Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

สังคมมหาวิทยาลัย ดีหรือแย่กว่าตอนมัธยมยังไงบ้างครับ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
อยากถามพี่ๆ ที่ตอนนี้เรียนอยู่มหาวิทยาลัยน่ะครับว่า พอพี่ๆ จบ ม.ปลาย แล้วขึ้นมหาลัยแล้ว สังคมในมหาลัยแตกต่างจากตอนอยู่ ม.ปลายมากมั้ยครับ

คือมีรุ่นพี่มาเล่าให้ฟังว่า สังคมมหาลัยมันเปลี่ยนจากตอน ม.ปลาย โดยสิ้นเชิง สังคมซับซ้อนขึ้น เพื่อนจะไม่ใกล้ชิดกันมาก ต่างคนต่างอยู่ ตัวใครตัวมัน หรือแยกกันเป็นกลุ่มๆ บ้าง ฯลฯ

ก็เลยอยากจะมาถาทชาวบอร์ด dek-d ที่เรียนมหาลัยแล้วมาเล่าให้ฟังหน่อยครับว่า 

พออยู่มหาลัยสังคมเปลี่ยนไปจากตอน ม.ปลายบ้าง

เรื่องไหนที่ดีขึ้น ?

เรื่องไหนที่รู้สึกแย่ลง?

เอาทุกเรื่องนะครับ ทั้งเรื่องเพื่อน การปรับตัว การใช้ชีวิตในคณะ ฯลฯ

ขอบคุณมากครับบบ

แสดงความคิดเห็น

>

110 ความคิดเห็น

Boww 16 ก.ค. 57 เวลา 19:00 น. 1

สำหรับพี่นะ

" เพื่อนแท้จะหาได้จากตอนมัธยมเนี่ยแหละ สังคมมหาลัยมีแต่ใส่หน้ากากเข้าหากัน "
เรื่องเพื่อนพี่อาจจะโชคร้าย เพื่อนไม่โอเลยอ่ะ
เหมือนตัวใครตัวมัน แอบแข่งกันอยู่ลึกๆ
ขนาดกลุ่มเดียวกันยังแอบอิจฉากันเลย
ปากก็พูดดีนะ แต่ลึกๆแล้วเราก็รู้สึกว่าเขาไม่จริงใจ

เวลาเรามีปัญหาพี่ก็โทรหาเพื่อนสมัยมัธยมตลอดเลย
เขาเต็มใจช่วยเราเต็มที่ จริงใจ
อาจจะเพราะผ่านอะด้วยกันมาเยอะ

ส่วนเรื่องอื่นๆ ของพี่มันไม่ต่างจากตอนมัธยมเท่าไหร่
เพราะคณะพี่เป็นคณะเล็กๆ มีคนน้อย
ระยะห่างกับอาจารย์เลยจะไม่ต่างจากตอนมัธยมมากนัก

จะต่างนิดหน่อยก็ระบบรุ่นพี่รุ่นน้อง
แต่ก็ไม่ได้หนักหนาอะไรสำหรับพี่ อาจจะเพราะพี่ได้พี่รหัสดีด้วยแหละ
ส่วนพี่ๆคนอื่นๆ เจอก็ไหว้สักหน่อย ทักทายบ้าง พอเป็นมารยาท

0
~_~ กระเบื้องสีฟ้า~_~ 16 ก.ค. 57 เวลา 11:47 น. 3

สังคมมหาวิทยาลัย เป็นสังคมที่ค่อนข้างโตมากกว่าโรงเรียนมัธยม

เมื่อมันใหญ่กว่า แน่นอนความใกล้ชิดสนิทสนมกับเพื่อน ก็จะน้อยกว่า

บอกเลย อยู่มหาลัยนี่ แทบเหมือนตัวใครตัวมัน มีบ้านที่มีเพื่อนในกลุ่มที่คอยพากันเรียน

แต่ก็ไม่เหมือนมัธยมอยู่ดี 

อยู่มหาลัย อิสระเสรีเยอะกว่าสมัยมัธยม จะเรียนจะโดด ทำได้ง่ายกว่า 

ไม่มีอาจารย์คอยจี้ให้ส่งงาน หรือทำงาน หรือคอยจี้ให้เข้าเรียนเหมือนมัธยม

พี่ว่านั่นอาจเป็นข้อเสียก็ได้ แต่ถ้ามองอีกด้าน สิ่งนี้นี่ล่ะ ที่จะทำให้เราโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ไม่ใช่เด็กอีกต่อไป สามารถที่จะจัดการกับชีวิตตัวเองให้ได้ 

ถ้าจัดการดี ก็ดีไป แต่ถ้าไม่ ก็เหลวเป๋วกันทั้งนั้น

อยู๋มหาลัย กิจกรรมเยอะ โดยเฉพาะเด็กปีหนึ่ง เข้ามากิจกรรมเยอะมาก และน้องบางคนก็หลงเพลินไปกับกิจกรรมจนลืมอ่านหนังสือก็มี เพราะกิจกรรมเยอะ เวลาผ่านไปเร็วมาก แป๊ปๆก็สอบมิดเทอมแล้ว 

การเรียนมหาลัย ไม่เหมือนในมัธยม สิ่งที่เรียน กับสิ่งที่สอบ สิ่งที่เรียนก็สอบ สิ่งที่ไม่เรียนก็สอบ ตอนพี่อยู๋มัธยม จะอ่านหนังสือไม่เยอะมาก ก็สามารถทำข้อสอบได้ แต่พออยู่มหาลัย ไม่อ่านคือ ตายอย่างเดียว ไม่อ่านไม่ได้เด็ดขาด ต้องไปอ่านเพิ่ม เพราะสิ่งที่ออกข้อสอบ จะออกมากกว่าที่เรียน ยุบยิบเต็มไปหมด เรียนมหาลัยบอกเลยต้องขยัน

สังคมเพื่อน เป็นอะไรที่บอกได้เลยว่า ตัวใครตัวมัน หายากที่จะมีเพื่อนแบบมัธยม(ที่ไม่ใช่เป็นเพื่อนกันยาวมาตั้งแต่มัธยมจนมหาลัยนะ)

ที่สำคัญสังคมใหญ่ การรู้จัก เข้าถึงก็จะยากขึ้น จึงเป็นช่องโหว่ให้มิจฉาชีพเข้ามาหากินได้ บางครั้งมิจฉาชีพเข้ามาแฝงตัวกับเราหลายเดือน จนหลงเชื่อ แล้วหลอกเอาเงินไป การตรวจสอบก็ยิ่งทำได้ยาก เพราะสังคมมันใหญ่

เอาเป็นว่า ชีวิตมหาลัย ค่อนข้างจะต่างกับมัธยม ใช้ชีวิตอย่าประมาท มีสติ และตนเป็นที่พึ่งแห่งตนให้มากที่สุด เพราะมหาลัยเราต้องยืนด้วยลำแข้งตัวเอง

0
เจเจ 16 ก.ค. 57 เวลา 11:50 น. 4

พอไปแล้วจะคิดถึงเพื่อนมัธยมทันที เพื่อนมหาลัยเท่าที่เจอกับตัวเองส่วนมากเห็นแก่ตัว ยิ่งเป็นเพื่อนในคณะด้วยนะ แบบจะคบกันคุยกันเพราะผลประโยชน์ มัธยมดีสุดแล้ว เพื่อนแบบเพื่อนจริงๆไม่มีผลประโยชน์ฮือฮือ

0
TIME 16 ก.ค. 57 เวลา 11:52 น. 5

สังคมมหาวิทยาลัยจะต่างกับสังคมมัธยมแนานอนอยู่แล้วครับ
แต่ส่วนหนึ่งก็ขึ้นอยู่กับเราด้วยว่าจะเลือกคบเพื่อนแบบไหน
เพราะการคบเพื่อนเป็นปัจจัยหลักๆที่จะเปลี่ยนชีวิตการเรียนมหาวิทยาลัยของเรา
มันก็ขึ้นอยู่กับน้องว่าอยากได้สังคมแบบไหนเพราะน้องสามารถเลือกสังคมที่ต้องการในหมหาวิทยาลัยได้
ทุกๆมหาวิทยาลัยล้วนมีสังคมที่แตกต่างมากมายปะปนกัน ติดดินบ้าง หัวสูงบ้าง บลาๆๆๆ

เรื่องที่ดีขึ้นสำหรับพี่ตั้งแต่เข้ามเรียน พี่ได้ประสบการณ์มากมายจากการเรียนการสอน ได้รู้จักเพื่อนที่ดี ได้ความท้าทายชีวิต เพราะพี่ต้องจัดการบริหารชีวิตตัวเอง รับผิดชอบชีวิตตัวเองให้ได้ บลาๆๆๆ

เรื่องไม่ดี พี่ว่ามันขึ้นอยู่กับตัวเรานะ อย่างเช่นพี่ เพื่อนพี่ก็ดูดเนื้อ เที่ยวบ่อย แดกเหล้าแม่งทุกวัน แต่พี่ก็เลือกที่จะไม่ทำได้ เพราะพี่มองว่ามันก็ไม่ได้ส่งผลดีอะไร

แต่ช่วงปี1มันก็ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อแหละ เหมือนยืนอยู่ตรงทางแยก ต้องเลือกสังคมถูก ดูเพื่อนให้ดี ถ้าได้เพื่อนดีมันก็จะไม่ต่างจากสังคม ม.ปลายนักหรอกครับ

พี่ต้องตรงประเด็นมั้ยอ่ะ 55555 ท่ดๆนะถ้าไม่ตรงประเด็น

0
fabio lasvegas 16 ก.ค. 57 เวลา 11:56 น. 7

คำตอบนี้ แล้วแต่มหาวิทยาลัยที่เราอยู่เลยครับ ส่วนสังคมในมหาวิทยาลัยแต่ละคนจะดีไม่ดี อยู่ที่ตัวของบุคคลนั้นๆอ่าคับ
ถ้าถามเป็นการส่วนตัว สำหรับเรา มัธยม มันคือ สังคมที่เราโดนบังคับให้ทำโดยเราขัดขืนไม่ได้ แต่มันก็ยังดี เพราะยังมีผู้ร่วมชะตาเดียวกันกับเรา คือ เพื่อนๆของเรานี้แหละคับ แต่ มหาวิทยาลัย สังคมไม่มีกรอบ เราเป็นอิสระ ปีหนึ่งเราอาจถูกรุ่นพี่ลงระเบียบ แต่พอเราขึ้นปีสองเราเป็นรุ่นพี่เราก็เลือกได้ว่าเราจะทำอะไรกับปีที่เหลืออยู่ในชีวิตมหาวิทยาลัย ของเรา เหมือนๆว่าปีหนึ่งเป็นการละลายพฤติกรรมจากนักเรียนต่างสถาบันมาอยู่ร่วมกันเป็นนิสิตนักศึกษาของมหาวิทยาลัยนั้นๆ เพราะสังคมมหาวิทยาลัย เป็นการจำลองสังคมจริงๆแบบย่อเล็กลงมา ซึ่งจะดีหรือร้ายอยู่ที่เรากำหนดละคับ ไม่มีใครกำหนดให้เราได้เหมือน มัธยม

 

0
Narashi 16 ก.ค. 57 เวลา 11:57 น. 8
ไม่ได้สวยงาม

ไม่ได้โหดร้าย

แต่ใกล้เคียงกับชีวิตจริงที่สุด

ชีวิตมหาวิทยาลัยอยู่ที่เราเองจะเลือกเดินแบบไหน
0
Pornrat D. 16 ก.ค. 57 เวลา 12:00 น. 9

สำหรับพี่ ตามความรู้สึก มันต่างจากมัธยม
มัธยมเราเล่นได้มากกว่า รู้สึกสนุกไม่เครียด
เรื่องเรียนมัธยม 0 ร พี่ว่ามันไม่เครียดเท่า U I ของมหาลัย
พี่ว่ามันน่าเครียดมาก จริงๆ แค่ต่ำกว่า C ก็มีผลกับเกรดมากอ่ะ
เพื่อนพี่หลายคนลุ้นเกรดตัวสุดท้ายกัน แบบมันเสี่ยงมาก
อย่างที่ คห บนบอก สังคมใหญ่ขึ้น และเพราะเราโตแล้วคิดเองได้
แต่ถ้าเราคิดไม่ได้ เพราะไม่มีคนคอยบอก เราจบอ่ะ
แต่เรื่องเรียนพี่ไม่มีปัญหา เพราะเป็นสิ่งที่ชอบและถนัด
ส่วนสังคมเพื่อนรุ่นพี่ สำหรับสาขาพี่ พี่โอเคนะ
เราอยู่เป็นครอบครัว อย่างเพื่อน มันอาจจะไม่สนิทใจเท่ามัธยม
ถึงจะแยกเป็นกลุ่ม แต่พี่ว่ามันก็พากันรอดได้
เพราะสาขาพี่ยังมีนัดติวก่อนสอบ นัดสรุปย่อกัน 
ถึงจะแบ่งเป็นกลุ่มๆ แต่ก็ทั่วถึง มีรุ่นพี่มาช่วยติวด้วย
แต่ก็อาจจะมีคนบางส่วนที่ไม่มา จนเขาอาจจะหายไปน่ะนะ
ดังนั้นมันอยู่ที่คนว่าเราจะคิดได้หรือเปล่าอ่ะ
สำหรับพี่เรื่องเรียน เรื่องสังคม พี่ว่ามันเท่าเดิม ไม่ดีขึ้นแต่ก็ไม่แย่ลง
เพราะพี่มีความสุขทั้งตอนนั้นและตอนนี้ 
ปล. หนังสือมหา'ลัยพี่ก็ไม่ค่อยได้อ่านนะ
แต่จะตั้งใจเรียนในห้องฝึกทำบ่อยๆไรงี้
ทำงี้ตั้งแต่ประถมล่ะ ให้ไปนั่งอ่านมากมายเหมือนคนอื่นมันจำไม่ได้

0
TOP+TAEYANG 16 ก.ค. 57 เวลา 12:01 น. 10

แล้วแต่คณะ แล้วแต่มหาลัยฯครับ น้อง ไม่เหมือนกัน ขนาดในคณะเดียวกันเอง สังคมยังไม่เหมือนกันเลย 

0
Nitro 16 ก.ค. 57 เวลา 12:04 น. 11

อยู่มา 3 ปี มีเพื่อนหลายกลุ่มมากครับ แต่ส่วนใหญ่จะเจอดีๆนะครับแล้วเป็นห่วงเราจริง แต่ที่แย่ๆก็คือ ใส่ร้าย โบ้ยคงามผิด เห็นแก่ตัว ชิงดีชิงเด่น ประมาณนี้นะครับ ผมว่า สังคมในมหาลัยก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิดนะครับ ขอแค่เจอเพื่อนดีๆจริงใจแบบที่ผมเจอแค่นี้ก็แฮปปี้แล้วครับ ส่วนคนที่ทำตัวแย่ๆกับเราคือพวกนั้นก็ไม่ต้องไปสนใจครับ บอกได้เท่านี้แหละ สังคมไม่ต่างกันมากคับ

0
เด็กหอ 16 ก.ค. 57 เวลา 12:06 น. 12

พออยู่มหาลัยสังคมเปลี่ยนไปจากตอน ม.ปลายบ้าง?

-เอาง่ายๆอยู่มหาลัยต้องดูแลตัวเองทุกอย่างตั้งแต่ตื่นยันหลับ
สำหรับคนที่อยู่หอนะจะไม่มีใครมาปลุกไปเรียนต้อง ไม่มีใครทำกับข้าวให้ ต้องดูแลตัวเองทุกอย่าง
ซึ่งไม่เหมือนตอนมอปลายที่มีพ่อแม่มาทำให้
ส่วนเรื่องเพื่อน เราว่าไม่ต่างนะ เอ๊ะ หรือต่าง มันแล้วแต่คนแล้วแต่สังคมนะอันนี้เราว่า
ส่วนตัวเราอยู่มหาลัยก็มีเพื่อนสนิทที่ดี นิสัยดีทั้งนั้น เพื่อนที่ไม่สนิทมีมั้ยก็มี สังคมมหาลัยมันกว้าง
ห้องนึงไม่ได้มีเรียนแค่ 30 40 คนเหมือนมัธยม ห้องนึงบางทีเรียน 100 กว่า ต่างคณะ ต่างสาขากันไป
ไม่เหมือนมัธยมที่จะเจอกันทุกวันเรียนวิชาเดียวกันตั้งแต่เช้ายันเย็น อยุ่ด้วยกันตลอด 3 ปี 6 ปี มันไม่ใช่
เพือนในมหาลัยแม้จะอยู่เจอร์เดียวกันก็จริง แต่ก็ใช่ว่าจะเรียนตรงกันทุกคาบ บางคาบก็เรียนคนละหมู่ บางคาบก็เลือกเรียนคนละอย่าง พวกวิชาเจอร์งี้บางทีก็เรียนกันคนละหมู่ เจอกันจริงๆก็ตอนเรียกรวมแหละ ถามว่าทุกวันนี้เราสนิทกับเพื่อนทุกคนมั้ย ก็ตอบว่าไม่ แต่ตอนมอปลายเราสนิทกับเพื่อนทั้งห้องนะแต่พออยุ่มหาลัยเรารู้สึกว่าแค่มีเพื่อนสนิทดีๆไม่กี่คนก็พอแล้ว บางคนไม่สนิทก็ช่างแม่งเหอะ อย่าไปแคร์อะไรมา ว่าชัั้นต้องมีเพื่อนเยอะ การมีเพื่อนเยอะเป็นเรื่องดี แต่การมีเพื่อนดีมันดีกว่าเยอะ
นี่คือความคิดเรานะ คนอื่นเราไม่รู้

อ้อ อีกเรื่อง อยุ่มหาลัยอาจารย์จะมีบทบาทในชีวิตเราน้อยลงกว่ามอปลาย เราจะเจออาจารย์แค่ช่วงที่เรียนในคาบกับตอนที่พบที่ปรึกษาเท่านั้น ส่วน รุ่นพี่จะมีบทบาทมากขึ้นในชีวิตเรา แต่ก็ไม่ได้แย่อะไรนะ เราก็อยู่กันแบบพี่น้องมีอะไรก็ช่วยเหลือกัน ^^






0
cnb4 16 ก.ค. 57 เวลา 12:08 น. 13

กิจกรรมอย่าหักโหมเกินไป ดูเพื่อนให้ดี มีเพื่อนหลายแบบมาก เพื่อนในคณะ เพื่อนเรียน เมท เมทนี่เหมือนครอบครัว เพราะกินนอนด้วยกัน มิดเทอมตั้งใจให้มากๆ เพราะคะแนนมิดเทอมแถบกำหนดเกรดได้เลย อย่าโดดเรียน เพราะข้อสอบอาจไม่ได้อยู่ในหนังสือ หรือชีท เสมอไป เพื่อนหรือพี่ชวนไปกินไปดื่ม ถ้าเป็นคนไม่ดื่ม บอกไปเลยว่าแพ้แอลกอฮอล์ เพื่อนพี่เรียนมัยมมาด้วยกันอยู่วิศวะเครื่องกล มันบอกเลยว่าแพ้ ทั้งๆที่ไม่ได้แพ้ เพื่อตัดปัญหา เข้ามาใหม่ๆโดนชวนบ่อยมาก ก็ปฏิเสธๆไป ทั้งนี้สังคมมหาลัยในความคิดน้อง จะดีหรือไม่ดี อยู่ที่ตัวเราทำ สู้สู้

0
snookkermomo 16 ก.ค. 57 เวลา 12:09 น. 14

ทุกอย่างไม่อยากเท่ากับสังคมเพื่อนนะ เพราะมหาลัยเนี้ยมีคนมาจากหลายสังคม
อย่างที่เขาว่าแร่ะจ้า การสอบเข้าว่ายากแล้ว การมีเพื่อนที่จริงใจนี่ยิ่งยากกว่า
เพราะมันมีทั้งคนที่ดีกับคนที่ไม่ดีเยอะแยะไปหมด อยู่ที่ตัวน้องนะว่าจะเลือกคบคนแบบไหนหรือถ้าเลือกคบแล้วน้องเลือกที่จะทำตามเพื่อนไหม ส่วนเรื่องการเรียนถ้าน้องขยัน ตั้งใจอ่านหนังสือพี่ว่าผ่านได้สบายๆอยู่แล้ว สู้ๆนะจ๊ะ
พี่ว่าน้องผ่านปัญหาพวกนี้ไปได้อยู่แล้วนะ รักเลย

0
fuse18441 16 ก.ค. 57 เวลา 12:16 น. 15
--- เรื่อง 'ความเป็นอิสระ' ---
ชีวิตมหาวิทยาลัย ไม่มีใครคอยบอกต้องมาเรียนนะ ห้ามมาสาย มหาวิทยาลัยบางวันเรียนเช้า บางวันเรียนบ่าย บางวันไม่มีเรียน (บางมหาวิทยาลัยไม่เช็คชื่อ)น้องอยากมาเรียนก็มาเรียน แต่อาจารย์จะเช็คเวลาเรียน ดังนั้น!!ควรดูแลตัวเองมากๆ ทรงผมอยากไว้ทรงไหน สีอะไร ตามสบาย

--- เรื่อง 'เพื่อน' ---
เพื่อนมัธยมดีขนาดไหน สนิทกันขนาดไหน รักกันขนาดไหน จงเก็บความรู้สึกดีๆที่มีต่อเพื่อนเอาไว้และเป็นเพื่อนกันไปให้นานๆเพราะชีวิตมหาวิทยาลัย เพื่อนไม่ได้หาง่ายขนาดนั้น มีแต่คนเห็นแก่ตัว มีแต่เพื่อนกิน 

--- เรื่อง 'เรียน' ---
เวลาเรียนในโรงเรียนมัธยม อาจารย์จะคอยถีบ ดัน ตามงาน บังคับให้ส่งงาน แต่ในชีวิตมหาวิทยาลัยอาจารย์ไม่ตามงานเลย ส่งเสร็จกำหนดวันส่ง ส่งก็ส่ง ไม่ส่งก็ไม่ส่ง อย่างที่ความคิดเห็นข้างบนบอก เกรดต้องประคองไม่ให้ต่ำกว่า  C เพราะต่ำกว่านั้น กดเกรด กดจริงๆ มหาวิทยาลัย ส่วนมากเราเรียนในห้องครึ่งนึง อีกครึ่งเราต้องค้นหา เรียนรู้ด้วยตัวเอง 

ดังนั้น ในชีวิตที่เราต้องโตขึ้นทุกวัน และสังคมสมัยนี้ก็มีภัยอยู่รอบตัว เราจึงต้องรู้จักเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตให้มีความสุข ปลอดภัย และรู้เท่าทันคน อย่ากลัวที่จะต้องพบเจอโลกที่เรายังไม่เคยเจอ แต่จงตั้งสติ และมีสติอยู่เสมอ ดูแลตัวเองให้ได้ เพราะชีวิตจริง ชีวิตการทำงาน ยังต้องเจอสังคมที่วุ่นวาย มากกว่า ในรั้วมหาวิทยาลัย ส่วนการทำกิจกรรมของมหาวิทยาลัย เป็นส่วนเสริมสร้างประสบการณ์ มิตรภาพ ความคิดสร้างสรรค์ การทำงานเป็นกลุ่ม การเรียนจึงควรควบคู่กับการทำกิจกรรม การจะประสบความสำเร็จในชีวิต ไม่ใช่ว่าเรียนเพื่อจะรับใบปริญญาเพียงอย่างเดียว การนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับในรั้วมหาวิทยาลัย ไปใช้ในชีวิตประจำวันนั้นต่างหาก เราถึงจะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตจริง 

สู้นะคะ
0
Mirine1995 16 ก.ค. 57 เวลา 12:35 น. 16

ถึงเราจะอยู่มหาลัยมาแค่ปีเดียวนะ แต่เรารู้สึกว่าชีวิตมันเปลี่ยนไปเยอะเลย เรายอมรับว่าเป็นคนความคิดเด็กนะบางที ติดบ้าน แต่พออยู่มหาลัย มันต้องไปอยู่หอ ไปไกลบ้าน รับผิดชอบชีวิตตัวเองทุกอย่าง จัดสรรเงินในแต่ละเดือนให้พอดี มันเหมือนฝึกให้เราโตขึ้นอ่ะ ตอนรับน้องมันสนุกมากๆ พอมาหลังๆเรียนหนัก เกือบปรับตัวไม่ทัน สิ่งที่เราเรียนคือมันต้องสอบทุกอาทิตย์ เราต้องอ่านหนังสือ ท่องศัพท์ เตรียมบทเรียน บอกตามตรงว่าตอนแรกเหนื่อยมาก แต่เริ่มชินละ 55555 เรื่องเพื่อนเราโอเคนะ มันอยู่ที่เรามากกว่าว่าจะเลือกคบคนแบบไหน แต่จะหวังว่าให้มาสนิทเหมือนมัธยมมันคงไม่ได้ ถึงเราจะอยากสนิทกับเค้ามาก 55555 เราอยู่ด้วยกัน เจอหน้ากันทุกวัน แต่ความเปนจริงเราอาจยังไม่รู้จักเค้าจริงๆก็ได้ รวมๆแล้วมันก็เป็นชีวิตที่สนุกนะ ทางเดินชีวิตมันอยู่ที่เราเลือกว่าจะเป็นคนแบบไหน รับผิดชอบชีวิตตัวเองให้ได้ สนุกเต็มที่ได้แต่อย่าให้เสียการเรียน ขอให้สนุกกับชีวิตมหาลัยนะ ^^ 

0
(โค่น)ต้นไม้ 16 ก.ค. 57 เวลา 12:46 น. 17

สังคมมัธยมดีกว่าเยอะอ่ะ อย่างน้อยเพื่อนก็ไม่เฟค
ที่น่าเบื่อคือจะบ้ากิจกรรมไปไหน ไม่เข้าใจ

คืออยู่มหาลัยต้องปรับตัวหลายอย่างมากอ่ะ ช็อค สู้ๆละกัน

0
เหนื่อยแต่สู้ 16 ก.ค. 57 เวลา 12:55 น. 18

ของพี่ไม่เปลี่ยนเท่าไหร่ มีแต่เด็กช่างเหมือนเดิม นอกจากเด็กแอดปีละไม่กี่คน ที่เปลี่ยน การแข่งขันสูง ทรมานกับการอ่านหนังสือทุกวัน เพราะตัดเกรดโหดต้องตั้งใจ เหนื่อยกว่าเรียนปวช.ที่ไม่ต้องอ่านหนังสือก็ทำข้อสอบได้ เฮ้อ

0
- เซเคะ ? 16 ก.ค. 57 เวลา 13:14 น. 19

เราไม่แฮ็ปปี้กับชีวิตมัธยมเท่า เลยรู้สึกว่าการใช้ชีวิตในมหาลัยมันแฮ็ปปี้

จริงๆมันก็ไม่มีอะไรซับซ้อน แค่เราเจอคนที่ต่างไปจากที่เคยเจอ มันก็เลยดูซับซ้อน พอปรับตัวได้มันก็ไม่ต่างจากมัธยมเท่าไหร่หรอก ก็แค่ไม่มีครูคอยกดดันให้เข้าเรียน ไม่มีครูเตือนให้ส่งงาน(แต่เรามีเพื่อนเตือน) ต้องรับผิดชอบตัวเองอ่ะ

สำหรับเราที่แย่คือการรับน้อง ไม่สนุกสักนิด ไม่เห็นเหมือนที่ใครๆ ว่ากันเลย การเข้าหน้ารุ่นพี่เป็นอะไรที่เกลียดมากอ่ะ รุ่นพี่คนไหนเราไม่สนิทก็เดินหนีเลยอ่ะ

เชื่อเถอะ ถ้ามีเพื่อนดีๆ มีรุ่นพี่ดีๆ เจอคนดีๆ มันก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไร คิดซะว่าแค่ย้ายโรงเรียนไป เพราะเพื่อนที่เราจะเจอ ก็คนที่ขยับมาจากระดับมัธยมเหมือนเรานั่นแหละ

ปล.คนเฟคๆ มันมีทุกสังคมค่ะ อย่าไว้ในใครให้มากเกินไป

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

เว็บไซต์ Dek-D.com ขอสงวนสิทธิ์ในการงด โพสต์ข้อความซื้อ/ขาย/แลกเปลี่ยน/โฆษณา สินค้าทุกชนิดในเว็บบอร์ด เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้ใช้งานท่านอื่น

bun sky 16 ก.ค. 57 เวลา 13:19 น. 21

มันอยู่ที่ว่าน้องเลือกเพื่อนยังไงด้วยนะ สำคัญมาก
เพราะเพื่อนช่วยให้เราเรียนไปได้ดีมาก

แต่ก็อยู่ที่ตัวน้องว่าตั้งใจเรียนแค่ไหน

แต่ถามพี่แล้ว ม.ปลาย เป็นอะไรที่สนุกสุด ชิวสุด คุณครูใจดีสุด ได้เดินเรียนแอบมองคนที่เราชอบ มีจับของขวัญปีใหม่

พี่คงไม่ลืม เพราะ
ทุกวันนี้ พี่ก็อยากกลับไปเรียนม.ปลายใหม่ 

ตอนม.ปลายพี่ก็เรียกร้องหาอิสระ พอมาเจอในมหาลัย
ส่วนตัวพี่ไม่ชอบสังคมมหาลัยนะ มันอิสระเยอะ แต่ก็ไม่สนุกเลย 
คือมันไม่มีจับของขวัญวันปีใหม่ ไม่มีไปกินข้าวเที่ยงกับเพื่อนในโรงอาหาร 
หรือนั่งคุยกับเพื่อน นั่งเล่นกับเพื่อนเวลาว่างๆ และอีกมากมายเลย

ต่างคนต่างอยู่มากๆ แต่อยู่ที่น้องจะเลือกว่าจะสนุกกับมันยังไง
ไม่อยากให้เครียดมากเหมือนพี่ เพราะไม่มีความสุขเลยจริงๆ
ที่บ้านก็กดดันเรื่องเรียน เรียนก็ยาก 

ยังไงก็สู้ๆนะครับ 

0
เจอกับตัว 16 ก.ค. 57 เวลา 13:24 น. 22

-เรื่องเพื่อนก่อนเเล้วกัน ^^

ของพี่เหรอ เเย่มากสำหรับชีวิตมหาลัย เจอมากับตัวจริงๆ (ขอพูดเยอะๆเลยเเล้วกัน)

ถ้าน้องคบเพื่อนดีน้องก็ดีไป เเต่ถ้าเจอไม่ดีก็ซวย

เพราะตัวพี่เองพี่เจอเพื่อนเเบบ....... เอ่อ เอาเป็นว่าเเย่เเล้วกัน เพราะพี่โดนประมานว่า

เอาเรื่องของคนอื่นไปพูด นกสองหัว เอิ่มนะ รู้จักกันไม่ถึงเดือน ก็นะ

มันเอาดีเข้าตัวเอาชั่วให้คนอื่นน่ะ ตอนนั้นไม่มีคนคบเลยล่ะ ตอนนี้เหรอ เวรกรรมมันจริงๆ


เเต่จำไว้ ตอนที่เราลำบาก เพื่อนที่อยู่กับเราในตอนนั้น น้องอย่าลืมมันเด็ดขาด

เพราะมันจริงใจกับเราสุดเเล้ว (พี่กับเพื่อนตอนม.ปลาย เราเรียนกันคนละที่คนละจังหวัดเลย 5555)

- กิจกรรม

กิจกรรมเยอะเเล้วก็เหนื่อยมาก อาจารย์เขาจะไม่ค่อยสนใจเราเหมือนตอนที่อยู่ม.ปลาย

คือเราต้องตามเอง บ้างทีเขาจะไม่สนเลยต้องเข้าหา

- การปรับตัว

น้องต้องรู้จักคำว่า "ช่างเเมร่ง" เเล้วชีวิตจะเป็นสุข

ถ้าน้องอยู่หอ คือเราต้องออกเองทุกอย่าง

ชีวิตเด็กหอส่วนมากคือ มาม่า 555 ระวังเรื่องการใช้จ่าย

0
Japile 16 ก.ค. 57 เวลา 13:27 น. 23

เราว่ามัธยม โดยเฉพาะมัธยมปลายเป็นอะไรที่สนุกสุดๆแล้ว

อยู่มหาลัย เหมือนเพื่อนไม่ค่อยจริงใจเท่าไหร่อะ เราก็ยอมรับนะว่าเราก็ไม่ได้ทุ่มใจให้เพื่อนเต็มร้อยเหมือนเพื่อนมัธยมอะ

เรารักเพื่อนมัธยมมากกว่า 1000เท่า

เหมือนอยู่ไปวันๆ ช่วยๆกันเรียน(ทั้งที่จริงก็อาจจะแข่งกันเรียนด้วยซ้ำ)

เราอยู่ จุฬาด้วย รู้สึกกดดันมากๆ เพราะมีแต่คนเก่งๆทั้งที่ตอนอยู่มอปลาย เราเป็นต้นๆของโรงเรียนเลยก็ว่าได้ มาอยู่นี่ กลางๆไปเลย

อยู่ได้มันก็อยู่ได้ แต่ก็คงไม่สุขใจเหมือนตอนสมัยมัธยมอะ

มันก็ทำให้เราเรียนรู้ที่จะต้องเป็นผู้ใหญ่ขึ้นนะ T______T ทำงานคงหนักกว่านี้

0
หนูอ้วนแต่น่ารัก 16 ก.ค. 57 เวลา 15:00 น. 24

คนละแบบเลยค่ะ สังคมมัธยมเหมือนเพื่อนๆเราจะช่วยเหลือกันไรงี้ เฮฮา บ้าบอคอแตกอะค่ะ พอมาอยู่มหาลัยสังคมเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงค่ะ แบบเพื่อนมหาลัยเรานะ กลุ่มเรามีชาย4หญิง2(รวมเราแล้ว) หมายถึงล่าสุดนะ แบบเพื่อนกลุ่มนี้ไม่ค่อยแคร์ไรกันเลย แบบไม่ใส่ใจความรู้สึกเราด้วยซ้ำ คือแบบว่าตอนนั้นอะก้อเดินเปลกลุ่มช่ะแล้วแบบเพื่อนผญอีกคนดันไม่มา กลายเปนเราเปนผญตอนนั้นคนเดียว พวกเพื่อนผชก้อเดินอยู่ข้างหน้า เราเดินอยู่ข้างหลัง ก้อพยายามแบบจะเดินไปให้ทัดเทียมกับมันจะได้คุยกัน แต่แบบเหมือนเพื่อนพวกนั้นคุยเกี่ยวกับเกมไรงี้เราก้อพยายามฟังแบบจะคุยอะแต่เหมือนเพื่อนพวกนั้นอะเดินเร็วขึ้นเราเลยเดินอยู่ข้างหลังเหมือนเดิม แล้วแบบเดินไปเรื่อยๆเราก้อเริ่มนอยอะไม่มีใครหันมาคุยกับเรา เราก้อเดินไปเรื่อยๆ พวกมันก้อแบบรีบเดินเราก้อพยายามจะเดินตามให้ทัน แบบมีคนนึงในกลุ่มหันมามองเราก้อเหนอยู่ว่าเราเดินตามไม่ทัน แต่เพื่อนมันก้อไม่สนใจเราเลยอะ หันกลับไปคุยกับเพื่อนคนอื่นต่อ แบบรีบเดินกันหมดเหมือนไม่สนใจเราเลย สุดท้ายเราเดินตามไม่ทันเพราะคนเดินแซงไปแซงมา ตอนนั้นเราเสียใจมากเลยละ แบบทามไมอะเราผิดไร ทามไมถึงทำเหมือนเราเปนส่วนเกินไรงี้ บอกตรงๆสังคมมัธยมดีกว่า100เท่า ไม่ใช่แค่นี้นะค่ะ บางครั้งโทรไปหาเพื่อนในกลุ่มบางคนก้อไม่รับสายเราอะแต่มันรับสายคนอื่น แล้วแบบเราอะส่งไปถามคำถามในแชทส่วนตัวของเพื่อนในกลุ่มนะ มันอ่านละไม่ตอบเรา เราน้อยใจนะบางครั้งมีครั้งหนึงเพื่อนผญในกลุ่มมาสายทามให้กลุ่มเราไม่ได้รายงาน เราก้อไม่ว่าไร เพื่อนคนนั้นเหมือนกลัวคนในกลุ่มโกดไรงี้เลยไปหลบในห้องน้ำ แต่เรากับเพื่อนทั้งกลุ่มก้อแบบตะโกนเรียก รอหน้าห้องน้ำนานมาก ส่งข้อความไปถามไรงี้ พอพวกเราที่เผลอมันก้อวิ่งหลบลงบันไดหนีไฟไป เรากับเพื่อนก้อโอเคงั้นแยกย้ายกลับ แต่พอเปนเราอะวันนั้นเราโกดเพื่อนบางเรื่องเรียนเสดคนในกลุ่มกำลังฟังอาจาร แต่เราอะวิ่งออกนอกห้องไปหลบในห้องน้ำ ตอนนั้นที่เรียนก้อกดดันเหมือนเรานั่งแถวหน้าอยู่คนเดียวไม่รู้เปนไรกันเพื่อนในกลุ่มไปนั่งแถวหลังหมด สงสัยเหนเราหน้านิ่งมั้ง พอเราไปหลบในห้องน้ำนะ นึกว่าเพื่อนในกลุ่มจะมาตามเพราะแบบห้องน้ำอยู่ติดห้องเรียน เรารอ5-10นาที ไม่มีเสียงตอบโต้ ไม่มีใครโทรตาม ไม่มีใครส่งข้อความถามเราด้วยซ้ำว่าเราอยู่ไหน ทุกคนเหมือนเหนเราเปนอากาศเหนเราไม่มีตัวตน บอกเลยรู้แย่มากเพราะ ทีเพื่อนผญอีกคนหายทุกคนทั้งยืนรอ ทั้งโทรตาม ทั้งส่งถาม แต่ที่เราหายไม่มีใครสนใจเราเลย เรารู้สึกแย่มาก ทั้งๆที่เรามีไรก้อช่วยทุกคน

0
wonder popiiz*~ 16 ก.ค. 57 เวลา 15:27 น. 26
เรื่องไหนที่ดีขึ้น ?
มีอิสระ มีสิทธิเลือกที่จะทำหรือไม่ทำ
มีความคิดเป็นของตัวเอง
ได้เรียนรู้สัจธรรมของสังคมและของโลก

เรื่องไหนที่รู้สึกแย่ลง?
เพื่อนดีๆหายากนะ ตาดีได้ ตาร้ายเสียนะเออ
การเรียน ก้อแบบอาจารย์ไม่มานั่งง้อเราเหมือนตอนมัธยมแล้ว
กิจกรรมเยอะ พี่เลือกพี่จะเลี่ยงนะเป็นมนุษย์ล่องหน ไม่ยุ่งไม่เกี่ยว เพราะพี่รู้ตัวว่ามันต้องมากระทบการเรื่องพี่แน่ๆ

 ต้องหัดเห็นแก่ตัวบ้าง เอ็นดูเขา เอ็นเราจะขาดเอานะ

มหาลัยเหมือนเป็นโรงเรียนหัดบิน บ้างคนบินได้ บ้างคนปีกหัก บ้างคนไม่ยอมบิน อยู่ที่ตัวเราจะเลือก
0
noomLaLaLa 16 ก.ค. 57 เวลา 15:52 น. 27

 สังคมมหาลัยก็ไม่ได้แย่เสมอไปนะ ถ้าไม่ได้คบเพื่อนแบไม่ดี แต่ส่วนใหญ่เพื่อนก็จะเป็นแบบ เห็นแก่ตัวเนอะ น้องนะเพื่อนที่ดี ชิงดีชิงเด่นอะไรเงี้ย
แต่ก็ไม่ได้มีแบบไม่ดีเสมอไปนะ -คนดีมันก็มีๆยุบ้างจ๊ะ ยุที่เราเลือก 

0
kwangzzphoto 16 ก.ค. 57 เวลา 17:01 น. 28

ต่างมั้ยก็ต่างพอสมควรครับ สังคมมหาลัยเน้นพึ่งพาตนเองกันมากกว่า ถ้าน้องขี้เกียจคิดจะพึ่งแต่เพื่อนน้องลำบากแน่นอนครับ ทั้งนี้แนะนำว่าถ้าหากเลือกคบเพื่อนไว้หลายๆกลุ่มหลายๆคณะก็จะดีมาก ชีวิตในมหาลัยมันไม่ยากถ้าเรารู้จักที่จะปรับตัว

0
รุ่นพี่ 16 ก.ค. 57 เวลา 17:03 น. 29

สังคมมหาวิทยาลัยมีทั้งคนดีและคนไม่ดี
มหาวิทยาลัยเป็นสังคมที่กว้างกว่ามัธยม แต่ก็เป็นแค่อนุบาลของโลกที่กว้างใหญ่

ชีวิตเราจะดีหรือไม่ อยู่ที่เรา

0
ToTheSky 16 ก.ค. 57 เวลา 17:06 น. 31

สังคมในมหาลัย มันก็ต่างจากตอนมัธยม
เป็นอะไรที่ทำให้เราโตขึ้น
ตอนม.ปลาย ก็เรียน กินเที่ยวเล่น
มันมีความสนิทสนมกันระหว่างเพื่อนมากกว่าตอนเข้ามหาลัย
เข้ามหาลัยมา ทุกคนมีอิสระ จะเรียน ไม่เรียน ก็แล้วแต่ ไม่มีใครมาว่าน้องได้
ตัวเองก็ต้องรับผิดชอบเอง
เวลาเรียน หรือ ทำงานส่ง ไม่มีใครจ้ำจี้จ้ำไช เหมือนตอนม.ปลาย
เพื่อนๆดีๆก็มี ก็ต้องลองคบๆดูนิสัยกันไป
เวลาใกล้สอบ บางกลุ่มมีช่วยกันติวก็มี เพื่อนกันก็ต้องช่วยกันดันๆกันไปนั่นแหละ
เข้ามาแรกๆอาจจะรู้สึกแปลกๆ เพราะต้องเจอกับเพื่อนใหม่ สังคมใหม่
แต่มันไม่ได้เลวร้ายอะไรหรอก สู้ต้องไปเน่อ
สู้สู้

0
Happy&Smile 16 ก.ค. 57 เวลา 17:08 น. 32
ที่อื่นไม่แน่ใจครับ แต่ที่ ม.ธุรกิจบัณฑิตย์เราอยู่กับอบอุ่นเหมือนบ้านหลังใหญ่ครับ ^__^เยี่ยม
แต่ที่อยากฝากก็คือชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยเราต้องเลือกที่จะคบเพื่อนให้ถูกครับ 
เลือกคบที่ช่วยกันเรียน อย่าคบที่ชวนกันเที่ยวนะครับ เพระชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยจะมีอิสระอยู่พอสมควรทีเดียว 
ปล.เป็นกำลังใจให้น้องๆ ทุกคนเดินตามความฝันให้เจอนะครับ
https://www.facebook.com/engineer.dpu
0
โสระกา 16 ก.ค. 57 เวลา 17:16 น. 33

คณะผมอยู่กันแบบครอบครัวอ่ะ -*- เลยไม่ต้องกังวลเรื่องนี้เลยๆ เพื่อนก็สนิทกัน  โดยเฉพาะสาขาผมที่ต้องอยู่หอในด้วยกันทั้ง 4 ปีเเล้ว เป็นอะไรที่ไม่ต่างจาก ม ปลายมากนัก


0
อะไอไอ๋อายส์ 16 ก.ค. 57 เวลา 17:38 น. 34

สังคมมหาวิทยาลัย  สำหรับพี่ที่ผ่านมา 4ปี ซึ่งพี่เจอกับตัวเองนะ ถ้าเจอเพื่อนดี ก็ดีนะพากันไปในทางที่ดี ช่วยเหลือการเรียนกันดี  มันจะมีคนหลายรูปแบบมากขึ้น  บางครั้งกว่าเราจะรู้ว่าเพื่อนเราเป็นยังไง ก็มีบทพิสูจน์จากในมหาวิทยาลัยนี่แหละบอกเรา  และมันจะค่อยๆหล่อหลอมเราให้เรารู้จักสังคมและโลกภายนอก  ต้องรู้จักแยกแยะคนดี กับคนไม่ดีเอง ให้เป็น  เพราะเราโตขึ้นแล้วจะต้องคิดเยอะกว่าตอนเรียนมัธยม   

สรุป สังคมในมหาวิทยาลัยเป็นสังคมที่สอนให้เรารู้จักสังคมภายนอกในปัจจุบัน


ไม่ต้องเป็นกังวลไป พี่เชื่อว่าน้องจะอยู่ในสังคมมหาวิทยาลัยได้อย่างพี่ความสุข 

0
mintmagic 16 ก.ค. 57 เวลา 17:38 น. 35
สังคมแล้วแต่ที่น่ะค่ะ - ที่เราเรียนแรกๆก็ดีนะมีเพื่อนเยอะ พอเกรดออกอยู่ไปอยู่มาเริ่มอิิจฉาแบ่งพรรคแบ่งพวก เป็นผู้ชายไม่ค่อยเท่าไหร่ถ้าดูแล้วก็มี2กลุ่ม 1.กลุ่มกินเหล้า 2.กลุ่มไม่กิน ส่วนผู้หญิงเยอะอ่ะ กินเหล้าบ้าง ทะเลาะบ้าง อิจฉาบ้าง แต่งหน้าบ้าง เยอะบ้าง เลือกเพื่อนก็ต้องดูกันไปน่ะค่ะ บางคนออกจากมหาลัยไม่ใช่เรียนไม่ดีนะ แต่เพื่อนไม่ดีจนอยู่ไม่ได้ ก็เลยต้องซิ่ว
การปรับตัว - แรกๆมาการเรียนจะตกบางที่ตกจนน่าใจหาย มีอิสระแต่ก็ต้องรู้จักเวลา เวลาสอบก็ต้องอ่าน ถ้าไม่อ่านทำไม่ได้ ก็F มันไม่มีซ่อมเหมือนมัธยม ก็ต้องดรอปหรือไม่ก็ลงเรียนใหม่ บางคนมีแฟนจนต้องเลิกเรียนก็มี บางคนท้องก็มี มันไม่ได้สวยงามเลย ถ้าบังคับตัวเองไม่ได้มันก็อยู่ยาก คิดว่าช่วงที่ดีที่สุดสำหรับเรา อนุบาล ประถม มัธยม ปวช.
0
|.Pim.DGZ.| 16 ก.ค. 57 เวลา 17:58 น. 36

ทุกวันนี้ถึงพี่อยู่มหาลัยแล้ว ยังเกาะติดเพื่อนมัธยมอยู่เลย เพื่อนมหาลัยรู้สึก ไม่ชิน -0- 

0
Arts13 16 ก.ค. 57 เวลา 17:59 น. 37

ในฐานะที่เรียนจบและทำงานแล้ว

มัธยมสนุกกว่า มีเพื่อนสนิทที่เรียนด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน อาจเป็นมาตั้งแต่มอต้น สนุกสนานมีกิจกรรมตามวาระ
มหาวิทยาลัย : ถ้าได้เพื่อนดีถือว่าต้นทุนดี คุมตัวเองให้อยู่ ตั้งสติให้ได้ว่ากำลังทำอะไร หน้าที่หลักคืออะไร *เที่ยวได้ *กินเหล้าได้ *มีแฟนได้ แต่นึกไว้เสมอว่าต้องตื่นมาเรียนทุกเช้าให้ได้ไม่ว่า จะเมาอยู่ที่ไหน ไปกับใคร รับผิดชอบตัวเอง *เพื่อนที่ฉุดให้ต่ำถ้าเตือนไม่ฟังก็ต้องปล่อยอยู่ห่างๆอย่างห่วง เตรียมพร้อมช่วยเหลือมัน *แต่ย่าทิ้งอนาคตเพื่อใคร นึกไว้ว่าเงินทุกบาททุกสตรางค์ที่ใช้ คือเหงื่อของพ่อแม่
**ขอให้น้องทุกคนเรียนให้จบ ไม่ต้องเก่งเวอร์ แต่ขอเป็นงาน***สู้สู้

0
หอยไลน์ 16 ก.ค. 57 เวลา 18:21 น. 40

สังคมมหาลัยให้อะไรมาเยอะเลยนะ

1 เรื่องความรับผิดชอบ พี่เป็นเด็กตจว.เข้ามาเรียนที่กทม.เป็นเด็กหอโดยสมบูรณ์แบบ ต้องรับผิดขอบตัวเองทั้งเรื่องทั่วไป การเรียน การเงิน เรื่องการเรียน พออยู่มหาลัยแล้วไม่มีใครคอยบังคับให้เราออกไปเรียน จะโดดเรียนก็ได้ ถ้าไม่ห่วงอนาคตตัวเอง การเงิน ช่วงแรกๆพี่ใช้เงินเกินเงินเดือนพี่พ่อแม่ให้จนต้องโทรมาขอเพิ่ม พี่ก็รู้สึกแย่นะ เป็นแบบนี้เกือบหนึ่งเทอม หลังจากนั้นพี่ต้องฝึกบริหารเงินเองว่าทำยังถึงจะใช้พอดีในหนึ่งเดือน

2 สังคมอะไรๆก็เปลี่ยนไป เริ่มจากเพื่อนเลย บอกได้เลยว่าเพื้อนม.ปลายจะเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุด เพราะพอเรามาอยู่ใรมหาวิทยาลัย ลูกมาจากร้อยพ่อพันแม่ นิสัยใจคอเป็นยังไงไม่มีใครรู้ กับเพื่อนบางคนน้องคบมาตั้งแต่ปี1จนถึงปี2-3เพิ่งจะเห็นธาตุแท้บ้าง ใครจะรู้
3 ชีวิตในคณะการเรียนใช่ป่าว แน่นอนว่ามันยากกว่าตอนม.ปลายอยู่แล้ว ถึงเวลาที่น้องจะต้องใช้ประโยชน์จากเพื่อนที่มี คนไหนเรียนเก่งก็ไปขอติวด้วย เราจะได้แนวคิดมา อันไหนไม่เข้าใจจะได้ถาม และที่สำคัญคืออย่ายอมแพ้ ที่จริงมันขึ้นอยู่กับว่าน้องต้องการอะไร เกรดสวยๆหรือผ่านก็เอา เพราะคะแนนมิดเทอมมันจะเป็นช่วงวัดใจคน ว่าจะดรอปหรือไฟต์ต่อ
4. เรื่องทีแย่ลงสำหรับพี่ ไม่มีนะ เพราะทุกอย่างถือเป็นบทเรียน แต่สิ่งที่ทำให้พี่รู้สึกแย่คงเป็นเกรดตอนเทอม1ปี1ที่มันไม่สวยงามเลย คงเป็นเพราะตอนนั้นพี่คิดว่ามันไม่ยากไปกว่าม.ปลายสักเท่าไหร่หรอกเลยไม่ขยันเท่าที่ควร

0