ทำยังไงให้พูดได้หลายภาษา ?
ตั้งกระทู้ใหม่
ทำยังไงถึงจะพูดได้หลายภาษาดีล่ะ ?
ส่วนใหญ่ก็จะเริ่มจาก...
จำตัวอักษรและสระ แล้วก็ นับเลข แล้วก็ พูดประโยคง่ายๆทักทายบอกลา แล้วก็ เรียนรู้คำศัพท์และไวยากรณ์
เราควรจะทำอะไรก่อน-หลังดีล่ะถ้ามันจะเยอะขนาดนี้ =0=
ยังไงก็ร่วมแสดงความคิดเห็นกันได้เลยน้า ขอบคุณมากๆน้า ^^
136 ความคิดเห็น
เราพูดภาษาที่ 3 เราพูดสเปนกับ อิตาลีได้ หลักง่ายๆถ้าอยากพูดได้หลายภาษานะ
- ให้ดูว่าเราชอบอะไร แล้วเราก็เริ่มที่ภาษานั้น เช่นเราชอบสเปนเราก็มุ่งมาทางภาษาสเปน (เราคุยแชทให้เพื่อนสเปนสอน หาหนังสืออ่าน ดูวิดีโอสอนภาษา คุยกับฝรั่ง)
- และผลที่ได้คือเราจะมีพื้นฐานของภาษานั้นๆและพื้นฐานนี้เราสามารถต่อยอดไปได้อีกหลายภาษา เช่นภาษาสเปนเราต่อยอดไปที่อิตาลีได้(ถึงจะไม่มากแต่ก็พอช่วยๆกันได้อะ แต่มันจะสับสนช่วงฝึกอิตาลีแรกเพราะศัพ์บางตัวมันค่อนข้างเหมือนกัน)
- [และถ้ารู้อิตาลีก็สามารถต่อไปฝรั่งเศสหรืออะไรได้(อันนี้เราไม่รู้ว่าจริงไหมเพราะเราไม่เคยลองฝึกดูตอนนนี้เรายังไม่ประสีประภาษาอิตาลี แต่เพื่อนอิตาเลี่ยนที่ฝึกภาษาให้เขาบอกว่าถ้ามีพื้นฐานสเปนกับอิตาลีอะเราฝึกฝรั่งเศสได้ง่ายกว่าคนปกติ)]
ยกตัวอย่างนะ
เช่น
ถ้ารู้ภาษาใดภาษาหนึ่งใน อังกฤษ สเปน อิตาลี ฝรั่งเศส เยอรมัน = สามารถต่อยอดภาษาในกลุ่มนี้ได้
ถ้ารู้ภาษาใดภาษาหนึ่งใน จีนกลาง จีนแมดาริน มันจะต่อยอดด้วยกันได้ง่าย
อีกตัวอย่างง่ายๆ รู้ภาษาไทยก็พูดภาษาลาวกับเขียนภาษาลาวได้ง่าย เชื่อเราอันนี้ฟันธง โคตรเหมือนภาษาไทย
เราพูดได้อย่างเดียว แต่เขียนไม่ได้อ่ะ
อย่างถ้าฟังมา จะพอแปลออกว่าพูดอะไร ไรงี้ เพราะเราชอบดูรายการของเกาหลีอ่ะ วาไรตี้ ซีรี่ส์ ดูหมด เพลงก็ฟัง แล้วมันได้เองอ่ะ 555
อาจจะมีเคล็ดลับเล็กน้อยเช่น เราอยากพูดภาษาญี่ปุ่นเป็น เราก็ดู ' ดูหนังภาษาญี่ปุ่นบ่อยๆ ' มันจะมีความคุ้นเคยอ่ะนะ พอเราได้ยินบ่อยๆก็จะคุ้นหู พูดได้ชัดเจน หรือรู้ความหมายอะไรทำนองนนี้ เราอยากเรียนภาษาญี่ปุ่นแต่แม่ไม่ให้เรียนอ่ะนะ =[]= เลยต้องนั่งดูอนิเมะ [ ซับไทย ] เปิดเว็บคำศัพท์อ่านไปพลางๆ ดูอนิเมะมา 2 ปีแล้วแต่พูดได้แค่แนะนำตัวกับนับเลข [ ก็ถือว่าเป็นผลพวงที่ยิ่งใหญ่ ]
อาจจะมีเคล็ดลับเล็กน้อยเช่น เราอยากพูดภาษาญี่ปุ่นเป็น เราก็ดู ' ดูหนังภาษาญี่ปุ่นบ่อยๆ ' มันจะมีความคุ้นเคยอ่ะนะ พอเราได้ยินบ่อยๆก็จะคุ้นหู พูดได้ชัดเจน หรือรู้ความหมายอะไรทำนองนนี้ เราอยากเรียนภาษาญี่ปุ่นแต่แม่ไม่ให้เรียนอ่ะนะ =[]= เลยต้องนั่งดูอนิเมะ [ ซับไทย ] เปิดเว็บคำศัพท์อ่านไปพลางๆ ดูอนิเมะมา 2 ปีแล้วแต่พูดได้แค่แนะนำตัวกับนับเลข [ ก็ถือว่าเป็นผลพวงที่ยิ่งใหญ่ ]
เราก็ไม่ค่อยได้ท่องเคร่งครัดอะไรมากนะ แต่บางทีก็จำได้เพราะเห็นคำๆนั้นบ่อยอะไรประมาณนี้ล่ะมั้งคะ เราก็พูดไม่ถูกเหมือนกัน5555 ยังไงก็สู้ๆนะคะ เราก็ฝึกเรื่องภาษาอยู่เหมือนกัน มีอะไรก็มาพูดคุยกันได้น้า
ทำเหมือนเรียนภาษาไทยเลยจ้า ตั้งแต่เราเป็นเด็กเล็กๆเรียนมาแบบไหนทำแบบนั้นเลย แต่ถ้าให้มีให้พูดชัด คล่องจริงๆ ต้องมีสภาพแวดล้อมของภาษานั้นๆค่ะ
เราว่าที่ดีน่าจะเป็นพวกดูหนังฟังเพลงอะไรพวกนี้นะ
เหมือนได้ศัพท์ที่ใช้บ่อยๆในชีวิตประจำวัน
แล้วก็พวกศัพท์ที่เค้าฮิตๆกันในช่วงนี้อะไรแบบนี้อ่ะ
บางทีเราไม่รู้ความหมายศัพท์แต่รู้ว่ามันใช้อะไรแบบไหนได้ก็โอเคแล้วแหละ
คือแกรมม่าไม่ต้องเป๊ะแต่ให้รู้เรื่องก็พอโอเค
เราว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือฝึกให้ชินกับภาษาเนี่ยแหละ
ถ้าพวกเรื่องแกรมม่าถ้าเราฟังบ่อยๆก็จะรู้ว่าอันไหนมันฟังขัดๆ
พอใช้ไปนานๆก็จะชินเองแหละ
ยังไงก็สู้ๆน้าาาาา
อยากเก่งทั้งเยอรมันกับฝรั่งเศสอ่ะคับ ทำไงดี T^T
ขอบคุณทุกคอมเมนต์เลยน้าาา ^^
เลือกภาษาที่ตัวเองชอบ เพราะถ้าเราไม่ชอบให้ตายยังไงก็ไม่เรียน ไม่เข้าหัว เปลืองเงิน เปลืองเวลา เช่นเราอ่ะ ชอบภาษาญี่ปุ่นมากกกกกกก ติดมาจากดูอนิเมนี่หล่ะ พอเราดุไปเรื่อยๆหลายๆคำก็เริ่มติดปาก ไม่ต้องดูคำแปลก็แปลเองได้ แล้วเราก็เรียนด้วยตัวเองอ่ะเพราะแม่ไม่สนับสนุนเท่าไหร่ ตอนไปญี่ปุ่นจะขอแม่เรียนแม่ก็ไม่ให้ เราก็เลยต้องมาเรียนเอง ตอนนี้จำฮิรางานะกับคันจิได้นิดหน่อย ตอนไปนี่ต้องใช้ภาษาญี่ปุ่นเยอะมาก เพราะเงินหมด 555 หลงอีกสารพัด เราภูมิใจมากเลยที่พูดกับเค้ารู้เรือง
ถ้าในอนาคตเธอยังอยากได้หลายภาษาอยู่และมีเงินมากพอ ลองไปอยู่หลายๆประเทศ ประเทศละ1-2ปี เรียนต่อก็ได้ ทำงานก็ได้ work&travelก็มีเยอะแยะ
แต่ถ้าไม่ได้ใช้มันก็ลืมเหมือนกันนะ5555
อิมพอร์ตจากโลกอนาคตนั่นก็คือ
วุ้นแปลภาษาาาา~~~~~ #ถีบออกจากกระทู้
เรียนจ้ะ จขกท. ไม่ก็ฝึกเวลาดูหนังอะไรแบบนี้
เราก็ว่าจะเรียนเหมือนกัน #เม้นท์นี้ไร้สาระมว้าากกก
ถ้าจะเริ่มเรียนภาษาแบบเริ่มเรียนด้วยตัวเอง ต้องขึ้นอยู่กับว่าเราสนใจภาษาไหนก่อนค่ะ การเรียนภาษาด้วยตัวเอง ถ้าไม่สนใจก็ไม่เกิดผลนะคะ สำหรับเราเรียนภาษาเกาหลีด้วยตัวเอง ถูๆ ไถๆ มาตลอด 5 ปี ก็ถือว่ามีความก้าวหน้า แม้จะไม่ได้แตกฉานแต่ก็พอรู้เรื่องค่ะ
สำหรับวิธีของเรา เริ่มต้นจากเราชอบนักร้องเกาหลี แล้วอยู่ๆ ก็เกิดอยากอ่านออกขึ้นมา เลยเริ่มศึกษาจากตัวอักษร สระ การสะกดคำ คือให้อ่านออกเขียนได้ก่อนค่ะ เรื่องความหมายช่างมัน 555 พออ่านออกเขียนได้แล้วอย่างอื่นก็สบายมากๆ เราเริ่มจำศัพท์ก่อนค่ะ ศัพท์ที่เจอในเนื้อเพลง ในหนัง ในรายการทีวีต่างๆ (อันนี้ต้องสะสมนะ สะสมมาเรื่อยๆ) จากนั้นพอใช้ชีวิตกับมันบ่อยๆ เราก็เริ่มสังเกตไวยากรณ์และก็ศึกษาไวยากรณ์เพิ่มเติมทีหลังค่ะ ตอนนี้ไวยากรณ์ก็ได้แค่เบื้องต้น งูๆ ปลาๆ เพราะยังไม่มีเวลาศึกษาอย่างจริงจัง ได้เท่าที่สังเกตมาตามสิ่งที่พบเจอ แต่ทุกวันนี้ถ้ามีประโยคภาษาเกาหลีมาเราก็พอแปลได้คร่าวๆ ว่าประโยคนั้นพูดถึงอะไร ถ้ามีเวลาก็จะเรียนไวยากรณ์อย่างจริงจังค่ะ
เราเคยเรียนภาษาญี่ปุ่น จีน เยอรมัน ฝรั่งเศส 3 ภาษาหลังนี่แค่แตะๆ แต่รู้สึกว่ามันไม่ใช่มาก เรียนไม่รอดแน่ก็ไม่เรียนค่ะ 555 ส่วนภาษาญี่ปุ่นเคยเรียนตัวอักษรจนหมดแล้ว แต่รู้สึกว่ามันยากเหลือเกิน จำไม่ได้ ToT ก็เลยหยุด (ลืมทุกตัว 555)
สำหรับเรา เรียนเพื่อให้เข้าใจถึงการใช้ภาษานั้นๆ ก่อนค่ะ แล้วเรื่องการพูดนั้นค่อยมาฝึกทีหลัง เราเรียนแบบระบบภาษา ดังนั้นจึงเรียนตัวอักษร คำศัพท์ ไวยากรณ์ให้รู้เรื่องก่อน แล้วค่อยมาฝึกทักษะการพูดทีหลังค่ะ
เราเรียนอยู่ ศิลป์-ฝรั่งเศส เพิ่งขึ้น ม.4 เองอยากเก่งฝรั่งเศสเหมือนกัน ทำไงดี T^T
สำหรับเรานะ เราไม่เน้นตำราอะ
เราเน้นดูหนัง ฟังเพลง ดูซีรีย์มากกว่า
เพราะมันเป็นสิ่งที่เราชอบ
พอเราชอบปุ้บ เราก็จะชอบภาษานั้น
เลียนแบบคำพูดในหนัง ในซีรีย์บ้าง
เจอฝรั่ง หรือชาวต่างชาติ
เราจะเข้าไปทักตลอดเลย
ชวนเค้าคุย รู้จักเพื่อนด้วย ฝึกตัวเองด้วย
และจะเป็นเรากว่าที่จะมานั่งท่องตำราโดยไม่ได้ไปใช้จริงนะ ^^
ขอแนะนำนะคะ ตอนนี้เราพูดได้5ภาษาแล้ว
ต้องชอบจริงๆไม่งั้นจะเรียนไม่ได้ เพราะไม่มีแรงบันดาลใจ
แนะนำให้เริ่มจากอ่านตัวอักษรก่อน พออ่านออก ท่องศัพท์ ต่อด้วยไวยากรณ์ค่ะ
สู้ๆนะคะ
หาเพื่อนต่างชาติเลยครับ ถึงจะเรียนมาแต่ไม่ได้ใช้ ยังไงก็ลืมครับ แต่พยายามใช้ภาษาบ่อยๆ จะคุ้นเคย แล้วใช้ได้คล่องเลยครับ
ผมพูดได้หลายภาษาครับ เช่นภาษาสวิส ภาษาเช็ก #ผิด
ก่อนอื่นถ้าอยากพูดภาษาได้ต้องทำความเข้าใจกับมันก่อนว่าเราอยากจะพูดได้แบบไหน แบบคล่อง แบบพอแถพอสนทนา
แล้วก็ต้องดูตัวเองด้วยว่าชอบภาษานั้นๆมั้ยเวลาฝึก เวลาเรียนรู้มันจะได้ไม่น่าเบื่อครับ
อีกอย่าง เราอยากพูดภาษานั้นได้เพราะอะไร ลองค้นหาคำตอบกับตัวเองด้วยนะครับ
ก่อนอื่นเราก็ต้องเข้าใจกับพวกตัวอักษรว่ามันอ่านว่าอะไรบ้าง (ในกรณีตัวอักษรที่ไม่ใช่ตัวอังกฤษ) จากนั้นก็ค่อยๆท่องจำตัวอักษรเหล่านั้นค่ะ อาจจะนุ่งท่องปากเปล่า หรือจะเป็นการคัดลงในสมุดก็ได้ แต่วิธีหลังจำง่ายกว่าค่ะ วิธี้จะช่วยให้เราจำตัวอักษรได้ดี และเมื่อจำอักษรได้ เราก็จะสามารถอ่านคำศัพท์ และสะกดได้อย่างถูกต้องค่่ะ คราวนี้พออ่านได้และจำอักษรได้คล่องแล้วส่วนใหญ่ก็จะเป็นการท่องศัพท์ ต่อด้วยไวยากรณ์เบื้องต้น ตรงนี้ละคะที่อาจจะทำให้สับสนได้ ถ้าอยากแม่นแกรมมา คราวนี้ก็ต้องท่องจำเอาอย่างเดียวแล้วค่ะเพราะถ้าอยากแม่นแกรมมาความจำของเราก็ต้องแม่นไปกับมันด้วย รวมทั้งการเอาแกรมมาไปประยุกต์ใช้ค่ะ เพราะมีหลายประเทศเลยที่จริงจังเรื่องแกรมมา ยังไงก็สู้นะค่ะ ^^
เราเรียนภาษาญี่ปุ่นด้วยตัวเองค่ะ ตอนแรกก็แบบท่องจำตัวอักษร บลาๆ แต่แบบมันขี้เกียจไงเยอะจัด เราก็เลยเปลี่ยนมาเป็น ไม่สนมันเลยแบบ ตัวอักษรไม่จำ แต่มาศึกษาว่า ประโยคแบบนี้ พูดยังไง ใช้คำเชื่อมประมาณไหน แล้วก็ตะบี้ตะบันจำแต่คำศัพท์อะคะ ถ้าเรารู็คำศัพท์เยอะๆก็ไม่ใช่ปัญหาเลย แล้วก็เวลาเราเจอคนญี่ปุ่นอ่ะ เราจะหน้าด้านเข้าไปทักตลอด จะพูดกับเขาประมาณว่า กำลังฝึกภาษาค่ะ อะไรทำนองเนี้ยยย ฮ่าๆๆ แล้วพอเริ่มคล่องก็มาจำตัวอักษร
เราทำแบบเนี้ยมาตั้งแต่ ม 4 ตอนนี้ ม 6 แล้วก็พอดูอนิเมะรู้เรื่อง แต่ก็เป็นบางช่วง
แต่เราอ่านไม่ออกนะ คือแบบเรียนแต่ฟังกับพูดอย่างเดียวอ่ะ
#แบบไม่มีตังไปเข้าคอสเรียนง่ะ #ปล เราใช้แบบโรมันจิอ่ะค่ะ #ภาษาอังกฤษเราก็พูดแบบคำศัพท์ล้วนๆ past simple past con เทนส์ทั้งหลายไม่เคยเข้าสมองค่ะ ฝรั่งเข้าก็รู้เรื่องนะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?