Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ทำไมคนที่เรีนยจบคณะอื่นๆ ชอบมา "แย่งงาน" ของเด็กนิเทศน์ทำ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
อย่างเช่น ประชาสัมพันธ์งี้ การตลาด โฆษณาง้
เห็นคนเรียนรัดศาสตร์ ถาปัตย์มาทำซะงั้น

ทำไมพวกนี้ไม่ไปทำงานตามสายงานที่ตัวเองเรียนมางง

ประเด็นคือไม่ได้จะกีดกั้น แต่ไม่เข้าใจว่าแล้วคนที่เขาจบมาทางด้านการสื่อสารโดยตรงล่ะ

มันก็เสียเปรียบสิ ถ้าใครๆจะมาทำตรงนี้ก็ได้อ่ะ จริงไม่จริง ? มีใครพอเข้าใจที่เราจะสื่อมะ เห้อ 555555

แสดงความคิดเห็น

>

49 ความคิดเห็น

eeee 19 พ.ค. 58 เวลา 04:51 น. 1-1

ทำได้ไง ค่ะ ทำบัญชี ต้องมีใบประกอบวิชีพบัญชีนะค่ะ เเล้วต้อง จบ บัญชี ด้วย

0
Ayumu_ 19 พ.ค. 58 เวลา 09:42 น. 1-2

นั่นสิ สายบัญชีถ้าไม่ใช่คนจบบัญชีอย่างน้อยๆก็ต้องจบบริหารแล้วเคยมีประสบการณ์หรือความรู้ด้านบัญชีอยู่บ้าง นิเทศนี่ไม่ตรงสายอย่างแรงทำบัญชีได้ไงหว่า หรือว่าเป็นบริษัทเล็กๆขนาดนั้น

0
aaaa 19 พ.ค. 58 เวลา 10:23 น. 1-3

บริษัทเล็ก อย่างไงก็ต้อง จ้างนักบัญชีมาอยู่ดี เเล้วจะคำนวนต้นทางกำไรค่าเสื่อมราคาทางบัญชีอย่างไง ต้องส่งภาษีอีก ผิดกฎหมายนะค่ะ ถ้าทำผิดวิธี

0
Zunsu 19 พ.ค. 58 เวลา 19:07 น. 1-4

คือไม่ได้ว่าเป็นนักบัญชีค่ะ แบบว่าทำเกี่ยวกับบัญชีเฉยๆ ค่ะ ไม่ได้จริงจังอะไรขนาดนั้นค่ะ - -*

0
ข้องใจ 20 พ.ค. 58 เวลา 09:52 น. 1-5

ว่าจะถาม คห. 1 อยุ่
เพราะบัญชีเขาเรียนกันมาห้าปี

คนเรยนสี่ปีจะมาทำ มารู้เนื้องานอะไร

นั่นเขาเรียกงาน ฝ่ายบุคคล (admin) หรือเปล่า ไม่ใช่งานบัญชี (audit)
ลองไปถามเขามาใหม่นะ

แล้วมาบอกอีกที

ตกใจ

0
PaDORn 18 พ.ค. 58 เวลา 01:22 น. 3

เห็นมีจบนิเทศไปทำสวน แย่งชาวนาชาวไร่ โกรธ

บางคนเกาะเขากินยิ่งแล้วใหญ่เลย 5555

1
นะ-.- 18 พ.ค. 58 เวลา 21:34 น. 3-1

ชาวสวนชาวไร่ไม่มีใครแย่งงานได้หรอกค่ะ ตัวใครตัวมัน ของใครของมัน ขายเท่าไหร่ก็ได้ ยิ่งเยอะกำไรยิ่งดีค่ะ สวนใครสวนมันเหอะ555555

0
Voiceful 18 พ.ค. 58 เวลา 03:35 น. 4

อ่า.. พูดยากนะเรื่องแบบนี้ 5555555

เราเองก็เรียนนิเทศนะ เอาจริงๆก็กำลังจะเข้า 555555
คือก็เข้าใจนะ สายงานบางสายมันก็เปิดกว้าง ไม่ได้ฟิคตายตัวว่าจะต้องจบคณะไหน เพื่อมาทำงานนี้ (ย้ำนะว่าบางสาย หมอ เภสัช อะไรแบบนี้ไม่นับนะ) 

ทำให้คนที่จบมาต้องมีการแข่งขันสูง ไม่ใช่ว่าใครแย่งใคร มันอยู่ที่ในตำแหน่งนั้นๆ ต่อคนๆนั้น และช่วงเวลานั้น ใครเหมาะสมมากที่สุด หลายปัจจัยมากๆ

เขามาทำงานสายเรา เราเองก็มีที่ไปทำงานสายเขา บางทีก็ไขว้กันไปไขว้กันมา งงๆดี 555555555 

สรุปคือ แม้ว่าอาจจะเรียนมาไม่ตรงสาย แต่ว่าองค์กรแต่ละที่ก็ต้องการคนที่เหมาะสมสำหรับเขามากที่สุด เขามีสิทธิ์จะเลือกรับใคร หรือไม่รับใครก็ได้หมด สิ่งที่เราๆทำได้ก็คือ พัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา ให้สู้เขาได้

อีกอย่าง เราไม่ได้มองว่าเราเสียเปรียบนะ แต่กลับมองว่าเราได้เปรียบซะอีก ตรงที่เขาเรียนด้านอื่นมา ไม่ได้ผ่านการเรียนทฤษฎี การฝึกปฏิบัติมาแบบเรา เรามีพร้อมกว่าเขาในสายอาชีพนี้ ถ้าต้องแข่งขันกันในการเข้าทำงานแล้วสู้เขาไม่ได้จริงๆ เราคงต้องยอมรับแล้วค่อยมาพัฒนาตัวเองไปอีกทีเนอะ

0
Ellonaire 18 พ.ค. 58 เวลา 08:26 น. 5

ขนาดคุณเรียนจบสายตรงมา ยังโดนคนนอกสายแย่งงานได้เลยครับ งั้นควรพิจารณาตัวเองมากก่า ว่าเรียนสายตรงมาตั้ง 4 ปี ทำไมสู้คนเรียนไม่ตรงสายมาไม่ได้ การสมัครงานผู้สมัครไม่ได้เป็นคนเลือกนะครับว่าจะทำงานหรือป่าว แต่ HR บริษัทนั้นๆต่างหากที่เค้าจะดูความสามารถของเรา

9
ใครไม่รู้สินะ 18 พ.ค. 58 เวลา 17:02 น. 5-2

นั่นสินะ งั้นทางเขาก็ควรพิจารณาตนเองเหมือนว่าเรียนมาแต่ทำไมกลับไม่ทำในสิ่งที่ตนเองเรียนมา หรือความสามารถไม่พอจนต้องย้ายมาแย่งสายงานคนอื่น?? // พูดกลับกันนะครับ

0
เหอะๆๆ 18 พ.ค. 58 เวลา 19:26 น. 5-3

ถึง คห.5-2 เรียนอะไรก็ไม่ได้จำเป็นต้องทำงานสายนั้นเสมอไปหนิคะคุณณณ คือแบบคนที่จบ จำเป็นปะเขาบังคับหรอเรียนสายนี้ต้องเป็นนี้ไม่งั้นคนจบสถาปัตคงเป็นสถาปนิก วิศว ต้องเป็นวิศวกรหรอว่ะ ขำ เหอะๆ
โกรธแล้วนะ

0
ฟหกฟหกหฟ 18 พ.ค. 58 เวลา 21:34 น. 5-4

5-2 ปยอ.ปะครับ ผมยกตัวอย่างหมอริท เดอะสตาร์ เขาเรียนหมอทำไมมาเป็นนักร้องละ เพราะเขาเก่งไงเลยมาเป็นนักร้อง ไม่ใช่ว่าเขาสอบตกซ้ำชั้นตอนเรียนหมอถึงมาเป็นนักร้อง หัดคิดหน่อยนะ พวก .ง แต่อวดฉลาด

0
คงงั้น 18 พ.ค. 58 เวลา 21:37 น. 5-5

บางทีการที่เค้าเรียนอีกอย่างแต่มาทำงานอีกอย่างหนึ่งเนี่ย อาจจะถูกบังคับให้เรียน พอจบมาก็อยากทำในสิ่งที่ชอบมั้ง

0
คหสต. 18 พ.ค. 58 เวลา 23:27 น. 5-6

ทำไมเราเห็นด้วยกับ 5-2 นิดหน่อย

โอเค เข้าใจว่า คนเราไม่จำเป็นต้องทำงานตรงสาย จบมาก็เลือกงานที่เหมาะกับความถนัดของตัวเอง แล้วก็เข้าใจด้วยว่าHRเป็นคนเลือกความสามารถของคนนั้นๆ เข้าทำงาน
แต่ว่า การมาอ้างว่าเพราะเก่งกว่าเทพกว่าคนที่จบจากสายนั้นๆมาเลยได้งานไป เพราะฉะนั้นฝ่ายที่เรียนตรงสายควรพิจารณาตัวเองเนี่ย ไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่เลย ฟังดูเหมือนยกตนข่มท่านยังไงไม่รู้

0
guevara 18 พ.ค. 58 เวลา 23:31 น. 5-7

5-6 เราว่าไม่ใช่ยกตนข่มใครหรอก คนเรามีสิทธิเลือก ถ้าสู้ไม่ได้เองก็ยอมรับเถอะ ไม่มีความสามารถมากพอแล้วยังมาโวยวายแทนที่จะเอาเวลาไปพัฒนาตนเอง โทษแต่คนอื่นไม่คิดจะโทษตัวเองเลย

0
Ellonaire 19 พ.ค. 58 เวลา 00:02 น. 5-8

มันก็อาจจะเป็นไปได้นะ เรื่องเค้าความสามารถไม่พอ เพราะทุกคนมีความสามารถต่างกันครับ จบอะไรมา ปริญญาอะไร ไม่สำคัญเลย เค้าสนแค่ว่าคุณทำงานเป็นไหม แต่ละคนมีความถนัดต่างกัน เค้าอาจจะเรียนอ่อนในปริญญาที่เค้าจบมา แต่เค้าก็มีความชำนาญด้านอื่น ที่แม้ไม่ได้เรียนมา ก็ยังเก่งกว่าคนที่เรียนมาบางคนเสียอีก

0
สมงสมองหัดใช้หน่อย 19 พ.ค. 58 เวลา 00:15 น. 5-9

5-6 ผมยกตัวอย่าง งั้นก็ลองดูอาชีพครูไป คนสอนเก่งจบวิศวะมาแต่เป็นครูคณิตไม่ได้ เพราะไม่ได้จบครุศาสตร์ แล้วลองดูพวกครูที่จบครุศาสตร์มาสอนสิเป็นยังไง พอเราจำกัดเขตให้คนเป็นครูต้องจบครุศาสตร์เท่านั้น แล้วสุดท้ายได้ครูที่มีคุณภาพไหมละ ลองดูติวเตอร์ดังๆมีสักกี่คนที่จบครุศาสตร์ มันก็เหมือนกันบริษัทต่างๆก็ต้องการคนมีคุณภาพจึงไม่จำเป็นต้องตรงสาย หัดคิดหน่อย ถ้าคุณเปิดบริษัทเอง คุณอยากได้คนที่มีคุณภาพมากสุดก็แค่นั้น นอกจากถ้าคุณอยากกินเงินเดือนไปวันๆก็ไม่ต้องคิด จบ

0
MACEY 18 พ.ค. 58 เวลา 15:20 น. 6

งานด้านนิเทศความจริงหน่วยงานไม่ค่อยฟิกเรื่องเรียนจบคณะอะไรมาค่ะ
เค้าแค่เอาคนที่สามารถทำงานนั้นได้ซึ่งงานผลิตสื่อหรืองานด้านนิเทศ
สามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองและผลิตเองได้ ซึ่งมันก็อยู่ที่ตัวนักศึกษาที่จบมา
แล้วล่ะค่ะว่าคุณทำงานสู้คนอื่นเค้าได้รึเปล่า

0
18 พ.ค. 58 เวลา 15:42 น. 7

   ต้องถามว่า ทำไมคนเรียนจบนิเทศฯถึงปล่อยให้คนที่ไม่ได้เรียนสายนี้โดยตรงมาแย่งงานไปได้
   เพราะที่เด็กสายอื่นได้งานไปนั้นชัดเจนมากครับ ว่าเป็นเพราะเขามีความสามารถมากกว่า เรื่องมันก็แค่นั้น

2
งืมม = w = 18 พ.ค. 58 เวลา 17:07 น. 7-1

พูดแบบนั้ก็ไม่ถูกทั้งหมดนะครับ บางคนก็ดึงคนนอกที่มาจากการฝากเข้ามาฝึกให้เข้ากับเขา จนได้งานไปก็มีเหมือนกัน เพราะอย่างที่หลายๆคนว่าแหละ สายแบบนี้ใครก็สามารถฝึกฝนกันได้ ขอแค่ตั้งใจ // ปัญหาแบบนี้จะหมดไปทันที เมื่อผู้คนเลือกเรียนในสายที่ตนชอบและได้งานในสายทันที + อัตรารับจ้างงานก็ต้องเยอะพอสมควร ซึ่งที่กล่าวมาในโดลกนี้แทบไม่มีแล้วทั้งสิ้น แฮะๆ

0
แคนตาลูป 18 พ.ค. 58 เวลา 17:28 น. 7-2

แต่กว่าจะกาตัวเองเจอจริงๆมันก็ยากนะคะ เราเองจะครึ่ง 50 แล้ว ยังไม่รู้เลยว่าที่เรียนอยู่มันใช่หรือแค่พอไปได้

0
เด็กบ้านไกล 18 พ.ค. 58 เวลา 15:45 น. 8

ให้มีจัดสอบวิชาชีพนิเทศดีม่ะ ใครไม่มี/ไม่สอบไม่ต้องประกอบอาชีพนี้เนาะ
เอาจริงๆในปัจจุบันก็ไม่ค่อยมีใครได้ทำงานกับสายอาชีพที่เรียนมาหรอก
คนที่ได้ทำในสิ่งที่รักยิ่งหาได้ยาก แค่ไม่ตกงานก็ดีถมไปแล้วค่ะ
โอกาสอยู่ตรงหน้าแล้วมีใครบ้างล่ะที่จะไม่คว้าไว้ และคุณปล่อยโอกาสให้คนอื่นคว้าได้ไปเอง

0
บานาน่า 18 พ.ค. 58 เวลา 15:46 น. 9

อันนี้เราว่าโทษคนอื่นไม่ได้หรอกนะ อาชีพหลายอาชีพมันไม่ได้ตายตัวจ๊ะ นิเทศนี่ถ้าคนมีความสามารถมีความรู้ด้านนี้ก็เข้าทำงานได้ ไม่อย่างงั้นเขาจะรับทำงานได้ไงว่ามั้ย ชีวิตคือการแข่งขันค่ะ ยิ่งสายพวกนี้มีหลายสายที่เข้ามาทำงานได้นะ ก็พิจารณาตัวเองค่ะทำอย่างไรถึงเข้าทำงานได้ ไม่ใช่มาบอกทำไม สายนั้น นี้ มาแย่ง บลาๆ ก็เอาเถอะค่ะ ทุกคนก็อยากมีงานทำ คุณก็เป็น 1 ในนั้น กำหนดเองเถอะค่ะ หลับดีกว่า

0
ImeginaTe 18 พ.ค. 58 เวลา 15:46 น. 10

ไม่เห็นจะซับซ้อนตรงไหน ในเมื่อคนๆนั้รเขาเก่งกว่า มีความสามารถมากกว่า เขาเหมาะสมกว่า เขาก็ได้รับงานนั้นไป ทำไมจขกท.ไม่สงสัยบ้างว่าทำไมเด็กนิเทศไม่ได้งานทั้งที่เรียนมาตรงสาย เพราะเหตุผลข้างต้นรึเปล่า?

ยังไงเขาก็เลือกคนที่เหมาะสมที่สุดมารับงานอยู่แล้ว 

0
เอิ่มเพลีย 18 พ.ค. 58 เวลา 15:47 น. 12

เก่งจริงจะกลัวอะไร เค้าไม่ได้เรียนมาโดยตรง เค้ามีความรู้น้อยกว่า แต่เค้าแย่งงานคุณไปได้ พิจารณาตัวเองหน่อยนะว่าทำไมถึงโดนคนที่ไม่ได้เรียนมา แย่งงานตัวเองไปได้ งงเหมือนกัน

อ้อ แล้วจะบอกไรให้นะ ไม่ใช่แค่นิเทศหรอกจ้ะ คนจบมาทำงานไปตรงสายก็มีหลายแบบ นะจ้ะ

0
ความจริง 18 พ.ค. 58 เวลา 15:47 น. 14

ถ้าเป็นคนมีความสามารถ ทำอะไรแล้วสบายใจกว่า รู้สึกดีกว่า
ก็ไปได้หมดทั้งนั้นแหละครับ
เพราะนี่คือชีวิตครับ
ไม่เหมือนมหาลัย มัธยมที่เห็นเด็กบางคนชอบมาบอกว่า
ทำไมสายวิทย์มาเข้านิเทศ มาแย่งสายเด็กศิลป์...

0
Opelalatiz 18 พ.ค. 58 เวลา 15:50 น. 15

บางทีอาจเปนเพราะอวค์ประกอบหลายๆอย่าง โปรไฟล์ใครมาดีกว่า ก็คนนั้นแหละได้

0
C.K. 18 พ.ค. 58 เวลา 16:02 น. 16

เราว่าชีวิตมันไม่มีสูตรสำเร็จหรอกเช่น 1+0=1แต่มันมีวิธีอื่นอีกนะดิฟxก็ได้1 cos(0)ก้ได้1ถึงวิธีต่างแต่ผลลัพธ์ก็คือ1 ใครว่าจบหมอแล้วจะเป็นหมออย่างเดียวหมอบางท่านยังมาแต่งนิยายเลย(ที่สำคัญสนุกๆสุดๆอะ) ดังนั้นไม่ว่าเราจะเรียนสายไรขอแค่ขยันอดทนในงานที่เราทำรับรองรุ่งแน่ๆสู้ๆนะจ๊ะ

0
jojo 18 พ.ค. 58 เวลา 16:04 น. 18

อย่างแรกเลยคือ การจะได้งานด้าน ทีวี วิทยุ ต้องมีอะไรบ้าง
1.โอกาส จากคนเก่าแก่ ในบริษัท ชักนำเข้าไป มีความรู้ก็ได้ ไม่มีก็ได้ แค่เป็นลูกมือไปสัก 2-3ปีเดี๋ยวก็ทำได้
2.ความรู้ ไปสมัครงานตามที่ต่าง ๆ เริ่มต้นจาก ศูนย์ ไตเต้าไป เก็บประสบการณ์ ยังไงก็ ไม่ทันคน เก่าแก่ที่ทำมาแล้ว เป็น10ปี

สถาบันสอนความคิดและจิตนาการไม่ได้ สิ่งเหล่านี้ เป็นเอกลักษณ์ของแต่ล่ะบุคคล คนที่จะทำงานด้าน การสื่อสาร เอาแค่ ทีวี กับ วิทยุ 2 อย่างนี้นะ พวกสิ่งพิมพ์ ไม่เกี่ยว

งาน ทีวี วิทยุ เป็นงานขายความคิด คนที่คิดบางทีก็ไม่ต้องทำ เพราะมีคนที่ทำเป็น แต่คิดไม่เป็น รองรับอยู่เยอะ หรือ คนที่ ทำเป็นด้วยคิดเป็นด้วย ก็มีแต่จำนวนน้อย รองรับกับงานอยู่แล้ว

หลัก ๆ เลย งานนิเทศ จะได้งานหรือไม่ได้งาน ไม่ได้จบที่ ตัวงานดีหรือไม่ดี มันจบที่ ลูกค้า ชอบหรือไม่ชอบ แค่นั้น ถ้าลูกค้าชอบคือจบ งานจะใครคิดก็ได้

คิดแล้วลูกค้าชอบ ก็มีทีมงาน ที่รู้วิธีการทำ พร้อมลงมีสร้างสิ่งที่คิดนั้น ออกมาให้โลดแล่นอยู่บน สื่อทีวี วิทยุ หรือแม้แต่ สิ่งพิมพ์ก็ตาม

แล้วเด็กจบมหาวิทยาลัย มาใหม่ ๆ ก็เรียนแต่สิ่งเดิม ๆ ที่คนเก่า ๆ สอนให้เรียนรู้อดีต ของสื่อวิทยุ โทรทัศน์ ให้เป็นพื้นฐาน การจะได้งานทันที จึงเป็นเรื่องยาก ต้องนำความรู้ที่มี ทั้งหมด มาประยุกต์กับความคิดของตัวเอง ให้แปลกใหม่ ต่างจากสิ่งเดิม ๆ ที่ไหลเวียนอยู่ บนหน้าจอโทรทัศน์ หรือ วิทยุ

แต่ยังไงสุดท้าย จบที่ ลูกค้า ถ้าผ่านคือผ่าน ไม่ผ่านคือ แก้ไข หรือไม่เอา

0
ไอราวัณ 18 พ.ค. 58 เวลา 16:19 น. 19

ไม่เเปลกครับ ขนาดรุ่นพี่ที่รู้จักกัน
เรียนจบสถาปัตย์ ยังขายก๋วยเตี๋ยวเลยครับ
คนที่เป็นลูกร้านก๋วยเตี๋ยวยังทำอร่อยสู้พี่เเกไม่ได้

อีกคน จบนิเทศมา กลับบ้านทำนาซะงั้น 
เเกบอกว่า ทำนารวยกว่าเป๋็นลูกจ้างเขา

เกี่ยวไหม...??? 

เหอะๆเหอะๆ

0
Patcha_พัชรวลี 18 พ.ค. 58 เวลา 16:22 น. 20
       สวัสดีคะ ขอแทนตัวว่าพี่นะคะ เพราะเรียนจบมาหลายปีแล้ว ก่อนอื่น พี่เรียนจบนิเทศฯ เอกการประชาสัมพันธ์คะ ตอนช่วงเรียนจบ สิ่งหนึ่งที่พี่ประสบและคาดว่าน้องๆ ที่กำลังเรียนคงเจอปัญหาเดียวกัน นั้นคือ การแย่งงาน

       พี่ขอพูดถึงกรณีคนที่ไม่มีเส้นสาย และอาจเรียนจบในสถาบันที่ไม่เด่นดังด้วยนะคะ มีสิ่งหนึ่งที่พี่ไม่อยากให้น้องลืม เอกวิชาที่เราเรียนคณะนิเทศฯ คือ เอกที่มีการแข่งขันกันสูงมากๆ ตั้งแต่ทีแรกอยู่แล้ว ใครๆก็อยากเรียนคะ เรียนจบมา ศัพยากรบุคคลก็มีมากมายเกินใช้งาน หากเราไร้ประสบการณ์ ความสามารถเราไม่เพียงพอ เราไม่มีเส้นสายพวกพ้องภายในบ้าง ข้อเรียกร้องของเราก็จะน้อยตามไปด้วย เราจะหาเส้นสายจากไหน ก็ตั้งแต่ที่น้องเรียน น้องได้ทำงานนั้นละคะ หากน้องมีโอกาส หาประสบการณ์จากข้างนอกรั้วมหาลัยบ้าง (พี่เคยทำอาสาวิทยุชุมชน งานฟรีคะ) และจากการฝึกงาน (ไปฝึกงานจากหน่วยรัฐ กรมประชาสัมพันธ์คะ) ที่นี้น้องก็จะได้เห็นของจริง แล้วคราวนี้น้องได้มีประสบการณ์แรกแล้วคะ เมื่อน้องมีประสบการณ์ โอกาสน้องก็จะเยอะตามไปด้วยคะ
       
       อีกปัจจัยสำคัญที่น้องอาจสงสัยว่าทำไมบางคนอาจไม่ได้เรียนจบทางด้านนั้นโดยตรง แต่เขามีความสามารถที่เพียงพอและเหมาะสมแล้วเหรอ ถึงได้รับโอกาสตรงส่วนนั้น? พี่ก็เคยคิดนะ.... สำหรับพี่ พี่แพ้ทางด้านความสามารถ และโอกาสที่มาไม่ตรงเป้าหมายคะ

      ประเด็นคือ พี่อยากให้เราปรับทัศนคติเสียใหม่ดีกว่าคะ เมื่อไหร่ ที่เรามีทัศนคติที่กว้างขึ้น หนูจะเห็นเลยว่าทางเลือกของเรา หรือความถนัดของแต่ละคนก็เหมาะกับงานที่ต่างกัน อย่ามองว่าเรียนจบสายนี้ ต้องทำงานแค่สายนี้เท่านั้นถ้าคิดอย่างนั้นมันจะตัดโอกาสตัวเองไปนะคะ

      หากน้องมีประสบการณ์น้อยน้องต้องหาให้มากขึ้น หากแพ้ด้านความสามารถน้องต้องสะสม หากแพ้ทางเส้นสายน้องต้องรู้จักเข้าหาผู้คน (ไม่ได้หมายความว่าประจบนะคะ) เส้นสายในที่นี้ น้องสามารถหาจากการทำงานนั้นละคะ ถัายังไงขอฝากให้เป็นแง่คิดนะคะ พี่เชื่อโอกาสของน้องต้องมาแน่นอน หากยังไม่ได้ที่ตั้งใจ ให้คิดเสียว่าเป็นโชคชะตา นะคะ 

ปล.คือพี่เรียนจบมา พี่ก็ไม่ได้ทำงานสายตรงเช่นกันคะ และทำงานมาหลายแขนงมากๆด้วย กว่าพี่จะได้มาทำงานตามที่ตัวเองเรียนมา พี่ก็ต้องทนหลายอย่างอยู่นะ555+ สิ่งหนึ่งที่พี่รู้มาตลอดเวลา คือ พี่ไม่ได้เลือกงาน ปล่อยทิฐิที่ว่าเรียนจบต้องทำงานสายตรงทิ้ง และหาประสบการณ์ทำงานให้เพิ่มมากขึ้น อย่างนี้พี่เรียกว่า "วิชาลานบิน" ได้จากประสบการณ์ชีวิตตัวเองนี้ละคะ ค่าลานบินมันจะมาพร้อมความสามารถที่เพิ่มขึ้น และมันจะเป็นวิชาชีพที่ดีที่เปิดโอกาสน้องในทุกๆอาชีพนะคะ สู้ๆนะคะ



0