เมื่อเราถูกคณะกรรมการสอบ 7 วิชาสามัญซ้ำเติม !!!!
ตั้งกระทู้ใหม่
มันทำให้เรารู้สึกเสียสุขภาพจิตอย่างมาก และทำให้สมาธิของเราแตกกระเจิงก่อนเข้าห้องสอบ
เราทนไม่ได้ จึงต้องการที่ร้องเรียนไปที่ สทศ. แต่ปรากฏว่าไม่ได้รับความสนใจจาก สทศ. เลยแม้แต่น้อย
เราจึงต้องมาโพสต์ที่เว็บบอร์ดของเด็กดี เพื่อเป็นการระบายและตำหนิพฤติกรรมนี้
นี่เป็นหลักฐานที่เราพยายามจะขอความช่วยเหลือ เพื่อร้องเรียน จากเพจของ สทศ.
แต่ไม่มีการตอบรับใดๆ เลย เราก็จะไม่ทนแล้ว
เรื่องมีอยู่ว่า วันที่ 18 ม.ค. 58 หรือวันสอบที่ 2 นั่นเอง
เรากำลังจะเข้าไปที่ห้องสอบ แต่พบว่าเราลืมถุงดินสอ ปากกา ยางลบ ในนั้นมีบัตร ปชช. และบัตรประจำตัวผู้สอบด้วย
ตอนนั้นเรากระวนกระวาย ทำอะไรแทบไม่ถูก เหลือเวลาอีกประมาณ 8 นาที ก่อนเข้าห้องสอบ
เราเลยไปถามกรรมการคุมสอบ ท่านก็ให้ไปสอบถามที่กองกำนวยการสอบ
เราก็วิ่งหาอย่างใหญ่เลยค่ะ พอถึงกองกำนวยการก็เหลือเวลาไม่ถึง 5 นาที
เราก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้กรรมการฟัง ว่าเราลืม ไม่ได้เอาอะไรมาเลย
ขณะนั้นเอง "ตุ่ง ตุ้ง ตุ้ง ถึงเวลาทำข้อสอบ..." เฮ้ย! เรานี่แทบสติแตก
แต่คณะกรรมการที่กองกำอวยการกลับมาซ้ำเติมเราว่า...
"สอบมาตั้งกี่ครั้งแล้วยังลืมอีก" "ถ้าไม่ได้เอาอะไรมา แล้วจะได้อะไรกลับไป"
เรารู้สึกแย่หนักกว่าเดิมทีได้ยินคำพูดนี่จากปากกรรมการ
ในสถานการณ์ที่คับขันขนาดนี้ จนได้เวลาทำข้อสอบแล้ว
แทนที่กรรมการจะเอาเวลามาช่วยเราแก้ปัญหาตามวิธีการของ สทศ.
แต่กลับเอาเวลามาซ้ำเติมเราให้แย่ลงไปอีก แบบนี้มันไม่สมควรแล้ว
ถ้ากรรมการว่าเราตอนหลังสอบหรือสอบเสร็จ เราก็จะยอมรับ
แต่มาพูดตอนก่อนเราเข้าห้องสอบแบบนี้ เรารับไม่ได้
ถึงเราจะผิด แต่คณะกรรมการก็ไม่ควรทำแบบนี้
ท่านควรจะพิจารณาสถานการณ์ก่อนว่าควรจะทำอะไร ไม่ใช่อะไรๆ ก็ตำหนิเด็กไว้ก่อน
เหตุการณ์นี้ทำให้สมาธิเราแตกกระเจิงขึ้นไปอีก เราไม่พอใจกับพฤติกรรมนี้อย่างมาก
เพราะช่วงการสอบเป็นอะไรที่ทำให้คนมีความรู้สึกอ่อนไหวกว่าปกติ แค่คำพูดพวกนี้เราก็รู้สึกเสียใจได้ค่ะ
ต่อค่ะ...หลังจากที่เราถูกตำหนิไปแล้ว กรรมการคนอื่นไม่ใช่คนที่ตำหนิ ก็มาช่วยเราบอกว่า ให้ใช้บัตรอื่นที่มีรูปออกโดยทางราชการแทนได้เลย เราก็ขอบคุณค่ะ
แต่ เฮ้ย!! ทำไมไม่บอกเราตั้งแต่แรกจะได้ไม่ต้องเสียเวลา ถ้าเอาเวลาที่ตำหนิเรามาช่วยแก้ปัญหามันก็จบแล้ว คือ เราต้องไปซื้อดินสอ ยางลบ จาก 7-11 ต่อไง(แถวนั้นไม่มีคนมาตั้งของขายเลยค่ะ) แล้วต้องวิ่งไปเข้าห้องสอบอีก สรุปเราเข้าห้องสอบช้าไป 7 นาที
แต่ที่แน่ๆ ตอนนั้นเราฟุ้งซ่านแล้วค่ะ ส่วนคำพูดนั้นก็ตามมาหลอกหลอนเราอยู่ตลอดเวลา แม้กระทั่งตอนสอบเสร็จ
สรุปนะคะ
1.คณะกรรมการควรจะพิจารณาสถานการณ์ว่าควรทำสิ่งใดก่อน จึงเหมาะสม
2.ดิฉันต้องการจะร้องเรียน สทศ. ให้ตรวจสอบและพิจารณาพฤติกรรมนี้ว่าเหมาะสมแล้วหรือที่คณะกรรมการจะตำหนิและซ้ำเติมเด็ก
3.การกระทำทุกสิ่ง แม้ท่านอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยนั้นมีผลกระทบโดยตรงต่อความรู้สึกและอนาคตเด็กได้ค่ะ
4.ดิฉันไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกกับคนอื่น จึงอยากให้ สทศ. พิจารณาและนำไปปรับปรุงแก้ไขค่ะ
5.ท่านสามารถตำหนิเราได้ เราก็สามารถตำหนิท่านได้เช่นกัน ดังนั้น สทศ. ช่วยรับฟังเรื่องร้องเรียนจากเด็กด้วยนะคะ
ขอขอบคุณทุกนะคะ ที่เข้ามาอ่านเรื่องของเราค่ะ
ปล. สนามสอบโรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย (บอกเอาไว้เผื่อ สทศ. นำไปพิจารณาค่ะ)
437 ความคิดเห็น
เเค่คำพูดเเค่นี้ยังรับไม่ได้ต่อไปในอนาคตจะอยุ่ในสังคมได้อย่างไรค่ะ
ผมก็โดนคับ!
ขนาดผ้าเช็ดหน้าก็ไม่ให้ผมเอาเข้าไปผมนั่งทำข้อสอบพรางน้ำมูกไหล ไม่ทีแม้กระทั่งผ้าเช็ดหน้าจะเช็ด เงินแบงค์ในกระเป๋าก็ให้แผ่ออกให้ดู คือผมต้องการแค่ผ้าเช็ดหน้าของผมอ่าคับ ช่วยยยยด้วยยยย
ในเมื่อเรื่องนี้เป็นความผิดของคุณ คุณก็สมควรถูกตำหนิสิคะ คุณไม่เช็คของให้ดีเอง ในการสอบแบบนั้นต้องมีการเตรียมพร้อมเสมอนะคะ คุณลืมหรือไม่ได้เช็คของก่อนผิดไหม ผิดค่ะ แต่คงไม่มีใครว่าอะไรคุณถ้าคุณไม่ตั้งกระทู้แบบนี้ เป็นเราเราก็จะตำหนิคุณค่ะ เป็นใครๆก็ตำหนิ คุณจะบอกว่าเหมือนถูกแช่ง กังวล เสียกำลังใจอะไรก็แล้วแต่ คุณจะอ่อนไหวไปไหมคะ โตๆป่านนี้แล้วคุณยังเก็บเรื่องพวกนั้นมาใส่ใจคิดเล็กคิดน้อยอีกหรือคะ ถ้าเราเป็นสทศ.เราไม่สนใจเรื่องปัญญาอ่อนที่คุณมาร้องเรียนหรอกค่ะ ถ้าเรื่องแค่นี้รับไม่ได้จะใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้ยังไงคะ
เค้าว่าแค่นั้นคิดมากขนาดนี้เลยหรอค่ะ
อย่างน้อง เค้าก้ยังบอกน่ะว่าใช้บัตรอาไรก้ได้ที่
มีรูปเรา แสดงตนว่าเรา เป็นเจ้าของ
อคติ กะคณะกรรมการหรือเปล่าค่ะ
เราว่าผิดสุดคือ จขกท. เอาจริงๆนะ ไม่ว่าผู้ใหญ่กี่คนก็พูดแบบนี้หมดแหละ จะมีซักกี่คนที่จะพูดว่า "ใจเย็นๆนะหนู เดี๋ยวครูช่วยหาให้" ไม่มีหรอก ทั้งๆที่คุณรู้ว่าเป็นการสอบสำคัญแต่คุณก็ดันไม่ตรวจสอบสิ่งที่เอามา ครูพูดเพราะเป็นห่วงมากกว่าเราว่าไม่ค่อยแรงซักเท่าไหร่ ไม่ใช่เราไม่เห็นใจ จขกท.หรอกนะ แต่ถ้าคุณรับเรื่องแบบนี้ไม่ได้ คุณก็เป็นผู้ใหญ่ไม่ได้หรอก
ปล.แต่เราก็เคยโดน ตอนนั้นเราเดินไปถามครูคุมสอบว่าใส่รองเท้าเข้าห้องได้มั้ย? ครูตอบมาเสียงยังกับแมลงหวี่เราเลยถามไปอีกรอบ เลยโดนสวนกลับมาว่า "ก็บอกแล้วไงคะ ว่าใส่ได้ หูหนวกเป็นคนแก่หรอกคะถึงไม่ได้ยิน" แค่นั้นแหละ เราสตั้นเลย แต่เราก็ขก.เถียงแกเพราะทั้งห้องเราอายุมากที่สุด เดี๋ยวถูกมองว่าไม่ดี ถถถ
เราก็เจอคือเราอ่ะเข้าห้องตอนที่เค้าบอกให้เข้าได้แต่ห้ามเปิดข้อสอบ คือเราอ่ะลืมปากกาอันนี้ลืมจริงๆ พอไปนั่งปุ๊ปนึกได้ แล้วครูเดินมาที่โต๊ะพอดีเลยขออนุญาติออกไปเอา (แต่ตอนนั้นยังไม่ได้เริ่มสอบนะ) ครูเค้าบอกเราว่า นี่ไม่ได้เอาไรมาเลยหรอ ทั้งๆที่มือของเค้าก็จับดินสอกะยางลบเรา แล้วครูอีกคนเค้าให้เรายืมปากกา คือเรารู้ว่าเราอ่ะผิดจริงที่ลืมเอง แล้วเราแค่ลองขออนุญาติถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่คือครูเค้าพูดแบบ เหมือนเรานี่ไม่ได้เอาไรมาเลย ทั้งๆที่เราอ่ะแค่ลืมปากกา
ผมเป็นกรรมการสอบคงไม่บ่นให้เสียใจหรอกครับไม่ตอบอะไรด้วย ในเมื่อเอกสารที่จำเป็นต้องใช้ก็ระบุชัดเจนอยู่คิดไม่ได้จนสายเกินเวลาเข้าห้องสอบก็เรื่องของคุณ
เด็กสมัยนี้ไมมันบอบบางจังวะ เรื่องของตัวเองอนาคตตัวเองยังให้ความสำคัญไม่ได้
ควรจะรอบคอบกว่านี้นะคะ พวกดินสอ ปากกา บัตรประจำตัว อะไรพวกนี้เป็นสิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้เลย ทำไมถึงลืมได้อ่ะ-0- โดนว่ามาก็ถูกเเล้ว เธอเเค่กลัวว่าจะเข้าห้องสอบไม่ทันเฉยๆ ถ้าเธอไปหาเร็วกว่านี้ก็คงจะไม่รู้สึกอะไรใช่ป่ะล้า เเต่มันก็เพราะความสะเพร่าของเธอเองอ่ะเเหละ เรานี่เช็กเเล้วเช็กอีก นั่งรถก็เช็ก ไปถึงเเล้วก็เช็ก เธอควรรับเรื่องแบบนี้ให้ได้นะ เพราะมันไม่ใช่ความผิดคนอื่นเลยอ่ะ
ผู้ปกครองของเด็กคนนี้พิจรณาตัวเองด่วน
เบื่๊อเบื่อ ชีวิตดี๊ดี
จขกท. ผิดเต็มๆเลย
คำว่า "ลืม" มันเป็นเหมือนข้ออ้างมากกว่า มันเป็นคำที่แสดงถึงความไม่รับผิดชอบ จริงๆคือ คุณต้องตรวจเช็คอุปกรณ์ของคุณตั้งแต่คืนก่อนสอบหรือเปล่า ไม่ใช่ตื่นมา แบกเป้ ไปสนามสอบ กว่าจะมารู้ตัวอีกที เป็นยังไงล่ะ
ไม่ได้จะซ้ำเติมค่ะ แต่ที่คณะกรรมการเขาทำ เรามองว่า เหมาะสมมมาก หลายๆความคิดเห็นบอกไปแล้ว ถ้าไม่บอกตอนนั้นจะบอกตอนไหน
อีกอย่าง คุณน่าจะเป็นเด็กมอปลาย ซึ่งเดาว่าผ่านมาหลายสนามสอบแล้ว ควรรอบคอบกว่านี้ ให้เรื่องนี้เป็นบทเรียนเถอะค่ะ
คุณยิ่งโตไป ความรับผิดชอบในมือคุณมันจะยิ่งมากขึ้นทั้งเรื่องหน้าที่การงาน ครอบครัว นี่ขนาดแค่ไปสอบนะคุณยังเลินเล่อได้ถึงขนาดนี้ ในอนาคตหากคุณเกิด "ลิม" ในสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าบัตร ปชช. กับกระเป๋าดินสอ ถึงวันนั้นคุณจะมาโวยวายกับใคร
ดีนะ ที่คนส่วนใหญ่ในสังคมพออ่านเรื่องนี้แล้ว ยังสามารถบอกได้ว่า ใครทำหน้าที่ของตนดีแล้ว ใครบกพร่องในหน้าที่ ไม่ใช่เอะอะ อะไรก็เข้าข้าง คนผิดเอาไว้ก่อน เพียงเพราะ เขาเป็นเด็ก เขาต้องการกำลังใจ เขาจะสอบต้องการสมาธิอย่าทำอะไรรบกวนจิตใจก่อนสอบ ไม่เช่นนั้น จะทำให้สอบไม่ได้ ทำลายอนาคตของคนสอบไปตลอด เอาเป็นว่า เราทุกคนทำหน้าที่ให้ดีที่สุด รู้หน้าที่ รู้เวลา และรู้จักการให้เกียรติกัน แค่นี้ ผมว่าปัญหาแบบนี้ คงไม่เกิด นะครับ
ที่เค้าให้ไปกองอำนวยการเป็นการรีเช็คว่าบัตรที่มีอยฝุ่ตอนนั้นสามารถใช้ได้จริง เพราะกรรมการคุมห้องสอบอาจไม่มีอำนาจพอที่จะตัดสินใจในจุดนี้ได้ เผื่อว่าถ้ากรรมการคนอื่นมาว่าก้จะได้มีข้อตอบไปได้งี้
คนเราเวลาทำผิด มักไม่ค่อยโทษตัวเองหรอก ชอบโทษคนอื่นก่อนเสมอ จะด้วยเหตุผลอะไรนั่นคือเธอผิดนั่นละเด็กน้อย แล้วไม่ต้องไปร้องเรียนหรอกนะ อายเค้าเปล่าๆเพราะตัวเองไม่รอบคอบเอง สรุปก็ได้สอบไม่ใช่หรอ ต้องการอะไรอีก จำไว้เป็นบทเรียนว่าเตรียมของให้พร้อมก่อนนอน ว่าต้องใช้อะไรบ้างในวันรุ่งขึ้น
เราว่าถ้าเธออ่าน กำหนดการการสอบก็รู้นะว่าต้องเตรียมสิ่งใดมา และตอนสอบนะเค้าให้ห้ามเข้าห้องสอบหลัง 30 นาทีได้ เราว่าตอนนั้นเธอน่าจะโทรหาผู้ปกครองให้นำบัตรทางราชการที่ใช้ได้มา แต่เราว่า อ. เค้าก็ผิดอยู่นะที่ไม่ช่วยนักเรียน นะเขาน่าจะแบบเออ ด่าเราไว้ก่อนแล้วแนะนำ วิธีการกับเรา นั้ ละคือครูที่ดี แต่ที่สุดแล้วเธอคือ สะเพร่า!! -v- ขอแนะนะว่าเวลาไปสอบอะเตรียนของสำรองที่อย่างควรเอาไป คือ เอาของอีกชุกเก็บไว้กับกระเป๋าเราหรืออีกที 1 เพื่อความสบายใจ อันนี้เราเข้าใจเวลาเราคิดอะไรไม่ออกก็เป็นแบบนี้ แหละ ตอนเราเข้าห้องสอบก็แอบแววมาดูห้องสอบ ถูกบ้าง บัตรละ ดินสอ ละ และของที่ต้องใช่ก็เข้าห้องสอบ เหมือนคนบ้าเลยแหละตอน สอบ
ออกสนามรบแต่ลืมอาวุธมันจะรบชนะได้ยังไง
สรุป มาโพสต์ให้คนอื่นรู้ว่าตัวเองหน่ะโง่
คำว่า"เด็ก" ไม่ได้หมายความว่าจะทำอะไรก็ได้ เดี๋ยวก็มีคนเห็นใจนะครับ
ในความคิดของผม ผมว่าน้องนั่นแหละผิด และไม่แปลกตรงไหนที่จะโดนว่า แล้วจากที่น้องเล่า เจ้าหน้าที่ก็บอกกับน้องแค่ประโยคเดียว ไม่ได้มาด่ามาว่าจนเสียเวลาเป็นชั่วโมงๆซะหน่อย
ถ้าแค่ประโยคนั่นน้องยังรับไม่ได้ ผมบอกเลยว่าคงจะอยู่ในมหาลัยยาก เพราะระดับมหาลัยไม่ใช่ที่สำหรับ "เด็ก" ไหนจะมีห้องเชียร์ รับน้อง พี่ว้าก อาจารย์สั่งสอน ฝึกงาน สารพัดสิ่งที่แสนจะจี้ใจ
น้องกำลังจะเข้าสู่รั้วมหาลัยแล้วนะครับ เลิกบอกตัวเองเป็นเด็ก จะเอานู่นจะเอานี่ ไม่ได้ดั่งใจ ก็บอกว่าหนูเด็กอยู่นะ ไม่ผิดนะ ผู้ใหญ่ไม่ดีเองทำกับเด็ก บลาๆ โตๆกันแล้วเนอะ โลกนี้ไม่ได้สวยพอที่จะมีแต่คนพูดจาภาษาดอกไม้ทุกเวลาหรอกนะครับ
"สอบมาตั้งกี่ครั้งแล้วยังลืมอีก" "ถ้าไม่ได้เอาอะไรมา แล้วจะได้อะไรกลับไป" อย่างแรกเลยสติค่ะ สติ แต่แค่คำพูดแค่นี้หรอรับไม่ได้ ถ้าเป็นเราคำพูดนี้มันไม่เข้าหูหรอก จะกังวลว่าตุจะทำไงให้ได้ดินสอกะบัตรเพื่อเข้าห้องสอบได้ เหอะๆโลกนี้มันโหดร้ายกว่าที่คิดนะ ประเด็นคือลืมเอาถุงดินสอมา ถ้าเป็นเราขอยืมเพื่อนก่อนมันต้องมีดินสออย่างน้อย 2-3 แท่งล่ะ ถึงไม่รุ้จักก็จะยืมล่ะ เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงศักดิ์ศรีจ๊ ห่วงอนาคตดีกว่า ส่วนบัตรตามที่จขกท.บอกมีก็เท่านี้ไม่มีปัญหาละ ประเด็นที่สอง อ.คุมสอบตำหนิ เราควรยอมรับนะว่าเราผิดจริง แล้วคำพูดที่ อ.พูดมาเราว่าไม่ถึงขั้นรับไม่ได้นะ เราว่า จขกท. ไม่ได้ออกมาดูโลกภายนอกมากกว่านี้นะ ปล.ป้ารหัสเราเคยอยุ่ ร.ร.นี้ด้วยล่ะ ( ไม่เกี่ยว ท่ดๆ )
โลกนี้ช่างอยู่ยากก 55 แต่บอกก่อนเลยว่าพี่ก็เห็นด้วยกับที่คนอื่นๆมาโพสนะ เพราะความจริงคือน้องผิดเองที่ลืม ก่อนโทษคนอื่น เราควรโทษตนเองก่อนเสมอ เราจะไปสอบก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อม แม่พี่คอยบอกตลอดว่า ถึงเราจะมั่นใจว่าพร้อมแล้ว ทุกอย่างเรียบร้อย แต่ก็ควรตรวจทานและตรวจสอบเสมอ และจะทำอะไรควรเผื่อเวลาไว้ ถ้ามีเรื่องฉุกเฉินจะได้รับมือทัน เอาเป็นว่า เรื่องที่ผ่านมาแล้ว เก็บเอาไว้เป็นบทเรียนคอยเตือนใจตนเอง และคราวหน้าจะทำอะไรต้องรอบคอบเสมอ เป็นกำลังใจให้นะครับ
ปล. ไม่มีใครใจดีและพร้อมช่วยเหลือเราได้เท่าพ่อแม่ของเราหรอก และอย่าหวังว่าคนอื่นๆจะเหมือนพ่อแม่ของเรา สำหรับพี่แล้ว"ตนเป็นที่พึงของตน"นั่นแหล่ะดีที่สุดครับ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?