Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

[กระทู้พลีชีพ] จากใจพี่ว๊ากคนหนึ่ง

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ช่วงนี้เปิดเทอมเเละเป็นช่วงรับน้อง เเน่นอนความสนุกในชีวิตเฟรชชี่เริ่มต้นเช่นกัน เเละดราม่าที่ตามมาคือ การว๊ากน้องของพี่บ้าอำนาจ สั่งให้ทำนู่นนี่ บลาๆ รำคาญมันมากเลยเเต่ทำไรไม่ได้ มีสองอย่าง คือ อดทนทำตามที่พี่สั่ง กับไม่เข้าร่วมกิจกรรม

พี่เป็นคนหนึ่งที่ผ่านกิจกรรมรับน้องมาเเล้วเเละทำหน้าที่เป็นพี่ว๊าก ส่วนตัวพี่คิดว่ามันเป็นการละลายพฤติกรรมรูปเเบบหนึ่งที่ต่างจากกิจกรรมสันทนาการ เต้นๆ เล่นเกม ว๊าก ตะคอก เสียงดัง ต่างกันเเต่ก็เหมือนกันเเทบเเยกไม่ออก ส่วนตัวเเล้ว พี่ขอใช้ เสียงดังเเล้วกันนะคะ การที่พี่ว๊ากหรือกดดันน้องเป็นการดึงอารมณ์ให้น้องทนต่อสถานการณ์ต่างๆ เพื่อให้น้องเห็นอกเห็นใจกันในสถาณการณ์เดียวกัน การสามัคคีเเละการเป็นผู้นำ การมีสติจะทำน้องผ่านภาวะกดดันมาได้ การสอนในเเต่ละรูปเเบบย่อมเเตกต่างกันออกไปซึ่งน้องจะรับรู้เเละเข้าใจในเหตุผลที่พี่ทำลงไปนั้นหรือไม่อยู่ที่ตัวน้องจะเปิดใจยอมรับหรือไม่

(มหาลัยพี่เป็นอย่างนี้)
พี่รู้อยู่เเล้วว่าว๊ากน้อง น้องไม่ชอบ บางคนถึงขั้นเกลียด รำคาญ คนที่เป็นว๊ากได้ต้องเสียสละนะคะ ยอมให้น้องเกลียดทั้งที่รักน้อง อยากคุย ห้ามเเตะตัวน้อง เวลาโดนตัวน้องต้องขออนุญาิติจากน้องก่อน อยากเล่นกับน้องเหมือนพี่เชียร์ พยาบาล ลีด สวัสดิการ เเต่ทำไม่ได้ ต้องทำหน้าขรึมเหมือนโกรธใครมา
ทำทุกอย่างต้องมีเหตุผลรองรับทุกการกระทำ ไม่ใช่ว่าฉันอยากทำ
น้องเหนื่อยพี่เหนื่อยกว่า น้องวิ่งพี่ต้องวิ่งนำน้อง
น้องทุกคนอยู่ในความดูเเลของพี่ว๊าก เพราะพี่ว๊ากเป็นฝ่ายที่สอนน้อง พูดคุยกับน้อง ทำโทษน้องเวลา้น้องทำผิด เวลาน้องโดนทำโทษจะมีพี่โดนด้วย
เมื่อน้องเป็นอะไรไปพี่ว๊ากคือฝ่ายเเรกที่จะโดนทางมหาลัยสอบสวน เมื่อน้องไม่สบายพี่ว๊ากจะคอยดูเเลโดยเเจ้งพี่ฝ่ายพยาบาล เเละติดตามอาการน้อง
ต้องส่งน้องเข้าหอทั้งที่พี่ต้องกลับมาประชุมที่คณะอีก ง่วงเหนื่อย ก็ต้องทน

พี่ไม่รู้นะคะว่าที่อื่นเป็นเเบบไหน เเต่ให้เชื่อไว้เสมอเเหละค่ะว่าพี่ทุกคนรักเเละหวังดีกับน้อง เพียงเเต่ว่า พี่เค้าจะเเสดงออกเเบบไหน ไม่มีใครอยากให้ตัวเองโดนเกลียดทั้งที่มันเป็นหน้าที่
เมื่อเราทำหน้าที่นี้เเล้ว ก็ต้องทำให้ดีที่สุด

พื้นที่นี้ขอเเสดงความคิดเห็นเล็กน้อยของพี่ที่ทำหน้าที่ว๊ากคนหนึ่งเเม้ว่า น้องจะไม่ชอบก็ตาม เมื่ออยู่ในบทพี่ว๊ากก็ต้องทำหน้าที่อย่างดีที่สุด เมื่อยู่ในหน้าที่พี่ พี่ก็รักน้องทุกคน (ทุกวันนี้ต้องสร้างเฟสปลอมเพื่อคุยกับน้อง เพราะหน้าที่พี่ว๊ากค้ำคออยู่ T_T)อ่อ เเยกให้ออกนะคะ พี่เชียร์กับพี่ว๊ากไม่เหมือนกันนะคะ เเต่โหดพอกัน ;-)

จากที่พี่อ่าน คหสต. จากหลายๆท่านเเล้ว เเต่ละคนต่างมีความคิดเห็นต่างกันออกไป พี่เชื่อค่ะว่า ส่วนใหญ่รำคาญ อีว๊ากนี่มากเลย เเต่สำหรับพี่เเล้วรับฟังทุกความเห็นค่ะ เพราะเราอยู่ในสังคมที่ทุกคนสามารถเเสดงความคิดเห็นได้อย่างเสรี เเล้วใครใช้ให้พี่ว๊าก หากลองเปิดใจฟังถึงเหตุผลของพี่ทุกคนไม่มีใครอยากให้น้องเกลียดหรอกค่ะ เเต่พี่เป็นคนหนึ่งที่รู้สึกประทับใจในหน้าที่นี้ เพราะต้องเหนื่อย เสียสละ  น้องทำโทษพี่ก็ต้องโดนด้วยเเต่ไม่ให้น้องเห็น เวลาลงน้องพี่กลัวมาก กลัวว่าน้งจะร้องไห้ กลัวว่าน้องจะเป็นอะไรไป เเต่เมื่ออยู่ในบทพี่วาก พี่ต้องทำ นี้เป็นอีกคำถาม ถามว่าพี่เจ็บคอมั้ย ไม่ค่ะ เพราะพวกพี่ว๊ากผ่านการฝึกช่วงปิดเทอมมาเป็นเดือนๆ พวกพี่ใช้เสียงจากท้องไม่ได้ใช้คอ เเบบตะโกนตะคอกเเหกปาก เเบบนั้นมันน่ากลัวเกินไป พวกพี่ต้องวิ่งฝึกเสียงให้กังวานเพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองเจ็บคอ เวลาใช้เสียงน้องก็มองว่าว๊าก เเต่ความจริงเเล้วพี่ใช้ลมจากท้องเปล่งออกมา จึงไม่เจ็บคอเเละเสียงไม่เ้น้นว๊ากเหมือนตะคอก ไม่ว๊ากใส่น้องคนเดียวไม่ตะคอกใส่น้อง นี่คือสิ่งที่พี่ว๊ากทุกคนปฎิบัติ

จากที่อ่านมาหลายความคิดเห็น หลายคนยังเข้าใจกับคำว่า พี่ว๊าก ผิดไปจากเจตนาเดิมนะคะ ที่อื่นเป็นอย่างไรพี่ไม่รู้ เเต่พี่มันคือหน้าที่ที่สำคัญ  น้องป่วยน้องไม่สบายพี่ก็ต้องดูเเล ส่งถึงหอ ซื้อยาให้ โทรถามอาการ เรียกรถฉุกเฉิน พาน้องไปโรงพยาบาล  หลายคนบอกว่าลองไม่ว๊ากสิ พี่ลองเเล้วค่ะ ปรากฎว่า น้องเหลว ระเบียบเละมาก ที่จริงพี่ไม่ได้ว๊ากนะคะ เพียงเเค่ใช้เสียงดัง เราต้องผ่านการฝึกทา้งด้านร่างกายเเละจิตใจ เราต้องสวมบทบาทเป็นน้อง ว่าน้องไม่ชอบอะไรพี่จะไม่ทำอย่างนั้น เเต่พี่ใช้เสียงดังเพื่อคุมน้องทั้งคณะให้ฟัง ดึงจุดสนใจของน้อง เช่น เรื่องการไห้ว อันนี้หน้าที่พี่ว๊ากที่ต้องรับผิดชอบ ถ้าน้องไม่ไห้วพี่ก็ทำโทษ พี่ก็โดนด้วย เพราะพี่ต้องให้น้องไห้วทุกคนเพราะอะไรลองฟังเรื่องเล่าจากพี่นะคะ
มีพระราชาองค์หนึ่งเดินทางเข้าป่าพร้อมพระโอรส พระราชาเจอนักบวชจึงก้มกราบ พระโอรสเห็นจึงได้เก็บความสงสัยไว้ว่าทำไม พระราชาที่ปกครองเมืองต้องก้มลงกราบนักบวชผู้ต่ำต้อยด้วยเล่า พระโอรสจึงตรัสถามความสงสัยนั้น พระราชาไม่ตอบสั่งให้พระโอรสไปหาศรีษะมา 3 อย่าง มีศรีษะเสือ ศรีษะเเพะ เเละศรีษะมนุษย์(ที่ตายเเล้ว) พระโอรสจึงไปหามาได้ พระราชาจึงให้นำไปวางขาย ปรากฎว่าศรีษะเเพะเเละเสือขายได้ เเตไม่มใครซื้อศรีษะมนุษย์ ข้อคิดที่ได้จากเรื่องนี้คืออะไรคะเมื่ออ่านจบ  ศรีษะมนุษย์เป็นของสูง เเต่เมื่อตายไปเเล้วกลับใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้จากนิทานเมื่อข้างต้น จะเห็นได้ว่าพระราชาก้มลงกราบนักบวชเเสดงถึงความนอบน้อม ใครเห็นก็เอ็นดู รักใคร่ เเต่เมื่อศรีีษะมนุษย์ที่ตายไปกลับมีเเต่คนรังเกียจ ดังนั้นเมื่อเรายังสามารถเเสดงความนอบน้อมต่อผู้อื่นได้จึงควรทำ 

พี่เชื่อค่ะว่า มีคนส่วนใหญ่ที่เกลียดการรับน้องเเบบนี้เเต่ พี่ทุกคนมีเหตุผลที่ทำลงไป วันที่ปิดกิจกรรมรับน้อง เฟรชชี่หน้าใสทุกคนจะรู้จากหัวใจของน้องเองเลยค่ะว่า ที่พี่ทำไปเพราะพี่รักน้อง น้อมรับทุกความคิดเห็นค่ะ หวังว่าเสียงพี่คนนี้จะส่งไปให้ถึงหัวใจเฟรชชี่ทุกคนนะคะ

น้องเอยขวัญน้องอย่าหวั่นภัย   จากบ้านพ่อเเม่มาไกลขอพี่นี้ดูเเลเเทน
  

แสดงความคิดเห็น

>

579 ความคิดเห็น

SyncOre 11 ส.ค. 57 เวลา 16:58 น. 1

ครับ ผมทำงานมา 3 ปีตำแหน่ง purchase office ของ บมจ. แห่งหนึ่ง
ตอนนี้ลาออกแล้ว เรียนอยู่ วิศวะ ปี 2 ผมพูดได้ใช่ไหมครับ

ผมบอกเลย ว่าถึงผมจะอายุน้อยตอนทำงาน แต่แรงกดดันที่ผมได้ไม่แพ้ พนักงานท่านอื่นเลย
ผมกล้าพูดเลยว่า ถ้าคุณทนแรงกดดันที่พี่ว้ากส่งให้คุณไม่ได้ คุณจะใช้เวลาปรับตัวนานมาก
ในที่ทำงานทำงานวันแรก ๆ คุณอาจจะแอบไปนั่งร้องไห้ในห้องน้ำเลยก็ได้
ที่เค้าว่ากันว่า ฝึกรับแรงกดดัน เพื่อตอนทำงาน ใช้ได้จริงครับ อยู่ที่ว่าคุณจะมีภูมิคุ้มกันมากแค่ไหน ไม่ได้มโนครับ

ผมไม่เก่งศัพท์เฉพาะทางนะครับ ความรู้ไม่ค่อยเยอะ แต่ผมทำงานเป็น
ที่คณะผม ไม่มีการแบนครับ ใครไม่เข้ามันเป็นสิทธิของเขา เราไม่มีการบีฟ
และเราสอนน้องว่าไม่ให้แบนเพื่อน แยกให้ออกนะครับ แบน กับ ไม่ชอบส่วนตัวไม่เหมือนกัน

ผมไม่ใช่พี่ว๊ากครับ ผมอยู่ฝ่ายสันทนาการ แต่ก็มีบางจังหวะที่น้องไม่ฟังและผมต้องเสียงดัง
เชื่อเถอะครับ ถ้าไม่มีพี่ว๊าก เละครับ คณะจะไม่ใช่คณะอีกต่อไป ทุกคนก็จะไม่เห็นความสำคัญ
ของคณะของการรับน้อง พอน้องไม่เคยโดนว้าก ไม่เคยโดนซ่อม พอน้องมีน้อง
น้องจะเอาอะไรไปสอนน้องของน้องครับ หรือจะต่างคนต่างอยู่ไป ?

0
funyfm 11 ส.ค. 57 เวลา 16:58 น. 2

แบบเวลาเห็นเพื่อนโดนทำโทษโดนว้ากเดี่ยวทั้งที่ไม่ได้ทำไรผิด บางทีพี่ก็แกล้ง คือเราก็สงสารเพื่อนป้ะ แบบจะช่วยก็โดนด่า พอนั่งตามที่พี่บอกก็โดนด่า อ่าว ฟ?ั ... แบบน้ำตาตก ไมพี่ทำงี้ ไม่หนุกนะ สงสารเพื่อน เส้า ยกเลิกเถอะว้งๆว้ากๆ?

0
Lalatar 11 ส.ค. 57 เวลา 16:51 น. 3

เราใช้เสียงดังเพื่อให้น้องฟังพี่ เพื่อให้น้องมีสติเวลาที่พี่เเจ้งข่าวหรือสื่อสารกับน้อง ดังนั้นพี่ให้น้องเงียบเเล้วฟังสิ่งที่พี่พูด เราจะเรียกน้องมาเข้าเเถวก่อนส่งต่อให้เชียร์เช็คชื่อน้อง ถ้าน้องหายไปพี่จะถามน้องถ้าน้องเป็นอะไรไปพี่ก็จะไปหาที่หอซึ่งพี่จะให้เพื่อนในเเถวตอบ หากเพื่อนไม่ทราบพี่ก็จะโทรตาม เหตุผลการอดทน การรับน้องของเราคือการทำกิจกรรมวิ่งค่ะ วิ่งตอนเช้า พี่จะบอกให้น้องอดทนเสมอเมื่อไม่ไหวจริงๆ พี่จะเข้าไปช่วยพาขึ้นรถ ถามว่าวิ่งทำไม เราวิ่งเพื่อให้น้องร้องเพลงเชียร์เเล้วเสียงกังวาน มันจะมีน้องบางคนที่เห็นเเก่ตัวเพื่อนไม่สบายเเต่ตัวเองกลับนั่งปล่อยให้เพื่อนยืน พี่ว๊ากมักจะให้น้องอดทนเพื่อให้เพื่อนคนที่ไม่สบายจริงๆได้พัก เเละก็เป็นส่วนหนึ่งในการฝึกให้น้องไม่เห็นเเก่ตัว หากเพื่อนไม่ไหวน้องต้องเสียสละให้เพื่อนที่ไม่สบายพัก เเล้วคนที่อดทนได้ไปวิ่งต่อ มันอาจไม่เห็นอะไรนะคะ เเต่ความจริงใจจะได้กันตรงนี้เเหละค่ะ

0
funyfm 11 ส.ค. 57 เวลา 16:51 น. 4

แค่รับน้องของม.ปลายโดนพี่เค้าว้ากใส่เหมือนมหาลัยแค่นี้น้องก็เกลียดพี่ไปเยอะแล้วอ่ะค่ะ แบบหนูกับเพื่อนนี่เกลียดไปเลยจริงๆ เจอหน้าก็แบบ พี่นี่ไงๆๆๆ ไม่อยากให้มีจริงๆนะเสียความรู้สึกไงไม่รู้ แต่ละคนไม่ได้เหมือนกันนะคะ บางคนก็เซนซิทิฟเกินไป เจออะไรแบบนี้ก็ไม่ไหวนะ จริงๆก็เข้าใจอยู่แต่ไม่ชอบค่ะ มากกกกกกกกก.

0
~ล่องลอย~ 11 ส.ค. 57 เวลา 00:18 น. 5

เป็นเฟรชชี่ค่ะ หนูเข้าใจพี่ว้ากนะคะ เป็นกำลังใจให้ พี่ว้ากคณะหนูซึนมากค่ะ จะให้พักยังต้องด่านำ แต่ไม่เนียน น่ารักดี 555


0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

โสระกา 11 ส.ค. 57 เวลา 11:50 น. 8

จะตะคอกตะโกน ก็ทำไปเถอะครับ อยากให้น้องไหว้ก็ทำไปเถอะครับ แต่เวลาถามคำถามที่ตอบอะไรไปก็ไม่ถูกเนี่ย เซ็งที่สุดครับ คำถามที่ต่อให้พี่โดนเองก็ตอบไม่ได้อ่ะครับ?

0
Hologous 11 ส.ค. 57 เวลา 11:55 น. 10

คนมันมาจากหลายที่ จะละลายพฤติกรรม หรือทำให้มีสมาธิจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยการพูดดีๆ ปลอบ โอ๋ น้องทำอย่างนั้นนะ น้องฟังพี่ก่อนนะ ทำึความรู้จักคนข้างๆนะคะเพราะอยู่สถาบันเดียวกันจะได้พึ่งพากัน ตั้งใจนะเดี๋ยวพี่เลี้ยงหนม มันเป็นไปได้ยาก?

การว๊ากนี่แหละเห็นผลเร็วดี
ป.ล.แต่เราก็กลัว

0
ปราชญ์วรา 11 ส.ค. 57 เวลา 11:55 น. 11

เข้าใจนะคะว่าพี่ว๊ากต้องแบกรับอะไรไว้บ้าง
แต่ตอนที่เราอยู่ปี 1 เคยโดนพี่ว๊ากตะคอกใส่หน้า (คนเดียว) เพราะพี่ดาวน์ไม่ทัน
นั่นเป็นหนึ่งในสาเหตุที่เราไม่ชอบพี่ว๊ากเอามากๆ
ตอนนั้นก็ยอมรับนะคะว่าไปกวนประสาทพี่เค้า เพราะเราก็แอนตี้โซตัสมาตั้งแต่แรก
แถมยิ่งมาโดนตะคอกใส่หน้าบนแสตนด์ (ถึงไม่มีการแตะตัวตามกฏ แต่ตะคอกใส่หน้าแบบใกล้มากๆ ความรู้สึกมันไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอกค่ะ)
โดนว๊ากเดี่ยวล่างแสตนอีก เพราะเราเป็นเฮดงานคัทเอาท์ เพื่อนไม่ยอมทำงาน เราขอยังไงเพื่อนก็ไม่ช่วยกัน จนเราต้องก้มหน้าทำคนเดียว พองานมันออกมาไม่ดี พี่รู้ก็หาว่าเราไม่ยอมให้เพื่อนช่วยเลยโดนว๊ากแยก

ปล.พี่ว๊ากที่ใช้เหตุผลกับอารมณ์ มันต่างกันแค่เส้นบางๆ ขอให้คนที่เป็นพี่ว๊ากระวังจุดนี้หน่อยนะคะ ที่เราโดนเพราะพี่ดาวน์ไม่ทันนี่ก็จำไปจนตายละค่ะ พาลมองหน้าพี่เค้าไม่ติดอีก

0
คุณหญิงนฤมล 11 ส.ค. 57 เวลา 11:58 น. 13

มิทราบว่ามีอะไรที่สนับสนุนทฤษฎีนี้หรอคะ?
คนที่ผ่านการว้ากน้องมาหลายต่อหลายรุ่นก็ใช่ว่าจะดีไปซะหมด

และการที่พี่มาว้ากน้องเสร็จแล้วมาดีตอนหลังนี่ฉันคนนึงที่ไม่ชอบค่ะ
มันเหมือนการตบหัวแล้วลูบหลัง..

0
Porporlee 11 ส.ค. 57 เวลา 12:04 น. 14

ขอยาวๆ หน่อยละกันค่ะ
ส่วนตัวคิดว่าการสร้างดราม่ากดดัน(ว้าก)ให้เด็ก หรือคนในรุ่นตัวเอง ให้เข้ากิจกรรมนั้น ค่อนข้าง 'effective' ในด้านเกณฑ์คนมาทำกิจกรรม และอาจจะมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นผ่านกิจกรรมดราม่า ที่ผ่านอะไรที่มีอารมณ์ร่วมกัน แต่ในขณะที่การดราม่าทำให้คนเข้ามาร่วมกันทำกิจกรรมและสนิทกันในกลุ่มที่ผ่านการดราม่ามาด้วยกันนั้น มันเป็นการสร้างแรงกดดันให้รู้สึกเกลียดคนที่เขาไม่เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวโดยไม่รู้ตัว "ทำไมแม่งไม่มาวะ/เห็นแก่ตัวว่ะ/ไม่ช่วยเพื่อน Etc."
ซึ่งการรับน้องแบบนี้มันจะทำให้ได้ กลุ่มน้องกลุ่มนึงที่รักกันมากๆ แล้วเกลียดคนอีกกลุ่มที่ถูก branded ให้เป็นพวก ไม่ทำงาน/ไม่ช่วยเพื่อน
ด้วยเหตุผลดังกล่าว ส่วนตัวเราเชื่อว่าการรับน้องแบบนี้มัน เฟล ที่จะบรรลุจุดประสงค์ที่จะทำให้น้อง หรือเพื่อน "รักกัน" ถ้าหากมันสร้างความ"เกลียดชัง"
ไปพร้อมๆกันใน process นั้นๆ
ดังนั้น เราจึงเกลียดแนวคิดการบังคับน้องร่วมกิจกรรมเอามากๆเพราะมันดู เป็นแนวคิดที่ 'hypocrite' เอามากๆ
ถ้าจะว่าไอว้ากเนี่ยมันเสริมสร้าง resistance เกี่ยวกับแรงกดดันในการทำงาน คือ คุณ-ทำงานกันแล้วหรอถึงรู้ว่าแรงกดดันในการทำงาน กับแรงกดดันที่มโนๆ สรรสร้างขึ้นมาเนี่ยสามารถเทียบกันได้
อ่อ ทำงานได้เงินเดือนด้วยนะคะ ส่วนแรงกดดันที่มาจากรับน้องนี่ได้อะไรคะ?

0
Por Peeravit Boonsat 11 ส.ค. 57 เวลา 12:07 น. 15
ทำให้นึกถึงนิยายsotusเลย
- "น้องเหนื่อพีก็ต้องเหนื่อยกว่า"?พีอาทิตย์ได้กล่าวเอาไว้
- ?"
ฮ่า ๆ กลัวอะไรล่ะค่ะน้อง พี่ว้ากเขาไม่ได้ดุขนาดนั้นหรอก เขาก็ทำไปตามหน้าที่ -ที่น้องโดนทำโทษกันน่ะ พวกพี่ว้ากเขาทำมาหมดแล้ว ถึงจะมาสั่งพวกน้องได้ ไม่ใช่ลงโทษเอาตามความสะใจ เขาต้องฝึกเป็นเดือน ๆ นะกว่าจะได้แบบนี้ เพราะต้องคุมอารมณ์ตัวเองให้อยู่ เวลามีสถานการณ์ฉุกเฉินอะไรจะได้รับมือไม่ให้น้องเป็นอันตราย" พีฟางได้กล่าวเอาไว้?
-
?จริง ๆ แล้วพี่ไม่อยากให้น้องโกรธหรือเกลียดพี่ว้ากเลยนะ เพราะมันเป็นแค่หน้าที่ที่พวกเขาต้องรับผิดชอบ และที่สำคัญ พวกน้องรู้มั้ยว่า...คนที่ห่วงพวกน้องมากที่สุด ก็คือ...พี่ว้ากเนี่ยแหละ? พีฟางก็ได้กล่าวไว้
ส่วนหนึ่งจากบทที่เขียนในนิยาย555 ตรงโคตร(ชักอยากโดนซะแล้วซิแต่ต้องรออีก3ปี)
0
wallop 11 ส.ค. 57 เวลา 12:12 น. 16

ลองไม่มีว๊าก ซักรุ่นดีมั้ยครับ คําถามเล็กๆ เเล้วในกระทู้ มันคือความในใจครับ เขาทำงานเป็นทีมครับ

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

podin 11 ส.ค. 57 เวลา 12:14 น. 18

คุณเลือกที่จะทำในสิ่งที่ดีได้ แต่คุณไม่ทำแล้วหาข้ออ้างว่าสิ่งที่ทำคือหน้าที่ ?จริงๆแล้วหน้าที่คุณคือเรียนหนังสือ ไม่ใช่หรอ??? ?

อย่าตกเป็นเหยื่อของประเพณีบ้าบออะไรแบบนี้เลย?

0
TonChai 11 ส.ค. 57 เวลา 12:15 น. 19

ผมไม่รู้ว่านี่เรียกเหตุผลของการว้ากรึป่าว แต่ผมคิดว่าเป็นการ 'แถ' ของคนที่อยากว้ากมากกว่า อย่าอ้างว่าให้น้องอดทน อย่าอ้างว่าละลายพฤติกรรม มันไม่สมเหตุสมผล หลายๆที่ว้ากแบบหาเรื่อง ไม่มีเหตุผล ไม่มีคนดูแล รูมเมทผมเป็นไฮเปอร์ 2 รอบ จากการโดนว้าก 2 ครั้ง โดยมีแต่รุ่นพี่ที่ไม่มีความรู้เรื่องไฮเปอร์มาดูแล ปฐมพยาบาลแบบโง่ๆ เอามาส่งที่ห้องทั้งๆที่อาการยังหนัก ให้ผมมาดูแลเอง แล้วมันก็ไป อย่าแถให้กิจกรรมโง่ๆนี้มีประโยชน์ มีคุณค่า กิจกรรมที่สร้างความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนๆ และพี่กับน้องมีมากมาย กิจกรรมที่สร้างสรรค์มีตั้งเยอะ ?มีคำกล่าวว่า คณะไหนมีรุ่นพี่โง่ๆเยอะ ก็จะมีว้ากเยอะ ถึงมันจะดูแรงไปหน่อย แต่มันก็จริงนะ เพราะคนที่มีการศึกษาจริงๆ เขาจะไม่ทำกัน ขึ้นชื่อว่าได้อยู่ในมหาวิทยาลัย ก็น่าจะทำตัวให้เหมือนคนมีการศึกษาหน่อย
ปล.เรื่องรูมเมทผม ที่พี่ไม่ไปส่งโรงพยาบาล เพราะกลัวเรื่องถึงอาจารย์ นี่มันเป็นเรื่องผิดชัดๆ?

0
Youseejeam 11 ส.ค. 57 เวลา 12:17 น. 20

? ? ?เอิ่ม ม.ของผมไม่มีพี่ว้าก ก็ไม่เห็นรุ่นน้องเดือดร้อนหรือไปทำอะไรไม่ดีงามนา ทุกวันนี้ก็สามัคคีกันดี รุ่นพี่เห็นเราเป็นน้องที่ดีไม่ต้องว้ากก็คุยด้วยเหตุผลกันรู้เรื่อง ส่วนพฤติกรรมที่หลายคนอ้างว่าต้องละลายกันนั้น ผมคิดว่ามันอยู่ที่สังคมในพื้นที่มหาลัยนั้นๆมากกว่า ถ้ามีนักศึกษาที่ใช้เหตุผลกันและยอมฟังคนอื่นก็ไม่ต้องไปว้ากหรือกดขี่รุ่นน้องให้เปลืองน้ำลายหรอก ส่วนคนที่ไม่ดี ว้ากใส่ทุกวันสันดานก็ไม่เปลี่ยนหรอกครับ ยังไงก็เป็นตัวถ่วงในรุ่นตัวเองอยู่ดี

? ? สุดท้ายนี้ผมคิดว่านักศึกษาควรใช้วุฒิภาวะ ความรู้ความสามารถมาร่วมคุยกัน มากกว่าใช้ความอาวุโสชั้นปีสูงกว่ามาบังคับ กดขี่ ว้ากใส่รุ่นน้อง ถ้ารุ่นน้องเค้าไม่มาร่วมกิจกรรมก็ปล่อยเค้าไป สุดท้ายแล้วกรรมก็ตกอยู่กับตัวรุ่นน้องเองเพราะการเรียนสร้างความเป็นคน กิจกรรมสร้างความรู้งานแถมได้มิตรภาพระหว่างงานครับ

ป.ล. มหาวิทยาลัยเป็นพื้นที่สำหรับอารยะชนผู้มีการศึกษามีปัญญาและเหตุผล ไม่ใช่พื้นที่ของสัตว์ป่าที่จะมาคำรามโอ้อวดอำนาจความอาวุโสใส่กัน

0
Porporlee 11 ส.ค. 57 เวลา 12:26 น. 21

คือพวกที่มองว่าการพูดดีๆกับน้อง น้องฟังไม่รู้เรื่อง เนี่ย มันเหมือนเป็นการ assume ว่ารุ่นน้องมันช่างโง่ยิ่งนักที่ไม่สามารถใช้เหตุผล ภาษาที่มนุษยมนาคุยกันปกติได้ จึงต้องตะคอกเยี่ยงสัตว์เพื่อให้เชื่อฟังและเคารพ มันเหมือนเป็นการแสดงว่าพวกหล่อนไม่ค่อยมีใครเคารพจนต้อง ใช้วิธีแบบนี้ เพื่อให้น้องเคารพและเชื่อฟังกัน

ซึ่งคำถามคือ นักศึกษารุ่นน้องจำเป็นต้องเชื่อฟัง หรือจำเป็นจะต้องโดนควบคุมด้วยโดยรุ่นพี่ด้วยหรอ?
ขอดักอีพวก ตรรกะวิปริต ที่ชอบอ้างว่าไม่พอใจก็ไปอยู่ที่อื่นนะคะ
ค่าเทอม - ก็เงินน้อง
สอบเข้า - ก็คะแนนน้อง
คณะ - ก็ของมหาวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยก็เป็นของภาครัฐ เอกชนที่ควบคุมดูแลอยู่
ดังนั้น เอาอำนาจอะไรมาสั่งคะ?

0
あくち 11 ส.ค. 57 เวลา 12:35 น. 22

เมื่อรู้ว่าเป็นแบบนี้แล้วจะทำเพื่ออะไรหละครับ มันไม่ได้ละลายพฤติกรรมอะไรได้เลย รุ่นผมห้องเชียล่มเพราะเริ่มคิดกันได้ว่ามันเฟคมันไร้สาระจนไม่มีคนเข้า แต่เวลามีกิจกรรมก็ยังทำงานด้วยกันได้จนถึงทุกวันนี้ มนุษย์เป็นสัตว์มีปัญญาครับเพราะฉะนั้นทำอะไรหัดใช้สมองและเหตุผลบ้าง ในมุมมองของคนที่เคยโดนว๊ากมาบ้างผมบอกเลยว่ารู้ว่ามันเฟคและมองว่าพี่เชีย ปยอ. ครับ ในเมื่อรู้ว่าเฟคมาน้องก็เฟคกลับได้อะไรขึ้นมากันวะครับ ไม่เข้าใจจริงๆ บอกได้เลยว่าพี่เชียน่ารักเวลาไม่โหดครับและน้องก็ยิ่งเชื่อฟังกว่าเวลาโหดอีก กระทู้นี้อยากพลีชีพก็ขอให้สมหวังนะครับ

0
11 ส.ค. 57 เวลา 12:58 น. 23

อายุถึงขั้นปัญญาชนทำไมคิดได้แค่นี้
กิจกรรมไม่ได้ทำให้เกิดความสามัคคีระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้องเลย
แต่ทำให้รุ่นน้องเกลียดรุ่นพี่มากกว่า
แอะอะก็ดุด่าตะคอก ไล่เหมือนหมูเหมือนหมา
อยากจะซัดหน้าพี่ว๊ากแม่งทุกคนเลย ปญอ?

0
ynoatty 11 ส.ค. 57 เวลา 13:07 น. 24

การว๊ากเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน เพราะ ทำให้รู้สึกถูกคุกคาม และรู้สึกไม่่ปลอดภัย
ประเพณีบางอย่างก็ยกเลิกได้ ขนาดพระราชพิธีบางพิธียังยกเลิกเพราะเหตุผลด้านความปลอดภัยเลย
รุ่นน้องมันไม่รักกันทั้งคณะหรอก มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ บางคนก็เกลียดกัน บางคนก็รักกัน เป็นธรรมดา ไม่เชื่อ ก็ลองถามตัวรุ่นพี่เองสิ
กิจกรรมรับน้องที่มหาลัยผมเค้าไม่มีว๊าก ไม่มีความรุนแรง ทุกคนก็รักกัน อาจจะไม่ชอบหน้ากันบ้างก็เป็นธรรมดาของมนุษย์
แทนที่จะเสียเวลาเสียความรู้สึกจากการว๊าก เอาเวลาไปทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์อย่างอื่นดีกว่ามั้ย

0
บริพัตร กิจศรีไพศาล 11 ส.ค. 57 เวลา 13:16 น. 25

? ? ? ? ยิ่งอ่าน ยิ่ง งง ในเมื่อ จขกท. เป็นคนบอกเอง ว่าการละลายพฤติกรรม มันทำได้หลายรูปแบบ เช่น เต้น ว้าก เล่นเกม
? ? ? ? แล้วทำไม จขทก. ต้องเลือกใช้วิธี??ว้าก?ในเมื่อรู้ว่าน้องไม่ชอบ น้องเกลียด น้องหนีกิจกรรม ซึ่งการทำแบบนี้มันช่วยละลายพฤติกรรมน้องตรงไหน ?
( เพราะน้องแมร่งกลัวพี่ว้ากจนหนีกิจกรรม หรือไม่แมร่งก็หูซ้ายทะลุหูขวา )
? ? ? ? ทำไมไม่สอนกันดีๆ พูดจาดีๆ รุ่นน้องมันก็โตจนเข้ามหาลัยได้แล้ว จะไปตะคอก ตะโกน ทำเหมือนรุ่นน้องเป็นเด็กๆ ทำไม?
? ? ? ? บทบาทหน้าที่ของตัวเองมีให้เลือกเยอะ แต่ตัวเองเลือกที่จะทำให้ตัวเองโดนเกลียด แบบนี้การเป็นพี่?ว้าก?ต้องเสียสละอย่างเดียวไม่ได้ ต้อง ไม่ฉลาดมากๆ?ด้วย


? ? ? ??

0
dekwangame 11 ส.ค. 57 เวลา 13:28 น. 26

ผ่านความกดดันเพื่อเอาไปใช้ในเรื่องอัไรหรอครับ อีกอย่าง ละลายพฤติกรรมก็มีตั้งหลายวิธี การว้ากมันไม่ช่วยให้เกิดการละลายพฤติกรรมหรอก มันทำให้เด็กขวัญผวาแค่นั้นแหละ การนั่งก้มหน้าโดนพี่ว้ากแบบไม่มีเหตุผล ก็ต้องนั่งเกร็ง นั่งน้ำตาไหล มันละลายพฤติกรรมยังไงหรอครับ จับมาเต้นสันต์ ไปดูหนังด้วยกัน ยังจะทำให้น้องสนิทกันมากว่าอีก คิดดีๆนะครับ จุดประสงค์คืออะไรไม่ใช่แค่ว่าเค้าทำต่อๆกันมาเลยต้องทำ คิดถึงเหตุผลและผลที่เกิดขึ้นด้วยว่ามันมีประโยชน์รึเปล่า ?? ทิ้งไว้ให้คิดครับ

0
samidung 11 ส.ค. 57 เวลา 13:44 น. 27

ถามกันจริง ๆ นะคะ
ใครขอให้พี่ว้ากไปทำหน้าที่ตรงจุด ๆ นั้นหรือคะ?
น้องที่เข้ามาใหม่เขาขอไหมว่า"ให้พี่ไปฝึกความอดทนแล้วมาสอนผม มาว้ากผมมาตะคอกใส่ผม" ไม่มีใครขอนะคะ เป็นพี่ที่อยู่ในมหาวิทยาลัยมาก่อน คิดเองเออเองทั้งนั้น ว่าต้องทำอย่างนี้เพื่อเป็นการละลายพฤติกรรม เพื่อให้น้องสนิทกันมากขึ้น คิดไปเองกันทั้งนั้นค่ะ การที่คนมันจะสนิทกันได้เราคิดว่าไม่ต้องให้มานั่งทนฟังพี่ว้าก หรือร้องเพลงเชียร์อะไรหรอกนะคะ คนเราน่ะมันสนิทกันได้เพราะได้ทำงานร่วมกัน ได้ใช้ชีวิตร่วมกัน ได้เผชิญความกดดัน(ในหลาย ๆ รูปแบบซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่การว้าก หรือ ตะคอกจากรุ่นพี่)ร่วมกันต่างหาก ส่วนตัวนะคะคิดว่าการว้ากเป็นการละลายพฤติกรรมจริง ๆ ค่ะ แล้วมันก็ละลายความคิดของตัวน้องใหม่ไปด้วย ความคิดที่ริเริ่ม ความคิดที่ใช้หลักเหตุและผล ความคิดที่จะกล้าโต้แย้งด้วยเหตุผล เพราะเมื่อใดที่น้องเริ่มจะโต้แย้งด้วยความคิดที่ตรงข้ามกับสิ่งที่พี่คิด พี่จะหาเหตุผลร้อยแปดมาตะคอกใส่หน้าทันที นั่นเราคิดว่ามันทำให้น้องไม่กล้าที่จะโต้เถียงด้วยเหตุผล ซึ่งส่วนตัวคิดว่ามันจะส่งผลในระยะยาวด้วยค่ะ

เอาจริง ๆ แล้วเราผ่านการว้ากมาสองที่นะคะ เราคิดว่าการว้ากเนี่ยมันก็แค่บทละครค่ะ ไม่มีเหตุผลที่แท้จริงในการว้าก(มันอาจจะเลือนหายไปตามกาลเวลา ซึ่งนานเข้ามันก็หายไปจากสมองและมโนสำนึกของพวกรุ่นพี่) มันว้ากเหมือน ๆ กันไม่มีอะไรต่างกันเลยสักนิด(ถ้ามองในประเด็นที่เขาพูด) ซึ่งมีแค่การข่มให้น้องยอมโดยความกลัว ความเกรงในอำนาจของรุ่นพี่แค่นั้น เลิกอ้างว่า"เพราะรักน้องนะพี่จึงยอมเหนื่อยไปว้ากน้องไปตะคอกใส่น้อง ไปบังคับน้องให้อยู่ในกฏ(ที่พี่สร้างมาเอง) เพราะหวังดี บลา ๆ ๆ" อยากจะบอกนะคะว่า "การบังคับการกดดันกันไม่ได้ช่วยให้เกิดความรัก ความสามัคคีอย่างที่พวกคุณหวังได้จริง ๆ หรอกค่ะ" ?

0
AbPond Pearly Poompich 11 ส.ค. 57 เวลา 14:01 น. 30

คุณจะมีเหตุผลอะไรในการว๊าก หรือจะทำอะไร มันก็เรื่องของคุณ
ถ้าพฤติกรรมของคุณที่คุณอยากทำ ที่คุณทำ
มันส่งผลแย่ต่อคนอื่น แม้คุณจะหวังดี(?)ก็ตาม
มันส่งผลให้คนอื่นไม่ชอบ คนอื่นเค้าเดือดร้อน
คุณจะยังทำมันต่อหรือเปล่า?
ถ้าคุณยังทำมันต่อทั้งๆที่เดือดร้อนต่อคนอื่น คุณมีปัญหาในการอยู่ในสังคมแล้วนะ

ผมละงงกับคุณจริงๆ รักน้องแล้วไปว๊ากให้เค้าไม่ชอบทำไม
รักน้องคุณก็ทำดีๆกับเค้าสิ น้องจะได้รักตอบ ชีวิตก็แฮปปี้ดีกว่าไม่ใช่เหรอ?
แล้วตามที่คุณอ้างคือสอนน้อง?
คุณจะไปสอนอะไรเค้าได้? อายุต่างกันเท่าไหร่?
ประสบการณ์ต่างกันมากเลยเหรอ?
อย่างมากที่คุณทำได้คือแนะนำในเรื่องการเรียนครับ(หรือกิจกรรมที่ในมหาวิทยาลัยที่เค้าไม่เคยเจอ อันนี้แนะนำเค้าไปได้)

แต่จะไปสอนเค้าใช้ชีวิต? คือคุณมีประสบการณ์อะไรไปสอนเหรอ น้องบางคนมีประสบการณ์การใช้ชีวิตมากกว่าคุณซะด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ชั่งเถอะ คุณจะอ้างเหตุผลสารพัดร้อยแปดยังไงก็ชั่ง ถ้าน้องเค้าไม่ชอบการกระทำของคุณซึ่งผลเดือดร้อนไปถึงเค้า คุณก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปว๊ากใส่เค้า เพราะเค้าเดือดร้อน เค้าไม่พอใจ เค้าไม่ชอบ

0
Lalatar 11 ส.ค. 57 เวลา 14:18 น. 31

คือพี่ไม่รู้นะคะว่าน้องเจอมารูปเเบบไหน เเต่พี่ว๊ากทุกคนต้องผ่านการฝึกมาอย่างดี ทั้งด้านอามณ์ ความอดทน ร่างกาย ทุกอย่างที่เคยเจอ เเต่พี่กล้าบอกได้เลยค่ะว่า ชีวิตน้องทุกคนในคณะพี่มีการอบรมปฐมพยาบาล ซัพพอร์ตกับโรงพยาบาล น้องป่วย ไม่สบาย ปวดหัวตัวร้อน ไฮเปอร์ พี่โทรเรียกรถฉุกเฉินมาที่คณะรับน้องไปโรงพยาบาลเเละไปเฝ้าด้วย ดึกๆก็ไปดูอาการน้องคอยคุยเรื่องอาการน้อง เพราะน้องทุกคนอยู่ในความดูเเลของพี่ เเละที่สำคัญ พี่ทุกคนว๊ากมีเหตุผลรองรับทุกการกระทำ เพราะฝ่ายว๊ากทำอะไรไม่ใช่ทำตามใจฉัน เเต่ทำในสิ่งที่ต้องการจะสอนน้อง เเต่รูปเเบบการสอนของเราต่างออกไป ทุกอย่างถ้าเปิดใจรับ มันมีเหตุผลของมันอยู่เเล้วค่ะ

0
Lalatar 11 ส.ค. 57 เวลา 14:26 น. 32

น้องคะ พี่ว๊ากกับพี่เชียร์ต่างกันนะคะ สำหรับพี่เเล้ว สั่งให้น้องจัดเเถว เเล้วส่งต่อให้เชียร์ ซึ่งพี่เชียร์จะคุมน้องหมดหน้าที่ว๊ากเเล้ว หลังจากนั้นพี่เชียร์จะสอนน้องร้องเพลง ซึ่งจะไม่เกี่ยวกับว๊ากเเล้ว ที่ม.พี่เป็นอย่างนี้ค่ะ ถ้าเข้าใจในเหตุผลของพี่ที่ทำจะรู้เลยค่ะ ว่าเป็นรุ่นพี่มันเหนื่อยขนาดไหน

0
aumaiai 11 ส.ค. 57 เวลา 14:38 น. 33

ผมเคยเป็นคนหนึ่งที่เป็นรุ่นน้องของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งที่มีการรับน้องแบบระบบโซตัส เชื่อฟังทุกสิ่งที่รุ่นพี่สั่ง และผมไม่ชอบครับ

อะไรคือสิทธิมนุษยชนของเด็กปี 1 หรอครับ ? คนทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกันภายใต้กฏหมายทุกคนก็รู้ดี แล้วคุณมีสิทธิอะไรมาสั่งให้คนอื่นทำในสิ่งที่คุณอยากให้ทำ เมื่อเด็กไม่ทำ ตะคอกด่า ตะโกนใส่หน้า ทำโทษคนอื่น คุณกำลังบอกว่าอยากให้เด็กมีความสามัคคีกัน ผมคนนึงที่เชื่อว่ามีอีกหลายกิจกรรมที่สร้างสรรค์และสามารถทำให้น้องสามัคคีกันได้ด้วยความสุข พ่อแม่ ยังไม่บังคับลูกแบบนี้ รวมไปถึงอาจารย์ก็ไม่เคยบังคับลูกศิษย์เช่นกัน คุณกำลังสร้างกระแสสร้างความเชื่อว่า การรับน้องด้วยวิธีแบบนี้จะเป็นประโยชน์

1.ช่วยให้น้องสามัคคีกัน
2.ช่วยให้น้องทนแรงกดดันจากการทำงานได้
3.น้องได้รุ่น เวลาสมัครงานที่ไหนมีรุ่นพี่อยู่จะเข้าทำงานง่าย
4.ให้รุ่นน้องรักและเคารพรุ่นพี่

ในมุมของผม
1.ช่วยให้น้องสามัคคีกัน ไม่อะครับ ทุกคนมีภาระหน้าที่ต่างกันวันใดวันหนึ่งมีใครทำธุระไม่สามารถเข้าร่วมรับน้องได้ คนอื่นโดนทำโทษเพราะคนที่ไม่เข้า ทำให้เกิดความเกลียดชังนินทาด่าว่าเห็นแก่ตัว สุดท้ายก็แบ่งกลุ่มอยู่กันอยู่ดี ผมยังเห็นรุ่นพี่ด่า ตบกันอยู่เลย ลับหลังก็นินทากัน พอรับน้องทำเป็นรักกัน โถ ถถถถถถ จะเฟคเพื่อ ? นี้ไม่ใช่ละคร นี้เรื่องจริงไม่มีใครไม่รู้และดูไม่ออกหรอกครับ ทุกคนมีสมองและการมองที่คมชัดระดับ HD ด้วยตา2ข้าง?
2.ช่วยให้น้องทนแรงกดดันจากการทำงานได้ ไม่ใช่อะครับ การทำงานคือหน้าที่ รับน้องคือกิจกรรมที่ต้องทนการด่าด้วยคำหยาบและต้องเกรงใจเพื่อนคนอื่น หากเราไม่ทำอะไรที่รุ่นพี่สั่ง เพื่อนจะถูกทำโทษ การทำงานมันคือหน้าที่ คือชีวิตของคุณที่ต้องรับผิดชอบผลงานของคุณเอง ไม่อย่างงั้นคุณก็ไม่ได้เงินเดือนมาเลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่ ใครๆก็ต้องทำทั้งนั้น หากคุณเก่งจริงมีความรับผิดชอบต่องาน ไม่มีใครมาด่าคุณหรอกครับ?
3.ได้รุ่น แล้วสมัครงานจะง่ายขึ้นเพราะมีรุ่นพี่คอยดึงเข้าไป ? มันใช่เรื่องหรอครับ นี้คุณคิดแต่จะหวังพึ่งพาคนอื่นหรอคับ ถ้าคุณไม่มีความสามารถ คุณโง่ แต่คุณเข้าทำงานไปได้เพราะรุ่นพี่ สักวันนึงถ้าคุณทำอะไรไม่ได้เลย คุณก็ต้องโดนไล่ออกอยู่ดี อีกกรณีนึงคือรุ่นพี่คุณคือเจ้าของบริษัทใหญ่ที่สุด ก็รับรุ่นน้องโง่ๆที่ทำอะไรไม่เป็นไว้ผลาญเงินได้อย่างสบายใจ ถ้าคุณอยากเก็บเอาไว้ก็เรื่องของคุณ คนมันจะมีอนาคตมันต้องทำได้ด้วย 2 มือของตัวเองไม่พึ่งพาใคร ใช้ความสามารถในการเข้าทำงาน
4.ให้รุ่นน้องรักและเคารพรุ่นพี่ ? คุณมาด่ากราดเค้า สั่งทำโทษ สั่งทำอะไรไร้สาระ คุณคิดหรอว่าลึกๆในใจเค้าจะเคารพพวกคุณ หรือเค้าทำเพราะเค้ากลัว คนจะรักจะเคารพใครมันจะเกิดมาจากความรัก ความหวังดี และการเอื้อมมือมาช่วยเหลือที่อีกฝ่ายมอบให้ มันไม่ได้มาจากความกลัวครับ

ทุกคนต่างพ่อต่างแม่ ต่างนิสัย เด็กที่เข้ามาเรียนตั้งแต่แรกจุดหมายแรกคือการเรียนให้จบ รับปริญญา และทำงานเลี้ยงตัวเองและบุพการีด้วยความสามารถที่มีไม่ได้มาเพื่อรับน้อง หรือเชื่อฟังใคร อย่ามาพูดว่ามันคือประเพณี ถ้าประเพณีที่มันไม่ได้เกิดประโยชน์แบบนี้ อย่ามีซะดีกว่า อย่ามโนว่าทำแบบนี้แล้วเด็กจะได้ดี เด็กจะได้ดีต่อเมื่อรุ่นพี่ได้ดี แล้วสอนให้เด็กประสบความสำเร็จในอาชีพตามรอยความสำเร็จที่รุ่นพี่สร้างไว้ ผมไม่เคยเห็นว่าการรับน้องมันสอนอะไรให้ผมได้เลย คิดให้ดีๆหน่อยครับใช้หลักเหตุผล ไม่มีตรรกกะ ทฤษฎีไหนที่บอกว่าการรับน้องแบบนี้จะทำให้เด็กได้ดี ไม่งั้นคงทำแบบนี้ทั่วโลก อย่าคิดและยึดทำตามสิ่งเหล่านี้ด้วยกระแสนิยม และความสนุกสนานของตัวเอง ผมรู้ทุกคนในใจมีความรู้สึกบ้าอำนาจอยู่ว่าสามารถสั่งรุ่นน้องให้ทำอะไรก็ได้ มันสนุกดี ได้ด่า ได้แสดงละครให้น้องดู เปิดเผยมาเถอะครับ = =" อย่าคิดเข้าข้างตัวเองแล้วพูดให้มันดูดีไปในทางที่ถูกต้องเลย เพราะความจริงแล้วมันไม่ถูก?

ไม่เห็นด้วยก็แย้งเลยครับ?

0
TonChai 11 ส.ค. 57 เวลา 16:43 น. 34

"เพื่อนจะไม่ยอมให้เพื่อนโดนทำโทษ ถ้าโดนต้องโดนกันหมด"
นี่คือเกิดจากความเห็นแก่ตัว และความกลัว กลัวว่าตัวเองจะถูกทำโทษ ลองคิดดีๆนะคุณครับ คุณค่าและประโยชน์ของการว้ากมีจริงๆหรอ

0
Wisanpon K BaBenerk 11 ส.ค. 57 เวลา 14:55 น. 35

ถามน้องนะครับ ไม่ทราบว่า เรียนจบมาหรือยังครับ ทำงานได้กี่ปีแล้ว
ผมมองย้อนกลับไปนะ กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่โครตปัญญาอ่อนที่สุดเลย ผมจบกะเสด รุ่นที่มีคนฆ่าตัวตายแหละ รุ่นผมเลยไม่มีการรับน้อง ทุกวันนนีั้ ก็เจอกันแทบทุกอาทิตย์ ปรึกษาได้ทุกเรื่อง ไม่เห็นจะไม่สามัคคีกันตรงไหนเลย เพราะฉะนั้น-ที่ว่า ละลายพฤติกรรมนี่ ตกไปไกลๆเลย ไม่เกี่่ยว แม่งแค่สนองตัณหารุ่นพี่เท่านั้น ไม่มี-หน้าไหนที่บอกว่ารักน้องจริงหรอก แม่งอยากให้น้องหงอ กลัวมัน เคารพมันก็เท่านั้น
จบมาทำงาน ผมก็เข้ากับที่ทำงานได้ดี ไม่ต้องมีใครมาว๊าก

จำไว้เลย -พี่ว๊ากทั้งหลาย แม่งก็แค่-ไก่อ่อนตัวนึงเท่านั้น แค่อยากให้มีคนเคารพมัน กลัวมัน ไหว้มัน ทำไม ไม่มีเกียร์ ไม่มีรุ่น เมิงเรียนกันไม่จบหรือไง
ตอนผมยื่นจบ เพื่อนที่มาจากมัธยมเดียวกัน มายื่น ดรอป ไม่เห็นทีรุ่นพี่หน้าไหนมาช่วยมันซักตัว มันมีทั้งเกียร์ มีทั้งรุ่น ก็ไม่จบ
เลิกๆไปเหอะ -กิจกรรมไร้สาระ สนองตัณหาอะไรพวกเนี้ย
-สแตนด์เชียร์อีก กองเชียร์นี่เค้ามีไว้ประกวดหรือมีไว้แข่งวะ
ตอนผมแข่งกีฬาเฟรชชี่ แม่งไม่โผล่มาเชียร์ในสนามซักตัว ไปแหกปากร้องอยู่หลังตึก -ซ้อมเชียร์ใคร

ฝากไว้แค่นี้แหละ จากรุ่นพี่ที่ผ่านมานานแล้ว

0
:: M A S K :: 11 ส.ค. 57 เวลา 15:14 น. 36

เราเพิ่งผ่านการรับน้องมาหมาดๆเลยค่ะ รู้สึกว่าพี่ว๊ากเป็นอะไรที่น่ารำคาญมากๆเลย คือเราก็เข้าใจพี่ว๊ากนะคะ แต่ถ้าไม่มี....ไม่ต้องทำดีกว่ามั้ย? รักน้องจริง แล้วอยากให้น้องรักตอบจริง ทำไมไม่คุยกันดีๆ หรือทำกิจกรรมอะไรที่มันสร้างสรรค์แล้วก็เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้อง? เอะอะก็ว๊ากใส่ๆอย่างเดียว ต่อให้เอาเหตุผลพันแปดอะไรมาอ้างมันก็ไม่ช่วยให้การกระทำบ้าๆบอๆนั่นดูมีเหตุผลขึ้นมาหรอกค่ะ

ขอพูดตรงๆเลยนะคะว่า เราเข้ามหาลัยมาเพื่อเรียนและใช้ชีวิตกับเพื่อนๆอย่างมีความสุข ไม่ใช่ลูกจ๊อกที่ต้องคอยเชื่อฟังรุ่นพี่ว๊ากอยู่ตลอดเวลา การล่าลายเซ็นต์รุ่นพี่ว๊ากทำไปเพื่ออะไรหรือคะ? แค่เรียกชื่อรุ่นพี่ผิดแล้วต้องซ่อมถึงขั้นทำให้อับอายคืออะไรหรือคะ? ทุกวันนี้เรายังไม่เข้าใจเลยค่ะว่า "บทบาทหน้าที่ของพี่ว๊าก" มีขึ้นเพื่ออะไร? ละลายพฤติกรรม? แล้วที่มหาลัยจัดให้ไปเข้าค่ายปฐมนิเทศนี่ไม่ใช่การละลายพฤติกรรมหรือคะ? จะให้รุ่นน้องรักใคร่สามัคคีปรองดองกันมันไม่จำเป็นต้องมาตะโกนว๊ากใส่น้องปาวๆหรอกค่ะ มันมีทางเลือก มีวิธีอื่นเยอะแยะกว่านี้ไม่ใช่หรือคะ?

จากใจเด็กปี 1 นะคะ....เราคิดว่าพี่ว๊ากมันไม่มีความจำเป็นอะไรในชีวิตเราเลยค่ะ ฝึกความอดทน? ทุกวันนี้ชีวิตก็อดทนอะไรต่อมีอะไรมาเยอะแยะแล้วค่ะ มันก็แค่การ "แถให้ตัวเองดูดี" ก็แค่นั้น

บอกเลยว่าพี่ว๊ากนี่ทำให้เรารู้สึกแย่มากกว่ารู้สึกดีค่ะ แทบอยากจะซิ่วหนีเสียด้วยซ้ำ =*=

0
11 ส.ค. 57 เวลา 15:22 น. 37
ไม่รู้ว่าจะมีกิจกรรมนี้ไปเพื่ออะไร?.....
มีพี่ว๊าก มีระบบอย่างนี้ทุกปี และมีปัญหาอย่างนี้ทุกปี
แล้วจะมีพี่ว๊ากไปทำไม?
เลิกเหอะกิจกรรมแบบนี้ 

ไร้สาระสิ้นดี !!!
0
Sirfa Maank 11 ส.ค. 57 เวลา 15:53 น. 38
มันคือความคิดเห็นส่วนตัว หากมีคำไม่สุภาพก็ขออภัยด้วยครับ ขอคุยแบบวัยรุ่นมันจะได้เข้าใจ
กรุณาอย่าถือสาความคิดเห็นผมเลย

ผมไม่รู้ว่าดีไม่ดี ผมไม่รู้เชื่อใคร คุณโน้นว่าดี คนนี้ว่าไม่ดี เอาง่ายๆๆความอยากเท่านั้นที่ทำให้ผมเลือก
1เรื่องที่พี่ไม่ให้เพื่อนคบเราเพราะเราไม่เข้าร่วม
#ผมว่ามันมีหลายปัจจัยนะครับ จริงอยู่ที่พี่บอกเพื่อนเราไม่ให้มาคบเรา แต่มันจำเป็นหรือป่าวที่เพื่อนเราต้องทำตามรุ่นพี ทำไมรุ่นพี่ถึงไม่ให้คบเราเพราะเราไม่เข้าร่วมแค่นี้หรอ แล้วเราเข้าร่วมเราจะเจออะไร#เจอพี่ว๊ากใส่แบบไม่เห็นผล เห็นเพื่อนร้องให้เราเลยเครียด เพราะพี่ว๊าก เราไม่ได้ทำผิดแล้วพี่ว๊ากใส่ทำให้เราเครียด

#แก้ปัญหาพี่ที่ชอบว๊ากแบบไม่เหตุผล 1ไม่ฟัง เข้าซ้ายออกขวา 2ทำตามแม่งบอก 3ปล่อยมันไป 4ออกจากกลุ่มเชียร์ 5จับมือเพื่อนแล้วปลอบใจมันว่าเราไม่ผิด บอกเพื่อนว่าพี่แม่งบ้า 6ต่อยหน้าพี่แม่งเลยสัส 7 ด่าแม่งลับหลัง ไม่เจ็บตัวแถมได้ระบายความโกด 8จำหน้ามันจบงานเชียร์-โดนกู 9นั่งนิ่งๆๆไม่ฟังมันพูด จำไว้มันได้แต่พูด กฏคือมันห้ามโดนตัวเรา มันทำเราไม่ได้หรอก 10 โดดไม่เข้าบาง จะได้ไม่เครียด ทิ้งระยะห่าง
บอกเลยผมยังไม่ลองเพราะยังไม่ได้เข้า เดียวเจอผมจะลองทำดูดีไม่ดีจะมาบอกนะ

#ทำไมต้องว๊าก คิดแทนพี่ๆๆแต่ยังไม่เจอเหมือนกันมะโนแต่ใช้เหตุผลขอเด็กกิจกรรม
หากให้อธิบายผมลองพิมดูแล้วมันยาวไปน่าเบื่อมากๆๆๆเอาสั้นๆๆตัดมาแล้วละกัน
งานที่ต้องทำเป็นกลุ่ม หากอยากได้งานออกมาดีและได้A
1เราต้องศึกษางานทีจะทำก่อน
2เราต้องมีเพื่อนร่วมทีมที่ดี
3เราต้องขยัน
4เราต้องมีไอเท็มเกี่ยวกับเรื่องๆนั้นๆๆ
5เราต้องมีอาจารย์ที่ให้เกรดง่าย
6งานนั้นมันคืนงานที่เด็กมัธยมทำกัน

จากปัจจัยข้องบนคุณจะรู้ทันที่ว่าหากคุณไม่โชคดีเจอข้อ5 และข้อ6 คุณไม่มีทางได้แต่ถ้าจะได้คุณต้องมีรุ่นพี่ที่เคยเรียยนมาแล้วมาค่อยบอกว่าต้องลงอะไรถึงจะได้อาจารย์ที่ให้เกรดง่ายๆๆให้ง่ายๆๆที่เราไม่ต้องมีเพื่อนดั่งนั้น
ปัจจัยที่ทำให้มีข้อ5และข้อ6คือ#รุ่นพี่

#2ทำยังไงให้มีเพื่อนร่วมทีมดี ขั้นแรกใครที่มีเพื่อนที่เรียนมาด้วยกันจากมัธยมปลายมาเรียนด้วยก็ถือว่าข้อนี้ผ่าน เพราะเราจะรู้จักกันมาตั้ง3ปีแล้วหรือมากกว่านั้น แต่ถ้าไม่มีเพื่อนคุณต้องทำไง รับน้องไงเจอเพื่อนใหม่แน่นอนแล้วการทำงานเป็นกลุ่มต้องรู้จักเพื่อนใหม่ขนาดไหน ก็ต้องรู้จักชื่อโรงเรียนเก่าแค่นี้พอมัย
ยังไม่พอนะบอกเลย ต้องรู้แม้กระทั้งแฟน พ่อแม่  เรียกว่า-เลย ต้องรู้นิสัย
คือเอาง่ายๆๆแค่ไหนที่-จะไว้ใจมันได้อ่ะ แล้วทำไงถึงจะไว้ใจมันได้  ต้องเปิดใจคุยกัน ทำงานด้วยกันทำงานห่าไรกูยังไม่ไว้ใจมันเลยเดียวแม่งไปนอนหอ แม่งอัดตูดกุทำไง แล้วทำไมต้องนอนหอก็งานไม่เสร็จไงต้องเสร้จถึงจะได้คะแนน แต่กูยังไม่สนิทกับมันเลยนะ ต้องทำไงให้สนิท -ก็เล่าเรื่องเ-ยที่สุดให้มันฟังมันจะรับได้ป่าว แล้วให้มันเล่าเรื่องที่เ-้ยที่สุดให้-ฟัง-รับได้ป่าว
แต่ก่อนที่-จะมาคุยกันรู้จักกัน-ก็ต้องผ่านกิจกรรมของมหาลัยมาอยุ่แล้ว -คงไม่เดิน สวนทางกันแล้วทักทายกันหรอกนะ นอกจาก-จะอัธยาศัยดีจริงๆๆ
แต่ก่อนที่-จะอัธยาศัยดี-ต้องรู้จักคนมาเยอะแล้วหรือผ่านกิจกรรมมาเยอะแล้ว-ถึงกล้าทักคนอื่นแบบนั้น ไม่เชื่อลองดูสิ-กล้าไม ถ้า-กล้าก็เก่งกูนับถือ แล้วมันมีกิจกรรมอะไรบ้างในมหาลัย แม่งเยอะอ่ะ เทียบไม่หมดเอาคราวหลักละกัน

กิจกรรมเชียร์หรือว๊ากกับกิจกรรมรับน้องแบบเต้นฮาๆๆสนุกโคตรๆๆ
#กิจกรรมรับน้องแบบเต้นฮาๆๆสนุกโคตรๆๆ
เป้นการให้น้องเต้นตามพี่สัน เต้นตั้งแต่เช้าถึงเย็น มีกิจกรรมอื่นๆมาเสริมบ้างรู้จักเพื่อนใหม่ชื่อเพื่อน ได้กลุ่มเพื่อนที่ดี พูดจาดีมาก มีความสุขเข้ากันได้ดี  พอผ่านกิจกรรมนี้เราก้จะเพิ่มความสนิทกับเพื่อนเพิ่มขึ้นเมื่อเรียนอยู่ด้วยกันห้องเดียวกันเซคเดียวกัน ส่วนใหญ่ที่จะเป้นแบบนี้ได้เพราะพวกเค้าเคยทำกิจกรรมมาก่อนเช่นเต้นบนเวทีรร.ทำให้กล้าแสดงออก หรืองานอบรมนักเรียนระหว่างรร.
ทำให้เด็กมีสกิลที่กล้าจะรู้จักกับเพื่อน
ส่วนเด็กที่ไม่เคยทำกิจกรรมมาก่อนพอมาเจอ #กิจกรรมรับน้องแบบเต้นฮาๆๆสนุกโคตรๆๆ นี้นะรับรองจากที่ผมยืนมอง แม่งโดดบาง แอบนั่งบ้าง ไม่ร่วมกิจกรรมบ้าง รู้จักแค่ชื่อเพื่อนใหม่สองสามคนไม่เกิน10เฉพาะกลุ่มนั้น ไม่สนิทกันมากมาย แค่รู้จัก

#กิจกรรมเชียร์หรือพี่ว๊ากเ-้ยไรนักหนา
รายงานตัว แต่งกายเป้นระเบียบ ห้ามผิดนะคือหลายอย่างมาก -ต้องยกมือไหว้รุ่นพี่นะ ต้องพูดจาเพราะๆๆ กับผู้ใหญ่ คือมหาลัยกู18แล้ว -ไม่ต้องมาสอนแบบพ่อมแ่ม่กู กูคิดเองได้ เป้นกิจกรรมที่แม่งโครตเครียดเลยพี่แม่งว๊ากไรนักหนา กูผิดไรว๊ากทำเ-้ยไร
มันจะมีโมเม้นนี้ แล้วเพื่อนข้างก็ร้องไห้ ไอ่เราก็เครียดกลับหอก็ดึก ตื่นไปเรียนต่อ แล้วหลังจากผ่านเชียร์ไปพี่แม่งก้มาคุยดีด้วยเพ่อนบางคนแม่งฝั่งใจ
ก็เกลียดพี่คนนั้นไปเลย
ตั้งแต่พูดมายังไม่มีข้อดีเลยใช่ป่ะวัยรุ่นกูโตแล้วกูใส่ขายาวแล้ว เหอะๆๆๆ

#รู้ไหมทำไงถึงได้เพื่อนสนิท
-ลองตกทุกข์ได้ยากสิจะมีใครอยู่ข้าง- เพื่อนที่รัก-ไง เพื่อนที่พร้อมจะช่วย-ไงคนที่ร้องไห้ข้าง-ไงคนที่ร้องเพลงสุดเสียงเพื่อที่-จะไม่โดนทำโทดไง 
ก็กูเครียดอะกูทำอย่างอื้นก็ได้เดียวกูก็รู้เองแหละใครเพื่อนแท้ แล้ว-จะรอไปถึงเมื่อไร รอถึงวันที่-ส่งงานจารย์ รอวันที่-โดนไทท์ หรือวันที่-ร้องไห้เพราะว่ากูลงวิชาผิด ทำไมไม่มีใครบอกกูเลย
ก็-บอกเองว่ากูไม่ต้องการว๊าก ว๊ากมันไม่ช่วยไร- พี่แม่งเ-่ยว๊ากกู กูไม่ได้ไรจากว๊าก
ลองถามตัวเองดูนะ ที่เขาเรียนจบๆๆไปนะไม่ใช่ทุกคนหรอกนะที่จะเก่งทำเองได้หมด ผมนับถือพวกคุณที่ทำเองได้ทุกอย่างไม่ต้องพึ่งเพื่อน พึ่งพี่
แค่3ข้อในการทำงานเป็นกลุ่มเพื่อที่จะได้Aมันก็เกี่ยวข้องกับการว๊ากแล้วครับ


นี้ผมนั่งแล้วคิดถามตัวเอง คำถามพวกคุณที่ถามมันดีนะครับทำให้ผมคิดได้ว่าครั้งหนึ่งมีพี่เ-่ยๆยอมให้น้องเกลียดเพื่อที่มันจะรักกันมากๆๆๆ และพวกมันมีความจริงใจต่อกัน ไม่ทิ้งกัน สนิทสนมกัน

จริงเอกชนมันดีนะครับที่มหาลัยที่มีว๊ากเขาก็ดี คุณถามตัวเองคุณต้องการแบบไหนไม่ต้องไม่ว่าด่าคนอื่น มองตัวเองต้องการอะไรแล้วเลือกทำอันนั้น ถ้าคุณบอกว่าเค้าไม่ดี  แล้วคุณเคยเดินไปถามเค้าไหมว่าเค้าคิดอย่างไรกับพวกคุณ



ปลเด็กปี1เหมือน ครับ คิดเอง ตัดสิ้นใจเอง ทำไม่ทำ เข้าร่วมไม่เข้าร่วม

มันคือความคิดเห็นส่วนตัว หากมีคำไม่สุภาพก็ขออภัยด้วยครับ ขอคุยแบบวัยรุ่นมันจะได้เข้าใจ



0
Lalatar 11 ส.ค. 57 เวลา 16:10 น. 39

คุณเข้าใจผิดในเจตนาของ พี่ว๊ากเเล้วล่ะค่ะ เรื่องประสบการณณ์หรือการทำงานอะไรนั่น เราสอนไม่ได้หรอกค่ะ เราสอนเรื่อง การไห้ว การจัดเเถวความเป็นระเบียบเรียบร้อยก่อนจะส่งต่อให้ฝ่ายเชียร์ ถามหาน้องคนที่ไม่เข้าร่วมกิจกรรม เพราะอะไร น้องถึงไม่เข้า เพื่อนหายไปไหน มีใครบอกพี่ได้มั้ยคะ มันเเสดงถึง ว่าน้องใส่ใจเพื่อนมากน้อยเเค่ไหน ถึงเเม้จะอยู่หอเดียวกันเเต่ไม่รู้ว่าเพื่อนหายไปไหน เกิดเพื่อนเป็นอะไร จะไม่มีใครรู้เลยนะคะ เราสอนน้องให้ใส่ใจรักกัน คอยดูเเลเพื่อนถ้าเพื่อนไม่ม่ร่วมกิจกรรมพี่จะตามไปที่หอเพื่อดูเเลน้องว่าน้องเป็นอะไรไปหรือเปล่า การที่คุณไม่เข้าใจก็ไม่ว่าผิดนะคะ เพียงเเต่คุณจะเข้าใจเจตนารมณ์ที่เเท้จริงของพี่ได้หรือเปล่า

0
TursMaster 11 ส.ค. 57 เวลา 16:16 น. 40

ดีนะมหาลัยผมไม่มีพี่ว๊าก ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าพวกพี่ว๊ากนี่เขาไม่รู้จักเทคโนโลยีที่เรียกว่า "โทรโข่ง ลำโพง ไมโครโฟน" หรือพวกเครื่องขยายเสียงพวกนี้หรอ แล้วตอนเด็กๆมีปมในใจอะไรรึปล่าวครับ พอโตมาเป็นพี่ว๊ากถึงอยากให้น้องกลัว ให้น้องเคารพอะครับ ที่บอกว่าว๊ากเพื่อจะได้ทนกับแรงกดดันจากที่ทำงานได้ แล้วที่ทำงานประเทศไหนมั่งครับที่เขาว๊ากกัน แล้วพี่ว๊ากเนี่ย เคยทำงานอะไรมามั่งแล้วครับ ถึงได้รู้ดีจังเลย ผมว่ารุ่นน้องบางคนยังมีวุฒิภาวะทางอารมณ์ และทักษะการทำงานกว่ารุ่นพี่อีกนะ 

0
Lalatar 11 ส.ค. 57 เวลา 16:20 น. 41

คุณเจอเเบบไหนมาไม่รู้นะคะ เเต่เราผ่านการกดดันอย่างนั้นมา มันทำให้เรารู้สึกว่า เราจะไม่เป็นภาระเพื่อนเราจะไม่ยอมให้เพื่อนโดนทำโทษเพียงคนเดียว เราจะกอดคอกันเเละลุกนั่งพร้อมกัน ทั้งน้ำตาเเละเหงื่อเราสามารถเช็ดให้กันโดยไม่รังเกียจ จับมือกันเเล้วถามว่าไหวมั้ย ไม่ไหวบอกเรา มันทำให้เราเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อนจะหาได้จากยามที่เราย่ำเเย่ หลายคนถามว่าได้อะไรจากการว๊าก พี่ขอตอบค่ะ ได้ความจริงใจจากเพื่อนที่ส่งผ่านมา เพื่อนจะไม่ยอมให้เพื่อนโดนทำโทษ ถ้าโดนต้องโดนกันหมด

0
Lalatar 11 ส.ค. 57 เวลา 16:31 น. 44

คุณไม่ได้อ่านที่เราโพสเหรอคะ เราใช้เสียงดัง ไม่ใช่การว๊าก ตะคอก ตะโกน เเต่พวกเราก็เรียกกันว่าว๊ากเพราะ มันใช้เสียงดัง น้องไม่ชอบรู้ค่ะเเต่ถ้าขาด ฝ่ายพี่ระเบียบไป เเล้วกฎระเบียบทางมหาลัยจะมีไว้ทำไมคะ คณะเราเป็นคณะหนึ่งที่เน้นเรื่องความเรียบร้อยเเละสีผม เราจึงอยากมาทำหน้าที่นี้เพื่อดูเเลความเรียบร้อยของน้อง เคยเดินห้างเเล้วเห็น นศ. ใส่กระโปรงสั้นเเค่คืบเเล้วใส่เสื้อรัดติ้วมั้ยคะ มันคือสิทธิของเค้า เเต่คณะเราเเต่งตัวอย่างนั้นไม่เหมาะสมเพราะเราต้องมีบุคลิกเพื่อความหน้าเชื่อถือ เราจึงสมัครใจมาเป็นฝ่ายระเบียบค่ะ ถ้าเป็นเด็กๆเราจะไม่ว๊ากหรอกค่ะเพราะเด็กย่อมเชื่อฟังง่ายอยู่เเล้ว เเต่มหาลัยร้อยพ่อพันเเม่ เด็กต่างมีวุฒิภาวะทางอารมณ์ต่างกันไป โลกมันไม่ได้สวยหรอกนะคะ ถ้าพี่มาพูดนิ่มๆ มันก็มีน้องที่ไม่ทำตามอยู่เเล้ว หากเอากฎระเบียบเข้ามาบังคับ พร้อมทั้งมีพี่ระเบียบเข้ามาย่อมง่ายต่อการคุมระเบียบน้องอยู่เเล้ว ทุกการกระทำของพี่ระเบียบย่อมมีเหตุผลรองรับเสมอ ถ้าผ่านกิจกรรมรับน้องมาได้ น้องจะเข้าใจในสิ่งที่พ่ทำลงไปค่ะ

0
TonChai 11 ส.ค. 57 เวลา 16:32 น. 45

คุณเป็นคนบอกเองนะ ว่าไม่รู้ว่าที่อื่นเป็นยังไง การว้ากมันไม่มีมาตรฐาน ที่คุณพูดสวยหรูเพราะคุณแค่รู้ในมุมของคุณ คุณไม่รู้ในมุมของที่อื่น แล้วถ้าที่อื่นไม่เหมือนกับคุณ มีอันตราย ไม่มีหน่วยปฐมพยาบาลที่มีความรู้ มันมีมาตรฐานไหม แล้วการจะให้การว้ากมันมีมาตรฐาน มันก็ยากที่จะทำ ถ้าจะให้ว้ากบนเหตุผล ความโง่ของคนว้ากมันทำไม่ได้หรอก เพราะฉะนั้น ยกเลิกการว้าก เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ
สุดท้ายขอให้คุณตอบหน่อย การว้ากบนเหตุผลของคุณทำอย่างไรบ้าง การว้ากช่วยละลายพฤติกรรมอย่างไร ทำให้เกิดความอกทนในเรื่องอะไร อย่างไร ตอบให้ได้นะ

0
TonChai 11 ส.ค. 57 เวลา 16:39 น. 46

อย่าเอาเจตนามาพูด สิ่งที่คุณบอกมาเรื่องการไหว้ การใส่ใจเพื่อน คณะผมสามารถสอนให้ทำได้ด้วยจิตสำนึก โดยที่ไม่ต้องว้าก ทำด้วยใจ ไม่ต้องบังคับ ทำเพราะคิดเองได้ ไหว้เพราะเคารพ ไม่ใช่ไหว้เพราะกลัว ใส่ใจเพื่อนเพราะมันคือเพื่อน ไม่ใช่เกิดจากความกลัว และผมเชื่อว่ามีหลายคณะที่เลิกว้ากแล้วเป็นแบบที่ผมพูด เฟรชชี่ไม่ใช่คนโง่ อย่าดูถูกเฟรชชี่ พูดดีๆ พูดให้คิดก็คิดได้
เรื่องการจัดแถว ไม่มีความจำเป็นในชีวิต ถ้าไม่ใช่ทหาร จะให้จัดแถวทำไม มีประโยชน์อะไร
เรื่องประสบการณ์ทำงานนี่มีฝ่ายสนับสนุนว้ากยกมาเป็นเหตุผลที่ต้องมีว้ากเลยนะ ส่วนฝหญ่จะบอกว่า จะได้อดทนเวลาทำงาน

0
Lalatar 11 ส.ค. 57 เวลา 17:01 น. 47

พี่ยังไม่ได้บอกเลยนะคะว่าการว๊ากช่วยในเรื่องการทำงาน อ่านหรือยังคะเวลาเเสดงความคิดเห็น เเล้วก็ไม่ได้บอกด้วยว่าอยากให้น้องกลัว เรื่องเเรงกดดันจากการทำงานพี่ก็ไม่ได้เขียนลงไป ทีหลังจะเเสดงความคิดเห็นช่วยอ่านให้จบก่อนนะคะ มีความระเอียดรอบคอบนิดนึง พี่เเสดงทัศนคติของการเป็นพี่ว๊าก ฝ่ายระเบียบให้น้องๆได้เข้าใจว่า พี่ไม่ได้มีเจตนาอยากเเกล้ง อยากทำให้น้องกลัว เจตนาของพี่เเสดงให้เห็นว่า การสอนน้องของเราฝ่ายระเบียบเเตกต่างจากฝ่ายอื่น มันอยู่ที่ว่าน้องนั้นจะเข้าใจเจตนาของพี่ที่สื่อออกไปหรือไม่

ฝากเรื่องการอ่านด้วยนะคะ

0
Lalatar 11 ส.ค. 57 เวลา 17:11 น. 48

ถ้าเราไม่ผิดซะอย่างพี่ก็ทำอะไรเราไม่ได้นะคะ การที่เราผิดระเบียบไปเเล้วเพื่อนโดนทำโทษนั่นก็เเสดงถึงความเห็นเเก่ตัวมั้ยคะ ถ้าเพื่อนผิดเเละเรายอมทำโทษด้วย นี่เเสดงถึงความเห็นเเก่ตัวมั้ยคะ พี่จะดึงจุดร่วมของน้องออกมา หากน้องทำผิดจะทำโทษคนที่ถูก เพื่อดึงให้คนที่ทำผิดมาทำถูกระเบียบ การเห็นเเก่ตัวจะลดลงไป อย่างน้อยจากเหตุการณ์นี้น้องจะรู้ได้เองว่า ถ้าทำผิดมาจะมีเพื่อนที่ไม่ผิดโดนทำโทษ เเล้วน้องคนที่ทำผิดจะปรับปรุงตัวมาเองค่ะ

0
EKpidech PhoDot 11 ส.ค. 57 เวลา 17:12 น. 49
น่าสงสารจังพี่ว๊าก

หลายคนบอกว่าก่อนที่จะมาว๊าก
ก็เคยผ่านการโดน ว๊าก มาเหมือนน้องๆตอนอยู่ปี 1 พี่ก็ไม่ชอบ

ถามจริง!!

ไม่ชอบแล้วทำทำไมอ้างว่าเป็น ประเพณี รุ่นต่อรุ่น

มิทราบว่าใครเป็นคนเขียนประเพณีนี้ตอบได้ไหม??
0
SyncOre 11 ส.ค. 57 เวลา 17:18 น. 50

ผมอยู่ วิดวะ ปี 2 และ

ตอนปี 1 ผมไม่เห็นเดือดร้อนกับพี่ว้ากเลย  ผมอยากเข้าก็เข้า
ไม่อยากเข้าก็ไม่เข้า  เข้าไปกับเพื่อน โดนซ่อมด้วยกันสนุกจะตาย
มันว้าก ก็ไม่ต้องไปฟังมันดิ   เขาไม่ได้ทำอะไรหนักเลย
วิดพื้น วิ่ง ร้องเพลง แท็กหญ้า แท็กปูน ทิ้งสมอ โหม่งโลก บลา ๆ
แรก ๆ ผมก็ไม่เข้าใจหรอกว่าทำไมไปทำไม

ตอนนี้ผมรู้ละ  ถ้าวันนั้นผมไม่ทำ  วันนี้ผมก็สอนน้องไม่ได้
ที่ม. ผม  ถ้าคนที่ไม่เคยทำพวกนี้มา  ก็ไม่มีสิทธิไปทำกับรุ่นน้อง
และก่อนที่ผมจะทำรุ่นน้อง  ผมต้องมานั่งหาคำอธิบายว่าทำไปทำไม
บางทีผมก็เบื่อนะ  แถมต้องมาโดนหนักกว่าน้องหลังน้องกลับไปแล้วด้วย
แต่ที่ทำ  ก็เพื่อน รุ่นน้องที่จะเข้ามาต่อรุ่นน้องเรา (หลานเราอ่ะแหละ)
ถ้าเราไม่สอนน้องเรา  น้องเราจะเอาไรไปสอนน้องของมันว่ะ ?

ผมไม่เข้าใจที่เดือดร้อนเรื่องพี่ว้ากกันที่คืออะไร  มาตอบผมที
เขาให้ทำเกินกว่าเหตุ
หรือเป็นเพราะว่าคุณไม่อยากเข้ากิจกรรมรับน้อง
หรือว่าคุณไม่ได้เดือดร้อนอะไร  แต่ไม่อยากให้มีกิจกรรมนี้ ?

กิจกรรมรับน้องไม่ได้ช่วยให้เราเป็นคนดีในสังคมทั้งหมด
คนที่ไม่เข้ารับน้อง ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นคนดีในสังคมทั้งหมด
คือคนไม่ดีมันก็ไม่ดีอ่ะ  อะไรจะมาเปลี่ยนมันได้

ผมบอกเลยประเทศเรายึดติดกับใบปริญญาและความรู้ที่นำเอาไปใช้อะไรไม่ได้
จบสูงแต่ทำงานไม่เป็น  อยู่ร่วมกับคนอื่นไม่ได้  มันจะมีประโยชน์อะไร

ผมไม่ได้มโนนะครับ  ถ้าจะย้อนว่าผมเคยทำงานมารึไง
ครับผมเคยทำ  3 ปี ที่ บมจ แห่งหนึ่ง
บอกเลย ไม่สนุกเหมือนมาเรียนครับ  หือเจ้านายยากกว่าหือรุ่นพี่ครับ อิอิ

0
Lalatar 11 ส.ค. 57 เวลา 17:22 น. 51

จัดเเถวขึ้นสเเตนเชียร์ค่ะ ไม่ใช่จัดเเถวเเบบเป็นทหาร ขอโทษค่ะที่อธิบายไม่ละเอียด การไห้วของคณะเราต่างจากการไห้วทั่วไปค่ะ เพราะทั้งมหาลัยคณะเรามีการไห้วเป็นเอกลักษณ์จึงต้องสอนน้องเพราะน้องไม่รู้ การใส่ใจเพื่อนของเรา เราจะให้น้องรู้จักกัน เวลาน้องไม่สบาย ไม่มาเรียนหรือไม่มาร่วมกิจกรรม น้องจะได้เเจ้งพี่ได้ เพื่อที่พี่จะได้ไปดูเเลน้องที่หอ เราบอกเลยค่ะว่า เราเนี่ยเเหละยกมือไห้วน้องเองเลยเมื่อวันเเรกที่เจอน้อง เพราะคณบดีเราไห้วทุกคนตั้งเเต่เเม่บ้านยันอาจารย์ ดังนั้นเราจึงอยากปลูกฝังเรื่องการไห้วให้น้อง เพราะุ่พี่ทุกคนต่างไห้วคนที่เดินเข้าคณะมาทั้งที่เป็น เเม่บ้าน คนที่ไม่รู้จัก อาจารย์ คนที่มาซื้อยา เเละอีกมากมาย อาชีพของเราทำงานกับคนเเละบนความน่าเชื่อถือ ดังนั้น การไห้วของเราจึงต้องปลูกฝังค่ะ

0
ninielover 11 ส.ค. 57 เวลา 17:23 น. 52

นี่โดนมาสดๆร้อนๆ

ที่จริงไม่ได้ชอบระบบอะไรแบบนี้นะคะ ลำบากเราสุดๆเลยตอนว้ากบางทีมันขำอ่ะ TT นี่จริงจังนะ บทบาทสำคัญเลยของพี่ว้ากนี้เค้าควบคุมอารมณ์ยังไงคือบางสถานการณ์ทำไมไม่หลุดขำเลย

อาจเป็นเพราะยังไม่ได้เข้าห้องเชียร์ยังไม่โดนแบบหนักๆเลย แต่บังเอิญทำผิดนิดหน่อยเลยเจอมา

เอาเข้าสาระจริงๆเถอะ จริงๆเราคิดแค่มันเป็นประเพณีหนึ่ง ที่ทำต่อๆกันมา มันมีเหตุผลที่ซัพพอร์ตจริง แต่อยู่จำพวกทำก็ได้ไม่ทำก็ได้ ไม่ได้มีเหตุผลตายตัวว่าถ้าทำละจะเป็นคนดีไม่ทำละจะชั่วหรือจะไม่มีเพื่อนอะไร
แต่เราว่าการที่คนๆนึงผ่านอะไรมาด้วยกัน จะทำให้อีคนมีบทบาทในชีวิตแทนที่จะไม่รู้จักเลย ผิวเผือนเดินผ่านไรงี้

ละอีกอย่าง คนเราจะอยู่ในสังคม มันก็ต้องมีบ้างแหละที่ต้องอดทนอะไรซักอย่าง ซึ่งจุดๆนี้คนไทยไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ อันนี้ไม่ชอบไม่เอา ไม่เอา สังคมเราเดียวนี้เหตุผลไม่ได้อยู่เหนืออำนาจหรืออายุหรอก ฝึกๆทนไว้ตอนนี้ ยังไงก็ไปเจอตอนทำงานในอนาคต 555555



0
refairnight 11 ส.ค. 57 เวลา 17:36 น. 53

"ทำไปเพราะรักน้อง"

ฮิตเลอร์ก็รักชาติด้วยรมแก๊สคนยิวนะฮะ... ความรักมันมีเยอะครับ แต่รักแบบผิดๆทำประเทศล่มสลายเสียหายแบบนี้มาเยอะแล้วครับ

"พี่กลัวน้องร้องไห้ กลัวน้องเกลียด อยากคุยกะน้อง"

ละคุณทำทำไมฮะ

คืองงว่าทำไมต้องทำ ในเมื่อ ให้เป็นคนดี ก็ทำไม่ได้ ก็มีคนมายืนยันว่าเปลี่ยนไม่ได้ ไอทำงานเป็นไม่เป็นนี่คนละเรื่องเลย ถ้าบอกเอาConnection นี่ระบบอุปถัมภ์ที่ทำประเทศวายวอดชัดๆ 

ผมเลยงงว่า มันดียังไง? แล้วสุดท้าย คนว๊ากเองก็ต้องโดนไอระบบอุปถัมภ์นี่ไปกดหัวคุณทุกที่อะ พี่ที่จบไปแล้ว เค้าก็จะมาบีบคุณในกิจกรรมนี้ 

เช่นกัน มันก็จะสืบต่อรุ่นสู่รุ่นกันไป 

ผมงงว่าจบสูงเกี่ยวอะไรกับรับน้องไม่รับน้อง อันนี้งง คือ จบสูง ไม่เข้ากิจกรรม = ไม่มีเพื่อน อันนี้ตลกมากฮะ จนถึงโคตรตลกเลย ชุดเหตุผล เป็นชุดที่เหมือนกับว่า คนดีแม่งต้องดีตลอดกับคนเลวนี่เลวทั้งชีวิตอะ 

แล้วสุดท้าย น้องก็คลั่งคณะ คณะเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ รุ่นเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ แตะไม่ได้ วิจารณ์ไม่ได้ มองคนไม่เป็นคน มองว่าน้องก้เสียเงินทองจากพ่อแม่มาเพื่อศึกษาหาความรู้ ไม่ใช่มาเข้าระบบทหาร คุณไม่รู้เหรอครับ ว่า ระบบนี้เกิดในสมัยจอมพลสฤษดิ์ ใช้ทำลายขบวนการนักศึกษา ที่เคยต่อสู้เพื่อประชาชน เรียกร้องทางการเมือง ให้มาสุมหัวกับไอเรื่องพวกนี้นะฮะ  

คนเรานี่ก็แปลกครับ คนที่เข้ารับน้อง ก็เกลียดคนไม่รับน้อง นี่ไง หาว่าคบไม่ได้ หาว่าไม่มีกิจกรรม หาว่าพวกอ่อนแอ สร้างการเหยียดซึ่งกันและกันชัดๆ...


0
Sone,,TaeNy 11 ส.ค. 57 เวลา 17:38 น. 54
ตกใจสิ่งที่พี่ให้ไม่เคยมีด้านเดียวครับเรื่องปลูกฝังให้รักเพื่อนไม่ใช่แบนครับ ไม่มีใครแบนไม่มีใครเกลียดชังใครหรอกครับ โตๆกันแล้ว เค้าสอนให้รักกันจริงๆไม่ได้บอกเลยว่าเออน้องไม่มาแบนเพื่อนเถอะเห็นแก่ตัว พวกพี่ไม่เคยทำแบบนั้นสิ่งที่ทำได้คือทำให้เห็นว่าพี่รักกันเองมากแค่ไหนรักน้องมากแค่ไหน ที่พวกพี่ถามว่าใครไม่มาคืออยากให้น้องดูแลกันเองรักกันเองคุณอาจจะยังไม่เห็นผลเพราะคุณอาจจะแค่อยู่ีในสถานะที่โดนว้ากแต่เชื่อเถอะ สิ่งที่พี่ๆมองไม่ได้มองแค่ปีเดียว แค่ด่าคุณแล้วก็จบสิ่งที่ทำเพราะยังอยากปลูกฝังสีงดีๆให้กับน้องรุ่นต่อๆไป พี่ยอมรับครับว่าที่ว้ากๆกันไม่มีมาตรฐาน สถาบันพี่อาจจะมีเหตุผลและพี่เห็นประโยชน์ตรงนั้นจริงๆ แต่สถาบันอื่นพี่ไม่รู้แต่ที่น้องกำลังพูดๆกัน น้องก็เหมารวมคำว่าว้ากเหมือนกันครับซึ่งพี่รับไม่ได้ เพราะที่ๆที่พี่อยู่พี่อุ่นใจที่เป็นแบบนี้ ปล.ถ้าจะพิมน้องพิมแค่ภาษาไทยเถอะครับจะใช้ไทยก็ใช้ให้หมดจะใช้อังกฤษก็ใช้ให้หมด อ่านแล้วปวดหัวครับ
0
Remiel 11 ส.ค. 57 เวลา 17:52 น. 55

ก็ไม่ได้ต้องการความยั่งยืนนี่คะ ลองคิดดูสิถ้าไม่มีพี่ว๊าก พี่เชียร์ เราจะกล้าทำความรู้จักคนข้างๆไหม กล้าเข้าหาคนอื่นๆที่ไม่รู้จักรึเปล่า มันเป็นแค่จุดเริ่มต้นให้ทุกคนในคณะรู้จักกันและเรียนรู้การอยู่ร่วมกันมากกว่า

0
บริพัตร กิจศรีไพศาล 11 ส.ค. 57 เวลา 17:53 น. 56

งง ?

"เราใช้เสียงดัง ไม่ใช่การว๊าก ตะคอก ตะโกน เเต่พวกเราก็เรียกกันว่าว๊ากเพราะ มันใช้เสียงดัง"

สรุปมันก็คือว้าก ? ป่ะ

ผมไม่ได้พูดถึงฝ่ายระเบียบเลย คุณเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ผมแค่ต้องการจะสื่อว่า
ว้ากทำไม ในเมื่อคุณสามารถพูดดีๆ กับรุ่นน้องได้ ถ้าคุณพูดนิ่มๆแล้วน้องไม่ทำตาม
คุณถามตัวเองซะนะว่า "ทำตัวเองให้น่าเคารพเพียงพอหรือยัง"

พอเข้าใจไหม หรือยัง งง? เหมือนเดิม

ตลกจัง

0
มร.ชาง 11 ส.ค. 57 เวลา 18:05 น. 57

ว๊ากก็ว่าไปแต่อย่าเล่นด่าทอถึงขนาดจิตใจเพราะถ้าเล่นถึงระดับจิตใจผมก็ไม่ยอมเหมือนกันละ
เรามีสิทธิที่จะปกป้องสิทธิของตัวเอง
ปล.และที่สำคัญเราไม่ได้ขอให้คุณมาว๊ากเรา กิจกรรมการรับน้องเป็นสิ่งดีและมันจะดีกว่านี้ถ้าเรากำจัดสิ่งเหล่านี้ออกไป
แค่ความคิดเห็นส่วนตัวจากคนเคยโดนว๊ากที่รุนแรงระดับจิตใจมาก

0
Mickdance 11 ส.ค. 57 เวลา 18:09 น. 59

กระทู้สร้างภาพ ช๊ะ!!!!

การเป็นพี่ว๊ากคือ??? 

มันไม่ได้ช่วยอะไรเลยให้น้องรักกันสามัคคีกันอย่างที่ว่าเลยแม้แต่น้อย......
ผมก็เคยทำกิจกรรมนะเป็นพี่โน่นพี่นี่แต่ไม่เคยคิดจะเป็นพี่ว๊ากเลยมันดูไม่ค่อยสร้างสรรค์เลย.....ด่าน้องว่าน้องแต่งตัวผิดระเบียบ ไม่เคารพรุ่นพี่ ไม่ บลาๆๆๆๆ
แต่รุ่นพี่ปีอื่นทำไมต้องแต่งกายผิดระเบียบ?? ทำไมรุ่นพี่บางคนไม่เคารพรุ่นพี่ปีที่สูงกว่า?? บอกน้องสอนน้องมันดีดีก็ได้ หรือถ้าจะเป็นการสอนที่ดี ควรทำให้เป็นเยี่ยงอย่างจะดีกว่ามั๊ยครับ อย่างการแต่งตัวอย่างงี้ คุณก็แค่แต่งให้ถูกระเบียบแค่ช่วงที่เป็นกิจกรรม พอหมดกิจกรรม ก็กลับมาแต่งผิดระเบียบ แน่จริงใส่ให้ตลอด 4 ชั้นปี หรือ 5 6 ปีแล้วเรียนให้เกรดสูงๆจะได้ดูมีความน่าเชื่อถือสิครับถึงจะถูก ถ้าทำได้เชื่อมั๊ยว่าจะไม่มีใครมาว่าพี่ว๊ากว่าไรสาระหรอก ทุกอย่างในห้องเชียร์มันก็แค่การแสดงทั้งหมดที่ สร้างสถานะการณ์ให้เกิดขึ้น ตามที่พวกคุณและพี่กิจกรรมคนอื่นๆ ซ้อมกันมาเป็นเดือนๆ เพื่อทำแค่กิจกรรม 1-2 เดือน เงินก็ไม่ได้ เพราะพวกคุณก็บอกว่าทำด้วยใจ..... แล้วที่บอกอย่าหวั่นเลยพี่จะดูแลน้องเอง.....งั้นก็อย่าลืมหาเงินทองส่งน้องๆเค้าเรียนแทนพ่อแม่น้องๆเค้าด้วยก็ดีนะครับ น้องจะได้รักพี่ๆมากกว่านี้ อย่าสักแต่ด่าโดยที่ยังมีคนทำผิดกฏมหาวิทลัย ที่มีอยู่ เกือบ 90% ของมหาวิทยาลัย หรือแม้แต่คุณเองก็ทำผิดกฏมหาวิทยาลัยเหมือนกันนี่ครับ แล้วยังเผือกไปด่าน้องๆทั้งที่ตัวเองหรือรุ่นหรือคนอื่นๆยังทำไม่ได้ เปลืองน้ำลายเปล่าใครมันจะไปเชื่อได้ล่ะ จริงมั๊ย

0
Mickdance 11 ส.ค. 57 เวลา 18:11 น. 61

ผมทำงานมาหลายปีแล้วยังไม่เจออย่างที่น้องบอกเลย....5555
อย่าไปเชื่อพี่ๆมันมากบางคนเกรดยังไม่ถึง2.5ด้วยซ้ำมั๊ง บางคนเอาตัวยังไม่รอดเลยน้องครับ

0
Littlebou 11 ส.ค. 57 เวลา 18:25 น. 62

ทุกสิ่งที่ได้รับมามักมี 2 ด้านค่ะ เราเลือกได้ว่าจะรับด้านไหนเพียงเปิดใจยอมรับค่ะ *ความคิดเห็นส่วนตัว

0
rinnyu 11 ส.ค. 57 เวลา 18:25 น. 63
เข้ามาให้กำลังใจนะคะ เราเพิ่งผ่านการรับน้องเข้าห้องเชียร์ไปเมื่อปีที่แล้ว
เราก็ผ่านมันมาอย่างปลอดภัยนะ555555 ถึงจะโดนพี่ๆแกล้งมาไม่น้อย(แกล้งในที่นี้หมายถึงโดนทำโทษจากความผิดเล็กๆน้อยๆน่ะค่ะT^T)
แต่บอกตรงๆว่า เราไม่เคยรู้สึกเกลียดพี่ว้ากเลย  เรามองพี่ทุกคนเหมือนกันอ่ะ จะพี่ว้าก พี่เชียร์ พี่สวัสดิ์ เราถือว่าพี่ทุกคนเป็นพี่ของเราและ เราให้ความเคารพพี่เค้าเหมือนๆกัน (ซึ่งพี่ว้ากบางคนก็ดูใจดีออกนะ เหมือนเค้าดุเราไปตามหน้าที่อย่างนั้นเอง และเรารู้ว่ามันคือการแสดง55555)
เราอาจจะโชคดีที่คณะเรามีรุ่นพี่ใจดี แต่ยังไงเราหลีกเลี่ยงระบบโซตัสไม่ได้อยู่ดี พี่ที่ยืนดุอยู่ตรงหน้าเราเค้าก็เคยผ่านมันมาแล้ว และเพื่อนๆเราทุกคนก็เจอเหมือนกันๆ เราก็ยอมรับได้นะคะกับประเพณีแบบนี้ เราเองได้รับอะไรจากกิจกรรมนี้มาเยอะมาก มากที่สุดเลยคือความอดทน (ยังไม่รวมความสามัคคีกับได้เพื่อนนะ เรายอมรับว่าเคยจำเพื่อนในคณะร้อยกว่าคนได้ทุกคนจากกิจกรรมนี้ ถึงตอนหลังจะลืมๆไปบ้าง555555) เราว่าเราเป็นผู้ใหญ่ขึ้น และมีความรับผิดชอบมากขึ้น เราเข้าใจว่าคนเราไม่สามารถทำให้อะไรๆเป็นไปอย่างที่เราต้องการได้ทั้งหมด มีแต่เราที่ต้องเปลี่ยนตัวเองและปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์นั้นๆให้ได้
รู้ว่าปี1ทุกคนไม่มีใครอยากเจออะไรแบบนี้กันหรอก เราเองตอนนั้นก็โคตรไม่อยากไปเลย ทำไมเราต้องไปนั่งระเบียบแสตนด์ นั่งฟังพี่ทำหน้าดุ มองหน้าก็ไม่ได้ แถมทำผิดนิดเดียวโดนทำโทษอีก แต่พอจบกิจกรรมนี้ ตอนที่เราโชว์แสตนด์ผ่านไปด้วยดี ตอนที่แสดงจบพี่ๆบูมให้ เรารู้สึกว่ามันเป็นความทรงจำดีๆอย่างนึงเลย เราคิดว่าพี่เค้าคงภูมิใจน่าดูที่น้องๆทำได้ดีแบบนี้ เราเองก็ภูมิใจเหมือนกันนะ
เพราะงั้นเราคิดว่าถ้าน้องเลือกที่จะไม่เข้าร่วมกิจกรรมนี้ เราก็เสียดายนะ ไม่ใช่เพราะเราเคยโดนมาเลยอยากให้น้องโดนด้วยเหมือนๆกัน  แต่เราคิดว่าน้องจะไม่ได้รับสิ่งดีๆจากกิจกรรมนี้ถ้าไม่เข้าร่วมเลยต่างหาก 
โอเค หลายคนอาจเอาเหตุผลมากมายมาค้าน โดยเฉพาะเรื่องหน้าที่ของเราคือการเรียนไม่ใช่เหรอ เอาเวลาไปอ่านหนังสือดีกว่ามั้ย เราเลยสงสัยว่านี่จะเรียนกันอย่างเดียวเลยเหรอ มันก็ไม่ใช่มัธยมแล้วนะ บอกเลยว่ารุ่นเราไม่เข้ากิจกรรมนี้แค่สองคนเองมั้ง แต่พอคะแนนสอบออกมามีนคณะเราสูงมากนะ เพราะงั้นเราขอเถียงเรื่องเสียการเรียนเลย มันอยู่การแบ่งเวลาของแต่ละคนเองมากกว่า พี่ๆที่เค้ามาทำตรงนี้เค้าเรียนหนักกว่าปี1อีก  เค้ายังสละเวลามาทำเลย  แถมกิจกรรมนี้มันก็มีแค่ตอนปี1เอง เรียนก็ไม่ได้หนักมากเท่าปีอื่น แถมพอโตขึ้นก็ไม่ต้องเจออะไรแบบนี้แล้วด้วย
ถึงเราพูดแบบนี้ แต่เราก็ไม่ได้เป็นพี่ว้ากหรอกนะคะ และเราก็ไม่ได้อยากเป็นด้วย แต่ก็อย่างที่บอกว่าเราเสียดายจริงๆถ้าน้องไม่ได้เข้า ที่จริงเราเป็นคนหนึ่งที่ไม่ค่อยชอบทำกิจกรรมคณะเท่าไหร่หรอก โดดได้ทุกเมื่อที่มีโอกาสเลย แต่เราว่ากิจกรรมนี้มันสอนอะไรหลายอย่างให้เราจริงๆอย่างที่เราบอกไปข้างต้นแล้วนั่นแหละ และถ้าน้องเข้าร่วมกิจกรรมนี้แล้วผ่านมันมาได้ เราก็อยากให้น้องได้ประโยชน์จากมันแบบที่เราได้ มันก็คงจะดีไม่น้อย
0
A-pat Mookie 11 ส.ค. 57 เวลา 18:42 น. 64

มหาลัยเราไม่มีการว๊าก ไม่มีการบังคับ ไม่ดราม่า แต่ทุกคนก็รักกันดี รักรุ่นพี่ด้วยนะ รู้สึกว่าพวกเค้าน่ารักและเป็นมิตรมากๆ
ส่วนตัวคิดว่า ทำให้รักกันเพราะบรรยากาศที่ดี มันจะดีกว่าทำด้วยบรรยากาศแย่ๆนะคะ

0
[L]itTle_nEkO 11 ส.ค. 57 เวลา 18:46 น. 65

เห็นด้วยกับความคิดของ จขกท ครับ(มีเพื่อนเป็นพี่ว้ากและเคยโดนพี่ว้ากช่วย ฮา)

แต่บางคน บางที่(หลายที่เลยแหละ) พี่ว้ากไม่ได้เป็นแบบที่คุณคิด
บางคนก็ทำเพราะสะใจ บางคนก็อยากกดขี่คนเล่น บางคนก็คลั่งสิ่งที่สืบกันมา(ดีหรือไม่ดีไม่เคยคิด) ไม่ได้สนใจว่าน้องจะเป็นอะไรแบบที่คุณสนไหม
นั่นแหละปัญหา

0
kalo amano 11 ส.ค. 57 เวลา 18:53 น. 66

เพิ่งผ่านรับน้องไป เราไม่แน่ใจว่าพี่คนนั้นใช่พี่ว๊ากมั้ย แต่เขามีเหตุผลในการดุการด่าเรา เราว่าคนที่ผ่านอะไรยากลำบากมาด้วยกันจะรักกันมากขึ้น คณะเรามีร้อยกว่าคน ทุกคนรู้จักกันหมด เราว่าก็อบอุ่นดีนะ ไม่แน่ใจ อาจเพราะเราคิดว่าต่อไปเราต้องพึ่งเพื่อนเหมือนที่พี่บอกเลยรู้สึกขอบคุณพี่ด้วยมั้ง อีกอย่าง มันสอนให้เรารู้จักมองคนอื่นมากขี้น ไม่ใช่ทำตามใจตัวเอง คณะที่เราเข้าต้องทำงานเกี่ยวกับชีวิตคนต้องเจอความกดดันหลายทาง ในชีวิตจริงที่ต้องเจอกับสถาณการณ์พี่ว๊ากคงเทียบกันไม่ติด
ปล.ใครจะบอกให้เราออกจากกะลาไม่ต้องนะ เราออกมาแล้ว -,-

0
samidung 11 ส.ค. 57 เวลา 19:09 น. 67

ว่าแล้วค่ะว่าต้องมีประเด็นความจริงใจข้อนี้มาแน่นอน ขอถามจริง ๆ นะคะ คิดหรอคะว่าเราผ่านการรับน้องด้วยกันมาโดนพี่ว้าก พี่ด่าด้วยกันมา จะจริงใจใส่กัน 100 % ไม่มั้งคะ ทุกคนก็หยิบหน้ากากใส่เข้าหากันอยู่ดี อย่าโลกสวยค่ะ ในโลกนี้ไม่มีใครจริงใจให้กัน 100% หรอกนะคะ ถ้าไม่มีผลประโยชน์ร่วมกันน่ะค่ะ(ซึ่งนั่นก็ไม่ได้มาจากความจริงใจที่อยากหยิบยื่นให้กัน) แล้วส่วนเรื่องทำผิดกฏระเบียบนะคะ ขอถามค่ะ ผิกกฏของมหาวิทยาลัย หรือ ผิดกฏที่พวกพี่เขียนขึ้นมาเองคะ เท่าที่เห็นส่วนมากพวกที่โดนลงโทษจะเป็นเพราะทำผิดกฏที่พวกพี่บัญญัติไว้เองมากกว่า ซึ่งไม่ผลอะไรกับชีวิตน้องเลย นอกจากแค่ว่าถ้าไม่ปฏิบัติตามแล้วจะโดนพี่ทำโทษ

0
Em Peravas 11 ส.ค. 57 เวลา 19:21 น. 68

ว๊ากใส่แค่ไม่กี่นาที มันจะไปละลายพฤติกรรมใครได้
แล้วทำไมถึงคิดว่าวิธีล้าหลัง ไร้อารยธรรม ออกแนวรุนแรง มันเหมาะสมกับนิสิตที่เป็นปัญญาชนในมหาวิทยาลัย?
คุณคิดว่ามันมีประโยชน์ แล้วคนอื่นๆหล่ะ? จากเด็กปี1 ที่โดนมาในรุ่นคุณ ถ้าทำแบบสอบถาม แบบให้ตอบตามตรง พวกคุณก็คงอยู่กลุ่มคนส่วนน้อย
ผมก็เคยผ่านมาเหมือนกัน แล้วก็ไม่เคยเห็นใครได้อะไรดีๆกลับมาจากการโดนว๊ากสักคน นอกจากรำคาญ และคิดว่ามันไร้สาระ แต่เค้าก็ไม่ได้พูดอะไร เพราะมันเสียเวลา แถมกลัวจะโดนกลุ่มคนที่คลั่ง sotus รุมด่า นินทา ไม่ยุ่งด้วย ตัดออกจากกลุ่ม อะไรก็ว่าไป
แล้วมันก็จะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ -กลุ่มที่เห็นว่าดี(?)
ปีหน้ามันก็จะมาเป็นสตาฟว๊ากน้อง แล้วคนที่ไม่เห็นด้วย ก็ไม่พูดอะไร ทนๆเห็นเพื่อนตัวเอง ทำอะไรงี่เง่าต่อไป
 "ทำไปเพราะรักน้อง" ถามน้องหรือยังว่าชอบไหม มีประโยชน์ไหม เคยถามความเห็นคนอื่นรึยัง นอกจากเพื่อนๆพี่ๆที่นิสัยเหมือนตัวเอง

ขอโทษด้วย ถ้าพูดอะไรให้ไม่พอใจ "ฝืนใจพูดไปเพราะรักนะจ๊ะ" 

0
ท้อปสปิน 11 ส.ค. 57 เวลา 19:30 น. 69

ถามตรงๆว่าอยากให้รุ่นน้องเคารพด้วยใจ หรือเคารพด้วยความกลัว?
และก็อย่างไหนมันน่าภูมิใจกว่ากัน

ตอบ!!!

0
namagashi 11 ส.ค. 57 เวลา 19:38 น. 70

จากที่อ่านมาก็เหมือนกับแถเข้าตัวเองทั้งนั้นเลยนะคะ จะมีเจตนาอย่างไรก็ตามแต่ถามจริงๆ กิจกรรมแบบนี้มันดีแน่เหรอ? ทำไมเราต้องสร้างภาพให้น้องๆ เกลียดแทนที่จะมองเห็นอะไรดีๆ บ้างคะ? เราไม่เคยเข้าห้องเชียร์เพราะไม่ชอบ แล้วก็เห็นว่านี่ไม่ต่างจากการตบหัวลูบหลัง ทำไปทำไมคะ? การมีกิจกรรมแบบนี้ช่วยพัฒนาอย่างไรจริงจังในด้านไหนบ้างเหรอคะ? ประเทศไทยเดินหน้า นิสิตนักศึกษามีระเบียบวินัยจริงๆ หรือเปล่า? นี่เป็นข้อสงสัยเวลาเห็นกิจกรรมแบบนี้มาเสมอ 

ที่ได้อ่านมาก็เห็นว่าจะบอกเป็นหน้าที่ที่สำคัญและเป็นการเสียสละ ถ้าไม่เต็มใจจะทำไม่อยากจะเสียสละไม่อยากให้ถูกเกลียดก็ไม่ต้องทำสิคะไม่มีใครว่าไม่มีใครเดือดร้อน กิจกรรมดีๆ ส่งเสริมความดีงามมีเยอะแยะไปค่ะ ข้ออ้างแบบนี้ได้ยินบ่อยๆ ทั้งที่ความจริงมันก็เป็นแค่นามธรรม อีกอย่างแน่ใจเหรอว่านิสิตนักศึกษามีระเบียบวินัยมากขึ้นจริงๆ ทั้งที่พอออกจากกิจกรรมก็ไม่เห็นจะเปลี่ยนไปตรงไหน 

สรุปแล้วก็ยังมองไม่เห็นข้อดีของการว้ากหรือกิจกรรมแบบนี้เลยค่ะ ความจริงก็น่าจะหาเหตุผลที่น่ายอมรับกว่านี้มาอธิบายนะคะ 

0
lekJJ 11 ส.ค. 57 เวลา 19:39 น. 71

เหอๆ อยากให้คนผิดถูกทำโทษ เลยทำโทษคนที่ไม่ผิดเพื่อให้คนผิดรู้สึกสำนึก... คิดได้ไงเนี่ย

0
Remiel 11 ส.ค. 57 เวลา 19:54 น. 72

แต่เราว่ามันได้ผลนะ ถ้าเพื่อนโดนทำโทษเพราะเรา ก็ต้องรู้สึกผิดบ้างแหละ คราวหน้าจะได้ไม่ทำผิดอีก เพราะไม่ได้เดือดร้อนคนเดียว

0
lekJJ 11 ส.ค. 57 เวลา 20:17 น. 73

ยังไม่เคยโดนว้ากหรือการรับน้องทั้งปวง เพราะ ยังอยู่มอปลาย และค่อนข้างจะไม่ชอบอย่างรุนแรงเรื่องการรับน้องโดยวิธีการที่ทำให้รู้สึกกลัว ทั้งปวง 
อ่านของจขกท. แล้วรู้สึกขัดใจกับคำว่า"หน้าที่" สุด ๆ อะ แบบ... การไปเป็นพี่ว้ากคือ บทบาท และสวมบทบาทนั้นจึงเกิดหน้าที่ หน้าที่ อะไร ? งง ใครกำหนดอะไรแบบนี้หรือครับ หรือพวกท่านๆที่ใช้วิธีการเหล่านี้ไตร่ตรองแล้วว่าดีเลิศประเสริฐศรี 
เอาจริง ๆ เราว่า การว้ากน้องทำให้น้องกลัวเนี่ยยยยย มันไม่เห็นจะช่วยพัฒนาอะไรเลยนะ น้องกลัวจึงต้องเข้ากิจกรรม เดี๋ยวจะโดนทำโทษ งี้หรอ คือสิ่งที่ดีงาม เหอะๆ บางอย่างที่ปฏิบัติกันมานานแต่มันไม่ดีมันก็เลิกได้นะ 

0
makare and karemal 11 ส.ค. 57 เวลา 20:18 น. 74

ฝันอยากเป็นพี่ว๊ากมาตั้งแต่เด็กเลยค้าาาา อีกอย่าง หนูคิดว่าถ้าไม่มีพี่ว๊าก งานก็ล่มเหมือนกันนะค้า แค่ค่ายเล็ก ไม่มีการเสียงดัง ไม่มีการทำโทษ คิดว่าจะคุมเด็กอยู่หรือค่ะ หากไม่มีพี่ว๊าก งานมันก็กร่อยได้เหมือนกันนะค้า



ปล.โตขึ้นหนูจะไปเป็นพี่ว๊ากค้าาาาา

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

TonChai 11 ส.ค. 57 เวลา 20:25 น. 76

นี่คุณไม่มีมนุษยสัมพันธ์ขนาดที่ว่าไม่กล้าทำความรู้จักกับใคร ต้องรอให้คนอื่นสั่งหรอ จะรีบรู้จักเร็วไปทำไม แข่งกับใคร? โดนบังคับให้รู้จักเนี่ยนะ คิดเองเป็นรึป่าว?

0
เธชเธกเธซเธเธดเธ เธเธฃเธเธฐเธเธธ 11 ส.ค. 57 เวลา 20:26 น. 77

สงสารจขกท.(อันนี้พลีชีพจริงๆแหะ....) เข้าใจอารมณ์ ณ ตรงนั้น และก็เข้าใจคอมเม้นท์ด้านบนๆ
ไม่ขอพูดอะไรมาก แต่พอให้พี่สู้ต่อไปจากจุดๆนั้น 
เราไม่รู้หรอกว่าใครจะรู้สึกยังไงถ้าเราไม่อยู่ตรงจุดๆนั้น

อ่านคอมเม้นท์หนึ่งแล้วจุกแทน

ใครขอให้พี่ว๊ากเหรอค่ะ....

เรื่องบางเรื่องต้องเจอเองถึงจะเข้าใจ.... Orz.

0
lekJJ 11 ส.ค. 57 เวลา 20:29 น. 78

เอ่อ...ได้ผลก็จริงครับ แต่ไม่ใช่ทุกครั้ง และ การเอาคนไม่ผิดมาลงโทษมันเลวร้ายกว่าเยอะครับ เราโครต เกลียดวิธีการแบบนี้เลยครับ ไม่ว่าจะเป็นลงโทษหมู่ หรือ ลงโทษคนอื่นแทนคนผิดเนี่ยยยย

0
TonChai 11 ส.ค. 57 เวลา 20:34 น. 80

สรุป ว้ากคือการวิ่งหรอครับ พูดถึงเรื่อว้ากหรือกิจกรรม หรือเป็นส่วนหนึ่งในนั้น หรือไม่เกี่ยวกัน ตกลงว่าว้ากคือการด่า หรือแค่พูดเสียงดัง ตอนนี่เริ่มสับสน
ผมว่าตอนนี้กำลังพูดถึง ว้าก
การพูดเสียงดัง ที่คณะผม พี่ก็พูดเสียงดังครับ เพราะพูดให้คนอีก 246 คนฟังโดยมีแค่โทรโข่ง และที่คณะผมก็มีกิจกรรมให้ทำ ให้ช่วยเหลือกัน แต่ไม่มีว้าก ที่คุณแถมาเนี่ย ไม่เห็นมีเกี่ยวกับว้ากเลยนะ แถให้ตรงจุดหน่อยครับ กรุณาพูดถึงการว้ากด้วยครับ

0