Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ทำไมบอร์ดดราม่าจังเลยคะ ทำไมไม่เข้ารับน้องกัน....

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ทั้งที่ฝึกความสามัคคี เคารพรุ่นพี่ที่คอยจ่ายค่าเทอมให้น้องๆ
ฝึกความอดทนเหมือนวัวเหมือนควาย เคารพผู้อาวุโสทางอายุ กับรุ่นพี่ที่ประเสริฐสุดบนโลกใบนี้
คริคริ//ป้องปากขำ


แสดงความคิดเห็น

3 ความคิดเห็น

ไม่ชอบคนประชด 14 มิ.ย. 58 เวลา 16:43 น. 1

ประชดเพื่อ?
ทุกระบบมันก็มีทั้งดีไม่ดี
อยู่ที่เราเลือกว่าอยากทำแบบไหน
ระบบรับน้องมันก็มีทั้งข้อดีข้อเสียเหมือนกัน
ทางที่ดีอย่าพึ่งอคติ

0
เปรตในหมู่ปราชญ์ 14 มิ.ย. 58 เวลา 17:52 น. 2

ไม่รุ้สินะ พูดในฐานะคนที่ผ่านพ้นวัยนั้นมาละกัน บอกได้คำเดียวครับ ว่ามีแค่การ 'ใส่หน้ากาก' ครับโดนล้างสมองครับ ผมเองก็เคยร่วมกิจกรรมทุกกิจกรรมที่เกี่ยวกับเรื่องรุ่น ไม่มีครั้งไหนที่ผมจะไม่โผล่หน้าไป ปากรุ่นพี่มันก็บอกว่ารักน้องทุกคนหวังดีอยากให้เป็นแบบโน้นนี้ แล้วสุดท้ายเป็นไงล่ะครับ พอมีปัญหาทีไร รุ่นพี่ตัวดีที่เอ่ยปากพูดแบบัน้นมันก็ไม่เคยเสนอหน้ามาให้เห็นเลย เห็นก็ตัวใครตัวมันเหมือนเคย มีแค่รุ่นเพื่อนๆเราที่ช่วยกันเองทั้งนั้น เอาเรื่องอนาคตการทำงานงั้นเหรอ ก็ไม่เห็นใครจะเป็นเดือดเป็นร้อน เผลอๆคนที่ไม่รับน้องนั้นจะได้ดิบได้ดีกว่าคนที่มารับน้องส่วนใหญ่ซะอีกนะ

อยากจะบอกว่าพวกคุณโดนแค่นี้มันกระจอกมากครับถ้าเทียบกับผมเคยโดนมา 

0
aniruj 15 มิ.ย. 58 เวลา 20:39 น. 3

คห.2. เอาประสพการณ์แย่ ๆ เฉพาะตัว..มาขยายความให้มีนดูเลวร้ายกว่าควาทจริง.
อืม.....ถ้าในคน 100 คน มีแบบคุณ สัก 1 คน แล้วเที่ยวไปป่าวร่องว่ามันเลวร้ายทุกเรื่อง
วังคมมีนคงตกต่พิลึก
เอาเป็นว่า ใครแค่อยากเรียนอย่างเดียว
ไม่ต้องการ ปฎิสัมพันธ์ มีกิจกรรมกับใคร
เหมือนเด็กครุศาสตร์ มช. เมื่อปีท่แล้ว
ก็น่าจะไปลงรามคำแหงฯ นะ เพราะที่นี่ มีชื่อเสีย่ง
คนเด่นดังจบเยอะ แลัะไม่มีรับน้อง

5
เปรตในหมู่ปราชญ์ 15 มิ.ย. 58 เวลา 21:08 น. 3-1

มนุษย์เป็นสัตว์สังคมครับ เห็นเรียนมาชั้นประถมจนมัธยม เห็นก็ยังมีเพื่อนมีสังคมโดยไม่มีการรับน้องแต่อย่างใด อย่าเอาความปฎิสัมพันธ์มาเป็นข้ออ้างครับมันฟังดูไม่ขึ้น แล้วก็ไม่ต้องอ้างว่าจบมาทำงานต่องพบเจอกับแรงกดดันต่างๆ เพราะงานทึกงานหรือแม้แต่การใช้ชีวิตมันย่อมมีเรื่องกดดันเป็นธรรมดา ทุกคนย่อมรู้จักการเรียนรู้ที่จะปรับตัวอละแก้ไขปัญหาเหล่านั้นได้ด้วยตนเอง แล้วอีกอย่างมันมรใหาลัยอีกหลายที่ที่ไม่จำเป็นต้องมีการรับน้อง การว๊าก การสั่งหมอบหรือการสั่งซ่อมใดๆ เห็นก็ยังจบไปอย่างมีคุณภาพ มี contract มีฝีมือ โดยไม่ต้องพึ่งระบบโซตัสบ้าบออะไรนี่ แถมการรับน้องมันยังสนับสนุนระบบอุปถัมนิยม ริดรอนสิทธิส่วนบุคคล เป็นการสนับสนุนระบบเผด็จการอำนาจนิยมให้ฝังลงไปในจิตใจ ถ้าอยากให้ประเทศนี้ย่ำอยุ่กับที่ไม่ก้าวหน้าไปไหนก็เชิญบูชาต่อไปเถอะครับระบบโซตัสบ้าบออะไรนี่อ่า

0
aniruj 16 มิ.ย. 58 เวลา 15:03 น. 3-2

ไม่อยากวิจารณืว่า เอาแค่ประสพการณ์ส่วนตัวมาเป็นเหตุผล
ผมตระเวณ ไปดูการรับน้องของหลายสถาบันในกทมฯ
มีส่วนน้อยมาก ที่จะรับน้องกันค่อนข้างหนัก
ส่วนใหญ่ ก็เน้นสนุกสนานเสียมากกว่า ห้องเชียร์ อาจจะดูเสียงดัง
หรือรุ่นพี่ ปี 3 ปี 4 ทำเข้ม แต่ดูเบื้องหลัง ทุกคน ก็แค่ ดัดจริตไปตามเกมส์

อาจจะมีบ้าง ในสถาบันที่เป็นผู้ชายมากหน่อย หรือสถาบันช่าง ที่ว๊ากกันหนัก
หากนับเป็นเปอร์เซ็นต์ ผมว่า แค่ไม่ถึง 5 เปอร์เซ็ฯต์ละมั้ง

แต่ก็พอเข้าใจได้ว่า เด็กแต่ละคน ก็มีภูมิต้านทาน ทางสังคมแตกต่างกัน
บางคน นิดๆ หน่อยๆ ก็บ่อน้ำตาตื้น ในขณะที่บางคน แค่นี้ สิวๆ
แต่การรับน้องในสถาบันที่เขามีมาตรฐานแล้ว ยังไม่เคยพบอะไรที่แผลง เกินเหตุ
ยกเว้นจะมีรุ่นพี่ ที่ยังขาดวุฒิภาวะ หลุดเข้าไปในกระบวนการนั้น

แต่ก็ไม่เห็นว่า กิจกรรมที่รุ่นพี่ มีตารางมาให้ ถ้าน้องคนไหนเข้าไม่ครบ ก็จะเป็นจะตายอะไร
คนฉลาดเขาก้เลือกเข้า วันไหนเหนือ่ย หรือมีเรื่องเรียนมากจนเข้ากิจกรรมไม่ไหว ในกิจกรรม 10 ครั้ง เข้าเสีย 5-6 ครั้ง รุ่นพี่ก็ดีใจแย่แล้ว
อย่างมากก็แค่ขู่มาตามลม เพราะหวังจะให้มากันเยอะๆ
เสียเงินค่าน้ำ ค่าขนม ค่าทำเอกสาร ของแจก เสียเวลานอน เสียแรง
เป็นใครก็อยากให้น้องๆมาเข้าร่วม

บอกให้เด็กๆ ที่กลัวการรับน้อง (ซึ่งมีส่วนน้อยมาก ถ้าเทียบเป็นร้อยละ)
เวลาที่คุณจบไป ถ้าไปเข้าองค์กร หรือหน่วยงาน ที่เข้มงวดในการคัดเลือกคน
และปีนั้นคุณมีคู่แข่งมากๆ ละก็
คำถามเรื่องกิจกรรมที่คุณเข้าร่วม ขณะเรียนในมหาวิทยาลัย
จะเป็นคำถามที่อาจตัดสินคุณได้
เพราะสิ่งที่องค์กรมาตรฐาน ทั้งหลายเขากลัวก็คือ
พนักงานที่ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรม องค์กรได้
มีความคิดต่อต้าน นโยบายพื้นฐาน

เช่น องค์กรมีกิจกรรมทางสังคม มี PR marketing ที่ต้องไปทำ มี Event ที่ต้องทำหลังเลิกงาน
และคนกลุ่มนี้ มีแนวโน้มที่จะอ้างสิทธิ เรียกร้องล่วงเวลา หรือหลีกเลี่ยง โดยมองแค่ว่า มาทำงานเช้า เลิกเย็น ตามเวลาปกติ เป็นสิ่งชอบธรรม
ผมบอกได้เลยว่ามี
ทำความปวดหัวให้หัวหน้าทีม หรือเพื่อนร่วมงาน มาเยอะแล้ว
เพราะความเคยตัว ประเภท หนักไม่เอา เบาไม่สู้ ต่อต้านระบบ
จนถึงเรื่องเล็กๆ น้อยเช่นการให้แต่งกายอยู่ในระเบียบบริษัท
ประเภท ชอบถามว่า แต่งกายแบบนี้ (ตามสบายของตนเอง) ไม่ได้ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลงเสียหน่อย
ผมกากบาท ทิ้งมานับไม่ถ้วน
คนเก่งน่ะ มีให้เลือกเยอะ เรียกเข่้าสอบ กี่รุ่น เดี๋ยวก็เจอ
แต่คน ขยัน อดทน รู้จักปรับตัว หายาก
และส่วนใหญ่ พวกหลังๆนี่ จะอยู่ได้นานกว่า
พวกที่ออกไป แล้วไปโม้ว่า ตัวเองเก่ง เลยลาออกไปหาที่ดีกว่า น่ะ เห็นให้ดาษดื่น

0
คุณหญิงโฉมฉายแสงดาว 16 มิ.ย. 58 เวลา 15:15 น. 3-3

ไปดูในกทม.มันจะได้อะไรคะ พวกสถาบันชั้นนำ จุฬา ธรรมศาสตร์ มหิดล
แทบไม่เหลือแล้วค่ะเขาพัฒนาไปถึงไหนกันแล้ว อยากเห็นแจ่มแจ้งเชิญไปแม่โจ้ เชียงใหม่ พวกม.ทางภาคเหนือนู่นค่ะ

ส่วนพวกทำงานขอค่าล่วงเวลา ไม่เถียงค่ะเพราะบริษัทไหนก็มี
ก็ไม่แปลกที่จะเรียกร้องสิทธิ์ ก็มาตรฐานมันกำหนดมาให้แบบนี้ ถ้าเกินมาแม้แต่นิดเดียวจะให้มองข้ามหรอคะ
ยากค่ะ ผลประโยชน์ตัวเองทั้งนั้น

0
เปรตในหมู่ปราชญ์ 16 มิ.ย. 58 เวลา 17:32 น. 3-4

คนที่นั่งอยุ่แต่หน้าโต๊ะทำงานคอยชี้นิ้วสั่งคนอื่นอย่างท่าน หรือจะรุ้เสียกระไรครับ คิดว่าการรับน้องน่ะมันมีให้เห็นเฉพาะต่อหน้าในมหาลัยงั้นหรือ?? อิของแค่นั้นใครมันก็รับได้ครับถ้าไม่ลูกแหง่จนเกินไป นั่นมันก็แค่ภาพมายาเป็นการแสดงครับทำมาเพื่อตบสายตาคนอย่างท่านนั่นแหละ ของจริงน่ะมันมีหลังจากนั้นต่างหากครับ ท่านเคยมั้ยครับไปดูไปสัมผัสการรับน้องของจริงๆน่ะ?? เชิญไปแหกตาดูการรับน้องที่แท้จริงเถอะครับ แล้วท่านจะเข้าใจว่าทำไมถึงมีคนออกมาต่อต้านกันเป็นจริงเป็นจัง

ถ้าแค่มองอะไรฉาบฉวยอย่างท่านนะ ไม่รู้ไม่มีใครว่าหรอกครับแต่ช่วยกรุณานำกะลาใบเดิมๆออกจากหัวท่านซะเถอะ

0
เกรียนในหมู่เปรต 18 มิ.ย. 58 เวลา 19:06 น. 3-5

3-4 ที่ว่า "ของจริงน่ะมันมีหลังจากนั้นต่างหากครับ ท่านเคยมั้ยครับไปดูไปสัมผัสการรับน้องของจริงๆน่ะ??"

ขอดูบ้างได้ไหมคะ สิ่งที่คุณบอกน่ะค่ะ อยากทราบเหมือนกันว่าเป็นยังไง ^ ^

0