(รีวิว Anime) Anime Fall 2014 เริ่มต้นแล้ว มาบ่นด้วยกันเถอะ !
สวัสดีครับ
กลับมาอีกแล้วกับรีวิวอนิเมะประจำซีซั่นใหม่ ความจริงแล้วท่านแคมมี่บอกว่าจะเป็นคนเปิดกระทู้ แต่ไป ๆ มา ๆ ท่าทางซีซั่นนี้จะไม่ค่อยถูกใจขาฮาเร็มเจ้านั้นสักเท่าไหร่ ผมก็เลยขอรับหน้าที่เปิดกระทู้สำหรับซีซั่นนี้เลยก็แล้วกัน
สำหรับซีซั่นนี้ผมต้องบอกตามตรงเลยว่ามีอนิเมะใหม่น่าดูหลายเรื่องมากเลยครับ มีเยอะจนผมรู้สึกว่าเยอะเกินไปด้วยซ้ำ เท่าที่ดูตอนแรกแล้วรู้สึกโอเครอดูตอนสองต่อก็ล่อไป 15 เรื่องแล้ว แถมมีอีกบางเรื่องที่ยังไม่ได้ดูอีกต่างหาก นี่ยังไม่รวมถึงอนิเมะค้างท่อจากซีซั่นก่อนด้วยนะ ไม่รู้จะเรียกว่าดีหรือไม่ดีล่ะเนี่ย ความรู้สึกคงคล้าย ๆ กับพวกพระเอกอนิเมะฮาเร็มสายมืดที่เจอสาว ๆ รุมจดหมดเรี่ยวหมดแรงล่ะมั้ง (ฮา)
เอาล่ะ ไม่ต้องพูดร่ำทำเพลงให้มากความอีกเลย ผมขออนุญาตเปิดพื้นที่เล็ก ๆ สำหรับ บ่น/อวย อนิเมะประจำซีซั่นนี้เลยแล้วกันครับ รีวิวที่ผมกำลังเขียนเป็นความเห็นส่วนตัวของผมน่อ หากใครอยากพูดคุยอะไร หรือจะมาร่วมรีวิวกับผมด้วยก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งเลยครับ แล้วก็ระวังสปอยล์กันด้วยนะครับ ^ ^
85 ความคิดเห็น
1. Amagi Brilliant Park
เรื่องนี้เปรียบได้กับการคืนความสุขให้ชายหนุ่มครับ หลังจากซีซั่นที่ผ่านมาได้มอบความสุขให้กับคุณผู้หญิงจนล้นทะลักกับ Six Packs แผงหลัง และมัดกล้ามฟิตเปรี๊ยะไปแล้วนั่นเอง เรื่องนี้ก็ตามมาตรฐานผลงานที่ผ่านมาของเกียวอานิครับ งานภาพตระการตา สาว ๆ โมเอะทุกอิริยาบถ (แอบหยอดเซอร์วิสด้วย ซึ่งเป็นเรื่องแปลกมากสำหรับเกียวอานิ) มุกตลกพอใช้ และที่สำคัญคือสามารถดัดแปลงจากไลท์โนเวลแล้วยังดูรู้เรื่อง ! แต่สิ่งที่ทำให้ผมอยากดูเรื่องนี้มากที่สุดก็เพราะคุณบอนตะ... เอ้ย มอฟเฟิล...มาสค็อตของสวนสนุกนี่ล่ะ สรุปคือคงดูต่อครับ แต่แปลกแฮะ... เดี๋ยวนี้ผมรู้สึกไม่ค่อยตื่นเต้นกับอนิเมะของเกียวอานิยังไงก็ไม่รู้สิ เหมือนมันขาดรสชาติอะไรบางอย่าง
1. Gundam Reconguista in G
ใครดูเรื่องนี้รู้เรื่องกรุณายกมือขึ้นครับ... เพราะผมตามเหตุการณ์ในเรื่องนี้ไม่ทันจริง ๆ ครับ... เหมือนคนทำทำอนิเมะออกมาเพื่อให้ตัวเองดูเข้าใจเองคนเดียว มันก็ไม่ผิดหรอกนะที่จะสร้างผลงานสนองอีโก้ตัวเองน่ะ แต่ทำออกมาแล้วให้มันดูรู้เรื่องหน่อยสิเฟ้ย รีโทรแล้วไม่ได้หมายความว่ามันจะดีนะ น่าเสียดายมาก ทั้งที่ภาพสวยมาก แถมยังอยู่ในช่วงยุค UC ที่น่าสนใจอีก แต่ดันดูไม่รู้เรื่องซะงั้น
ปล. จริง ๆ แล้วอยากจะบอกว่า ที่ยังตามกันดั้มภาคนี้อยู่เพราะฉากนี้ล้วน ๆ เลยนะเนี่ย (ฮา)
“ทำไมผมต้องอวยการ์ตูนที่ผมรู้ว่ามันจะวินแน่นอน)
กลับมาอีกครั้งครับกับการรีวิว Fall 2014 Anime ซึ่งความจริงก็ไม่อยากรีวิวสักเท่าไหร่หรอก แถมผมก็ไม่ค่อยว่าง ทำอะไรหลายๆ อย่าง ต้องทำงานบ้าน อัฟเรื่อง อีหนอนก็ทวงเขียนนิยาย (ตรูก็ปากกาตัน)
ซีซั่นก่อนผมไม่ได้ตั้ง เพราะว่าไม่ค่อยมีแนวฮาเร็มเจ๋งๆ สักเท่าไหร่ (เรื่องอะไรผมจะอวยเรื่องที่ไม่ใช่ฮาเร็ม) แต่อย่างไรก็ คราวนี้มีอนิเมะหลายเรื่องที่อยากระบายสักหน่อย
สำหรับภาพรวมซีซั่นนี้ ไม่รู้เป็นอะไรกันหมดไม่รู้ เพราะหลายเรื่องเต็มไปด้วยดราม่า และปวดตับ อนิเมะแบบฮ่ารั่วๆ นี้ค่อนข้างน้อย ส่วนแนวฮาเร็ม ก็ไม่ค่อยมีแบบแท้ๆ สักเท่าไหร่ (เพราะหลายเรื่องสร้างจากเกมแนวจีบสาวที่ไม่มีฉาก 3P เลยพับผ่า แน่จริงเลยแนว 3P สิวะ) แต่กระนั้นก็มีหลายเรื่องที่ผมคิดว่าน่าสนใจ ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นปรสิต, ทวินเทลกู้โลก ไปจนถึงอนิเมะภาคต่อซีซั่นที่แล้ว
ปล. ผมยังดูอนิเมะที่ตั้งใจดูไม่ครบเลย (ไม่ค่อยมีเวลาครับ)
1. Log Horizon 2
ภาคสองของอนิเมะเกมออนไลน์ที่เกรียนไทยไม่ค่อยสนใจสักเท่าไหร่ (ฮา) ขึ้นภาคสองเปลี่ยนสตูดิโอทำ จาก Sattelite มาเป็น Deen ซึ่งค่ายเดิมจริง ๆ ภาพก็ไม่ค่อยสวยอยู่แล้วล่ะนะ พอมาเป็น Deen อาคาสึกิ นินจาโลลิ กลายเป็นนินจาล่ำเฉยเลย... เอาอาคาสึกิคนเก่าคืนมานะ !!!! แต่เนื้อเรื่องก็ยังทำน่าสนใจอยู่ เลยดูต่อเป็นไฟท์บังคับ
Inou Battle wa Nichijou-kei no Naka de (แปลเป็นไทยคือ “เมื่อสงครามอภินิหารสงครามกลายเป็นเรื่องธรรมดา”) เป็นอนิเมะสร้างจากนิยายไลท์โนเวล ผลงานของ Nozomi Kota วาดภาพประกอบโดย Hataraku Maou-sama! และยังถูกดัดแปลงเป็นมังงะโดย Kurose Kousuke เป็นเรื่องราวสมาชิกทั้ง 5 ของชมรมวรรณกรรม ที่ได้รับพลังพิเศษมาเมื่อครึ่งปีก่อน ซึ่งมันมากพอจะเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ได้ แต่ในโลกที่ไม่มีทั้งผู้กล้ากับจอมมาร หรือองค์กรชั่วร้าย ให้ได้ต่อกรด้วยเลย พลังนั่นจะมีประโยชน์อะไร? แต่ถึงอย่างนั้นทั้ง 5 ก็ยังหาทางใช้พลังที่ได้รับมาจนเกิดเรื่องวุ่นวายในรั้วโรงเรียน (ซะงั้น)
(สปอย ไม่เหมือนชมรมเกมอิจิโนะอะ รายนั้นบอกไม่มีศัตรูก็คือไม่มี ซาบซ่าฮาเร็ม แต่เรื่องนี้ความจริงมีศัตรูอ่ะ บู่ๆ)
Inou Battle wa Nichijou-kei no Naka de เป็นแนวแอ็คชั่น, แฟนตาซี และตลกโรแมนติก ซึ่งเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องป่วนๆ ของผู้มีพลังพิเศษที่สามารถทำลายโลกได้อย่างสบาย
ตอนที่ผมเขียนรีวิวแมวๆ อยู่นี้ ยังไม่ได้อ่านนิยายนะครับ เลยไม่รู้ตัดทอนมากขนาดไหน แน่นอนครับมันตัดทอนอยู่แล้ว แต่จุดสำคัฯของอนิเมะที่สร้างจากไลท์โนเวลก็คือจะทำอย่างไรให้เรารู้สึกชอบอนิเมะและอยากไปอ่านนิยายเรื่องนั้นๆ ซึ่งตามความเห็นของผม ผมว่าอนิเมะเรื่องนี้สอบผ่านครับ ภาพใช้ได้ระดับหนึ่ง ตัวละครมีเสน่ห์ เนื้อหาก็น่าติดตามด้วย
ไม่รู้ทำไมดูการ์ตูนรื่องนี้แล้วผมเอาไปเปรียบเทียบกับอีกเรื่องคือ Ore to Ichino no Game Doukoukai Katsudou Nisshi ชมรมเกมของอิจิโนะ (อิจิโนะมาก่อนครับ) เพราะมีคอนเซ็ปต์คล้ายๆ กันคือ “ผู้มีพลังที่ยิ่งใหญ่แต่ไม่ประโยชน์อะไร ใช้ชีวิตประจำวันอย่างสงบสุขดีกว่า) แม้ทั้งสองเรื่องจะคล้ายๆ กัน แต่การเล่าเรื่องต่างกันครับ ของอิจิโนะนั้นเน้นการพูดคุย ทำกิจกรรมซาบซ่าฮาเร็มไปวันๆ ไม่ได้ใช้พลังพิเศษมากนัก แถมยังต้องปวดตับค่าตอบแทนของพลังพิเศษอีกต่างหาก (แต่หลายคนชอบครับ) ขณะที่ Inou Battle wa Nichijou-kei no Naka de จะเน้นการต่อสู้พลังพิเศษเยอะ และปากบอกว่าไม่มีศัตรู แต่ความจริงแล้วมี (ของอิจิโนะไม่มีศัตรู ก็คือไม่มี ตั้งแต่ต้นจนจบ)
ดังนั้นคอนเซ็ปต์ของทั้งสองเรื่องต่างกัน Inou Battle wa Nichijou-kei no Naka de ก็เป็นแนวพลังพิเศษในชีวิตประจำเหมือนหลายเรื่องๆ (ที่ปัจจุบันก็เริ่มมีเยอะแล้วนะครับ) แต่กระนั้นจุดเด่นก็คือตัวละครในเรื่อง เด่นดี และพระเอกบ้าได้ใจ ติ๊งต๊องได้ใจ พลังวิเศษก็ระดับทำลายล้างโลกอีกต่างหาก ส่วนมุกตลกก็ไม่ได้ฮ่ามาก ออกไปทางแป๊กด้วยซ้ำ แต่จุดประสงค์ไม่ได้ต้องการให้ฮ่า แต่มันแสดงให้เห็นตัวตนของตัวละครมากกว่าว่ามีนิสัยและเอกลักษณ์เป็นยังไง ตรงจุดนี้สอบผ่านครับ ผมเลยฮ่า ชอบตัวละครเกือบทุกคนในเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นพระเอกจูนิเบียว, โลลิถูกใจหมี ส่วนผมชมพูสั้นพยายามตีตื้นหน่อยนะเธอถูกเหมือนจะจืดจางที่สุดในเรื่อง
เห็นว่าอนิเมะเรื่องนี้เป็นของค่าย kill la kill แน่นอนว่ามันอาจเป็นแนวฮาเร็ม (ใช่เปล่าก็ไม่รู้) แต่สิ่งที่รู้คือสาวในชมรมทุกคนเป็นสาวซึนเดเระ และยันเดเระ พระเอกจะรอดไหมเนี้ย!!
สรุป ดูครับ
Madan no Ou to Vanadis
เรื่องนี้สร้างจากไลท์โนเวลที่เรียกได้ว่าดราม่า (?) ที่สุดในบ้านเราก็ว่าได้ คราวนี้ได้สตูดิโอ Satellite มาผลิตผลงาน สำหรับสตูดิโอนี้มีอยู่สองอย่างครับ... ถ้าเมะเรื่องนี้ไม่งานภาพออกมาขั้นดี (Aquarion Evole, White Album 2) ก็ทำออกมากาก (Log Horizon) เลยครับ น่าจะเรียกว่าโชคดีได้ล่ะมั้งที่เรื่องนี้อยู่ในกลุ่มแรก งานภาพเลยทำออกมาได้ค่อนข้างดี... ดีกว่าภาพประกอบนิยายหรือมังหงะจมเลยครับ แต่สิ่งที่ผมอยากจะบ่นสำหรับตอนแรกคือรู้สึกว่าเรื่องมันดูเร่ง ๆ ยังไงก็ไม่รู้ เหมือนกับมีปัญหาด้านการตัดเนื้อหาและรายละเอียดบางอย่างในนิยายไป เลยพอดูแบบอนิเมะแล้วรู้สึกว่าจูนกับอารมณ์ของเรื่องไม่ติดอย่างไรก็ไม่ทราบ แถมยังมีเหล่าสาว ๆ อวบอั๋นใส่ชุดรัดติ้วโชว์หน้าท้องที่ดูไม่เข้ากับยุคสมัยอีก (แต่มันดีไซน์มาอย่างนี้ตั้งแต่ไลท์โนเวลแล้วล่ะนะ) มันเลยยิ่งรู้สึกดูแล้วแปลกเข้าไปใหญ่ แต่โดยรวมแล้วก็ยังพอดูได้ครับ ในซีซั่นนี้คงไม่มีเรื่องไหนทำได้งงไปกว่ากันดั้ม Reconquista in G อีกแล้วล่ะ
สิ่งนี้ที่รอคอย ก็ขนาดซื้อเป็นเล่มนิยายมาอ่านเลยนี่นะ
อันนี้ผมขอเถียงครับ โอเคครับอนิเมะเรื่องนี้ผมไม่ได้ดู นิยายก็ไม่อ่าน แต่ผมเถียงเรื่องเครื่องแต่งตัว ชุดเกราะบิกินีนั้นถือว่าเป็นชุดที่เหมาะที่สุดในแฟนตาซี และมีความเป็นมาที่ช้านาน ถือว่าเป็นชุดแห่งเวทมนต์ที่ทำให้เนื้อหาน่าสนใจ น่าติดตามคิดด้วย
ช่วงนี้เจออนิเมที่ทำจากนิยายแล้วตัดทอนเนื้อหาจนเสียอรรถรสเยอะจริงๆ
หวังว่าเรื่องนี้จะไม่แย่ขนาดนั้นนะ แค่ดราม่านิยายในไทยผมก็สงสารแย่แล้ว
เรื่องโชว์หน้าท้อง ชุดเกราะสำหรับผู้หญิงต้องโชว์เยอะๆเพื่อเพิ่มพลังป้องกันนี่ครับ
คือขนาดชุดลำลองยังเปิดพุงเลยอ่ะ...
ชุดเกราะบิกินี่ผมไม่เถียงครับ ชุดเกราะของสาว ๆ ในแฟนตาซีมักแต่งกันวาบหวิวเป็นเรื่องปรกติไปแล้ว แต่สำหรับเรื่องนี้ผมรู้สึกว่าดีไซน์มันขัดกับโทนเรื่องอย่างชัดเจนเลยครับ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมรู้สึกอย่างนั้น ดีไซน์มันดูล้ำสมัยเกินยุคอ่ะ
Ore, Twintails ni Narimasu (แปลประมาณว่า “ผมได้กลายเป็นสาวทวินเทล”) เป็นอนิเมะจากนิยายของ Mizusawa Yume และวาดภาพประกอบโดย Kasuga Ayumu
โดยเรื่องราวได้กล่าวถึงพระเอกชื่อ “มิสึกะ โชจิ” เด็กหนุ่มมัธยมปลายปี 1 ผู้หลงไหลในผมทรง “ทวินเทล” อย่างมาก จนไม่มีใครอยากคบกับเขามกนัก นอกจากเพื่อนสมัยเด็ก “อากิ” ที่ยังคงเป็นเพื่อนเขาอยู่ จนวันหนึ่งเขาและอากิก็ได้พบสาวสวยคนหนึ่งจากต่างมิติที่ปรากฏตัวต่อหน้า และได้มอบความสามารถให้เขาสามารถแปลงร่างเป็น “นักรบสาวทวินเทล เตีย แบน” (เด็กหนุ่มกลายเป็นผู้หญิง!?) เพื่อต่อสู้วายร้ายจากต่างมิติ (ที่แสนปัญญาอ่อน) เพื่อปกป้องโลกใบนี้
ถ้าไปอ่านบอร์ดในเว็บหนึ่ง มีแต่คนดร็อปเรื่องนี้ แต่ไม่ใช่กับผมแน่นอน เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมรอมาตั้งแต่มีการประกาศเป็นอนิเมะ (ส่วนนิยายนั้นได้ลิขสิทธิ์ในไทยแล้ว ส่วนเป็นของสำนักพิมพ์ไหนนั้นอดใจรอสักนิด) เพราะผมคนรักสายทวินเทล และเพื่อนสมัยเด็ก ทั้งสองสิ่งนี้คือสิ่งชอบในการ์ตูนญี่ปุ่น และเมื่อผมดูการ์ตูนเรื่องนี้ก็ไม่ผิดหวัง เพราะคุณจะได้เห็นความงดงามของเพื่อนสมัยเด็ก และทวินเทลที่หลากหลาย เต็มอิ่ม จุใจแน่นอน
เอาตามตรง แน่นอนครับอนิเมะตัดฉากนิยายแน่นอนไม่ต้องสืบ และที่น่าเจ็บใจคือมีฉากที่ว่าเป็นหัวใจของเรื่องด้วย ไม่ว่าจะเป็น การนำเสนอความโรคจิตของพระเอก นิยายทำได้น่ากลัวมากครับ อารมณ์เหมือนว่าพระเอกมันจะเป็นฆาตกรโรคจิตหรือเปล่าเนี้ยถ้าโตขึ้นมา แต่ในอนิเมะตัดส่วนนี้ออก ซึ่งก็ช่วยไม่ได้ครับ เพราะในนิยายมันบรรยายเป็นหน้าๆ เป็นฉากๆ ว่าทำไมพระเอกมันชอบทรงผมทวินเทล ชอบจนอยากลูบๆ ดมๆ แต่อนิเมะมันจำกัดเรื่องพวกนี้ เลยให้อารมณ์ว่าพระเอกชอบสาวทวินเทลเท่านั้น แต่ไม่ได้ระดับโรคจิตสักเท่าไหร่
ต่อมาส่วนที่ตัด คือความงดงามของเพื่อนสมัยเด็กครับ เรื่องนี้เพื่อนสมัยเด็กน่ารักมากๆ โฮก ไม่ว่าจะซึนเดเระ (ว้าว) ปากบอกรังเกียจพระเอก แหม คนรังเกียจเขาไม่ไว้ทรงผมทวินเทลให้พระเอกดู หรืออยู่ใกล้ๆ พระเอกหรอก (แน่นอนพระเอกก็บื้ออ่ะนะ) แต่อนิเมะดีอย่าง ได้เห็นการเคลื่อนไหวเพื่อนสมัยเด็ก ทรงผมทวินเทลที่ปลิวตามลม ทวินเทลหลายแบบ ผมชอบฉากเพื่อนสมัยเด็กตีลังกากายกรรมนั้น ผมดูฉากนี้ซ้ำไปซ้ำมาอย่างโรคจิตทีเดียว
ส่วนที่ตัดต่อมา คือความสำนึกผิดของพระเอกครับ ถือว่าเป็นส่วนสำคัญมากๆ กล่าวคือเมื่อพระเอกแปลงเป็นสาวน้อยทวินเทลแล้ว สู้กับพวกผู้ร้าย (ที่แสนปัญญาอ่อน) แล้วพวกผู้ร้ายเป็นพวกชอบสาวทวินเทล ทำท่าหื่นๆ ใส่พระเอก (ในร่างสาวทวินเทล) แน่นอนว่าพระเอกรู้สึกรังเกียจ และนั้นเองพระเอกก็รู้สึกสำนึกว่าพวกผู้ร้ายมันไม่แตกต่างจากเขาเลย เพราะเขาก็ทำโรคจิตแบบนี้กับพวกสาวๆ และพวกสาวก็รู้สึกรังเกียจ แต่เขาก็ไม่รู้ตัวเรื่องนี้เลย กว่าที่จะรู้ก็ต่อเมื่อเขาอยู่ในสถานะเป็นผู้ถูกมองบ้าง ตรงจุดนี้น่าเสียดายที่อนิเมะตัดไปครับ ถือว่าเป็นข้อคิดที่ดีสำหรับตอนนี้เลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม Ushinawareta Mirai wo Motomete ก็เป็นอนิเมะที่ และมันก็ทำออกมาถูกใจ อิ่มใจ แก่ผมยิ่งนัก เสี่ยหมีคนนี้รับประกัน เพราะการออกแบบตัวละครโมเอะน่ารักโครตๆ เพื่อนสมัยเด็กน่ารัก พระเอกตอนเป็นสาวทวินเทลก็น่ารัก แถมชุดต่อสู้ก็โมเอะ (แต่ไม่ได้เน้นโฟกัสเซอร์วิส โชว์ก้นสักเท่าไหร่) อีกทั้งเนื้อหานี้ให้อารมณ์การ์ตูนแนวเด็กประถมแปลงร่างสมัยก่อนครับ ที่จู่ๆ พระเอกและนางเอกได้รับเลือกแบบไม่เต็มใจ พวกผู้ร้ายปัญญาอ่อน บ้าๆ บอๆ จบลงอย่างมีความสุข เพียงแต่เรื่องนี้เอามาปรับให้เข้ากับยุคสมัย ผสมความโมเอะเข้าไป และใส่ความเป็นฮาเร็มนิดๆ ถือว่าทำได้ดีด้วย พูดง่ายๆ อวยครับ อวย
อยากจะบอกว่าเรื่องนี้เป็นตอนแรกที่ผมชอบที่สุดประจำซีซั่นครับ...
1.
Fate/stay night Unlimited Blade Works
อา.... กี่รอบกันแล้วที่ผมต้องดู/อ่านตอนแรกของซีรีย์นี้ 3 รอบจากเกม 1 รอบจากอนิเมะของ Deen 1 รอบจากภาค Movie 1 รอบจากมังหงะ ถ้ารวมรอบนี้ด้วยก็คงเป็นรอบที่ 7 แล้วล่ะมั้ง แต่น่าแปลกมากที่ผมกลับดูตอนแรก (ตอนที่ 0) ได้จนจบโดยไม่หลับไปก่อน ก็คงเรียกได้ว่าสอบผ่านล่ะมั้ง ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะคุณภาพงานระดับ Ufo table ที่ทำภาค zero มาก่อน พอมาจับภาคนี้ก็ยังคงคุณภาพระดับหนังโรงได้อย่างน่าประทับ ก็คงต้องดูกันต่อไปครับว่าผมจะติดตามเฟทภาคนี้ต่อไปอีกกี่ตอน เพราะถึงคุณภาพดีแค่ไหน ถ้าเคยดูซ้ำ ๆ หลายรอบมันก็เอียนอยู่ดีนะ (จริง ๆ แล้วคืออยากดูเนื้อเรื่องของซากุระมากกว่า ฮา) ซึ่งจุดนี้ผมคิดว่าคงเป็นบททดสอบสำคัญว่า Ufo table จะก้าวข้ามมันไปได้หรือเปล่า
1.
Cross Ange: Tenshi to Ryuu no Rondo
อยากจะสารภาพครับว่าตอนแรกของเรื่องนี้ผมดูข้าม ๆ ครับ และคิดว่าคงจะหยุดดูจนกว่าจะจบ เหตุผลที่ผมทำเช่นนั้นไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ไม่ดีนะครับ จริง ๆ แล้วต้องเรียกว่าทำออกมาดีด้วยซ้ำ... พล็อตแนวเจ้าหญิงตกอับเป็นอะไรที่ผมค่อนข้างชอบมาก (โดยเฉพาะสายมืด ฮา) แต่ปัญหาสำหรับผมเวลาดูเรื่องที่มีพล็อตแนวนี้คือผมมักจะทนดูช่วงเจ้าหญิงต้องตกอับไม่ค่อยไหวอ่ะ... ซึ่งเรื่องนี้ก็ทำการตกอับของนางเอกได้ดีมากจนผมทนดูไม่ค่อยไหว และคิดว่ามันคงทรมานมากหากต้องทนรอดูตามสัปดาห์ต่อสัปดาห์ ก็เลยตัดปัญหารอจนจบแล้วดูรวดเดียวเลยดีกว่า (ฮา) อ้อ... ลืมบอกไปว่าเรื่องนี้ตอนแรกค่อนข้างแรงมากเลยล่ะ... ยังติดลมมาจากวาเวรฟหรือไงกันเนี่ย
ถึงผมจะเป็นหมี แต่ผมชอบโพนี่เทลครับ
อยากจะบอกว่านิยายผมยังอ่านไม่จบเลยครับ ฮา
เรื่องนีั้ขี้โกง ชุดเกราะเกือบทำให้ผมเกือบหลง
Kiseijuu - Sei no Kakuritsu เป็นอนิเมะแนวแอ็คชั่นสยองดิบเถื่อนที่สร้างจากมังงะขึ้นหิ้ง ผลงานของ ฮิโตชิ อิวากิ ตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสาร Afternoon 1990-1995 ที่ไทยเรารู้จักกันดีในชื่อ “ปรสิตเดรัจฉาน” ตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์สยาม อนิเมะมีทั้งหมด 24 ตอนจบ
โดยเนื้อเรื่องได้กล่าวถึงพระเอกชื่อ “ชินอิจิ” ที่วันหนึ่งพบว่ามือขวาของเขาผิดปกติ เหมือนไม่ใช่มือของตนเอง และต่อมาก็พบว่ามือนั้นได้กลายเป็นมนุษย์ต่างดาวประเภทปรสิตเสียแล้ว ทำให้ชินอิจิต้องอยู่ร่วมกับปรสิตนั้นโดยบริยาย ต่อมาเขาก็ได้รู้ความลับว่ายังมีปรสิตที่สิ่งคนนอกจากเขาอีกจำนวนมาก และพวกมันก็กินคนเป็นอาหาร โดยที่สังคมทั่วไปไม่รู้ แต่ชินอิจิเลือกที่จะหลีกหนีและอยู่อย่างสงบมากกว่า และนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของการนองเลือด
เห็นหลายๆ คนชมอนิเมะเรื่องนี้ แต่ผมขอบอกว่าผมตรงข้ามครับ (ฮ่าๆ เรื่องตรงข้ามคนอื่นนี้ผมถนัดนัก)
ก่อนอื่นเห็นหลายคนอวยเพลงเปิด OP ผมก็ไม่เห็นว่ามันอลังการตรงไหน คือโอเคครับมันเพลงร็อค แต่มันจะสื่อถึงความอลังการนั้นเป็นอีกเรื่องครับ ผมอาจไม่มีหัวเรื่องเพลง แต่ผมฟังแล้วไม่ติดหูอยู่ดี
อย่างที่สองคือการออกแบบตัวละคร อย่างแรกคือผมชอบพระเอกใส่แว่นนะครับ (ฮ่า) แต่ที่ไม่ชอบคือลุคพระเอกใหม่ ที่เปลี่ยนตัวตนในช่วงกลางเรื่อง ซึ่งเหมือนแบบมังงะมากไปหน่อย ดูเหมือนเป็นอีกคน เลยไม่ชอบอย่างแรง
อย่างสาม คือนางเอก (ซาโตมิ มุราโนะ) เป็นการออกแบบที่ไม่ประทับใจผมเลยแม้แต่น้อย ทรงอะไรฟ่ะ หนูจุกเรอะ คือไม่น่ารักเลย ถ้ามีการจัดอันดับตัวละครน่าอวยในเรื่อง ผมให้เธออยู่รั้งท้ายเลย (แพ้มิกกี้ด้วยซ้ำ ขนาดน้องแว่นตัวประกอบก็ยังแพ้)
มันเป็นการยากครับ ที่จะสร้างอนิเมะจากการ์ตูนที่จบไปเป็นชาติแล้ว แถมหลายคนก็รู้ตอนจบอีกด้วย ดังนั้นเป้าหมายอนิเมะเรื่องนี้มี มีสองประเด็นใหญ่ๆ ที่จะต้องพิสูจน์ตนเองอย่างแรกคือต้องเป็นอนิเมะที่เอาเรื่องปรสิตมาปรับปรุงเนื้อหาให้เข้ากับสมัยใหม่ โดยที่ไม่เอาเรื่องมังงะใส่เข้าไปมาก (ไม่ใช่เหมือนแบบโจโจ้ 3 ที่ทำตรงมังงะทุกระเบียบนิ้ว) ดังนั้นสิ่งที่ทำออกมาคือการดีไซน์ตัวละครที่ดูเข้ากับยุคสมัยปัจจุบันมากขึ้น (โดยเฉพาะปรสิตหมานี้ทำได้ถูกใจผมเลยนะ (ฮ่า)
อย่างที่สองคือการเล่าเรื่องครับ แน่นอนว่าอนิเมะพยายามเล่าเรื่องให้แตกต่างจากมังงะ เดี๋ยวย้อนไปย้อนมา แต่กลายเป็นว่านั้นทำให้เป็นจุดอ่อนใหญ่หลวงสำหนรับตอนแรกของอนิเมะเรื่องนี้ซะงั้น อย่างแรกคือมันหงุดหงิดมากสำหรับคนที่เคยดูปรสิตมาก่อน และคนที่ไม่เคยดูก็ดูแล้วสะดุดขาดความต่อเนื่องด้วย
แม้ในภาพรวมๆ สำหรับตอนแรกของอนิเมะเรื่องนี้จะไม่ดีนัก แต่กระนั้นด้วยความเป็นแฟนของการ์ตูนเรื่องนี้มาก่อน (ชอบตั้งแต่เด็ก) ก็ทำให้ผมติดตามอนิเมะเรื่องนี้ โดยฉากที่ผมอยากเห็นคือ ฉากสังหารหมู่ในโรงเรียน ถือว่าเป็นฉากที่ชอบมากเลยก็ว่าได้
ปล.มิกกี้น่ารัก
สรุป ตามต่อแน่นอน
สำหรับซีซั่นนี้มีอนิเมะจากเกมจีบสาวเยอะพอดู ผมเคยขอเสริมอะไรนิดหน่อย ไม่ว่ากัน คือปกติผมไม่เคยดูอนิเมะแนวนี้จบเลยสักเรื่อง เพราะสิ่งที่ผมกลัวคือจบ “วิน” วินอาจเป็นการจบดี แต่สำหรับอนิเมะเกมจีบสาวแล้วมันเป็นสิ่งที่เซ็งที่สุดในโลกใต้หล้า ที่ผ่านมาก็ปรากฏให้เห็นแล้ว เมื่ออนิเมะตัดกระจาย ไม่มีเหตุผลมากพอที่วิน ตัวละครที่อวยไม่เข้าวิน พระเอกไปได้ใครไม่รู้เข้าวิน มันจะเป็นฝันร้ายของคนติดตามอนิเมะแนวนี้เลยก็ว่าได้
Grisaia no Kajitsu -LE FRUIT DE LA GRISAIA หรือชื่อไทย ผลไม้แห่งกริเซียฐาน เป็นอนิเมะเกมแนว Visual Novel ค่าย Frontwing เป็นอนิเมะจากเกมจีบสาวที่ภาพค่อนข้างสวย แน่นอนทำใจไว้เลยว่าจุดอ่อนอนิเมะจากเกมจีบสาวบวก + 18 ก็คือด้วยจำนวนตอนจำกัดดังนั้นจำเป็นต้องตัดฉาก แน่นอนส่วนตัวไม่เคยเล่นเกมนี้(แต่สูบภาพว่ะ ฮ่าๆ ไม่รอดหรอก) ไม่เคยดูเนื้อเรื่องด้วย (รู้แต่ว่าปวดตับ ปวดไข่) และมังงะห่วยบรม (ความคิดเห็นส่วนตัว)
สำหรับตอนแรกๆ เน้นพระเอกเข้ารูทสาวๆ ที่เป็นตัวละครหลักในเรื่องก่อน (ไม่อยากเรียกฮาเร็มว่ะ) สาวๆ ในเรื่องน่ารัก โดยเฉพาะน้องทวินเทล น่ารัก ซึ่งก็ไม่รู้หรอกว่าตัดทอนมากขนาดไหน สิ่งที่รู้คือค่อนข้างลงตัวพอสมควร อย่างน้อยก็มีฉากหลักๆ ที่เห็นในเกมจีบสาวบ้าง และที่ตกใจอีกเรื่องคือภาพสวยระดับหนึ่ง นึกว่าจะเผาวอดวายนรกเสียอีก
และอยากให้เตรียมใจกับตอนจบที่อาจทำไม่ถูกใจหลายคนแน่นอน (ตามสถิติเท่าที่มีประสบการณ์แนวแบบนี้ ถ้าดีก็ดีไป แต่ถ้าไม่ดีก็ให้ทำใจมากๆ )
ขอบอกว่าคาแร็คเตอร์พระเอก ไม่ถูกใจเสี่ยหมีอ่ะ อย่าคิดว่าพระเอกเปลือยกายเห็นกล้ามโตๆ เพราะเสี่ยหมีชอบหนุ่มน้อยแคะๆ ย่ะ
ส่วนเนื้อเรื่อง ของบอกว่าแตกต่างจากเกมจีบสาวทั่วๆ ไปละ มีฉากดราม่า ปวดตับแน่นอน ใครคิดว่าเป็นแนวจีบสาวทั่วไปละก็ เอาความคิดทิ้งลงขยะซะ ไม่เชื่อดูตอนท้ายเรื่องก็ได้ มีเรื่องน่าตกใจที่ดูว่าดราม่ามาแน่นอน แต่ไม่รู้ว่าอนิเมะเรื่องนี้จะดำเนินเรื่องยังไง เพราะมีไม่กี่ตอน เอ็งจะยัดให้เต็มที่ก็คงไหม
ถ้าถามว่าผมจะตามต่อไม่ ตอบว่า “ไม่” เพราะรู้สึกไม่ดีมาจากมังงะ มันเป็นมังงะที่สุดแสน (เชอะอย่าหวังปล่อยฉาก 18+ จะทำให้ตรูติดใจเรอะ) และไม่ชอบหน้าพระเอกอ่ะ
สรุป เห็นหน้าพระเอกหมดอารมณ์อยากดู
มังงะเห็นแต่ฉากเยกัน
เห็นอยู่ค่ะเรื่องนี้ มันมีฉากเซอร์วิสที่... อลังมากค่ะ... // กุมจมูก
แต่ตอนดูครั้งแรกนึกไม่ถึงเลยนะคะว่าเป็นของเกียวอนิ ปรับตัวไม่ทันเลย(ฮา)
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?