อยากระบาย ทัศนคติผู้ใหญ่ที่มีต่อคณะวิทยาศาสตร์
ตั้งกระทู้ใหม่
แต่!!!
พอคนอื่นถามผมว่าอยากเรียนอะไรผมก็ตอบกลับว่า คณะวิทยาศาสตร์ครับ
คือแบบว่าน้อยใจเลยอ่ะ
จริงอยู่ที่เมืองไทยไม่ค่อยสนับสนุนงานวิจัยมากและคนส่วนมากไม่ให้ความสำคัญเลยด้วยซ้ำ
แต่ผมชอบที่จะเรียนมัน
55 ความคิดเห็น
ผมเห็นด้วยนะครับ ผมจบ ม 6 มาละ ได้วิศวะไรก็หลายที่แต่ผมเลือกที่จะมาแอดคณะวิทยาศาสตร์ คนสวนมากชอบมองว่าคนที่เรียน คณะวิทคือพวกพลาดหมอพลาดวิศวะ แต่ไม่ใช่ผม ผมอยากเรียนเพราะชอบในวิทยาศาสตร์และรักที่จะศึกษาค้นคว้า แต่ก็เหมือนที่ จขกท บอกประเทศเราสนับสนุนด้านนี้น้อย แต่ถ้ารักก็ขอให้ทำมันให้ดีที่สุดนะครับ สู้ไปด้วยกัน คนรักวิทยาศาสตร์
สู้ๆนะครับรักเขาต่อไปและทำให้ดีที่สุดเอาใจช่วยครับ
เรียนอะไรที่เราทำได้ด ี แล้วมันจะดีเอง
แต่ถ้าเรียนอะไรที่ไม่ชอบ มันก็รุ่งริ่งหมด
อย่างที่อาจารย์เฉลิมชัย บอก
ทุกสาขามีคนเก่งที่สุด มีคนรวยที่สุด ในแต่ละอาชีพ
เพียงแต่เขาต้องมี passion กับมันอย่างอุทิศตัวเพื่องานจริงๆ
สรุปแล้ว คนที่ติดคณะที่เป็นที่นิยม แต่ผลการเรียนง่อยๆ กากๆ มันก็เป็นแค่คนธรรมดา
สรุปแล้วคุณจะเลือกทำตามศักยภาพของคุณเองที่มี หรือเลือกไปตามขี้ปากคนอื่นที่ "เขาว่าดี" ??
ถ้าชอบและรักในคณะนี้จริงๆก็ทำไปเลยจ้า และก็บอกเหตุผลกับผู้ใหญ่ด้วยนะว่าทำไมเราถึงอยากเรียนเพราะอะไรจบมาทำอะไร ค่อยๆคุยกัน พี่ว่ายังไงผู้ใหญ่ก็ต้องฟังเราบ้างแหละน้าา ลองอธิบายดู :)
สู้ๆค่ะ เป็นกำลังใจให้^^ ตอนนี้แอดวิทย์ค่ะเพราะชอบมาก
ทางบ้านไม่ค่อยแอนตี้เรื่องคณะวิทย์เท่าไร แต่แอนตี้เรื่องเรียนไกลบ้าน
รอบรับตรงโควตาก็ติดวิทย์ค่ะ สุดท้ายต้องสละสิทธิ์เพราะได้ทาง กทม.
แต่รอบแอดยังมี! อย่าท้อนะค่ะ
...ส่วนเรื่องจบมาแล้วจะทำอะไร?
บอกไปเลยค่ะ อนาคตไม่แน่นอนอาจจบมาแล้วทำงานวิจัยในบริษัท
ในโรงงานหรืออาจจะทำธุรกิจส่วนตัว(เงินเยอะกว่ามนุษย์เงินเดือน)
555
มันอยู่ที่ความชอบนะ
อย่าเก็บมาใส่ใจ ใครจะพูดยังไงก็ข่าง ในเมื่อเราชอบ
เรามีความตั้งใจที่จะเรียนคณะนี้
เราพร้อมจะอุทิศเวลาให้กับวงการวิทยาศาสตร์
ความตั้งใจที่จะเรียนในคณะนี้
สำคัญกว่าคนที่ เดินตามความคิดคนอื่นที่ว่า
ต้องวิศวะ ต้องหมอ โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าชอบจริงรึเปล่า
จขกท. รู้จักตัวเอง และมีความตั้งใจแล้วนั่นดีกว่าเยอะเลยนะ
สู้ๆจ้า
ขอตอบในฐานจะเข้าวิทย์สาขาหนึ่ง
ที่อยากเข้าอยากเป็นเพราะอยากเป็นผู้คิดค้นอะไรใหม่ๆเจ๋งๆที่จะมาพัฒนาประเทศหรือเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ (อาจดูเพ้อนะ แต่เราว่ามันไม่ใช่ มันสามารถทำได้ แต่ยังไม่มีใครมุ่งมั่น)
แล้วเราชอบวิทยาศาสตร์มาตั้งแต่เด็กๆ ยิ่งแนวคิดของนักวิทยาศาสตร์รุ่นเก่าๆแล้วยิ่งได้แรงบันดาลใจเลย ตอนนี้ก็มีอยู่
ประเทศไทย ไม่สิ สภาพแวดล้อมของสังคมต่างหาก ที่ปลูกฝังค่านิยมแปลกๆ ว่าจบคณะดังๆ จะหางาน "ง่าย"
เอาจริงๆนะ "ทุก" อาชีพนั่นแหละที่มีทั้งหาง่ายและยาก สบายและเหนื่อย แต่เอาหลักๆ เราสามารถอยู่กับอาชีพนั้นได้ก็เพราะเรามีความสุข มีความรู้สึกว่ามันคือเรา มากกว่า
คณะวิทยาศาสตร์ จบออกไปมีงานทำเยอะแยะครับ แต่ไม่ค่อยมีใครเอามาโปรโมท
แล้วทีนี้ ก็ไม่มีใครรู้เกี่ยวกับคณะนี้อย่างจริงๆจังๆ
สรุปเลยนะ บางคนก็ชอบจริงๆ บางคนก็ชอบเพราะ"เห็น"ว่าเงินดี
ส่วนน้อยล่ะครับที่ชอบด้วยใจจริงๆ บางคนๆม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร สุดท้ายก็ไหลตามน้ำ เรียกว่า "ค่านิยม"
บางประเทศที่เค้ายอมรับ และเคารพในทุกอาชีพ ไม่อิงกระแส ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก แปลกที่เค้าพัฒนาได้เร็วเหลือเกิน
ประเทศไทยนี่โชคดีนะครับที่เป็นอู่ข้าวอู่น้ำ แต่ทำไมชาวนา ประมง ชาวสวนชาวไร่ ถึงไม่รวยซักที และยิ่งเป็นหนี้อีก
เห็นชัดๆเลยว่าคนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญอย่างอื่นซะส่วนใหญ่ก็พวกอาชีพที่เห็นว่าเงินดี
คนประเทศนี้(บางส่วน ซึ่งเป็นส่วนใหญ่)จมปักอยู่กับค่าของเงินครับ
ส่วนประเทศน่ะหรอ ให้คนอื่นช่วยสิ? ตัวใครตัวมันหรอ?
วิทยาศาสตร์นั้นไม่ได้เรียกว่าหางานง่ายหรือยาก ก็เหมือนอาชีพอื่นๆ
เงินดีหรือไม่ดี ก็อยู่ที่ตัวเรา แต่หากใจรักคุณก็มีความสุขที่จะนำความรู้ไปช่วยพัฒนา ได้ใช้ชีวิตกับสิ่งที่ชอบ แค่นี้เอง
ส่วนจะทำงานอะไร ก็ตามชื่อสาขาที่เรียนน่ะแหละครับ
ทั้งหมดนี้คือ คหสต.นะครับ ใครจะคิดต่างก็ได้
//ยาวไปนิดนึง แต่อยากระบาย อยากให้รู้กันบ้าง
ผมว่าแนวโน้มในอนาคตมันจะจำเป็นมากนะ เพราะระยะหลังรัฐก็เริ่มออกมาสนับสนุนการทำวิจัยที่สามารถเอาไปลดภาษีได้เยอะเลยนะ ทุนคณะวิทย์พวก กพ.ไรพวกนี้ก็เยอะพอสมควรนะคู่แข่งก็น้อย
แต่ก็อย่างที่ว่าคณะนี้ยังไม่ค่อยมีคนที่จบมาละมาเล่าเรื่องราวของตัวเองมากสักเท่าไหร่เลยยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักไม่รู้ว่าเป็นเพราะความลับทางการค้าหรือเขาอธิบายคนไม่รู้เรื่องกันก็ไม่ทราบ55+
ตอนนี้กฎหมายเรื่องใบประกอบวิชาชีพรู้สึกว่าจะออกแล้วด้วย(บังคับใช้ตค. 2558) (1) คิดว่าน่าจะทำให้โรงงานจำเป็นต้องมีนักวิทยาศาสตร์ประจำก็ส่งผลดีต่อการหางานละหละ ส่วนสาขาไหนสอบได้บ้างส่วนใหญ่จะเป็นพวกควบคุมการผลิต(จุล,เคมี,สิ่งแวดล้อม และนิวเคลียร์)
น้องต้องตอบเค้าให้ได้ว่าจบไปทำงานอะไร ...บางทีเงินเดือนอาจจะเยอะกว่าหมอนะคับ ทำเป็นเล่นไป ...เลือกสาขาดีๆละกัน
เด็กวิดยาคนนึง
เห็นด้วยครับ สุดท้ายแล้วมันก็ตกอยู่ที่ตัวเราอยู่ดี ไปเป็นติวเตอร์ยังได้เลย เอาให้เก่งๆ
บอกพ่อแม่ไป ว่า ประเทศชาติต้องการบุคลากรทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
สายสังคมสาดคนจบเยอะแย่งงากันทำ
จบทางวิทย์นี่งานกว้างขวาง
ภาคอุตสาหกรรม ต้องการเรา
อะไรที่พัฒนาโลกเราล่ะ ก็วิทยาศาสตร์
ตามนั้นน่ะ
ความเชื่อบางอย่างก็มีส่วนจริงบ้าง แต่ไม่จริงทั้งหมด
ถ้าชอบ และรักที่จะเรียน ก็เลือกเลยค่ะ
คณะวิทย์ มีทุนให้เยอะแยะนะ ตอนจบป.ตรีน่ะ
ครอบครัวเราสวนกระแสค่ะ 555
พ่อกับพี่สาวนี่ออกตัวแรงมากว่าอยากให้เรียนคณะวิทยาศาสตร์ พ่อชอบเรื่องการค้นพบ งานวิจัยอะไรอย่างนี้ ไม่ด่าเลยตอนบอกว่าจะเรียนคณะวิทยาศาสตร์
ตอนแรกแม่ก็เฉยๆ แต่ตอนนี้ก็สนับสนุนเราด้วย
คือคะแนนเราถึงวิศวะนะ ถึงเภสัชนะ ถึงสัตวแพทย์นะ แต่เราไม่เอา เราเลือกคณะวิทยาศาสตร์แทน เพราะพี่สาวอยู่ในสายนี่แล้วรุ่งมากๆ เรียนต่อตปท.เงินเดือนเป็นแสน เขาบอกว่าต่างประเทศนี่ ใครเรียนวิทยาศาสตร์ถือว่าเจ๋งมากๆ
ญาติๆ เพื่อนบางคนก็ถามเราว่าแบบ คนเรียนดีอย่างเราทำไมไม่เลือกคณะอื่น จบไปจะไปทำอะไรนอกจากเป็นครู คณะวิทย์มันไม่รุ่งนะ เราก็แบบ ก็เราชอบอ่ะ พ่อกับแม่แล้วก็พี่สาวก็บอก ช่างคนอื่นเขา
แล้วเราก็แบบตั้งใจเลยว่า เราจะเอาดีด้านนี้แล้วจะรุ่งให้ดู 55555
เอ่อสอบถามได้ไหมคะว่าพี่สาวของพี่เรียนอะไรคะดีน้
รบกวนหน่อยค่ะ
สวัสดีจ้าน้องเจ้าของกระทู้
พี่ก็เป็นคนนึงนะที่เรียนคณะวิทยาศาสตร์
โดยส่วนตัวพี่เห็นด้วยนะคะกับคำว่าเมื่อเราโตขึ้นเราจะต้องมีมุมมองความคิดให้มากขึ้น ไม่ใช่แค่การเลือกเรียน แต่ต้องคิดไปถึงการทำงานหาเงินให้ได้พอต่อค่าครองชีพ การที่ผู้ใหญ่หลายๆท่านไม่เห็นด้วยหรือคิดว่าจบมาจากคณะนี้งานหายากเงินเดือนจะน้อย ไม่จริงเสมอไปค่ะ
คือต้องเข้าใจว่าในบางสาขาวิชาอย่างของที่พี่เรียนอยู่ คนเข้าเรียนได้กว่140 คน จบจริงงป.ตรีแค่ 30 กว่าคนเองค่ะ ยิ่งรุ่นพี่ที่จบไปก็ล้วนมีงานรองรับเพราะเป็นสายงานเฉพาะที่มีความต้องการบุคลากรสูง คนแย่งงานเราจะน้อยค่ะ
ตั้งใจเรียนดีๆ จบไปเงินเดือนหลักแสนก็อยู่ไม่ไกลหรอกค่า
พี่เป็นคนหนึ่งที่เรียนอยู่ในคณะวิทยาศาสตร์นะ มีแต่คนถามตลอดว่าจบมาทำงานอะไร วิทยาศาสตร์มันไม่ได้หางานยากขนาดนั้น ถ้าน้องไม่เลือกงาน อีกอย่าง มันก็ต้องดูด้วยว่า สาขาที่น้องเรียนมันคอสาขาอะไร วิทยาศาสตร์มันมีทั้งที่เป็นแบบเพียว หรือแบบเทคโนโลยี
วิทยาศาสตร์เป็นคณะที่มีเด็กที่พลาดหมอพลาดวิศวะมาเยอะมาก พี่พูดจริงๆ มหาลัยที่พี่เรียนอยู่ ปีหนึ่งมีจำนวนเด็กมากถึงเก้าร้อยคน แต่พอขึ้นปีสอง จะเหลือแค่หกถึงเจ็ดร้อยคนเท่านั้น มีคนซิ่วเยอะมากๆ ดังนั้น การจะบอกว่าวิทยาเป็นคณะรอซิ่วมันก็ไม่แปลก
พี่ไม่เคยคิดจะเขาวิทยาเลยนะ แต่สุดท้าย ดวงก็ทำให้โผล่มาที่นี่ และแน่ละ พี่โคตรรักคณะนี้เลย มันทำให้พี่เข้าใจชีวิตมากขึ้นเยอะ
ถ้าน้องอยากเรียนจริงๆ ก็อธิบายให้ผู้ใหญ่ท่านฟังไปเลย และพี่พูดจริงนะ งานน่ะ หาง่าย ถ้าน้องไม่เลือกมาก คนที่หางานไม่ได้สักที ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเขา "เลือก"
แอดมิชชั่น4อันดับของพี่มีคณะวิทย์2ใน4อันดับเลยนะ พี่คิดว่าถ้าเราอยากเรียนอะไรแล้วได้เรียน เรามักจะทำมันได้ดี และเมื่อทำได้ดีก็มักจะเปิดโอกาสหลายๆอย่างที่ดีตามมาโดยที่เราคาดไม่ถึงก็ได้เช่นการหางาน การเรียนต่อ การได้ทุน ฯลฯ ตอนนี้พี่ก็รอประกาศผลแอดอยู่ ถ้าพี่ติดคณะวิทย์พี่ก็พร้อมและตั้งใจที่จะเรียนให้จบ เพราะเป็นความตั้งใจของเรา ไม่ใช่การเรียนคณะนี้เพื่อรอซิ่ว พี่จะให้เกียรติคณะนี้เพราะคนส่วนใหญ่มักดูถูกว่าเป็นคณะรอซิ่ว ส่วนที่บ้านน้องก็ควรจะอธิบายด้วยเหตุผลไม่ใช้อารมณ์และหาข้อมูลของคณะนี้(จากอินเทอร์เนตก็ได้)ให้เพียงพอเพื่อที่เราจะได้นำข้อมูลไปอธิบายให้พ่อกับแม่เข้าใจเราได้
ตอนนี้สิ่งที่พี่คิด พี่มองว่าทุกอาชีพมีจุดสูงสุดของมัน
คณะวิทยาศาสตร์ก็เช่นเดียวกัน
ผู้ใหญ่หรือใครหลายคนอาจบอกว่าคณะนี้มันเป็นคณะที่หลบอยู่ในเงามืด
รู้ไหมก่อนแอดเนีย พ่อแม่หรือญาติถามเต็มเลยจบไปแล้วจะทำอะไรต่อ
หลายครั้งที่พี่พยายามหลบคำถามนั้นด้วยการบอกว่า "อนาคตไม่แน่นอนหรอก" แต่เชื่อไหมว่าก็ยังถามอยู่ดี จนพี่ทนไม่ไหวไปรวบรวมข้อมูลทั่วสารทิศไปพรีเชนต์พ่อแม่ หรือญาติ จนตอนนี้พ่อแม่สนับสนุนเต็มที่ แค่นี้พี่ก็มีกำลังใจในการเรียนต่อแล้ว อีกทั้งยังมีเพื่อนช่วยให้กำลังใจอีกต่างหาก
คำถามคือเพราะอะไรแหละ? ทำไมถึงมีแต่คนสนับสนุน
ถ้าลองวิเคราะห์ดู
ตอนแรก
พี่พยายามเลียงคำถามในมุมมองพี่ยังไม่มีการวางแผนแน่นอนแค่อยากเรียน
แตถ้ามองในมุมมองคนอื่นแล้วเขาอาจคิดว่าพี่เป็นพวกไม่แน่ไม่นอน เรียนไปไม่น่ารอด ไร้พรสวรรค์ ไม่ใช่ผู้ทรงภูมิปัญญา เพ้อฝัน ไร้สาระ
แต่พอพี่ประกาศและปักธงแน่นอน กำมือแน่นๆ ตะโกนออกไปสุดเสียง
มีข้อมูลมาพร้อมถ้าใครจะถาม มองไปข้างหน้าไม่สนใจคำพูด
เราจะดูมีความหน้าเชื่อถือ มีความมุ่งมั่น มีความใฝ่เรียนที่แท้จริง
ใครเห็นก็รู้สึกมีกำลังใจ ทั้งเราและคนอื่นๆก็รู้สึกมีกำลังใจที่จะเดินต่อไป
สรุปผลวิเคราะห์
น้องต้อง "กล้า" ที่จะก้าวต่อไป มี "ความพยายาม" สูงสุด
ลองวิเคราะห์ตัวเองดูด้วยนะครับ เพราะแต่ละคนไม่เหมือนกัน
น้องอาจต้องใช้ ปัจจัยต่างกับพี่ก็ได้ พยายามหาทางออกให้เจอ
มันคือบททดสอบแห่งชีวิต
//บอกไว้แค่นี้แหละนะ ความเห็นส่วนตัวแบบใส่อารมณ์
//เหตุที่คนมาบอกว่าไม่น่ารอดคือ นอกจากเกรดที่ไม่น่าเข้าสายวิทย์แล้ว
คะแนน GAT PAT นี้ไม่น่าจะรอด เลยสักนิด
//ถ้าติดนี้จะทุมเทให้ถึงที่สุด จะต้องเป็น "นักวิทยาศาตร์ "ให้ได้ (บรรทัดนี้อย่าสนใจเลยเพ้อฝันอยู่ ฮาๆ)
ตอบในฐานะของคนเ8ยโดนหยามนะ ปัจจุบัน ป.เอก แระ
ตอนเลือกโควต้า ไม่ลังเลเลย อันดับแรก คณะวิทยาศาสตร์ สาขาวิชาเคมี ส่วนอันดับสอง คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมเคมี -- ตอนยื่นไป เจ้าหน้าที่ถาม สลับกันหรือเปล่าคะ ? เราตอบว่า เปล่าครับ ผมชอบเคมี เลยจะเรียนเคมี ยังมีการถามย้ำด้วยนะ "แน่นอนแล้วนะคะ เปลี่ยนไม่ได้นะคะ" เราก็ตอบไปว่า ครับ (คือมีให้เลือกสองอันดับ คิดว่าติดอันแรกแน่ ๆ ส่วนอันดับสองเลือกไว้อย่างนั้นอ่ะ แบบประมาณว่า เลือกเสียมิได้)
หลังจากที่ประกาศติดโควต้าแบบชิว ๆ ไปตอน ม.6 // มีคนถามว่าเรียนอะไร ตอบเรียนเคมี มีถามกลับ วิดวะเคมีหรอ เราตอบว่า เปล่า เคมี คณะวิทยาศาสตร์ คำถามมาเลยครับ
- เรียนไปทำไม จบแล้วทำอะไร
- ทำไมไม่เรียนวิดวะ เงินเดือนดีกว่าตั้งเยอะ
- เรียนวิดวะดิ เครดิตดีกว่า
- ฯลฯ
โดนหนักมาก ๆ เข้า ตบะเริ่มแตก สวนไปเบา ๆ ว่า "ต้องการเรียนให้รู้ถึงแก่นราก ไม่ใช่เอาความรู้แค่หางอึ่งมาทำ" --- เพื่อนที่สอบติดวิดวะโกรธ ไม่คุยไปพักนึง
ยิ่งโตมา ยิ่งรู้ว่า คิดไม่ผิดที่เรียนคณะวิทยาศาสตร์
ยอมรับว่าบางครั้ง คณะนี้ จะเป็นแค่คณะรอซิ่ว
ยอมรับว่า ประเทศนี้ไม่ได้ส่งเสริมวิทยาศาสตร์อย่างจริงจัง (ย้ำว่า วิทยาศาสตร์ นะ ไม่นับรวมเทคโนโลยี)
แต่ .. ต้นกำเนิด ย่อมจะแตกหน่อ ออกผลต่อไปได้อย่างไม่มีที่สุด
ทำไมเราต้องเป็นแค่ผล หรือปลายใบ --
ทำไมไม่กำเนิดจากรากแก้ว เพื่อทำให้มั่นคงก่อนหล่ะ
ใครชอบวิทยาศาสตร์ ใครรักวิทยาศาสตร์ ผมเชียร์ครับ เลือกเลย
แต่ต้องอย่าลืมครับว่า "เด็กทุกคนอยากยิ่งใหญ่ เมิงต้องเหนื่อยมากกว่าคนอื่น เมิงต้องเรียนรู้มากกว่าคนอื่น เมิงทำความฝันเมิงด้วยใจของเมิง เมิงยอมตายที่จะทำอาชีพนี้ให้สำเร็จ ..." (อ.เฉลิมชัย กล่าวเอาไว้)
ผมชอบที่พี่พูดครับ ตอนนี้ผมเองจบม.6 รอแอดมิชชันแล้วครับ ผมใส่วิทยา เคมี ไว้เป็นอันดับ 2 จริงๆผมอยากเข้าเภสัชนะครับ แต่ผมก็สนใจวิทยาเคมีเหมือนกันครับ เลยใส่รองลงมา ตอนยื่น ผมก็โดนติงจากที่บ้านมาว่า จบมาแล้วจะมีงานทำเหรอ ประมาณนี้นะครับ คือผมดูจากคณะอื่นๆแล้วผมไม่เหมาะจริงๆ เลยมาทางนี้ แล้วผมก็เข้าใจครับว่า เราอยู่ในประเทศที่คนเชื่อเรื่อง "ไสยศาสตร์" มากกว่า "วิทยาศาสตร์"
ขอบคุณครับ -- ขอให้น้องระลึกเอาไว้ว่า ตราบเท่าที่เรามีจุดยืน จุดต่อมันจะมีของมันต่อไปเรื่อย ๆ หากไม่มีจุดยืน จะให้ทาบกิ่ง ติดตา แตกหน่อย เราก็จะไม่มีรากแก้วที่ยั่งยืนในความคิดของเรา ---
พยายามเข้าครับ เอาใจช่วย ในฐานะคนเคมี เหมือนกัน
ขอบคุณค่ะ
การเรียนระดับ ป.โท ป.เอก นี้แทบจะมีทุนมาให้เรียนกันฟรีๆ เลยแหละครับ
อยากเรียนฟิสิกส์ เลยจะต่อเอกฟิสิกส์
ติวเตอร์บอก "ดีมาก เยี่ยมเลย" // แถมเขียนอวยพรให้ด้วย
แต่.
.
.
.
พ่อแม่ถามจบมาทำงานไร ได้ตังค์ไหม...
//ความแตกต่างนี่มัน!!
ความรุสึกเด่วกันเลยค่ะ ตอนนี้ยุปี4แระ สาขาวิทย์ทั่วไป ตั้งแต่ปี1ยันถึงปัจจุบันมีแต่คนถามคำถามแบบนี้..คือแบบว่ามันก้อรุสึกน้อยใจน่ะ หาว่าเรียนไปก้อทำงานยาก จบไปก้อไม่รุจะมีงานรอรับรึป่าว.. รุสึกว่าเขาจะเดือดร้อนแทนเราจัง
แนะนำ สอบทุน พสวท ไม่ก็ทุนเรียนดีวิทยาศาสตร์เลยครับ เพราะได้เรียนถึงป.เอกเลยทีเดียว
พี่ก็ติดวิศวะ แต่พี่ชอบเรียนวิทยาศาสตร์มากกว่าเลยเลือก
อย่าไปตามเสียงนกเสียงกา ตามความฝันและความสามารถตัวเองก็พอ
ผมก็คิดจะเรียนคณะวิทยาศาสตร์ครับ ไม่คิดละ ตั้งใจว่าจะเรียนจริงๆครับ ผมตั้งใจว่าจะเรียน คณะวิทยาศาสตร์ สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ ซึ่งผมก็ได้ยินเสียงจากหลายๆคนบอกมาเหมือนกันว่า น่าจะเรียนวิศวะนะ ดูท่าทางไปรอด แต่ไม่สนใจครับ ในเมื่อผมเลือกแล้วก็จะเลือกและเดินไปให้ถึงที่สุด
และก็คำถามที่ว่าจบแล้วทำงานอะไร ผมก็ตอบไปว่า โปรแกรมเมอร์ ไม่ก็ผู้ดูแลระบบ หรือเป็นผู้วิเคราะห์ระบบคอมพิวเตอร์ก็ได้ เป็นได้เยอะ
แต่ก็ยังมีรุ่นน้องหรือไม่ก็เพื่อนมาถามอีกนะว่า ไม่ลองเรียนวิศวะดู อย่างนู้นอย่างนี้ ผมก็ตอบกลับไปว่า ผมไม่ได้เรียนตามถนัด แต่ผมเรียนตามที่ชอบ
ซึ่งผมได้มีโอกาสไปพูดคุยกับ นักศึกษา ที่เรียนอยู่คณะนี้ ก็ลองเอาไปคิดทบทวนดูแล้วว่า นี่แหละคือสิ่งที่ผมชอบ นี่แหละคือสิ่งที่ผมอยากทำ
สำหรับใครที่อยากเรียนคณะวิทยาศาสตร์ แล้วมีคนพูดอย่างนู้นอย่างงี้ แนะนำว่าไม่ต้องไปสนใจ หรือถ้าได้ยินอะไรก็ ฟังได้ แต่อย่าเก็บมาคิด
สู้ๆครับ
ไม่ต่องไปใส่ใจหรอก เราว่าดีนะ ไม่เห็นจำเป็นเลยที่เราจะต้องไปเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแต่ไม่ใช่เรา มันก็ไม่มีความสุขกับการทำงาน
แต่กลับกัน ถ้าเราเป็นในสิ่งที่ไม่ได้ดีเลิศเลอที่สุด แต่เป็นตัวเราเป็นสิ่งที่เราชอบ เราก็จะทำมันอย่างมีความสุขและทำได้ดีที่สุด สู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้^^
คณะยอดฮิตในไทยส่วนใหญ่แล้วเป็นคณะที่มีชื่อเป็นชื่ออาชีพ
เรียนจบมาเพื่อทำงานในสายอาชีพนั้นโดยตรง
เช่น วิศวกรรมศาสตร์ จบมาแล้วก็มาเป็น วิศวกร
เภสัชศาสตร์ จบแล้วมาเป็น เภสัชกร
จึงไม่แปลกหากผู้ใหญ่จะอยากให้เราเลือกเรียนในคณะเหล่านี้
เพราะพวกท่านมองว่าจบคณะเหล่านี้มายอมมีงานรองรับ ไม่ตกงานง่ายๆ
กลับมาดูที่คณะวิทย์ จบมาแล้วทำงานเป็นอะไร? นักวิทยาศาสตร์หรือ?
แล้วความก้าวหน้าทางอาชีพหล่ะมีบ้างไหม?
ต้องยอมรับว่าภาพลักษณ์ของนักวิจัยหรือนักวิทยาศาสตร์ในสายตาชาวโลก
ไม่ค่อยสวยงามนัก บ่อยครั้งที่เราได้ยินว่าจบคณะวิทย์ก็ไม่พ้นไปเป็น
นักวิจัยไส้แห้ง
ย้อนกลับมาที่ความเป็นจริง ไม่ว่าอาชีพไหนๆก็ตกงานได้ทั้งนั้น
ทุกสิ่งอย่างมันอยู่ที่ความสามารถ กับความตั้งใจของเราเองทั้งสิ้น
เพราะฉนั้นถ้าเรามีความปรารถนา มี passion ก็จงเลือกและทำมัน
ให้สุดความสามารถ ให้สมกับที่เราปรารถนา อย่าให้ขี้ปากคนมาหยุดเราได้
"ทุกอาชีพไม่มีไส้แห้ง แต่ที่เมิงไส้แห้งก็เพราะเมิงมันกระจอก" อ.เฉลิมชัย
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ
ก้เหมือนเส้นผมบังภูเขาอ่ะคับ ใกล้ตัวจนทุกคนมองข้าม ทั้งๆที่คณะทางวิทยาศาสตร์ทุกคณะเอาความรู้จากพวกเราไปประยุกต์ใช้ พี่โดนจนชิน ใครว่ามาก็ยิ้มแล้วก็เดินออกมา 555
พี่ก็เคยนั่งคิดเล่นๆนะ ประเทศที่เค้าเจริญด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมากๆ มีประเทศไหนไม่รวยบ้าง ประเทศที่เค้ามีระบบการศึกษาดีๆมีประเทศไหนบ้างที่เค้าไม่สนับสนุนการทำวิจัยของนศ. ทุกสิ่งที่เค้าได้มาก็เกิดจากการวิจัยของชนกลุ่มนึงทั้งนั้น แต่ประเทศเรากลับสวนทาง????
ผมเป็นคนหนึ่งเหมือนกันที่อยากเรียนคณะนี้
อยากเรียนคณะวิทยาศาสตร์ สาขาฟิสิกส์ มาตั้งแต่นานแล้ว
แต่บังเอิญ..สอบได้ทุนเฉพาะคณะวิศวะ เลยต้องทำใจอยู่บ้าง...ตัดสินใจเอาอันนี้แหละ เพราะมันได้ทุนศึกษาแล้ว แล้วอีกอย่างครอบครัวผมค่อนข้างยากจน ถ้าเกิดสละสิทธิ์ทุนนี้ไป แล้วแอดเอาวิทย์ ถ้าไม่ได้ทุนก็กลัวพ่อแม่ส่งไม่ไหว
เอาก็เอาว่ะ ยังไงมันก็ต่อยอดกันได้ถ้าคิดว่าอีก 4 ปี หากใจตัวเองไม่เปลี่ยนแปลง
..ก็ต้องทำให้เต็มที่กับสิ่งที่เราตัดสินใจ..
แพลนต่อไปผมคิดว่าถ้าผมยังชอบวิทย์ ฟิสิกส์อยู่ ผมว่าผมจะเรียนต่อ ปริญญาโท ปริญญาเอก ทางด้านนี้ ยังไงๆ มันก็หาได้อยู่แล้วแหละงานหน่ะ
ผมดีอยู่อย่างหนึ่งคือคนรอบข้าง คุณพ่อ คุณแม่ ไม่ค่อยจุกจิกเรื่อง จบไปแล้วทำงานอะไร (ยกเว้นคนที่ไม่รู้จักกันเลย ชอบถามดีนัก เซ็ง.. แต่ก็ปล่อยไปไม่ใส่ใจ5555)
สู้ๆนะครับ ตามความฝันของตัวเองให้สำเร็จ
อนาคต การงาน ชีวิต ขึ้นอยู่กับมือของเรา.. เราจะสู้ไปด้วยกันครับ 5555
แค่เป็นนักบอลเล่นบอลเก่งทำไมถึงรวย เพราะสังคมให้ความสำคัญกับฟุตบอล เพราะงั้นจะเรียนอะไร อย่าเอาแต่ความชอบความถนัดตัวเอง นึกด้วยว่า "สังคมเขาให้ความสำคัญหรือต้องการมันหรือเปล่า"
ประเทศไทยไม่เคยสนอะไรอยู่แล้วจ้า
วิทย์ก็ไม่ส่งเสริม
โบราญคดีก็ไม่ส่งเสริม
แม่พิมพ์ของชาติก็ไม่ส่งเสริม
นี้แหละ ประเทศไทย
จริงๆพี่ก็เคยโดนคำถามนี้นะว่าจบไปแล้วทำอะไร พี่ก็เรียนคณะวิทยาศาสตร์ สาขาฟิสิกส์ปีสามตอนนี้ก็กำลังจะไปฝึกงานหลายคนอาจคิดว่าคงไปทำงานวิจัยมั้งอะไรแบบนี้ พี่อยากจะบอกว่าก็ไม่เสมอไปในคณะพี่หลายคนก็ไปฝึกงานในโรงงานนะรุ่นพี่จบไปก็ไปทำงานสายวิศวะกันเยอะ มันไม่ได้อยู่ที่ว่าเราเรียนจบอะไรมาแต่มันอยู่ที่ว่าเราจะเอาความรู้ที่เราได้รับมาไปใช่ในทางไหน. ใครเค้าจะคิดยังไงก็ชั่งเขาเราต้องเลือกในสิ่งที่เราชอบเพราะเราจะต้องอยู่กับมันไปตลอดชีวิต สู้นะคะ
ความรู้สึกเดียวกันเลยคะ T^T ตอนนี้อยู่ ม.2 มีคนถามว่าจะเรียนอะไร เราก็ตอบว่า คณะวิทยาศาสตร์ แล้วก็มาบอกว่า เรียนไปทำอะไร เรียนหมอ ไม่ดีกว่าหรอ แล้วเค้าก็ไปยุให้พ่อแม่บอกให้เราเรียนหมออ่ะ คือมันก็ดีนะที่ได้ช่วยชีวิตคน แต่สิ่งที่เรารักคือวิทยาศาสตร์อ่ะ เราไปอ่านการรับสมัครนักบินอวกาศ เค้าบอกว่าต้องเรียนวิทยาศาสตร์ด้วย คือเราอยากเป็นนักบินอวกาศมาก เรารักวิทยาศาสตร์มาก แล้วคนนั้นมันจะมาเดือดร้อนแทนเราหรออออออ !!
สู้ๆนะ เราก็เป็นอีกคนเหมือนกันที่อยากเข้าคณะวิทย์
ที่เราลงแอดไปปีนี้เราก็ลงคณะวิทย์ไว้ ^^
คือวิทยาศาสตร์ไม่จำเป็นต้องทำงานเมืองไทยหรอกครับบบ เดะ เปิด AEC แล้วเรากะไปพสกสิงคโปรซะครับ ประเทศแบบนี้ต้องการ
ไม่เห็นต้องไปสนใจเลยค่ะ เอาที่ตัวเราชอบและเราสนใจนั่นแหละค่ะ มันจะดีต่อตัวเราที่สุด พี่ก็เรียนวิทยาศาสตร์เคมี อยู่ มช.นะ พี่คิดว่า ไม่มีใครจะรู้จักเราดีเท่าตัวเราเอง เค้าไม่ได้มาเรียนกับเราเค้าไม่รู้หรอกค่ะ เค้าก็ฟังๆคนอื่นมานั่นแหละว่าไม่ดีงู้นงี้ ไม่มีงานรองรับ แหม่ งานของเรากว้างเกินจะคาดเดาค่ะ เรียนป.ตรีวิทย์ไป สามารถไปเรียนต่อได้อีกเยอะแยะ อย่าเอาคำพูดของคนอื่น มาเป็นตัวชี้อนาคตเรา จงเชื่อมั่นในตนเอง รับฟังบ้าง แต่ก็ควรคิดไตร่ตรองเหตุผลดู เรียนแบบที่เราถนัด เรียนแบบที่เรารัก จะมีความสุขที่สุดค่ะ
เหมือนกัน ไม่มีติ
เราก็เป็นเหมือนกันนะ แม่เราชอบบอกให้เรียนหมอ เภสัช แต่เราชอบวิทยาอะ แม่ก็บอกว่าเรียนแล้วจบมามีงานทำไหม ทำไมไม่เรียนที่จบมาแล้วมีงานทำเลย เราก็บอกว่าวิทยาเราชอบเรียน เรารักวิทยา เรียนตามที่เราชอบดีกว่า ขัดใจแม่บ้างจะเป็นไร
http://m.pantip.com/topic/30135632? แนะนำกระทู้นี้ค่ะ เค้าเป็นคนที่จบคณะวิทย์จุฬาฯมา มาเล่าในมุมของคนที่จบคณะนี้ ว่าเป็นอะไรยังไงบ้าง คืออ่านแล้วรู้สึกคณะนี้มีดี ลองอ่านแล้วเอาไปเล่าให้พวกผู้ใหญ่ฟังคะ แนะนำเย้ยยยย จากตอนแรกที่เราอยากเข้าเภสัชตอนนี้อยากเข้าคณะวิทย์มากคะ รู้สึกจบมาหางานทำได้เรื่อยๆ ไม่จำเป็นต้องเป็นนักวิจัยอย่างเดียว คล้ายคณะอักษรฯนะพูดถึง จบมาทำงานได้หลายอย่าง เพียงแต่อักษรเป็นเกี่ยวกับภาษา แต่คณะวิทย์เกี่ยวกับวิทย์แค่นั้นเอง ใครพูดอะไรไม่ต้องสนใจหรอก บอกว่าถ้าหนเรียนหมอแล้วจะส่งหนูเรียนกันมั้ยคนที่พูดหน่ะ ถ้าส่งหนูเรียนเดี๋ยวหนูเรียนให้5555555 //ล้อเล่นค่า//
จะบอกให้น่ะครับ
จริงๆทุกคนควรที่จะให้เกียรติคณะวิทยาศาสตร์น่ะครับ
เพราะทุกอย่างส่วนใหญ่เริ่มที่คณะนี้ วิศวะ แพทย์ รึว่าเภสัช
รึคณะที่เกี่ยวกะสายวิทย์ทั้งหมดก็เริ่มเรียนที่วิทย์พื้นฐานทุกคณะ
ผมก็เป็นคนนึงที่เรียนคณะวิทยาศาสตร์แห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐม ก็มีคนถามถึงว่าจบมาจะมีงานหรอ จะเรียนไปทำไม
ผมจะบอกว่าคณะนี้มีงานรองรับแน่นอนครับ คณะนี้มีสาขาวิชาที่หลากหลายแล้วแต่สาขาที่จะเรียน ที่คนจบน้อยไม่ใช่เพราะว่าไม่ชอบน่ะครับแต่ขอบอกว่ามันจบยาก คนจบคณะนี้ได้ถือว่าขยันและเก่งมากครับ ปีนึงจบไม่กี่ร้อยคนเองครับ ผมไม่ได้จะเข้าข้าวว่าคณะผมดีน่ะครับแต่ขอให้ทุกคนลองมองบ้างว่าพวกคุณจะเรียน วิศวะ เรียนหมอ เรียนเภสัช พวกคุณเข้าไปปี1คุณเรียนตัวที่เป็นของคณะวิทยาศาสตร์ไหม น้องที่คิดจะเข้าน่ะครับพี่ขอยอมรับว่าน้องคิดดีแล้ว เพราะมันเอามาต่อยอดได้ไกลน่ะครับ
ขอบคุณที่อยู่อ่านจนจบน่ะครับ
เราคิดว่าเรียนตามที่เราชอบดีกว่านะคะ เอาความจริงไหมคือถามคนทำงานสมัยนี้ก็ได้ ส่วนน้อยที่จบมาทำงานตรงสายที่เรียน แต่ถ้าคิดจะเอาดีทางนักวิทย์ฯจริงๆเราว่าต้องเรียนอย่างน้อยถึงป.โทนะ จบมาเป็นอาจารย์ก็ได้ ความจริงงานของคณะวิทย์มีเยอะแยะมากมาย ไม่จำเป็นต้องฟังคนอื่นหรอกค่ะ ดีไม่ดีอาจจะได้โกอินเตอร์เลยนะ
สวัสดีครับ ขอเรียกตัวเองว่าพี่นะครับ พี่มาจากคณะวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยรัฐแห่งหนึ่งนะครับ ตามความเป็นจริง มันมีส่วนหนึ่งที่เป็นตามเสียงลือครับ เช่น เป็นคณะรอซิ่วบ้างล่ะ คณะของคนพลาดหวังแพทย์บ้างล่ะ แต่มันก็แค่ส่วนหนึ่งครับ เพราะอีกส่วน คนที่เขาชอบจริงๆก็มี ส่วนเรื่องงานนั้น ต้องยอมรับว่าบางสาขาวิชาถ้าน้องไม่เจ๋งจริงก็หายากครับ แต่บางสาขาหางานง่ายมาก ที่เป็นแบบนี้เพราะคนไทย "ขี้เกียจคิด" ครับ รับเอาแต่เทคโนโลยีของเขามาใช้อย่างเดียว ขนาดเครื่องมือที่ใช้ในคณะพี่ ส่วนใหญ่ยังนำเข้ามาเลย คิดดูสิครับ แล้วอีกอย่างมันก็เป็นค่านิยมผิดๆที่ปลูกฝังมาแต่เด็กแต่โบร่ำโบราณว่า เป็นหมอนะลูก เป็นวิศวกรนะลูก คณะวิทย์๚ อย่างเราเลยเป็นลูกเมียน้อยไปเลย ดังนั้นเด็กส่วนใหญ่จึงเดินไปตามทางนั้น พี่คิดว่าถ้าประเทศของเรายังไม่หยุดพัฒนาแค่นี้ คณะวิทยาศาสตร์จะมีความสำคัญมากในอนาคตอย่างแน่นอน หากทุกคนร่วมมือกัน ทั้งมหาวิทยาลัย รัฐบาล และทุกคนที่เกี่ยวข้อง ช่วยกัน คณะวิทยาศาสตร์จะเป็นหน่วยงานการศึกษาสำคัญที่ผลิตบัณฑิตออกไปรับใช้สังคมและประเทศชาติได้อย่างแท้จริงในทุกๆด้าน ทั้งด้านวิทยาศาสตร์ต่างๆ ด้านการแพทย์ ด้านธุรกิจ(สงสัยล่ะซิว่าเกี่ยวกับธุรกิจ หรือเศรษฐกิจอย่างไร 5555555 ลองไปศึกษาดูนะครับ) เมื่อถึงเวลานั้น คณะวิทยาศาสตร์ก็จะไม่มีใครมาดูถูกอย่างแน่นอน สำหรับพี่เองยอมรับเลยว่าพลาดหมอมา แต่พี่ติดรับตรงของสาขาทางกายภาพสาขาหนึ่งซึ่งไม่ใกล้เคียงกับหมอ หรือชีววิทยาเลย แต่พี่ก็เอาที่นี่เพราะพี่ก็ชอบเหมือนกัน (และอนาคตการทำงานของบัณฑิตในสาขาพี่ก็ค่อนข้างกว้างไกลด้วยครับ) ทั้งที่ถ้าพี่รอแอดพี่ก็ติดสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพหลายอย่างที่ใกล้เคียงหมอ พวกกายภาพบำบัด พยาบาลที่ดังๆ คะแนนพี่ก็ถึง แต่พี่ไม่ไปเพราะพี่คิดว่าถ้าไม่หมอก็อันนี้แหละ คือสิ่งที่พี่ชอบไม่แพ้หมอเลย และพี่ก็ไม่ซิ่วแล้วด้วย เรียนยากจบยากก็จริงครับ แต่ยังไงก็ไม่เกินความสามารถที่จะทำหรอก คณะอื่นก็ยากในแบบของเค้าเหมือนกัน พูดระบายมานาน 5555555 จะบอกว่าถ้าชอบอะไรก็เรียนเลยครับ อย่าสนใจคนอื่น เพราะนี่คือชีวิตของเรา เราต้องตัดสินใจเอง อย่าให้คนอื่นมาควบคุม ที่พี่พูดไป คห. อื่นก็พูดมาเยอะละ 55555 ดังนั้นที่พี่อยากฝากอีกอย่างคือ ต้องดูรายละเอียดในสาขาที่เราจะเรียนให้ดีด้วยว่าจะเจออะไรบ้าง เช่น เกลียดฟิสิกส์สุดๆ แต่เข้าเรียนภาควิชาชีวเคมีที่ไม่น่าเรียนฟิสิกส์หนัก แต่กลับเรียนฟิสิกสํตัวยากสุดที่เรียนกับวิศวะ !!!! หรือเกลียดฟิสิกส์แต่ชอบเคมีสุดๆ เลยเข้าภาคเคมี แต่ก็เจอฟิสิกส์ตัวเมื่อกี้แหละ 55555555 ที่อื่นเป็นยังไงไม่รู้นะ แต่สำหรับ ม. ของพี่ คณะนี้ต้องเรียนวิทย์ครบทุกตัว ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ และแคลคูลัส (แคล๚ภาควิชาละสองตัวเป็นอย่างต่ำ)ทั้งที่บางตัวดูไม่เกี่ยวกับภาคที่สังกัดเลย แต่ความยากของตัววิทย์แต่ละภาควิชาจะไม่เท่ากัน อย่างที่พี่ยกตัวอย่างฟิสิกส์ ภาคพี่ก็จะเรียนตัวที่ยากรองมาจากตัวที่เรียนกับวิศวะ(คือง่ายกว่าวิศวะแต่วิชาอื่นยากกว่าไรงี้อะครับ) ส่วนภาคคอมพิวเตอร์ก็เรียนตัวที่ง่ายที่สุด (อันนี้สำหรับ ม.พี่นะ ที่อื่นไม่รู่ว่าเหมือนกันหรือเปล่า) ดังนั้นน้องต้องศึกษาหลักสูตรให้ดีครับจะได้ไม่ต้องซิ้วออกกลางคัน เข้าไปดูโครงสร้างหลักสูตร แผนการศึกษา คำอธิบายรายวิชา ของภาคที่น้องสนใจได้ตามเว็บของคณะ และมหาวิทยาลัยที่น้องสนใจนะครับ ไม่ว่าน้องจะได้อ่านหรือเปล่า แต่หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนไม่ว่าจะเป็นน้อง จขกท. หรือคนที่อ่านกระทู้นี้ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม สู้ๆนะครับ ^^
ที่ผู้ใหญ่เค้าไม่สนับสนุนเพราะสายงานวิทยาศาสตร์ในประเทศไทยมันไม่รุ่งจริงๆ จบไปหางานยาก
พี่เองก็เรียนวิทยาศาสตร์ ก็จะแนะนำแค่ว่าคิดดีๆ เพราะมันคือเส้นทางที่กำหนดชีวิตในอนาคต ถ้าชอบอยากเรียนจริงๆ ก็ไม่ใช่ปัญหา แต่ต้องยอมรับในจุดที่ว่านี้ด้วย
เออคือ.....ผมก็เป็นคนนึงนะที่อยากเรียนหมอ ขอพูดในมุมมองของคนที่จะเรียนหมอนะครับ มันจะมีทั้งพวกที่อยากเรียนเพื่อสบายกับอยากเรียนเพื่อช่วยคนอื่น แต่ว่า ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับความสามารถแฃะความตั้งใจของแต่ละคน ความสำเร็จขึ้นอยู่กับความมุ่งมั่น ไม่ว่าจะอาชีพไหน ถ้าไม่มีความมุ่งมั่นก็จบ ส่วนผมที่อยากเรียนหมอ เพราะพ่อกับ-อยู่ต่อหน้าทั้งๆที่ผมช่วยอะไรไม่ได้เลย ตอนนี้ผมอยู่กับยายครับ แต่ก็สู้ๆนะ^^
อันนี้อยากเล่าแล้วก็ความเห็นส่วนตัวที่อยากบอกกับน้องเจ้าของกระทู้เนาะในฐานะที่พี่เรียนมา
ตอนพี่เลือกวิทย์แล้วบอกกับคนรอบข้างพี่ก็โดนเหมือนกันน้อง เดินไปไหนคนรอบตัวนี้คอยถามอยู่ตลอดเลยว่าจบไปจะทำอะไร พ่อแม่พี่ตอนแรกก้อคัดค้านนะ ตอนนั้นพี่ก็ไม่รู้จะตอบยังไง แต่พี่ว่าตัวเองชอบวิทย์ที่สุดแล้ว แล้วคิดว่าทำมันได้ดี เลยเรียกที่จะเรียน เรียนวิทย์นี้ยากมากเลยสำหรับพี่ปีหนึ่งเกือบไม่รอด อาศัยบุญเก่าความรู้ม.หกเอา แต่ตอนนี้มาไกลล่ะ ทนมาได้เพราะความชอบล้วนๆ พี่ว่า ถ้าน้องตั้งใจเรียนแล้วชอบมันจริงๆ น้องต้องไปได้ดี เพราะคนรักในวิทย์นี้หายากมาก(บางที่พี่ก้อเซ็งๆเหมือนกันเวลาเจอเรื่องที่ไม่ถนัด) ถ้าน้องเลือกที่จะเรียนวิทย์อยากให้น้องลองดู ที่จริงมีทุนเยอะมาก ทุนต่างประเทศของคณะวิทย์ก้อเยอะนะ เผลอๆน้องทำผลงานดีๆได้เรียนทุนโทฟรีอีกแหละ แล้วก็อย่างที่มีคนบอกว่าที่ต่างประเทศวิทยาศาตร์บูมมาก เงินเดือนนี้ก้อไม่น้อยเลยต่อทุนวิจัยหนึ่งทุน อยากให้สู้ต่อความฝันนะน้องนะ ตอนนี้พี่ก้อคิดต่อยอดไวเยอะแยะเลย มันมีทางไปหลายทางมาก ไม่ต้องกังวล ชอบที่จะเรียน ที่จะทำงานก้อพอ น้องไม่อับจนแน่นอน
อีกอย่างเรียนวิทย์นี้ได้กระบวนความคิดเป็นขั้นเป็นตอนเยอะขึ้นมากเลย อย่างน้อยถ้าไม่ทำงานสายนี้ คิดว่าน่าจะเอาไปทำงานอย่างอื่นได้เหมือนกันนะ
นี้ก้ออวยวิทย์มาก แต่อยากให้ลองจริงๆ มันมีสนุกเพราะเรารู้ในสิ่งที่คนอื่นไม่ค่อยจะเข้าใจมัน 5555
สู้ๆนะน้อง หวังว่ามันพอจะช่วยให้น้องมีแรงฮึดขึ้นบางนะ
วิทยาศาสตร์ การวิจัยจำเป็นมากสำหรับพัฒนาประเทศครับ แต่เนื่องจากทัศนคติของคนในประเทศและการสนับสนุนที่ไม่มากพอของภาครัฐ ทำให้ประเทศไทยเราถูกจัดในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนามาเป็นเวลายาวนาน
คหสต.ประเทศไหนขาดนักวิทยาศาสตร์ ขาดแคลนงานวิจัย ประเทศนั้นยากที่จะพัฒนาครับ
พี่ก็เรียนคณะวิทย์ พ่อแม่พี่ก็ไม่ค่อยชอบหรอกเพราะพี่สาวเรียนวิดวะ แต่พี่ไม่แคร์ อยากเรียนซะอย่าง เรียนวิทย์ทำได้หลายอย่างนะ ใช่ว่าต้องเป็นนักวิจัยอย่างเดียว มันอยู่ที่ความสามารถเราด้วย ใครว่าวิทย์เรียนง่าย พี่อยากเห็น เรียนอะไรทุกอย่างยากหมดอยู่ที่ตัวเรานะ
หวัดดีค่ะ เข้ามาให้กำลังใจ จขกท. ให้ทำสิ่งที่เราชอบ และถนัดค่ะ
ขอแทนตัวเองว่าป้าแล้วกันนะ เพราะหลานชายป้าก็กำลังจะเข้าคณะวิทยาศาสตร์เหมือนกัน แม่เค้าเป็นหมอ แต่เค้าก็ไม่ได้กำหนดว่าลูกต้องเป็นอะไร
หลานป้าชอบคณิตศาสตร์ ก็เลยเลือกวิทยา-คณิต ทั้งสี่อันดับเลย ส่วนใหญ่เลือกต่างจังหวัดด้วย
ถ้าเราตั้งใจจริง รักกับสิ่งที่เรียน ความสำเร็จขึ้นอยู่กับตัวเราอยู่แล้วค่ะ สู้ ๆ นะคะ215TT
เจ้าของกระทู้อยู่ม.5 ครับ - -" บอกอยู่โต้งๆ
ขอตอบในฐานะที่เรียนคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ว่า
โครตภูมิใจที่ได้เรียนคณะนี้อะ
วิทยาศาสตร์ใช่ว่าจบมาต้องทำงานวิจัยอย่างเดียว เราเอามาต่อยอดความรู้เดิมที่มีมาพัฒนางานต่างๆได้ อยากให้น้องได้เลือกคณะที่ชอบที่เป็นตัวเรา เพราะฝืนไปมันก็ไม่ได้อะไร
่
ตอบกลับไปเลย นี่มันโลกยุคไหนแล้ว พวกเต่าล้านปีแบบลุงๆป้าๆไม่เข้าใจหรอก นี่อนาคตของผม ผมเลือกเอง นี่ไม่ใช่ยุคของลุงๆป้าๆแล้ว
<<คนตกงาน = คนเลือกงาน>> คิดอีกแง่...หากเรียนไปแล้วไม่มีงานรองรับแล้วเขาจะเปิดคณะให้เราเรียนทำไม เรียนวิทย์ทำให้เราก้าวทันโลกมากกว่าคนทั่วไปอีก 1 ก้าวแล้วครับ
ถ้าคนที่ถาม เค้าเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการศึกษาของคุณ ก็คงจะเถียงยากนะ
เว้นว่า คุณจะไม่ต้องพึ่งพาเค้า ก็อาจจะตอกกลับไปได้ว่า
'ทำไม ไม่ลงเรียนเองล่ะ ตัวเธอว์'
ชะตาเดียวกันสินะ เราอยากเป็นนักวิจัยมากๆเลยค่ะ แม่กับพ่อก็บอกอยากให้เป็นหมอแต่ก็ไม่บังคับ แต่ยายเรานี่สิ อ้าว ทำไมไม่เป็นหมอ เรียนเก่งๆ นักวิจัยเดี๋ยวก็ไม่มีปัญญาเลี้ยงตัวเอง แม้แต่ป้าข้างบ้านยังบอกว่า หนูเรียนเก่งก็ไปเป็นหมอสิคะ ไรว่ะ ก็ไม่อยากเป็นหมอ? พ่อแม่ยังไม่บังคับเลย ป้ากับยายเกี่ยวไรห่ะ (ได้แค่เก็บไว้ไม่กล้าพูดออกไป)
ภายในคณะวิทยาศาสตร์แยกเป็นหลายสาขาค่ะ ถ้าคณะวิทยาศาสตร์เรียนจบไปไม่มีงานจะสร้างขึ้นมาทำไมหราค่ะ เภสัช วิศวะก็ต้องมาเรียนคณะวิทย์ทั้งนั้นละค่ะถามจิง?เรียนจบสาขาที่เราเรียนก็อาจได้งานไม่ตรงตามที่เรียนเสมอไปค่ะ :) ทีมเด็กคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จุ้บ เรียนตามสิ่งที่เราชอบดีที่สุดค่ะไม่ต้องฝืนตัวเองเลือกคณะสาขาผิดเรียนลำบากไม่มีความสุขไปจนเรียนจบนะ
ไม่อยานกพูดอะไรมาก
แต่เอาจริงๆ นะ
ตรงๆ เลยนะ
คือประการกรเราเองนี่หละ ที่ไร้การปลูกฝังให้ชอบวิทยาศาสตร์
เด็กส่วนใหญ่เองก็ขี้เกียจ เรียนคณิตไม่รู้เรื่อง ท้อ ก็ไปเข้าสายศิลป์กันหมดเเล้ว
เด็กสายวอทย์บางรร.เปิดมาแค่ 2-3 ห้อง นอกนั้น อีก 5-6 ห้องเป็นสายศิลป์ภาษา
แล้วจะไปสร้างบุคคลการที่มีคุณภาพ มีหัวคิดในความเป้นวิทยาศาสตร์ได้ไง
ถ้าการศึกษาพื้นฐานยังมุ่งให้เด็กไปในทางนั้น
เอาเข้าจริงแล้ว คนไทยส่วนมาก ยังงมงายงมโข่ง เรื่องผีสาง ผีอำ ผีเข้า
ทั้งที่พวกนี้วิทยาสษสตร์อธิบายได้หมดว่าเกิดจากอไร ส่วนใหญ่คือเป็นโรคทางจิตประกอบ
แนะนำให้ไปอ่านประวัติของ ดร.นิศรา การุณอุทัยศิริ นะ
พี่อ่านเจอจากหนังสือ อาชีพอินเทรนด์เปลี่ยนโลก คุณเองก็เป็นได้
ลองหาในยูทูปก็ได้แล้วจงเชื่อมั่นในสิ่งที่รักนะน้อง สู้ๆ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?