่เท่ากันทุกปีหรือเปล่าคะ

_______ทีจริงไม่ไช่แค่พักหลังๆทีเด็กๆได้วิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับระบบรับเด็กเข้าศึกษาในมหาลัย
อย่างในกระทู้เด็กดีเมื่อ4ปีก่อน ในกระทู้นี้ http://www.dek-d.com/board/view/1660773/
ชอบรี5มากๆอ่านแล้วก็นึกตลก แต่ความเป็นจริงมันไม่ตลกเท่าไหร่

0