Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

แม่ไม่อยากให้เรียนนังสือไม่สนับสนุนการเรียนต่อมหาลัย TT

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ความเป็นจริงก็ไม่ได้ถึงขั้นไม่อยากให้เรียนแต่ก็อาจจะใช่ ลองอ่านดูนะ
เราเป็นด็กแด57 เราก็แอดติดแต่เราไม่ได้เอาอ่ะเราไม่ชอบ เราต้องขอโทษที่ไปตัสิทธิ์คนอื่นๆTT ขอโทษจริงๆ ที่ไม่เอาอ่ะคือตอนแรกเราคิดว่าคณะนี้จบมาน่าจะหางานทำง่ายเพราะเรียนหลายอย่างๆรวมๆกันแต่พอเราไปหาข้อมูลมามีคนบอกว่าอย่าเรียนเลยคณะนี้ถ้าเรียนคณะนี้ไปเรียนคณะหรือสาขาหลักของมันไม่ดีกว่าหรอ และพอไปสัมภาษณ์อาจารย์ก็บอกเป็นัยน์ๆทำไมไม่เลือกสาขาหลักหรือคณะหลักไปเลย มันทำให้เราตัดสินใจได้รวดเร็วมากคือขอไม่เลือกคณะนี้นะ

เราเลยไปสมัครม.เปิดทุกๆคนก็น่าจะรู้ เราบอกเลยว่าเราไม่ได้อยากจะไปสมัครเลย TT เรากลัวเรียนไม่ไหวเราไม่มีความรับผิดชอบพอ จะให้เราเข้าเอกชนค่าเทอมก็แพงแต่เราก็คิดจะกู้นะ (ครอบครัวเราไม่ได้รวยแต่ก็ไม่ได้จน พออยู่ไรงี้) ตอนที่เราไปสมัครอ่ะแม่ก็ถามว่าจะไปสมัครที่ไหน เราร้องไห้เลยคือมันอัดอ้นตันใจมากคือแม่ก็รู้อยู่แล้วจะถามทำไม ไปสมัครเสร็จเราไปกับเพื่อนเราร้องไห้บอกว่าไม่อยากเรียนที่นี่ กลัวไม่ไหวกลัวไม่จบ คณะที่เลือกเรียนยากมากกกกกก เป็นที่กล่าวขานในมหาลัยและจบมามีงานทำแน่นอน T____T 

หลังจากนั้นเราก็เรียนที่ม.เปิด(ไม่เลือกคณะที่แอดแล้ว) ก็พูดให้กำลังตัวเองเออวะเอา3ปีครึ่งให้จบ เรียนๆไปเดี๋ยวก็มีค.สุข แต่พอถึง ณ วันนี้เรา ไม่-มี-ความ-สุข เลย!!! เพื่อนๆรู้มั้ยเราเห็เพื่อนให้ห้องเราโพสทืว่าไปทำกิจกรรมที่มหาวิทยาลัยรับน้องมั่ง วันแรกพบมั่ง เราอิจฉามากเลยนะ เราเป็นคนที่ทางเลือกไม่เยอะเหมือนคนอื่นๆที่จะไม่ติดม.รัฐแล้วเข้าม.เอกชนเลย

ตอนแรกเราบอกแม่ไปว่าหนเูรียนที่นี่แหละ(ม.เปิด)แต่พอวันพรุ่งเราบอกแม่เราจะซิ่วนะกลัวเรียนไม่ไหว แม่เราโกรธมากแม่บอกว่า -จะซิ่วทำไมที่สมัครไปก็เปลืองเงินเปล่าถ้าจะซิ่วก็ไม่ต้องเรียนที่นี่ไปหางานทำแล้วปีหน้าค่อยแอดใหม่ แล้วพอมาถึงเมื่อวานเราทะเงาะกับแม่รุนแรงมาก แม่บอก "ถ้า-จะซิ่ว-ก็ไม่ต้องไปเรียนที่นี่เปลืองค่ารถ!! ไหนจะค่าหนังสืออีก ค่าไรเยอะแยะถ้ามันละบากมากก็ไม่ต้องเรียน!! " เพื่อนๆรู้มั้ยตอนนั้นเราแทบล้มทั้งยืน แม่ไม่เคยให้กำลังใจเราเลยตอนอยู่ม.6อ่านหนังสือเตรียมสอบต่างๆ เราทะเลาะกับแม่แม่แช่งเราว่าขอให้เราสอบไม่ติดแม่ยกมือสาธุเลยนะ ตอนนั้นเราอยากตายมากเลยเราอึดอัดเราเครียดแล้วมาตอนนี้แม่บอกไม่ให้เรียนอีก

เมื่อวานแม่เราบอกว่าถ้าเราอยากไปเรียนก็ไปขอพ่อนู่น!! เพราะแม่จะไม่ให้เงินไปเรียน แต่แม่เป็นคนจัดการเรื่องเงินทุกอย่างแล้วเราจะเอาเงินที่ไหนไปเรียน TT เมื่อวานเราก็ไม่ได้ไปเรียนเพราะทะเลาะกับแม่วันนี้ก็ไม่ได้ไปเรียนเพราะไม่มีเงินไป (ไม่กล้าขอ) 

เราเลยต้องเรียนย้อนหลังในคอม ตอนที่เรากำลังเรียนแม่ก็เปิดทีวีเสียงดังมากกก เราทนไม่ไหวเลยบอกแม่ไปว่า "รู้!!ว่าไม่อยากให้เรียนแต่ช่วยเอาเสียงลงหน่อยได้มั้ย) แม่เราก็ไม่เอาเสียงลง พอวันนี้เราก็เรียนในคอมอีกแม่คุยโทรศัพท์เสียงดังมากจนเราแบบท้อละไม่ไหวละเลยมาตั้งกระทู้ ว่าเราจะทำยังไงต่อไปดี เราเรียนก็เหมือนเราไม่ได้เรียน มันครึ่งๆกลางๆ 

ตอนนี้เหมือนเราอยู่ในสถานการณ์ที่ผู้คนที่เดินผ่านไปมาใบหน้ามีแต่รอยยิ้ม เราคือคนหนึ่งที่แปลกในคนกลุ่มนี้


แสดงความคิดเห็น

>

130 ความคิดเห็น

soyou96 24 ก.ค. 57 เวลา 22:48 น. 1

จขกท. ^^
เราอยากบอกว่าตอนปิดเทอมเราก็ทำงานนะ การทำงานมันทำให้เรารู้เลยว่าเงินแต่ละบาทนั้นหายากมากจริงๆ TT เราทำทั้งพิซซ่า โรงแรมเป็นเด็กเสริฟไรงี้ 55555 เพราะอยากหาเงินมาซื้อในสิ่งที่เราอยากได้อ่ะ ไม่อยากขอพ่อกับแม่5555

แต่เราก็จะสู้นะสู้ให้ถึงที่สุด

0
iCap 23 ก.ค. 57 เวลา 20:11 น. 2

ผมก็ไม่รู้จะแนะนำอะไรมาก แต่อยากให้กำลังใจนะ
พ่อเราก็ประมาณนี้แหละแต่ไม่หนักเท่านี้(ขอโทดที่พูดตรงไป) 
ผมก็น่าจะเป็นแบบพี่นี่แหละพ่อบอกว่าไม่มีตังส่งเรียนมากหรอก ผมก็ว่าจะเรียนไปทำงานไปยังไงเค้าก็ไม่มีเงินส่งเราอยู่แล้วนิ ในเมื่อเค้าไม่ให้จริงๆเราก็หาเองได้(ถ้าผมทำงานไหวนะ เพราะนี่ก็ขี้เกียจเอาเรื่องเลย555) หรือถ้าไม่มีหรือไม่ไหวจริงๆก็อยากให้ดรอปไว้ก่อน ไม่อยากให้ฝืนความจริง แต่ยังไงก็ขอให้พี่สู้ๆนะ เป็นกำลังใจให้ครับผมมม :)    /เด็กแอด'58

0
24 ก.ค. 57 เวลา 00:43 น. 3

ตอนนี้แนะนำได้แต่ว่า หากมีครั้งหน้าลองหาข้อมูลของคณะที่จะเรียนให้ดีกว่านี้

และมีความพยายามมากกว่านี้  อย่าพึ่งท้อตั้งแต่ยังไม่เริ่มค่ะ อย่าพึ่งกลัว

ทั้งที่ยังไม่พยายามค่ะ  เรียนในคอมลองซื้อหูฟังมาใส่ค่ะจะได้ไม่ต้องได้ยินเสียง

แม่  น้องเป็นคนท้อแท้และหมดกำลังใจง่ายนะค่ะ  พยายามต่อไปค่ะ

อนาคตของเราเอง

0
YouKW 24 ก.ค. 57 เวลา 03:19 น. 4

เอาเรื่องง่ายๆ แก้ที่ตัวน้องก่อน อย่างที่ คห.2 บอก น้องหมดกำลังใจง่ายไป

ยังไม่ได้พยายามเต็มที่ น้องก็ล้มเลิกความตั้งใจซะแล้ว แค่น้องเห็นคำว่า

อุปสรรคขวางกัน แล้วคนอื่นมาพูดเสริมนิดหน่อย ก็ท้อซะแล้ว น้องต้องมี

กำลังใจมากกว่านี้นะคับ อีกอย่างต้องเข้าใจว่าเงินทุกบาททุกสตางค์มันหา

มายากมาก บอกเลยว่าพี่เป็นแบบน้องแล้วพี่ก็ซิ่ว ตอนแรกพ่อแม่ไม่เห็นด้วย

หรอก แต่พี่บอกเขาว่าขอแค่อีกเทอมเดียวให้จบไปเลย ถ้าไม่ชอบที่จะอยู่

จริงๆจะซิ่ว สิ่งที่พี่แตกต่างจากน้องคือ พี่พยายามเต็มที่ แล้วรู้ว่าตัวเองไม่ชอบ

จริงๆซ้ำเลือกทางผิดมาตั้งแต่ต้น พี่ไม่เคยท้อกับคำว่าลำบากข้างหน้า แต่พี่

จะพยายามจนเปลี่ยนใจคนรอบข้างให้ได้ แล้วพี่ก็ทำได้ อย่าลืมนะคับ 

พ่อแม่ก็คือพ่อแม่ เดี๋ยวท่านก็เข้าใจเราเอง แต่ถ้าไม่ได้ก็กู้ กยศ. เรียนไปเลยคับ

0
mr_aaoonn 24 ก.ค. 57 เวลา 09:34 น. 5

สำรวจตัวเองให้แน่ดีกว่าครับ ว่าอยากเรียนอะไรกันแน่

เวลาปีเดียวจะว่ามากมันก็มาก จะว่าน้อยมันก็น้อย ปุบปับก็ผ่านไปแล้ว

พูดตรงๆนะ เทียบกับชีวิตทั้งชีวิต ปีเดียวมันเล็กน้อยมาก

จะหางานทำก่อนก็เป็นประสบการณ์นึง แล้วคุณจะรู้ว่าได้อะไรไม่น้อยทีเดียว

ถ้าในแง่ของประสบการณ์ชีวิตไม่แพ้เข้าไปเรียนมหาลัยหรอก


ระหว่างรอไม่ว่าคุณจะเรียนหรือทำงาน ก็หาข้อมูลไป สำรวจตัวเองไป

งานในอนาคตที่อยากทำ คณะนี้ชอบไหม เรียนมหาลัยนี่จะภูมิใจไหม

อยากเรียนที่ไหน วิชาที่เรียนเป็นไง ค่าเทอมแพงรึเปล่า บลาๆๆ


อีกอย่างหนึ่ง ระบบของมหาลัยเปิดดังกล่าว จะว่าไปแล้วมันก็อิงกับการ

ทำงานไปด้วย เรียนไปด้วยอยู่นะ ซึ่งปรกติใครๆเค้าก็ทำกัน ถ้าคุณจะขยัน

สักหน่อย คุณก็เรียนด้วย ทำงานด้วยไปเลยซิ คุณได้ความรู้พร้อมกับได้เงิน

มีเงินคุณก็มีอิสระ จะเก็บ จะช่วยพ่อแม่ หรือชื้อของที่ชอบก็ตามใจคุณ


ชื้อกล้องถ่ายภาพ ก็เป็นงานอดิเรกดีเล่นกล้องเป็นด้วย ชื้อเครื่องดนตรี

ซักอันฝึกเล่นก็ไม่เลว ชื้อหนังสืออ่านบลาๆๆ  หรือเก็บเงินพาพ่อแม่ไปเที่ยว

เปิดหูเปิดตาก็ดี ที่สำคัญยิ่งอยู่บ้านคุณก็ยิ่งจิตตก ยิ่งฟุ้งซ่าน จะยิ่งแย่นะ

ออกไปข้างนอกบ้างสนามกีฬา ฟิตเนส ห้างฯลฯ


ส่วนเรื่องพ่อแม่ คุณก็คุยกับท่าน ง้อท่านบ้าง หาข้อมูลไปแล้วอธิบายข้อดี

ข้อเสียอย่างไรก็ว่าไป ความคิดของคุณ ก็อย่าลืมฟังแม่คุณบ้างล่ะ 

มันไม่ยากหรอก เปิดอกคุยกันไปเลย 


ปล. จากที่อ่านดูแม่คุณไม่ได้ใจร้ายหรอกนะ ออกจะใจดีเกินไปด้วยซ้ำ

ปล2. แม่คุณมาแกล้งไม่ได้ตลอดหรอกครับ แต่ใจคุณท้อแท้เลยมองว่ามัน

เป็นเรื่องใหญ่ ปรับใหม่ซะ 24ชม เวลาให้อ่านเยอะแยะ เพื่อนผมอ่าน ตี1-ตี5 ยังมี

0
teerex 24 ก.ค. 57 เวลา 12:02 น. 6

อันดับแรก นอกต้องพิจารณาตัวเองก่อนครับ
นอกกลัวไปก่อนที่อะไรๆจะเกิด
น้องรู้บ้างมั้ยว่าการตัดสินใจแต่ละครั้ง
มันทำให้น้อง และคนที่ดูแลน้องเสียหายอะไรบ้าง
บางครั้งน้องเอาแต่คิดในมุมของตัวเองมากเกินไป
ถึงแม่ของน้องจะแสดงออกกับน้องแบบแข็งกร้าว
แต่สิ่งที่พ่อแม่น้องต้องการ หรือสาระจริงๆในคำพูดลวกๆของคุณแม่น้อง
มันก็คือชีวิตจริง น้องเล่นเลือกจะเข้า ไม่เข้า ที่นั้นที่นี้
เพราะคนนั้นคนนี้พูด เขาไม่ได้มาใช้ชีวิตกับน้องนะครับ
แต่คนที่มาใช้ชีวิต รับผิดชอบชีวิตน้อง มีส่วนได้ส่วนเสีย ในการตัดสินใจน้อง
ก็คือครอบครัว คุณพ่อ คุณแม่ คนจ่ายเงินครับ
น้องได้คิดถึงพวกเขาบ้างมั้ย ไม่พยายามแล้วบอกว่าไม่ไหว

จบบทวิเคราะห์แล้ว ขอพี่พูดต่อเรื่องวิธีแก้ไขเลยนะครับ
น้องหยุดพักที่จะเรียนไปก่อนครับ ออกไปหาตัวเองก่อน
การที่คุณแม่บอกให้ไปหางานทำ เป็นสิ่งที่ดีครับ
ไปหาว่าการทำงานจริงๆ มันต้องใช้อะไร รู้อะไร
จะได้ไม่ต้องฟังคนอื่นพูดว่าทำไมมาเข้าที่นี้สักที
ชีวิตน้อง น้องต้องเข้าใจ ต้องเรียนรู้ ศึกษาด้วยตัวเอง
ไม่ใช่ไปลอกคำตอบใครเขามาตัดสินชีวิตตัวเอง

ตัวอย่าง ของคนที่เขาไม่เรียนต่อมหาลัยทันที มีถมเถครับ
ยิ่งต่างประเทศ เกาหลี หรือโซนตะวันตก บางคนก็เรียนสายอาชีพ 
หรือจบมัธยมมาทำงาน ไม่ค่อยเรียนต่อก็มีครับ
แม้แต่คนไทย บางคนก็ออกทำงานต่างประเทศ ไปเที่ยว 
หรือทำอะไรที่เขาจะรู้ชัดว่าตัวเองต้องการอะไร

อย่างแรก เราต้องตั้งเป้าหมายของตัวเองครับ 
พิจารณาตัวเอง ทรัพยากรที่เรามี 
ความถนัด ทรัพย์สินเงินทอง ภาระการดูแลคนในครอบครัว
พิจารณาทั้งในปัจจุบันด้วย อย่ามองแต่อนาคตว่าเราจะต้องไปจุดนั้นๆ
ทั้งที่ปัจจุบันเรายังไม่ผ่านมันไปเลย

ูดยาวมากครับ ไม่รู้น้องจะเข้าใจมั้ย 
คีย์คือ น้องแก้ปัญหาที่ตัวเองก่อนเถอะครับ ผมสงสารคุณแม่น้อง

0
ต้นหอมครองโลก!!! 24 ก.ค. 57 เวลา 17:16 น. 7
ตาม คห. บนๆเลยค่ะ 
น้องไม่มีความอดทนและกลัวในสิ่งที่ไม่เกิดมากเกินไป
ลองมองในมุมของพ่อแม่ ว่าเขาจะเสียใจมากกว่าเราเป็นร้อยเป็นพันเท่าไม
อย่ามองแต่ในมุมของตัวเอง มองโลกให้กว้างขึ้นหน่อย
0
Sky1823 24 ก.ค. 57 เวลา 17:30 น. 8

ทำไมไม่ลองพยายามดูก่อนหล่ะค่ะ จะรู้ได้ไงว่าทำไม่ได้ถ้าไม่ได้ลอง แล้วหนูว่าพี่น่าจะลองศึกษาดีๆก่อนนะค่ะ

0
นามแฝง 24 ก.ค. 57 เวลา 19:04 น. 10

อยากเรียนทำไปให้ทำเต็มที่เลย มันคือชัวิตไปให้สุดกับชีวิต มันก็มีดีบ้างเลวร้ายบ้าง

แต่ให้สู้ต่อไป อยากทำอะไรต้องเด็ดขาดไปเลยมันคือชีวิตเรา จงรีบทำในความฝันของตัวเองก่อนที่จะไม่เหลือความฝันให้ได้ทำ ^_^

0
fareya 24 ก.ค. 57 เวลา 19:05 น. 11

อย่าไปกลัวสิ่งที่ยังไม่เกิด อย่าไปแคร์สิ่งที่คนอื่นพูดแสดงความคิดเห็น มีเพียงคนที่ลองแล้วถึงจะรู้เท่านั้นว่ามันเป็นยังไง และถ้าคิดว่าดีก็ทำไป จบไปมีงานทำก็ดีแล้ว พอเรามีทุนค่อยมาทำสิ่งที่ชอบและไปรอดทีหลังก็ยังได้

0
กรุ้มกริ่ม 24 ก.ค. 57 เวลา 19:06 น. 12

พี่ก็จบม.เปิดนะ พี่คิดว่าทุกอย่างอยู่ที่ตัวเราค่ะ ถ้าพยายามก็จบได้
การที่น้องท้อถอย ทำให้ตัวน้องเองไม่มีแรงสู้นะ พี่ก็ไม่ได้จบ 3 ปีครึ่ง
หรือ 4 ปีหรอกนะคะ พี่ย้ายคณะเทียบโอนเอา จนในที่สุดพี่ก็จบค่ะ สู้ๆนะคะเป็นกำลังใจให้

0
ชมพู่ 24 ก.ค. 57 เวลา 19:12 น. 13

เรากับแม่ก็ชอบเย็นชาใส่กันแบบนี้นะ
จะบอกว่าเราเข้าใจอารมณ์ของจขกท.มากๆ
อ่านละจะร้องไห้ไปด้วยเลย ถึงแม้ว่าแม่เราจะไม่ได้ทำรุนแรงกับเราแบบนี้อ่ะนะ
เราว่าแม่จขกท.ก็น่าจะมีเหตุผลของเค้า ที่เราไม่เข้าใจ อาจจะโกรธอยู่
คือเราคิดไว้อ่ะนะ ว่าเข้ามหาลัยก็จะไม่ขอเงินเค้าใช้ (อาจจะมีบ้างแต่จะขอน้อยที่สุด)
แล้วเราก็จะหางานพิเศษทำ เดือนนึงก็น่าจะได้อย่างต่ำ 9 พันละ

เราก็ไม่รู้จะแนะนำอะไร แต่ก็ขอให้จขกท.ลองคิดหาทางออกดีๆนะคะ
ตัดสินใจดีๆค่ะ
สู้สู้

0
FernSensitiveAre 24 ก.ค. 57 เวลา 19:12 น. 14

สู้ๆเนอะ คิดสะว่ามันเป็นบททดสอบนึงของชีวิตล่ะกัน ที่จิงอ่ะเรียนที่ไหนเราก็ว่าไม่สำคัญน่ะเอาให้เราชอบและก้อมีความสุขก็พอเพราะบางคนทำงานที่ไม่ใช่สายตัวเองเรียนมาด้สนซ้ำคนล่ะแนวเลยก็ว่าได้ อาชีพส่วนใหญ่อ่ะที่ประสบความสำเร็จจุดเริ่มต้นมันมาจากความชอบก่อนน่ะ ถ้าเราชอบเราจะทำมันได้ดีอ่ะ ถึงใครไม่ให้กำลังใจคุณแต่เชื่อว่าถ้าคุณผ่านๆจุดๆไปได้เขาอาจจะเห็นความตั้งใจของคุณน่ะ สู้ต่อไป... และความสำเร็จของคุณที่ได้มาจะมีค่ากว่าสิ่งใดๆกว่ามันจะได้มากยิ่งลำบากยิ่งคุ้มค่ะ
ของขวัญ

0
onwory jasun 24 ก.ค. 57 เวลา 19:12 น. 15

เราเองก้อเรียน มอเปิดนะ มันความคิดเทอเหมื่อนเราเเหละคือกลัวไม่ไหวเเต่เราต้องขยันน เราเข้าใจจความรู้สึกของเจ้าของกระทู้มากกเราอยากบอกว่าสู้ๆ เราเข้าใจ เเละเราเอาใจช่วยเราเองเรียนอยู่ที่ราม ลองเปิดใจดูเเล้วจะรู้ว่ามอเปิดก้อดีเหมื่อนกัน เราสัมผัสมาเเล้ว 

0
รูปปั้นต้นไม้ 24 ก.ค. 57 เวลา 19:14 น. 16

ไม่มีความอดทนเลยนะคะ อะไรนิดหน่อยก็ท้อแล้ว แทนที่จะมัวแต่ท้อนี่ไปหางานพาร์ทไทม์ทำดีกว่าไหมคะ
ไหนๆก็เรียนมหาลัยเปิดแล้ว เวลาว่างก็เยอะจะเรียนตอนไหนก็ได้ดูคลิปย้อนหลังก็ได้ทำไมไม่ไปหางานทำหาเงินใช้เองล่ะคะ
เรียนมันไม่เคยง่ายหรอกค่ะแต่เราก็มีหลายวิธีที่จะทำให้ดีขึ้นได้
บอกว่าเรียนอยู่แต่แม่เปิดโทรทัศน์คุยโทรศัพท์เสียงดังก็หาหูฟังมาใส่สิคะ
แม่จะพูดยังไงก็ไม่เดี่ยวกับเราหรอกค่ะ ถ้าเราไม่เก็บมาใส่ใจ
ยังไงก็เป็นกำลังใจให้นะคะ แนะนำว่าอย่าไปสนใจที่ใครเขาพูดแล้วก็ไปหางานพิเศษทำไปเรียนไปนะคะ สู้ๆ ชีวิตยังมีเรื่องดีๆอีกเยอะ อย่ามองแค่ด้านที่ไม่ดีแล้วตัดสินว่าทุกด้านจะต้องไม่ดีนะคะ

0
FREEK 24 ก.ค. 57 เวลา 19:15 น. 17

อนาคตคือเส้นทาง ถ้าเราอยากเรียนสิ่งที่ตัวเองต้องการก็จำเป็นต้องทน(แต่ผมแปลกนิดหน่อย เพราะมีปัญหาสุขภาพ)
ถ้าแม่ไม่อยากให้เรียนเราก็ต้องหาวิธีเรียนไหนแบบ ของเรา(เพราะสักวันเขาก็ต้องอยากให้เราไปทำงานนั้นแหล่ะ ต่อให้คิดแย่แค่ไหน พอถึงเวลาทั้งตัวเขาและตัวเราจะเข้าใจกันเอง)

0
หม่องน่ะจีะ 24 ก.ค. 57 เวลา 19:16 น. 18

อย่าร้องเลยคนดี ของพี่ พี่ไปสอบ มหาลัยเชียงใหม่ ทุกรอบ ไม่ติด 55 5
เห็นเขาโพสกันรับน้องก็อิจฉา ชั่งเขา5 5 ตัวเธอก็ลองกู้ก.ยศดู หางานพสททามทำก็ได้น่ะครับ สู้ๆๆชีวิต ความเศร้า บางครั้งเราควรอร่อยไปกับมันน่ะครับ อย่ามัวแต่ไม่ชอบ เราควรสนุกไปกับชีวิตแบบนี้มั้ง น่า 55 แต่เชื่อเถอะ คนอย่างเธอ โตมาเป็นแม่ของลูกได้ดี สนใจมาเป็นครอบครัวเดียวกันไหมครับ 5 5 5

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของ

leafmusic 24 ก.ค. 57 เวลา 19:20 น. 20

เพิ่งเจอกับตัวเอง...ในสถานะรุ่นพี่
ใช่เหตุผลคุยกับคุณแม่ให้เข้าใจ...ท่านอาจกำลังคิดอะไรอยู่หรือป่าว

แต่ถ้าเป็นพี่ จะลองไปเรียนก่อน อาจจะชอบและรักทางนี้ไปเลยก็ได้ เพราะพี่เลยเห็นน้องที่รู้จึกปีที่ผ่านมาเค้าบอกจะซิว พอถึงเวลา...พี่ก็ถามเค้าใหม่ เค้าเปลี่ยนใจไปแล้ว
ทางที่สองไปเรียนแล้วไม่ชอบ เราสามารถซิวโอยแทบโอนหน่วยกิต หรือ ย้ายและเก็บวิชาที่ไม่ได้เรียน
แต่ส่วนใหญ่ปี1ทุกมหาวิทยาลัยจะเรียนพื้นฐานเหมือนกัน

สู้ๆๆๆนะ

0
กรุ้งกริ้งกระดิ่งแมว 24 ก.ค. 57 เวลา 19:22 น. 21

ก็ได้เข้ามาอ่านแล้วรู้สึกว่าจขกท.ต้องมีความมั่นใจในตัวเองมากกว่านี้นะคะ เด็ดขาดไปเลย ถ้าเราคิดแล้วว่าเราชอบคณะนี้ คิดแล้วว่านี่คือสิ่งที่จขกท.ต้องการก็ตัดสินใจเด็ดขาดไปเลยค่ะ อย่าไปฟังคนอื่นเลย อย่างเราเราเรียนการท่องเที่ยวค่ะ คือเราชอบเราอยากเป็นไกด์ ตอนนั้ยเราติดเศรษฐศาสตร์ค่ะ แล้วก็ติดเจ้านี่ด้วย เเต่เราดันเลือกเจ้านี้ มีคนเยอะแยะถามเราว่าทำไมถึงเลือกอันนี้ จบมาเงินเดือนไม่เยอะเท่าไหร่นะ จะดีหรอ? ทำไมไม่เลือกนู่นนั่นนี่ ตอนนั้นแทนที่จะเขวกลับรำคาญมากค่ะ55555 ระหว่างเรียนก็มีคนถามเรียนที่ไหนคณะอะไร พอบอกไปเบ้ปากนินทากันใหญ่ โหยสงสัยไม่ติดที่ไหนสักที่แน่เลยเลยมาเข้าอันนี้ บลาๆ เราก็ไม่ได้สนใจอะไร ก็ชั้นชอบชั้นเริ่ดชั้นไม่แคร์พวกหล่อนหรอกย่ะ! จขกท.ต้องมีกำลังใจโดยตัวจขกท.เองค่ะ เชื่อมั่นว่าตัวเองทำได้ ฝ่าเลย บุก!! ลุย!! อย่ากลัว!!! ชนมัน!!!!!! ส่วนคุณแม่เชื่อสิคะว่าท่านพูดไปแบบนั่นแหละคุณพ่อเราก็แบบนี้สุดท้ายก็ยังส่งเรียน ตอนแรกบอกจะไม่ส่งเรียนค่ะสุดท้ายก็นี้ค่ะ ส่งเรียนมาปีนึงละค่ะ เชื่อสิคะพ่อแม่สนับสนุนอยู่แล้วถ้าลูกทำในสิ่งที่ดี สู้ๆนะคะ ค่อยๆแก้ปัญหา อย่ากังวลกับมันมากเกินไปนะคะเยี่ยม

0
ออยล์ 24 ก.ค. 57 เวลา 19:23 น. 23

สู้สู้ ๆนะค่าาาา
หนูเรียนพรีดรีกรี หนูว่าพี่ก็เรียนปกติไปก่อนสู้ๆนะคะ เเล้วก็แอดปีหหน้าอีกรอบนึง หนูกลัวแอดไม่ติดคะก็เลยลงพรีดรีกรี อยากให้พี่สู้ๆไว้นะคะ ความใันของเราไม่เเน่นอนเราทำความฝันได้เเต่เราไม่มีโอกาสเราก็จบ เเต่ถ้าเรามีความรู้มากมายๆหลายๆด้านหนูว่ามันจะช่วยพี่ต่อยอดไม่มากก็น้อย ถึงเวลานั้นพี่ตะมีปริญญา 2 ใบ จบช้าจบเร็วไม่สำคัญเท่าไหร่หรอกคะ เราทำเต้มีท่เเล้ว เราทำดีที่สุด ขอให้พี่สู้ต่อไปนะคะ หนูเคยยจะขอไปเรียนสายอาชีพ ปัจจุบันนี้ก็ว้อนนคะเเต่ก็ไม่มีโอกาส ทั้งๆที่มันเป็นทางที่ถูกกว่า พี่อาจไม่เข้า ม. เอกชน ม.รัฐ เเต่ม.เปิดมีอะไรอีกเยอะมันอาจจะไม่มีรับน้องไม่มีกีฬาสัมพัน เเต่เป็นการฝึกเรามากกว่า อนาคตพี่ต้องเป็นที่ทุกคนต้องการมีความรับผิดชอบ อดทน ประสบการร์ชีวิตนะคะพี่ลองคิดดูนะระหว่างนี้หนูอยากให้พี่เรียนไปก่อน คิดไปว่าเราต้องแอดคณะอะไรวิชาในคณะที่เราจะเเอดกับคณะที่เราเรียนม .เปิดมันช่วยกันได้มันตรงกันรึป่าว มันคงไม่ใช่เรื่งง่ายย เเต่หนูว่าพี่ต้องทำได้เเน่ๆคะ เป็นกำลังใจให้นะคะ

0
kumi 24 ก.ค. 57 เวลา 19:25 น. 24

อ่านหัวกระทู้ พี่นึกว่า คุณแม่ทำไมใจร้ายจัง แต่อ่านแล้ว พี่บอกตรงๆเลยค่ะ ว่าไม่ใช่ว่าคุณแม่ไม่อยากให้น้องเรียน ถ้าพี่เป็นคุณแม่ พี่ก็โมโหนะค่ะ
น้องไม่มีความแน่วแน่เลย น้องมีความสามารถถึงขั้นแอดติดแล้ว แต่กลับไม่เรียนเพราะคำพูดอาจารย์ตอนสอบสัม ถ้าน้องรู้ตัวจริงๆว่ามันไม่ใช่ก็ดีค่ะ แต่ถ้าถอดใจ ป๊อด กับแค่คำพูดแค่นี้ น่าเสียดายนะค่ะ พอน้องตัดสินใจเรียนมอเปิด ยังไม่ทันเรียนถึงครึ่งเทอมเลย น้องถอดใจอีกแล้ว เพราะอะไร แค่ไม่มีการรับน้อง ไม่มีกิจกรรมสนุก เหรอค่ะ ? น้องได้ตั่งใจลองเปิดใจเรียนรึยัง ?

น้องเอาแต่ตีตนไปก่อนไข้

กลัวไม่มีงานทำ กลัวเรียนไม่ไหว กลัวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ชีวิตน้องมีแต่คำว่ากลัวเหรอค่ะ แล้วเมื่อไรน้องจะมีความสุขค่ะ ? ชีวิตคนเรา มันต้องเสี่ยงบ้างค่ะ ลองเปิดใจ น้องต้องรู้จัก คำว่า ลอง มากกว่า คำว่ากลัว นะค่ะ ถ้าน้องไม่ลอง พี่เชื่อค่ะ ว่าน้องซิ่วอีกกี่พันครั้ง พอเจอคนไซโค น้องก็ป๊อด ชีวิตนี้มีแต่ความกลัวไร้ความสุขค่ะ

ส่วนคุณแม่น้อง อย่างที่พี่บอกเป็นพี่ พี่ก็โมโหค่ะ เปิดเทอมไม่เท่าไร ลูกสาวมาบอก จะซิ่วเพราะ กลัว เรียนไม่ไหว ถ้าน้องบอกว่าจะซิ่วเพราะมีเป้าหมาย คณะที่ชอบ มีความมุ่งมั่น และจะเรียนมอเปิดนี้ควบไปด้วย พี่ว่าคุณแม่ ไม่โกรธน้องขนาดนี้หรอกค่ะ

เหตุผลของน้องมันสื่อถึง ความโลเล ไม่มั่นคง ไร้ความมุ่งมั่น คล้ายๆต้นหญ้า ลมพัดทีก็เอนไปทางนี้ที ทางนู่นที

อย่างแรกลองคิดก่อนนะค่ะ ว่าที่น้องเป็นแบบนี้ เป็นไปตามที่พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ แต่ละคนบอกไหม ตอนนี้ทุกคนที่มาเม้นเป็นกระจกส่องตัวน้องอยู่ ถ้าหาคำตอบได้แล้ว ต่อไปคิดอนาคตตัวเองนะค่ะ คิดว่าตนเองชอบอะไร มั่นใจไหมว่าจะอยู่กับมันได้ทั้งชีวิต ถ้ามั่นใจแล้ว ไปคุยกับคุณแม่อีกทีนะค่ะ แล้วลุ้นผลว่าคุณแม่จะว่าอย่างไร สู้ๆค่ะ

0
ไมอา 24 ก.ค. 57 เวลา 19:25 น. 25

อืม เราเหมือนเธอเลย เราแอดติดนะแต่พอไปสอบสัมภาษณ์ แล้วเรารู้สึกว่ามันไม่ใช่ เราเลยจะซิ๋ว เรากะจะหยุดเรียนปีนึงแล้วแอดใหม่ปีหน้า ตาเราพูดใส่เราว่าถ้าหยุดปีนึงก็ไม่ต้องมาคุยกับตาอีกตัดขาดกัน เราก็อึ้ง ออกแนวโมโหด้วยและ เราโมโหแล้วเราจะเงียบไม่ได้พูดอะไรต่อ เราแบบเครียดมาก เรารู้แล้วว่ามันไม่ใช่เราแล้วจะเรียนให้เสียตังไปทำไม? รอแอดใหม่ไม่ดีกว่าหรอ แต่เขาไม่ยอมจะให้เราเรียน เราก็ตัดสินใจเรียน ราม อันที่จริงเขาส่งเราเรียนเอกชนได้นะ แต่สำหรับเรา ในเมื่อเราไม่ได้เป็นคนหาเงินเอง เราก็ไม่เลือกที่จะเรียนเอกชน

เอาเป็นว่าเธออย่าคิดมากเลย เชื่อสิว่าไม่ได้มีแค่เธอที่มีปัญหาแบบนี้ เอาใจช่วยนะ สู้ๆ

0
Modaing 24 ก.ค. 57 เวลา 19:26 น. 26

เรื่อง งานรับน้อง ไรงี้ เราว่า จขกท อย่าซีเรียสเลย

เราก้อคนนึงที่นึกเสียได้ที่ไม่ทีโอกาสได้สัมผัส

แต่ก้อนะ ปล่อยมันไป 555+ มันไม่ใช่สาระสำคัญมากนัก

เรามีเพื่อนหลายแบบมากอะ มีทั้งเรียนเผื่อซิ่ว
หยุดเรียนเพื่อนซิ่วเลย

ทิ้งความฝันลงคลองได้อันไหนเอาอันนั้นละวะ

ถึงฝันก้อมีนะ ใกล้เคียงฝันก้อมี

ที่จะบอกก้อคือ ... ทุกคนมีทางเดินของตัวเอง ทุกปัญหามันมีทางแก้

ค่อยๆคิด ค่อยๆแก้ คนเรามานั่งท้อยุ มันคงประสบความสำเร็จยุหรอกนะ

เราเชื่ออย่างนี้นะ ไม่มีพ่อแม่คนไหน ไม่อยากให้ลูกเรียนสูงๆ งานดีๆหรอก

แต่บางที เงินมันเป็นก้อเป็นปัจจัยนึงนะๆ

เพื่อนเราคนนึง ที่บ้านก้อฐานะ ปานกลางอะ

แล้วคณะที่เค้าอยากเรียน ค่าเทอมสูง

แถมไม่ถูกใจพ่อแม่ แม่เค้าถึงกะพูดว่า

"คนเรียนอะแก แต่คนหาเงินจ่ายอะชั้น"

เค้าก้อหาทางออกโดยการ เรียนที่มี ทำงานเก็บเงินเองเผื่อซิ่ว

ยังไงก้อเป็นกำลังใจให้นะ :")

สุดท้าย ... คนเราอะ จะโตขึ้นเมื่อผ่านอุปสรรคไปได้นะ

ลองมองในมุมมองของคนอื่นดู เราอาจจะเข้าใจปันหา

หาทางออกในแบบของเราเองได้ ^^"

0
เด็กเรียน 24 ก.ค. 57 เวลา 19:26 น. 27

ถ้าเราเป็นแม่ จขกท เราก็โมโหนะ เพราะว่าเราก็ฐานะกลางๆ เงินทุกบาทมีค่า
แล้วที่อ่านดู แค่ จขกท ฟังคนอื่นก็ล้มเลิกความตั้งใจมันง่ายไปมั้ยคะ? จขกท ควรจะศึกษาให้ดีๆก่อน
เราว่าเธอท้อง่ายไปนะ ไม่มีความพยายามเลย ถ้าเราเป็นแม่เราก็โกรธนะ

0
PLOYSTOP! 24 ก.ค. 57 เวลา 19:27 น. 29

จขกท มั่นใจชัวร์ๆแล้วใช่ไหมว่าจะซิ่วแน่ แต่แค่เรียนไปพลางๆ

ถ้าเป็นแบบนั้นก็ไม่ควรที่จะไปเรียน เก็บค่าเดินทาง ค่าหน่วยกิต เอาไว้จ่ายค่าเทอมในปีหน้า เอาเวลาหนึ่งปีเป็นเดิมพัน ถ้าทำแบบนี้จขกท จะไม่กล้าเหลาะแหละเลย 

อย่ามองแต่ในมุมของตัวเอง มองในมุมของผู้ปกครองบ้าง เราเป็นคนนึงที่เรียนม.รัฐแต่ค่าใช้จ่ายเยอะมากกกกกกกกก ย้ำว่ามากกกกกกกก นอกจากค่าเทอม ค่าชีท ค่าหนังสือ ยังมีค่าห้อง ค่าคณะ ค่ารับน้อง ค่าค่าย คือค่าอื่นๆที่มันนอกเหนือค่าเรียน 

หรือจขกทจะออกไปหางานทำก็ได้ เก็บเงินไว้เรียนปีหน้า เลิกงานก็อ่านหนังสือ แต่ขอบอกเลยในกรณีจขกท.ค่อนข้างยากที่จะทำให้แม่ยอมรับ เผลอๆอาจต้องส่งตัวเองเรียน ถ้าอยากเรียนจริงเรื่องแค่นี้ไม่ใช่ปัญหา

0
MYzsemicolon 24 ก.ค. 57 เวลา 19:30 น. 30

คุณไม่ใช่คนเดียวหร็อกครับ ผมก็จบ ม.6 ปีนี้ครับ ผมเลืกลง การตลาด มข. แต่!! ตอนรับตรงก็ไม่ติด ตอนแอดก็ไม่ติด 555+ ตอนผมสอบนั้นมีหลายเรื่องที่ทำให้ลำบากใจมาก จนไม่มีกะจิตกะใจจะสอบ และผมสมัครสอบแต่วิชาที่ การตลาด เขาใช้รับตรง - แอด อย่างเดียวนะครับ ไม่ได้เผื่อวิชาอื่นๆเพื่อจะยื่นคณะอื่นๆเลย สุดท้ายก็ไม่ติด ตอนนี้กะไม่ได้เรียน ตอนรู้ว่าไม่ติด อาทิตย์แรกๆก็เป็นโรคซึมเศร้าแดร่กเลยครับ เหมือนราวกับว่า ถ้าเราไม่ได้เรียนแล้วเราจะไม่ทันเพื่อนหรืออะไรแบบนี้ ยิ่งเห็นเพื่อนเขาไปรับน้องรับไรนี้ยิ่งนักเลย 555+ แต่ตอนนี้กะทำใจได้ครับ ผมพยายามใช้ชีวิตปัจจุบันให้สนุก และมันก็สนุกมาก 55+ รอแอดใหม่ปีหน้า จะตั้งใจมากกว่านี้ ส่วนเรื่องจบมามีงานทำไหม ผมไม่ซีเรียสครับ เพราะผมเห็นแล้วว่าช่องทางการทำมาหากินมันมีเยอะมากครับ 555+ อาจจะไม่เข้ากับกระทู้เท่าไหร่ แต่ก็อยากเล่า และก็ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ *0*

0
~[S]eTh~ 24 ก.ค. 57 เวลา 19:32 น. 31

อย่างที่หลายคห.บอกดูให้ดีก่อนว่าอยากเรียนคณะอะไรจบมาทำงานแบบไหน... ส่วนเรื่องแม่ไม่ให้เงินเรียนนี้น้องก็ทำงานเก็บเงินเองได้นะคะ ไม่จำเป็นต้องแบมือขอเสมอไป หรือกำหนดเวลาว่าเราต้องเรียนจบเร็ว (3ปี ครึ่งนี้เร็วนะ... แต่พี่ก็ไม่ทราบว่าน้องเรียนคณะอะไร ของพี่วิศวะ เรียนให้ตายยังไงก็อย่างน้อย 4ปีคะ)

ส่วนช่วงนี้ถ้าน้องคิดว่าเรียนคณะที่ได้อยู่มันไม่ใช่น้อง ก็ออกมาทำงานเก็บเงินก่อนก็ได้นิคะ? เข้ามหาลัยไม่ได้กำหนดว่าจบม.6ปุ๊บต้องเข้าทันที... ช่วงที่ค้นหาสิ่งที่ตนเองชอบก็ทำงานไป เอาเงินที่เก็บไปเป็นค่าเรียน ทำให้แม่ได้เห็นว่าเรามุ่นมั่นขนาดไหนที่จะเรียน(ทั้งๆที่ไม่มีได้รับการสนับสนุนจากปัจจัยรอบด้าน)...

ระหว่างเรียนจะทำงานไปก็ไม่แปลกคะ(ตัวพี่เองเรียนไปก็รับงานพิเศษไปด้วย) เลือกลงวิชาให้เราพอทำงานไปและเรียนไปด้วยกันไหวนะคะ ต้องหวังเกรดดีด้วย ไม่ใช่ว่าอยากจบเร็วขอผ่านก็พอ...

ถ้าอยากทำงานไปเรียนไปด้วย เรียนมหาลัยเปิดจะดีกว่าคะ เราจัดตารางเวลาได้ง่ายกว่าพวกมหาลัยรัฐที่ต้องลงวิชาเรียนแบบที่กำหนดให้แล้ว(พี่เรียนควบมหาลัยเปิด กับมหาลัยรัฐคะ... คณะของมหาลัยเปิดก็ลงแบบนิดๆหน่อยๆไม่ให้ชนกับตารางเรียนที่แน่นอยู่แล้วอะคะ)

ส่วนทั้งนี้ทั้งนั้นจะทำได้หรือไม่อยู่ที่ตัวน้องเองคะ... น้องเป็นคนที่ท้อง่ายมากเลยนะคะ เข้าใจคะว่าเราเสียใจ แต่การทะเลาะกับแม่ไม่ใช่การพิสูจน์ว่าเราพยายามและมีความมุ่งมั่นคะ อย่างที่พี่บอกถ้าอยากเรียนจริงทำงานเก็บเงินเองไปเลย ทำงานหลายๆแบบคะ หาว่าเราชอบกับงานแบบไหนไปด้วยในตัว...

ยังไงๆก็สู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้คะ

0
ผ่านเข้ามา 24 ก.ค. 57 เวลา 19:39 น. 32

เราก็เหมือนกันค่ะ ยายไม่สนับสนุนให้เรียนต่อมหาลัย ครอบครัวเราก็ไม่รวย พอกินไปวันๆ ยายจะพูดบั่นทอนจิตใจทุกวันว่าไม่ส่งต่อ ให้จบม.6 เอาเงินไปใช้อย่างอื่นดีกว่า ให้เราออกมาหางานทำ ถ้าอยากเรียยนต่อก็ไปอยู่ที่อื่น แต่เราไม่อยากจบแค่ม.6ค่ะ เราอยู่โรงเรียนดังประจำจังหวัด เราพยายามจนเข้าที่นี่ได้เพื่อจุดมุ่งหมาย คือการได้เรียนมหาลัยที่ชอบ ได้เรียนจนจบมีงานทำ จะได้อยู่อย่างสบายๆไม่ลำบากเหมือนคนในครอบครัวทีี่จบไม่สูง จะได้เลี้ยงครอบครัวได้ เขาจะได้พึ่งเรา เราคิดงี้ตลอดเลยนะ เขาก็ส่งเราเรียนมาตั้งไกลแล้ว เขากำลังจะทิ้งเรากลางทาง คือมันรู้สึกแย่มาก เราก็ได้แต่คิดว่ามันต้องมีทางออก อย่าไปร้องไห้กับคำพูดเขา เราต้องมีกำลังใจ ไม่มีเงินไม่เป็นไร จบม.6ก็ทำงานสักปีเก็บเงิน แล้วค่อยไปสอบ เขาไม่อยากให้เราอยู่ เราก็ไปอยู่กับแม่ เราจะต้องทำได้ เราตั้งปณิธานไว้แล้วว่าจะต้องมีงานดีๆทำ และเลี้ยงครอบครัว ถ้าถึงตอนนั้นยายไม่ส่งจริง เราก็จะทำอย่างที่บอกไว้ แต่เรราจะไม่ทิ้งเขาหรอก เรารู้ว่าเขาลำบากเพื่อเรามามากแล้ว วันใดประสบความสำเร็จจะกลับมาให้เขาภูมิใจ เราคิดงี้ทุกครั้งที่เขาใช้คำพูบั่นทอนจิตใจเรา

จขกท.สู้ๆนะค่ะ คิดซะคำพูดการกระทำของแม่จขกท.ทำ เขาทำเพื่อเป็นแรงกระตุ้นให้เราพยายาม ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ คิดในแง่บวกเข้าไว้ เราต้องทำให้เขาเห็นว่าเราทำได้ แล้วเขาจะเห็นคุณค่าของความพยายามของเรานะคะ ^^

สู้สู้

0
Creammy 24 ก.ค. 57 เวลา 19:40 น. 33

ลองเรียนไปด้วยทำงานไปด้วยมั่ย อย่างน้อยๆก็เซเว่นอะ แล้วก็ลองกู้กยศดู พี่ไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นน่ะ แต่พี่เป็นกำลังใจให้ ยีงไงมอเปิดค่าเทอมแพงอยู่แล้วเนอะ ลองบอกเหตุผลกะแม่น้องดูน่ะ แต่พี่เสียดายแอดน้องอะ อุส่าแอดได้ล่ะ แต่ไม่เป็นไรน่ะ ชีวิตยังไม่สิ้น ก็ต้องดิ้นกันต่อไป สู้ๆน่ะค่ะน้อง

0
สถาพร 24 ก.ค. 57 เวลา 19:50 น. 34

ถ้าจะเรียนก็เรียนเลยครับ แล้วหาเงินทำงานกู้กยศ แล้วไม่ต้องไปโกธรแม่น๊ะ เพราะแกก็อยากให้เราได้ดีนั้นแหละ ยิ้มสู้อย่าถอย พอถึงวันรับปริญญายังไงแกก็ยิ้มหน้าบาน

0
Mekive Jay 24 ก.ค. 57 เวลา 19:50 น. 35

สู้ๆนะค่ะ  เป็นกำลังใจให้ค่ะ เชื่อว่าพี่จะต้องผ่านช่วงเวลาแบบนี้ได้ ถ้าพี่มีความอดทนกับอุปสรรคนี้ได้ สู้น้าาาาา ^^'

0
ปลวกน้อย" -.-  24 ก.ค. 57 เวลา 19:56 น. 36

เราไม่เคยเจออะเราก็พูดไม่ถูกแหะ 5555555555555 เอาเป็นว่า
สู้ๆนะ แม่เราโครตตตตตสนับสนุนการเรียนเลยแต่ไม่ให้เข้า ม.เอกชน(นอกจากหอการค้าไทย)ถ้าไม่ติดเลยรอปีหน้า แต่เราเชื่อว่าถ้าคนเราอยากจะเรียนก็ต้องได้เรียน กูยืมกยศมา แล้วทุกอย่างจะดี 55

0
rammii 24 ก.ค. 57 เวลา 19:56 น. 37

ถ้าให้เดา น้องเรียนรามรึปาวคะ อยากจะบอกว่าพี่ก็เรียนรามนะ สสาขาบัญชี อีกเทอมนึงก็จะจบแล้ว รวมๆแล้วเท่ากับพี่เรียน3ปีครึ่ง อยากให้กำลังใจนะคะ ที่พี่เลือกเรียนที่นี่ เพราะบ้านพี่ยากจน ค่าเทอมที่นี่ถูกมาก การเรียนการสอนก็ไม่ได้ด้อยกว่าที่อื่น เพียงแต่เราต้องมีความตั้งใจ ขยันมากๆหน่อย จบมาหางานได้แน่นอนเรียนที่ไหนก็เหมือนกันนะน้อง เอาให้จบเป็นพอ

0
Ploiiz 24 ก.ค. 57 เวลา 20:01 น. 38

พี่ว่าแก้ที่ตัวน้องก่อนดีกว่านะเรื่องขาดความมั่นใจ โลเล กับฟังคนอื่นมากไป บางทีที่คนอื่นๆพูดมันก็ไม่ได้จริงเสมอไป ต้องฟังหูไว้หูบ้าง ถ้าสงสัยก็ศึกษาหาด้วยตัวเอง แล้วเชื่อในตัวเองนะ

รู้สึกยังเรียนไม่เท่าไหร่เลยท้อแล้ว ลองเปิดใจก่อนนะ ไม่งั้นต่อให้ซิ่วอีกกี่ที่ก็ท้อหมดแน่ๆ ไม่ว่าจะเรียนคณะไหนสาขาอะไรมันมีความยากง่ายของมัน ไม่มีหรอกเรียนง่ายๆชิวๆเกรดเอลอยมา เรียนอะไรก็ ยากกกกกกกก เหมือนกันหมด

ที่พูดเพราะหวังดีนะคะ เป็นกำลังใจให้ ช่วงนี้ลองหางานพิเศษทำเก็บเงินช่วยพ่อแม่ อ่านหนังสือช่วงว่างๆ แล้วรอซิ่วปีหน้าก็ได้แล้วแต่ใจน้อง แต่รอบนี้ต้องเด็ดขาดแล้วนะว่า มันใช่! ศึกษาดูดีๆ แล้วมันจะโอเคสำหรับน้องนะ

สู้ๆ :) ของขวัญ

0
เห้ยขรรมส์ 24 ก.ค. 57 เวลา 20:05 น. 39

ชีวิตคล้ายเราดีค่ะ 555 แต่ของเรา ตอนแรกเราจะเข้มหาลัยรัฐ มีสองคณะที่เราสนใจ แต่ติดที่ว่า เรามีทุนทรัพย์ไม่พอสำหรับเรียนคณะนั้น และประกอบกับว่า ลูกของเพื่อนๆแม่เราที่จบมาจากคณะนั้น ไม่มีงานทำ แม่เราเลยไม่ให้เราเรียน

และประเด็นที่เราเกลียดตัวเองที่สุด คือ เราไม่เคยรู้ ว่าเราอยากเรียนอะไรกันแน่ เราเป็นคนไม่ชอบเรียนหนังสือ แต่เราอยากประกอบอาชีพนั้นๆค่ะ
แต่เราก็อยากให้พ่อแม่เราภูมิใจ เราจึงลงรับตรง และเราก็ได้ แต่เนื่องด้วยความผิดพลาดของ ใบกไหนดการณ์และเว็ปไม่ตรงกันเราเลยยืนยันสิทธิไม่ผ่าน
และแม่เราเลยคิดว่า เราเสียเงินเยอะเกินไปแล้ว สำหรับมหาลัยนี้และมหาลัยนี้ก็อยู่ไกลจากบ้านเรามาก แบบข้ามจังหวัดเลยทีเดียว แม่เราจึงยกเหตุผลหลายๆข้อมาพูดจนเราจำนนและยอมไม่ไปเรียนที่นั้น ทั้งๆที่เรา อยากเรียนที่นั่นมาก ด้วยหลายๆเหตุผล

แต่เรายังไม่ยอมแพ้ที่จะเรียนที่นั่น เราเลยดื้อดึง ยื่นแอดมิชชั่นไป และเราคิดว่า เราติดมหาลัยรัญตจว.นั้นแน่นอน แต่..เรากลัว กลัวว่าถ้าเราติด และแม่เราไม่ให้เรียน เราจะทำยังไงดี เราไม่อยากเสียใจซ้ำซาก วินาทีสุดท้ายของการชำระเงินค่าแอด เราตัดสินใจเปลี่ยนอันดับ มาเลือกมหาลัยรัฐชื่อดังอีกแห่งนึงแทน .. แต่เรายังภาวนาให้เราไม่ติดมหาลัยชื่อดังนั้น ..

แต่สุดท้ายเราก็ติด และเรื่องนี้ ..เราขอกราบขอโทษคนที่อยากเรียนมหาลัยรัฐชื่อดังนั้นจริงๆ ..กราบขอโทษเลยจริงๆ ..ที่เราไม่เอา ..

และตอนนี้ เรา ตัดสินใจว่าเราจะกลับไปมหาลัย ตจวนั้นอีกครั้ง โดยที่เรายืนยัน ว่าเราจะไปให้ได้ แม่เราเลย ยอม แต่มันไม่มีคณะที่เราเข้าได้เลย
เราเลยตัดใจและ ไปลงทะเบียนเรียน มหาลัยเปิดแห่งหนึ่งแทน ..

และหลังจากที่เราชำระเงินบลาๆเรียบร้อย เหลือแค่ยืนยันสิทธนศ. ..เราก็พบว่า มหาลัยตจว.หาลัยนั้น เปิดรับนศ.เพิ่มในคณะที่เราอยากเรียน เราก็บอกแม่ว่า เราอยากไปเรียนที่นั่น ..หลังจากนั้น แม่เราก็ด่า 555

และเราก็ต้องทำใจ ตั้งใจเรียนที่มหาลัยเปิดนี้ให้จบ เพราะ เงินทุกๆบาททที่เราจ่ายค่าทเมอ ค่าหน่วยกิจ บลาๆ เราหาเงินมาจ่ายของเราเอง :")
เราเลยคิดว่า เราดิ้นร้นของเรา ด้วยเงินของเรา มันไม่ผิดหรอก แต่เราเสียดายเงินที่เราลงทุนไปมากกว่า เราจึงไม่ทำ เพราะเราคิดว่าเงินที่เราเสียไปตั้งเกือบครึ่งแสนนี้ ทั้งค่าเดินทางค่ากินอยู่ ค่าอะไรบลาๆตลอดระยะเวลาที่เรา หาที่เรียนนี้ ..มันสร้างโอกาสให้คนได้อีกกี่คน เราจึงเลิก อยากเรียนนั่นนี่ .. โดยมาทำชีวิต ณ ปัจจุบันให้โอเคที่สุดดีกว่า .


ไม่รู้ว่า เราให้กำลังใจจขกท.ได้บ้างไหมนะคะ แต่เราคิดว่า เราเข้าใจ แต่เราไม่เคยท้อเลย ไม่ว่าใครจะบอกว่า มันเรียนยากนะนั่นนี่ เราก็ไม่เคยถอดใจ 55
แต่ที่เรายอมไม่เรียนเพราะเราสงสารพ่อแม่เรามากกว่า เราต้องอยู่ช่วยพ่อแม่เราทำงานอีก ไปไกลก็ดูแลกันลำบาก เราเลยไม่ไปก็ด้ะ ยอม 55

0
LaLuZe 24 ก.ค. 57 เวลา 20:07 น. 40

เราเรียน ม.เดียวกับเจ้าของกระทู้นี่แหละ เราไปสอบตรงมา 2 ที่ แต่สุดท้ายไม่ติดทั้งคู่ เราก็มุ่งเป้ามาที่ ม.เปิดแห่งนี้ ฐานะเราพอๆกับเจ้าของกระทู้นี่แหละ แถมยังกู้เงินของรัฐด้วย รู้กันอยู่เนอะว่ากองทุนอะไร

เรื่องคณะที่อยากเข้านี้เอาจริงๆ แม่เราไม่อยากจะให้เรียนคณะนี้หรอก แต่เราดื้อจนสุดท้ายก็ได้เรียน เจ้าของกระทู้ยังดีนะมีแค่แม่ แต่เราอะ น้า 4 คน พี่ชายอีก 1 พากันค้านแทบตายยิ่งเรื่องมาเรียน ม. เปิดอีก โอ๊ยยยย เราโดนด่าโดนว่ามาเยอะว่าแค่เรียนศึกษาศาสตร์ต้องถ่อมาถึง กทม.เลยเหรอ ภาคเรา ม.ดีๆมีถมไป ทำไมไม่เรียน 

เวิ่นเรื่องตัวเองเยอะเอาเรื่อง จขกท.บ้าง จากที่อ่านมา
-เจ้าของกระท้ไม่มั่นใจในคณะที่ตัวเองเลือกเพราะคำของ อ.สัมภาษณ์
-แล้วพอมาสมัคร ม.เปิดก็เริ่มท้อกลัวเรียนไม่ไหว
-พอเห็นเพื่อนมีรับน้อง มีกิจกรรมก็อิจฉา

    บอกตามตรงเราก็อิจฉาเหมือนเจ้าของกระทู้นั่นแหละ แต่เราหวังอยากจะจบแล้วมีงานทำ ได้ดูแลพ่อแม่ เลยไม่สนใจในเรื่องรับน้องเท่าไหร่ ทั้งที่ความจริง ม.แห่งนี้ก็มีนะ ถ้าเจ้าของกระทู้อยากเข้ารับน้องเขาก็มีให้เลือกเยอะแยะ
    ต่อมาเรื่องกลัวเรียนไม่ไหว อันนี้ขึ้นอยู่กับตัวเราเองล้วนๆ ถ้าคิดว่าไม่ไหวตั้งแต่แรก ยังไงก็ไม่ไหว ลองคิดดูสิว่าเรื่องแค่นี้ของกล้วยๆ ยังไงๆเราก็ทำได้ เราไหวอยู่แล้ว! ปรับความคิด ชีวิตเปลี่ยนนะ
    ต่อมาเรื่องฟังคำคนอื่น อันนี้เราฟังแล้วเราต้องเอามาคิดก่อนนะ คิดนานๆแบบมองตั้งแต่เรื่องความชอบ ความเหมาะสม ความพร้อมของตัวเรา อันที่จริงเรื่องความชอบนี่ทำให้เราตัดสินใจได้ 50% แล้วนะ เพราะฉะนั้น จขกท. ต้องเชื่อมั่นใตัวเองให้มากๆนะ
    เรื่องคุณแม่ อันนี้เราเป็นคุฯแม่เราก็โกรธนะ เรียนมาไม่ได้เท่าไหร่จะซิ่วแล้ว คุณแม่อาจจะคิดว่าทำไมเราไม่คิดให้ดีก่อน อีกอย่างเรื่องเงินสำหรับสภาพสังคมช่วนี้มันสำคัญนะ อย่าคิดว่าพ่อแม่ไม่หวังดี แต่ท่านก็ลำบากเหมือนกัน

   สู้ๆนะ จขกท.

0
ความดีต้องชนะ 24 ก.ค. 57 เวลา 20:08 น. 41

สู้ๆนะปัญหาคล้ายๆกันเลย อยู่บ้านก็เรียนไม่ค่อยได้ เราเกือบบ้าอะ ม.เดียวกันด้วยมั้ง แต่เราไม่เคยดูถูกม.นี้นะ เราดีใจที่ได้เรียน เสียเวลาไปประมาณ2ปี ตอนนี้เราหนีปัญหาด้วยการมาอยู่หอ ถ้าเงินไม่พอก็ทำงานไปเรียนไป แต่เราได้มาอยู่หอเพราะ เงิน พ่อ - แม่นะ ต้องหาทางคุยให้ได้อย่างน้อยต้องมีพ่อ หรือ แม่อยู่ฝ่ายเรา แล้วต้องตั้งใจเรียน พอมาอยู่หอได้แล้วถ้าเงินไม่พอเราก็ยังทำงานไปเรียนไปได้ไง ใกล้ม. จะเหนื่อยน้อยกว่าเดินทาง และ ไม่เปลืองค่ารถ
แต่ตอนนี้เรายังไม่ได้ทำงานยังมีเงินสนับสนุนอยู่ เราก็ยังไม่รู้ว่าข้างหน้าเราจะลุยกับอะไรอีก เคยท้อมากด้วย แต่ตอนนี้พร้อมละ ต้องสู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆโกรธแล้วนะ เรามีเป้าหมายคือ ต้องรวย ให้ได้ รวยๆๆๆๆๆๆๆๆ คิดสะว่าข้างหน้าคือความสนุก ด่านต่อไป ที่กำลังมา ให้เราเคลียดด่าน ผ่านมันไป สู้เว้ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆโกรธโกรธโกรธโกรธโกรธ

0
PimPim1412 24 ก.ค. 57 เวลา 20:08 น. 42

ถ้าคราวหน้าจะลงแอดอีกครั้งขอให้คุณศึกษารายละเอียดของคณะให้ดีก่อน ให้ลงคณะที่ชอบอาจจะลงระดับมหาลัยตามคะแนนแต่ถ้าเป็นคณะที่อยากเรียนจริงๆก็ขอให้ทำแบบนี้ แต่ถ้ายังไม่มีคณะที่ชอบจริงๆขอให้คุณใช้เวลา1ปีในการศึกษารายละเอียดของคณะและเตรียมตัวเตรียมความพร้อมให้ดี 

แต่ถ้าคุณเลือกที่จะเรียนมหาลัยเปิดก็ขอให้คุณตั้งใจ เพราะถ้าคุณตั้งใจและตั้งใจจริงๆสักวันแม่คุณจะเห็นความตั้งใจของคุณเอง ถ้าไม่มีใครส่งเรียนกยศ.เลยฮ่ะ 
แล้วก็การถูกรบกวนนี่ก็ซื้อหูฟังกันเสียงมาเลยน่าจะดี อีกอย่างการจะเรียนจบไม่จบมันขึ้นอยู่กับใจครับ ถ้าเราเชื่อว่าเราทำได้เราก็ทำได้ ม.เปิดก็จริงแต่ถ้าตั้งใจขยันก็จบครับ บางคนเรียนม.เปิดจบมาหน้าที่การงานดีกว่าม.ปิดก็มีถมไป มันขึ้นอยู่กับเกรดและคะแนนจบของคุณต่างหาก แล้วที่คุณอิจฉาเพื่อนที่เข้ามหาลัยปิดมีรับน้องมีกิจกรรมต่างๆ อยากถามคุณว่าการเรียนป.ตรีนี่เรียนมาทำไมครับ เรียนเพื่ออาชีพในอนาคตทั้งชีวิตของเราไม่ใช่หรอ ทำไมต้องมาอิจฉาคนอื่น 

แต่ความเห็นส่วนตัวนะครับคิดว่าครูที่เค้าสัมภาสแทบทุกคนเค้าลองใจเด็กนะว่าอยากเรียนจริงๆรึป่าวเลยถามแนวนั้นผมเคยเจอคำถามแนวนั้นมาบ้างเหมือนกัน ส่วนพ่อแม่ก็ต้องรักลูกทั้งนั้นแหละ แค่ว่าอาจจะไม่ได้พูด ไม่ได้แสดงความรู้สึกก็ได้ ยังไงก็เอาใจช่วยให้ผ่านความรู้สึกเลวร้ายนี้ไปได้ครับ ฟ้าหลังฝนย่อมงดงานและสดใสเสมอนะ

สุดท้ายผมคิดว่าคุณยังขาดความเด็ดขาดในการตัดสินใจนะ ยังลังเล 
ถ้าคุณชอบอะไร อยากเรียนอะไรให้เปิดใจย้ำว่าเปิดใจนะครับ คุยกับพ่อแม่ไปเลย
อย่าคุยด้วยอารมขอให้คุยด้วยเหตุผลล้วนๆ รับฟังกันมากกว่านี้ ผมเคยเลือกคณะขัดใจพ่อแม่มาก่อนเหมือนกันแต่เราก็เปิดใจคุยกับพ่อแม่ไปเลยแบบเคลียๆเลยนะประมาณ3รอบได้  สุดท้ายพ่อแม่ก็เข้าใจและเห็นความตั้งใจจริงๆของเรา เลยหันหน้ามาสนับสนุนด้วยซ้ำ สู้ๆนะ ตั้งสติดีๆ อย่าคิดมาก หาอะไรทำ แต่ถ้าว่างๆก็หางานพิเศษทำก่อนก็ได้แม่คุณอาจอยากให้คุณได้ทำงานจริง หาประสบการณ์บ้างก็ได้ มันอาจทำให้คุณรู้ใจตัวเองมากขึ้นก็ได้ ทำงานเก็บตังคเรียนเองก็ได้นะ แม้มันจะเหนื่อยแต่คุณจะภูมิใจมากๆเลยนะ ผมก็ได้แค่เสนอความคิด แต่อนาคตคุณ ชีวิตคุณคุณต้องเลือกเองนะ สู้ๆ

0
essdf 24 ก.ค. 57 เวลา 20:21 น. 43

ยังไม่ได้ไปลองเรียนเลย โว้ะ แค่นี้ท้อซะแล้ว งั้นก็เลิกเรียนเหอะจ่ะ

0
White_Smile 24 ก.ค. 57 เวลา 20:23 น. 44

ที่แม่บอกไม่ต้องเรียนอะไรนั่น พี่ว่าแม่เขาประชดนะคะ ไม่มีพ่อแม่ที่ไหนที่ไม่อยากให้ลูกเรียนสูงๆหรอก

ปัญหาคือน้องใจโลเลไปจริงๆอย่างที่คหก่อนๆว่า ถ้าจะเลือกเรียนคณะไหนก็ต้องมีความมั่นใจก่อน เลือกคณะที่ชอบเพราะจะได้เรียนแล้วมีความสุข หรือจะเลือกคณะที่การันตีว่าจบมามีงานดีๆให้ทำแต่เรียนยาก คือถ้าเลือกอย่างหลังมันก็ต้องเตรียมตัวเตรียมใจด้วยว่าต้องตั้งใจเรียน และไม่ใช่ถอดใจแบบเรียนวันนี้ พรุ่งนี้จะซิ่วแล้ว 

แม่น้องได้ยินอย่างนี้จะโมโหก็ไม่แปลก ดังนั้นที่น้องควรทำคือคิดทบทวนให้ดีๆว่ายังจะกัดฟันเรียนที่นี่ต่อไปไหวไหม และถ้าไม่ จะไปเรียนที่ไหนถึงจะดี และต้องเรียนให้จบจริงๆด้วย จากนั้นจึงไปบอกพ่อแม่ ว่าอันนี้แหละ จะเรียนแล้วจริงๆ

ถ้าไม่มีเงินเรียนก็ไปทำงานก่อนก็ได้ ทำงานส่งตัวเองเรียนไม่ใช่เรื่องแปลก ขอแค่ใจสู้ อะไรๆก็ผ่านไปได้อยู่แล้ว

0
Chartz 24 ก.ค. 57 เวลา 20:34 น. 46

เห็นใจน้องนะครับ แต่พี่ก็เข้าใจแม่น้องนะว่าทำไมพูดแบบนั้น เชื่อพี่เถอะ "คนหาเงินนะท้อกว่าคนนั่งเรียนเยอะ"

0
loki 24 ก.ค. 57 เวลา 20:35 น. 47

เปิดใจให้กว้างๆ ยอมรับมันบ้าง ไม่ใช่กลัวจนปิดกั้นซะทุกอย่าง แบบนี้ไม่ว่าเรียนสาขาไหนก็ไม่ประสบความสำเร็จหรอกเพราะกลัวตั้งแต่ยังไม่เริ่ม ทุกสาขามีวิชายากๆอยู่แล้ว แล้วน้องได้เข้ามหาวิทยาลัย น้องลองคิดดูดีๆ คนที่เขาไม่ได้เข้ามหาวิทยาลัยแบบน้องก็มี เขาอยากเรียน แต่น้องโชคดีแค่นั้นแล้ว จะคิดว่าโชคชะตาไม่เข้าข้างก็ไม่ผิดหรอก แต่ลองเปิดใจก่อนดีกว่าไหม

0
nuttt 24 ก.ค. 57 เวลา 20:38 น. 48

เราว่าที่แม่พูดอย่างงั้นอาจจะเป็นเพราะจขกท ลังเลเกินไปก็ได้

เพราะดูจากที่เล่ามา ถ้าเราเลือกในสิ่งที่ชอบแต่แรกอะ เราเชื่อว่าเราจะทำมันได้ดีเเละมีความสุข

แต่ จขกทบอกฟังคนอื่นพูดเลยไม่เลือก

เราอยู่ม.ปลายนะ แต่คิดว่าการที่อาจารย์เค้าถามแบบนั้น น่าจะเป็นการลองใจรึเปล่า

ว่าอยากเข้าจริงๆมั้ย ไรเงี้ย เราก็ไม่ชัวร์นะ

แต่ก็ขอให้ จขกท อย่าท้อกับสิ่งที่เลือก อย่าลังเลจนเกินไปค่ะ

0
junely DENT 24 ก.ค. 57 เวลา 20:40 น. 49

พี่คิดว่าน้อง ควรจะรู้ตัวเองนะคะว่าอยากเป็นอะไร ชอบอะไร ไม่ใช่เลือกคณะแบบจบไปมีงานทำ. แต่จริงแล้วทุกคณะจบไปมีอาชีพแน่นอนคะ อยู่ที่ตัวเรา แล้วที่บอกว่ากลัวเรียนไม่ไหว เราไม่ควรคิดแบบนั้นนะคะ คิดแบบนั้นคือตัวบั่นทอนจิตใจ ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆหรอกคะ มันอยู่ที่ความพยายามของน้องนะคะ ส่วนคุณแม่ ถึงแม่จะว่าจะพูดอะไร เราก็พยายามเมินไปอย่าไปคิดมาก แม่คือผู้มีพระคุณนะคะ เขาหาเงินส่งเสียน้องมาเหนื่อยขนาดไหน ลองกลับไปคิดดู อย่าให้อารมย์ชั่ววูบบังคับเราได้ สู้ๆนะจ๊ะ

0
Mhuk >< 24 ก.ค. 57 เวลา 20:43 น. 50

เราเด็กแอด รุ่น 57 ค่ะ

 เราจะเล่าเรื่องของเราให้ฟัง ...

มหาลัยเปิดที่เธอดูถูกเราเดาว่าน่าจะเป็น รามคำแหงซินะ .. บอกเลยเรากำลังเรียนที่นี่อยู่ เราเป็นคนเรียนปานกลาง เรามีความฝันที่จะเป็นนักข่าว เราอยากเข้าคณะนิเทศ ม.รัฐ ที่มีชื่อเสียง แต่เราไม่ติดรับตรงกับทุนที่ไปสอบเลย เราเลยตัดสินใจไม่แอดมิดชั่นแล้วมาเรียนที่รามคำแหงเลย เพราะอะไร? เพราะฐานะที่บ้านเราก็ไม่ได้ดีนัก พอมีพอกิน ประหยัดช่วยแม่ได้ก็ช่วยเพราะแม่เราเป็นคนดูแลส่งเสียเราเพียงคนเดียว ที่เราไม่แอดมิดชั่นเพราะมันเสียเวลา ที่ที่เราอยากเข้าก็ไม่มีหวังแล้วเพราะคะแนนมันต่างกันลิบลิ่วมาก เราเลือกที่จะไม่รอเพราะเราเสียดายเวลาแล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าผลจะออกมาเป็นยังไง ที่สำคัญคนที่ทำงานในสายที่เราอยากทำก็มีคนจบจากที่รามคำแหง เราเลยมองว่ารุ่นพี่เขายังหางานดีๆงานที่เราชอบทำกันได้เลยแล้วทำไมเราจะทำไม่ได้ ใครๆก็ดูถูกเราว่าเราไม่ไหวหรอก แต่เราก็ไม่สนใจ เพราะอะไร? เพราะเราเชื่อในตัวเองแล้วเราจะลบคำสบประมาทที่เขาดูถูกเราให้ได้ สังคมรามคำแหงมันไม่ได้เลวร้ายหรอกนะ แค่เปิดใจ ที่นี่ก็ไม่ต่างจากที่อื่นหรอก กิจกรรมก็มีให้ทำ โครงการอาสา รับน้องของคณะก็มีให้เข้าร่วม เพียงแต่ต้องรู้จักขวนขวายหาข่าวสารถามรุ่นพี่เอาเอง อาจารย์ก็สอนสนุก แถมให้แง่คิดดีๆกับนักศึกษาเสมอ การใช้ชีวิตที่นี่อาจจะมีเหงาบ้าง ท้อบ้าง เหนื่อยบ้าง แต่มันก็ไม่ยากเกินไปที่ผ่านไปได้ แค่ทำทุกอย่างให้ดีที่สุด พอเราผ่านมันมาได้เราจะภูมิใจว่าเราโตขึ้นนะ เราอยู่ได้  ... 

ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราเล่ามา เราคิดเอง เราเลือกที่จะไม่โลเลให้แม่เห็น แม่จะได้สบายใจและเชื่อมั่นในตัวเรา 

อยากบอกกับเธอว่า ถ้าตัวเธอเองเธอยังดูถูก เธอก็ไม่มีวันมีความสุขและทำอะไรสำเร็จ

อนาคตจะเป็นยังไงเราก็ไม่รู้ แต่วันนี้เราเลือกที่จะมองความจริงแล้วอยู่กับมันให้ได้ ใช้ชีวิตอย่างมีวินัยและสนุกสนาน ทุกข์บ้างก็ไม่เป็นไรเดี๋ยวมันก็ผ่านไป  

ที่สำคัญเราภูมิใจ ที่ได้เรียนที่ "รามคำแหง" 

0
ตึหนึ่ง 24 ก.ค. 57 เวลา 20:50 น. 51

เวลาเราท้อให้มองคนที่ด้อยกว่าเรา
สู้ๆนะคะทำให้เค้ารู้ให้ได้้ว่าสิ่งที่เค้าคิดมันผิดคิด
สู้ๆ

0
สู้ๆ 24 ก.ค. 57 เวลา 20:50 น. 52

เราขอเป็นกำลังใจให้นะคะ เราเป็นเด็ก 57 เหมือนกัน เราก็เป็นคนนึงที่ไม่ได้มีโอกาสมากมายเหมือนใครๆ เขา เราแอดได้คณะที่ชอบและอยากเข้าจริงๆ แต่ที่บ้านไม่มีกำลังพอที่จะส่งให้ไปเรียนในปีนี้ พ่อแม่เราก็บอกจะพยายามเก็บเงินส่งให้เรียน ให้กำลังใจ เราก็จะคอยเก็บเงินเองด้วย ตอนแรกเราก็เสียใจมาก แต่ตอนนี้ก็เริ่มจะเข้าใจมากขึ้นแล้ว ก็ได้แต่เตรียมตัวสมัครเรียนใหม่

อย่าเพิ่งท้อนะคะ เราเชื่อว่าอะไรๆ มันต้องผ่านไปได้

"ตอนนี้เหมือนเราอยู่ในสถานการณ์ที่ผู้คนที่เดินผ่านไปมาใบหน้ามีแต่รอยยิ้ม เราคือคนหนึ่งที่แปลกในคนกลุ่มนี้" เราก็คิดแบบนี้บ้างอยู่เหมือนกันค่ะ แต่เราก็ทำใจว่าครอบครัวเราไม่ได้มีกำลังพอจะส่งเสียมากพอ จะขอทุนมันก็คงไม่ทันแล้ว เราก็ได้แต่รอปีหน้าต่อไป

สู้ๆ นะคะ ลองคุยกับแม่ดีๆ อะไรๆ มันอาจจะดีขึ้นก็ได้ค่ะ

มายิ้มไปด้วยกันนะ :)

0
เสือละเมอ 24 ก.ค. 57 เวลา 20:53 น. 53

อย่าไปคิดมาก บอกตรงๆเราก็พอๆกัน ทางบ้านไม่ได้สนับสนุนเรื่องนี้
แต่อย่าไปท้อ มีโอกาสคว้าไว้ก่อน
ตอนนี้เราผ่านจุดนั้นมาแล้ว เราพิสูจน์ให้ทางบ้านเห็นว่าเราทำได้
จนในที่สุดเขาก้สนับสนุนเราแล้ว สู้ต่อไปนะ

0
บลาบลาแบคชิพ 24 ก.ค. 57 เวลา 21:08 น. 54

ส่วนตัวอยากให้น้องอดทนกับอุปสรรคอีกค่ะ คำพูดของคุณพ่อคุณแม่เป็นแรงผลักดันสำหรับทุกอย่าง ตอนพี่สอบเข้ามหาลัย พี่ก็โดนแม่ด่าว่าประจำ ทั้งขอให้สอบไม้ติดบ้าง ทั้งพูดดูถูกต่างๆนาๆ แต่ก้ฟังความข้างเดียวไม่ได้ค่ะ ที่พี่ถูกด่า เพราะพี่ไม่ยอมใส่ใจกับสิ่งที่พี่ทำเอง พี่เอาแต่เล่นเรื่อยเปื่อย อ่านน่ะอ่านค่ะ แต่อ่านบ้างไม่อ่านบ้าง ไม่ได้จริงจังอะไร (พี่สอบติดนะคะ ถึงจะมารู้ตอนที่สัมพาทว่ามันไม่ใช่อย่างที่ต้องการ พี่ก้เรียนค่ะ เหมือนน้องเลย เขาแนะนำให้พี่เข้าคณะหลัก พี่ขี้เกลียดสอบที่อื่นด้วย เลยเอาเลย) พี่ว่าตอนที่คุนแม่เขาบ่น ต้องคิดหน่อยนะคะว่าเราทำอะไรที่ดูเรื่อยเปื่อยให้แม่เห็นรึเปล่า เรียนมหาลัยเปิดไม่ได้ยากอย่างที่คิดค่ะ แค่ลองตั้งใจดู จบไหนก้มีงารทำเหมือนกันหทดค่ะ สู้ๆนะคะ :)

0
รถขนมปังกรอบ 24 ก.ค. 57 เวลา 21:10 น. 55

ถ้าพี่จะพูดอะไรตรงๆ น้องจะรับได้ไหมคะ? ถ้ารับไม่ได้ อย่าเลื่อนลงไปอ่านนะ





























หนมปังว่าน้องเป็นคนยอมแพ้เร็วไป และยังใจฝ่อง่ายค่ะ 

ที่ผ่านมาน้องไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไรก็หาข้อมูลแล้วก็เฮโลไปตามเสียงคนรอบข้าง พอเขามาบอกว่าไม่ดีน้องก็ "ไม่เอาดีกว่า" น้องมาเลือกมหาลัยเปิดเพราะไม่มีช้อยส์ น้องไม่ได้รักสิ่งที่ตัวเองเรียน และยังหาสิ่งที่ตัวเองรักจริงๆ อยากจะเรียนจริงๆไม่ได้เลยด้วย พี่ว่าน้องอยู่ในสภาวะสับสนชีวิตอย่างหนักเลยล่ะ

ข้อแรก อย่าอิจฉาคนอื่น น้องเป็นคนตัดสินใจเองนะ ก็ต้องไปข้างหน้าอย่ามาหันมองด้วยความเสียดาย มันไม่ช่วย ข้อที่สอง จงเข้าใจว่าแม่น้องเป็นคนเหนื่อยหาเงิน ค่าเทอมค่าบำรุงการศึกษาไม่ใช่ถูกๆ น้องจะเรียนอะไรยังไงให้คิดถึงตรงนี้บ้าง ข้อที่สาม แม่น้องไม่ได้พูดผิดทั้งหมด ถ้าจะเรียนเพื่อลาออกอย่าเรียน และอย่าปิดใจกับหารหางานทำก่อนกลับไปเรียน มันอาจจะเป็นเรื่องดีจริงๆก็ได้ น้องอาจจะได้ทราบค่าของเงินมากขึ้น และอาจจะจุดประกายให้น้องทีหลังได้ ไม่ว่าน้องจะเลือกทางนี้หรือไม่ก็ตาม อย่าดูถูกข้อเสนอของคุณแม่ค่ะ

ข้อที่สี่ น้องลองมองดูสิว่าอะไรที่อยู่ในมือ น้องกำลังเรียนอะไรทำอะไร พี่ว่าน้องค่อนข้างพลาดที่ปฏิเสธ ม. ที่แอดได้ แต่ยังไงก็ตัดสินใจไปแล้ว ตอนนี้น้องต้องพิจารณาจริงจังว่าตัวเองมีทางเลือกอะไรที่ไหนบ้าง ม.เอกชนแม่น้องส่งไม่ไหวก็มองม.เปิด ซึ่งจริงๆ ม.เปิดเนี่ย เรียนคู่ไปกับม.รัฐได้นะคะ เวลาจบสองปริญญาพร้อมกัน แต่น้องต้องขยันแบบรากเลือดเลยล่ะ (เพื่อนพี่เคยทำอยู่ แต่จบมาแล้วได้เครดิตจาก บ. ที่ทำงานมากๆ คือหางานง่ายกว่าเพื่อนรุ่นเดียวกันพอควร) เพราะงั้นวางแผนดีๆ ไปคุยกับแม่ด้วยแผนที่เป็นรูปเป็นร่าง บอกแม่ว่าหนูจะเรียนม.นี้ไป 1 ปี เอาประสบการณ์ พอแอดปีหน้าก็จะเข้าม.รัฐด้วยแล้วเรียนคู่กันไปถ้าแม่ส่งไหว หรือไม่ก็ระหว่าง 1 ปีที่เรียนแต่ ม.เปิด น้องก็เริ่มทำงานเก็บตังค์ไว้เลย ปีหน้าน้องมีเงินเก็บพอจะช่วยแม่ส่งตัวเองเรียน ไปสักจึ๋ง อาจจะวางแผนกู้กยศ.ด้วยหรืออะไรก็ว่าไป

อย่าไปวางแผนที่จะล้มเลิกทีหลังนะ แบบนั้นไม่เจ๋งเลย อย่าไปหาคณะที่ "เขาว่ากันว่าดี" น้องจงมองหาสิ่งที่น้องทำแล้วมีความสุข อย่าไปเลือกคณะตามเพื่อนหรือตามคนอื่น แต่ถ้าไม่มีทางเลือกแล้ว อะไรที่อยู่ในมือก็จงทำให้ดีที่สุดก่อน อย่าไปหวังน้ำบ่อหน้า    

ที่สำคัญ อย่าสงสารตัวเอง อย่าอิจฉาคนอื่น ถ้าเราเอาตัวเองไปเปรียบเทียบคนอื่นตลอดเวลาชีวิตจะไม่มีทางมีความสุข ชีวิตคนไม่เหมือนกัน มองเฉพาะทางที่เราจะเดินไปข้างหน้าดีกว่า 


0
บอบี 24 ก.ค. 57 เวลา 21:14 น. 56

ทำไมพี่ไม่พอใจกับสิ่งที่พี่มีหละครับ ไปอิฉาคนอื่นทำไม ไปดูสิ่งรอบตัว ไปดูเพื่อน ทำไมพี่ไม่อยู่กับสิ่งที่มีแล้วทำให้มันดีที่สุดหละครับ ยังไงพ่อแม่ทุกคนก็รักลูกนะครับ ค่อยๆคุยกับก็ได้หนิครับ

ปล.ความเห็นส่วนตัวนะครับอาจจะประสบการยังน้อย แต่ก็เคยอยากตายเหมือนกับตั้งใจ

0
P a я m ' m 24 ก.ค. 57 เวลา 21:18 น. 57
เอ่อ.. พี่ว่า น้องต้องศึกษาให้ดี ว่าน้องอยากเข้าอะไร
ต่อให้ศึกษามาไม่ดีพอแล้วมารู้ทีหลังว่าแบบ ไม่โอเคเลยว่ะ คณะนี้ ..
น้องก็ต้องอดทนรู้ปะ ต่อให้ไม่ชอบ แต่เลือกแล้วต้องไปให้สุด ถ้าไม่ใช่จริงๆ ปี58 ก็แอดใหม่ได้ไม่ใช่เหรอน้อง ชีวิตน้องไม่ได้ตัดสินด้วยการแอดแค่ครั้งเดียวหรือเข้ามหาลัยในปี57 ปีเดียวนะ
แล้วถ้าเป็นสิ่งที่น้องอยากเรียน ใจน้องอยาก ต่อให้คนมากมายมาพูดว่า ไม่ดีคณะนี้มหาลัยนี่ บลาๆ . พี่ก็อยากถามว่า น้องจะไม่หนักแน่นในความฝันน้องหน่อยเหรอคะ ? มันก็จริงที่จบคณะไหนมาก็ทำงานตามนั้น แต่ก็มีหลายครั้งที่คนเราไม่จำเป็นต้องทำงายตามที่จบ
ที่พี่จะพูดคือ อนาคตน้องมีมากมายให้น้องเลือกค่ะ
อย่างพี่ พี่จะเข้าหมอ แต่ลืมจ่ายค่าสอบ เด้งตัวเองไปเรียนพยาบาลแทน ซึ่งนั่นเป็นความต้องการที่รองลงมา แน่นอนว่าขึ้นชื่อว่าพยาบาล ไม่มีคำว่าอิสระแน่นอน พี่เรียนค่อนข้างหนัก ชีวิตตลอด1ปีอยู่กับกฎเกณฑ์มากมาย ทั้งกฎของคำว่าพยาบาล และกฎของความเป็นปี1
พี่อดทน พี่ยอมรับความเป็นพยาบาล ใจจริงพี่ไม่ค่อยโอ แต่โอเค พี่ท่องไว้ว่าจบมาก็พยาบาล อยู่กันมัน และพี่ก็แฮปปี้ที่ยอมรับได้
ที่พี่บอก ชีวิตน้องไม่ได้ตัดสินด้วยการเข้ามหาลัยในปี57 แค่ปีเดียว ปี58 ปี59 มีให้น้องเริ่มใหม่มากมาย ในปีนี้ที่คุณแม่น้องไม่โอเคด้วย อาจจะเป็นเพราะทุกอย่างที่น้องตัดสินใจ มันกระทันหัน คืนนี้จะเข้า พรุ่งนี้จะซิ่ว
ที่คุณแม่น้องพูด มันอาจไม่ได้ออกมาจากใจ อาจจะเป็นแค่ความหงุดหงิดในความโลเลของน้อง (น้องรู้มะ ขึ้นชื่อว่าแม่นี่สุดยอดมนุษย์ป้า! แม่พี่งอนพี่ ปั้นปึ่งใส่พี่ได้เป็นอาทิตย์เลยนะ พยามทำตัวให้ขัดสายตาพี่ทุกอย่าง. ดังนั้นอย่าซีเรียสหรือคิดว่าคุณแม่น้องเกลียดหรืออะไร ท่องไว้ แม่วัยทอง ง้อๆท่านไป แล้วค่อยไปปรึกษาเรื่องเรียนกับท่าน ไม่มีแม่คนไหนไม่สนใจลูกหรอกค่ะ)
ค่ะ พี่ก็ซิ่วออกจากพยาบาล มาเรียนหมอตามที่ตั้งใจแต่ต้น แต่พี่รู้ว่าความรู้ม.ปลายพี่ไม่เหลือละ มีแต่ความรู้พยาบาล พี่ก็ลาออกจากมหาลัยก่อนเลย แล้วหนีไปฟิลิปปินส์
เรียนพยาบาล 4 ปีจบมีงานแน่นอน แต่ไปหมอที่ปินส์ พี่ต้องไปเตรียมแพทย์ก่อนถึงจะสอบเข้าหมอได้ เบ็ดเสร็จ7-8 ปี (นี่พี่จะแก่ตายก่อนมั้ย?)
เอ้อ นี่พี่ยังไม่ได้ไปเรียนนะ กำลังทำวีซ่า (ฮา) อนาคตพี่ไม่แน่นอนเลย จะจบแน่มั้ยก็ไม่รู้ หลายคนที่รู้ว่าพี่จะไปปินส์ก็มาพูดแบบ
โหยย หมอปินส์เขาไม่ยอมรับนะเว้ย เจาบอกเข้าง่ายจบง่าย  ไทยไม่ยอมรับ ไม่มีคุณภาพ บลาๆๆๆ
ถามว่าพี่สนมั้ย ค่ะ พี่สน แต่แล้วไง พี่ก็ตอบมันไป "แล้วไง ความฝันอะ เงียบไปเลยนะไอฝัด อยู่สนับสนุนให้กำลังกรุพอ แล้วไม่ต้องไปฟังอะไรจากใคร รอฟังจากกรุนี่ ว่าหมอปินส์มันห่วยจริงมั้ย รอกรุไปเรียน"
พี่คิดว่าหมอไทยดูถูกหมอปินส์ ก็ไม่ต่างกับหมอจุฬาดูถูกหมอมศว.หรอกค่ะ แต่แล้วยังไง หมอก็คือหมอไม่ใช่เหรอ พี่เชื่อว่ามันไม่ง่ายจนน่าดูถูกหรอก พี่เชื่อว่ามันต้องมีทางที่ดีสำหรับพี่แน่นอน พี่แค่ต้องเชื่อใจตัวเอง แล้วคว้าทุกโอกาสที่พี่จะทำให้พี่คว้าฝันพี่ได้
ดังนั้น พี่ต้องหนักแน่น น้องก็เหมือนกัน หนักแน่นเข้าไว้
อยู่ที่ใจน้องเลย ! สู้ๆนะคะ ทุกอย่างมีทางออก ทุกอย่างมีทางไป มันมีทางที่ดีสำหรับน้องแน่นอน ใจเย็นๆ แล้วค่อยๆมองไป
0
❥AOM 24 ก.ค. 57 เวลา 21:24 น. 58

อย่างเเรกเลย คุณควรถามตัวเองก่อนค่ะ ว่าชอบอะไร และอยากเรียนอะไรจริงๆ ถ้ารู้เเล้วก็ลองสู้ดูสักตั้งค่ะ เอาใหม่ เราเชื่อว่าเสียเวลาในการค้นหาตัวเองดีกว่าเสียเวลาเรียนในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบจริงๆ 

เเล้วก็ม.เปิดที่คุณว่า เราอยากให้คุณเปลี่ยนมุมมองความคิดว่าที่นี่จบยากหน่อยนะคะ มันไม่ได้เป็นเเบบนั้นทั้งหมดค่ะ มีหลายคนค่ะที่มาเรียนที่นี่เเล้วจบก็มีเยอะเเยะค่ะ รุ่นพี่ที่เรารู้จักจบ 2 ปีครึ่ง 3 ปีก็มีค่ะ มันขึ้นอยู่กับ "ความขยัน" เเละ "ความอดทน" ของคุณ เพราะม.เปิดเนี่ยอิสระโครตๆเลยนะคะ ไม่ต้องมีรับน้อง ไม่ต้องเชียร์ ไม่มีใครบังคับด้วย เเต่คุณต้องรับผิดชอบตัวเองโดยการไปเข้าเรียนทุกครั้ง ตั้งใจเรียน กลับมาอ่านหนังสือทบทวนค่ะ ที่นี่ต้องเรียนเเข่งกับ "ตัวเอง" ถ้าวันไหนคุณท้อ คุณหมดความพยายามก็จบเห่ค่ะ 

เราอยากจะบอกว่าอย่าน้อยใจในสิ่งที่เเม่คุณพูดเลย เราก็โดนเเม่พูดเเบบนี้เหมือนกัน เราเจอวิชาที่ยาก เราอ่านเเล้วเราไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจจริงๆจนเราร้องไห้ ยอมเเพ้ไปเลย เราบอกเเม่ว่าจะไม่ไปสอบเเล้วนะ เเต่เชื่อมั้ยคะ เเม่เราก็ว่าคล้ายๆเเม่คุณเเหละ เเม่บอกว่าถ้าไม่คิดจะสอบก็ไม่ต้องลงให้เปลืองเงินค่าลงทะเบียน เปลืองค่ารถ เเต่ถ้าลงไปเเล้วก็ควรจะไปสอบ พยายามให้เต็มที่ ตกเเม่เราไม่เคยว่า เเต่ขอให้เราสู้เเล้วไปสอบจริงๆ เเค่นี้เค้าก็พอใจเเล้ว เราท้อหลายต่อหลายครั้ง เราก็งอเเงเเล้วโดนเเม่ว่าเเบบนี้ทุกครั้ง เเต่เชื่อมั้ยคะ ทุกวิชาที่เราท้อ เราผ่านหมดเลย เเถมเกรดสวยมากๆซะด้วย ดังนั้นอย่าคิดน้อยใจในสิ่งที่เเม่คุณพูดเลยนะคะ เค้าหวังดีจริงๆค่ะ บางครั้งคำพูดมันอาจจะทำให้เราไม่พอใจบ้าง ตอนนั้นเราก็เป็นเหมือนคุณเเหละค่ะ เเต่พอมาถึงจุดนี้เราถึงเห็นว่าสิ่งที่เเม่พูดไม่ผิดเลย เป็นเราเองที่ผิดด้วยซ้ำ เรายังขอบคุณเเม่เราด้วยซ้ำที่พูดกับเราวันนั้น ไม่งั้นเราก็คงท้อเเล้วเลิกเรียนไปเเล้ว

กิจกรรมที่ม.ก็มีค่ะ เเต่อาจจะไม่เยอะเหมือนที่อื่น เราอยากให้คุณเปิดใจกว้างๆ ที่นี่มีคนหลายประเภทให้คุณเรียนรู้ มีคนวัยทำงานมาเรียนก็เยอะ หรือนักศึกษาปกติก็มี เพื่อนไม่ได้หายากอย่างที่คิดค่ะ เปิดใจเเล้วลองไปทักทายเพื่อนใหม่ๆดูนะคะ จะได้มีเพื่อนเรียนเนอะ 

สุดท้ายที่เราอยากจะฝากคือ ไม่ว่าคุณจะซิ่วเเล้วเลือกที่เรียนใหม่ หรือจะเรียนที่นี่ต่อ ก็ขอให้สู้ต่อค่ะ อย่ายอมเเพ้อะไรง่ายๆ เป็นกำลังใจให้ค่ะ

0
จากคนเคยซิ่ว 24 ก.ค. 57 เวลา 21:33 น. 59

คือถ้าจะซิ่วเเล้วเรียนไปด้วยพูดเลยว่าต้องจ่ายค่าธรรมเนียมสมมุติมหาลัยรัฐบาล จ่าย5000-10000ถ้าเอกชน 20000-50000 ค่าหนังสือ ค่าชุด ค่าหอ ค่าบำรุงคณะ ค่าใช้จ่ายรุ่นพี่บอกให้จ่ายอาทิตย์ละ100-200จ่ายเป็นเทอม ค่าเสื้อรุ่น 100-250 ค่าเทอม เราเรียนรัฐเราซิ่วเพราะเข้าไปเรียนไม่ใช่สิ่งที่ชอบ บ้านเรา ค่อนข้างจน หมดไป50000กว่าเรียนได้เทอม1ดรอปไปสอบใหม่สงสารพ่อเเม่มาก เกิดมาไม่เคยใช้เงินเปลือง ดรอปมาอยู่บ้านนะมีเเต่คนดูถูก ว่าไม่ได้หรอก เเม่เราเอาเราเปรียบเทียบกับลูกข้างบ้านที่ติดสอบตรงเรียนทางสายศิลปได้ ญาติคนข้างบ้านที่ติดสอบตรงก็ชอบดูถูกเราเเบบเ้เสดงชัดเลย เเม่เราอายมากเราดูออกเราร้องไห้ท้อมากๆๆหมดเเรง เราติดรอบเเอด คณะที่หวังไว้ได้สำเร็จ ก็ดูถูกเราว่าเราไม่เก่งติดรับตรงเก่งกว่าเเอดเราเรียนคณะทางสายอาชีพพวกสุขภาพนะ เป็นเด็กซิ่วเจอปัญหารุมเร้า หนักสุดคือความกดดัน ปัญหาเหล่านี้จะเล็กน้อยมากถ้าเราโตขึ้นเเม่เราประมาณจขกท เเหละเเต่เเม่เราให้กำลังใจตลอด ตอนติดเเอดนะเราจำสีหน้าพ่อกับเเม่ได้ท่านยิ้มทั้งวันวันนั้นนะคุณจะหายเหนื่อยคุณจะลืมความท้อเวลาเเปปเดียวก็ผ่านไปไวมากสู้ๆๆ คนรอบข้างอย่าไปสนใจมากเพราะชีวิตเป็นของคุณอย่าให้ใครมาบอกว่าเราทำอะไีรไม่ได้เเม้เเต่ตัวคุณเอง คุณควรได้รับสิทธิ์นั้น ใช้ชีวิตตามที่คุณต้องการ อย่าให้คำพูดของใครก็ตามอยู่เหนือใจเราว๊าวขอให้เจ้าของกระทู้ทำตามฝันให้สำเร็จนะค่ะ

0
เพชรพงศ์พันธุ์ 24 ก.ค. 57 เวลา 21:39 น. 60

สู้ๆ นะครับผม เป็นเด็ก 58 ผมก้อเครียด มากเหมือนกัน เเม่ผมบอกกับตัวผม ว่า มีโอกาสได้เรียนทำให้เต็มที่ บางคน อาจไม่มีโอกาสเเม้กระทั่ง อ่านหนังสือ ซักเล่ม เลย ลองกลับ คิด ดูนะครับ ว่าคุณจะหยุดตรงนี้ทั้งๆที่มีโอกาส เเต่สำหรับใครบางคน โอกาส ครั้งนี้ มัน มีค่า มหาศาลสำหรับบางคน ผมว่าพ่อเเม่ทุกคนนะ ห่วง เเละ รักลูกทั้งนั้น เเละ ค่อยๆพูดๆ ค่อยฟัง กันครับ ขนาดตอนนี้ผม ยังโดนสอน โดนด่า ให้ตัดสินใจเด็ดขาดไปเลย ผม ว่า สิ่งหนึ่ง ที่ทำให้เรายืนได้ตลอด คือกำลังใจครับ ขอให้พี่ สู้ ๆ นะครับ เพื่อนอนาคตของ เรา เเละตัวเราเอง ไม่มีสิ่งใด ยากเกินคำว่า พยายาม หรอกนะครับ โกรธแล้วนะ

0