Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ความเห็นของคนที่ผมรู้จักเรื่องปั่น view นิยาย

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
คือเรื่องมันก็ตามหัวข้อเลยครับ บังเอิญหลายวันที่ผ่านมานี้เห็นในบอร์ดเด็กดีเถียงกันเรื่องสงสัยว่านิยายเรื่องหนึ่งที่ติด Top เด็กดีจะเกิดจากการปั่นยอดวิว และมีการอวตารของคนเขียนมาอวยเองเถียงแก้ต่าง ที่ผมอ่านดูแต่ไม่ได้โต้ตอบอะไร

แล้วผมก็เลยไปคุยกับคนรู้จักคนหนึ่ง (ไม่ได้เล่นบอร์ดเด็กดี) ในเรื่องนี้

เขาบอกผมมาว่า "มันเป็นแผนธุรกิจอย่างหนึ่ง ไม่ผิดสักหน่อย ใครๆ ก็ทำกัน" แล้วยกตัวอย่างเรื่องร้านโดนัทที่พารากอนที่ตอนวันเปิดร้านครั้งแรกมันมีคนไปต่อแถวยาวเหยียดเป็นรถไฟที่เป็นข่าวเมื่อหลายปีก่อนให้ฟัง บอกว่านั่นน่ะก็หน้าม้าจ้างมาต่อคิวให้มันดัง พอคนสนใจ นักข่าวมาทำข่าว ก็เท่ากับเรียกลูกค้าให้มาเพิ่มขึ้น ร้านก็มีรายได้มากกว่า คืนทุนได้เร็วกว่าเปิดเฉยๆ แบบไม่มีหน้าม้ามาต่อคิวแบบเทียบไม่ได้

แต่เขาก็บอกนะครับว่านั่นคือหมายถึงของๆ เขาต้องดีด้วยนะ ไม่ใช่ทำมาสุนัขไม่รับประทาน แบบนั้นต่อให้หน้าม้าสักสิบเดือนก็เจ๊งอยู่ดี

แล้วก็บอกว่าปั่นยอดวิวนิยายก็เหมือนกันนั่นแหละ คือทำให้คนหมู่มากมันรู้จักด้วยการขึ้นหน้าหนึ่งให้คนเห็นเยอะๆ และสนใจ พอคนเข้ามาอ่าน สนุกไม่สนุกก็อีกเรื่อง แต่อย่างน้อยก็มีคนเข้ามาเยอะกว่าเริ่มต้นแบบไม่มีอะไร ถ้าเรื่องมันโอเคยอดวิวมันก็จะเพิ่มไปเองโดยไม่ต้องปั่นเมื่อผ่านไประยะหนึ่งแล้ว และก็เป็นเครดิตเวลาไปเสนอสำนักพิมพ์ด้วย

แต่เขาก็ถามผมว่า "เธอน่ะ ไม่ปั่นยอดวิวบ้างเรอะไง เห็นเขียนนิยายมาตั้งนานแล้วคนก็ไม่เห็นจะเยอะเพราะไม่ค่อยโฆษณานี่นา จะสักแต่เขียนสนุกมันไม่ได้หรอกนะ"

ผมได้แต่เงียบครับ เพราะไม่รู้จะตอบว่าไงดี เล่นยกตัวอย่างในชีวิตจริง ธุรกิจจริงที่ทำได้ไม่ผิดกฎหมายมาแบบนี้... แปลว่ามันเป็น mandatory ที่นักธุรกิจไหนๆ ก็ทำงั้นสิ? หรือว่าอย่างไรครับ?


ขอบคุณสำหรับทุกคำตอบนะครับ

แสดงความคิดเห็น

>

30 ความคิดเห็น

ยมทูตปีกขาว[เด็กน้อยผู้เย็นชา] 16 ธ.ค. 57 เวลา 11:45 น. 1

ถูกของ จขกท.นะ

แต่บางทีมันก็ไม่ภูมิใจหรอกนะกับการปั่นยอดวิวเอง สู้มานะทำเองยังจะดีกว่า
ผมไม่ค่อยซีเรียสเรื่องยอดวิวหรอกครับ

แต่จะซีกับเรื่อง แต่งยังไงให้คนสนใจมากกว่า และต้องแก้อะไรมากกว่า ผมซีตรงที่ไม่รู้จะแก้ตรงไหนตะหาก



====ยมทูตปีกขาว====
0
เงาที่ยากจะแพ้ 16 ธ.ค. 57 เวลา 11:58 น. 2

จะมองว่าเป็นการโฆษนาก็ได้แหละครับ แต่มันไม่ใช่สีขาว
การปั้มวิวหลอก ผมมองว่าเป็นสีเทา ต่างจากการ
ละเมิดลิขสิทธิ์ หรือหมิ่นประมาท ที่จะเป็นสีดำไปเลย

0
เพราะดีฉันจึงมา 16 ธ.ค. 57 เวลา 11:58 น. 3

แหม.....ทำให้ข้าน้อยนึกถึงโฆษณาสินค้าตัวหนึ่ง. เปิดฝาลุ้นล้าน.  ข้าน้อยซื้อกินทุกวันวันละหลายขวด กว่าจะรู้อีกทีว่าเป็นแผนการตลาดของเขา  เบาหวานก็เกือบจะถามหา.   และที่น่าเจ็บใจคนที่ได้ล้านก็เป็นหน้าม้าห้าสิบเปอร์เซนต์.  ตั้งแต่วันนั้นสินค้านี้อย่าหวังเลยว่าจะได้เงินจากข้าน้อยอีก 

ก็คงคล้ายกับการปั่นวิว ถึงแม้เรื่องนั้น จะสนุก. และข้าน้อยอาจจะเข้าไปอ่านต่อ. แต่คงไม่อุดหนุนซื้อนิยายเล่มนั้นแน่นอน

ปล.ดีแล้วที่ท่านไม่เคยคิดปั่นวิว


0
K.W.E. 16 ธ.ค. 57 เวลา 12:02 น. 4

ต่างกรรมต่างวาระครับ ในประเด็นการค้านั้น ถึงไม่ผิดกฎหมาย แต่มันผิดมารยาท

ในพันทิปเองก็มีคนโดนถล่มเพราะเรื่องนี้มาเยอะแล้วครับ โดยเฉพาะในห้องก้นครัว ที่มักจะมีกระทู้โฆษณาแนะนำร้านอาจหารบ่อยๆ แล้วมันก็จะมีกรณีที่สักคนที่เป็น PR แท้ๆ แต่มาเนียนเป็น CR เอาพวกมาสร้างภาพอวย จนโดนจับได้ แล้วด่ากันยับเลย

ขอขยายความหน่อย
CR = การที่ลูกค้ามาตั้งกระทู้เชียร์ร้านนั้นเองเพราะชอบ
PR = คือการที่ร้านค้าจ้างคนมาประชาสัมพันธ์ (ถ้าเทียบเคียงก็คือหน้าม้าที่เอามาปั่นกระแสนั่นล่ะครับ)

ความต่างก็คือ CR มักไม่มีนัยยะซ่อนเร้น ชอบก็ชอบ เกลียดก็เกลียดว่ากันตรงๆ ส่วนใหญ่คนอ่านจะชอบ CR มากกว่าเพราะไม่มีแอบแฝง ทั้งคำชมและคำด่าคือสิ่งที่ได้ประสบมาจริงๆ

ขณะที่ PR คือการ อวย ครับ จะดีจะห่วย อวยไว้ก่อน เพราะรับตังค์ร้านมาแล้วหน้าที่เขาคือทำยังไงก็ได้ให้คนสนใจและเพิ่มยอดให้ร้านนั้นๆ

ผลก็คือร้านที่ PR ก็มีทั้งที่สมราคาจริง และอวยเกินงาม คุณภาพไม่ถึงครึ่งที่อวย หรือถ่ายภาพออกมาดีน่ากิน แต่พอไปกินจริงเล็กและไม่อร่อย

ความต่างก็คือ ความจริงใจต่อสินค้า นั้นๆล่ะครับ

จะมองว่าเป็นแผนธุรกิจก็จริง แต่มันก็ควรมาด้วยความจริงใจและไม่ไปเบียดเบียนคนอื่นแบบน่าเกลียดครับ

แล้วที่คนด่าหนักก็เพราะว่ารู้กันว่าร้านที่ได้ CR มากๆแสดงว่ามีคนไปกินเยอะจริงและยืนยันจริงไงล่ะครับ ขณะที่ PR มีแค่คนเดียวก็พอ (แล้วลากแก๊งค์มาสร้างภาพ) เแต่นำเสนอว่าเป็นมุมของ CR  ครั้นพอโดนจับได้ก็ไม่ยอมรับ และพยายามแถให้ได้ว่าเขาคือ CR นะ แล้วถ้าจนจริงๆก็จะหนีไปเงียบๆเลย (มีคนเคยทำงานด้านนี้มาแฉจริงๆครับว่าพวกนี้ถ้าดิ้นไม่รอดจะยอมทิ้ง id นั้นไปเลย แล้วสร้างใหม่ดีกว่า สายอาชีพด้านกลยุทธ์การตลาดแบบนี้ถูกสอนมาว่าห้ามยอมรับเด็ดขาด ยอมเสีย id หรือตัวตนนั้นๆในเน็ตไปยังดีกว่า)

และด้วยผลของการตลาดแบบนี้ก็คือการหลอกลวงว่านี่คือเสียงจากลูกค้าคนหนึ่งนะ มันดีจริงๆนะ ทั้งที่ความจริงเขาคือคนที่ถูกจ้างมาเพื่อสร้างกระแส สร้างภาพให้ร้านค้านั้นๆดีๆนี่เอง

ห้องก้นครัวเกลียดพฤติกรรมนี้มากครับ ถึงขนาดตั้งฉายาพวกนี้ว่า ม้า ครับ หรือเรียกอีกอย่างว่า หน้าม้า นั่นเอง

ย้ำนะครับก้นครัวไม่ได้เกลียด PR เพราะถือว่าเป็นกลยุทธ์การตลาด แต่เกลียด PR ที่ทำตัวเป็น CR ซึ่งมันคือการหลอกลวง ถ้าเทียบเคียงกับนิยาย มันก็คือการปั่นแล้วอ้างว่ามีคนมาอ่านเพราะชอบจริงๆนะเออ นั่นล่ะครับ



ทีนี้พอมามองย้อนเรื่องนิยายบ้าง ที่ผมว่าต่างกรรมต่างวาระก็เพราะว่าของแบบนี้ต้องดู เจตนา ของที่นั้นๆด้วยครับ

ระบบ TOP ที่ทาง dek-d สร้างขึ้นมา ผมกล้าฟันธงว่า คนคิดระบบต้องการให้คะแนนที่ดีที่สุดได้เป็นที่ประจักษ์ และคะแนนนั้นจะสะท้อนถึงคุณภาพงานจริงๆ อย่างน้อยก็มีคนอ่าน ตามเพราะชอบแน่ๆ พูดอีกอย่างคือ นิยายดังกล่าวควรขึ้นมาด้วยคะแนนที่มาจากผู้ใช้งานจริงตามปกติ

การปั่นเปรียบเสมือนการใช้บั๊ค ใช้ช่องโหว่ ถ้าเป็นเกมก็คือการใช้บอท
คำถามคือถ้าท่านคิดจะสร้างเกมที่สนุกเท่าเทียม ไม่เน้นหาเงิน (ไปเอาจากสปอนเซอร์ หรืออื่นๆ) ท่านคิดว่าเขาจะยอมให้มีคนใช้บอทเล่นหรือครับ

นิยายก็เหมือนกัน เจตนาของคนสร้างระบบไม่ได้ทำเพื่อให้ปั่นครับ และไม่สนับสนุนด้วยซ้ำ ไม่งั้นเขาไม่ตั้งค่าให้รีเฟรชแล้ว ip ไม่เพิ่มใน 1 ชม. หรอกครับ

ผมยังทันยุคปั่นรีเฟรชอยู่เลย แน่ใจว่าระบบนั่นน่ะมาเพื่อแก้ปั่นด้วย F5 ชัดๆเลยครับ ฉะนั้นการอ้างว่าไม่ผิดตรงไหน ผมบอกได้เลยว่าผิดครับ

การปั่นคือการขัดเจตนาและผิดมารยาท ของการใช้งาน dek-d


นอกจากนี้การค้าขายเองก็ใช่ว่าจะยอมรับพฤติกรรมแบบนี้เสมอไป ดราม่าเพราะการปั่นก็มีให้เห็นครับ ที่เพื่อน จขกท. ยกกรณีบางอย่างที่ไม่เกิดดราม่า มันอาจไม่มีปัญหาก็จริง แต่กระนั้นก็ไม่ได้หมายความว่ามันถูกครับ แค่ยกตัวอย่างที่ได้ผลมาเพื่อสร้างความชอบธรรมให้ตัวเองเท่านั้นเอง

ไม่ปฏิเสธนะครับว่าการปั่นคือวิธีหนึ่งทางการตลาด แต่มันก็ควรมีข้อแม้ว่าเมื่อถึงเวลาหรืออยู่ตัวแล้วต้องเลิกปั่นครับ ซึ่งอย่างที่บอกมาก็ถูกว่าของดีจริง ติดกระแสก็เลิกปั่นได้

แต่พวกนิยาย หรือพวกขายสินค้าบางอย่างนี่มันไม่ได้ดีจริงเช่นนั้นครับ ถ้าได้ปั่นครั้งหนึ่งแล้วก็ต้องปั่นไปตลอด เพื่อไม่ให้เกิดพิรุธว่ายอดคนตกลงแบบน่าเกลียดจนจับได้ เหมือนขึ้นหลังเสือแล้วลงไม่ได้

ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นแล้ว มันก็คือการโกงยอดดีๆนี่เองล่ะครับ
แล้วมันก็ไปเบียดสิทธิคนอื่นด้วย

0
StarLullaby 16 ธ.ค. 57 เวลา 12:16 น. 5

ร้านโดนัท = ล่อคนเข้ามาต่อคิวด้วยรางวัลล่อตาล่อใจ
นิยายเรื่องนั้น = ล่อคนเข้ามาโดยการปั๊มวิว

รางวัลล่อตาล่อใจ ไม่ผิด ทุกคนอยากได้รางวัลจึงมาต่อ
แต่การปั๊มวิวผิด เพราะเป็นการหลอกลวง
เหมือนเอาหุ่นคนไปตั้งหน้าร้านโดนัทว่า ร้านชั้นมีคนเข้าเยอะนะ

โดนัทไม่อร่อยก็ไม่ได้ผล... มันก็ใช่
แต่โดนัทที่ไม่อร่อยมาก โกงเพื่อให้คนคิดว่าดี เขาก็แฮปปี้ไป
แต่คนที่ทำโดนัทอร่อยกว่าล่ะ? เขาไม่โกง เขาสร้างลูกค้ามาจากน้ำพักน้ำแรงตัวเอง
แต่คนก็เข้าน้อยกว่า เพราะถูกโดนัทร้านที่อร่อยพอกินได้แย่งลูกค้าไป

0
xiuyun [อากาศร้อนทำให้คนเป็นบ้า] 16 ธ.ค. 57 เวลา 12:18 น. 6

PR ในแง่ธุรกิจทำได้ ไม่ผิดกฎหมายครับ
แต่การปั่นวิว ถึงจะไม่ผิดกฎหมายเช่นกัน แต่ถือว่าโกงยอดวิวครับ
เอามาโยงกันไม่ได้
//พิมพ์เองงงเองวุ้ย

*ดิทคำผิด

0
lilin4646 16 ธ.ค. 57 เวลา 12:33 น. 7

ผมมีความเห็นแบบนี้

การตลาดไม่ว่าจะอะไรก็ตาม สมควรทำให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ของสังคมนั้นๆ ด้วยครับ สำหรับการปั้มยอดวิว คุณจะบอกก็ได้ครับ ว่า

"เด็กดีไม่มีกฏห้ามปั้มยอดนี่" ก็จริงครับ แต่ถ้าอย่าที่เห็นว่าคนในเว็บส่วนใหญ่คิดว่าวิธีนี่ไม่ถูกต้องแน่นอน ดังนั้นผมว่าไม่ควรใช้เลย

ผมจะยกตัวอย่างผลการตลาดแบบเลวๆ ให้ฟัง อย่างเช่นพวก ชิงโชคของต่างๆ แล้วปรากฏว่าคนที่ได้รางวัลเป็นคนในบริษัทซะงั้น นั่นทำให้สินค้าของบริษัทนี้แทบอยู่ในตลาดไม่ได้เลย เพราะคนที่เคยชอบ เคยซื้อ มีทัศนคติที่ลบไปแล้ว

ส่วนเรื่องการตลาด ถ้าคุณจะใช้วิธีแปลกๆ หน่อยก็ได้นะ เช่น
1. จัดกิจกรรมบน facebook แจกลิ้งค์นิยายของคุณ ให้คนเข้ามาก็ได้
2. มีเงินก็ซื้อโฆษณากับเว็บ dek-d ไปเลย ไม่น่าเกลียดด้วย
3. จัดไปเลย ใครคอมเม้นต์ มีสิทธิ์ลุ้นรางวัล
มีวิธีอีกมากมาย ที่มันไม่ผิดบรรทัดฐานของสังคมที่คุณอยู่ครับ ลองบอกเพื่อนใช้ทางพวกนี้ดูนะ

อีกเรื่อง ผมบอกเลยว่า ยอดวิวในเด็กดี มันก็แค่ภาพลวงตาที่ไม่ได้บอกว่านิยายของคุณสร้างความสุขให้นักอ่านได้มากแค่ไหน ต่อให้โกงไปเรื่อยๆ ยอดวิวเป็นแสนเป็นล้านเป็นสิบล้าน แต่แต่งนิยายไม่ได้เรื่อง พอนิยายจบ พอหมดแรงโกง นิยายเรื่องนั้นก็จะหายไปจากความคิดของนักอ่านทุกคน กลายเป็นแค่สิ่งไร้ค่าอีกสิ่งที่ไม่มีใครจดจำ

อย่างไรก็ตาม การตลาดสำคัญครับ เพราะถึงนิยายจะดีแค่ไหน ถ้าไม่มีคนรู้ ไม่มีคนอ่าน มันก็ไม่ต่างกัน ดังนั้นควรใช้แต่พอดีให้มันสมดุลทั้งการตลาดและศิลปะ

"การตลาดอย่างเดียวไม่ยั่งยืน"
"ศิลปะอย่างเดียวไม่เป็นที่รู้จัก"
"ต้องอย่างละ 50/50 ที่ทั้งยั่งยืนและเป็นที่รู้จัก"

0
Cammy 16 ธ.ค. 57 เวลา 13:06 น. 8

ผมขอยกเรื่องการ์ตูน

การ์ตูนที่หลายคนอวยมากๆ อวยว่าเป็นอนิเมะแห่งปี เนื้อเรื่องสุดยอด   และเป็นแผนการดันการ์ตูนที่ชอบให้ได้รับความนิยมมากขึ้น

การอวยนั้นไม่ผิด ตัวการ์ตูนนั้นไม่ผิด แต่สำหรับบางคนแล้วมันเกิดความหมั่นไส้ การอวย ส่งผลไม่อยากดูการ์ตูนเรื่องนั้นๆ เพราะดูแล้วไม่สมกับที่อวยเอาไว้ ไม่เห็นดีตรงไหน

0
Mr.Saka 16 ธ.ค. 57 เวลา 13:16 น. 9

ถ้าเป็นการปั่นจริง ๆ มันก็ไม่ดีนั่นแหละครับ

แต่บอกตามตรงเรื่องที่เป็นดราม่าอันดับหนึ่งในตอนนี้ผมก็ยังไม่ค่อยแน่ใจว่าเขาปั่นยอดวิวหรือเปล่า

ถ้าใครจำได้ช่วงปลายปี 55 - ต้นปี 56 เป็นช่วงที่นิยายหมวดแฟนตาซีร้อนแรงมากครับ (จำได้แม่นเพราะผมคือหนึ่งในสมาชิกที่มีโอกาสเข้าไปฟาดฟันอยู่อันดับต้น ๆ กับเขาด้วยครับ 555+)

ช่วงนั้นถ้าจำไม่ผิด ยุทธภพ กับ pangear อัพทุกวันภารกิจลับก็เนื้อหากำลังไคลแมกซ์ Monster Soul เดือนหนึ่งก็อัพเป็นสิบตอน คนแต่ง JOQ ก็ยังไม่ดอง เฟทผู้แต่งก็ขยันมาก Dream ยังไม่รีไรท์จนแทบจะกลายเป็นนิยายคนละเรื่อง ราชันศาสตราก็ดาร์คได้ใจ ฯลฯ (มีอีกเพียบ)

ช่วงนั้นแข่งขันกันด้วยความขยันและเข็นผลงานคุณภาพออกมาถี่มากครับ นิยายผมก็ลงสัปดาห์ละ 2-3 ตอน สมัยนั้นครึ่งเดือนยอดวิวแสนอัพนี่เรื่องธรรมดากันเลยทีเดียว ยอดวิวสองสามหมื่นอย่างนิยายผมตอนนี้ไม่ติดหน้าแรกด้วยซ้ำ

มันเป็นการแข่งขันกันที่ความขยันและคุณภาพผลงานที่ออกมาดีเยี่ยมกันทุกเรื่องครับ แต่ก็อย่างว่าปัจจุบันนักเขียนหลัก ๆ ติดธุระมั่งลงกันได้ช้าลง บางรายก็ดองงานจนหายหน้าหายตากันไปทำให้หมวดแฟนตาซีไม่ร้อนแรงเหมือนเดิม...

ที่จริงมีนิยายเรื่องใหม่มากระตุ้นนักอ่านให้กลับมาคึกคักเหมือนสมัยก่อนนี่ผมดีใจครับ ดังนั้นอย่าเพิ่งกล่าวหากันว่าใครปั่นยอดวิวเลยครับ สำหรับนักแต่งแค่รักษาคุณภาพผลงานให้ได้คงที่ทุกตอนก็มีแรงกดดันมากเกินพออยู่แล้วครับ

ใจเย็น ๆ ค่อย ๆ ดูกันไปถ้าปั่นจริงไม่กี่เดือนคนอ่านก็หายครับ

0
originalBlueSin 16 ธ.ค. 57 เวลา 14:00 น. 10
จาก ความเห็นของคุณ Note ได้มีการตรวจสอบแล้วไม่พบว่ามีการปั่นวิวอย่างผิดปกตินะครับ เพียงแต่มีการซื้อโฆษณาและประชาสัมพันธ์ในเว็บต่าง ๆ หลายเว็บทำให้มียอดวิวเยอะเป็นพิเศษ

ผมคาดเดาว่าเดือนหน้ายอดวิวก็น่าจะลดลงเพราะคนที่อ่านแล้วเห็นว่าไม่สนุกงานไม่ดีก็คงไม่ได้ติดตามต่อ จะเหลือหลัก ๆ ก็คือคนที่ชอบงานนั้นจริง ๆ 

ในกระทู้ก่อน ๆ ผมไม่ได้พูดถึงเรื่องการปั่นวิวเท่าไรเพราะมันเป็นเรื่องที่พิสูจน์ได้ยาก แต่ก็ได้เห็นถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นจริงเพราะรูปแบบการขึ้นอันดับหนึ่งของนิยายในเว็บเด็กดีมักจะไม่เกิดขึ้นในลักษณะนี้

ท่านที่อยากให้นิยายขึ้นอันดับหนึ่งต่อจากนี้ก็ลองซื้อโฆษณากันดูนะครับ
0
K.W.E. 16 ธ.ค. 57 เวลา 14:11 น. 11

ซื้อโฆษณาในช่องทางอื่น...


สรุปคือจ่ายเงินให้คนอื่นไปหาวิธีปั่นนิยายได้ว่างั้น...
ถ้าเป็นงั้นจริงก็สิ้นหวังกับระบบจัด Rank ใน dek-d แล้วล่ะครับ ถ้าเงินมันทำได้มากกว่าฝีมือจริง หน้าใหม่นี่หมดสิทธิ์เกิดชัวร์ๆ

ลำพังเดิมทีโอกาสเกิดด้วยฝีมือก็น้อยอยู่แล้วแท้ๆ ยังต้องแข่งกับเงินอีกก็ไม่เหลืออะไรล่ะงานนี้

0
Sarttawalee 16 ธ.ค. 57 เวลา 14:26 น. 12

เดี๋ยวนะ แต่เขาบอกไม่ได้หวังอะไรกับนิยายที่เขียน ทำเป็นแค่งานอดิเรกไม่ใช่รึ?

แล้วผู้รู้ของท่าน ผู้รู้ด้านไหนกัน ด้านธุรกิจ?

ที่อ่านๆ มา เขาไปลงโฆษณา เสียเงินเพื่อให้คนรู้จักงานตัวเอง?

หรือมันเป็นยังไงแน่โปรดสรุปให้ข้าพเจ้าเข้าใจเขาทีเถอะ

จขกท พูดมาถูกในส่วนหนึ่ง ส่วนที่หากเจ้าของเรื่องนั้นยอมรับโดยตรงว่าทำไปเพื่อธุรกิจ แต่เขาไม่ได้พูดว่าอย่างนั้นเลย อะไรของเขา(วะ?)

0
ชัยยา 16 ธ.ค. 57 เวลา 14:42 น. 13

ขอออกความเห็นสักนิด 

ถ้าพูดถึงการโฆษณา เช่น 
- ขายอาหาร มีการจ้างพีอาร์ มีของฟรีให้ชิม มีร้องเรียกตะโกนเชื้อเชิญ...นี่ โฆษณา 
- ขายหนังสือ มีออกบูธ แปะหน้าปก อวยเนื้อหา ร้องเรียกเชื้อเชิญ...นี่โฆษณา 

ทำกันแบบเปิดเผย จะแจ้ง ตรงไปตรงมา 

แต่กรณีปั่นยอดวิว ผมรู้สึกเหมือนกับการที่เราตีตั๋วเข้าไปดูหนัง ตอนเลือกที่นั่งเราก็เห็นว่า อู้หู คนจองเต็มเลย เก้าอี้แทบไม่ว่าง หนังเรื่องนี้ต้องดีแน่ๆ แต่พอเข้าไปนั่งในโรง...เห็นคนนั่งกันเต็มพรืด พอลองมองให้ดีกลับพบว่า เก้าอี้หลายแถวไม่ใช่คนจริง แต่เป็นหุ่น  ถ้ามีแถวๆ หน้าก็โอเค แต่ถ้าหุ่นเยอะเกินจนมานั่งข้างๆ เรานี่...? 

ก็คงรู้สึกแปลกๆ เหมือนถูกหักหลัง เหมือนถูกหลอกให้เข้ามาดู โดยที่ยังไม่ต้องพิจารณาถึงเนื้อหาหนังที่กำลังจะดู เราก็รู้สึกไม่ดีแล้วไม่มากก็น้อย 

อีกอย่าง ผมว่า งานที่อัพลงกันในเว็บ มันมีบรรยากาศแบบอบอุ่นระหว่างคนเขียนกับแฟนคลับ ไม่เห็นต้องฟาดฟันกันถึงขั้นปั๊มยอดวิวอะไรกันเลย ถ้าอยากพิสูจน์ฝีมือจริงๆ น่าจะฟาดฟันในสนามนักเขียนข้างนอกนะ คือ เขียนส่งเวทีประกวดและสำนักพิมพ์  แล้วพอพิมพ์เป็นเล่มหรือเป็นอีบุ๊กก็ตาม ก็ไปทำการตลาด โฆษณา วางแผนเดินกุลยุทธ์อะไรกันตรงนั้น

แต่ที่พูดมาทั้งหมดนี้ ไม่ได้แอนตี้ต่อต้านการปั๊มยอดวิวครับ แค่ออกความเห็นเฉยๆ ในฐานะคนเขียนที่...ติดต่อกับคนอ่านแบบอบอุ่น นับถือกันฉันพี่น้อง แฮ่~

0
Death With Love 16 ธ.ค. 57 เวลา 15:01 น. 14

ถ้าจริงตามนี้ และปล่อยให้เกิดขึ้นได้ เพราะมันไม่ผิดกฎกติกา
การจัดอันดับนิยายของ DeK-D ก็จะไม่สะท้อนความเป็นจริงของความนิยม
แต่เป็นการทุ่มโฆษณาและทำการตลาดของนักเขียน

ไม่ว่าธุรกิจอะไรก็ล้วนแล้วแต่ต้องมีการโฆษณา
แต่ถ้าถึงระดับซื้อโฆษณาและช่องทางเผยแพร่ เพื่อให้งานเขียนเป็นที่รู้จัก
ก็เท่ากับว่า "ใครทุ่มกำลังทรัพย์ได้มากกว่ากัน"
แน่นอนบางคน ก็จะไปถอนทุนคืนหากปั่นกระแสจนสนพ.นำเรื่องไปตีพิมพ์

แหม ดีจัง ต่อไปสนพ. ก็ไม่ต้องทำการตลาดแล้ว
นักเขียนบางคนพร้อมที่ทำให้แทน ทำให้ตัวเองขึ้นเป็นอันดับหนึ่ง

0
เทพอสูรปลาผัด 16 ธ.ค. 57 เวลา 15:12 น. 15

การตลาดก็คือสงครามนี่แหละครับ มีคนบอกว่า สงครามไม่หน่ายอุบาย มันเป็นข้อเท็จจริงครับ 

ยกตัวอย่างนะครับ จอมยุทธ์ฝึกปรือวิชาหมัดมวยมา 20 ปี ต่อสู้กับ มือปืนคนหนึ่ง ที่เพิ่งหัดยิงปืนได้ไม่ถึงเดือน ความยุติธรรมระหว่างสองคนนี้อยู่ที่ไหน...

มันไม่มีหรอกครับ แต่สิ่งที่แตกต่างระหว่างสองคนนี้ คือ

ศักดิ์ศรี

ครับ
0
Death With Love 16 ธ.ค. 57 เวลา 15:17 น. 16

จากคำถามของจขกท. ผมว่ามันเป็นคนละเรื่องนะครับ
ไม่เถียงว่าทุกอย่างต้องมีการโฆษณา แต่มันทั้งตามกฎและแหกกฎ และเพื่ออะไร

หากมองจุดประสงค์ของการจัดอันดับนิยายของ DeK-D
ก็คงเป็นตัวสะท้อนของความสนุก กระแสความนิยมให้กับนักเขียนและนักอ่านทุกคน มิใช่ขององค์กรหรือใครบางคนใช้เป็นเครื่องมือเพื่อหวังผลประโยชน์บางอย่าง

ถ้าปล่อยให้มีการปั่นเพื่อขึ้นสู่จุดสูงสุดได้
ถ้าไม่เดือดร้อนคนอื่น ก็อาจจะถือว่าเป็นการเห็นตัวและแค่เสียมายาท
แต่ในกรณีการจัดอันดับงานเขียน มันเดือดร้อนนักเขียนคนอื่นๆ ที่เข้าแข่งขันกันอย่างยุติธรรม

แต่ดูเหมือนทาง DeK-D จะบอกว่าปั่นได้ไม่ผิดแล้วใช่ไหมครับ
ต่อไปเราอาจจะเห็นนักเขียน(บางคน)ทุ่มกำลังทรัพย์โหมโฆษณาทุกช่องทาง เพื่อความเป็นอันดับ1

ผมนี้ถึงกับพูดอะไรไม่ออกเหมือนกัน...

0
originalBlueSin 16 ธ.ค. 57 เวลา 15:54 น. 17

จริง ๆ ถ้ามีคนปั่นวิวกันสัก 10 เรื่องนี่หน้าแรกไม่มีเหลือเลยนะครับ ทางคุณ Note ออกมาพูดชัดเจนขนาดนั้นแล้วผมก็ไม่รู้จะพูดอะไรต่อเหมือนกันครับ คือเห็น ๆ ว่ามันน่าสงสัยแต่มันไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนจริง ๆ นอกจากความผิดปกติ

0
venus121 16 ธ.ค. 57 เวลา 18:01 น. 18


ขอตอบแบบส่วนตัวนะคะ เพราะเคยทำงานPR

ถ้าในเรื่องธุรกิจ การค้ายอดกราฟจะมาลักษณะระฆังคว่ำ คือเปิดตัวจากศูนย์ไปร้อยในเวลารวดเร็ว แล้วยอดก็จะค่อยๆต่ำลง เพราะเริ่มมีการก๊อปปี้ไอเดียกันเกิดขึ้น

แต่ในมุมของงานเขียน มันต้องมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีฐานแฟนคลับ ถ้าคุณปั๊มวิว สมมุติว่านิยายคุณได้ตีพิมพ์จริง แล้วจะขายใครหล่ะค่ะ ก็เป็นตัวเราเองทั้งนั้น ไม่ต้องรอให้คนอื่นมาก๊อปปี้หรอกค่ะ ตายตั้งแต่ยังไม่เริ่มแล้ว



0
น้ำมนตร์ทอง [Zom13ii de RaMill] 16 ธ.ค. 57 เวลา 20:06 น. 19
ขอออกตัว (อีกครั้ง) ว่าไม่สันทัดเรื่องไอที เลยขอพูดในแง่ของการโฆษณาล่ะกันค่ะ (อาจารย์ขาหนูจะได้ใช้วิชาที่อาจารย์ถ่ายทอดมาแล้วค่ะ ฮา) 
หลายท่านอาจจะเคยได้ยินคำว่า Half Truth ถึงจะไม่เคยก็น่าจะเข้าใจได้ทันทีเพราะมันแปลตรงตัวเลยคือ ความจริงเพียงครึ่งเดียว กึ่งๆ เป็นการเสียดสีการโฆษณาภายใต้หลักการที่ว่า 
"สิ่งที่ปรากฏในโฆษณาจะต้องเป็นความจริงทั้งหมด แต่ความจริงทั้งหมดไม่ได้อยู่ในโฆษณา"
ก็ถ้าเปรียบนิยายเป็นสินค้าของคุณ เว็บเด็กดีก็คือสื่อ และหน้าเว็บเผยแพร่นิยายก็คือตัวโฆษณา เอาล่ะ ทีนี้มาดูกันว่าโฆษณาของคุณเข้าหลักการนี้ไหม สิ่งที่อยู่ในโฆษณาของคุณเป็นความจริงทั้งหมดหรือเปล่าล่ะคะ ^^ // ยิ้มใสซื่อ (?)

อีกเรื่องหนึ่งคือในบรรดา 4P สินค้าหรือ product (นิยาย) เป็นตัวที่สำคัญที่สุด เพราะไม่ว่าการตลาดของคุณจะดีเลิศแค่ไหนแต่ถ้าสินค้าไม่ได้คุณภาพตามความคาดหวังที่คุณส่งสารถึงกลุ่มเป้าหมาย คนเหล่านั้นก็จะเลิกใช้สินค้าของคุณแล้วหันไปหาแบรนด์อื่น (นิยายเรื่องอื่นๆ ) เพราะว่าคุณไม่ใช่สินค้าเจ้าเดียวในตลาดที่เราต้องง้อ 
^^ // ยิ้มปิดท้าย แอบกลัวตัวเองเบาๆ 555
0