(ชวนคุย) เวลา "ฟิลลิ่ง" ในการแต่งนิยายมาผิดจังหวะ ท่านทำยังไงกันครับ ?
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีครับ
ปกติพวกเรามักจะกำจัด "ความขี้เกียจ" ออก ทว่าตอนนี้ พวกเราต้องกำจัด "ฟิลลิ่ง" ในการแต่งนิยายออกแล้วมาทำสิ่งที่สำคัญกว่า
ผมว่านักเขียนดูๆแล้วมีอารมณ์อ่อนไหวต่อสิ่งรอบข้างแน่นอน แต่มันเป็นปัญหาระดับโลก
ฟิลลิ่งมาตอนที่เรากำลังยุ่งหรือมาตอนนี้ที่ร่างกายเราไม่มีแบ่งร่างได้(คืออยากจะแต่งนิยายแต่ไม่ใช่ตอนนี้) ทำให้เรารู้สึกเสียดายกับสิ่งนี้ เป็นผมก็เสียดายนะครับ แบบอยากจะเอามือไปเปิดคอมพ์แต่สมองห้ามเอาไว้ อย่า อย่า งานๆ อย่า (อยากร้องไห้มากๆ)
แต่แปลก...พอปิดเทอมดันรู้สึกขี้เกียจ หรืออะไรก็แล้วแต่
พวกท่านมีวีธีจัดการยังไงกับมันครับ ?
ปกติพวกเรามักจะกำจัด "ความขี้เกียจ" ออก ทว่าตอนนี้ พวกเราต้องกำจัด "ฟิลลิ่ง" ในการแต่งนิยายออกแล้วมาทำสิ่งที่สำคัญกว่า
ผมว่านักเขียนดูๆแล้วมีอารมณ์อ่อนไหวต่อสิ่งรอบข้างแน่นอน แต่มันเป็นปัญหาระดับโลก
ฟิลลิ่งมาตอนที่เรากำลังยุ่งหรือมาตอนนี้ที่ร่างกายเราไม่มีแบ่งร่างได้(คืออยากจะแต่งนิยายแต่ไม่ใช่ตอนนี้) ทำให้เรารู้สึกเสียดายกับสิ่งนี้ เป็นผมก็เสียดายนะครับ แบบอยากจะเอามือไปเปิดคอมพ์แต่สมองห้ามเอาไว้ อย่า อย่า งานๆ อย่า (อยากร้องไห้มากๆ)
แต่แปลก...พอปิดเทอมดันรู้สึกขี้เกียจ หรืออะไรก็แล้วแต่
พวกท่านมีวีธีจัดการยังไงกับมันครับ ?
23 ความคิดเห็น
อย่าๆๆๆ งานนะอย่าพึ่งมา ขอแต่งก่อนกำลังได้ฟีล สักนิดนะ แค่นิดเดียว เดี๋ยวจะไปทำงาน
เป็นแบบนี้คะ ประจำเลย T^T
ความขี้เกียจเราทักจะไปพร้อมกับฟิลลิ่ง เวลาปกติ ฟิลลิ่งมาเต็ม พอขี้เกียจปุป ฟิลลิ่งขี้เกียจตามไปด้วยค่ะ ฮา
เป็นประจำค่ะ ฟิลลิ่งมาแต่เราไม่ว่าง เวลาว่างฟิลลิ่งดันไม่มา 555
ปล่อยมันไป... ค่ะ
พยายามจดจำเอาไว้ ทำงานก่อน แล้วค่อยไปเขียนค่ะ
ในเมื่อฟีลมาขนาดนั้นแล้ว ...
แต่งต่อเลยค่ะ งานช่างมัน เย้ย ! ไม่ใช่แล้ววว ฮ่าาาา
คิวบิจะจดคร่าว ๆ ไว้ก่อนค่ะ
ฉากประมาณไหน พ้อยท์สำคัญ หรือคำพูดเด็ด ๆ ที่พุ่งปรี๊ดขึ้นมา
สำหรับคิวบินะ พอมีฟีลอยากแต่งต่อเมื่อไหร่
จะปั่นงานที่ค้างอยู่ได้เร็วขึ้นเลยค่ะ ฮ่าาาาา
ประมาณว่าอยากมาแต่งเรื่องต่อไว ๆ ^^
ส่วนใหญ่ก็ต้องปล่อยค่ะ 5 5 5 5 5 5
ล่าสุดก็เมื่อคืนนี้เลย พอปิดเทอมแล้วก็จะนอนดึก แต่แบบเที่ยงคืนแล้วนะ หลับตากำลังจะนอนเลยดันคิดพล็อตได้แล้วอยากจะลุกไปแต่งตอนนั้นเลย แต่มันก็ดึกมากแล้วไง มันเที่ยงคืนแล้ว เลยได้แต่ข่มตานอนหลับไป พอตอนเช้าก็รีบมาปั่นเลย
ถ้ามันมาแล้วก็ต้องจดเลย เป็นประจำ นั่งเรียนอยู่ๆดีก็ดันโผล่เข้ามาในหัว ไม่รู้จะทำยังไงก็เลย เขียนเลยจ้า หรือไม่ก็นั่งคิดต่อยอดไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็ลืมไปแล้ว 5555
แล้วก็ตอนที่กำลังแปลการ์ตูนอยู่ก็โผล่มาอีก จำเป็นต้องทิ้งงานแปลไว้ แล้วไปพิมพ์ลงในเวิดโล้ด หรือไม่ก็จดเอาไว้ก่อน มันมาตลอดแระแต่เราไม่คิดที่จะจดไว้ก็มี
โดยปกติแล้วจะมีโพสต์อิทอยู่ข้าง ๆ ไม่ก็สมุดเล่มเล็ก ๆ พกไปไหนมาไหนด้วยครับ เรื่องฟีลลิ่งมานี่ห้ามไม่กด้จริง ๆ
ถ้าเกิดมาตอนเวลาทำงานอยู่ก็จะหยุดทำงานก่อน ใช้เวลาจดทุกสิ่งอย่างลงไปในกระดาษ ในมือถือที่คิดว่าสะดวกด้วยความรวดเร็วแล้วค่อยทำงานต่อครับ ถ้าไม่จดมีลืมแน่นอน 555555
เราเป็นคนที่มักจะได้ฟีลลิ่งการเขียนหรือพล็อตนิยายใหม่ตอนทำข้อสอบค่ะ และนั่นก็ทำให้สติหลุกไปขั่วขณะนึง นี่สินะเหตุผลของเกรดอันน้อยนิด
ถ้าไม่มีฟิลลิ้งในการแต่งก็จะหยุดค่ะ ได้แค่ไหนเอาแค่นั้น
เราจะคิดออกเวลาที่ขี้เกียจ -.,- คือไม่ว่าเรื่องที่คิดนั้นมันจะดีขนาดไหนก็...ขี้เกียจอยู่ดี ฮ่าา
หัวเราจะเเล่นตอนที่ว่างๆ ( บางทีนั่งเรียนอยู่ก็มีลอยเข้ามา ) วิธีแก้ปัญหาที่นึกๆ ได้แล้วลืมก็คือ
ตอนนี้เราจะมีสมุดโน้ตไว้เล่มนึง เวลาคิดได้ก็จะจดไว้ ซึ่งบางคนนี้จดเป็นระเบียบมากก แยกว่านู้นนี่คืออะไร แต่เรานั่นหรือ ฮึๆ #หัวเราะแบบตัวโกง จดมั่วเลยจ้าา แล้วก็จะขีดไว้เป็นช่องๆ
#ทำไมไม่มีระเบียบขนาดนี้ #นี่บ่นอะไรเรอะ -__-
เรามีวิธีที่ใช้ประจำอยู่ค่ะ
คือพกสมุด ดินสอ ปากกา
คือฟีลลิ่งมันจะมาบ่อยๆเวลาสอบเสร็จ
พอนอนปุ๊ปหัวมันก็จะไหลปั๊ปอย่างกับตั้งเวลาไว้
เราก็จินตนาการของเราไปเรื่อยๆค่ะ
(แต่จะยากหน่อยถ้าจำไม่ได้ 555)
พอพักเที่ยงก็จดใส่สมุดค่ะ
ถ้าจะให้ดีสมุดก็แบ่งเป็นหน้าๆเลยค่ะ
ส่วนนี้จดพล็อต ส่วนนั้นเป็นเรื่องสั้นระบายฟีลลิ่ง
กลัวลืมก็โพสต์อิทอันเล็กๆเลยค่ะ แปะมันตรงหน้านั้นเลย 555
แล้วก็ใช้ไฮไลท์ขีด แบ่งเป็นสีๆ
สีนี้คือพล็อตหลัก สีนั้นคือฉากที่อยากแต่งเพิ่ม
(แลดูเป็นการเป็นงานและเรียบร้อย 555)
อันนี้เป็นวิธีที่เราใช้อยู่
เราว่ามันก็โอเคดี
แต่อาจจะลำบากนิดนึงเวลาขี้เกียจหรือไม่ว่าง 555
ไม่ว่างก็หาเศษกระดาษโน๊ตไว้ก่อน
ว่างก็ค่อยจดดีๆ เดี๋ยวทำเศษกระดาษหาย 555
อะแฮ่ม ถ้าฟีลลิ่งมาเราจะดูก่อนว่าสถานการณ์ตอนนั้นมันพอจะแต่งได้ไหม? ถ้าไม่ได้จริงๆก็จะพยายามหักห้ามใจตัวเองแล้วจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ควรจะทำค่ะ
...แต่บางทีมือมันก็ทำตามหัวใจค่ะ ไม่ใช่ความผิดเรานะ ความผิดมือ!
ช่วงไหนไม่ว่าง ฟีลลิ่งเขียนนิยายจะมาเต็มมาก แทบดิ้น ยังไงก็อยากจะเขียน
แต่ตอนว่าง... ฟีลลิ่งกลายเป็นฟีลลง ความรู้สึกอยากเขียนนิยายหายหมด นอนเล่นเกมอย่างเดียว
ของเราน่าจะเรียก...อารมณ์อยากอู้มากกว่าฟีลลิ่ง ฮ่า ๆ ๆ
จดลงสมุดไม่ก็พิมในโทรศัพท์ค่า แต่ถ้าง่วงหรือยุ่งมากๆ ก็จะเปิดอัดเสียงไว้เลย ประหยัดเวลาดี ^^
เคยฟีลลิ่งมาตอนนั่งเรียนอยู่ค่ะ -..-
กำลังนั่งเรียนอยู่แล้วอยู่ดี ๆ ตอนใหม่มันก็ผุดขึ้นมาในหัวเฉย แล้วตอนนั้นก็กำลังนั่งทำงานที่อาจารย์เขาสั่งอยู่ด้วยไง ก็พยายามบอกกับตัวเองว่าทำงานให้เสร็จก่อน แล้วเดี๋ยวค่อยแต่งก็ได้
แต่พอทำงานเสร็จแล้วฟีลลิ่งในการอยากแต่ง ตอนใหม่ที่คิดขึ้นมาได้มันดันหายไปซะงั้น ถถถถถถถถ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?