ภาพปกนิยาย มีผลกับการตัดสินใจซื้อนิยายมาอ่านมากแค่ไหนครับ
ตั้งกระทู้ใหม่
ช่วงหลังๆเริ่มเข้ามาอ่านนิยาย Dek D อยู่บ้างโดยเฉพาะเรื่องดังๆที่ได้ตีพิมพ์ แต่พออ่านไปสักพักเจอสกิล'ติดตามต่อในเล่ม' เลยลองหาข้อมูลหนังสือดู
แต่พอเจอภาพปกเท่านั้นแหละ ผมเลิกล้มความคิดที่จะซื้อในทันทีเลย
ตอนนี้นิยายไทยที่ซื้อเก็บจริงๆมีแค่ Element Online เรื่องเดียว เพราะว่าภาพปกกับภาพประกอบสวยดี(เฉพาะ 2 เล่มแรกนะ) แถมยังมีการ์ดรูปตัวละครแถมมาอีก เลยรู้สึกว่าคุ้มค่าน่าสะสมดี
ตอนแรกว่าจะสั่ง DWO อีกเรื่องเพราะภาพประกอบสวยไม่แพ้กัน แต่งบหมดเลยต้องรอไปก่อน
สำหรับผมภาพปกมีผลต่อการตัดสินใจซื้อประมาณ 60% เลยทีเดียว นอกจากนั้นก็เป็นสไตล์การบรรยาย 20% กับเนื้อเรื่องอีก 20%
32 ความคิดเห็น
ชื่อเรื่อง 40% เรื่องย่อ 30% และปก 30% โดยประมาณครับ
มีพอสมควรค่ะ ถ้าห่อพลาสติกแกะไม่ได้เราดูที่สามอย่างค่ะ
ชื่อเรื่อง - ถ้าฟอนต์ประหลาดจนอ่านไม่ออกไม่ซื้อ ถ้าชื่อส่อแนวตลกโปกฮาไม่ซื้อ (ยกเว้นว่าจะเป็นตลกแบบประชดประชัน) ถ้าชื่อยาวเกินไปไม่ซื้อ
ปก - เราค่อนข้างไม่ถูกโฉลกกับหนังสือที่มีปกเป็นการ์ตูนญี่ปุ่น เพราะเรามักจะอนุมานไว้ก่อนว่าถ้าหน้าปกมันออกแนวการ์ตูนญี่ปุ่น เนื้อหาข้างในก็ต้องออกแนวการ์ตูนญี่ปุ่นเหมือนกัน และเราไม่ค่อยชอบ ชอบเรียลๆ ดังนั้น ชอบปกที่สีมืดๆ เป็นภาพถ่ายจริงๆ มากกว่าการ์ตูน และถ้าเป็นการ์ตูนก็อย่างน้อยขอหน้าตาเครียดๆ ดูจริงจังหน่อย ถ้าออกแนววี้ดว้ายตะละล่าดูเป็นเด็กเกินไปไม่ซื้อ
คำโปรยด้านหลัง - อ่านยากไม่ซื้อ ถ้าไม่สื่ออะไรก็ไม่ซื้อ (เช่น มีประโยคเดียวที่เหมือนจะเป็นคำคมมีความหมาย แต่คิดไปคิดมามันไม่มี) ถ้าสื่อว่านิยายออกแนวตลกโปกฮาก็ไม่ซื้อ
ด้วยเหตุนี้ จึงไม่ได้ซื้อนิยายใหม่ๆ มานานแล้ว เพราะเรื่องมากอะไรก็ไม่ซื้อนั่นเอง 555
เหมือนกันเลยครับ ผมค่อนข้างเรื่องมากเหมือนกัน ช่วงหลังๆ ก็ชอบแต่นิยายเก่าๆ เพราะรู้สึกว่านิยายใหม่ๆ มันไม่โดนใจด้วย
ภาพปกมีผล 50%
คำโปรยมีผล 50%
เลือกเก็บสะสมแนวเขียนที่ตรงใจเรา
ปกมากกว่า 70% ค่ะ ในกรณีห่อพลาสติก ชื่อเรื่องไม่ค่อยมีผลเท่าไหร่ อีก 30% เป็นคำโปรย
คือถ้ามาตัวละครไม่ถูกโฉลกหรือมีชายรูปงามขึ้นปกพร้อมกันแล้วส่อวาย เราก็ขอบายเลยนะ
เราชอบชายคู่กับหญิงบนปกมากกว่า หรือไม่ก็ชายเดี่ยวๆ หรือไม่ก็หญิงเดี่ยวๆ ไปเลย
มีพอสมควรครับ แต่มีผลในเรื่องการดึงดูดความสนใจให้หยุดมองและหยิบขึ้นมาดู รวมไปถึงภาพลักษณ์ของสนพ. และผู้จำหน่ายมากกว่า คือปกสวยๆ ออกแบบงามๆ มันรู้สึกว่าสนพ.เขาลงทุน และเอาใจใส่ผู้อ่านนะครับ
แต่ซื้อไม่ซื้อ นิยายดีไม่ดีนี่อีกเรื่องนะ ส่วนใหญ่-่เล่มที่ผมซื้อจริงๆ ซื้อเพราะชื่อนักเขียนที่ชอบ หรืออ่านรีวิวมาแล้วว่าน่าสนใจจริง นานๆ ทีจะซื้อจะเพราะหน้าปก
ปล.ไม่ใช่แค่หน้าปก คำโปรยก็มีผลต่อภาพลักษณ์วผู้ผลิตเหมือนกัน เช่น...
โปรยแบบนี้...แน่ใจว่าทีมบ.ก.ใช้สมองคิด??
โอ้ย รู้สึกหูตาสว่างมากขึ้น นี่ไม่คิดว่าจะเป็นหนักถึงขนาดนี้นะคะเนี่ย
แน่ใจนะว่าคือคำโปรย.... ที่อยู่ปกหนังสือ....ที่วางขายอยู่ตามที่สาธารณะ
...ขุ่นพระ นี่หรือเมืองพุทธ
เรานี่ถึงขั้นไปตามหาเลยทีเดียว
เงิบเลย -_-
อะแฮ่ม! WWW.SE-ED.COM กันเลยทีเดียว (ฮา)
มองในแง่ดีพระเอกอาจจะเป็นสัตว์ก็ได้? เพราะคนดี ๆ เขาคงไม่มีความคิดเช่นนี้หรอกนะ! (ไม่ให้กุก็จะฟัน)
เออ... คำโปรยของจริงหรือครับนี่ มันช่างอาชญากรรมชัดๆ
มาแบบนี้ ขอชื่อเรื่องด้วยได้ไหมครับ
เอาคำโปรยสืบค้นกับgoogle ก็เจอแล้วคับ =-=
เจอละครับ พบทั้งสนพ.เลยทีเดียว
เป็น(เกือบ)ทุกเรื่องของสนพ.นี้จริงๆ
เจาะกลุ่มตลาดชัดเจนจนน่ากลัว
80% เลยล่ะสำหรับผม
เพราะภาพปกอธิบายหลายๆอย่างในเนื้อเรื่องได้เลย ตัวละครน่ารักไหม (ถึงจริงๆในนิยายหน้ามันจะไม่ใช่แบบนั้นก็เถอะ) ถ้าปกหน้าตาดูดี เนื้อเรื่อง หรือโลกในนิยายเรื่องนั้นก็ควรจะดูดีตามปกด้วย
เฉพาะแฟนตาซีนะ นิยายรักต้องอาศัยคำโปรย หรือเนื้อเรื่องตัวอย่างหลายๆบท
มันเหมือนเป็นความประทับใจแรกน่ะค่ะ ถ้าหน้าปกดึงดูดพอให้เรียกความสนใจ เพราะถ้าต่อให้เนื้อหาข้างในจะดียังไง แต่ถ้าไม่มีใครสนใจหนิบขึ้นมาดูก็ไม่รู้หรอกค่ะ แล้วยังมีอีกหลายท่านที่เลือกซื้อนิยายโดยมีภาพประกอบหรือหน้าปกที่สวยงาทเข้ากับเนื้อเรื่องเป็นปัจจัยหลักด้วยน่ะนะ
//ผมขอโทษ เรื่องที่ใส่สกิลติดตามต่อในเล่ม DWO นะครับ T_T
ก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกครับ เข้าใจว่าเป็นนโยบายของสนพ. แค่เห็นภาพประกอบกับการ์ดสวยๆ ต่อให้พี่ไม่ลบผมก็คิดจะซื้ออยู่แล้วล่ะครับ
แต่คงต้องหลังจาก EO เล่มใหม่ออกก่อนนะครับ สั่งในเว็บทีเดียว 3 เล่ม(2.1 2.2 3.1) ก็โดนไปเกือบพันแล้ว
ส่วน DWO คงจะทยอยสั่งเดือนหน้า จะพยายามเก็บให้ครบก่อนงานหนังสือ
ผมว่ารองานหนังสือเลยดีกว่าครับาำหรับ DWO เพราะเล่มจบออกงานหนังสือพอดีครับ ถ้ามี box จะได้ทั้ง box และของสมนาคุณครับผม^^
//ในงานหนังสือลด 20% ด้วยครัยซื้อยกชุด
มีผลค่ะ มันบอกบุคลิกของหนังสือ
เราจะกลับกับคนในนี้ส่วนใหญ่ คือเราไม่เคยซื้อนิยายแจ่มใสอ่าน เพราะปกเป็นการ์ตูนนี่แหละ มันเกิดความรู้สึกกลัวจะมุ้งมิ้งเกินพอดีอ่ะค่ะ
รู้สึกเราจะต่างพวกค่ะ ¥_¥ เราเป็นพวกอ่านนิยายแจ่มใส(แต่ก็ไม่ถึงขนาดบ้ามาก) โดยส่วนตัวแล้ว หน้าปกประมาณ 50% เลยค่ะ ลายเส้น(25%)และแสดงถึงเนื้อหาและคาแรกเตอร์ของตัวละคร(25%) และอีกนิดสำหรับความประทับใจในการมองครั้งแรก ตามที่ข้างบนบนได้บอกไว้ค่ะ คือมันดึงดูดเราแบบ " อ่านฉันสิ อ่านฉัน ฉันอาจจะสนุกนะ นักเขียนที่เธอชอบด้วยนะ " (มโนไปไกลค่ะ 555) ส่วนคำโปรย 30 % ถ้าหน้าปกโอเค คำโปรยก็น่าสนใจ เราก็จะเปิดอ่านสักนิดค่ะ และจะว่าเราก็ได้นะคะ แต่ติดจนเป็นนิสัย เป็นพวกประเภท"ชอบอ่านตอนจบก่อน"ค่ะ 555 ส่วนตัวเราจะแบบ แอบเปิดอ่านตอนจบนิดๆ ถ้ามันจบโอเค เนื้อหาต้นๆก็น่าสนใจ ซื้อค่ะ ...นี่เป็นแบบสไตล์เราอ่ะนะ แต่ละคนก็มีสไตล์การเลือกซื้อไม่เหมือนกันค่ะ
(คหสต.ล้วนๆนะคะ)
ในกรณีที่ห่อปก หน้าปกก็จะ.. 60% ครับ ส่วนคำโปรยก็ 35% ส่วนอีก 5% นั้นคือเหลือบมองชื่อคนเขียนครับ... ในกรณีที่ซื้อรักวัยรุ่นนะ
ในกรณีซื้อออนไลน์ ถ้าอ่านจากที่ลงไว้ในเว็บแล้วติดหนักก็ซื้อครับ ภาพปกกับคำโปรยแทบไม่มีผลเสียเท่าไหร่ แต่ส่วนใหญ่มักมาช้าแล้วซื้อไม่ทัน Orz...
ปก 20% ค่ะ เฉยๆ แต่ห่อ พลาสติก 20% เลย55
แล้วส่วนมาก คำโปรยเรื่องๆเลย เน้น สนุกค่ะ 30% ชื่อเรื่อง 30%
ปก 50%
คำโปรย 30%
เนื้อหา 20%
ภาพปกมีผลเล็กน้อยครับ ผมเลือกอ่านนิยายเพราะต้องการอรรถรสจากตัวหนังสือ
ถ้าอยากได้ภาพ ก็คงไปอ่านมังงะหรือการ์ตูน
เลือกจากเนื้อหา ถ้าไม่ซีลพลาสติก
แต่ถ้าซีล ก็จากคำโปรย ชื่อเรื่องและปก
มีน้อยมากเพราะสนใจเนื้อหากับชื่อนักเขียนมากกว่า
มีมากๆ เลยค่ะ มีนิยายออนไลน์บางเรื่องภาพปกไม่สวยจนเราไม่คิดจะซื้ออ่าน
แต่พอได้ลองจากร้านเช่า ค่อยวิ่งไปหาซื้อมาเก็บไว้ / มีในครอบครองก็ไม่ถูกใจปกอยู่ดี >.<
ปก 20% สำหรับเราภาพจะสวยหรือไม่สวยไม่เกี่ยว รูปบนปกจะเป็นภาพการ์ตูน ภาพคน สิ่งของ สถานที่ สัญลักษณ์ หรือภาพอื่นๆก็ไม่เกี่ยว เราดูที่ระดับความถูกชะตาล้วนๆ
ชื่อเรื่อง 20% เป็นส่วนที่เราจะดูถ้าปกมีระดับความดึงดูดต่ำ ถ้าปกมีระดับความดึงดูดสูงเราจะข้ามไปดูเรื่องย่อเลย บางเรื่องซื้อมาอ่านจนจบ
แล้วพึ่งจะรู้ชื่อเรื่องก็มี
เรื่องย่อ+เนื้อเรื่อง 60% แบ่งเป็น 2 แบบ คือ
แบบไม่ได้ห่อพลาสติกหรือมีตัวอย่างเนื้อเรื่องให้อ่านเรื่องย่อจะมีผล 20% อีก 40% เป็นส่วนเนื้อเรื่อง
แบบห่อพลาสติกเรื่องย่อมีผล 60% เต็มๆ
และแบบแรกจะสามารถดึงดูดเราให้ซื้อได้มากกว่าแบบที่สอง
สิ่งที่ไม่มีผลกับเราเลยคือสำนักพิมพ์ ผู้แต่ง ผู้แปล และผู้วาดภาพ เพราะบ้านเรามีหนังสือหลากหลายสำนักพิมพ์มาก นับคร่าวๆได้ 10 กว่าสำนักพิมพ์ ส่วนผู้แต่งกับผู้แปลบางเรื่องซื้อมานานมากแล้วพึ่งจะรู้ว่า อ้าว!สองเรื่องนั้นคนเขียน/คนแปลคนเดียวกันนี่นา
สิ่งที่ทำให้เราตัดสินใจซื้อหนังสือสักเล่มก็ตามนี้ล่ะค่ะ
นิยายเดี๋ยวนี้ห่อ ซะแน่นหนา ไม่สามารถเข้าไปลองอ่านตอนแรกของเรื่อง
ได้ได้แต่พึ่งหน้าปก กับเรื่องย่อหลังเล่ม. สำหรับเรานะ. หน้าปก 70% เรื่องย่อหลังเล่ม 30% แต่ตอนนี้บางที ก็มีอะไรมาบังเนื้อเรื่องย่อหลังเล่มให้ไม่สามารถอ่านได้ ก็ไม่ซื้อเหมือนกัน.
เมื่อก่อนเข้าร้านหนังสือทีได้ 15เล่มขึ้นไป. เดี๋ยวนี้ สักเล่มนึงยังไม่ได้เลย. มันคืออะไรกันนี่ๆๆๆๆๆ
แต่ไปงานสัปดาห์หนังสือทีจัดหนักเลย เพราะไม่ค่อยห่อหนังสือไง
ปก 5% ชื่อ 40% คำโปรย 50% ความหนา 5% (ถ้าบางไปไม่ค่อยชอบอ่าน)
แทบไม่สนใจปกเลยค่ะ จะดูชื่อเป็นอันดับแรกเลย ปกจะมีผลเฉพาะการ์ตูนเท่านั้นค่ะ ลายเส้นหน้าปกถ้าไม่สวยส่วนมากจะไม่อ่าน แต่นิยาย ถ้าเนื้อหาชอบซื้อแน่ๆ ปกสวยจะดึงดูดให้หยิบมาดูเท่านั้นค่ะ ไม่มีผลต่อการซื้อหรือการอ่านสักเท่าไหร่
ปกสำคัญมากถึงมากที่สุดค่ะ เพราะเป็นตัวเลือกแรกที่จะหยิบหนังสือบนชั้นวางมาดู
สอง จะพลิกด้านกลังปกเพื่ออ่านเรื่องย่อหรือคำโปรยค่ะ
สามนามปากกามีผลนิดนึง แต่! ถ้าเป็นคนเขียนที่ติดตามอยู่จะซื้อเลยค่ะเพราะชอบแนวเขียนและสำนวน ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่ทำให้ผิดหวัง
รู้จัก Kill no more มั้ยคะ ดีนะที่เรื่องนั้นใช้ภาพที่ผู้วาดอีกคนวาดมาเป็นปก ถ้าเอาภาพที่คนเขียนวาด คงไม่มีวันหยิบมาจากชั้นวางหรอกค่ะ บรึ้ยยยย
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?