อยากเข้า มศว ต้องอ่าน!!
ตอน องครักษ์แดนแห่งชีวา...
จุดประสงค์ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพราะอยากเล่าเกี่ยวกับชีวิตในรั้วเทา-แดงตลอดระยะเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมาของเจ้าของกระทู้ ซึ่งเป็นนิสิตคณะมนุษยศาสตร์ในรั้วมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ หรือที่รู้จักกันในชื่อ มศว (ซึ่งไม่มีจุดนะจ๊ะ^^)
บอกก่อนเลยว่ากระทู้นี้ไม่ได้มีเนื้อหาสาระที่จะช่วยให้น้องๆสอบเข้าได้แต่อยากใด การแนะนำความรู้หรือข้อมูลการสอบก็ไม่มี... มีแต่ประสบการณ์ตรงล้วนๆ J
ก่อนอื่นก็ขอเกริ่นข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องที่จะเล่านิดนึง สำหรับผู้ที่สอบเข้ามศวได้แล้วเป็นที่ทราบกันดีว่า “เกือบ” ทุกคณะจะต้องไปเรียนปี 1 ที่ มศว องครักษ์ จ. นครนายก
ซึ่งกระทู้นี้ก็จะเล่าถึงการใช้ชีวิตในองครักษ์ช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา จากประสบการณ์ของเจ้าของกระทู้เอง^^ ต่อจากนี้ขอแทนตัวเองว่าพี่นะคะ
องครักษ์
“ดินแดนที่คนในไม่อยากออก คนนอกไม่อยากเข้า”
จากนี้ขอเสนอสิ่งที่คุณจะต้องเจอเมื่อไปอยู่องครักษ์!!
1. องครักษ์มันอยู่ส่วนไหนของประเทศไทย??
มศว องครักษ์ตั้งอยู่ที่จ.นครนายก ถ้ามาทางปทุมธานีก็อยู่คลอง 16 ติดกับปทุมเลยจ้า อยู่คลอง 16 ก็แปลว่าต้องเจอคลองเยอะแน่นอน ใช่เลยค่ะ... ใน มศว องครักษ์ของเรา(ขอเรียกย่อๆว่า องครักษ์)มีแหล่งน้ำเยอะมากกก เดินไปทางไหนก็จอบ่อเจอคลองเต็มไปหมด ด้านข้างก็มีวิวอันสวยงามของทุ่งนาเขียวขจีเป็นที่เจริญตายิ่งนัก
ตอนแรกที่รู้ว่าจะต้องมาอยู่ที่นี่ก็แอบกังวล องครักษ์นี่จะห่างไกลห้างไปไหนเนี่ย!! (พี่ชอบเดินห้าง^^)
แถมจองห้องแอร์ไม่ทัน ได้อยู่ห้องพัดลมอีก TT^TT เริ่มเห็นแววลำบากเพราะได้ข่าวว่าที่นั่นแมลงเยอะมากก แถมยุงก็ชุกชุมเลยได้ฉายาองครักษ์แดนแห่งยุงลายมาอีกอัน
2.
5. ปล. เนื่องจากยาวเกินไปเลยต้องลงต่อในคอมเม้นท์ด้วยนะคะ :)
ปล2. รูปในกระทู้เอามาจากหลายที่ ถ่ายเองบ้าง ของเพื่อนบ้าง เพจในเฟซบุ๊คบ้าง และกูเกิ้ล ขอบคุณมากนะคะ
240 ความคิดเห็น
1. คุณเมทที่รัก
นอกจากปี 1 จะโดนบังคับให้อยู่หอในมหาลัยแล้ว สิ่งที่ตามมาด้วยก็คือ...
รูมเมทนั่นเอง!!
งานนี้บอกเลยว่าได้เมทดีมีชัยไปกว่าครึ่ง เพราะคุณจะได้ทั้งมิตรภาพดีๆ ที่ปรึกษา ที่ระบาย บางครั้งถึงกับได้เพื่อนสนิทเพิ่ม^^ ซึ่งพี่ถือเป็นผู้โชคดีเพราะเมทที่ได้มีแต่คนดีๆ
แล้วเมทที่ได้มาจากได้มาจากไหน?? เลือกเองได้มั้ย?? อันนี้ต้องพึ่งบุญเก่ากันเลยจ้ะ... เพราะเค้าสุ่มมาให้ทั้งหมด แต่ละห้องจะมีสมาชิก 5 คน ซึ่งมาจากคนละคณะ ถ้าคณะเดียวกันก็คนละเอก(ใครได้เพื่อนเอกเดียวกันเป็นเมทก็โชคดีไป^^) ตอนแรกที่พี่ได้รู้เรื่องนี้ในหัวก็คิดเลย “ตายล่ะ! ต้องอยู่กับคนที่ไม่รู้จักตั้งสี่คน เรายิ่งเข้ากับคนแปลกหน้ายากซะด้วย >< ”
แต่ละคณะจะเข้าหอไม่ตรงกันเพราะเค้ากลัวว่าถ้าให้เข้าพร้อมกันหมดจะวุ่นวาย ห้องพี่มีคณะมนุษย์ 3 คน(แต่คนละเอก) สังคม 1 คน และพละอีก 1 คน
ตอนแรกที่เข้ามาในห้องก็พบกับเตียงเดี่ยวเรียงกันสามเตียง และเตียงสองชั้นอีกหนึ่ง มีโต๊ะให้คนละตัว ตู้คนละอัน ห้องไม่เล็กไม่ใหญ่อยู่ห้าคนได้สบาย
คืนแรกของการอยู่หอในองครักษ์พี่ยังจำได้ดีถึงทุกวันนี้ เมทคนแรกที่พี่เจอเป็นเด็กมนุษย์เหมือนกัน ตอนนั้นชีกำลังเตรียมตัวจะไปนอนห้องเพื่อน //ก็นะ... ไปนอนกับเพื่อนดีกว่านอนกับเมทแปลกหน้าอยู่แล้ว =3=
พี่ก็เฉยๆไม่ว่าอะไร อยากไปก็ไปชั้นนอนคนเดียวได้
ชีถามด้วยความเป็นห่วงเป็นใย “นอนคนเดียวได้เหรอ? ”
“ได้ๆ สบายมาก”
“ไม่กลัวเหรอ... รุ่นพี่เราเล่าให้ฟังว่า...” แล้วชีก็เริ่มเล่าเรื่องผีให้พี่ฟัง =”=
ตอนนั้นจากคนใจแข็งมั่นใจว่านอนคนเดี๋ยวได้เริ่มฝ่อทันที ส่งสายตาอ้อนวอนแกมขอร้องไปให้เมทที่เพิ่งเจอกันครั้งแรกพร้อมพูดว่า “คืนนี้นอนเป็นเพื่อนเราเหอะ!! ” TT{}TT แกทำให้ชั้นกลัวนะ แกต้องรับผิดชอบเซ่!!
ซึ่งหลังจากนั้นด้วยความที่นอนเตียงติดกัน ไลฟ์สไตล์ใกล้เคียง ทำให้ชีกลายเป็นเมทที่สนิทที่สุดไปโดยปริยาย^^ มีไปปั่นจักรยานแล้วก็นั่งเล่นชมวิวกันด้วย
จริงๆเรื่องเมทมีอีกเยอะนะ อย่างเมทพละก็เป็นนาฬิกาปลุกชั้นดีเพราะชีต้องตื่นไปวิ่งตั้งแต่ตีห้า //เช้าขนาดนั้นพี่ยังหลับปุ๋ยอยู่เลย...
เมทสังคมก็คุยกันถูกคอเพราะงานอดิเรกเหมือนกัน สนิทรองลงมาเลยล่ะ^^ มีไปดูหนังกัน ซื้อเสื้อมาใส่คู่กันด้วย555+
ส่วนเมทคนสุดท้ายเรียนคณะมนุษย์เหมือนกัน ไม่สนิทเท่าคนอื่นเพราะชีกลับบ้านทุกอาทิตย์ แต่ก็ดีไม่แพ้คนอื่นนะ^^ สรุปว่าได้เมทดีทุกคนจ้า!!
1. ห้อยป้ายและสวัสดี
ขอลบรูปนะจ๊ะ^^
ปี 1 ทุกคนต้องมีป้ายห้อยอยู่ที่คอนะ ซึ่งกว่าจะได้ป้ายมาก็ต้องทำต้องแก้กันหลายรอบเพราะไม่ตรงใจรุ่นพี่ กว่าจะได้ป้ายมาห้อยอวดประชาชีก็เสียตังค์กันไปไม่รู้เท่าไหร่ รวมตัวทำป้ายแต่ละทีก็ยากเหลือเกินกว่าคนจะครบ แถมเอกพี่ยังกำหนดว่าต้องทำมือแถมต้องช่วยกันทุกคนอีก เหนื่อยทั้งกายทั้งใจกันไปหลายรอบ...
ป้ายนี้ต้องห้อยกันทั้งปีไม่เว้นวันหยุด แต่ออกข้างนอกไม่ต้องนะ^^
//ขออนุญาตปกปิดชื่อและใบหน้า เนื่องจากไม่มั่นพอ...
ประเพณีที่น่ารักของปี 1 นอกจากห้อยป้ายแล้วก็ต้องสวัสดี เวลาเดินผ่านใครก็ต้องสวัสดีกัน อย่างพี่อยู่คณะมนุษย์เวลาเดินไปเจอคณะอื่น พี่และเพื่อนๆก็จะประสานเสียงพร้อมยกมือไหว้ “คณะมนุษยศาสตร์สวัสดีครับ/ค่ะ” คณะอื่นเค้าก็จะสวัสดีเรากลับเช่นกัน^^ เป็นธรรมเนียมน่ารักๆที่ช่วงแรกๆจะได้ยินเสียงสวัสดีกลับไปกลับมาบ่อยมาก พอเข้าเทอมสองก็เริ่มเบาบาง... คงเพราะรู้จักแล้ว ขี้เกียจสวัสดีละ!!
1. ก้นกระดก
แมลงร้ายแห่งองครักษ์!! ร้ายกาจกว่ายุงลายหลายเท่า ตอนมาอยู่องครักษ์แรกๆทุกคนจะโดนรุ่นพี่เตือนเหมือนกันคือให้ระวังก้นกระดก ห้ามโดนตัวมันเด็ดขาดเพราะบริเวณที่โดนจะเป็นแผลคล้ายโดนไฟไหม้ วิธีจัดการตามที่รุ่นพี่บอกต่อๆมาคือให้เอาสก็อตเทปแปะมันซะ... และปล่อยให้มันตายเองอย่างเลือดเย็น บางทีตามผนังห้องในหอพวกคุณอาจมีฟอสซิลเจ้าก้นกระดกแปะอยู่เป็นอนุสรณ์ก็ได้^^ พี่ไม่เคยเจอเองซักทีแต่เมทพี่เจออยู่บนเตียงสองรอบทั้งที่เตียงติดกัน^^
1. ระวังอาหารการกินให้ดี
ที่เตือนแบบนี้ไม่ได้หมายความว่าอาหารที่องครักษ์มีอันตรายแต่อย่างใด แค่อยากบอกว่าอาหารที่นั่นถูกและอร่อยมากกกกก
ขอแนะนำเพียงเล็กน้อยเพราะถ้าได้ไปอยู่เดี๋ยวคุณก็ไปลองกันเองนั่นแหละ หลักๆเลยพี่ชอบอาหารที่พลาซ่าค่ะ บนพลาซ่าก็มีร้านสเต็ก มศว ที่ทั้งถูกทั้งอร่อย ร้านเค้ก น้ำปั่น อาหารอื่นๆอีกมากมาย ทุกวันพุธใต้พลาซ่าจะมีตลาดนัดให้เดินช้อปอย่างสะใจ ยิ่งของกินนี่สุดยอดมาก พี่ไม่เคยห้ามใจได้เลย ><
วันธรรมดาก็ไม่น้อยหน้า มีสลัดสำหรับคนรักสุขภาพซึ่งมีน้ำสลัดให้เลือกเยอะมาก แต่สิ่งที่พี่ชอบที่สุดก็คือ...
หมูปิ้งค่ะ!! >__________<จากการเพลิดเพลินกับของกินที่องครักษ์ ระยะเวลาหนึ่งเทอมผ่านไปพร้อมน้ำหนักที่ขึ้นมาห้ากิโล... =[]=
อยู่ที่นี่เหมือนมีคำสาป ถ้าใจไม่แข็งจริงระวังน้ำหนักจะขึ้นได้ง่ายๆนะจ๊ะ เตือนด้วยความหวังดี^^1. วงเวียน
หลังจากน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นจนน่าตกใจ สิ่งที่พี่ตัดสินใจทำก็คืองดข้าวเย็นเปลี่ยนมากินสลัดและออกกำลังกายค่ะ ทุกเย็นก็จะเปลี่ยนชุดแล้วออกมาเดินที่วงเวียนกับเพื่อน เดินทุกวันๆจนน้ำหนักเริ่มลดทำให้มีกำลังใจขึ้นมาบ้าง จะให้ออกกำลังกายอย่างวิ่งหรือแอโรบิคก็ไม่ไหวค่ะ หนักเกิน... เดินเบาๆแต่นานดีกว่าเนอะ^^
นี่คือวงเวียนที่พี่มาเดินทุกเย็น เดินแล้วจะรู้ว่ามันใหญ่มากกก
1. แฟชั่น
ที่องครักษ์ทุกคนจะแต่งตัวชิลมาก จะใส่ชุดนอนลงมากินข้าวที่ออคตะ(โรงอาหาร)ก็ไม่มีปัญหา แต่อาจมีคนมองเล็กน้อย... ใครแต่งตัวดูดีเป๊ะเวอร์จะกลายเป็นเป้าสายตาทันที ช่วยไม่ได้เพราะที่นี่เค้าเน้นแต่งตัวสบายๆกัน^^ แต่ตอนที่พี่อยู่องครักษ์จะมีเทรนด์นึงที่ฮิตกันมาก นั่นคือ กางเกงเล...
ซึ่งที่นี่จะใส่ไม่เหมือนปกติตรงที่จะปล่อยสายผูกเอวเป็นหางไว้ด้านหลัง เอาเสื้อเข้าในกางเกงแล้วมัดปมไว้ด้านหน้า ไม่รู้ใครเป็นคนเริ่มแต่เห็นใส่เดินกันทุกคณะเลย1. ความเชื่อ
เด็กที่นี่จะมีความเชื่อกันว่า “ถ้าไปไหว้ป้ายคณะไหนจะได้แฟนคณะนั้น”
พี่ก็ไม่เคยพิสูจน์นะ^^ อันนี้แล้วแต่คน ถ้าไหว้แล้วไปเดินผ่านบ่อยๆอาจได้จริงก็ได้555+
//นี่คือเพื่อนผู้อยากไปไหว้ป้ายคณะแพทย์ แต่วิศวะเธอก็แอบลุ้นเหมือนกัน^^ นี่ไม่ใช่ป้ายคณะ...มันคือป้ายบอกทาง555+ #ขอลงรูปนะเธอ
อีกสถานที่สำคัญคือ หอพระ ตอนเย็นๆบรรยากาศดีมาก ไปไหว้พระ ให้อาหารปลา ชมวิวกันได้
ถ้าใกล้สอบก็ไปผ่อนคลายกับขอพรได้ด้วย =w=
เอาไว้แค่นี้ก่อนละกันนะจ๊ะ ถ้ามีโอกาสคงได้มาตั้งกระทู้เกี่ยวกับ มศว อีก
กระทู้นี้มาจากความเวิ่นเว้อยามดึกล้วนๆ ขนาดปิดไฟนอนแล้วแต่ก็ทนไม่ไหวจนต้องลุกมาเปิดคอม ไม่หลับไม่นอน555+
ปล3. ถึงชีวิตที่องครักษ์จะดูลำบากแต่เด็กส่วนใหญ่พอมาอยู่ที่นี่แล้วไม่อยากไปไหนนะ มาสัมผัสเองแล้วจะรู้^^
เห็นป้ายแล้วรู้เลยเอกอะไร :P
ขอบคุนมากนะคะ ><
อยากติดแล้วว อยากไปเรียนมศว อยากไปอยู่องครักษ์ ><
ขอบคุณมากนะค่ะ :)
อยากเรียนที่ม.ศ.ว. แล้วเจอกัน!!! Fighting
ขอให้ติดมศวทีเถิ้ดดดด สาธุ
องครักษ์เป็นอะไรที่นิสิต มศว ปี1 ที่ต้องไปเรียนที่นั่น แทบจะไม่อยากจบปี 1
เป็นสถานที่ที่สุดยอดมาก อยู่กับเพื่อนแทบจะ 24 ชม. ช่วงเทอมแรกจะมีการแขวนป้ายชื่อและสวัสดี(เหมือน จขกท. บอก) ถ้าแอบชอบใคร ก็มองได้จากป้ายชื่อเลยจ้า 5555555 เป็นการผูกมิตรที่ดีนะ การเดินผ่านกันแล้วสวัสดีให้กัน ตอนเช้าจะมีการต่อแถวขึ้นรถกะป้อ (ลักษณะคล้านมินิบัตร ไม่มีประตูหรือหน้าต่าง ทุกอย่างโล่ง มีหลังคา และ ทางบันไดขึ้นด้านหน้าและด้านหลัง มีเบาะนั่งคล้ายสองแถวค่าตั๋วใบละ 3 บาท ถ้าจะไปกลับต้องมี 2 ใบนะ) คิวยาวมว้ากกก โดยเฉพาะเวลา 8.00-8.20 น. มักจะใกล้เวลาเรียนคนจะเยอะเป็นพิเศษ ตกดึกก็เดินไปหาขนมกินนั่งเม้ามอยดูทีวีกันจนกว่าจะ เคอร์ฟิว (กำหนดเวลาเข้าหอห้ามเกิน 5 ทุ่ม) พอ 22.55 น. ปุ้ปก็จะรีบวิ่งแยกย้ายกันกลับหอ ไม่ก็ไปปั่นจักรยานวิ่งเล่นรอบวงเวียน หรือไปยิม ตีแบด เล่นบาส แย่งกันจองคอร์ด ไปให้อาหารปลาที่หอพระ (ตอนเย็นบรรยากาศดีมาก ทั้งหอพระและวงเวียน) นั่งเล่นชิว ๆฟังเพลงที่ดีเจเปิดตอนเย็น ๆ พร้อมร้องไปด้วย ไม่ก็ไปพายเรือเล่นกันที่เรือนไทย มันสุดยอดอะแกรรร !! วันแรกที่ย้ายของเข้าหอ กอดพ่อ-แม่ น้ำตาไหล คิดว่ามันต้องเหงามากแน่ๆ แต่พอเจอรูมเมท ... คำว่าเหงา ก็หายไปจากหัวตลอด 1 ปีที่อยู่ที่นั่น มีหลากหลายเรื่องราวมาก ๆ ที่องครักษ์มอบให้ เป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่าและความทรงจำที่ดี เราเองเป็นคนสุดท้ายที่เก็บของออกจากหอ (คือเมทอีก 3 คน ขนของกลับบ้านหมดแล้ว) ภาพที่มองเห็นคือ เตียงนอนที่ว่างเปล่า โต๊ะอ่านหนังสือที่ไม่มีหนังสือหรือของกินวางเต็มโต๊ะ ทั้งชั้น 4 เงียบไม่มีเด็กหรือใครอยู่อีกเลย น้ำตาไหลตอนปิดประตูห้องครั้งสุดท้าย ความรู้สึกเหมือนเมื่อวานนี้เองที่เพิ่งเข้ามา และ แนะนำตัวกับเมท มันเป็นสิ่งที่ประทับใจจริง ๆ ใครที่อยากเข้า มศว ต้องลองสัมผัส ชีวิตเด็กหอใน องครักษ์สักครั้ง
ปล1. พี่เป็นนิสิตคณะสังคมศาสตร์ ปีนี้ปี 2 จ้า
ปล2. คณะที่ต้องไปเรียนองครักษ์ตอนปีหนึ่งได้แก่ > คณะสังคมศาสตร์ , คณะมนุษยศาสตร์ , คณะศึกษาศาสตร์ (จำได้แค่นี้งะ ปีการศึกษานี้อาจมีการเปลี่ยนแปลง -*-)
ปล3. คณะที่เรียนที่องครักษ์ตลอดจนจบการศึกษาได้แก่ > คณะพลศึกษา , คณะวิศวกรรมศาสตร์ , คณะพยาบาลศาสตร์ (มีบางตัวที่ต้องนั่งรถมาเรียนที่ประสานมิตร) , คณะเภสัชศาสตร์ , คณะแพทยศาสตร์ (รู้สึกว่าจะมาเรียนทีประสานมิตรด้วยเหมือนกันไม่แน่ใจข้อมูลคะ) , คณะสหเวชศาสตร์ , คณะเทคโนโลยีและนวัตกรรมผลิตภัณฑ์การเกษตร (AI) (อันนี้ก็จำได้แค่นี้เหมือนกัน 555)
น้องๆคนไหนอยากมาเป็นส่วนหนึ่งในรั้วเทา-แดง พี่ก็ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ
มาเล้ยยย!! เอาใจช่วยจ้าาา
ตัวเอง มศว ไม่มีจุดนะจ๊ะ
อนาคตเด็กมศว อย่าเขียนผิดน้าาา^^
ขอให้สมหวังนะจ๊ะ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมน้าาา ><
อยู่องครักษ์ไม่มีคำว่าเหงานี่จริงที่สุดเลย!!
ปล. เรารุ่นเดียวกันเลยยย แต่เราเด็กมนุษย์^^
อยากเรียนที่ มศว มากๆ แอดคราวนี้ต้องติดให้ได้ หนูจะแอดคณะมนุษยศาตร์เหมือนพี่เลย พี่เรียนเอกอะไรหรอค่ะ
รบกวนถามผู้พอรู้นะครับว่า คณะศิลปศาสตรที่มีหลับสูตรอินเตอร์ เห้นไห้ผู้ปกครองยื่นสเตทเม้นย้อน6เดือนแต่ถ้าไม่ได้มีสเตทเลย จะทำอย่างไรได้บ้าง หรือเอาสเตทเม้นญาติสนิทกันยื่นได้ไหมครับ
เราเรียน มศว เหมือนกันขึ้นปี 2 ปีนี้ แต่เรียนที่ประสาน ธรรมเนียมทั้งที่ประสานมิตรกับองครักษ์เหมือนกัน ห้อยป้ายชื่อ สวัสดี ชีวิตปี 1 ที่นี่สนุกมาก ได้ทำอะไรที่ไม่เคยทำ เป็นอย่างที่ จขทก บอกจริงๆ คนในไม่อยากออก คนนอกไม่อยากเข้า ยิ่งถ้าประสานมิตรได้ไปองครักษ์จะสนุกมาก พร้อมโชว์ของแต่ละคณะกันอย่างเต็มที่ เราเรียนอยู่คณะวิทยาศาสตร์ เอกชีววิทยา ใครที่อยากเข้ามาเรียน มศว ขอให้มีความสุขกับที่นี่นะจ๊ะ ^^
อยากเข้า มศว มากเลยค่ะ ลงไว้อันดับ1เลย แต่คิดว่าคงไม่ติด ณ จุดๆนี้เสียใจมาก ;_______;
รู้จัก มศว องครักษ์ตั้งแต่ ป.1 ป.2 เลย เพราะหนูเรียน คริสตสงเคราะห์ เยื้องๆมศว นั่นแล อ่า คิดถึงจริมๆ คิดถึงองครักษ์ พแง้ T _____________ T อยากเข้ามศว เพิ่ม ล้านเท่า ;_________;
เด็กพละ สุดยอดบอกเลย
ผมเป็นรุ่นพี่ปี 49 คณะมนุษย์ เอก Eng จบไปแล้ว เข้ามานั่งอ่านรำลึกความหลัง ความทรงจำตอนนั้นมันสุดยอดจริงๆ
ปล. ตอนนี้ดีใจมากที่ได้กลับมาเรียน มศว อีกครั้ง เอกเดิม (57)
กว่าจะได้ไปองครักษ์อีกทีก็ตอนรับปริญญา
เราก็จะแอดมนุษย์เหมือนกัน แต่แอดเกาหลี ><
พี่คะ พอดีหนูจะแอดเข้ามนุษย์ มีเรื่องจะสอบถามพี่หลังไมค์ได้มั้ยค้า
องครักษ์แดนแห่งชีวา
จริงๆอย่างที่น้องบอก ตั้งแต่พี่เข้าปี 1 มา นนขึ้น 7 โล แล้วจ๊า
เกินห้ามใจจริงๆของกินเนี๊ย ละยิ่งมีงานหอในของกินยิ่งกว่าสวรรค์
TT คณะพี่เป็นคณะที่เรียนที่นี่ทั้งม4 ปี บอกไว้เลยว่าขนาดปิดเทอมยัฃคิดุึงมาก อยู่ที่นี่แทบจะไม่เหงาเลย พี่บอกไว้ก่อนน้องๆที่คิดว่าการมาอยู่องครักษ์นั้นลำบาก จริงๆเรามโนไปเองนะ สังคมที่นี่อบอุ่น ที่เค้าบังคับให้ต้องอยู่หอในตอนปี 1 เพราะว่าเราจะได้ปรับตัวเท่าๆกันทุกคน ทุกคนที่เข้ามาที่นี่ปี1จะได้เริ่มต้นใหม่ไปพร้อมกันจริงๆ เราถึงอยู่ได้แบบไม่เหงาชิลและมีความสุข ยังจำได้อยู่เลยตอนปี 1 นอนเตียงล่างเตียงบนเป็นเด็กศึกษาศาสตร์ ชอบเรียกเค้าว่า"คุณครู" คนนี้น่ารักมากเคยมีครั้งนึงป่วย เมทคนนี้พาไปศูนย์แพทย์ช่วยจัดการให้ทุกอย่างเลย ซึ้งมากหงะ TT เตียงข้างๆเป็นเด็กพละที่เรียนเอกสาสุข คนนี้อ่านหนังสือดึกๆด้วยกันตลอด ยันเช้า ฮ่าๆ อีกคนเด็กสังคม ไม่ค่อยสนิทนะแต่เค้าก็น่ารักมากๆ ส่วนตัวพี่เจอมาหมดนะ แม้กระทั่งผีหอใน!!!! ฮ่าๆๆ เอาหละ ขอให้น้องๆที่กำลังจะเข้าที่นี่เป็นไปตามอย่างที่น้องหวังนะจ๊ะ พี่รอน้องอยู่องครักษ์นะ
นิสิต มศว คณะวิศวกรรมศาสตร์ ปี 4 ^^ (กำลังจะขึ้นปี4หงะ แก่จุง ><)
พี่ยอมรับเลยว่าองค์ สวยมากกดดด พี่กลับมาบ้านแทบร้องไห้น้ำตาแตก ถ้าไม่ติดว่าเมทมาโชคร้าย พี่จะไปเยี่ยมทุกอาทิตย์เลย
ก็น่าอยู่นะ >///////<
ของกินเยอะเลย มีตลาดด้วย มี starbuck เซเว่น ตึกไข่ดาว ตำนานนู่นนี่
# Welcome to Prasanmit ด้วยนะ !!!
จากใจ พี่ มศว ประสานมิตรครับ ! ^^
พูดเลยว่าถ้าเข้ามาอยู่แล้วจะไม่อยากออก แอลซีคนไหนเนี่ยย
พี่ก็จบจากมศวจ้า เรียนองครักษ์4ปีเลย
ทำงานมา2ปีเข้าปีที่3แล้ว
เห็นกระทู้นี้บอกเลยต้องกดเข้ามาอ่าน
พออ่านแล้วก็คิดถึงองครักษ์ขึ้นมาทันใด
อ่านจบแล้วรู้สึกแก่มาก 555
เคยเข้าไปรับพี่ที่องครักษ์ตอนพี่ออกหอค่ะ คือบรรยากาศหอน่าอยู่มากกกกกกกกก จำได้ว่าวันนั้นเห็นแล้วอยากเข้ามหาลัยเลย
พอขึ้นไปช่วยพี่ขนของพี่ก็แนะนำ คนนี้เมทพี่เราก็สวัสดี เดินไปสักพักก็บอกคนนี้เมทพี่ คนนั้นด้วย เดินเข้าห้องไปเจออีกก็บอกเมทพี่อีก(ตอนนีั้นคิดในใจ มีเมทกี่คนเนี่ย- -)
แต่น่าอยู่จริงๆค่ะ เป็นมหาลัยที่เราอยากอยู่หอใน แต่เสียดายปีนี้เป็นเด็กแอดและอยากเข้าที่อื่นมากกว่า อดเลยTT
หนูสอบตรงติดมศวคณะสังคมการท่องเที่ยวแลัว ตื่นเต้นมากอ้ะ กลัวได้เมทไม่ดี เข้ากับคนไม่ค่อยเก่งด้วยT0T แต่อยากไปเร็วๆมีแต่คนบอกว่าไปแล้วไม่อยากกลับ 5555
ขอบอกว่าแฟชั่นกางเกงเลมรมาตั้งกะปี 39 อะครับน้อง
พี่เป็นคนหนึ่งนะครับที่ได้เรียนที่องครักษ์และประสานมิตร รหัส 50
แต่อยากบอกว่า อคร สุดยอดจริง ๆ ครับ
ตอนแรกคิดว่าจะอยู่ไม่ได้ แต่พอจะได้เข้าประสานมิตรแทบไม่อยากจากองครักษ์เลย
...
แต่สิ่งที่พี่ยกให้เป็นที่สุดของที่สุดของ มศว องครักษ์ เลยก็คือ
1.รถตู้เข้าฟิวและรถบัสเขียว
เกือบร้อย% อยากนั่งรถตู้และยอมต่อคิวยาวเพื่อได้นั่งรถตู้ และถ้าไม่จำเป็นจริง ๆหรือรถบัสไม่วิ่งป้ายเดียว ก็จะขึ้นโดยเด็ดขาด เพราะว่าช้ามาก ไม่ทันใจ 555+
2.อ๊อกตะ ถือเป็นสถานที่นัดพบและทำกิจกรรมเกือบทุกคณะ ทุกเอก ถ้าเอกไหนมาเร็วก็จะได้ครอบครองพื้นที่นั้นไป และถ้าเอกไหนไปช้าอย่างดีก็จะได้ทำกิจกรรมตรงด้านข้างอ๊อกตะ
...
ที่เหลือก็มีอีกมากมาย รอเม้นต์ต่อไปมาต่อนะครับ
คณะเราไม่มีความเชื่อแบบนี้ค่ะ แต่มีความเชื่อว่า ลอดใต้ป้ายจะเรียนไม่จบ ซึ่งเราก็ลอดแม่มมทุกป้ายย 55555
เอ้อๆๆอยากรู้ จขกท.น้องแอลซีคนไหนคะเนี่ยย 55555
หนูก็ติดคณะวิศวะ มศว เหมือนกันค่ะ หนูเอกชีวการแพทย์ พี่เอกอะไรอ่ะคะ
เราเพิ่งสอบได้ที่นี่ คณะแพทย์ศาสตร์ 15-21 นี้ต้องไปเข้าค่ายที่องครักษ์ด้วย แต่รู้จักรุ่นพี่และเพื่อน ๆ เยอะแล้ว จะบอกว่า อบอุ่นมาก เพื่อนน่ารัก พี่ก็น่ารักมาก กกกก ประทับใจ พี่ยุ้ย ปี 2 พี่เขาน่าจะเรียนศิลปศาสตร์และแพทย์ คนอะไรวาดรูปเก่งมาก แต่มาเรียนแพทย์ เดี๋ยวกลับจากค่ายจะมาเล่าให้ฟังว่าบรรยากาศเป็นยังไงบ้าง นะ นะ ..
ดูแล้วคิดถึงองมากจ้า น้ำหนักขึ้นเนี่ยเรื่องจริง
บอกจากใจเลย องครักษ์นี่มันสุขขีที่สุดละ ปรับตัวได้ มีเพื่อนแล้วจะมันมากๆ (จากใจเด็กวิศวะ ป.ล.กำลังขึ้นปี2)
อ่านแล้วคิดถึงองครักษ์จริงๆ ตอนนี้ขึ้นปีสามแระ มาอยู่ประสานมิตรไม่ค่อยจะมีเวลาได้คุยกะเพื่อนเลย เรียนเสร็จต่างคนต่างกลับ คิดถึงตอนเย็นๆ ปั่นจักรยาน ให้อาหารปลา ถ่ายรูปกะเพื่อนๆ ที่สำคัญอยู่องครักษ์เรียนแปดครึ่งตื่น แปดโมงยังทัน แต่ประสานมิตร เรียนเก้าโมงต้องตื่นตั้งแต่เจ็ดโมง^^
หนูอยากเป็นนิสิตที่นี้มากเลยค่ะ
ขอให้หนูติดดดด อยากไปอยู่องค์รักษ์แล้วววว5555
แมวน่ารักอะพี่
อยากฟังเรื่องผีอะพี่
นี่ชั้นรู้ละว่าเจ้าของกระทู้คือใคร....555
รูปที่ไหว้ป้ายนั่น ตอนนี้เค้าอยู่เมกาละ โอ้ยยยย พูดมาละคิดถึงองค์ง่ะ
องค์ง่ะ
มหาวิทยาลัยในฝันของผมเลย TT //แอบเสียดายที่ต้องไปนอนหอ เพราะบ้านอยู่ห่างจากมศวนิดเดียวเอง -3- แต่มองในแง่ดีก็เป็นสิ่งที่ทำให้มีมิตรสัมพันธ์กับเด็กต่างคณะกันได้ล่ะนะ
จิงๆ เราเหนด้วย ตอนปี1 รุ่นพี่บอกให้ไหว้ป้ายด้วยความไม่รุ้เราก้ ไหว้ตามจนตอนนี้ก้อ 2 ปีแล้ว เรายังคบกับรุ่นพี่คณะที่เราไหว้วันนั้นยุเรย5555
เราก็ปีเดียวกะ จขกท เลย ฮ่าๆๆ เขียนดีๆ
เราป็็นคนนึงที่ ตอนแรกไม่อยากอยู่ แต่พออยู่แล้วไม่อยากกลับเลย
วันไหนตื่นมาสาย คลาสจะเริ่มแล้ว ไปเลยจ้า เข้าทันแน่นอน
อยากเข้ามศว ประสานมิตร อ่าาาาา
เอกอะไรน้าาาาาาา~~~~ หน้าตาดีทุกคนเลย อิอิ
น่าเรียนจัง แต่ไม่รู้จะติดไหม
เจ้าของกระทู้อยู่ LC ป้ะ 5555555
คณะวิทยาศาสตร์ ปีนี้เรียนที่ประสานมิตรใช่ไหมคะ
เห็นพี่ที่คณะบอกมาอย่างนั้น
หนูก็เป็นหนึ่งในรุ่นน้องของพวกพี่ๆนะคะ ^^
คณะวิทย์ เรียนที่ประสานมิตร ตลอดนะตัวเอง
คนที่จับแมวก็น่ารักน้าา
พี่เอกภาษาเพื่ออาชีพจ้าา
ถ้าสนใจเข้าไปดูกระทู้นี้ได้นะ^^ เป็นกำลังใจให้น้องทั้งคู่นะคะ
http://www.dek-d.com/board/view/3122263/
อย่าเพิ่งท้อน้าาา สู้ๆจ้า!!
ส่งข้อความลับมาได้เลยจ้าาา^^
หรือถามในเม้นก็ได้นะ พี่เข้าเด็กดีบ่อย
อยากฟังด้วยคน ตั้งแต่อยู่มาหนูยังไม่เคยเจอเลย ><
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?