Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ผิดหวังกับจิตวิทยา จุฬามาก ที่ควรจะเป็นคณะตัวอย่างในการรับน้องให้ประเทศไทย แต่ยังมีห้องเชียร์

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
"ถึงนิสิตจิตวิทยาทุกท่าน
ผมน้องชายโชค
สองสามวันนี้ชื่อผมคงจะกระฉ่อน
บางท่านอาจได้รับคำสั่งให้ล่าผม"

"คงได้ฤกษ์บอกอะไรบางอย่าง
จิตวิทยา จุฬา ไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด
เพราะตอนนี้ถูกรุ่นพี่บางส่วนเข้าควบคุม
มีรุ่นพี่แค่บางคนเป็นหัวโจก
กับบางคนที่ยอมทำตามสิ่งที่เขาทำๆกันมาก็เท่านั้น
เป็นเผด็จการเบ็ดเสร็จ
พวกพี่ว๊ากใส่น้อง
และจะว๊ากอีก
ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป
รุ่นพี่จะสามารถบังคับให้เราทำทุกอย่าง
เราต้องยับยั้ง
ผมรู้ว่าขอมากอยู่
แต่อิสรภาพนั้นราคาแพง เพราะมันสูงค่า
มันเป็นราคาที่ผมยอมจ่าย
ต่อให้มีผมคนเดียว
ผมก็จะสู้
แต่เชื่อมั่นว่าไม่ใช่"

"ผมรู้สึกผิดหวังกับคณะนี้มากๆ ขึ้นชื่อว่าเป็นจิตวิทยา และเป็นถึงจุฬา การเรียนจิตวิทยาไม่ได้ทำให้วิธีการรับน้องมันดีกว่านี้เลยเหรอ รุ่นพี่เรียนมาทำไม 3-4 ปี คิดได้แค่นี้? ถ้าเรียนมาหลายปีแล้วจบมาเป็นแบบรุ่นพี่แบบนี้ ชิงลาออกดีกว่า เรียนแล้วได้อะไรไหม ไม่ต้องใช้แล้วมั้งจิตวิทยา ตะคอก ขึ้นเสียงไปเถอะ"

"ผมรู้นะว่ามีแค่รุ่นพี่ไม่กี่คนหรอกที่ทำแบบนี้ คนอื่นเขาไปหาอะไรทำกันหมดแล้ว เป็นเพียงแค่รุ่นพี่บางส่วนเท่านั้นในแต่ละรุ่น แต่มาหลายๆรุ่น พยายามเกณฑ์กันมา บางคนก็คงมาด้วยความไม่เต็มใจ"

"ผมรู้สึกว่าหลายคนก็คงคิดเหมือนผม แต่คงไม่มีพื้นที่ให้ได้แสดงออก แต่คนข้างๆท่านทั้งหมด อาจเห็นด้วยเหมือนกับเราก็ได้ ลองคุยกันดู"

"เราจะเรียนจิตวิทยาไปทำไม ในเมื่อยังตะคอกให้คนฟังอยู่"
"เราจะเรียนจิตวิทยาไปทำไม เมื่อเรายังโน้มน้าวคนไม่ได้"
"เราจะเรียนจิตวิทยาไปทำไม ขณะที่เราทำสิ่งที่สังคมส่วนใหญ่ไม่ยอมรับ"
"เราจะเรียนจิตวิทยาไปทำไม ปัญหาแค่นี้ยังแก้ไม่ได้"

"คนที่เข้าห้องเชียร์ไม่ได้ทำให้เป็นคนที่มีความรับผิดชอบมากขึ้น แต่คนที่รับผิดชอบอยู่แล้วแค่นั้นที่เข้าห้องเชียร์ มันไม่ได้เปลี่ยนแปลงนิสัยอะไรใคร"

"ขอให้อย่ามาอ้างอะไรว่ารักน้อง วิธีแสดงความรักอื่นๆมีมากมาย วิธีทำให้รุ่นน้องสามัคคีกันก็มีเยอะแยะ นี่คณะจิตวิทยาไม่ได้สอนอะไรเลยเหรอนี่ และอย่ามาแถลประเด็นเรื่องอื่นว่าเป็นแค่เรื่องในคณะ คณบดี ครูอาจารย์เห็นด้วยหรือเปล่า? เขาเคยให้ความคิดเห็นว่ายังไง เคยถามกันไหม? คงไม่หรอก เพราะเพื่อนในรุ่นพี่เองก็คงไม่ได้ถาม หรือไปทำงานจะเจอหนักกว่านี้ พี่ทำงานแล้วเหรอ? แล้วงานที่ไหนมันเป็นแบบนั้น ถ้าเป็นแบบนั้นแทนที่จะเปลี่ยนแบบแผนงานด้วยจิตวิทยาให้ดีกว่าเดิม ทำไม่ได้?"

"อย่าบอกว่ารุ่นพี่โดนมาแล้ว ถ้าพี่รู้สึกว่าไม่ดี รุ่นพี่อยากจะให้รุ่นน้องเจ็บปวดเหมือนรุ่นพี่เหรอครับ?"
"ผมไม่จำเป็นต้องเปิดเผยตัวนะ ไม่ต้องมาทำเป็น "แน่จริง เปิดเผยตัวดิ บลา บลา บลา" แล้วทำตัวแบนผม นั่นก็ไม่ใช่หนทางที่ขี้แพ้ชวนตี"

"อย่าคิดว่าสิ่งที่ทำตามๆกันมาจะเป็นสิ่งที่ดี และเราจะล้มห้องเชียร์ไม่ได้ ถ้าเราไม่เริ่ม แล้วใครจะเริ่ม"

แสดงความคิดเห็น

>

383 ความคิดเห็น

เพียวแมท 14 ส.ค. 57 เวลา 00:15 น. 3

ชวนเพื่อนๆยึดอำนาจเปลี่ยนระบบเลยน้อง บอกกุเฟรชชี่ปีนี้จะเข้าทำการเปลี่ยนระบบที่ห่วยแตกอยู่ให้หมดไป ยิ้มฟันขาว

0
รุ่นน้องคนนึง 14 ส.ค. 57 เวลา 00:41 น. 4

นายคือบุลคุลที่น่ายกย่อง ผมเองยังไม่กล้าลุกขึ้นสู้เลย ได้แต่เดินออกมา แต่ก็ไม่ยอมทนก้มหน้าก้มตาทนกับระบบหร่านี่แน่นอน

0
เเมงมุมลายตัวนั้น 14 ส.ค. 57 เวลา 05:20 น. 5

บอกพี่ๆเค้าไปเลยว่านี่ไม่ใช่ stanford prison experiment พี่ไม่ใช่ผู้คุม ผมไม่ใช่นักโทษ ไม่ต้องใช้อำนาจมาคุม

ไม่ก็ให้รุ่นพี่ไปอ่านเรื่องpositive & negative reinforcement มาใหม่นะค้าาาา

จากใจรุ่นพี่จิตวิทยาปี 4 ที่ไม่ชอบการรับน้องเเบบมีพี่ว๊าก

0
buggy 14 ส.ค. 57 เวลา 12:29 น. 7

"ผมรู้ว่าขอมากอยู่
แต่อิสรภาพนั้นราคาแพง เพราะมันสูงค่า
มันเป็นราคาที่ผมยอมจ่าย
ต่อให้มีผมคนเดียว
ผมก็จะสู้
แต่เชื่อมั่นว่าไม่ใช่"


สวัสดีครับ กัปตันอเมริกา เอ้ยยยผิด โทษๆ
คำคุ้นๆ ทีเดียว

ตลกจัง

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

มีเนื้อหาที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง และทะเลาะกันอย่างรุนแรง หรือมีเนื้อหาต่อว่า วิจารณ์ หรือประจานผู้อื่น ที่มิได้เป็นบุคคลสาธารณะ

Intania 98 14 ส.ค. 57 เวลา 16:44 น. 11

#6
น่าจะเป็นบางคณะครับ เพราะแต่ละคณะมีอิสระและมีคณะกรรมการของคณะเอง อย่างวิศวะจุฬา เลิกว้ากกันไปแล้วเพราะรุ่นพี่ตอนโดนรู้สึกไม่ดีและมีความคิดแง่ลบกับรุ่นพี่ที่มาว้าก จึงเลิกกันไปเอง แพทย์ ทันตะ สัตว ก็น่าจะไม่มีว้ากนะครับ รับน้องหอในก็ไม่มีว้ากแล้ว

แต่เห็นเพื่อนวิทยายังต้องเข้าห้องเชียร์อยู่ แต่วิศวะ ไร้ซึ่งการบังคับใดๆทั้งสิ้นเลยครับอิสระสุดๆ จะเข้าก็ได้ไม่เข้าก็ได้ รุ่นพี่บอกเองเลยด้วยซ้ำถ้ารู้สึกไม่ดีเดินออกได้เลย(ไม่ใช่น้ำเสียงประชด)

ถึงแม้จะไม่มีการว้ากแต่อินทาเนียรุ่น 98 ยังรักกันอย่างเหนียวแน่น และสายสัมพันธ์ระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้องก็ไม่ได้จางลงแต่อย่างใดครับ

จาก Intania 98 ครับ

0
definite 14 ส.ค. 57 เวลา 16:46 น. 12

เราก็เจอแบบเธอ แต่บางคนจะเข้าใจเรา คือแบบ บางอย่างยกเลิกเถอะค่ะ อยู่ ฬ เหมือนกัน แต่ต่างคณะกัน ล้มเถอะ สงสารเพื่อน น้อง // หลบ เฟด ออกมาเลยลุกกกกกกกก

0
sccu80intania98 14 ส.ค. 57 เวลา 16:57 น. 13

#6
แค่บางคณะแหละครับ
ตอนอยู่วิทยาจุฬา ก็ไม่ว้ากนะครับ ออกแนวใช้คำสุภาพ แต่บรรยากาศในห้องเชียร์ก็ตึงเครียดนิดหน่อย เพราะพี่แต่ละคนปั้นหน้านิ่ง 55555 จะไม่เข้าก็ได้ พี่เขาก็ไม่ได้ด่า ค่อนข้างอิสระอยู่ฮะ

ส่วนปีนี้ย้ายมาอยู่วิศวะ จุฬาแล้ว ห้องเชียร์ก็แบบ คห.11 บอกแหละ


ปล.เมื่อวานคุยกับรุ่นพี่อักษร จุฬา เค้าบอกปีนี้ไม่มีห้องเชียร์ เพราะไม่มีพี่คนไหนทำ นี่จริงปะ 5555
ปล2.จริงๆ จขกท. ไม่ต้องเข้าห้องเชียร์หรอกโดดออกมาเลยดีกว่า ถ้าทนไม่ไหว

0
ทนหน่อย 14 ส.ค. 57 เวลา 17:30 น. 14

มันมีทั้งข้อดีและเสีย ถ้าผ่านไปแล้ว -คนโพสเนี่ยมันจะรักคณะมันเอง...

แต่ความจริงก็ไม่อยากให้มีหรอก ทำร้ายจิตใจน้องช็อค

0
เห้อ 14 ส.ค. 57 เวลา 17:54 น. 15

ไม่ต้องเข้าเหอะ มาบ่นไรมากมาย เหนื่อยมะ พิมเนี่ย? เราก็ไม่เข้า ไม่ชอบก็บอกตัวเอง ไม่ต้องประกาศหรอก

0
พี่ชายโชค 14 ส.ค. 57 เวลา 18:26 น. 16

ผมอยู่คณะนี้แหละครับ ยืนยันครับว่าไม่มีว้าก รูปแบบห้องเชียร์เป็นเหมือนคณะวิทยาฯแบบที่ความคิดเห็นที่13พูดเลยครับ
ใช้คำสุภาพ แต่ใช้เสียงดังและหน้านิ่งครับ

0
วงใน 14 ส.ค. 57 เวลา 18:27 น. 17

ไม่ต้องมีว้ากก็ได้อย่างที่น้องบอก
แต่ขออย่างเดียว
อย่าทำอะไรให้คณะขายหน้าก็แล้วกัน /เช่นอะไรที่ที่ทำอยู่ก็รู้กัน

ฮือฮือ

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

vrku 14 ส.ค. 57 เวลา 18:37 น. 21

ขอชื่นชมนายจริงๆ (:
เราเรียนคณะ ที่ผลิตคนออกไปเป็นแม่พิมพ์ของชาติ เป็นคนสร้างคน แต่น่าแปลกที่ทุกวันนี้ การว้ากการไซโค น้องยังไม่หมดออกไปจากคณะซะที เห็นทีว่าในอนาคตจะมีคุณครูที่เอาแต่ว้าก แต่ตะโกนด่า ยืนสอนอยู่หน้าชั้นเรียน

1
freshmen#1 14 ส.ค. 57 เวลา 18:38 น. 23

คณะวิทยาศาสตร์ให้เข้าห้องเชียร์ตามความสมัครใจนะครับ และในหนังสือขออนุญาตผู้ปกครองเขียนเลยครับว่าไม่มีการว๊าก ><

0
พวนนส. 14 ส.ค. 57 เวลา 18:42 น. 25

ขอทราบคำนิยามคำว่า ว๊าก ของน้องหน่อยค่ะ
น้องสัมผัสคำว่า จิตวิทยา มามากแค่ไหน แล้วเข้าใจคำนี้ว่ายังไงคะ

0
Baimint1128 14 ส.ค. 57 เวลา 18:48 น. 28

นั่นสิคะ ถ้าเด็กหัวช้า ก็คงไม่มีการสอนเพิ่มคงมีแต่คำด่าว่าแค่นี้ทำไมทำไม่ได้ๆๆ
โง่ งั่ง ดูคนนู้นเค้ายังทำได้เลย เรื่องแค่นี้ยังคิดไม่ได้ก็ไม่ต้องมาเรียน

อยากจะถาม เรามาเรียนเพราะเราโง่ป่ะว้า ถ้าเราฉลาดหนูไม่มาเรียนหรอกครูขาา

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

Psy cu 14 ส.ค. 57 เวลา 18:57 น. 31

พี่จบจากคณะนี้ค่ะน้อง ช่วงเวลาของห้องเชียร์มันก็เป็นช่วงเวลาสั้นๆ
สิ่งที่พี่ได้ คือพี่ได้รู้จักกับเพื่อนมากขึ้น เพื่อนที่ช่วยเหลือกันและกัน
พี่ว๊าก พอจบห้องเชียร์ทุกอย่างก็เป็นปกติ ไม่ได้โกรธหรือเกลียดอะไรกันเลย น้องลองมองว่ามันเป็นการฝึกความอดทนดีมั๊ยคะ โลกของการทำงาน
ในอนาคตข้างหน้า น้องจะเจออะไรมากกว่านี้อีกเยอะค่ะ เจอคน push / force น้องมากกว่านี้ แต่เจตนาเค้าคงไม่ได้ดีแบบที่พี่ๆพยายามฝึกน้องหรอกค่ะ

0
ป้าของหลานเฟรชชี่ 14 ส.ค. 57 เวลา 18:57 น. 32

นั่นสิ ตกลง คำว่าว้ากของหลานมันคือยังไงอะลูก.. ว้ากนี่คือเค้าตะโกนด่าเราเลยหรอคะ หูย โหดจัง
ฟังๆหลานป้าเค้าเล่า ป้านึกว่าเค้าแค่กดดันเราเสียอีก ถ้าขนาดว้ากตามความหมายของป้านี่ แย่แล้วค่ะโกรธแล้วนะ

0
KIkiki 14 ส.ค. 57 เวลา 18:57 น. 33

คิดว่ามันคือสีสันของการเข้ามหาลัยสิ ที่พี่เขาว๊ากพี่เขาก็ว๊ากตามหน้าที่ นี่ก็ปี 1 เพิ่งรับน้องเสร็จสนุกมากเวลาโดนว๊าก โตแล้วก็คิดเอานะคะ
บางครั้งอาจจะเกินกว่าเหตุบ้าง เเต่มันก็สอนเราหลายๆอย่าง สนุกดี ชอบเสียงพี่ว๊าก สะใจดี เวลาโดนว๊ากเเล้วทำโทษสนุกมาก ชอบ ได้รู้จักเพื่อนในคณะเยอะดี ได้รู้ว่าจะต้องกลั้นยิ้มเเบบไหนถึงไม่โดนด่า รักเลย

0
เสรีใต้กฎหมาย 14 ส.ค. 57 เวลา 18:58 น. 34

ความจริงก็คือความจริง คนที่ต้องการบิดเบือนข้อมูลสาระแห่งความจริง อย่าบิดเบือนเลย

เพราะความจริงคือสิ่งไม่ตาย

เพราะความจริงคืออาวุธที่ทำให้คนอธรรมต้องล้มลงหมอบ

เพราะความจริงคือสิ่งเดียวที่พระเจ้าตรัสเท่านั้น

ความจริงจึงพิเศษมาก ๆ และมีอานุภาพมาก

ขอบคุณเจ้าของโพสต์ที่ตีแผ่ความจริง

และเชื่ออย่างมั่นใจว่า

ความจริงต้องได้รับการส่งต่อแบะเผยแพร่

เพื่อให้ " สิ่งไม่ดีไม่งาม หรือความชั่วร้ายที่แอบแฝง " ถูกทำลายหมดสิ้นไป

ขอชื่นชม

0
ฟัคคคคคคค 14 ส.ค. 57 เวลา 18:58 น. 35

อย่าโลกสวยดิ บางคณะมันให้เข้าทุกคน ใครไม่เข้าโดนพี่เสี้ยมเพื่อนให้แบนเราอีก รุ่นพี่ชั่วๆมันมีเยอะ มันทำเพื่อความสะใจทั้งนั้นแหละ ยอมรับเหอะ
1
Dhhddh 29 ส.ค. 59 เวลา 19:58 น. 35-1

ทำไมต้องยอมรับ ในเมื่อเราเป็นคนเสียหายทั้งๆที่ไม่ได้ทำอะไรผิด สมมติมีคนที่คุณรู้จักโดนทำเรื่องเเย่ๆใส่มา คุณจะบอกให้ อย่าโลกสวยงั้นดิ ยอมๆไปเหอะ โลกนี้มันเเย่ งี้อ่อ มีอะไรที่ไม่ถูกต้องก็ต้องเเก้ไข โลกสวยก็ดีกว่าโลกเเย่ค่ะ

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

หนับหนุนๆ 14 ส.ค. 57 เวลา 19:06 น. 42

เห็นด้วยครับเอกของผมรุ่นพี่ยกเลิกระบบนี้แล้ว ผมก็เห็นว่าในเอกผมมีความรักสามัคคีกันดีอยู่กันแบบพี่แบบน้องไม่กดดันเวลาอยู่กับพวกรุ่นพี่ เฟรชชี่เอกหนึ่งในคณะสังคมศาสตร์ ม.ย่านอโศก

0
song13579 14 ส.ค. 57 เวลา 19:10 น. 44

อือ้หื้อ โพสหาพวก ปลุกใจในนี้ไม่มีผลอะไรหรอก

โน้นนน รวมเพื่อนถามเหตุผลจากพี่ คุยกันตรงไปตรงมาเลย ได้ผลกว่า
มีเพื่อนเรียนปีเดียวกันไม่ใช่หรอ

ปล.ได้ข่าวว่าแค่ประกาศนามเป็นนิสิตจฬ ยังไม่เข้าห้องเชียร์เลยนะเอ่อ
ปล2 พี่ไม่กัด

#รุ่นพี่ปีสี่ คณะนี้แหละ

0
Wednesday Child 14 ส.ค. 57 เวลา 19:15 น. 45
ครอบครัวเราไม่มีใครเข้าห้องเชียร์ได้จบตลอดรอดฝั่งเลย ตั้งแต่พ่อ พี่ และเรา 
กลุ่มพ่อเรานั้น ไม่เข้าไม่พอ ตะโกนไปบริเวณที่เค้าว้ากกันอยู่ว่า "บ้าอำนาจ" ถามว่ารุ่นพี่วิ่งมากระทืบมั้ย?? รุ่นพี่อาจจะงง อาจจะมึน อาจจะไม่สนใจ  ไม่ว่าเหตุผลอะไร รุ่นพี่ยืนที่เดิมแล้วว้ากต่อไป (นี่พ่อฉันเล่าแบบใส่สีตีไข่เปล่าเนี่ย) ตอนนี้คณะพ่อเราไม่มีการว้ากไปแล้ว ตามที่คห.บนๆ บอก (สัตวแพทย์)
พี่เรา เข้าบ้างไม่เข้าบ้าง ไม่เข้าก็บอกเพื่อนข้างๆ ไว้ กลับบ้าน นัดหมอ อะไรก็ว่าไป แล้วรุ่นพี่เค้าจะถามแปดทิศรอบตัวแค่นั้น คณะพี่เรายังมีการเข้าห้องเชียร์ต่อไป ฮ่าๆ 
เราเอง เข้าแค่วันแรกวันเดียว แต่ของเราห้องเชียร์มีแค่ 3 วัน แล้วของเราไม่ใช่จุฬาฯ ด้วย
จขกท.ลองทำแบบพ่อเราไหมคะ เพื่อได้ผล อาจจะดีกว่ามาโพสบนนี้
ปล.ปีที่แล้วช่วงมหาลัยเปิดเทอม จำได้ว่าเคยมาโพสแบบนี้แล้ว คงมีคนมาตั้งกระทู้ประมาณนี้ทุกปี ฮ่าๆ 
0
Pat_04 14 ส.ค. 57 เวลา 19:16 น. 46

ขออนุญาติตอบน้องเจ้าของกระทู้นะคะ พี่ขอออกตัวก่อนเลยว่าพี่เป็นพี่คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจบมาทั้งปริญญาตรีและปริญญาโท ผ่านห้องเชียร์คณะมาทุกรุ่นตลอด 4 ปี ทั้งในฐานะน้องปี 1 ที่เข้าห้องเชียร์ทุกวันไม่เคยขาดและในฐานะพี่เชียร์ที่ทำหน้าที่ดูแลห้องเชียร์มาตลอด 3 ปีต่อมา พี่กล้าพูดได้เลยว่า ห้องเชียร์คณะจิตวิทยา "ไม่มีการว้าก" เรามีแต่ "พี่วินัย" ซึ่งยืนหน้าตาบึ้งตึงประหนึ่งไม่ถ่ายท้องมาหลายวันแต่ไม่เคยมีการว้ากน้องโดยไร้เหตุผลหรือหาเรื่องมายืนตะโกนใส่น้องเอามันไปวันๆเลยจริงๆค่ะ (พวกพี่เองก็เจ็บคอเป็นเหมือนน้องที่กำลังยืน/นั่งร้องเพลงเชียร์อยู่เช่นกันค่ะ) และสิ่งนึงที่พวกพี่ได้รับการเน้นย้ำมาจากอาจารย์อยู่เสมอและเป็นสิ่งที่พวกรุ่นพี่เองก็จะย้ำกันอยู่เสมอคือ เราคือคณะจิตวิทยาเราต้องใช้จิตวิทยาในการทำห้องเชียร์กับน้องและไม่มีการว้ากน้องโดยเด็ดขาด จุดนี้พี่จึงค่อนข้างสงสัยค่ะว่าคำว่า "ว้าก" ของน้องเจ้าของกระทู้หมายถึง "พฤติกรรม" อย่างไร หากการพูดเสียงดังในห้องเชียร์ = ว้าก พี่ก็กล้าพูดค่ะว่าทุกคณะในจุฬาฯมีการว้ากค่ะ แต่ถ้าการ "ว้าก" คือการตะโกนด่าน้อง กดดันน้องด้วยคำพูดอันหยาบคายอย่างที่พวกพี่เข้าใจกันมาตลอด คำว่า "ว้าก" ของน้องกับพี่ก็คงไม่เท่ากันแล้วล่ะค่ะ อีกประการนึงคือ ห้องเชียร์ไม่มีการบังคับค่ะ ทุกอย่างล้วนเกิดจากความสมัครใจหากไม่สมัครใจก็สามารถไม่เข้าร่วมกิจกรรมได้ค่ะ พวกพี่คงไม่สามารถไปสั่งให้น้องมาเข้าร่วมกิจกรรมได้หรือบีบให้น้องลาออกจากมหาวิทยาลัยได้หรือแม้กระทั่งสั่งให้ใครแบนน้องได้เช่นกันค่ะ เราโตโตกันแล้วทุกอย่างทุกคนมีสิทธิ์เลือกค่ะ ทำที่น้องสบายใจได้เลย แต่น่าตกใจและน่าเสียใจคือ คณะจิตวิทยาเปรียบเสมือนบ้านของเราค่ะและน้องกำลัง "เผาบ้าน" ของพี่อยู่ (สิ่งนี้ไม่ใช่การ punishment หรือ negative reinforment นะคะ แต่นี้คือการ reflect ความรู้สึกของพี่ในฐานะ Psyche จุฬาฯคนนึง ^^)

0
ไม่จำเป็นต้องเปิดเผย 14 ส.ค. 57 เวลา 19:16 น. 47

วิธีแก้ปัญหาน่าจะเปนการคุยกับพี่หรืออาจารย์นะครับ ไม่ใช่การโพสต์บอกคนอื่น ,,,, เหมือนหิวแล้วไม่กิน มานั่งโพสต์ว่าหิว แล้วเมื่อไหร่จะอิ่ม

0
คนไม่เข้าห้องเชียร์ 14 ส.ค. 57 เวลา 19:17 น. 48

จริงๆไม่อยากเข้าก็ไม่ต้องเข้าก็ได้นะ สมัยพี่เรียนก็ไม่เข้า
พอไม่เข้าเพื่อนในคณะก็ชอบมากดดัน พวกรุ่นพี่ก็ชอบมองแปลกๆ
อยากจะถามเหมือนกัน...จ่ายตังเข้าเรียนมาฟังคนด่าคนว่าหรอ
วิชาเรียนก็ไม่ค่อยจะมีลง ยังมาเจอสังคมแบบนี้อีก
อย่าไปกลัว เดี๋ยวมันก็ผ่านไป
สู้ๆนะ

0
ต่อนะ 14 ส.ค. 57 เวลา 19:24 น. 50

ใช่ คิดได้แค่กลัวขายหน้า ไม่รู้จะใช้ศัพท์อะไรให้วัยรุ่นอย่างพวกเธอเข้าใจ
เรามันแก่แล้วหน่ะ ขอโทษนะคะ #ไหว้

0
แม่ชีหลี 14 ส.ค. 57 เวลา 19:24 น. 51

เรียนครุหรือเปล่าคะ
ถ้าไม่ก็อย่านำความคิด หรือความเชื่อที่คุณได้รับมาเพียงด้านเดียว มาตัดสินสิ่งที่คุณไม่เคยสัมผัสมัน
เราไม่รู้หรอกนะว่าปีก่อนๆ รุ่นก่อนที่เรามาเรียน มันจะมีว๊ากหรือห้องเชียร์โหดอย่างที่คุณว่าหรือเปล่า ตอนนี้โลกมันเปลี่ยนแล้วนะคะ ห้องเชียร์มันก็ต้องเปลี่ยนและปรับรูปแบบให้เหมาะสมกับนิสิต ไม่ใช่ว่ามีว๊ากยังไงก็ยังดำเนินต่อไปอย่างไร้เหตุผล

0
นิสิตมหาลัยที่ใช้โซตัส 14 ส.ค. 57 เวลา 19:24 น. 52

มีรุ่นพี่คนนึงเคยบอกผมว่า
อย่าแอนตี้โซตัส แต่จงแอนตี้คนที่ใช้โซตัสในทางที่ผิด
พวกที่ทำไปเพราะรู้สึกสนุกและบ้าอำนาจ

0
ดาดา 14 ส.ค. 57 เวลา 19:24 น. 53

ผมไม่เอารุ่นจากสาขานะครับ ปัจจุบันก็ไม่สนใจรุ่นพี่รุ่นน้องอยู่แล้ว แต่ให้ปรึกษาอะไรผมทำให้เต็มที่ เพราะว่าที่เรียนพ่อแม่บอกผมแค่ว่าเห็นใบปริญญาแค่นี้ก็ดีใจแล้ว ไม่ใช่ใบรับน้อง(มันไม่มีบอกหลังจากจบมหาลัย)

0
sinesoon 14 ส.ค. 57 เวลา 19:26 น. 54

ทำใจเถอะ!! พวกรุ่นพี่บ้าอำนาจมันยังมีอยู่เยอะ อารมณ์แบบเคยโดนมาแล้ว เข้าใจนะว่าเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ แล้วพวกรุ่นพี่ก็จะมาแก้ตัวว่า"อยากให้น้องๆมีความสามัคคีกัน รักเพื่อน" แต่ลืมคิดอะไรไปรึเปล่า กิจกรรมนี้ไม่ได้บังคับ แต่ใช้แรงกดดันจากเพื่อนที่เข้าห้องเชียร์ แล้วคนที่ไม่เข้าล่ะ ก็จะกลายเป็นคนที่ไม่มีความรับผิดชอบไปสะงั้น โดนเพื่อนแบน รุ่นพี่ไม่รับไหว้      เนี่ยนะหรอ!! สร้างความสามัคคีที่รุ่นพี่คิดกัน      
                                                                                                                                                                                                     
#เราว่าระบบนี้มันแก้ยาก 
#ประสบการณ์โดยตรงมหาลัยชื่อดังย่านบางเขน

0
มองมุมต่าง 14 ส.ค. 57 เวลา 19:26 น. 55

พี่เป็นศิษย์เก่าคณะนี้ค่ะ และพี่รักคณะพี่มากด้วย
'ว๊าก' คณะพี่ ไม่เห็นโหดอะไรเลยน้อง ถ้าน้องทำตัวถูกต้อง อย่างที่ควรจะทำ น้องจะกลัวอะไรคะ?
ตอนพี่เข้าห้องเชียร์ พี่ไม่เคยกลัวโดนว๊สกเลย เพราะพี่ไม่เคยทำผิด และพี่เชียร์คณะนี้ ไม่งี่เง่านะคะ
ห้องเชียร์ทำให้พี่รู่จักคนเยอะขึ้น รักคณะมากขึ้น รักสถาบันมากขึ้น

ตอนนั้น รุ่นพี่ก็มีคนต่อต้านนะ แต่เค้าไม่อยากทิ้งเพื่อน สุดท้าย เราก็รวมเป็นรุ่นเดียวกัน มีความรัก ความสามัคคีกันมากขึ้น

น้องมองหลายๆมุมสิคะ ถ้าไม่ชอบ ก็ไม่ต้องเข้า

0
NnNnN 14 ส.ค. 57 เวลา 19:28 น. 56

นี่คือคำพูดของนิสิตคณะนี้หรือ?

เอาสิ่งอ่อนแอ ปลอบบางมาอ้างบังหน้า บอกเสียชื่ออย่างโง้นอย่างงี้ ไม่ได้ต่างอะไรกับผู้ก่อการร้ายที่เอาผู้หญิงและเด็กมาเป็นตัวประกันเลย

บอกว่าการพูดเสียงดัง ไม่ใช่การว้าก ผมถามหน่อยมันต่างกันตรงไหน พยายามจะหลีกเลี่ยงให้มันดูดี? ทำอย่างกับบอกว่า ผมไม่ได้ทำผิดกฎหมาย แต่ทำในสิ่งที่กฎหมายห้าม จิตวิทยาคิดได้แค่นี้?

เพลียจริงๆ

0
Apocalypse19 14 ส.ค. 57 เวลา 19:33 น. 57

เจ้าของกระทู้ไม่เห็นด้วย แต่ไม่เลือกที่จะเดินหนีปัญหา ขอชื่นชมครับ

ใครที่บอกว่าก็เงียบไป ไม่ต้องเข้า หรืออธิบายเหตุผลตรรกะแย่ๆออกมา
ผมว่าคุณนี่โคตรจะไม่ศรัทธาในประชาธิปไตยเลย
ไม่เคารพสิทธิ์ ยอมฟังเสียงของคนอื่นกันเลย

ผมเชื่อว่ารอบๆตัวเจ้าของกระทู้เองมีคนมากมายที่ไม่เห็นด้วยกับการว้ากเช่นกัน
ไม่ว่าจะในรูปแบบไหน หรือตามคำจำกัดความที่หลายคนให้ไว้หรือไม่ เขาไม่เห็นด้วย
เจ้าของกระทู้จึงหาแนวร่วมคิดว่านี่คือปัญหา และพร้อมจะเริ่มแก้ปัญหาครับ

โลกนี้มีเสรีภาพครับ ถ้าคุณคิดว่าการรับน้องในลักษณะว้ากๆกัน เป็นการพัฒนาตนเอง
ผมคิดว่าคนที่ไม่เห็นด้วยก็คงขอใช้เสรีภาพของตนที่จะไม่รับการพัฒนาในรูปแบบนี้ครับ

ถ้าสุดท้ายแล้วมันดีหรือไม่ดียังไง ก็ต้องมานั่งคุยปรึกษากัน
ผมเชื่อว่าถ้าจะให้ตัวเจ้าของกระทู้พูดอยู่คนเดียว คงมีพลังสู้การว้ากไม่ได้
แต่ถ้าทุกคนที่เห็นเหมือนกันช่วยกัน คงจะเป็นกระบอกเสียงที่ดีกว่าแน่นอน

เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้และผู้เห็นด้วยครับ

0
P.Mint T.K. 14 ส.ค. 57 เวลา 19:34 น. 58

เราว่านะ ก่อนจะมาประกาศตัวในนี้ หาเพื่อนร่วมอุดมการณ์ก่อนมั้ย
อย่างน้อยก็ยังมีพวก 5555
แต่เราว่าไม่น่าจะเหมารวมเลยนะ หัวข้อกระทู้อ่ะ
ก็อย่างที่บอกที่ว่าบางคนไม่เต็มใจ แล้วทำไมเธอเหมารวมล่ะ?
ไม่ดีเลย (ดูให้เป็นนิ่วหน้าคิ้วขมวดนะ 555)

เราเรียน ม.ดัง ย่านบางเขน (บอกขนาดนี้เราว่าเราบอกชื่อเลยดีมั้ย? 555) จิตวิทยาเหมือนกัน แต่ไม่โดน หรือยังไม่โดนก็ไม่รู้
ถ้ามันทนไม่ได้ เดินออกมาเลยจ้า
เราไม่เห็นด้วยเหมือนกันเลย จะว๊ากทำไม พี่ว้ากปวดคอ เราปวดหู
เลิกงานมาทำซึ้งๆ เพื่อ? แล้วไม่พูดดีๆตั้งแต่แรกล่ะ
นี่กำลังคิดอยู่เลย ถ้าโดนว้ากจะเอาลูกอมแก้เจ็บคอให้พี่แก แล้วเดินออกมา
ไม่เอาอ่ะ เราปวดหู 

ถ้าที่ไหนบังคับ ตอนกลับมา เธอลองโทรถามอธิการบดีหรืออาจารย์หัวหน้าคณะดูนะ ว่ามันเป็นกิจกรรมบังคับรึเปล่า ถ้าใช่และเธอทนไม่ได้ บอกพ่อแม่เลย ให้ท่านช่วย ไม่ได้ประชดนะ นี่แนะนำจริงๆ พ่อแม่ช่วยเราได้หลายเรื่อง และอยากจะบอกว่า พ่อแม่ที่ไหนเสียเงินส่งลูกให้ไปโดนตะคอกใส่ว่ะ (ถ้าเป็นพ่อแม่เรา ท่านเคืองนะ)

อย่ามาหาว่าเราเป็นคุณหนูหรือหินในไข่ เพราะโดนตะคอกใส่ไม่ได้ 
พ่อแม่ก็เคยด่าเรามาแล้ว แต่ทำไมเราจะต้องให้คุณๆ ทั้งหลายที่ไม่ใช่พ่อแม่เรามาตะคอก ตะโกนใส่ด้วยคะ? มันมีประโยชน์ตรงไหนคะ?
รับความกดดัน? แค่ที่บ้านกดดัน เราก็จะบ้าอยู่แล้วเหอะ 5555 รับรองเราทนรับความกดดันได้พอๆหรือมากกว่าพวกรุ่นพี่แน่นอน 

ว่าแต่ว้ากเนี่ย จำเป็นต้องด่าถึงจะเป็นว้ากหรอคะ แค่โดนตะคอก ตะโดนใส่เนี่ย เราก็ว่ามันว้ากแล้วนะ 
ว้ากมันเสียงดังใช่ป่ะละ ใครจะอยากฟังอ่ะ ทำอย่างกะตัวเองเสียงเพราะงั้นแหละ แต่ถ้าพี่ว้ากเสียงเพราะ ตะคอกเสียงน่าฟัง เราอยู่ต่อนะ 5555
ที่ทำงานที่หัวหน้ามีวุฒิภาวะมากพอที่จะเป็นผู้นำคนได้ เค้าไม่ตะโกนใส่ลูกน้องนะคะ พอดีเคยตามพ่อไปที่ทำงานค่ะ ที่ไหนใจดีเค้าจะตักเตือนก่อน ถ้าผิดบ่อยเค้าไล่ออกเลยนะ ไม่มา !@^!&*$#% ช้งเช้งโวยวาย ตะคอกใส่ให้เจ็บคอหรอกค่ะ

ปล. ถ้าอยากว่าเรา ตอบกลับจาก คห. นี้นะ เดี๋ยวไม่เห็น ถ้าเราผิด เราขอโทษแน่
ปลล. บอกตามตรง วิธีที่เธอเขียนมันทำให้เราฮามากเลยอ่ะ เหมือนบทละครหรือการ์ตูนมิตรภาพเลยอ่ะ มันดูตลกในชีวิตจริง (ถ้าจขกท.โกรธ เราขอโทษนะ แต่เราพูดจริงอ่ะ)
 รูปนี้น่ารักเนอะ ฮิฮิ (หาโอกาสใส่ไม่ได้เลย)

0
บอยย 14 ส.ค. 57 เวลา 19:34 น. 59

อยู่ไม่ได้ก็ไม่ต้องอยู่ครับ เขาไม่ได้บังคับให้คุณอยู่ ลาออกไปก็ได้ง่ายดี เข้าคณะอื่นที่ไม่มีว้ากอะ ไปหาเอานะ บาย

0
เด็กpolsci CU 14 ส.ค. 57 เวลา 19:36 น. 60

อยู่รัฐศาสตร์ จุฬาไม่มีว้ากนะ ห้องเชียร์ ใครอยากเข้าก็เข้า ต้องกลับบ้านก่อนก็บอก รุ่นพี่ดูแลดี แนะนำหลักสูตรให้น้อง ให้คำปรึกษาน้องเวลาทำกิจกรรม ไม่ว้าก

เอาจริงเราอยากให้จขกทคุยกับรุ่นพี่โดยตรง ไม่ใช่โพสต์ลับหลัง ไม่เห็นด้วย และอยากทราบคำว่าว้ากของจขกทด้วย ว่าทำอะไรบ้าง ว้ากยังไง

ดูเหมือนว่าโอเคไม่ยุติธรรม แต่คุณก็ต้องเรียนรู้กระบวนการที่จะตอบโต้อย่างถูกวิธี โพสต์ในนี้อะไรดีขึ้นไหม เผลอๆ รุ่นพี่มาเห็นจะไม่ชอบจขกทด้วย ทำไมไม่บอกไปตรงๆ
วิธีที่จขกทใช้ อาจทำให้คนไม่เข้าจิตวิทยา จุฬา เข้าน้อยลง และมีว้ากเหมือนเดิม
ถ้าจขกทไปคุยกับรุ่นพี่เค้าตรงๆดีกว่าไหม เราอยู่ปี1นะ น่าจะแอด57เหมือนกัน

0
Wednesday Child 14 ส.ค. 57 เวลา 19:39 น. 61

เพิ่มเติม ไปถามพ่อมาให้รู้เรื่อง ตอนนั้นที่พ่อตะโกนไปว่าบ้าอำนาจ พวกพี่ว้ากวิ่งมา แต่พี่ประทานเชียร์มาห้ามไป ทำให้ไม่เกิดเรื่อง และพอถึงสมัยพ่อเราขึ้นเป็นรุ่นพี่บ้าง การว้ากได้หยุดไป มีแค่บางคณะที่ว้ากกันภายในคณะ ที่หายไปเพราะมีการผลักดันให้นิสิตมุ่งสนใจ "เรื่องๆ หนึ่ง" มากกว่าที่จะจัดกิจกรรมนี้

แต่หลังจากนั้น การว้ากได้กลับมาอีก เหตุเพราะต้องการดึงนิสิตให้กลับมาจากการสนใจ "เรื่องๆ นั้น" แล้วได้ผลเสียด้วย ถึงตอนนี้ นิสิตยังสนใจกิจกรรมว้ากมากกว่า "เรื่องๆ นั้น" เลย

0
ไม่บอกบ้างดีกว่า 14 ส.ค. 57 เวลา 19:40 น. 62

ประชาธิปไตย เชื่อในเสียงข้างมาก วันใด น้องคือเสียงข้างมาก วันนั้นน้องจะชนะเอง ไม่จำเป็นต้องสาวไส้ให้กากินครับ พฤติกรรมแบบนี้ ขอให้น้อง จขกท ทำเป็นครั้งสุดท้าย เพราะถ้าในชีวิตจริง น้องเอาเรื่องที่ทำงาน หรือ เพื่อน หรือ อื่นๆ มาโพสต์ลงสังคมออนไลน์แบบนี้ ไม่เจอตัวไม่เปนไร เจอเมื่อไหรน้องอยู่ยากบอกเลย

ปัญหาแก้ด้วยการคุยกันครับ ไม่ใจการประจาน /// เหมือนน้องเจอคนล้วงกระเป๋า แล้วถ่ายคลิบมาลงแล้วบอกว่า เลว ,,, มันไม่ทันละครับ ช่วยกันแก้สิครับ ไม่ใช่ประจาน โอเคเนอะ ปัญญาชนกันแล้ว

0
ชลลี่ชลลี่ 14 ส.ค. 57 เวลา 19:44 น. 63

หวัดดีนาย เราอักษรจุฬา
ปีนี้คณะนี้เอาห้องเชียร์ออกแล้วเป็นปีแรก เปลี่ยนเป็นหัองคาราโอเกะ ให้เพื่อนคุมเพื่อนกันเอง แล้วมีพี่คอยช่วยห่างๆ ที่เอาออกได้ยินว่าเหตุผลเพราะขัดหลักการคณะ อารมณ์ว่าอักษรศาสตร์ คือมนุษยศาสตร์ เราเรียนไปเพื่อเข้าใจมนุษย์ด้วยกัน (เข้าใจมนุษย์ผ่านสิ่งที่มนุษย์สร้างเช่น ภาษา วัฒนธรรม ละครฯลฯ)
ดังนั้นเราจึงต้องปฏิบัติต่อกันดีๆ ไม่ตะโกนใส่หน้ากัน ไม่บังคับจิตใจกัน และเหมือนได้ยินมาอีกว่าทางคณะเชื่อว่าเด็กที่สอบเข้ามาได้คงเป็นเด็กที่มีพื้นฐานดีอยู่แล้ว มีสติปัญญา มีความคิดความอ่าน จึงควรสามารถควบคุมตนเองได้โดยที่ไม่ต้องใหัใครมาสั่ง(และเช่นกัน คือ ไปสั่งให้คนอื่นทำตาม) แต่ปกติอักษรไม่มีพี่ว้ากอยู่แล้ว รับน้องสนุก เต้นเยอะไปหน่อย แต่ก็ไม่ได้บังคับว่าจะต้องทำ ไม่อยากทำก็โยกๆไป พี่ก็โอเค ไม่อยากเข้าก็ไม่ว่าเลย ไม่มีประชด ไม่มีปฏิกิริยา อาจจะถามตื้อๆนิดๆเหมือนอยากให้สนุกด้วยกันก่อน และอย่างมากก็อาจจะแค่กักให้รอจังหวะว่างๆแล้วค่อยออก

ส่วนนึงเราเลือกคณะนี้เพราะเรา sensitive มาก เราไม่ชอบให้ใครมาสั่ง ไม่ชอบโดนฝืนใจ ไม่ทนต่อแรงกดดัน เลยต้องเลือกที่ไม่มีโซตัส เราแวะมาอยากเล่าให้ฟังเฉยๆ เผื่อคณะอื่นอยากจะเอาหลักการคณะเราเป็นตัวอย่าง เพราะเราทุกคนก็เป็นมนุษย์เหมือนกันใช่ไหม เราไม่มีรับน้องกดดัน แต่เรากับเพื่อนรุ่นก็สนิทกันดี ก่อนเข้าคุยกันห้องแทบระเบิด ทุกคนกระตือรือร้นช่วยงานรุ่น มีแต่คนอยากอาสาเป็นหัวหน้าเป็นแม่งานกัน. 5555

รู้ป่ะ อยากบอกอย่างหนึ่ง มีคนเคยวิเคราะห์ให้เราฟังว่าระบบโซตัสเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ประเทศเสีย อย่างในโรงเรียนอาชีวะที่เด็กระหว่างสถาบันชอบตีกัน มันก็มาจากที่รุ่นพี่สอนๆให้เกลียดกันป่ะ??? พอเด็กช่างตีกันแล้วใครจะส่งลูกไปเรียน พอไม่มีใครส่งลูกไปเรียนก็ขาดแคลนแรงงานช่างฝีมือ คนที่ไปเรียนป.ตรีก็อาจจะไม่ได้ถนัดสายวิชาการ จบออกมาไม่มีคุณภาพอีก คิดต่อเองว่าถ้าคนไม่มีคุณภาพล่ะ จะเกิดอะไรขึ้น และทำให้คนอดทนต่อระบบอุปถัมป์ นิยมระบบนี้(ใครๆเขาก็ทำ) แล้วสืบทอดกันต่อไปอีก ถึงตรงนี้ทุกคนคงรู้ดีว่าระบบอุปถัมป์ดีหรือไม่ดียังไง.....

0
lllllllll 14 ส.ค. 57 เวลา 19:45 น. 64

ตั้งแต่ผมเกิดมา บ้านเมืองเรามีปัญหาเสื้อแดง เสื้อเหลือง ยังไม่เคยเจอคำตอบที่ว่า ก็ย้ายประเทศสิ เลย นี่เด็กจิต จุฬาตอบจริงเหรอเนี่ย

คณะนี้ทำเป็นแต่หนีปัญหาสินะ แก้ปัญหาคงไม่เป็น แล้วจะเรียนจิตวิทยาไปทำไมครับ

0
Sir Chong 14 ส.ค. 57 เวลา 19:47 น. 65

เข้ายึดอำนาจกันเลยทีเดียว เอาจริง ๆ ถ้ามันเป็นเรื่องจริงว่ามีการว๊ากเนี่ย ผมว่าคุยกับรุ่นพี่ไปเลยดีกว่า ใจกล้าแล้วไม่ใช่เหรอ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพก็หาเพื่อน ๆ เข้าไปคุยกันเยอะ ๆ ก็ดี


0
เจน จุฑาวุฒิ 14 ส.ค. 57 เวลา 19:47 น. 66

ภูมิใจที่เรียนธรรมศาสตร์ ตั้งแต่เข้ามาเห็นแต่ครอบครัว ทำไมเราไม่เคยโดนว๊าก แต่เรามีรุ่นะยาวจนไปถึงจบไปแล้ว 2 มีรุ่นน้องไปบูมให้ เข้าห้องเชียร์นี่สนุกจริง ๆ แข่งกันร้องเพลงจนเจ็บคอเพื่อเอารางวัลเล็กๆ น้อย ที่พี่คอยเตรียมหามาให้ จนมาถึงวันนี้รักมหาลัยและคณะมาก มากซะจนใครมาว่าจะเถียงแทนเลยว่าที่นี่รับน้องดีมาก เอ้ย ต้องรับเพื่อนซิ จขกท เป็นกำลังใจให้นะ

เศร้าจัง

0
PolSciCU 14 ส.ค. 57 เวลา 19:51 น. 67

รัฐศาสตร์ จุฬา ไม่มีว้าก ไม่มีบังคับห้องเชียร์ ทุกอย่างอยู่บนคำว่าเสรีภาพครับ ทุกคนมีสิทธิ์มีเสียงสามารถออกความเห็นได้ รุ่นพี่ทำทุกอย่างเพื่อรุ่นน้องจริงๆครับ ถามไถ่น้องๆตลอด "น้องไหวไหม, น้องโอเคไหม, น้องร้อนไหม, น้องอยากได้อะไร บอกพี่ได้นะ" แฮปปี้สุดๆ

รักเลย

0
child 14 ส.ค. 57 เวลา 19:54 น. 68

สวัสดีครับ ,,, ผมขออนุญาตมองต่างนะครับ ว่า ว๊าก กับ พูดเสียงดังต่างกันตรงที่ใช้อารมณ์คนละประเภท

ว๊าก คือการพูดเสียงดัง ใส่อารมณ์ฉุนเฉียว ดุดัน

แต่การพูดเสียงดัง มีทั่วๆไป หลากหลายอารมณ์ เช่น การตะโกนเรียกวินมอ'ไซต์ฝั่งตรงข้าม หรือ เวลาแม่ตะโกนเรียกกินข้าวจากชั้น 1 ไปชั้น 3

ที่นี้พอจะเข้าใจไหมครับว่า ว๊าก ต่างจากพูดเสียงดังอย่างไร

กรณีนี้ ผมบอกไม่ได้ว่า เป็นการว๊าก หรือพูดเสียงดัง เพราะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แค่อยากเข้ามาแชร์ว่า ความคิดคุณอาจจะไม่ถูกต้องทั้งหมด

,,, แล้วคุณเป็นนิสิตคณะอะไรครับ ถึงคิดได้แค่นี้ :)

เพลียกว่า

0
Plawaan 14 ส.ค. 57 เวลา 19:59 น. 69

ผมไม่รู้นะว่ามันเลวร้ายยังไงการว๊ากที่ผมเรียนอยู่ยังไม่เจอ
แต่ที่ผมสงสัยคือมันฝึกได้จริงรึป่าว เจอเพื่อนร่วมงานทำแบบนั้น แล้วการโดนว๊ากจะทำให้เราทนได้จริงรึป่าว ไม่ใช่ว่าต้องปรับตัวกับที่ทำงานอีกทีหรอ หรือการเข้าโดนว๊ากแล้วจะปรับตัวกับการทำงานได้ดีกว่า ผมไม่ทราบนะครับแต่ถ้ามันดีจริงทำไมไม่ไปว๊ากกันตอนทำงานอะครับระยะเวลา4ปี การฝึกความอดทนจากการว๊ากจะคงอยู่ตลอดหรอครับมันดีขนาดนั้นเลยหรอ ถ้ามันดีขนาดนั้นมหาวิทยาลัยดังๆอย่างจุฬาบางคณะจะเลิกว๊ากทำไม หรือเค้าห่วงชื่อเสียงมากกว่าอนาคตเด็ก

ผมเคยวิเคราะปัญหากับพี่ๆนะครับว่าทำทำไมผมเป็นคนขี้สงสัยมาก ผมได้บทสรุปทฤษดีการเครียดร่วมมาครับ เมื่อบุคคลใดถึงจุดจนมุมจะใช้ทุกวิธีเพื่อรอด จากการว๊ากถึงคนข้างๆเราจะไม่ได้รู้จักแล้วก็ไม่อยากรู้จักแต่ต้องรู้จักเพราะถูกแรงกดดันจึงเกิดเป็นสังคมแบบรวดเร็ว ทำให้ได้สังคมที่ไม่แข็งแรงแต่ใหญ่จึงมีโอกาศเจอเพื่อนที่ดีครับ ในทางกลับกันก็มีโอกาศเจอเพื่อนที่ไม่ดี แต่ผลสรุปคือได้เพื่อนทุกคนครับ

ผมก็ไม่เห็นว่ามันจะเกี่ยวกับการทำงานยังไงนะครับ ผมอาจจะคิดไปเองคนเดียวก็ได้นะ

0
สิงห์ดำ 67 14 ส.ค. 57 เวลา 19:59 น. 70

มาสนับสนุนคห.52 อีกเสียง ก่อนหน้านี้เรามีความหลังที่ไม่ดีกับห้องเชียร์สมัยมัธยมมากเลยพาลมากลัวถึงม.ด้วย แต่พอได้เจอพี่ๆร้องเพลง พี่ประธานเชียร์ ทำให้เรารู้สึกว่าเอ้อ อาจจะไม่ใช่แบบนั้นนะ

วันแรกคือเมื่อวานที่เราเข้าห้องเชียร์สนุุกมากๆ การแสดงพี่ๆตลกมาก สอนร้องเพลงก็โอเค ไม่ว้าก มีแต่พูดเสียงดังซึ่งเราเข้าใจว่าด้านหลังไม่ได้ยิน (และบางทีเราตะโกนใส่เพื่อนยังดังกว่านี้5555) มีถามตลอดว่าไหวไหม เอาน้ำไหม ขนมไหม แล้วก็คอยพัดตลอดทั้งๆที่พี่ก็เหนื่อยไม่น้อย ไม่บังคับเข้า แต่บอกให้มา เรารักพี่มากอะบอกตรงๆ ตัดสินใจไม่ผิดที่เลือกคณะนี้ แต่วันนี้หนูปวดหัวเลยโดดเชียร์หนูขอโต๊ดดด TTT จะพยายามเข้าบ่อยๆน้าา รักรุ่นพี่ฝุดๆเบย ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะคะ

ปล. "น้องได้รุ่นตั้งแต่วันที่แอดติด....." ชอบประโยคทิ้งท้ายนี่ของพี่ที่สุดแล้ว

0
สิงห์ดำ 67 14 ส.ค. 57 เวลา 20:01 น. 72

*แต่บอกว่าอยากให้มาเยอะๆ .... พิมตกไปสิเนี่ยเดี๋ยวความหมายเปลี่ยน 5555

ปลล.โปสเตอร์ห้องเชียร์แซ่บมากกกกกก

0
littlemermaidza 14 ส.ค. 57 เวลา 20:01 น. 73

เฮ้ยชอบอ่ะ"แค่ที่บ้านกดดัน เราก็จะบ้าอยู่แล้ว" คือจริงๆแค่ที่บ้านก็มากพอแล้วล่ะ ฮ่าๆ

0
Negative 14 ส.ค. 57 เวลา 20:11 น. 74

ถ้าว๊าก ไม่ว่าจะความหมายของใครก็แล้วแต่ ต้องดูว่าเหตุผลที่เขาว๊ากใส่นั้นต้องการอะไร ถ้าเรารู้ว่าเราทำไม่ถูกกฏก็พร้อมที่จะแก้ไข แต่ถ้า ไม่มีเหตุผลที่เพียงพอหรือเหตุผลที่เรารับได้ (ไร้เหตุผล) ก็โต้ตอบกลับไป ไม่ว่าจะเป็น ว๊ากกลับบ้าง ปั่นหัวรุ่นพี่เล่นให้สติแตก ก็ถือว่า ไม่ผิด สำหรับเราที่ยึดหลักทางเหตุผลมากกว่าความรู้สึก

0
การเมืองมาไง 14 ส.ค. 57 เวลา 20:12 น. 75

'คณะ' นี่มันคือการเหมารวมรึเปล่าครับ
คนตอบเรียนจิตวิทยารึเปล่าคุณยังไม่รู้เลย แล้วคุณมาว่าเด็กคณะจิตวิทยาทำไม?

0
aoasy 14 ส.ค. 57 เวลา 20:16 น. 76

ก้แปลกดีเหมือนกัน เข้าไปเรียนเพื่อเป็นปัญญาชน แต่กลับใช้วิธี ถ่อยๆ วิธีไรสมอง ซะงั้น ระบบการศึกษาไทย ดิ่งลงทุกเรื่อง ดิ่งลงทุกวันๆ

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

นางฟ้าาาาา 14 ส.ค. 57 เวลา 20:23 น. 81

ใช่เลย แต่ถ้าคุยกับเด็กที่ไม่มีเหตุผล ใช้แต่ความรู้สึกต่อต้าน เราควรทำไง ค้าาา ดร. 5555 หนูจำวิธีพิมพ์ ดร. ได้ หุหุ

0
จุฬาาาา 14 ส.ค. 57 เวลา 20:25 น. 82

การว๊ากไม่ใช่ทางดีสุดก็จริง ขึ้นอยู่กับความสมเหตุสมผล และว๊ากก็ไม่ได้แย่ที่สุดเช่นกัน อย่าเพิ่งตัดสินเพียงแค่ว่าโดนกระทำเยี่ยงนี้ ดูผลตอนจบจะดีกว่าเปล่า ว่าผลลัพธ์คือเป็นอย่างไร เพราะการว๊ากไม่ได้มาตะคอกอย่างเดียวหรอก มันต้องมีการฝึกมาด้วยแหละ เราคิดว่าการว๊ากก็มีเหตุผลของมัน รอดูหลังจบห้องเชียร์ดีกว่าครับ และที่สำคัญอย่าอคติจนตาบอดเกินไปครับ


จากเด็กจุฬาฯ ที่ไม่รู้เรื่องห้องเชียร์ แต่แค่อยากบอกอีกแง่มุมหนึ่งด้วยครับ

0
child 14 ส.ค. 57 เวลา 20:25 น. 83

ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมเด็กสมัยนี้ถึงมีความอดทนต่ำ คห#56 ครับ ความอดทนไม่ได้ใช้กับสิ่งที่ไม่ดีอย่างเดียวเนอะ .... ต่อนะครับ เด็กยุคหลังมีการอ้างเสรีภาพ มากเสียจน บางทีสงสัยว่า น้องเข้าใจว่าว่าเสรีภาพว่าอย่างไร ,,,, ไม่พอใจออก ไม่พอใจเลิก ไม่พอใจหยุด /// ใช่ครับ คนเรามีสิทธิเลือก มีสิทธิตัดสินใจ แต่ถ้าน้องไม่เคยอดทนต่อสิ่งใด รักความสบาย มาเพื่อเรียนแล้วงอกงามเป็นปัญญาชนได้จริงๆ ก็ยินดีด้วยครับ น้องน่าจะไม่ใช่เด็กที่ จุฬาฯอยากได้ ถ้าอยากแค่เรียนเอาความรู้ สอบได้เกรด4 รับปริญญาเกียรตินิยมอันดับ 1 เหรียญทองคือที่สุดของชีวิต /// น้องล้มเหลวตั้งแต่คิดแล้วครับ /// ถ้าต้องการแบบนั้น เชิญจ้างครูมาสอนที่บ้านครับ

"เพราะจุฬาฯ ให้อะไรมากกว่าแค่วิชาความรู้ ที่ไม่ได้หาจากในตำราได้"

เชิญก้มหน้า อ่านหนังสือ และตั้งใจเรียนต่อไปครับ พ่อแม่คงภูมิใจ

0
child 14 ส.ค. 57 เวลา 20:26 น. 84

อะไรคือวิธีถ่อยๆหรอครับ ,,, ปัญญาชน ที่พูดจา กักขฬะแบบคุณ กรุณาชี้แจงให้คนชั้นต่ำอย่างผมเข้าใจด้วยครับ

0
Waravut Thampiban 14 ส.ค. 57 เวลา 20:30 น. 85

เอาเวลารับน้องไปเตรียมสแตท ระเบียบวิธีวิจัย spss ให้แม่นๆ คราวนี้เพื่อนก็จะวิ่งมาหาเอง

0
Kadomoko 14 ส.ค. 57 เวลา 20:30 น. 86

พี่เรียนจิตวิทยา จุฬาฯ ไม่เคยโดนว๊ากนะคะ
รุ่นที่ผ่านมา แอบดูอยู่ก็ไม่มีนะ
ไม่มีอะไรเฉียดคำว่า ว๊าก เลยอะ
น้องพอเล่ามาได้ไหมจ่ะ สถานการณ์ตอนนั้นเป็นยังไง
ว๊ากแบบไหนยังไงคะ

0
Negative 14 ส.ค. 57 เวลา 20:31 น. 87

ห้องเชียร์ที่ผมเข้าใจ มีไว้เพื่อ แชร์และสร้างสัมพันธ์ ระหว่างรุ่นพี่และรุ่นน้อง ก็เป็นสิ่งที่ดี แต่ก็ยังมีคนที่ไม่ชอบกิจกรรม ก็ควรจะถามเหตุผล ถ้าเขาให้เหตุุผลที่ดีเราควรจะรับฟัง ถ้าเหตุผลที่แย่เราควรจะให้เขาออกไป ถ้าให้เปรียบเทียบเรื่องการปกครองประเทศ เพื่อลดปัญหาการก่อกบฏ ครับ

0
พี่เชียร์ 14 ส.ค. 57 เวลา 20:34 น. 89

สำหรับผม นี่ไม่ใช่การแก้ปัญหาครับ มันก็แค่การเรียกร้องความสนใจ มันไม่เกิดอะไรขึ้นมาหรอกครับ คณะผมก็มีการเปลี่ยนแปลงไปเรียบร้อยแล้ว วิธีการของรุ่นพี่ผมไม่ขี้ขลาดแบบนี้ครับ

0
เมี๊ยว 14 ส.ค. 57 เวลา 20:35 น. 90

คุณลองไปพูดดีๆ ให้คนหมู่มากซัก 50+ คนฟังดูสิคับ

อย่าใช้ไมค์ ใช้โข่งนะ

แล้วคุณจะรู้ว่า วิธีนี้ แม่งถ่อยน้อยสุดแล้ว

ทั้งนี้ก้อขึ้นอยู่กับเหตุผลของการว๊าก
ถ้าน้องผิดจริง รับได้
ถ้าต้องการเรียกความสนใจน้อง รับได้

แต่ถ้าอยากว๊ากเอาเท่ ก็กลับไปนั่งเล่นเกมอยู่บ้านเถอะ

0
พี่บัณฑิตจิตวิทยา 14 ส.ค. 57 เวลา 20:40 น. 92

สำหรับตัวพี่นะค่ะ ก่อนอื่นพี่อยากถามน้องนิดนึงค่ะ ที่ว่ากลุ่มหัวโจกบางคนในห้องเชียร์เค้าบังคับให้เราทำโน่นนี่ เผด็จการ หรือริดรอนสิทธิเสรีภาพของน้องต่างๆนาๆตามที่กล่าวมานั้นคืออย่างไร? มันอยู่ในขอบเขตหรือกฏระเบียบของมหาวิทยาลัยรึป่าวค่ะ? เพราะพี่ค่อนข้างแน่ใจว่ากิจกรรมประชุมเชียร์ หรือห้องเชียร์ ที่หลายๆคนพูดกันนั้น ไม่ได้จะจัดขึ้นโดนกลุ่มคนเพียงไม่กี่คนที่จะเปนหัวโจก หรือกลุ่มคนที่อยากจะเข้ามาว๊ากๆน้องตามที่น้องเข้านะค่ะ แต่กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเปนโครงการที่จะต้องมีการนำเสนอผ่านคณะกรรมการนิสิต คณาจารย์ภายในคณะ รวมถึงทางมหาวิทยาลัย ในการจัดกิจกรรมดังกล่าวค่ะ ดังนั้นที่น้องกล่าวว่าคณาจารย์รวมถึงท่านคณบดีรับรู้หรือเห็นด้วยกับกิจกรรมนี้มั้ย? พี่ตอบได้เลยค่ะว่าท่านรับรู้และผ่านการอนุมัติก่อนค่ะถึงจะจัดกิจกรรม นิดนึงเนอะส่วนตัวพี่ พี่คิดว่าเหรียญมี 2 ด้านค่ะ มันอยู่ที่เราเลือกที่จะมอง ถ้าเราเลือกที่จะมองแต่ด้านลบ มันก็จะทำให้เราไม่เหนด้านดีของมัน ถูกของน้องค่ะที่ว่าการที่เรียนจิตวิทยาทำไมไม่ใช้การโน้มน้าว การจูงใจ ทำไมต้องว๊าก ทำไมต้องตะคอก แต่น้องลองย้อนดูรึป่าวว่าสิ่งที่พี่เค้าว๊ากนั้นมีวัตถุประสงค์อะไร? มีเหตุผลรึป่าว? หรือแค่ว๊ากไปเรื่อยไม่มีแก่นสาร วันนี้พี่อารมณ์ไม่ดีก็เลยเข้ามาว๊าก อย่างนั่นรึป่าวค่ะ? หรือมันมีเจตนาอื่นแฝงอยู่รึป่าว? วันนี้พี่ไม่ได้มาโพสต์เพื่อตำหนิหรือต่อว่าน้องนะค่ะ กลับกันพี่ชื่นชมน้องค่ะ ในฐานะของเด็ก gen y ที่มีความกล้าแสดงออก กล้าบอกในสิ่งที่ชอบไม่ชอบเนอะ แต่สิ่งนึงที่พี่อยากให้น้องตระหนักไว้นั่นก็คือเรื่องของวัฒนธรรมภายในคณะ (ซึ่งก็มีความแตกต่างกันในแต่ละคณะและมหาวิทยาลัย พี่ว่าเราจะเอามาเปรียบกันแบบความเห็นก่อนๆที่โพสต์ไม่ได้เนอะ) เพราะบางกิจกรรมเรากระทำและสืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น อาจมีการปรับเปลี่ยนบ้างตามยุคสมัย แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งวัตถุประสงค์หลักและเจตนาแฝงที่ตั้งใจจะให้นิสิตใหม่ได้รับ ซึ่งแน่นอนค่ะมันสามารถปรับเปลี่ยนและเปลี่ยนแปลงได้ แต่ถามว่าทำไมมันถึงยังคงมีกิจกรรมนี้อยู่หละ? ถ้ากิจกรรมนี้มันไม่ก็ให้เกิดประโยชน์ใดๆเลย ท้ายที่สุดนะคะ พี่เชื่อว่าน้องสามารถเลือกได้ค่ะ ว่าจะเข้าหรือไม่เข้าห้องเชียร์ ต่อไป แต่ถึงอย่างไรพี่อยากให้น้องลองสังเกตุความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นของเพื่อนๆในรุ่นดูค่ะ ว่ามันมีอะไรเปลี่ยนแปลงขึ้นมั้ย? มองด้วยใจที่เปิดรับ และใจที่เปนกลางค่ะ หวังว่าน้องจะเข้าใจถึงวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของกิจกรรมนี้นะค่ะ ^^

0
oooo 14 ส.ค. 57 เวลา 20:43 น. 94

จริงๆมันไม่ได้โหดเลยนะ ไม่มีคำหยาบไม่ได้ว้ากเราก้อยู่ในห้องเชียเหมือนกัน จริงๆคณะเรารักกันมากพี่ๆน่ารักทุกคนเลย เรื่องห้องเชียเราว่าที่ทำกันอะพี่ๆเค้าก้มีจุดประสงค์เค้าว่ามันก้ได้ผลนะแถมไม่ได้โหดอย่างที่ใครๆพูดด้วย เราขอให้ทุกคนมองคณะเราใหม่ด้วยนะคนที่ไม่ได้อยู่จริงๆคงไม่รู้หรอกว่าเป๋็นยังไง ถ้าน้องๆคนไหนที่อยากเข้าคณะจิตวิทยาที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแล้วยังกังวลว่าจะเป็นอย่างที่พูดกันมั้ยพี่แนะนำมาเข้าค่สยเจาะจิตดูเลยแล้วจะรู้ว่าคณะเราน่ารักมากแค่ไหน :D

0
Someone 14 ส.ค. 57 เวลา 20:45 น. 95

เราก็เป็นคนนึงที่เรียนจิตวิทยา ฬ 57 เข้าห้องเชียมาตั้งแต่วันแรก อยากบอกว่าไม่ได้มีการว๊ากอะไรทั้งนั้น ยิ่งคำหยาบคายก็ไม่เคยได้ยินจากากรุ่นพี่ มีก็แค่เสียงดังทำหน้าดุ แต่มันก็เป็นเพียงอีกอารมณ์หนึ่งในคณะที่เราควรจะเจอ เพราะชีวิตจริงเรายังต้องเจอเรื่องกดดันอีกมากมาย นี่คงเป็นเพียงบททดสอบอารมณ์ของเราในการเรียนจิตวิทยา

ที่ต้องมาแสดงความเห็นเพราะไม่อยากให้คนที่อยากเรียนจิตวิทยา ฬ ต้องคืดอะไรมากมายยย ที่นี่มีสิ่งดีๆรออยู่นะ ^^

0
คนนอก 14 ส.ค. 57 เวลา 20:52 น. 96

ไม่รู้ว่า จขกท พูดจริงหรือไม่จริง ไม่ขอพูดถึง

เเต่ประเด็นที่คุณสื่อมันไม่น่าอยู่จุฬาได้เลยนะครับ ตรรกะอนุบาลมาก
คือไม่เอาว้าก ไม่ได้หมายความว่าต้องคงเเก่เรียน เรียนอย่างเดียวไม่สนโลกนี่ครับ
คือเขาไม่เอาว้ากเเล้วเขาทำกิจกรรมอื่น งานเพื่อสังคม ออกค่าย งานบอล Aisec อะไรพวกนี้ไม่ได้หรือ?

ผมว่างานพวกนี้ก็ต้องใช้ความอดทน ใช้ทักษะการเข้ากับคนอื่นเหมือน เเละเท่าที่ผมรู้ หลายคนก็ทำกิจกรรมพวกนี้ได้ดี โดยไม่ต้องไปถูกลดทอนคุณค่าในห้องว้ากนี่ครับ



0
INT97 14 ส.ค. 57 เวลา 20:56 น. 98

คณะผมห้องเชียร์เปลี่ยนไปแล้วครับ ถึงผมจะไม่ได้เข้าห้องเชียร์ ผมเข้ามาที่คณะนี้หลังจากที่มันเปลี่ยนไปแล้ว แต่ทุกวันนี้ผมคือ พี่คนหนึ่งที่ช่วยกันสร้าง "งานรับน้อง" ที่เป็น "การรับน้อง" ตอนนี้คณะผม คนที่มาคิดงานนี้ ต่างไม่ชอบระบบว๊าก กดดัน ด่า น้องครับ พวกเราไม่ได้มานั่งปากดีหน้าจอคอม แต่พวกเราถูกรวมกันมา จากงานอื่นๆ พวกเราหลายคนมาจากเด็ก "โดดห้องเชียร์" พวกเราบางคนเป็น "เด็กห้องเชียร์" พวกเราร่วมกันสร้าง ห้องเชียร์ ที่มีเพื่อ สืบต่อ บางสิ่งให้แก่รุ่นน้อง

"งานรับน้อง" ของคณะผม ถูกเปลี่ยนโดยพี่ ๆ ที่กล้ารุก ขึ้นมาเปลี่ยน ไม่ใช่ พี่ ๆ ที่ดีแต่พิมพ์ประจาน

จขกท. กล้าที่จะเปลี่ยนหรือเปล่า ถ้าไม่กล้าคุณ ก็เดินออกมา แล้วใช้ชีวิตนิสิตของคุณไป ไม่ต้อง Discredit ครับ มันไม่ใช่การกระทำของ "ปัญญาชน"

การกระทำของ จขกท. ไม่ใช่แค่การ Discredit คณะครับ ในมุมมองบางคน เขาจะเหมารวมทั้งมหาวิทยาลัย

จากพี่คนหนึ่งในรั้วปราสาทแดง
จากพี่คนหนึ่งที่โดดห้องเชียร์
และจากพี่คนหนึ่งที่สร้างงานรับน้อง

0
Child 14 ส.ค. 57 เวลา 20:59 น. 99

ผมพูดถึงว๊ากหรอครับ?

คุณอ่านความเห็นที่ 56 หรือยังครับ ถ้ายัง ขออนุญาต อ้างอิง

"ทำให้เราถามตัวเองว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราพยามมาเพื่ออะไร
การเหมารวมไปเองว่า
นักศึกษาทุกคนต้องร่างกายแข็งแรงสุขภาพดี
รักกิจกรรม ชอบร้องเพลง ชอบกลับบ้านมืด ๆ ค่ำ ๆ
มันเป็นการเหมารวมที่ล้มเหลวพอ ๆ กับระบบการศึกษาของเรานั่นแหละค่ะ"

แบบนี้เข้าใจหรือยังครับ?? ... คุณ คนนอก?

0
วศ.56 14 ส.ค. 57 เวลา 21:03 น. 100

คณะผมเลิกไปแล้วครับ ทุกวันนี้ อย่าว่าแต่ว๊ากเลย แค่ให้ตีหน้านิ่งใส่น้องยังไม่มีเลยครับ

ผมคนหนึ่งหล่ะ ที่ทำแล้วเฮฮา บ้าบอคอแตกเลย

0
1234 14 ส.ค. 57 เวลา 21:03 น. 101

ผมเข้าใจ จขกท.นะครับผมก็ต่อต้านกับระบบรับน้องแบบนี้เหมือนกัน แต่เผอิญว่าคณะที่ผมอยู่ แม้จะเป็นว๊ากก็ดูไม่ว๊ากดูมีเหตุมีผลดีครับ แต่สิ่งที่ผมเกลียดที่สุด คือ การบอกว่า เข้าก็ได้ไม่บังคับ แต่!!!ไม่ได้รุ่น (ซึ่งอันนี้ผมดฝก็ไม่ค่อยแคร์ซะด้วยสิ555) และไม่ได้ของ (ไทด์/ติ๊ง และหัวเข็มขัดคณะ) 555ครับไม่บังคับเล้ยยย เป็นการบังคับทางอ้อมชัดๆ !!! ผมว่าอย่าพูดว่าไม่บังคับเลยครับ มันน่าเกลียดดด

0
Susu 14 ส.ค. 57 เวลา 21:06 น. 102

เปนนิสิต คณะนี้
พี่ไม่เคยเข้าห้องเชียร์ :)

พี่ยังมีเพื่อนสนิท อยู่
พี่ทำกิจกรรมที่พี่อยากทำ

อันไหนไม่อยากทำพี่ก็ไม่ทำค่ะ

น้อง ก็อย่าเครียดค่ะ อยากทำไรทำเลยค่ะ ถ้าไม่ได้เดือดร้อนใคร

ถ้าน้องไม่เข้าและเพื่อนข้างๆโดนทำโทษ อันนี้พี่ไม่มีความเห็นค่ะตั้งใจ

0
namecool36 14 ส.ค. 57 เวลา 21:06 น. 103
ถ้าจิตวิทยาคุณดีพอ คุณจะไม่เดือดร้อนอะไรกับการโดนว๊าก 
ถ้าระบบมันไม่ดีจิง มันไม่อยู่มาได้ถึงทุกวันนี้หรอก คนที่ยังไม่เคยผ่านจะไม่มีวันเข้าใจ ก้แค่ลองเปิดใจยอมรับแล้วผ่านมันไปให้ได้เหมือนกับคนอื่นๆ แล้ววันที่คุณผ่านมาได้คุณจะเข้าใจว่าทำไมระบบนี้มันถึงยังอยู่ได้ แล้วสักวันคุณจะภูมิใจที่คุณเคยโดนว๊าก
#เข้ามหาลัยทั้งทีมัวแต่ปิดหูปิดตาอยู่แต่กับความคิดตัวเองไม่ลองอะไรใหม่บ้างมันดูไม่ค่อยฉลาดเลยนะ

ฬ 54
0
เราอาจเคยพบกัน 14 ส.ค. 57 เวลา 21:10 น. 104

ขอแนะนำว่าถ้ารู้สึกไม่ชอบ ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมกิจกรรมก็ได้นะ
เราเคยอยู่ในสถานะเดียวกับคุณ และเคยแอบมีความคิดคล้ายๆกับคุณ
เราก็เป็นอีกคน ที่ 'กิจกรรมห้องเชียร์' ไม่เหมาะกับนิสัยส่วนตัวของเราเท่าไหร่
เราเคยมีความคิดว่าทำไมถึงต้องมีกิจกรรมแบบนี้
ช่างแย่จริงๆ เราจะล้มล้างมันได้ไหม?

แต่เมื่อเวลาผ่านไป สิ่งที่เราเรียนรู้คือ มันไม่ใช่เรื่องของความผิด ความถูก

บนโลกนี้ จะมีคนอยู่สองประเภทเสมอ

คนประเภทที่ชอบสีเขียว
และคนประเภทที่ไม่ชอบสีเขียว

ถามว่าคนที่ไม่ชอบสีเขียว ผิดไหม?
ก็ไม่ผิด การไม่ชอบสีเขียว ไม่ได้ขัดหลักจริยธรรมอะไร
เพราะมันเป็นเรื่องของความชอบส่วนตัว ไม่มีถูกผิด

กิจกรรมห้องเชียร์ก็เหมือนกัน

สาเหตุที่กิจกรรมนี้ยังคงมีอยู่ เป็นเพราะยังมีคนที่เขา 'ชอบ' กิจกรรมนี้อยู่จริงๆ
มีบางคนที่ต้องการจะให้จัดกิจกรรมนี้ขึ้น บางคนที่มีทัศนะคติไม่เหมือนเรา
และถามว่าการที่เขาชอบกิจกรรมห้องเชียร์ ผิดไหม? ก็ไม่ผิด

เราไปล้มล้างกิจกรรมนั้นไม่ได้หรอกนะ เพราะมีคนที่เขารัก และเต็มใจจะเข้าร่วมมันด้วยใจจริง บางทีเขาเหล่านั้นอาจจะเห็นคุณค่าอะไรบางอย่างจากกิจกรรม ที่คนอย่างเราเองก็ไม่อาจเห็นได้ด้วยตนเองเหมือนกัน นี่คือสิ่งนึงที่พวกเราต้องยอมรับ มันเป็นเรื่องของมุมมอง แล้วพวกเรามีสิทธิ์อะไรจะไปบอกว่ากิจกรรมนั้นผิดหรือถูกล่ะ ในเมื่อมันมีคนที่ชอบกิจกรรมนี้อยู่จริงๆ

เราเชื่อว่าทุกปี จะมีคนที่แบบคุณ แบบเรา แบบที่ไม่ชอบกิจกรรมประเภทนี้ แล้วถามว่าพวกเราผิดเหรอ ที่ไม่ชอบกิจกรรมนี้ ผิดเหรอที่เราจะไม่ชอบสีเขียว? เราก็ตอบได้ว่าพวกเราไม่ผิด

เราเชื่อว่าตอนนี้คงจะมีผู้เกี่ยวข้องมากมายกำลังเข้ามาส่องดู ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ต้องยอมรับว่ากิจกรรมประเภทที่ใช้ความกดดันเป็นเครื่องมือ คือกิจกรรมที่ค่อนข้างสองแง่สองง่าม และหากเราเรียนจิตวิทยา ก็คงจะรู้ว่ามนุษย์เรามันไม่ได้มีแบบเดียว ไม่ได้มีคนบุคลิกเดียว คิดแบบเดียวกัน

ชีวิตมนุษย์ไม่ได้ทำงานแบบนั้น คนบางคน ก็มีบุคลิกบางอย่าง ที่ทำให้รู้สึกอ่อนไหวต่อการลุกร้ำเสรีภาพมากเป็นพิเศษ คนบางคนอาจจะมีเรื่องเครียดที่บ้านมากพอแล้ว และไม่อยากจะรับมันเพิ่มอีกโดยไม่จำเป็น เด็กๆปีหนึ่งแต่ละคนที่นั่งหน้าใสๆ ยิ้มให้เรา ไม่มีทางรู้เลยว่าลึกลงไปข้างใน เด็กคนนั้นผ่านอะไรมาบ้าง เขาอาจจะมีเหตุผลอะไรบางอย่าง ที่ต้องการจะปฎิเสธกิจกรรมในครั้งนี้ หรือบางที เขาอาจจะแค่ไม่ต้องการถูกปฎิบัติด้วยวิธีนั้น

ถ้าอย่างนั้นบทสรุปของเรื่องนี้คืออะไร?

คือการที่คนที่ชอบสีเขียว จะต้องไม่บังคับให้คนอื่นมาชอบตาม
และคนที่ไม่ชอบสีเขียว ก็ไม่ต้องไปพยายามลบล้างสีนั้นออกไปจากโลก

ทางออกคือการเคารพในสิทธิซึ่งกันและกัน ถึงแม้เราคิดต่าง แต่เราจะไม่พยายามยัดเยียดความคิดนั้นใส่คนอื่น นั่นเเหละคือสิ่งที่ดีที่สุดที่เราจะทำได้

ถึงน้อง จขกท คนที่ตั้งกระทู้
หากน้องรู้สึกไม่ชอบกิจกรรมนี้ น้องก็ไม่ต้องเข้า เพียงแต่อยากให้น้องแน่ใจก่อนว่าน้องไม่ได้มีอคติอะไรกับกิจกรรมนี้ พี่อยากให้น้องเข้าใจถึงธรรมชาติของกิจกรรมให้ดีก่อน เรียนรู้มันให้ดี แล้วถ้าน้องเข้าใจมันดีแล้ว แต่ยังพบว่ามันยังไม่ใช่ทางของตัวเองอยู่ดี ก็ถอยตัวออกมา

ถ้ากังวลว่า น้องจะโดนแบนไหม? จะมีรุ่นพี่แบนไหม?
คำแนะนำเล็กๆน้อยๆที่พอจะให้ได้คือ ไม่มีใครบ้าถึงขนาดแอนตี้คนไม่ได้เข้า
ขอแค่น้องเป็นคนนิสัยดี เข้ากับเพื่อนได้ น้องก็จะมีเพื่อนเอง อันนี้รับประกัน

แต่จะมีเรื่องแย่ๆในรูปแบบอื่นๆ เกิดขึ้นกับน้องหรือเปล่า?
อันนี้เราก็ตอบไม่ได้ มันคือสิ่งที่น้องต้องเผชิญเอง
หากน้องกล้าที่จะเลือกเส้นทางนั้นๆ น้องก็จะต้องยอมเสี่ยงรับผลที่จะตามมา


บอกได้เลยตรงนี้ว่า ต่อให้คนทั้งโลกพยายามบอกให้น้องเข้าห้องเชียร์
แต่ความจริงก็คือ สิทธิในการเลือกทำกิจกรรม ยังอยู่ที่น้องเสมอ
น้องโตขนาดเข้ามหาลัยแล้ว ก็ต้องคิดเองได้ว่าจะเลือกทำอะไร ไม่ทำอะไร

เพราะนี้คือส่วนหนึ่งของการเป็นผู้ใหญ่

เราจะต้องพบกับตัวเลือกที่ไม่น่าพึงพอใจอยู่เสมอ
และไม่ว่าจะเป็นเส้นทางไหน ก็มีแต่สิ่งเลวร้ายรอเราอยู่ทั้งนั้น
การโตเป็นผู้ใหญ่ คือการต้องเลือกเส้นทางนั้น แล้วยอมรับผลที่ตามมา

นี่คือเรื่องของจุดยืน ตอนนี้ไม่มีเทวดาที่ไหนจะพาน้องไปสู่ความสุขได้

น้องต้องเลือกกระทำเอาเอง ไม่ว่าเลือกที่จะอยู่ หรือเลือกที่จะไป
พึงละลึกไว้เสมอว่านั่นคือตัวเลือกของเรา
สิ่งที่เกิดขึ้นตามมา คือสิ่งที่เราพร้อมยอมใจที่จะรับมัน

เมื่อไหร่ที่น้องผ่านตรงนี้ไปได้ น้องจะย้อนมองกลับมาได้อย่างผู้ใหญ่ขึ้น
และบางทีถ้อยคำรุนแรงที่ได้ใช้ไปในกระทู้นี้
อาจกลายเป็นเรื่องที่น้องขำตัวเองที่เป็นเดือดเป็นร้อนอะไรได้มากขนาดนี้
คำบางคำที่น้องใช้เต็มไปด้วยอคติ และการเหมารวม ทำลายภาพลักษณ์คนที่ไม่รู้เรื่องด้วย
เราแสดงจุดยืนได้ แต่เป็นไปด้วยเหตุผล
และต้องแน่ใจว่าอาวุธที่เราใช้คือปืน ที่ยิงนัดเดียวแล้วเข้าเป้า
ไม่ใช่ระเบิดมือ ที่นอกจากจะทำร้ายฝ่ายตรงข้าม อาจยังทำร้ายคนบริสุทธิ์ที่ไม่รู้เรื่องอีกด้วย

ขอให้น้องโชคดี
และมีความสุขกับสิ่งที่เลือก

0
ชวัลณัฐ 14 ส.ค. 57 เวลา 21:10 น. 106

จิตวิทยา คือ ศาสตร์ที่ศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมมนุษย์ มีวัตถุประสงค์เพื่อเข้าใจ อธิบาย ทำนาย และควบคุม ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมมนุษย์ ในความคิดเห็นส่วนตัว กิจกรรมที่จัดกระทำต่อมนุษย์ และมีวัตถุประสงค์ของกิจกรรมเป็นวัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม สมควรได้รับการวิเคราะห์ ออกแบบกิจกรรม อย่างมืออาชีพ เพราะคณะจิตวิทยาเป็นคณะที่เชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะ จึงควรสร้างกิจกรรมที่มีประสิทธิภาพสูง สอดคล้องกับกระแสโลก หลีกเลี่ยงผลกระทบทางลบ รวมถึงให้ความสำคัญกับการสื่อสารกับผู้มีส่วนได้เสียให้ครบถ้วน สำหรับประเด็นนี้ควรถกกันบนเหตุผล หลักวิชาการ ข้อมูลเชิงประจักษ์ น่าจะดีที่สุดครับ

0
เฮ้อ 14 ส.ค. 57 เวลา 21:17 น. 109

เป็นเด็ก จิตวิทยา ฬ 57 เหมือนกันครับ อยากมายืนยันว่า พี่ๆที่ห้องเชียร์ ไม่มีการว้ากอะไรทั้งสิ้น ก็แค่สอนน้องร้องเพลง ผมว่าที่นี่เบามากเลยนะครับ โอ๋น้องตลอดสะด้วยซ้ำ มีน้ำ มียา คอยดูแลเทคน้องๆตลอด
ก็นะ.. เจอกระทู้นี้ก็งงกันไปทั้งคณะเลยทีเดียว คุณเป็นใครครับ มาตั้งด่า เน้นสถาบัน เน้นคณะอย่างงี้ทำไม เอาการว้ากน้องที่เป็นกระแสอยู่มาอ้าง เก่งดีนะครับ

0
จิตวิทยา57 14 ส.ค. 57 เวลา 21:33 น. 111

เราก็อยู่จิตวิทยา ฬ 57นะ
ตอนแรกเราก็ไม่เข้าใจนะ ทำไมพี่ต้องทำท่าทางดุๆด้วย เราก็ถามพี่ที่ดูแลแถวเรา พี่เค้าก็ให้เหตุผลว่า ที่พี่ต้องทำดุๆ เพราะอยากให้น้องรู้ว่า พี่ๆตั้งใจกับกิจกรรมนี้ กิจกรรมนี้ไม่ใช่กิจกรรมเล้่่นๆ แล้วพี่ๆก็อยากให้พวกเราตั้งใจแบบนั้นเหมือนกัน เราเลยเข้าใจพี่ๆแล้ว
ปล.ห้องเชียร์คณะเราไม่มีว๊ากใดๆทั้งสิ้น พี่ๆสอนเพลงก็น่ารัก พี่ๆที่ดูแลแถวก็ใจดี ถามน้องตลอดว่าไหวไหม ไม่ไหวบอกพี่นะ คอยดูแลทุกอย่างเป็นอย่างดี พี่ๆประธานเชียร์ก็ยังบอกเลย ถ้าไม่ไหวให้ยกมือ (แค่ทำหน้าดุๆเฉยๆ 555) แต่เราว่าพี่ทุกคนก็เป็นห่วงและดูแลน้องอย่างดีมาก
ปล1. ที่บอกว่ามันเปลี่ยนนิสัยใครไม่ได้อ่ะ เราไม่รู้นะว่าจริไหม แต่สำหรับเรา เราว่ามันฝึกความอดทนเราได้มากเลย 5555
ปล2. เราเข้าใจว่า แต่ละคนทนแรงกดดันไม่ไหวนะ แต่เราคิดว่า ถ้าคุณเลือกมาเรียนจิตวิทยาแล้ว แค่นี้คุณทนรับแรงกดดันไม่ไหว แล้ววันหน้าคุณจะให้คำปรึกษากับคนที่เค้ามีเรื่องเครียดมากๆได้ยังไง

0
สอง 05 14 ส.ค. 57 เวลา 21:38 น. 112

1) คนเดียวก็จะสู้ ก็โวยในห้องเชียร์เลยค่ะ ไม่ต้องมาเขียนโวยวาย (ย่อหน้าท้ายๆกลับเรียกร้องให้คนอื่นร่วมมือด้วย ย้อนแย้งจริงๆ)

2) ไม่ชอบก็ไม่ต้องเข้า เท่านั้นเอง ไม่บ้านบึ้ม ไม่สอบตก ไม่ตาย ไม่มีใครด่า ไม่มีใครจะตามล่าอะไรน้องเพราะน้องไม่เข้าห้องเชียร์หรอกค่ะ (แต่อาจจะมีอยากเห็นหน้า ว่าเด็กอะไร นักเลงคีย์บอร์ดจริงๆ)

3) คนที่เค้าโตแล้ว เค้าพูดกันตรงๆต่อหน้า ให้รู้ไปเลย ว่าไม่ชอบ บอกเหตุผลกันไป -ที่มาพิมพ์ๆโวยวาย ปิดบังตัวตนแบบนี้นี่มันเด็กเอาแต่ใจ นิสัยเด็กเห่อ- ทุกคนมีสิทธิและเสรีภาพที่จะแสดงออกซึ่งความคิดเห็นแต่กล้าแสดงออก ก็กล้ารับผลด้วย เท่านั้นแหละ



0
ว๊ากกกกกกทำไม 14 ส.ค. 57 เวลา 21:40 น. 113

จุดประสงค์ของการรับน้องคืออะไร ?
ประโยชน์ที่ได้ มันได้จริงไหม ?ข้อเสียที่เกิดขึ้นมันมีไหม ? อะไรเป็นตัวบ่งชี้ ?
จำเป็นไหมที่ต้องทำตามรุ่นก่อนๆ โดยไม่ทำอะไรใหม่ๆเลย ?

พี่ว๊ากตอบได้ไหม.

0
เอ สุพัชราสัย 14 ส.ค. 57 เวลา 21:41 น. 114
ตกใจ เอิ่มมมมหาลัยเรารับ 6 วัน ยังไม่บ่นเลยโดนว๊ากทุกวัน แค่นี้คุณรับไม่ได้ถ้าโตไปคุณทำงานโดนด่ด่าจะทนได้หรอ แค่นี้รับไม่ได้ก็ไปขายก๊วยเตี๊ยวไป !!!
0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

รุ่นพี่คนหนึ่ง 14 ส.ค. 57 เวลา 21:46 น. 116

เป็นธรรมดาค่ะที่การเข้าห้องเชียร์จะทำให้น้องรู้สึกไม่ดีพี่ก็เคยรูสึก แต่พี่มองว่าวิธีการที่น้องมาโพสท์ในสื่อสังคมออนไลน์แบบนี้พี่ว่ามันไม่ใช่วิธีการที่เหมาะสมนะคะ ถามว่าโพสท์แล้วห้องเชียร์ล่ม? หรือโพสท์แล้วน้องจะไม่ต้องเข้าห้องเชียร์? มันเป็นวิธีการที่แก้ปัญหาถูกจุดแล้วจริงๆหรือ?(ลองกลับไปพิจารณาดูนะคะ)......แต่ถ้าทำแล้วน้องรู้สึกสบายใจ ปลอดโปร่งก็ไม่ว่ากันค่ะ แต่ถ้าทำเพื่อหวังสะใจพี่ว่าน้องลองกลับไปทบทวนสักนิดก็ดีนะคะ

โลกออนไลน์มันเหมือนดาบสองคมค่ะ (น่าจะเข้าใจความหมายนะคะ)
พี่ว่าก่อนที่จะตำหนิหรือประจานอะไรดีกว่าควรเพิ่มวิจารณญาณและไตร่ตรองให้รอบคอบอย่างมีสติก่อนนะคะ อย่างมีวิจารณญาณ รู้จักกาละเทศะนะคะ

พี่ไม่สนใจและไม่ตามหรอกนะคะว่าน้องเป็นใคร มันไม่ใช่สิ่งสำคัญในชีวิตขนาดนั้น (ฝากถึงเด็กจิตวิทยารุ่นอื่นๆด้วยนะคะ ซึ่งพี่ว่าจริงๆคงไม่มีใครไล่ล่าหรอกค่ะ)

ส่วนที่ว่าผิดหวัง บลาๆ แล้วตัดสินคณะนี้ว่าไม่โอเคอันนี้ก็แล้วแต่น้องค่ะ ยังมีอีกหลายเส้นทางให้เลือกเดินนะคะ โลกนี้มันกว้างถ้าเราแคบเราก็ไม่มีทางรู้จักโลกกว้างหรอกนะพี่ว่า แต่ไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหนก็ตามสิ่งสำคัญที่ต้องมีคือ ความอดทน อดกลั้น และการมองโลกให้รอบด้านค่ะ

เราทุกคนมีหน้าที่ ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดนะคะ
อ้อ ลืมบอก พี่เรียนจบจากคณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยทุกวันนี้ชีวิตพี่อยู่ดีมีสุข ทำงานที่ดีมาก สังคมยอมรับในความสามารถและชื่นชมในสิ่งที่พี่ได้รับการขัดเกลามาจากคณะจิตวิทยาค่ะ

ชีวิตจริงยิ่งกว่าห้องเชียร์ค่ะ
ที่พูดมาทั้งหมดนี้ก็ด้วยความหวังดีนะค

0
เด็กรักจิตวิทยา 14 ส.ค. 57 เวลา 22:04 น. 118

จริงๆ จขกท จะคิดแบบนั้นก็ไม่ผิดหรอก คุณมีสิทธิ์ที่จะคิดได้ แต่คุณอย่าลืมนะว่าบางสิ่งบางอย่างมันมีเหตุผลในตัวของมัน คุณต้องมองถึงจุดประสงค์ของเค้าด้วยนะ ถ้าเคัาทำแล้วเกิดแต่ผลเสียเค้าจะทำเพื่ออะไร ส่วนต่วเราว่ามันไม่ได้เรียกว่าการว้ากนะ เค้าก็แค่อยากให้เราอยู่ในกฎในระเบียบ คนเราเกิดมาครั้งนึงมันก็ควรเจอแต่อะไรหลายๆด้านนะ ไม่ใช่เจอแต่สิ่งที่สวยหรู เจอแต่สิ่งที่สบายๆ ไม่มีอะไรมากดดันเราในชีวิต #คณะเรารักกันมาก ถึงบางคนยังไม่เคยคุย ไม่รู้จักชื่อ แต่เราสัมผัสได้เลยว่าคณะนี้รักกันจริงๆ เป็นบ้านเล็กๆที่อบอุ่น และพี่ๆก็เทคแคร์น้องๆดีมากมากมากด้วยยย

0
คนไม่เห็นด้วย 14 ส.ค. 57 เวลา 22:05 น. 119

มันเป็นการไซโค..
.ในอีกรูปแบบหนึ่ง.
...เจ้าของกระทู้คงไม่ได้เรียนที่จุฬาแน่นอน ไม่ทราบว่าคุณต้องการอะไร เอ่ยชื่อสถาบันและคณะแบบนี้มันไม่แฟร์นะน้อง ที่เค้าทำกันมาที่ผ่านมาสองสามวันนี้ ไม่มีแบบนั้นแน่นอน....แฟร์ๆกันหน่อย สถาบันใครๆ ก้อรักนะฮับ

0
madcap 14 ส.ค. 57 เวลา 22:05 น. 120

ขอโทษนะครับเป็นอธิการ หรือรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาเหรอ ถึงเป็นก็ไม่มีสิทธิมาพูดแบบนี้นะครับ อีกอย่างเค้าไม่ได้ขอเงินคุณมาจ่ายค่าเทม? ไม่ทราบว่าใช้สมองส่วนไหนคิดประโยคพวกนี้ หรือแค่ว่าอะไรที่หลวมปากอยากพูดก็ได้?

0
EvaaRatta 14 ส.ค. 57 เวลา 22:07 น. 121

"จะเรียนจิตวิทยาไปทำไม ถ้าไม่พยายามทำความเข้าใจสาเหตุของพฤติกรรมมนุษย์"

พี่แนะนำให้น้องลองปรับมุมมองเกี่ยวกับกิจกรรมดูค่ะ ตอนนี้น้องอาจจะยังมีอคติจากการฟังใครๆ เล่ามา  กิจกรรมทุกกิจกรรมย่อมมีเหตุผลและข้อคิดค่ะ เพียงแต่ตอนนี้กิจกรรมนั้นยังดำเนินมาไม่ถึงช่วงที่น้องจะเห็นผล ถ้าเวลาผ่านไปพี่เชื่อว่าน้องจะเห็นข้อดีของมันค่ะ :)  ถ้ากิจกรรมนี้ไม่มีข้อดีอยู่เลย มันคงไม่มีมาจนถึงทุกวันนี้หรอกเนอะ

ส่วนเรื่องความรุนแรง พี่เชื่อว่ามันไม่มีทางรุนแรงจนไปก้าวก่ายสิทธิมนุษยชนแ่นอนค่ะ ทุกกิจกรรมอยู่ภายใต้การรับรู้และควบคุมของอาจารย์  อาจารย์ไม่มีทางปล่อยให้เกิดอันตรายต่อนิสิตแน่นอนค่ะ ((เว้นแต่พวกกิจกรรมนอกสถานที่ ที่ใครพาไปโดยไม่มีอาจารย์รับรอง อันนั้นน้องไม่จำเป็นต้องเข้าก็ได้ค่ะ))

หรือถ้าน้องไม่สะดวกใจจริงๆ ไม่ต้องเข้าก็ได้นะคะ  ยังไงน้องก็เรียนจบเหมือนกัน 

0
kokuzen_chaar 14 ส.ค. 57 เวลา 22:13 น. 123

ดีแหะ กระทู้นี่ทำให้เราเปิดหูเปิดตา

เราเชื่อประโยคที่ว่า "มีควันย่อมมีไฟ" มาตลอดเลยนะ
แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว

ถ้าหากมีควัน อาจจะมีหรือไม่มีไฟก็ได้ เพราะว่าอาจจะเกิดจากดรายไอซ์
ตึ่ง โป๊ะ! 

ไม่ฮารบกวนข้ามไป ขอบพระคุณค่ะ 55555555555

จริงจังและๆ ตามที่เราบอกเลย 
ในสมัยนี้มีควันไม่จำเป็นต้องมีไฟเสมอไป
เพราะมนุษย์เราสามารถสังเคราะห์มันขึ้นมาได้แล้ว.......

ปล.พี่น่ารักมาก น้ำขนมพร้อมตลอด พัดตลอด 24 ชม.#เว่อร์ไป
(ตอนทำกิจกรรมอื่นนะ พวกรับน้องไรงี้ ) 
ปปล.พี่น่ารักมากจริงๆ ฝ่ายสวัสดิการถามตลอดเลย 
ไหวมั้ยน้อง ไม่ไหวบอกนะ โอเครึเปล่า
ถ้าเป็นพี่วินัยจะบอก(ตะโกน)ว่า
ไม่ไหวบอกนะคะ!  ไม่ต้องฝืน!//ทำเสียงโหด
ดูเพื่อนข้างๆด้วย! ไม่ไหวยกมือบอกพี่ไลน์!

ถึงพี่จะมาสายโหด หนูก็รับรู้ได้ถึงความห่วงใยนะคะ จุ้บบบบ

รักพี่ทุกคนเบย เย้

จากเด็กรหัสนิสิตลงท้าย 38 //นี่บอกรหัสเลยนะ 5555555555


0
child 14 ส.ค. 57 เวลา 22:17 น. 124

ลองเสนอซิครับ อะไรที่ว่าดี ยินดีรับฟังครับ

จุดประสงค์ของการรับน้องแต่ละมหาวิทยาลัยคงไม่ต่างกัน ตรงที่ต้องการให้น้องที่เข้าใหม่ ซึ่งมีทั้ง เด็กกทม และ ตจว ไม่รู้สึกอ้างว้าง การมีกิจกรรมร่วมกัน ทำให้รู้จักกันไวขึ้น

ประโยชน์ที่ได้ ยืนยันว่าจริง น้องรู้จักกัน รู้จักพี่มากขึ้น สนิทกันไว

ข้อเสียก็มีอยู่แล้ว ตัวอย่างเช่น น้องบางคนอาจจะไม่ชอบ เกิดการต่อต้าน

ตัวบ่งชี้ของความสำเร็จ ลองถามจากน้องๆโดยการสุ่มครับ ซึ่งกรณีนี้ เกิน 50% จากกลุ่มตัวอย่าง ถือว่ายอมรับได้

ไม่จำเปนต้องทำตามรุ่นก่อนครับ ยินดีรับข้อเสนอที่ดีกว่า

"อะไรที่น้องคิดว่าดีกว่า ว่ามาเลยครับ"

ขอข้อดี ข้อเสีย และตัวชี้วัดแบบที่น้องถามด้วยนะครับ เพื่อประกอบการพิจารณา

0
ลูกมีจิต 14 ส.ค. 57 เวลา 22:19 น. 125

ถอดใจตั้งแต่เริ่มต้น...ไม่สมควรตั้งแต่เริ่มเดินเข้ามาในรั้วจามจุรีแล้วม้าง...-น้อง....ปอดแหก...มือขวาถือปรินยา..มือซ้ายยย..ถือประสบการกิจกรรมดีๆๆ..ณ.ที่แห่งนี้ นะเห้ย....ซิ่วปายยยถาบันอื่นมี

0
MinHa 14 ส.ค. 57 เวลา 22:22 น. 126

ในฐานะที่ผ่านทั้งรับน้องและทำห้องเชียร์
(แต่ไม่ใช่จิตวิทยา จุฬา หรอก)
บอกเลยว่า

มันเป็นเกมจิตวิทยา

ในฐานะรุ่นน้อง ตอนที่โดนรับน้อง
โดนรุ่นพี่ด่าก็ช่างปะไร
แต่เพื่อนโดนทำโทษแทนดันดราม่าน้ำตาแตก
พอผ่านเรื่องร้ายๆ(ที่ไม่ควรจะมี)มากับเพื่อน
มันทำให้หลายคนสนิทกันมากขึ้น
ขณะเดียวกันก็รู้สันดานคนบางคนอย่างรวดเร็วด้วย
มันเป็นข้อดีที่ได้มา แม้จะตามไม่คุ้มกับข้อเสียก็ตมที


ในฐานะรุ่นพี่ ที่กลายเป็นคนรับ
ไม่โกรธหรอกถ้าจะมีบางคนไม่เข้า
ไม่โกรธหรอกถ้าจะสไตรค์โดดห้องเชียร์กันหมด
ไม่โกรธหรอกถ้าจะทำตามคำสั่งไม่ได้
เพราะตอนเป็นรุ่นน้องก็ทำ 555

รุ่นพี่ก็แค่เล่นเกมจิตวิทยากับรุ่นน้อง
เพื่อสอนอะไรบางอย่างเท่านั้นเอง
รุ่นพี่คนไหนงี่เง่าทำโทษน้องไม่มีเหตุผล
ก็โดนด่าเอาทีหลังเหมือนกันแหละ

ทำห้องเชียร์ให้ดี ไม่ง่าย
ทำไม่ดี น้องไม่รักกัน แตกแยกกัน
ถือว่ารุ่นพี่ทำห้องเชียร์ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง

น้องอยากล้มห้องเชียร์ก็ได้ ถึงรุ่นน้องก็ล้มมันไปซะ
แต่ถ้าไม่กล้าพอจะหยุดทำ
มันก็จะยังคงอยู่ต่อไปตราบนานเท่านาน

แต่ขอร้องอย่างเดียว ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีห้องเชียร์
รักกันมากๆ เห็นความสำคัญของคณะตัวเองให้มากๆ
ถ้าทำได้ ห้องเชียร์ก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป ^^



0
1234 14 ส.ค. 57 เวลา 22:22 น. 128

ในฐานะพี่คณะอักษรฯ พี่ขอบอกว่าห้องเชียร์น่ะ พี่ๆ ตั้งใจทำ ประชุมกันมามากมายเพื่อให้กิจกรรมมีความหมายต่อน้องๆ อย่างเต็มที่ (ปีพี่ และรุ่นพี่ของพี่ไม่มีพี่ว้าก มีแต่พี่ระเบียบ และพอหมดช่วงระเบียบ พี่ก็ใจดีสุดๆ ป้อนขนม ป้อนน้ำตลอดเวลา) แต่ถึงพี่ๆ จะตั้งใจแค่ไหน พี่ๆ ก็จะไม่บังคับให้น้องมาเข้าห้องเชียร์เด็ดขาด ผู้หลักผู้ใหญ่ในคณะก็บอกเลยว่าแม้ห้องเชียร์จะมีประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยมาก (มีการแนะนำกิจกรรมต่างๆ ในรอบปี แนะนำบทบาทหน้าที่ของเฟรชชี่ มีพี่เก่ามาเสวนาเรื่องชีวิตในจุฬาฯ ฯลฯ) แต่การเข้าห้องเชียร์เป็นสิทธิของนิสิต จะเข้าหรือไม่เข้าก็ได้ ไม่มีใครมาบังคับได้ เพราะนี่ไม่ใช่กิจกรรมบังคับของมหาวิทยาลัย

พี่เองก็เข้าบ้างไม่เข้าบ้างนะห้องเชียร์อ่ะ... คือรู้สึกดีทุกครั้งที่เข้าน่ะแหละ แต่ว่าบางวันขี้เกียจก็โดดไปเดินสยามซะงั้น ซึ่งก็ไม่เป็นไร ไม่ได้มีใครมาด่า มาว่าอะไร ชิลๆ กันไป รุ่นพี่กับเพื่อนๆ ก็รักกันดี

ส่วนตัวนะคะน้อง พี่มองว่าถ้าน้องเห็นว่าสิ่งนี้ไม่สำคัญ ก็ปล่อยมันไปค่ะ ไม่มีห้องเชียร์ ไม่มีรุ่น ไม่มีสายรหัส ก็ช่างมัน หัวใจของคณะจิตวิทยาไม่ใช่คนพวกนี้ แต่คือองค์ความรู้ทางจิตวิทยาที่อาจารย์พร้อมจะถ่ายทอดให้น้องอยู่

ถ้าน้องจะผิดหวังกับรุ่นพี่และเพื่อนๆ ในคณะเพราะเขาคุกคามสวัสดิภาพของน้อง ก็เป็นสิทธิ์ของน้องค่ะ แต่ถ้าน้องยังไม่ได้เริ่มเรียน และพิจารณาว่าความรู้ที่อาจารย์สอนน้อง น้องนำไปใช้ในชีวิตประจำวันและใช้ประกอบอาชีพได้จริงไหม น้องอย่าเพิ่งบอกว่าผิดหวังกับคณะเลยค่ะ เพราะน้องอาจจะตัดสิน "คณะ" เร็วเกินไปจนพลาดโอกาสดีๆ อีกหลายอย่างก็ได้

0
3456 14 ส.ค. 57 เวลา 22:24 น. 129

อาชีพที่ไม่มีคนด่า คนว้ากทุกวันก็มีนะคะ

ขอแนะนำให้ลองหาทำดูซักอาชีพ แล้วจะทราบว่าพี่ว้ากไม่ได้ตระเตรียมอะไรสำหรับอนาคตเลย - -

0
ไม้ตรี 14 ส.ค. 57 เวลา 22:28 น. 130

เราเชื่อว่าต่างคนต่างความคิด ต่างคนต่างมีเหตุผลและความรู้สึกที่ต่างกัน สิ่งที่แสดงออกมาเลยไม่เหมือนกัน
ถ้าคุณอยู่ psyche CU 13 จริงคุณก็คือเพื่อนของเรา เราเข้าใจว่าคุณไม่ชอบ คุณเหนื่อย คุณไม่เห็นด้วย
แต่เราก็เชื่อว่าคุณรักที่นี่เท่าๆกับเรา
ดังนั้น ขอถามว่ามันดีแล้วหรือที่คุณตั้งกระทู้ทำร้ายตัวเองแบบนี้
กระทู้นี้มันสร้างความเปลี่ยนแปลงที่คุณต้องการได้จริงๆหรือ?

ขอบคุณครับถ้ายอมอ่านโพสต์ของเรา

0
พี่่กากๆคนหนึ่ง 14 ส.ค. 57 เวลา 22:39 น. 131

คิดจะเปลี่ยนนู่นเปลี่ยนนี่ ไอนู่นไม่ดีอย่างั้นอย่างงี้
แต่ตัวเองกลับไม่ลงมือทำอะไรเลย สุดท้ายก็ไร้ค่า
ลงมือทำเลยครับ ไม่มีใครว่าหรอกครับ พี่ๆพร้อมรับฟังเสมอ
ไหนๆก็จะสู้แล้ว เอาให้เต็มที่ครับ อย่าปล่อยให้มันคาใจ
ถ้ายังไม่พร้อม ในปีที่เราเป็นรุ่นพี่ค่อยลงมือทำก็ได้ครับ


ยิ้มฟันขาว



0
เด็กจิต 14 ส.ค. 57 เวลา 22:40 น. 132

ขำหวะ บอกเป็นคนในคณะแต่ไม่กล้เปิดเผยตัว ก้พูดกันดีๆตรงๆดิวะ
เหตุ ผล คนมีสมองก้น่าจะเข้าใจกัน
ก้เข้าใจว่ามันมีทั้งบวกและลบ พาลคณะ พาลสถาบัน
มันไม่ถูก!

0
นักจิตวิทยากล่าวว่า 14 ส.ค. 57 เวลา 22:44 น. 134

ฝากถึงรุ่นพี่...

❝ มีคนจำนวนหนึ่งที่ยังเข้าใจคำจำกัดความของจิตวิทยาผิดๆ คิดว่าจิตวิทยา คือศาสตร์ในการครองใจคน ศาสตร์ในการเอาชนะใจคนอื่น และมักใช้คำว่า "ไซโค" เป็นคำแทนการใช้จิตวิทยาในความหมายที่จะพยายามจูงใจหรือหลอกล่อให้ผู้อื่นคล้อยตาม และยอมตามความต้องการของตน ทั้งหมดนี้ไม่ใช่จุดประสงค์ที่เราเรียนจิตวิทยา

เพราะแท้จริงแล้วนั้น จิตวิทยา (psychology) เป็นศาสตร์ที่ศึกษาพฤติกรรมของมนุษย์เพื่อเข้าใจ ในสาเหตุของพฤติกรรม ในอันที่จะช่วยพยากรณ์และควบคุมพฤติกรรม ผู้ศึกษาจิตวิทยาจึงต้องมีจรรยาบรรณ ไม่หลอกล่อ หรือกระทำการเพื่อเอาประโยชน์ส่วนตน แต่จะเป็นการศึกษาและการนำไปใช้เพื่อประโยชน์ของมนุษย์ทุกคนและสังคมทุกระดับ ❞

— รศ.สิริอร วิชชาวุธ

0
เฟรชชี่ 14 ส.ค. 57 เวลา 22:48 น. 135

เราเองก็เป็น1ในคณะจิตวิทยาปี57 เราไม่ใช่พวกเด็กกิจกรรมที่จะมาชอบนั่งทำกิจกรรมทุกอย่าง แต่นับตั้งแต่มีการเปิดห้องเชียร์ครั้งแรกเมื่อวันที่13กับวันนี้อีกวันคือ14เราเข้าห้องเชียร์ทั้ง2ครั้ง เราขอรับร้องว่าพี่ไม่ได้ว๊าก พี่ที่ดูดุๆก็จะมีแต่พี่ประธานเชียร์ นอกนั้นก็เทคแคร์ดูแลน้องดีมาก ขนาดเราแบบแค่ไอพี่แถวยังรีบวิ่งมาถามว่าเป็นอะไรไหม ไหวหรือเปล่า เอาอะไรมั้ย แล้ววิ่งไปหายามาให้ทั้งๆที่เราบอกไม่เป็นไร เราเองก็ไม่ชอบให้ใครมากดดันนะ แต่แบบ แค่นี้ที่เจอเราถือว่ามันเล็กน้อยมากอ่ะ คือพี่ก็ไม่ได้บังคับว่าต้องเข้า แต่ไปไหนก็ให้บอกพี่แถว เราออกจะเป็นคนที่ร้องไห้ง่ายด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่เราเจอมาทั้ง2วัน มันไม่ได้กดดันเราขนาดนั้นเลย ไม่ว่าเจ้าของกระทู้จะเป็นใคร เราอยากบอกไว้ว่า ถ้าคุณรักที่จะเข้ามาเรียนจิตวิทยา จุฬา จริงๆคุณก็ไม่ควรมาทำลายชื่อเสียงของคณะและสถาบันด้วยการกระทำแบบนี้

0
เลือดน้ำเงิน 14 ส.ค. 57 เวลา 22:49 น. 136

5555 ตลกกว่า
คือ ณ ขณะนี้ใครมันจะกล้าเปิดเผยฟะ เรื่องแดงขนาดนี้แล้ว

ไม่งั้นมันโวยกลางห้องเขียร์ละ ไม่มาแอบตั้งกระทู้ในเว็บเด็กเกรียน เอ้ย เด็กเลว เอ้ยเด็กดี (ถูกแล้ว)

เหอ ๆ ๆ

เอิ่ม...

0
annie 14 ส.ค. 57 เวลา 22:52 น. 137

"ต้องการให้น้องที่เข้าใหม่ ซึ่งมีทั้ง เด็กกทม และ ตจว ไม่รู้สึกอ้างว้าง การมีกิจกรรมร่วมกัน ทำให้รู้จักกันไวขึ้น"

เป็นไปได้ไหมครับ ที่เราจะจัดกิจกรรมรูปแบบอื่น ที่ให้ผลแบบเดียกัน ทำให้รุ่นน้องรัก สามัคคีกัน รู้จักกันได้เร็วขึ้น แต่ไม่ต้องใช้ความกดดันเป็นตัวแปร ไม่ต้องทำให้เกิดข้อพิพาทระหว่างกัน

ผมว่าการจะที่คนเราจะรู้จักกัน มันไม่ต้องทำผ่านกิจกรรม คนเรามันรู้จักกันได้อยู่แล้ว เราผ่านช่วง อนุบาล 1 ป.1 ม1 มาโดยไม่จำเป็นต้องให้ครูประจำชั้นทำกิจกรรมเพื่อเด็กรู้จักกัน

ความทำพันธ์ของมนุษย์ไม่ได้ทำงานแบบนั้น เราบังคับให้มันเกิดได้ แต่จะบังไปทำไม ในเมื่อมันก็เกิดขึ้นได้ในตัวของมันเองอยู่แล้ว

ฉะนั้นถ้าเราเลือกที่จะทำกิจกรรม อยากให้ใช้กิจกรรมที่ทำให้รุ่นน้องเกิดความสบายใจในการเข้าร่วม จะสร้าง mission อะไรก็ได้ให้น้องทำร่วมกัน มอบหมายงานใหญ่ๆ อย่างให้เด็กปีหนึ่งช่วยกันคิดละครเวทีที่ส่งเสริมความรักในสถาบันก็ได้ เรียนรู้กันผ่านการทำงานของแต่ละคน แบบนี้ก็สร้างสรรค์ไปอีกแบบ

พูดตรงๆ การให้เด็กมาก้มหน้า นั่งเป็นแถว เป็นไลน์ ไม่ได้มีปฎิสัมพันธ์กันเลย แบบนี้อาจจะรู้จักกันได้ แต่มันยังไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุด

0
บังเอิญผ่านมา 14 ส.ค. 57 เวลา 22:58 น. 138

ไม่มีอะไรมากหรอก สังเกตุดูจากเพื่อนที่เป็นพี่ว้าก ร้อยทั้งร้อย พ่อแม่พวกมันไม่เคยเรียนมหาลัยทั้งนั้น ดังนั้นพวกนี้มันจะภูมิใจมาก คิดว่าเข้ามหาลัยแล้วเหนือกว่าคนทั่วไป การเรียนมหาลัยคือการยกระดับสถานะสังคมของครอบครัวพวกมัน เชิดหน้าชูคอว่าคณะกูเริ่ด เกียรติภูมิห่าเหวอะไรบ้าบอที่ไม่มีอยู่จริงเอามาแขวนคอให้หนักเล่นๆ

ตะโกนแหกปากสั่งสอนชาวบ้านเรื่องความอดทนในการทำงานทั้งที่ยังขอเงินพ่อแม่กิน สุขสบายมีเวลาว่างมาทำกิจกรรมไร้สาระ ขณะที่น้องบางคนทำงานพิเศษหาเงินงกๆ


ความหน้าด้าน ต้องยกให้พี่ว้ากจริงๆ เรื่องการตะโกนแหกปากใส่กันนี่ไม่ได้เห็นประโยชน์อะไรมาก นอกจากจะทำให้รู้ถึงกำพืดครอบครัวจัณฑาลของพวกมัน ว่าอบรมเลี้ยงดูกันมาอย่างไร ไม่รู้จักกิริยาที่ผู้มีความประพฤติดีพึงปฏิบัติ หรือที่บ้านพวกมันเป็นพวกชั้นต่ำตะโกนแหกปากคุยกัยเป็นปกติ

เก่งอยู่แต่ในรู ออกไปนอกกะลามหาลัยไปลองแหกปากเป็นผีเปรตแบบนี้ดูสิ
บอกเลยคนพวกนี้จบไปทำงานมีปัญหา เป็นผู้น้อยก็ดีแต่เลีย เป็นหัวหน้าก็ดีแต่วางอำนาจ

อ้อแต่ที่นี่เมืองไทย ดักดานทำงานไทยสไตล์กันต่อไปก็ดี

0
น้าเด็ด คูกิมิคะ 14 ส.ค. 57 เวลา 22:59 น. 139

มีหลักฐาน งานวิจัยอะไรเอามายืนยันได้ว่าการผ่านห้องเชียร์ ช่วยเพิ่มความอดทนต่อความกดดันในการทำงาน มีบอกไว้เป็นลายลักษณ์อักษรหรือเปล่า?

ถ้าคุณสามารถหางนวิจัยว่ารับรองได้ว่า บุคคลที่ผ่านนกิจกรรมห้องเชียร์ อดทนขึ้น คิดเป็นกี่เปอร์เซ็นๆ คำพูดของคุณก็จะน่าเชื่อถือนะ

0
psycholoo...gy 14 ส.ค. 57 เวลา 23:01 น. 141

ผมเดกจิต57 ผมอยุ่ตลอดนะ พี่เค้าว้ากกตอนไหนหว่า ผมว่าผมไม่ได้เผลอหลับนะ - - มีแต่ทำหน้าดุๆ และก้สอนมารยาท สอนให้เราเปนระเบียบ
ผมว่ามันก้หนุกอะ แต่ปวดตรีนนิดหน่อย
ปล.แค่มายืนยันว่ามันชิวนะไม่ได้เลวร้าย พี่ๆสอนร้องเพลงก้ใจดี นะ

0
คิดได้แค่นี้ 14 ส.ค. 57 เวลา 23:11 น. 143

ขอโทษนะครับ ไม่ได้สนใจเรื่องนู่นนี่นั่นเท่าไหร่

**แต่ไม่ชอบให้ใครมาพาดพิงชื่อสถาบัน**
ถ้า..
ผิดหวังมากก็ออก ไม่พอใจก็ซิ่วไป
อยากเปลี่ยนอะไรก็ลงมือ ไม่อยากก็ทนไป

ผมไม่ได้เรียนจิตวิทยานะครับ แต่อยู่จุฬาเหมือนกัน
ไม่ต้องถามว่าคิดได้แค่นี้หรอ หรือความอดทนต่ำหรอ
ขกเถียง ก็ตอบไปตามตรงเฉยๆ

ไม่ได้คิดนู่นนี่นั่นมากมาย
ถ้าไม่ชอบก็ไปบอกพี่เค้า ไม่อยากเข้าก็ไม่ต้องเข้า จบนะ

0
ironcross 14 ส.ค. 57 เวลา 23:16 น. 145

นายแน่มากครับ ถ้าเป็นผมคงพยายามทำใจให้โล่งปล่อยให้ผ่านไป หรือไม่ก็โดดมันซะ

0
เพลีย 14 ส.ค. 57 เวลา 23:23 น. 146

" อย่าให้ถึงมือรุ่นพี่เลยเหอะ เราอ่ะรุ่นเดียวกันยังโกดขนาดนี้เลย "

นี่ความคิดนิสิตจุฬาจริงรึเปล่า ทำไมต่ำตมขนาดนี้ ออกมาประจานตัวเอง ดีเหมือนกัน

0
คนนอก 14 ส.ค. 57 เวลา 23:26 น. 147

คุณเคยมีความรักไหม รักเพื่อนแบบร่วมทุกร่วมสุขอะค่ะคุณคิดไหมว่าการทำแบบนี้มันทำให้คุณมีเพื่อนใหม่ๆที่มิตรภาพแบบแน่นแฟ้นโดยไม่ต้องเอาเงินมาซื้อคำว่าเพื่อนอ่ะค่ะ แล้วคุณมาเรียนจิตวิทยาทำไมหรอคะคุณต้องการอะไร?ความรู้ใช่ไหม (รักษาตัวเองหรือป่าวคะ) เข้าใจนะคะว่าคุณยังไม่ได้เรียน เพราะการกระทำมันส่อให้เห็นถึงคุณต้องจบออกมาแล้วเป็นนักจิตวิทยาที่แย่มากๆเลยคนนึงเพราะคุณเองยังมองเรื่องแค่นี้ไม่ออกเลยว่าเขาต้องการให้พวกคุณรู้สึกอย่างไรจากการที่ทางคณะทำแบบนี้ เห็นชัดๆว่าคุณไม่มีความอดทน จำลองเหตุการณ์นะคะคุณจบมาเป็นนักจิตวิทยากำลังทำงาน มีคนไข้มา เขาเป็นคนที่หงุดหงิดง่ายอารมณ์ฉุนเฉียวมาก คุณถามเขาว่า บลา า า า เขาตะคอกคุณกับมาคุณจะทำยังไงคะ คุณจะโมโหเขาทำตัวเป็นคนมีปัญญาและไม่มีคนคบแล้วมาแชร์ให้คนอื่นเขาเสียหายเล่นแบบนี้อีกหรือป่าวคะ ถ้าคุณอดทนไม่ได้แนะนำเรียนคณะอื่นแล้วไปทำอะไรที่ใช้เสียงเบาๆอ่ะค่ะ จะได้ไม่กระทบรูหูของคุณค่ะ



คนนอกกกกก..

0
เพลีย 14 ส.ค. 57 เวลา 23:27 น. 148

ดัดจริตมาพูดว่า
"เพราะจุฬาฯ ให้อะไรมากกว่าแค่วิชาความรู้ ที่ไม่ได้หาจากในตำราได้"

ตัวเองมีอะไรดี ยกตัวมาอ้างชื่อสถาบัน
เด็กน่ะเค้ามีความคิดว่าอะไรควรทนไม่ควรทน
เจอรุ่นพี่ตรรกะป่วยๆก็ไม่แปลกหรอกที่เค้าจะไม่ทน
เค้าสูงส่งและมีปัญญากว่ามาก ที่จะมาทำกิจกรรมแบบนี้
หรือปฏิสัมพันธ์กับคนที่ความคิดแบบนี้ บาย

0
oppo 14 ส.ค. 57 เวลา 23:29 น. 149

คือ ผมว่าคณะนี้ก็ให้อิสระพอควรนะครับ ไม่เข้าก็ได้ หลายคนก็ไม่ได้เข้า

ปล. จะเล่าให้ฟังว่า ตอนเป็นนิสิตเจอพี่ว๊าก ผมเดินเข้าไปหา แกล้งถามชื่อ ชวนคุยนู่นนี่นั่น แกก็หลุดมาดเอง

ไม่ต้องห่วงครับ เค้าใช้จิตวิทยาได้ เราก็ใช้ได้ จริงไหม อย่าคิดมากครับ มันก็แบบนี้ ไม่มีใครใจร้ายจริงๆหรอก (ถ้าเป็นคนใจร้ายจริงๆ ก็ไม่เห็นต้องแคร์ เพราะคนเหล่านี้ ไม่มีใครเอาอยู่แล้ว จริงป่ะ)

0
ฬ ต้องคอยถาม 14 ส.ค. 57 เวลา 23:30 น. 150

เราจะคงสิ่งนึงไว้ เพียงเพราะมัน 'ไม่ได้แย่ที่สุด' ไม่ได้
การเป็นนิสิต นักศึกษา คือการคอยหาคำตอบ พัฒนา มองหาสิ่งที่ดีที่สุดเสมอ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เราต้องรับผิดชอบความรู้สึกของรุ่นน้อง

ถ้ามันจะมีวิธีที่ดีกว่า ที่ไม่ทำให้ใครเกิดความรู้สึกไม่ดี

เราจะคงสิ่งเก่าไว้ทำไม?

0
เพลีย 14 ส.ค. 57 เวลา 23:30 น. 152

แล้วพี่ลองมองย้อนดูที่ตัวเองทำมั้ยคะ ว่าทำไมเด็กถึงไม่เห็นจุดประสงค์ที่แท้จริงของงาน หรือเป็นเพราะว่าจุดประสงค์กับวิธีการมันกลวงโบ๋อยู่แล้ว มาอ้างว่าสืบทอดนั่นนี่ มันก็คือการแถนั่นแหละ จุดประสงค์ดีแต่วิธีการผิด แล้วยังดักดานไม่รับความคิดเห็นก็โอเค้...

0
เบื่อพวกป่วยๆ 14 ส.ค. 57 เวลา 23:36 น. 153

การที่เค้าวิพากษ์วิจารณ์เป็นทั้งสิทธิ์และสิ่งทีควรรับฟัง
หรือฟังได้แต่คำชม คำติฟังไม่ได้???
การที่เค้ายังไม่ได้ลุกขึ้นมาเปลี่ยน ไม่ได้แปลว่าเค้าไม่มีปัญญา
คนเราแตกต่างกัน เรียนมาเยอะน่าจะรู้

นี่น่ะเหรอปัญญาชน

0
เด็กจุฬา 14 ส.ค. 57 เวลา 23:38 น. 154

ผมก็อยู่จุฬานะ แต่ตรรกกะของคุณ child เพี้ยนไปรึเปล่า คนเราไมชอบว้ากนี่จำเป็นต้องเรียนอย่างเดียวหรอ อย่างผมผมก็ทำกิจกรรมตลอดนะ ค่ายอาสาบลาๆๆ แต่ผมไม่ชอบการว้ากแบบนี้ผมเป็นเด็กคงแก่เรียนรึเปล่า จุฬาให้อะไรมากกว่าวิชาความรู้ ผมคิดว่าผมตีโจทย์ตรงนี้แตกกว่าคุรนะ ผมทำประโยชน์เพื่อสังคมมากกว่าจะมาว้ากน้องให้่น้องรู้สึกแบบนี้

0
หวังดีสุดๆ 14 ส.ค. 57 เวลา 23:40 น. 155

มีความเป็นไปได้ว่า เขาไม่ได้เข้าห้องเชียร์ แต่ คิดไปเองว่าห้องเชียร์ที่ได้ยินมาเป็นสิ่งที่เลวร้าย เลยไม่กล้าเข้า และพอได้รับข้อมูลมากเกินไป ก็หาที่ระบาย ในระหว่างพิมพ์ก็ใส่สีเติมไข่ เรียบร้อย เพราะกลัวการเข้าห้องเชียร์ นั่นเอง

ผมคิดว่า ปัญหาสำหรับเด็ก(ที่โตแต่ตัว) คงไม่มีความซับซ้อนมากมายนอกจากใช้ความรู้สึกของตัวเอง และ ข้อมูลที่ไร้แก่นสาร มาสร้างเรื่องครับ


0
child 14 ส.ค. 57 เวลา 23:42 น. 157

ไม่จำเปนต้องทำตามรุ่นก่อนครับ ยินดีรับข้อเสนอที่ดีกว่า

"อะไรที่น้องคิดว่าดีกว่า ว่ามาเลยครับ"

ขอข้อดี ข้อเสีย และตัวชี้วัดแบบที่น้องถามด้วยนะครับ เพื่อประกอบการพิจารณา

0
เด็กจุฬา 54 14 ส.ค. 57 เวลา 23:43 น. 158

อยากจะบอกว่า.. ถ้าคุณอยู่จบห้องเชียร์คุณจะเสียใจมากๆที่มาโพสแบบนี้ เราเคยคิดแบบคุณมาแล้ว เคยด่ารุ่นพี่แรงกว่านี้ให้พ่อแม่พี่น้องฟังตอนปีหนึ่งมาแล้ว แต่พอจบห้องเชียร์บอกเลยคิดผิดมากและสารภาพเลยว่ารักพี่ว๊ากมากกว่ารุ่นพี่คนอื่นๆซะอีก

0
คนนอกออกใน 14 ส.ค. 57 เวลา 23:43 น. 159

คุณยกตัวอย่าง กรณีเปรียบเทียบได้ไม่สมจริงนะครับ

ในเวลาทำงาน หากผู้ป่วยแสดงอาการก้าวร้าวใส่ เรามีหน้าที่เข้าใจ อาการของเขา แล้วรักษาไปตามขั้นตอน หากผู้ป่วยเกิดอาการคุ้มคลั่ง จะทำร้ายเรา เราก็มีสิทธิป้องกันตัว อีกทั้งการบำบัดผู้อื่น เราอยู่ในฐานะผู้ที่ทำสัญญากับผู้ป่วยไว้แล้วว่าเราจะรักษาเขาให้หายให้ได้ ผู้ป่วยเองก็ยินยอมจะให้หมอรักษาตั้งแต่แรก

การที่ผู้ป่วยจะเกิดอาการก้าวร้าว ก็เป็นเพราะเขาป่วย ไม่ใช่จงใจเเกล้งทำ

แต่กิจกรรมห้องเชียร์ คือการเข้าไปพบกับความกดดันที่เราไม่ไดเป็นผู้เลือก และพี่ระเบียบก็ไม่ใช่คนไข้ เรารักษาเขาไม่ได้ แต่เขาจงใจสร้างความกดดันให้เรา และจงใจที่จะไม่ให้เราเข้าใจเขา

ความอดทนของคนเรา เกิดขึ้นได้ ถ้ามันเป็นเรื่องสมเหตุสมผล

การอดทนกับคนไข้ สมเหตุสมผล เพราะเขาป่วย และมันเป็นงานของเรา
การอดทนกับพี่ระเบียบ ไม่สมเหตุสมผล เพราะเขาปกติดี และไม่ใช่หน้าที่ ที่เราต้องมาทน

0
child 14 ส.ค. 57 เวลา 23:46 น. 160

คุณคงเป็นตัวอย่างที่พ่อแม่ไม่เรียนมหาวิทยาลัยสินะครับ เอ๊ะ หรือไร้การศึกษา เลยไม่มีปัญญาสั่งสอนคุณให้มีความคิดที่จรรโลงโลก พูดจาดีกว่านี้

อย่าไปอ้างอิงถึงบุพการีเลยครับ เพราะผมคิดว่า ที่ผมพูดไป คุณก็คงไม่พอใจ

1
MMMM 14 ส.ค. 57 เวลา 23:53 น. 161

โดยส่วนตัวไม่ชอบระบบนี้ เข้าใจว่าที่นี่ไม่ว๊าก ไม่โหด ไม่รุนแรงเท่ามหาลัยอื่นๆนะ พี่อยูคณะนี้เข้าห้องเชียร์มา แต่ค่อนข้างทำตัวมีปัญหากับระบบนี้ตอนปีสอง -- พี่ไม่รู้หรอกว่าน้องจขกท เปนใครเพราะหลังจากปีสองไม่เคยยุ่งอะไรกับกิจกรรมคณะอีก
ถ้ารู้สึกไม่ไหวน้องก็ถอนตัวออกมาแต่ตอนนี้ หรืออยากลองดูต่อไปเผื่อจะเข้าใจอะไรๆก้ตามแต่ที่พี่ๆเขาอยากให้เรารักกันเข้าใจกัน ซึ่งบอกตรงๆว่าถ้าอนาคตน้องไม่เหนด้วยกับระบบเพื่อนส่วนใหญ่ก้ไม่ยอมรับน้องกันหรอก อารมว่าไม่มีที่ยืนในคณะ เปนนิสิตคนหนึ่งที่เรียนๆแล้วก็กลับบ้าน อาจมีเพื่อนบางส่วนที่เข้าใจ แต่พวก sotus จ๋าๆ จะไม่มีวันเข้าใจน้องและแบนน้องไปซะ

0
Winditup 14 ส.ค. 57 เวลา 23:54 น. 162

ก็เพราะถ้าอยู่จบ พวกพี่ระเบียบก็จะเฉลยตัวตน ทำท่าทางตลกๆปลอบใจเราไง
เหมือนตบหัวแล้วลูบหลังน่ะ

รู้ไหม คนเรามีแนวโน้มที่จะรู้สึกดีกับคนที่เคยร้ายกับเรามาก่อน แล้วมาดีกับเราทีหลัง
มากกว่าคนที่ดีกับคุณมาตั้งแต่แรกเสียอีก

ถ้าเรียนจิตวิทยามาจริง น่าจะคุ้นๆกับเรื่องนี้นะ

0
Ka3o_0 14 ส.ค. 57 เวลา 23:55 น. 163
อยากถามหนูคนโพสจังว่าหนูมั่นใจว่าหนูรู้เรื่องจิตวิทยาดีขนาดไหนครับ ถึงมั่นใจว่าสมมติฐานของตนต้องถูกต้อง พี่เองเรียนจบปริญญาตรีมา แม้จะได้แค่เกียรตินิยมอันดับ 2 ที่ 3.41 พี่ยังไม่กล้าตอบว่า พี่มั่นใจว่ารู้จักจิตวิทยาดีพอเลย เพราะอะไรรู้ไหมครับ 4 ปีที่พี่เรียนมา หลักการข้อหนึ่งที่อาจารย์พร่ำสอนคือ อย่าด่วนสรุปอะไรง่าย อย่าคิดเองเออเอง ต้องศึกษาค้นคว้าให้แตกฉาน ต้องทดลองทำจนได้คำตอบเดิมซ้ำๆ มันถึงจะเรียกได้ว่ามี Reliability ไงครับ 
อันนี้น้องคงไม่น่าจะได้ลองทำมันจนสุดเนาะ เลยอาจจะไม่รู้ว่ามันดี หรือไม่ดียังไง 
สิ่งหนึ่งที่พี่อยากบอกคือ อาจารย์ นักวิชาการ และคนที่ฉลาดๆ บนโลกใบนี้อีกหลายคนเค้าก็ผ่านระบบตรงนี้มานะ ไม่คิดบ้างหรอครับ ว่าถ้ามันไม่ดีเอาเลย เค้าจะปล่อยให้มันอยู่มาจะเป็นร้อยปีนี่หรอ ?#‎ฝากเอาไว้ในรอยหยักของเธอ? 
โลกมันไม่มีขาว หรือดำหรอกลูก ทุกอย่างมีเทาๆเจือๆปนๆกันไปหมด อย่าด่วนสรุป อย่ามโนเอง อย่าเชื่อในสิ่งที่เค้าพูดๆมา แม้ว่าคนพูดจะน่าเชื่อถือก็ตาม
เยี่ยม
0
ABCD 14 ส.ค. 57 เวลา 23:59 น. 164

ไม่ชอบก็ไม่ต้องเข้าครับ ถ้าเป็นปัญหาก็อย่าบ่นที พี่ๆเค้าก็ไม่ได้จัดห้องเชียร์กันง่ายๆ เค้าก็ลำบาก ไม่ได้สบาย จะมาบ่นทำไมครับ ไม่อยากอยู่ก็ลาออกสิค้าบ ไม่ได้มาขอให้เข้านิ

0
white_violet 15 ส.ค. 57 เวลา 00:06 น. 166

มันซีเรียสขนาดนั้นเลยเหรอคะ 
จริงๆการว้ากมันเป็นอะไรที่ดูมีสีสันในชีวิตปีหนึ่งดีนะเราว่า
พอจบห้องเชียร์พี่เค้าจะออกมาบอกเหตุผลว่าทำไมเค้าถึงทำอย่างนั้น
ตัวจริงพี่เค้านี่ อย่างฮาอ่ะจ้ะ
มันเป็นระบบ SOTUS (ถ้าว้ากจริงน่ะนะ หลายคนบอกว่ามันไม่ใช่อ่ะ)
แต่พี่เค้าไม่ได้ใช้คำหยาบคายด้วยนะ (สุภาพมาก)
คือ ถ้าทนไม่ได้ก็ไม่ต้องเข้าก็ได้เหอะ

แต่สิ่งที่เราได้รับมาคือเพื่อนร่วมรุ่นอ่ะ
พอจบห้องเชียร์ก็รู้จักกับพี่หลายคน เพราะการบ้านขอลายเซน
สุดท้่าย ไม่รู้สิ คนเราคงไม่เหมือนกัน ถ้าทนความกดดันนี้ไม่ได้ก็ไม่ค้องเข้า
จริงๆพี่เค้าทำอะไรเราไม่ได้นะ เค้าไม่ใช่คนออกเกรดเรานิ
แต่ก็ พลาดอ่ะ จบนะ


0
kkkkkkkk 15 ส.ค. 57 เวลา 00:16 น. 167

การที่มีคนออกมาพิมพ์อะไรโดยไม่มีหลักฐานกลายเป็นฮีโร่ แล้วการที่มีคนมาโต้แย้ง เรียกร้องหาหลักฐานกลับกลายเป็นคำว่าล่าแม่มด ผมว่าแบบนี้มันไม่แฟร์สักเท่าไหร่

ส่วนน้องที่ออกมาพิมพ์ ผมก็ขอให้ระวังข้อความนิดนึง อารมณ์โกรธทำให้คุณกลายเป็นผู้แพ้ในการถกเถียง และยิ่งคนที่มองคุณกำลังมีอดติกับคำว่าห้องเชียร์อยู่แล้วด้วย สถานการณ์อาจยิ่งแย่ไปใหญ่

จากคนที่ไม่ได้เรียนจิตวิทยา

0
เฟรชชี่ 15 ส.ค. 57 เวลา 00:19 น. 168

คือเราก็ไม่ได้จะว่าเจ้าของกระทู้อะไรมากหรอกนะ คือแบบว่าเราว่าถ้ามีอะไรอ่ะควรจะคุยกับรุ่นพี่ดีกว่านะ คือการมาโพสต์ในที่สาธารณะแบบนี้อ่ะไม่ไม่ดี เราก็เข้าใจนะว่าคนเรามันต่างจิตต่างใจ ความอดทนของแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน แต่เราอยากให้คุยกับเพื่อนกับพี่ก่อนมากกว่า เพื่อนหลายคนก็พร้อมให้คำแนะนำนะเพราะคณะเราอ่ะคนที่ซิ่วมาก็มีหลายคน คือเพื่อนกลุ่มนี้อ่ะเขาจะเข้าใจมาก่อนเรา เราเองก็เคยร้องไห้กลัวไม่ค่อยอยากเข้าเหมือนกัน แต่เพื่อนก็มาคุยกับเราว่าเออมันเป็นแบบนี้เพราะอะไร พี่เขาทำไปทำไม เขาเคยเจออะไรมาบ้าง เราจึงอยากให้เขาคุยกับเพื่อนกับพี่ก่อนมากกว่าอ่ะ

0
CU 56 15 ส.ค. 57 เวลา 00:21 น. 169

พี่ชอบความคิดเห็นน้องนะคะ
พี่ก็เป็นคนนึงที่ไม่ชอบห้องเชียร์
พี่รู้สึกว่ามันไม่ได้อะไร มันน่าเบื่อ และพี่ก็ไม่อยากร่วม
พี่เคยว่าห้องเชียร์สารพัด

แต่.... พอมาวันนึงเพื่อนสนิทพี่เป็นพี่เชียร์
มันทำให้พี่มองห้องเชียร์เปลี่ยนไป

น้องรู้มั้ย ว่ากว่าจะเป็นห้องเชียร์ ต้องผ่านอะไรมาบ้าง
น้องรู้มั้ย ว่าพี่เชียร์ทุกคนเตรียมตัวกันมานานขนาดไหน
น้องรู้มั้ย ว่าตารางกิจกรรมห้องเชียร์ในแต่ละวัน กว่าจะจัด
ออกมาได้ พี่เค้าใช้เวลาแพลนงานเท่าไหร่
น้องรู้มั้ย ว่าการที่พี่เชียร์ไปพูดนู่นนี่นั่นในห้องเชียร์เค้าฝึกกันมาลำบากขนาดไหน

ในคณะที่น้องๆว่าห้องเชียร์ว่าแย่อย่างนู้น ไม่ดีอย่างนี้
น้องรู้มั้ยว่า พี่เชียร์ทุกคนเสียน้ำตาไปกับมันมากขนาดไหน

ถ้าน้องคิดว่าน้องกลับดึกแล้ว พี่ๆเชียร์ทุกคนกลับดึกกว่าน้องมากค่ะ

พี่อยากให้น้องมองในมุมพี่เชียร์บ้างนะ
พวกเค้าทุกคนตั้งใจเตรียมงานกันมาหลายเดือน
สละเวลามาเตรียมห้องเชียร์ให้น้องๆทุกคน
ซึ่งพวกพี่เค้าก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย

พี่เคยถามเพื่อนนะน้อง ว่าจะทำไปทำไม ทำไปก็เหนื่อยเปล่า เสียทั้งแรง, เวลา, น้ำตา ไหนน้องจะไม่ชอบแกอีก

เพื่อนพี่ตอบว่าอะไรรู้มั้ยน้อง มันบอกว่า ถึงแม้น้องจะว่า จะไม่ชอบ แต่แค่มีน้องคนเดียวชอบ มีความสุขกะห้องเชียร์ มันก็ดีใจ และมีกำลังใจในการทำงานต่อแล้ว

ลองเปิดใจดูนะคะ :)

จากเพื่อนสนิทพี่เชียร์ ที่ทนเห็นเพื่อนต้องร้องไห้เพราะห้องเชียร์เกือบทุกวัน

0
annie 15 ส.ค. 57 เวลา 00:23 น. 170

ก็เสนอไปแล้วนะจ๊ะ ทำตาบอด หูทวนลมไปก็แล้วแต่คุณ

แต่ขอบอกก่อนว่า คนที่ต้องแจกแจงข้อดีข้อเสีย และเอาตัวบ่งชี้มาแสดงให้เห็น
ก็คือผู้ที่สนับสนุนวิธีการแบบพวกคุณต่างหาก

เพราะวิธีการห้องเชียร์ คือวิธีการที่คุณได้เอามาใช้จริงไปแล้ว
ถ้าเอามาใช้แล้ว แต่ไม่สามารถตอบข้อดี ข้อเสีย และหาตัวบ่งชี้วัดมาเองได้
ก็แสดงว่าพวกคุณได้จัดกิจกรรมที่ไม่มีอะไรมาสนับสนุนและรับรองถึงผลลัพท์
คนที่ควรจะหาตัวชี้วัดมาพิสูจน์ก่อนคนอื่นน่ะ ก็คือคุณนั่นเเหละ

มัวแต่ร้องเย้วๆ ให้คนอื่นหาหลักฐานมาโต้แย้ง
แต่แค่จะหาหลักฐานมาสนับสนุนการกระทำของตัวเองยังทำไม่ได้
แบบนี้ถือว่าล้มเหลวในฐานะนักวิทยาศาสตร์ (เว้นเสียแต่ว่าคุณไม่ใช่ ซึ่งก็หวังให้เป็นเช่นนั้น)

เออ แล้วสิ่งที่ฉันเสนอไป อุตส่าห์พิมพ์ไป หวังว่ามันจะมีประโยชน์บ้าง แค่อยากช่วยคิด หาทางออก แต่เล่นมุกก็อปปี้เอาประโยคเดิมมาย้ำคิดย้ำทำหวังจะตอกหน้าคนอื่น ถือว่าไร้มารยาทมาก ทนทวนตัวเองด้วยนะ

สงสารคนที่ต้องเป็นรุ่นน้องคุณจริง (ยกเว้นคุณจะไม่มีรุ่นน้อง ซึ่งก็หวังมากๆให้เป็นเช่นนั้น)

0
อลิสซ่า 15 ส.ค. 57 เวลา 00:29 น. 171

ถ้าคิดว่าเราคิดถูก จงหักความสัมพัน ตัดพี่ขาดน้องไปเลยนะผมแนะนำ ถ้าคิดว่าเราไม่จำเป็นต้องใช้ประโยชน์หรือหาผลประโยชน์จากเขาไม่ได้แล้ว จิตวิทยา นะครับ คุณคิดว่า คุณเป็นเด็กหรอ ถ้าคิดว่าจะทนมันไม่ได้ผมว่าคุณน่าจะโลกสวยพอดู. แต่มันคงใช้ไม่ได้กับที่นั่นความโลกสวยของคุณ

ผม จิตวิทยา ปีสาม ชั้นอยู่กับเพื่อน สามคน มาตลอดสามปี ตัดพี้ขาดน้องเรียบร้อย เจอพี่ไม่ไหว้ ไม่ก้มหัว ชั้นแน่ใจในฝีมือพอ 

คุณละ คุณแน่ใจ จริงๆหรือ ที่คิดแบบนั้น

0
ฝากไว้ในความคิด 15 ส.ค. 57 เวลา 00:30 น. 172

'ถ้ามันไม่ดีเอาเลย เค้าจะปล่อยให้มันอยู่มาจะเป็นร้อยปีนี่หรอ'

แปลกจัง เป็นคณะที่มีแนวคิดแบบนักวิทยาศาสตร์แท้ๆ แต่กลับเลือกที่จะเชื่อในสิ่งที่ทำตามกันมา
แทนที่จะหาเหตุผล ตรรกะ หลักฐานมามาสนับสนุนเป็นเรื่องเป็นราว

ทั้งๆที่เนื้อหาของReplyคุณ อธิบายได้ดีในเรื่องวิธีคิดของนักวิทยาศาสตร์
แต่ทำไมไม่เอาวิธีนี้มาตั้งคำถามถึงกิจกรรมที่พวกคุณได้ผ่านกันมาตั้งแต่แรกล่ะ?

0
ดาวมหาวิทยาลัย 15 ส.ค. 57 เวลา 00:32 น. 173

เรียนน้องปี1 ที่รัก
หนูควรที่จะทำหนังสือร้องเรียน หรือแจ้งเรื่องนี้ให้ทางคณบดีคณะทราบ และ/หรือ แจ้งไปยัง อธิการบดี รองอธิการบดีด้วยเช่นกัน เพื่อทางมหาวิทยาลัยจะได้มาตรวจสอบ ว่ามีการกระทำดังกล่าวเกิดขึ้นจริงไหม พี่เชื่อว่าจุฬาฯ คงไม่อยากเห็นระบบที่มีการกดขี่ ริดรอดสิทธิใครทั้งนั้นนะคะ พี่ว่าทำแบบนี้อาจจะเกิดมาตรการยุบระบบห้องเชียร์เลยก็เป็นได้ สู้ๆนะคะ พี่ว่าวิธีนี้บุคลากรน่าจะรับทราบดีกว่ามาโพสต์ในเด็กดีอีกนะคะ ถ้าหนูล้มล้างได้ พี่เชื่อว่าหนูจะเป็นที่เชิดชู ยกย่อง คือผู้กอบกู้อิสรภาพ เลยค่ะ
สู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้

0
สาวนิรนาม 15 ส.ค. 57 เวลา 00:42 น. 174

คุณเรียนจิตวิทยา
แต่ 1.คุณทนภาวะวุฒิทางอารมณ์ไม่ได้
แต่ 2.ยังควบคุมสภาวะจิตใจจากรอบข้างไม่ได้
แต่ 3.ยังเอาความคิดตัวเองเป็นหลักในการตัดสินการรับน้อง

คุณเรียนจิตวิทยา ทำไม??

ดิชั้นอ่านแล้ว ขำคุณน้องมากเลยค่ะ ตรงๆ

0
ว.วรา 15 ส.ค. 57 เวลา 00:48 น. 175

เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อน่ะ

ห้องเชียร์คือการฝึกคน ไม่เคยสนใจว่าน้องมันจะมารักพี่รึป่าว แต่สนใจว่าพวก-กันเองในรุ่นน่ะรักกันรึป่าว พวกกูรุ่นพี่ (ไม่ว่าจะคณะไหน) คือความงี่เง่า ป่าเถื่อน สุดจะบรรยายแบบที่-บอกนั่นแหละ คำถามคือพวกจึงเจอความ-ขั้นอุปสรรคขนาดนี้ จะทำยังไงให้ผ่านไปด้วยกัน วันที่-ผ่านได้-ก็จะเข้าใจว่าพวกกูทำกันไปทำไม กูผ่านมาสุดท้ายกูก็รักรุ่นพี่ รุ่นพี่ก็รักกู

สมมุติว่าอยู่ในสถานการณ์ว่าพวก-ถูกโจรลักพาตัวมาทั้งหมด -จะมานั่งพิรี้พิไรหรอว่าโจรแมร่งงี่เง่าว่ะ ไม่ควรทำแบบนี้ กูมั่นใจเลยว่าสุดท้าย-จะหนีเอาตัวรอดทิ้งคนอื่นไว้

กูไม่แปลกใจหรอกว่าทำไมมีคนอย่าง-มากขึ้นทุกรุ่น ๆ เดี๋ยวนี้คนเรามัน individualism สุดตีน ไม่เข้าใจความเป็นรุ่นหรอก กูขอไม่โลกสวยล่ะกัน รุ่นกูก็เหลือไม่ครบ แต่ที่เหลือคือแข็งแกร่ง เพื่อนเสียสละโดดน้ำแทนกูเห็นมาแล้ว กูกินอาหารเน่า ๆ แทนเพื่อนกูทำมาแล้ว สิ่งที่กูเห็นคือน้ำใจเพื่อน (ไม่ใช่รุ่นพี่) เพื่อนให้กู กูก็พร้อมจะให้เพื่อนเหมือนกัน อย่าง-ที่ไม่ได้ให้อะไรเค้า ก็พยายามไปทำดี 1 ต่อ 1 กับคนอื่นเถิด ไม่ว่ากัน

กูจะบอกอะไรให้ ที่ Harvard เค้าก็รับน้องโหด น้องที่จะเข้าบ้านรับน้องเค้าทำอะไรงี่เง่ากว่าที่จุฬาทำเยอะ ทั้ง ๆ ที่ชื่อชั้นมหาลัยเค้าปัญญาชนกว่าเราอีก แต่เข้าไปแล้วเค้าได้ connection กันเหนียวแน่น กูก็โทดล่ะกันที่จุฬาเค้าเชิงบังคับ-มารับน้อง กูก็อยากให้น้องสมัครใจเหมือนกัน คนที่เขาเห็นความใจเค้าจะได้รับกันไม่ต้องมารำคาญพวกขี้แย

0
พี่บัณทิต 15 ส.ค. 57 เวลา 00:49 น. 176

คณะเราปกติใช้ประธานเชียร์สวยๆตาดุๆเกือบทุกรุ่นเลยนะ 55555 ส่วนพี่วินัย ถ้าทำถูกแต่งกายถูกพี่เค้าก็ไม่เห็นจะว่าอะไร ถ้าเราทำถูกพี่เค้าว่า เราเถียงนะ เอาจริงเราก้ไม่อยากจะกลายเป็นคนก้าวร้าว แต่เราลือกทำในสิ่งที่ถูกนะ ไม่ใช่คือไม่ใช่อยู่กับเหตุผล จริงๆเรื่องในคณะคุยในคณะมั้ย เอาออกสื่อแบบนี้ให้ความรู้สึกว่าเอาเรื่องของที่ทำงานมาเล่าในพันทิพอ่ะ

0
Apocalypse19 15 ส.ค. 57 เวลา 00:50 น. 177

การที่เจ้าของกระทู้ตั้งก็เพื่อหาคนที่มีเสียงเหมือนกันไงครับ คนที่คิด ที่เห็นเหมือนกัน
ผมเชื่อว่าคนจำนวนมาก ที่ไม่เห็นด้วย แต่ไม่มีใครกล้าที่จะแสดงออกมาตรงๆ
ถ้าหากมีคนเห็นเหมือนกันเยอะขึ้น ก็ไม่ยากที่จะกลายเป็นเสียงข้างมากครับ

ผมไม่ทราบว่าเจ้าของกระทู้เล่ามาจริงเท็จอย่างไร แต่ถ้าเป็นความจริง
ไม่มีอะไรเสียหายที่ต้องปกปิดเอาไว้ครับ นี่ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่คือระบบคน
ผมคิดว่าโพสต์ลงสังคมออนไลน์แล้วช่วยกันถกประเด็นแก้ปัญหาก็ไม่แปลกครับ

นี่อาจไม่ใช่การแก้ปัญหา แต่ผมเชื่อว่าตอนนี้กระทู้นี้ดังแล้วในระดับหนึ่ง
ต้องมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆกันไป ถ้ามีการเรียกร้องให้มีการตรวจสอบ
จากทางมหาวิทยาลัยคงไม่ใช่เรื่องยากครับ

กิจกรรมที่ดี ทำไปเถอะครับ ไม่มีใครว่า แต่หากใครไม่สมัครใจที่จะเข้าร่วม
แล้วเราจะเลือกปฏิบัติกับเขาต่างจากคนอื่น อันนี้ไม่ดีครับ มีเสรีภาพกันเถอะครับ

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

เว็บไซต์ Dek-D.com ขอสงวนสิทธิ์ในการงด โพสต์ข้อความซื้อ/ขาย/แลกเปลี่ยน/โฆษณา สินค้าทุกชนิดในเว็บบอร์ด เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้ใช้งานท่านอื่น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

เว็บไซต์ Dek-D.com ขอสงวนสิทธิ์ในการงด โพสต์ข้อความซื้อ/ขาย/แลกเปลี่ยน/โฆษณา สินค้าทุกชนิดในเว็บบอร์ด เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้ใช้งานท่านอื่น

คนเคยไม่มีปัญญา 15 ส.ค. 57 เวลา 01:00 น. 180

ผมว่าการที่เขาจะด่าว่าไม่มีปัญญาก็ไม่ใช่เรื่องผิดนะ เพราะมีปัญญาแค่วิพากษ์วิจารณ์แต่ไม่มีปัญญาในการโน้มน้าวให้คนลุกขึ้นมาเปลี่ยนตาม แทนที่จะมัวแต่โทษคนอื่นว่าทำไมไม่รู้จักรับฟังคำติ บางทีก็ควรจะโทษตัวเองด้วยนะ ก็เพราะความไม่มีปัญญาในการโน้มน้าวนั้นแหละ ที่ทำให้ระบบมันไม่เป็นอย่างที่คุณคาดหวัง
และก็คงยากที่เป็นอย่างที่คุณคาดหวัง เพราะคนเราแตกต่างกัน และสิ่งที่คนอยู่ในระบบคาดหวังก็คงจะต่างจากคุณ(ไม่งั้นมันคงเปลี่ยนไปนานแล้ว) เรียนมาเยอะน่าจะรู้

ขอบคุณครับคุณปัญญาชน สำหรับการน้อมรับคำวิพากษ์วิจารณ์ รักเลย

0