Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

วิจารณ์เละ! ธนาคารชื่อดัง เลือกรับพนักงานจากชื่อมหาวิทยาลัย (มาแชร์กัน ข้อดีการทำแบบนี้ คืออะไร ???)

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
รีทวิตกันรัวๆ เลยสำหรับภาพที่คล้ายกับป้ายรับสมัครงานของธนาคารแห่งหนึ่ง ซึ่งเนื้อหาด้านในกำหนดว่า "ผู้สมัครต้องจบจากมหาวิทยาลัยที่กำหนดไว้" งานนี้มีเหล่าผู้ใช้ทวิตเตอร์มาแสดงความเห็นกันเพียบ อาทิ "เป็นการรับสมัครงานโหดมาก" "เท่าที่เคยรู้มา... บ้างบริษัทก็เลือกแบบนี้ แต่เขาไม่เปิดเผย" หรือ "เปิดเผยไปเลยก็ดีจะได้ไม่ต้องไปสมัครให้เสียเวลา"



ขอขอบคุณภาพประกอบจาก @LadyGunga
มีข้อดี.........
มีข้อเสีย...........
คิดว่า ข้อดี คืออะไร มาแสดงความเห็นกันเลย
คิดว่า ข้อเสีย คืออะไร มาแสดงความเห็นกันเลย
434 โหวต
215 โหวต

แสดงความคิดเห็น

>

106 ความคิดเห็น

BuEuSnT 27 มิ.ย. 58 เวลา 16:06 น. 1

เค้าก็มีสิทธิเลือกรับคนของเค้าอะเน๊อะ เราว่า เปิดเผยไปเลยก็ดีนะ จะได้ไม่เสียเวลา ดีกว่ามาสมัครแล้วเค้าไม่เอา เสียความรู้สึกเปล่าๆ

0
mildrakbie 27 มิ.ย. 58 เวลา 16:07 น. 2

คุณเอาอะไรมาตัดสินว่าเด็กที่จบมหาวิทยาลัยอื่นไม่มีสิทธิ์สมัครงาน เด็กทุกคนแค่ขอโอกาสจากผู้ใหญ่ เพราะคุณนั้นแหละที่ทำให้เด็กสมัยนี้เดินทางในที่ทางผิด เพราะอะไรรู้ไหม เพราะเขาคิดว่าไม่มีใครต้องการไงล่ะ #เดือด

0
Apinya_Nana 27 มิ.ย. 58 เวลา 16:07 น. 3

เราคิดว่ามันเป็นสิทธิของเขาอะ คือใครก็อยากได้คนมีคุณภาพมาทำงาน ไม่รู้ดิ แต่ก็ใช่ว่ามันจะดีไปหมดอะนะ

0
เนตรอำพัน 27 มิ.ย. 58 เวลา 16:08 น. 4

แล้วแบบนี้คนที่ไม่ได้อยู่ในคุณสมบัติแต่อยากทำงานเขาก้ไม่มีสิทธิเลยหรือไง 


บางทีนี่ก้เปนตัวบ่งบอกได้เลยว่าชื่อเสียงของมหาลัยมีผลต่อการเข้าทำงานจริง 

0
Fytius Falevia 27 มิ.ย. 58 เวลา 16:10 น. 5

เหมือนกับกีดกันเลยค่ะ =__=

(เราเรียนมหิดล แต่พอเห็นอันนี้ก็อยากรู้เหมือนกันว่าของบริษัทไหน จะได้ไม่ต้องไปสมัคร)

0
คุณหนูหวัง หวังเจ้าปี้ 27 มิ.ย. 58 เวลา 16:13 น. 7

#คหสต

เลือกคนจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง คุณดูถูกคนเกินไปป่ะคะ คนที่จบจากมหาวิทยาลัยอื่นที่ไม่ได้ระบุไว้ ใช่ว่าจะไม่มีความสามารถในการทำงาน ทำแบบนี้ คุณดูถูกคนอื่นเกินไปแล้วนะคะ 

อย่ามองคนที่ชื่อเสียงของมหาวิทยาลัย โปรดดูจากความสามารถของคนๆนั้น  


0
>-->Mr.KangPla<-/-< 27 มิ.ย. 58 เวลา 16:13 น. 8

จริงๆผมไม่อยากกดโหวตเท่าไหร่นะเพราะในความคิดของผมผมคิดว่ามันเท่ากัน ทั้งข้อดีและข้อเสีย

ข้อดี 
- ตามที่คุณคห.ก่อนหน้าว่ามาเลยครับว่าจะได้ไม่ต้องเสียเวลาลุ้นให้เสียเวลา

ข้อเสีย
- ผมคิดว่าการเป็นพนักงานที่ทำงานด้านการขายหรือบริการไม่จำเป็นต้องจบมอดังก็ทำได้นะ แต่ก็ช่วยไม่ได้ในเมื่อสังคมไทยเป็นแบบนี้ไม่งั้นคนเค้าจะแย่งกันเข้ามอดังทำไม (ไม่ได้ดูถูกมออื่นๆนะครับสังคมไทยมันแบบนี้จริงๆ)

ทั้งนี้จะมีข้อดีหรือข้อเสียแต่เค้ามีสิทธิ์เลือกรับคนเข้าทำงานครับ

0
KipTedloveToR+ 27 มิ.ย. 58 เวลา 16:14 น. 9

เป็นสิทธิของเค้าจริงๆนะ อย่าดราม่ากันเลย เค้าเปิดเผยแบบนี้ใจดีมากๆแล้วล่ะ
0
saowwaluk 27 มิ.ย. 58 เวลา 16:16 น. 11

การที่เด็กมีเกรดต่ำกว่า2.75 ก็ไม่ได้แปลว่าเขาไม่เก่งเสมอไปนะคะ อย่าดูถูกคนเพียงแค่เห็นเกรด.

0
BGW-03 27 มิ.ย. 58 เวลา 16:19 น. 12

มันก็ดีแหละนะ คุณสมบัติแจ้งมาตรงๆจะได้ไม่เสียเวลาสมัคร แต่มันจะสร้างค่านิยมที่ผิดๆ ต้องจบจากที่นี่ ที่นี่ดี ผู้ใหญ่จะเริ่มกดดันเด็ก กดดันเยาวชน มีปัญหาสังคมตามมา

คำตอบคือมันดีกับบริษัทเขา แต่ไม่ดีต่อสังคม

มันก็แค่นี้เอง.

0
nisachon2539may 27 มิ.ย. 58 เวลา 16:21 น. 13

เอาเหอะ เหนื่อยกะค่านิยมแบบนี้จัง 
แล้วคนที่จบที่อื่นนี่ทำงานให้ไม่ได้ใช่ป่ะ 
แต่อย่างว่าแหละเปิดแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน คนที่จบนอกจากนี้จะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปสมัคร

0
Dr-eam 27 มิ.ย. 58 เวลา 16:21 น. 14

มหาลัยเป็นส่วนประกอบนึงที่ช่วยให้เราพัฒนา 
แต่องค์ประกอบสำคัญก็ขึ้นอยุ่ที่ตัวบุคคลเป็นหลัก 
 #ลองเปิดโอกาสให้เด็กมหาลัยอื่นได้มีจุดยืนบ้างนะคะ^^


0
ANTACH 27 มิ.ย. 58 เวลา 16:22 น. 16

ต้องมองในมุมที่ว่า บริษัทของเขา เขาก็มีสิทธิ์เต็มที่ที่จะเลือกคนเข้ามาทำงานครับ แต่ไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่เขาทำจะถูกหรือผิดนะครับ ก็แค่สิทธ์ของเขาเท่านั้นเอง

แต่ไม่ได้เห็นด้วย 100% นะครับ เพราะโดยส่วนตัวผมก็ไม่ชอบการเลือกคนจากชื่อมหาวิทยาลัย แต่ผมมองในมุมที่ว่า เรามีสิทธิ์เลือกงาน เขาก็มีสิทธิ์เลือกคน

ปล.เนื่องจากมีคนรู้จักทำงานในส่วนของ HR จึงขอแชร์นิดนึงนะครับ อยากให้ลองมองในฐานะของฝ่ายที่รับคนเข้าทำงาน ถ้าคุณรับคนที่ไม่รู้ความสามารถมาทำมั่วๆ เกิดมีปัญหาขึ้นมาคิดว่าใครต้องรับผิดชอบ? มันจึงมีหลายๆที่ที่ต้องตั้งมาตรฐานไว้ด้วย ส่วนเรื่องของเกรด ถามว่า 2.75 บอกอะไรได้? ความรับผิดชอบต่อตัวเองครับ คุณเรียนมหาวิทยาลัย คุณทำกิจกรรม คุณมีความสามารถ แล้วคุณรับผิดชอบต่อหน้าที่ของคุณหรือก็คือ นิสิตนักศึกษาได้ดีแค่ไหน เกรดมันเป็นตัวที่บอกได้ครับ

0
Guild-SS 27 มิ.ย. 58 เวลา 16:27 น. 17

ผมว่าไม่ควรเลือกว่าจบจากมหาลัยไหนนะ เพราะ มันเป็นการกีดกันความสามารถคนที่อาจจะเก่งกว่าและขยันกว่าคนที่จบจาก ม. ที่กำหนดก็ได้ และนั่นทำให้ทางบริษัทเสียโอกาสได้คนเก่งๆ+ขยันด้วย  ผมคิดงี้นะ

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

นางสาวโหด กระโดดเชือดคอ 27 มิ.ย. 58 เวลา 16:28 น. 19

นี่ไง สาเหตุที่ ผู้ปกครองหลายๆคน และเด็ก พยายามแย่งกันเข้า ม.ที่มีชื่อเสียง ก็เพื่อสิ่งนี้

บ.ก็ต้องการคนทำงานได้ เพื่อกำไรที่งอกเงย

คนทำงาน ก็ต้องจบจาก ม.ดังเพื่องานที่ให้เงินเยอะ 

โลกนี้ไม่ได้สวยงาม

0
Chaiwat Kaewmukdasawan 27 มิ.ย. 58 เวลา 16:31 น. 21
 แปลกตรงไหน? ยังกลับว่าปกติไม่ได้ดูที่ชื่อมหาวิทยาลัย ถ้าไม่ดู นักเรียนคงไม่แข่งขันเอาเป็นเอาตายหรอกครับ กว่าจะได้เข้ามหาวิทยาลัยดังๆ เขาก็คัดคนมีคุณภาพอยู่แล้ว เราไม่ได้เป็นประเทศเดียวหรอกที่ทำแบบนี้
0
Steb 27 มิ.ย. 58 เวลา 16:36 น. 23

มันก็ต้องเป็นแบบนี้อยู่แล้วครับ ไม่งั้นจะแย่งกันเรียนเพื่อเข้ามหาวิทยาลัยดีๆ ดังๆ ไปเพื่ออะไรกัน

0
Un Tirarat Moonai 27 มิ.ย. 58 เวลา 16:46 น. 24

เราโหวตมีข้อดีนะ ถึงแม้เราจะเรียนราชภัฎเพราะนั้นมันสิทธิ์ของเขาที่จะต้องเลือกรับพนักงานที่เขาคิดว่าดีและคุ้มค่าที่สุดซึ่งมันดีมากๆเลยสำหรับการเจริญรุ่งเรืองของธุรกิจเข่า คนที่เขาไม่สนใจเราต่อให้เรามีเวทมนตร์เขาก็ไม่สนใจเราหรอก อย่าไปขอความเห็นใจเลยเสียกำลังใจเราป่าวๆๆ มันก็ดีของเขาแหละเรายอมรับได้คนเรียนราชภัฎเจอฟีดแบลกเยอะชินแล้วแหละอยู่ที่ใจเรายอมรับได้แค่ไหน

0
Hibitoya 27 มิ.ย. 58 เวลา 16:47 น. 25

ทางผู้รับสมัครงาน อาจจะต้องการบุคคลากรใน คณะนี้ สาขานี้
ซึ่งคณะฯและสาขาฯดังกล่าว อาจจะเปิดจำกัดในมหาวิทยาลัยดังกล่าว

หรือ

มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับจากการตรวจสอบคุณภาพของการเรียนการสอนสาขานั้นๆมาเป็นอย่างดี

เพื่อคัดกรองเอาจำเพาะสาขาที่จบมาตรงความต้องการจริงๆของผู้รับสมัครงาน 

ข้อเสีย
บางมหาวิทยาลัยที่นอกเหนือจากข้างต้น ก็เปิดสาขานี้ที่ใกล้เคียงกับที่ต้องการเช่นกัน แต่อาจจะเปืดมาไม่นาน หรือ ยังไม่ได้รับการยอมรับ
แต่...ถ้าประกาศแบบนี้ โอกาศที่มหาวิทยาลัยอื่นจะอยากพัฒนาสาขานั้นๆก็คงอาจจะน้อยลงในเมื่อ
เด็กๆแห่ไปเรียนตามมหาวิทยาลัยที่เข้าเปิดรับสมัคร 


/คหสต จากเด็กชอบเล่นเกมวางแผนกากๆ 555




0
Ellonaire 27 มิ.ย. 58 เวลา 16:49 น. 26

เคยอ่านกระทู้ในพันทิพที่ฝ่าย HR เป็นคนออกมาพูดบ้างไหมครับ ที่ประมาณว่า "แรกๆ ก็คัดเลือกไม่ค่อยเป็นเลย เห็นที่ไหนก็เรียกมาสัมภาษณ์หมด แต่พอผ่านๆไปนานๆเข้า แค่มอง 10 วิก็รู้แล้วว่าควรเรียกไหม แล้วนักศึกษา แต่ละ มหาวิทยาลัยก็มักจะได้รับการปลูกฝังมาในแบบเดียวกัน สุดท้ายก็เลยเปลี่ยนไปกรองคนจากมหาวิทยาลัย"

คือเอาจริงๆ หลายๆที่เค้าก็เป็นอย่างนี้ครับ แค่เค้าไม่โจ๋งครึ่มเท่านี้ เค้าแค่หยิบใบสมัครของคุณขึ้นมา แล้วก็โยงทิ้งลงกองขยะทันที แค่นั้นเอง ซึ่งเราว่าก็ดีซะอีกทีเค้าบอกเราก่อน เราจะได้ไม่เสียเวลารอคอย เฝ้ารอเมื่อไหร่เค้าจะเรียกไปสัมภาษณ์ แล้วก็เป็นการลดภาระงานของฝ่าย HR ในบริษัทนั้นๆอีกด้วย เพราะมันก็เป็นสิทธิของแต่ละบิษัทในการกำหนดเกณฑ์การสมัครเข้าทำงานนี่ครับ

0
Tears of Prince 27 มิ.ย. 58 เวลา 16:50 น. 27

เข้าใจนะว่าอยากรับคนเก่งๆมีความสามารถเข้าทำงาน จบจากมหาลัยมีชื่อเสียงที่มีการแข่งขันสูง สอบเข้าได้คือคนที่ขยันและฉลาด เรายอมรับจุดนี้ ตัวเราเองไม่ได้เรียนอยู่มหาวิทยาลัยเหล่านั้นเพราะตัวเราเองขี้เกียจ ไม่ขยันเท่าคนเหล่านั้น เขาทำมากกว่าย่อมได้ดีกว่าจึงมีโอกาสที่ดีกว่าเรา แต่เราโหวตไม่เห็นด้วย เพราะ ที่เราเข้ามหาลัยมีชื่อเสียงไม่ได้จะเพราะอะไรก็แล้วแต่ ไม่ได้หมายความว่าคุณสมบัติอื่นๆเราไม่มี เราอาจพลาดในตอนแรกแต่เราปรับปรุงได้ เราเรียนรู้และพัฒนาตัวเอง ถ้าคุณไม่ให้โอกาสเราแล้วเราจะแสดงให้เห็นได้ยังไง? 
เราอยากบอกให้ทุกคนที่ไม่ได้เข้ามหาลัยดังๆมีชื่อเสียงหรือเข้าไม่ได้ ไม่ว่าเพราะอะไร แต่โลกเปิดกว้างรับคนที่มีความสามารถเสมอ เราเชื่อแบบนั้น เราต้องพยายามให้หนักกว่าคนเหล่านั้น  "ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น" สู้ๆนะ! (ไม่ได้โลกสวย แค่ไม่อยากคิดซ้ำเติมตัวเอง อยากพัฒนาตัวเองมากกว่ามากลุ้มใจ)
 
 

0
ฯ (Paiyanleg) ไปยาลเล็ก 27 มิ.ย. 58 เวลา 16:52 น. 29

ไม่ได้เห็นด้วย 100% เพราะมันดูไม่ยุติธรรมสักเท่าไหร่ แต่!
บริษัทของเขา เขาก็มีสิทธิที่จะเลือกนี่ครับ ไม่เห็นจะผิดตรงไหน
เพราะการที่เขากำหนดมหาวิทยาลัยก็เป็นเกณฑ์ตัดสินอย่างหนึ่งแล้ว ว่า...
ถ้าหากเข้าม.ในเกณฑ์ ได้ แสดงว่า คุณก็มี"ความสามารถ" ในระดับหนึ่ง หรือไม่ก็ คนที่ทำงานในนั้นก็จบม.ในเกณฑ์มาเหมือนกัน ทำให้รู้ 
1.วิธีคิด
2.วิธีทำงาน
3.วิธีคุย 
ฯลฯ
รึเปล่า 
ต้องมองในมุมของผู้รับด้วยครับว่า เขาก็อยากรับคนที่ทำงานได้นานๆ ไม่ใช่ว่าเดี๋ยวเดียวออก ต้องเทรนคนใหม่อีก นี่อาจจะเป็นหนทางเลือกหนึ่งที่จะป้องกันตรงนี้เอาไว้ครับ

(อาจจะนอกเรื่องนิดหนึ่ง แต่คิดว่าเกี่ยวกันนิดหน่อย)
คนที่บอกว่า บริษัทไม่ควรเอาเกรดมาวัด ควรวัดที่ความสามารถ
ก็ต้องถามต่อว่า จะวัดความสามารถกันยังไง?
บริษัทเขามีความจำเป้นที่ต้องการจะใช้คน ไม่ได้มีเวลามาทดสอบกันมาก ถามว่า เกรด บอกอะไรเราได้บ้าง อย่างแรกเลยคือ "ความรับผิดชอบต่อการงานและหน้าที่" แต่ไม่ได้บอกความเก่ง

และถ้าคุณเป็นเจ้าของบริษัท อยากจะได้ลูกน้องแบบไหนละ?

เพื่อนผมสอบเข้าจุฬาได้ทั้งๆที่เกรดไม่เกิน 3.00 แต่งานไม่มี ไม่หนี ไม่ส่ง แต่ความเก่งของเขขานั้นเหลือครับ เรียนพิเศษ อ่านหนังสือ พูดอังกฤษปรื๋อ

***แก้ไข เพราะ หาปุ่มตอบความคิดเห็นไม่เจอ
@meiprow บริษัทเขาคงคิดได้น่ะครับ ว่า มหาลัยไหนเหนือกว่ายังไง ออคฟอร์ดที่เป็นมาตรฐานโลกเขาคงพิจารณายกเว้นว่าเรียกเงินเดือนสูงเกินไปที่จะรับได้ และแน่นอนว่า หากคุณยกตัวอย่างแบบนี้ บริษัทคงต้องมานั่งไล่ชื่อมหาวิทยาลัยจากทั่วโลกแล้วมาติดลงในเกณฑ์ ซึ่งผมคิดว่าคงมากมายหลายแผ่นกระดาษแน่ๆ เสียเวลาอีกด้วย

0
meiprow 27 มิ.ย. 58 เวลา 16:54 น. 30

เหตุการณ์สมมติ

ฉันเพิ่งเรียนจบมาหมาดๆละ สมัครเข้าบริษัทนี้ดีกว่า อ้าว แย่จังเลย เราจบจากOxfordมา สมัครไม่ได้เบย

0
18092539 27 มิ.ย. 58 เวลา 16:56 น. 31

แล้วยังไงค่ะ สิทธิ์ของเขาอีกล่ะ 
ส่วนตัวไม่ได้เรียนมหาลัยดังๆ แต่เราก็ต้องเคารพสิทธิในการตัดสินใจของคนที่เปิดรับสมัคร

ไม่เข้าใจว่า มาเปิดโหวตให้ดราม่ากันทำไม 

0
Sir'HoLaLa 27 มิ.ย. 58 เวลา 16:57 น. 32

เหมือนดูถูดผู้สมัครงาน เเล้วก็ดูถูกมหาลัยอื่นที่ไม่ได้อยู่ในลิสด้วย

เเต่มองอีกเเง่ ก็เป็นสิทธิ์ของเค้าในการเลือกคนเข้าทำงานจริงอ่ะเเหล่ะ




0
NuTT0 27 มิ.ย. 58 เวลา 16:58 น. 33

อ่านคอมเม้นก็พอรู้แล้วคับว่า แต่ละคนเรียนมอระดับไหน
ที่ไม่มีก้ร้องกันใหญ่ มองความจริงบ้างว่าเพราะอะไรเขาถึงไม่เลือกมอพวกคุณ

0
Dont need to know 27 มิ.ย. 58 เวลา 17:06 น. 34

ที่บอกประมาณว่าจบม.ดังจากต่างประแทศอะครับเขาก็คงรับแหละแต่ก็ไม่น่าจะมีใครที่จบมาคิดจะมาสมัครงานเขามั้งแล้วที่จริงถึงแม้เกรดจะเป็นแค่ตัวเลขแต่ก็เป็นตัวเลขที่บ่งบอกถึงความสามารถด้วยนะครับ

0
ieieie12 27 มิ.ย. 58 เวลา 17:18 น. 35

อย่างว่าแหละ เค้ามีสิทธิ์เลือกไม่ใช่ที่อื่นไม่ดีนะ แต่เงื่อนไขเป็นอย่างนั้น

0
indiezreggae 27 มิ.ย. 58 เวลา 17:47 น. 37
บางทีความรู้ในการทำงาน ก็อาจจะแพ้ ความขยัน ซื่อสัตย์ และอดทน #ความคิดเห็นส่วนตัว
0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

Msicnpkcyk 27 มิ.ย. 58 เวลา 18:00 น. 39
เราแนะนำเลยน้ะ ! อย่าวัดกันที่มหาลัย
คือเรามองว่าแค่เรื่องมหาลัยไม่ควรนำมาตัดสินคนเข้าทำงานนะ !
เพราะเราคิดว่า เรื่องสมอง มันเป็นเรื่องที่สำคัญกว่าเราใช้สมองทำงาน ไม่ได้ใช้ชื่อมหาลัยทำงาน
ถ้าบริษัทหรือธนาคารไหนต้องการคนเข้าทำงานจริงๆ
1.ก็ทดสอบด้วยการถามที่ใช้ไหวพริบในการตอบ
2.ทำข้อสอบต่างๆเพื่อวัดความรู้ของคนมาสมัครงาน
3.ถ้ารีบเลือกคนเข้าทำงานจริงๆก็ดูพฤติกรรมด้วยน้ะ เพราะทุกๆบริษัทก็ต้องการคนดี
เราเลือกเห็นด้วย แต่ในใจคือ ไม่อยากเลือกอะไรเลย
ที่เราเลือกข้อดีไปเพราะ
#จะตราหน้าบริษัทนั้นๆเอาไว้ว่าเลือกรับคนจากสถาบันไม่ใช่สมองแล้วเราก็จะไม่มาสมัครกับบริษัทนี้อีกเลยต่อให้เขามาง้อเราเข้าทำงานก็ตาม
0
ตะวันเอง* 27 มิ.ย. 58 เวลา 18:02 น. 40

พี่ขอแชร์ในมุมที่มีโอกาสได้คุยกับเจ้านาย เจ้านายพี่บอกว่าจริงๆเค้าไม่ได้ตัดสินใจคนที่มหาวิทยาลัยหรือเกรดหรอก แต่ต้องเข้าใจว่าโดยปกติ บริษัทเค้ารับสมัครทีนึงมีใบสมัครเป็นหมื่นๆใบ ดังนั้นเค้าจึงไม่เวลามากพอที่จะนั่งพิจารณาใบสมัครทุกคน จึงจำเป็นต้องกำหนดเกณฑ์หนึ่งๆเพื่อคัดกรองคนออกในตรง ที่ใช้เกณฑ์มหาวิทยาลัยและเกรดก็เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมาคนในกลุ่มนี้มีโอกาสที่จะทำงานเค้าต้องการได้มากกว่าอีกกลุ่มที่เหลือ บริษัทเค้าไม่ได้มองว่าคุณจบมหาวิทยาลัยนี้มาจะไม่เก่ง แต่แค่เค้าไม่รู้ว่าตุณเก่งหรือไม่เก่ง แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมาโอกาสที่จะทำงานได้ตามที่เค้าหวังของเด็กกลุ่มนั้นมีน้อยกว่าอีกกลุ่มจากประสบการณ์ ที่นี่บางคนตอนนี้รู้สึกว่า อ้าวพี่ แล้วถ้าตอนนี้เปลี่ยนไม่ได้แล้วทำไงอะพี่ ง่ายๆคือน้องต้องทำให้ตัวเองแตกต่างจากคนอื่น เช่น เรียนให้ได้ 3.8 เป็นประธานกิจกรรมต่างๆ แบบนี้พี่ว่าทนแทนกันได้สบายๆ อีกอย่างต้องเก่งภาษาอังกฤษ บางบริษัทเค้าจะรับเลือกพิจารณาก่อนเลยครับ

ปล.มีอะไรปรึกษาได้ แต่พี่ว่าอย่าดราม่าเลย ทุกอย่างมีทางออกและคนไทย negotiate ได้เสมอเชื่อพี่ /เสริม ในทางตรงกันข้ามก็มีหลายบริษัท ที่ไม่รับเด็กจบจุฬาเหมือนกัน เพราะไม่อดทน หรืออะไรก็ตามแต่ประสบการณ์ที่บริษัทเจอมา และก็ตอนนี้เราเป็นจบใหม่ ก็ต้องเข้าใจบริษัทว่าเค้าไม่รู้จักคุณเลย ไม่มีอะไรที่จะวัดได้เลยว่าคุณเป็นคนยังไง เก่งขนาดไหน มหาวิทยาลัยและเกรดมันก็บ่งบอกว่าอะไรบางอย่าง อย่างน้อยก็ความรับผิดชอบตอนที่เรียนนะ แต่ถ้าวันนึงคุณมีประสบการณ์แล้ว การจบอะไรเกรดเท่าไหร่จะเป็นเรื่องไร้สาระทันที 

0
นายอะเลิร์ด มาก 27 มิ.ย. 58 เวลา 18:09 น. 41

ก็นะ เขาจะทำอะไรก็เรื่องของเขา เขาจะรับใครก็เรื่องของเขา แน่นอนว่าเขาต้องการคนที่มีประสิทธิภาพพอสำหรับเขา หรือเขาอาจจะมีเหตุผลของเขา ก็แล้วแต่เขา 
แต่การทำอย่างนี้ส่งผลต่อสังคม มองว่าการกักที่ไว้สำหรับคนบางกลุ่มเท่านั้น เป็นการไม่ยุติธรรมกับคนที่ก็เป็นคนและมีประสิทธิภาพพอๆกัน บางคนอาจว่าที่อื่นก็มีให้เลือกเยอะแยะ แล้วถ้าที่อื่นเอาอย่างบ้างล่ะ จะไม่เดือดร้อนเป็นวงกว้างหรอ? การทำอย่างนี้ เป็นการสร้างความเหลื่อมล้ำในสังคม(ที่ก็ชอกช้ำอยู่แล้ว) ทำอย่างนี้ไม่ฟื้นระบบ ศักดินา ระบบขุนนาง กักที่ให้เฉพาะเจ้าขุนมูลนาย ได้สบายกันเลยล่ะ ทุกวันนี้ประเทศกำลังสร้างความเท่าเทียมกัน แต่กลับมีคนมาสวนกระแสอย่างนี้ เราคงจะต้องอยู่อย่างอับอาย ปากบอกเราพัฒนาแล้วนะ แต่สิ่งที่กระทำ ระบบรากเหง้าเก่า ที่ไม่ดีพวกนี้เราก็ยังใช้กันอยู่ ผู้คนประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตย เรียกร้องความเสมอภาคเท่าเทียมกัน แต่ความเป็นเผด็จการมีอยู่สายเลือดสังคมไทยยังไม่จางหายไป เลิกฝันถึงไทยที่พัฒนาแล้ว เลิกฝันถึงไทยที่เป็นโลกเสรี เพราะเผด็จการอยู่ในสายเลือดเราทุกคน  

0
GuySpecial 27 มิ.ย. 58 เวลา 18:17 น. 42

แล้วถ้าสมมุติจบจากมหาลัยชื่อไม่ดังแต่มีประสปการ์ณในการทำงาน คุณสมบัติครบ เกรดดี แต่เค้าไม่รับ ก็เท่ากับเสียบุคลากรดีดีไป 1 คนเลยนะ

0
chain2537 27 มิ.ย. 58 เวลา 18:51 น. 44

ดูมหาลัยก็ถูกแล้วนิครับ
อย่าโวยวายอย่าเดียวใจกว้างกันหน่อย
อย่าเอาตัวเองเป็นสูญกลางจักรวาล

1.บริษัทไม่รู้จักคุณเลยจะให้ดูจากอะไรครับ

2.ดูเกรด ก็ใช้ไม่ได้ ยกตัวอย่างเกรดจาก ม.ดัง ที่มีคนเก่งๆเข้าไปเรียนเยอะ มีคนนึงจบออกมาเกรดแค่สองปลายๆ กับอีกคนเรียน ม. ธรรมดาที่คู่แข่งไม่เก่งเกรดเลยดีจบสามปลายๆ

ในความเป็นจริงเด็กจาก ม.ธรรมดาอาจจะสู้ไม่ได้ด้วยซ้ำ

3.ใบรับรองหรือใบคำแนะนำพวกนี้ไม่ค่อยมีค่าหรอกครับถ้าเด็กไม่แย่จริงๆ ใครก็รู้ว่าต้องเขียนชม

4.คุณจะให้สัมภาษณ์งานทุกคนเป็นไปไม่ได้ครับ คงไม่มีใครบ้าทำด้วย

ปล. คิดด้วยครับอย่าโวยอย่างเดียว

0
Breeze'In Freeze 27 มิ.ย. 58 เวลา 19:32 น. 45

มันเป็นสิทธิเลือกของบริษัทนะ สิทธิที่จะรับพนักงานแบบไหนก็ได้ การที่บริษัทวัดเด็กจบใหม่ ด้วย เกรด และ ชื่อมหาลัย ก็ถูกต้องแล้ว คุณจบใหม่ไม่ได้มีประสบการณ์อะไร เด็กเพิ่งจบอ่าคะ จะมีอะไรมาการันตี นอกจากเกรด และชื่อมหาลัย อย่าโลกสวยกันเลยมันก็คุ้มค่าแล้วกับคนที่เค้าพยายาม แข่งขัน เพื่อให้ได้ไปเรียนในสถาบันชื่อดัง ถ้ามันไม่เป็นแบบนี้แล้วอะไรล่ะคือผลตอบแทนของการอ่านหนังสืออย่างหนัก แข่งขันกันแทบตายให้ได้เข้าไปเรียนถ้าจบมาอะไรมันก็เท่าเทียมกันไปซะหมด จริงๆแล้วการศึกษามันทำให้เรามีต้นทุนเหนือกว่าคนอื่นค่ะ และก็เพราะมันเป็นแบบนี้ไง คุณจะโทษบริษัทอย่างเดียวไม่ได้หรอก คุณก็ต้องโทษตัวเองด้วย 

ใครๆก็อยากได้งานดีๆ เงินเดือนดีๆ มันหมายความว่าอะไร มันหมายความว่าคุณก็ต้องเก่งเช่นเดียวกัน ในเมื่อคุณไม่มีคุณสมบัติพอก็จะมาตีโพยตีพายว่าไม่เท่าเทียมงั้นงี้ แต่เดี๋ยวนะบริษัทนี้มันเป็นของเอกชนใครละมีสิทธิ ก็เอกชนไง ใครๆก็อยากได้คนที่ดีที่สุด พร้อมที่สุด เข้าไปทำงาน

จริงๆถ้าคุณไม่ได้จบมหาลัยดัง แล้วคุณคิดว่าคุณเก่งจริง มีความสามารถจริง คุณก็ไม่เห็นต้องง้อองค์กรที่ require อะไรแบบเลยนี้ คุณก็มีสิทธิของคุณที่จะเลือกไปบริษัทอื่นเช่นกัน ยากตรงไหน

อีกอย่างถ้าไม่อยากเจออะไรแบบนี้ ก็ไปสมัครสอบเป็นข้าราชการ ทำงานในภาครัฐเถอะ เพราะในระบบราชการใช้ระบบ merit system เข้ามาถ้าคุณสอบได้ คุณก็ได้ทำงาน ซึ่งจะจบมหาลัยไหน เกรดเท่าไหร่ก็มีสิทธิสอบเหมือนกันทุกคน ไม่ต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย

ปล. ขำพวกที่บอกว่าจบ Harvard,Oxford,Cambridge ก็มาทำไม่ได้สิ อยากจะบอกว่าคนไทยที่จะจบจากมหาลัยระดับโลกนี้ส่วนมากได้ทุนจากมหาลัยซึ่งก็คือทุนจากมหาลัยชื่อดังในไทยอีกนั้นแหละไม่ว่าจะเป็น จุฬาฯ มธ มหิดล ถามว่ามหาลัยไม่ดังมีทุนแบบนี้ไหม? มากกว่าครึ่งที่เรียนอยู่ในสถาบันระดับโลกนี้เป็นเด็กทุนทั้งสิ้น เพราะถ้าไม่รวยมากถึงมากที่สุด และไม่เก่งมากถึงมากที่สุด ไม่มีทางไปเรียนได้หรอกค่าเทอมกี่ล้าน อีกอย่างพูดเหมือนมันเข้าได้ง่ายๆ เด็ก เมกา อังกฤษ ยังแทบจะเข้าไม่ได้เลยถ้าไม่ได้จบจาก ไฮสกูลดังติดระดับโลก อย่าง Cardiff Sixth Form College,Eton College,TAG,BASIS Scottsdale,Gwinnett

0
Ai✽ 27 มิ.ย. 58 เวลา 19:45 น. 46

พวกคุณอาจไม่ทราบกันว่าแต่ละบริษัทดูชื่อมหาวิทยาลัยอยู่แล้ว ยิ่งเรียนสถาบันดังโอกาสที่คุณจะได้งานก็เพิ่มขึ้น บางบริษัทเขาก็เลือกเฉพาะเด็กจากม.ดังนั่นแหละ เพียงแต่เขาไม่ได้บอกคุณเท่านั้นเอง อย่างน้อยคนที่ไม่ได้จบจากม.ที่ว่านี่จะได้ไม่เสียเวลาไปสมัครงาน แล้วก็อย่างที่คห.อื่นๆว่า บริษัทเขาก็เป็นสิทธิของเขาที่จะเลือกคนมาทำงาน  

80%ของคนที่เห็นด้วยคือบุคคลที่เรียนอยู่หรือจบจากม.ตามที่เขารับ และ80%ของคนที่ไม่เห็นด้วยคือบุคคลที่ไมได้เรียนหรือจบจากม.เหล่านั้น

0
NuTJiN 27 มิ.ย. 58 เวลา 19:46 น. 47

ไม่เห็นด้วยอ่ะ ไม่รู้ทำไม5555 แต่ที่รู้ๆคือโตขึ้นจะไม่เรียนมหาลัยที่ไทย จะ ไม่ทำงานที่ไทยเพราะเหตุผลแบบนีล่ะ ถ้ายังเลือกมหาลัยกันอยู่อย่างนี้คนตกงานก็จะมีมากขึ้นคนที่จบมาทางด้านนั้นๆโดยเฉพาะก้จะไม่ได้ทำงานในสิ่งที่ตัวเองเลือก ประเทศชาติก็ไม่เจริญ
เราเข้าใจอย่างงี้ถูกป่าว

0
baiyokk 27 มิ.ย. 58 เวลา 19:48 น. 48

นี่คือโลกแห่งความจริงไง ที่ไหนเขาก็ดูชื่อมหาลัย ไม่งั้นจะเสียเงินเรียนพิเศษเป็นแสนๆทำไมล่ะ

0
มอ มอ 27 มิ.ย. 58 เวลา 20:08 น. 49

เพื่อนผมที่ไปต่อต่างประเทศ สาขานี้อยู่ กลับมาก็สงสัยคงไม่ได้ทำงานที่ประเทศไทยหรอก เพราะเค้าเลือกแค่ 14 สถาบันที่จะมาทำงานได้ 
#คหสต :) ยังไงก้มีทั้งดีทั้งเสียอ่ะคับ

0
WanTlnW 27 มิ.ย. 58 เวลา 20:10 น. 50

คหสต.นะคะขอเข้ามาดราม่าคนเดียว เราคิดว่าถ้ามีแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆคนที่จบจากม.อื่นที่ไม่ดังหรือมีชื่อเสียงไม่มากพอก็จะพากันตกงานทั้งหมดสิเพราะเลือกรับแค่เพียงเพราะชื่อมหาวิทยาลัย

0
มัณทนา[กำลังตามหาดอพเพลแกงเกอร์] 27 มิ.ย. 58 เวลา 20:15 น. 51

ค.ห.46 ในบรรดาคนที่เห็นด้วยทั้งหมด 186 โหวต
บางคน (เช่นเรา) มีญาติ รุ่นพี่ เพื่อนสมัยเรียน และคนรู้จัก
เรียนอยู่หรือเรียนจบมาจากมหาวิทยาลัย 14 แห่งตามที่เขารับ

0
Steb 27 มิ.ย. 58 เวลา 20:31 น. 52

แล้วถ้าคนที่จบมหาวิทยาลัยดังๆจากนอก เค้าจะต้องมายื่นใบสมัครในตำแหน่งแบบนี้มั้ยล่ะครับ คิดสิคิด เค้าคงไปทำงานในอีกระดับนึงแล้วล่ะ

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

♥(C)arNiTinE♥ 27 มิ.ย. 58 เวลา 21:12 น. 54

ไม่ค่อยแฟร์นะ
คือผมไม่ได้เรียนใน 14 ม. ตามที่เขาต้องการ
แต่จบมาด้วยเกียรตินิยม อยากจะทำงานธนาคาร
ช่วยบอกหน่อยได้ใหม ว่า ธ. อะไร จะได้ไม่เสียเวลาไปสมัคร
โกรธโกรธโกรธโกรธโกรธโกรธโกรธโกรธ

0
ซอลโล่ว์ดีเจ 27 มิ.ย. 58 เวลา 21:45 น. 55

คือบอกไปเลยก็ดีนะ ที่จะไม่ต้องเสียเวลาเข้าไปสมัคร เพราะหลายที่ก็เลือกรับสมัครโดยดูจากชื่อมหาวิทยาลัยก่อน เพียงแต่เขาไม่บอกตรงๆ  บางที่สัมภาษณ์เสร็จบอกว่า "จะติดต่อกลับไป" แต่ก็ไม่ติดต่อมาอีกเลย โดยไม่บอกว่าตกลงโดนปฏิเสธหรือเปล่า แบบนั้นแย่นะ 55555

0
Hiller... 27 มิ.ย. 58 เวลา 22:20 น. 57

บางอย่าง ก็ไม่ควรจะโลกสวยนะครับ

บางคนบอกว่า ทำไมต้องดูสถาบัน ดูที่ความสามารถสิ

คือถ้าสมมติว่า มีคนมาสมัครงาน 2 คน เพศเดียวกัน เกรดเฉลี่ย 4.00 เท่ากัน ประสบการณ์ไม่มีเหมือนกันเพราะเพิ่งจบ เรียกเงินเดือนก็เท่ากัน 

แต่ มหาลัยที่จบมาต่างกัน ก็มีผลครับ 

คุณไม่มีประสบการณ์อะไรเลย แล้วจะให้ HR เค้าวัดจากอะไร

เราเห็นด้วยกับการดูสถาบันที่จบมาส่วนหนึ่ง(ย้ำว่าแค่ส่วนหนึ่ง) แต่เราไม่เห็นด้วยกับบางองค์กรที่หลับหูหลับตาเลือกแต่สถาบันเพียงอย่างเดียว โดยไม่ดูเหตุผลอื่นประกอบเลย

0
แกงจืดหมูสับ 27 มิ.ย. 58 เวลา 22:37 น. 58

ผมก็ไม่ค่อยเห็นด้วยในเรื่องของการเลือกสถาบันในการรับสมัครเท่าไหร่ แต่ก็เข้าใจ HR นะว่าถ้าเป็นบริษัทใหญ่ๆที่คนมาสมัครเยอะๆการจะเรียกมาสัมภาษณ์ทุกคนหรือเพื่อทดสอบมันทำได้ลำบาก ซึ่งมันก็ไม่แปลกที่เขาจะใช้เกณฑ์บางอย่างดูเบื้องต้นไปก่อนเลย ถึงแม้จะมีโอกาสที่จะเสียคนเก่งๆนอกจากสถาบันที่ตั้งเอาไว้แต่มันก็ยังมีคนเก่งอีกหลายคนให้เขาเลือกครับ (อย่าลืมว่าเงื่อนไขเบื้องต้นก็เพราะมีคนมาสมัครเยอะอยู่แล้วเขามีให้เลือกเยอะ)

แต่ผมเห็นด้วยมากๆกับการแจ้งมาตรงๆเลยว่าใช้สถาบันเป็นเกณฑ์คุณสมบัติหนึ่งในการคัดเลือกครับ เพราะมันทำให้ไม่ต้องเสียเวลากันทั้งสองฝ่ายบอกกันตรงๆเลยแบบนี้ผมว่าแฟร์ดี คนสมัครจะได้ไปมองหาที่อื่นแทนที่ยอมรับในความสามารถของเขาโดยไม่มองคุณสมบัติตรงนั้น เปลี่ยนไปจากไอวิธีเดิมๆที่ไม่อยากให้บริษัทเสียชื่อเสียงหรือเกรงใจไม่เข้าท่า แบบไม่แจ้งคุณสมบัติที่อยากได้ให้ชัด/ไม่แจ้งผลให้ทราบแบบตรงๆว่าไม่รับ

0
lovern 27 มิ.ย. 58 เวลา 22:59 น. 59

บริษัทเค้าก็มีสิทธิ์เลือกหนิ่ มีกระทู้เยอะแยะเหตุผลของคนที่เค้าเป็นคนพิจารณารับงาน ใจความประมาณว่าเด็กที่จบจากมหาลัยชื่อดังโดยส่วนใหญ่มีความรับผิดชอบและคุณภาพดีกว่าเด็กที่จบมหาลัยไม่ดังหรือราชภัฎ  ก็ต้องยอมรับเพราะมันก็มีความจริงอยู่ เพราะไม่งั้นเด็กจะแย่งเข้ามหาลัยดังๆทำไม แค่การสอบเข้ามหาวิทยาลัยก็แสดงให้เห็นชัดละ

0
NP5410 27 มิ.ย. 58 เวลา 23:09 น. 60

คหสต. ของเรานะเราคิดว่า
    การที่เค้าเลือกคนจากบางมหาวิทยาลัยก็เพราะมหาวิทยาลัยได้คัดคนเข้ามาแล้วขั้นนึง หมายความว่าในตัวของคนๆนั้นต้องมีดีอะไรซักอย่างอาจจะเป็นความรับผิดชอบ หรือความเก่งความสามารถ 
     ส่วนชื่อมหาวิทยาลัยที่เค้าก็คงจะมีเหตุผลว่าทำไมถึงเลือกมหาวิทยาลัยพวกนี้ อาจเป็นเพราะจากประสบการณ์ที่จ้างงานเด็กที่จบจากมหาวิทยาลัยพวกนี้มีความสามารถและความรับผิดชอบมากพอที่จะทำงานให้เค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
     เราคิดว่าเรียนที่ไหนก็เหมือนกันมันไม่จริงหรอก เพราะแค่การเรียนการสอนก็ต่างกันแล้ว ถ้าเรียนที่ไหนแล้วเหมือนกันก็คงไม่มีใครอ่านหนังสือแทบเป็นแทบตายเพื่อเข้ามหาวิทยาลัยดังๆหรอก แต่ถ้าคิดว่าเรียนจบมาจากไหนก็ได้ปริญญาเหมือนกันอันนี้ก็โอเค
     แล้วที่ทำงานก็ไม่ได้มีที่เดียว การกำหนดคุณสมบัติก็เป็นสิทธิของทางบริษัทเค้า เพราะใครๆก็อยากได้คนที่มีคุณภาพเข้ามาทำงานให้ตัวเองทั้งนั้น อาจจะเพราะทำให้เกิดความก้าวหน้าได้รวดเร็วกว่า  ถ้าเรารับคุณสมบัติที่เค้ากำหนดไม่ได้ก็แค่ไปสมัครที่อื่นที่เค้ารับดีกว่ามั้ยอ่า
     เราเชื่อนะว่าคนที่มีความสามารถจริงๆยังไงก็ต้องมีงานทำแน่นอนแหละ ถ้าไม่เลือกงานนะหนักเอาเบาสู้ ค่อยๆไต่เต้าไป

ขอโทษที่พิมพ์ยาวนะ 

0