ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว! รวมวิธีคิด ข้อสอบ PAT3 วันนี้ "ใครเป็นโจร ?"
ตั้งกระทู้ใหม่
คุณต้องการจะลบกระทู้นี้หรือไม่ ?
49 ความคิดเห็น
เอาช้อยไปแทน ก กับ ค เป็นโจร
เหมือนกัน
ในการโจรกรรมธนาคารแห่งหนึ่งมี ผู้ต้องสงสัยอยู่ในสถานการณ์สี่คน ซึ่งอีกสองคนเป็นโจรจะพูดเท็จเสมอ และอีกสองคนเป็นผู้บริสุทธิ์ซึ่งจะพูดแต่ความจริงเสมอ
ถ้าคำให้การของแต่ล่ะคนเป็นดังนี้
ก: นาย ก เป็นโจรคนนึง
ข:นาย ค เป็นโจรคนนึง
ค:นาย ก และ ข เป็นโจร
ง:นาย ข ไม่ใช่โจร
แล้วใครเป็นโจร
1 ก และ ข 2 ข และ ง
3 ก และ ค 4 ค และ ง
5 ข และ ค
#นี่ครับคำถามที่ท่องออกมา
แก้#ก:นาย ง เป็นโจรคนนึง
ขอตอบว่า3. ก.และค.
ถ้ากำหนดว่า ก.เป็นโจร ผลที่ตามมาคือง.ไม่เป็นโจร พอง.ไม่เป็นโจร ข.ก็ไม่เป็นด้วย พอข.พูดความจริง ก็แปลว่าค.เป็นโจร
สรุปได้ว่า :ก.และค.เป็นโจร" ซึ่งตรงกับคำให้การของค.เป็นเท็จที่ว่าก.และข.เป็นโจร
ลองแทน ข เป็นโจรดูสิ
ถ้า ค เป็น โจร ก ก็ต้องไม่ใช่ โจรสิ เพราะ มันบอกว่า กและข เป็น โจร
ค. มันพูดเท็จอ่ะครับ ก เป็นโจร แต่มันบอกไม่เป็นโจรไง
เพราะว่าถ้าคิดตามหลักคณิตฯ ถ้ากล่าวถึง2กรณี จะผิด(F) ได้นั้นไม่จำเป็นต้องผิดทั้ง2กรณี อาจจะผิดอย่างนึงแต่อีกอย่างนึงถูกก็ได้
สมการ F=ผิด T=ถูก
TT=T
TF=F
FT=F
FF=F
แต่มันบอก"และ" นะครับต้องสองกรณีซิครับตามหลักคณิต ไม่ใช่ "หรือ" ที่จะอย่างใดอย่างนึงก็ได้ ถ้า
ก. เป็นโจร ง. จะไม่ใช่โจรเพราะ ก. พูดเท็จ
ง. บอกว่า ข. ไม่ใช่โจร ง. พูดจริง
ข .บอกว่า ค. เป็นโจร
ค. บอก ก และ ข. เป็นโจร แล้ว ค. เป็นโจรแสดงว่าพูดเท็จ แต่ที่บอกว่า ก. เป็นโจรด้วยกลับพูดจริง
มันขัดยุยะครับ
และ( ^ ) ในทางคณิต ถ้าตัวใดตัวนึงเป็นเท็จจะเป็นเท็จทั้งหมด
สมมุติP=T. Q=F
P^Q(และ)=F
พอคิดแบบตรรกศาสตร์ จะเท่ากับค.พูดเท็จ ค.เลยเป็นโจร....ป่ะ
โจรไม่จำเป็นต้องพูดเท็จเสมอ เพื่อที่มันจะรอด มันสามารถโยนความผิดให้เพื่อนรวมงานรับผิดคนเดียวอย่างไม่ลังเลได้ ดังนั้นก. และ ค. จึงเป็นโจร
เข้าใจผิดละครับ "และ" คือต้องเป็นโจรทั้งคู่ แต่ข.ไม่ได้เป็นโจรไง นั่นแสดงว่า ค. พูดผิด = มันเป็นโจรไม่ใช่เหรอ?
อย่างที่คุณบอกมาถ้าใช้ "หรือ" แปลว่า ก หรือ ข เป็นโจร ในกรณีนี้จะเป็นโจรคนเดียวหรือทั้งสองก็ได้ ก็จะแสดงว่า ค. พูดถูกสิ มันจะเป็นโจรไม่ได้
สรุปใช้และนั่นแหละถูกแล้วครับ
เราว่า ข กับ ง เป็นโจร
โจรพูดเท็จเสมอ คนบริสุทธิ์พูดจริงเสมอ
ก. ง เป็นโจร
ข. ค เป็นโจร
ค. ก และ ข เป็นโจร
ง. ข "ไม่ใช่" โจร
ถ้า ก เป็นโจร กับ ข แสดงว่า ง กับ ค ไม่ใช่โจร และพูด จริง เสมอ แต่ ง บอกว่า ข ไม่ใช่โจร ตัดไป
ถ้า ก เป็นโจร กับ ค แสดงว่า ข กับ ง ไม่ใช่โจร และพูด จริง เสมอ และโจรพูดเท็จเสมอ แต่ ค บอกว่า ก เป็นโจร ซึ่งจริงในกรณีนี้ ตัดไป
ถ้า ก เป็นโจร กับ ง แสดงว่า ข กับ ค ไม่ใช่โจร และพูด จริง เสมอ และโจรพูดเท็จเสมอ แต่ ง บอกว่า ข ไม่ใช่โจร ซึ่งจริงในกรณีนี้ ตัดไป
ถ้า ข เป็นโจร กับ ค แสดงว่า ก กับ ง ไม่ใช่โจร และพูด จริงเสมอ และโจรพูดเท็จเสมอ แต่ ข บอกว่า ค เป็นโจร ซึ่งนั่นจริงในกรณีนี้ ตัดไป
ถ้า ข เป็นโจร กับ ง แสดงว่า ก กับ ค ไม่ใช่โจร และพูด จริง เสมอ แต่ ค บอกว่า ก และ ข เป็นโจร ข เป็นโจรจริง แต่ ก ไม่ใช่โจรในกรณีนี้ ตัดไป
ถ้า ค เป็นโจร กับ ง แสดงว่า ก กับ ข ไม่ใช่โจร และพูด จริง เสมอ และโจรพูดเท็จเสมอ แต่ ง บอกว่า ข ไม่ใช่โจร ซึ่งเป็นจริงในกรณีนี้ ตัดไป
สรุป เป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบ - -
ค บอกว่า กเเละข เป็น ค ไม่ได้บอกว่าเป็นเเค่ ก หรือ ข เพราะฉนั้น เป็นเเค่ ก หรือเป็นเเค่ ข เเค่คนเดียว ก็ถือว่าเท็จคับ เหมือน ไปเเจ้งความว่า นาย aนายb ไม่โขมย ของ เเต่ที่จริง นายa คนเดียวที่ทำ ก็ถือว่าเเจ้งความเท็จ จะโดนข้อหาหมินประมาณได้น๊าาาาา
เราก็คิดว่าไม่มีคำตอบเหมือนกันอ่ะ คือลองเอาช้อยส์มาไล่ๆดูแล้ว สรุปคือผิดทุกข้ออ่ะ
ตามคห. 4-1 ค่ะ เป็นเท็จแค่กรณีเดียวก็ถือว่าเป็นเท็จหมด เพราะยังไงมันก็โกหกว่า ข เป็นโจรอยู่ดี ตอน ก ค ถูกต้องแล้ว
ลองคิดแบบ เอาคำช้อยส์มาแล้วให้เป็นโจร แล้วเอาคิดที่ไม่ให้มาจะเป็นคนบริสุทธิ์ เช่น ข้อ 3 ก และ ค
เราก็ให้ ข และ ง เป็น คนบริสุทธิ์ ดังนั้น ข และ ง ต้องพูดจริง
ถ้า ก เป็นโจร กับ ค แสดงว่า ข กับ ง ไม่ใช่โจร และพูด จริง เสมอ และโจรพูดเท็จเสมอ แต่ ค บอกว่า ก เป็นโจร ซึ่งจริงในกรณีนี้ ตัดไป ตัดทำไมครับ ในเมื่อไม่ได้ใช้คำว่า หรือ ในทางคณิตศาสตร์
ก.โจร
ข.บริสุท
ค.โจร
ง.บริสุท
ตอบเเบบไม่มีความรู็เลยนะ คือ ค กับ ง มัยพูเเย้งกันอยุ่ เพราะฉนั้นต้องมีอันนึ่งโกหก อันนึ้งจริง สมมุติ ค จริง ก เเละ ข จะเป็น โจร เเต่ๆ งก็เป็นโจรอยุ่นะเพราะอย่างที่บอกไป เพราะฉนั้น จะมีโจรสามคนได้ไง งั้น ง จริง ค เท็จ งบอก ข จริง พอ ข จริงจะพูดจริง ทำให้ ค เท็จ พอคอเท็จ ก็ไม่ใช่ทั้ง ก เเละ ข ที่เป็นโจร เเต่เป็น ก คนเดียวที่เป็นโจร
ตอบ ค. กับ ง. เป็นโจร
เพราะ ค. กับ ง. คนหนึ่งบอกว่า ข.เป็นโจร และอีกคนบอกว่า ข.ไม่เป็นโจร แสดงว่าต้องมีอย่างน้อยหนึ่งคนที่โกหก และคำตอบของ ค. ที่บอกว่า ก. และ ข.เป็นโจร แล้ว ค. รู้ได้อย่างไรว่า โจร คือ สองคนนี้ เพราะยังเหลือ ง. อีกคนหนึ่ง และ ง. บอกว่า ข. ไม่ได้เป็นโจร แล้ว ง. รู้ได้ยังไงว่า ข. ไม่ได้เป็นโจร ถ้า ง. ไม่ได้เป็นโจรซะเอง
(ถูกป่าวไม่รู้ 555)
เราก็ตอบ ค กับ ง พอลองแทนแล้วมันไม่ขัดแย้งอ่ะ55555555555555
เราตอบ ก. ค. เป็นโจร
ตอนที่ผมทำข้อสอบ ผมลองเอาคำตอบ ช้อยที่ 1-5 แทนเป็นโจรทุกช้อย แต่ก็ขัดกันอยู่ดี หาไม่ได้ว่าใครเป็นโจร
สรุปคือ โจรแม่งหนีไปแล้วว่ะ...
คำเชื่อมประโยค และ
ผมว่าเรื่องนี้ ต้องเรียก โคนันมาแล้วแหละ
555555555555555555555555555555555555555555555555555555555
กูตอบ 12000 ฮาดิสาส
ฮ่าาาา ซวยไปสหาย ไว้รอบสองๆ
อ่านโจทผิดด ไปตอบ ใครเป็นผู้บริสทุธิ TT แต่ เป็นโจรเราเอา ช้อยไปแทนได้ ก,ค นะ
อธิบายอย่างง่าย
เห็นผลดี แต่ก็ยังข้องใจอยู่ดี
https://onedrive.live.com/redir?resid=97C969A8CF2F77AB!37492&authkey=!AIFUzviTX6oLjn4&ithint=file%2Cxlsx
อันนี้หายสงสัย 100% ครับ ผมทำเป็นตัวดำเนินการทางตรรกศาสตร์ ไว้ละลองเข้าไปดูครับ
ก พูดว่า ง เป็นโจร
ข พูดว่า ค เป็นโจร
ค พูดว่า ก และ ข เป็นโจร
ง พูดว่า ข ไม่ใช่โจร
ช้อย !!
1. ก กับ ข
2. ข กับ ง
3. ก กับ ค
4. ค กับ ง
5. ข กับ ค
1. ถ้า ก กับ ข เป็นโจร แสดงว่า ก กับ ข ต้องพูดเท็จ
- ก พูดว่า ง เป็นโจร = เท็จ
- ข พูดว่า ค เป็นโจร = เท็จ
- ค พูดว่า ก,ข เป็นโจร = จริง
- ง พูดว่า ข ไม่ใช่โจร = เท็จ (เพราะ ข เป็นโจร)
ข้อนี้ไม่ใช่เพราะมีพูดเท็จ 3 คน = โจรต้องมี 3 คน
2. ถ้า ข กับ ง เป็นโจร แสดงว่า ข กับ ง ต้องพูดเท็จ
- ก พูดว่า ง เป็นโจร = จริง (เพราะ ง เป็นโจร)
- ข พูดว่า ค เป็นโจร = เท็จ (เพราะ ค ไม่ใช่โจร)
- ค พูดว่า ก,ข เป็นโจร = จริงที่ ข เป็นโจร เท็จที่ ก ไม่ใช่โจร
- ง พูดว่า ข ไม่ใช่โจร = เท็จ (เพราะ ข เป็นโจร)
ข้อนี้ไม่ใช่คำตอบที่ถูกที่สุด
3. ถ้า ก กับ ค เป็นโจร แสดงว่า ก กับ ค พูดเท็จ
- ก พูดว่า ง เป็นโจร = เท็จ (เพราะ ง ไม่ใช่โจร)
- ข พูดว่า ค เป็นโจร = จริง (เพราะ ค เป็นโจร)
- ค พูดว่า ก,ข เป็นโจร = จริงที่ ก เป็นโจร เท็จที่ ข ไม่ใช่โจร
- ง พูดว่า ข ไม่ใช่โจร = จริง (เพราะ ข ไม่ใช่โจร)
ข้อนี้ไม่ใช่คำตอบที่ถูกที่สุด
4. ถ้า ค กับ ง เป็นโจร แสดงว่า ค กับ ง พูดเท็จ
- ก พูดว่า ง เป็นโจร = จริง (เพราะ ง เป็นโจร)
- ข พูดว่า ค เป็นโจร = จริง (เพราะ ค เป็นโจร)
- ค พูดว่า ก,ข เป็นโจร = เท็จ (เพราะ ก,ข ไม่ใช่โจร)
- ง พูดว่า ข ไม่ใช่โจร = จริง (เพราะ ข ไม่ใช่โจร)
ข้อนี้ผิดเพราะ ง พูดจริงไม่ใช่โจร
5. ถ้า ข กับ ค เป็นโจร แสดงว่า ข กับ ค พูดเท็จ
- ก พูดว่า ง เป็นโจร = เท็จ (เพราะ ง ไม่ใช่โจร)
- ข พูดว่า ค เป็นโจร = จริง (เพราะ ค เป็นโจร) ฉะนั้น ข ไม่ใช่โจร
- ค พูดว่า ก,ข เป็นโจร
- ง พูดว่า ข ไม่ใช่โจร
ข้อนี้ผิด
เราว่า ก ค นั่นนะเป็นข้อที่ถูกนะ
ลองคิดดูสิ ถ้าให้ ค เป็นผู้บริสุทธิ์แสดงว่า ก ข เป็นโจร ก บอกว่า ง เป็นโจรนั่นก็แปลว่า ง ไม่ไช่โจรเพราะโจรจะพูดความเท็จ แล้วถ้า ง ไม่ไช่โจรก็ต้องพูดความจริง แต่ความจริงที่ ง บอกว่า ข ไม่ไช่โจรนั้นจึงขัดแย้งกับ ค ที่กล่าวว่า ก ข เป็นโจร จึงสรุปได้ว่า ค เป็นโจร
ถ้าให้ ก เป็นผู้บริสุทธิ์แสดงว่า ง เป็นโจร ซึ่ง ง บอกว่า ข ไม่ไช่โจรนั่นแปลว่า ข เป็นโจรเพราะโจรจะพูดความเท็จ แล้ว ค ก็ไม่ไช่โจรตาม ข กล่าวหา แต่มันขัดแย้งกัน ถ้า ค ไม่ไช่โจรแต่เป็นผู้บริสุทธิ์เหมือน ก นั่นแปลว่า ค ต้องกล่าวว่า ทั้ง ข และ ง เป็นโจรแต่ ค บอกว่า ก ข เป็นโจร มันขัดแย้งกัน
สุดท้ายครับลองคิดดูว่าถ้าคนบริสุทธิ์เป็น ข แสดงว่า ค เป็นโจรเพราะโจรโกหกว่า ข เป็นโจรทั้งๆที่ไม่ไช่ แล้ว ง ก็ต้องเป็นผู้บริสุทธิ์เพราะบอกว่า ข ไม่ไช่โจรซึ่งมันจริงแสดงว่า ก พูดความเท็จ
สรุปเลยก็มีโจรสองคนคือ ก ค และผู้บริสุทธิ์ ข ง
โจทย์บอกไว้ว่าถูกปล้นโดยโจร 2 คน แต่เขาไม่ได้บอกว่าโจรทั้งหมดมีกี่คนดังนั้นเท่าที่คิด
ก. บอกว่า ง เป็นโจร ให้ค่า ก = 0 ไว้เป็นค่าที่ยังสรุปไม่ได้และ ง = โจร ต่อมา
ง.บอกว่า ข ไม่ใช่โจร แต่จาก ก. บอกว่า ง เป็นโจร ดั้งนั้น ข = โจร
ข.บอกว่า ค โจร แต่จาก ง ขเป็นโจร ทำให้ ค = ไม่ใช่โจร
ค.บอกว่า ก และ ข เป็นโจร ดังนั้น ก = ข = โจร
สรุป ก = ข = ง = โจร ;;; ค ไม่ใช่โจร
ถ้าตามนี้จะได้ว่า ก เป็นโจร แต่ ก. พูดความจริง จึงเกิดข้อขัดแย้งครับ
ความจริงคือ "ข้อนี้ฟรีครับ" ไม่สอดคล้องกันเลยสักช้อย 555
ลองแทนดูครับ
สมมติ
ก-โจร > ง-ดี > ข-ดี > ค-โจร > ก และ ข ไม่ใช่โจร (สรุปไม่ได้)
ก-ดี > ง-โจร > ข-โจร > ค-ดี > ก และ ข เป็นโจร (ขัดแย้ง เพราะ เราสมมติ ก เปนคนดี)
ก เป็นโจรแน่ๆ
ข-โจร > ค-ดี > ก-โจร > ง-ดี > ข เป็นคนดี (ขัดแย้ง เพราะ เราสมมติ ข เปนโจร)
ข-ดี > ค-โจร > ก-ดี > ง-โจร > ข เป็นโจร (สรุปไม่ได้)
ข เป็นคนดีแน่ๆ
ค-โจร > ก+ข-ดี > ค+ง-โจร (สรุปไม่ได้)
ค-ดี > ก+ข-โจร > ค+ง-ดี (ขัดแย้ง เพราะคำพูดของ ค,ง ขัดกันเอง)
ค.เป็นโจรแน่ๆ
คิด จาก 3 คน เราจะรู้แน่ๆ แล้วว่า ก-โจร ข-คนดี ค-โจร ที่เหลือ คือ ง ไม่คิดเพราะเราได้โจรครบแล้ว
ตอบ ก,ค
สาเหตุที่ "สรุปไม่ได้" จะเกิดขึ้น ตอนที่ ค-โจร นั่น คือ นิเสธของ "ก และ ข เป็น โจร" คือ ก กับ ข อาจจะมีคนใดคนหนึ่งเป็นโจร หรือ อาจจะบริสุทธิ ทั้งคู่ เราจึง ฟันธง ไม่ได้ว่า "ก และ ข เป็นคนดี" หรือ "ก-โจร ข-ดี หรือ ก-ดี ข-โจร" ทำให้ "สรุปไม่ได้"
คิดต่อสิครับ ถ้า ค. เป็นโจร จะแปลว่า ข. พูดความจริง ถูกไหมครับ แสดงว่า ข. บริสุทธิ์ เท่านนี้น่าจะคิดต่อเองได้แล้วนะ
ผมเป็นโจร ทำผิด
ถ้า ค. และ ง. เป็นโจร หมายความว่า ง. พูดโกหก แปลว่า ข. ต้องเป็นโจรครับ
แปลว่า ข. โกหก แปลว่า ค. ไม่ใช่โจร ขัดแย้งครับ
ก กับ ค รึเปล่าคะ?
1.ดูจากข้อ ค. หากค.พูดจริงว่าก.และข.เป็นโจร ก็จะทำให้มีโจรสามคน เนื่องจากถือว่า ง.โกหกด้วย
2.หาก ค.พูดเท็จแล้วคิดว่า ก.และข.เป็นผู้บริสุทธิ์ทั้งคู่ ก็จะขัดกับข้อง.และทำให้มีผู้บริสุทธิ์สามคน
3.หากว่าค.พูดเท็จ เนื่องจากมีใครคนใดคนหนึ่งระหว่าง ก.และข.ไม่ใช่โจรล่ะ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจะทำให้ค.เป็นโจรแล้วเราก็มาดูข้อที่เหลือเพื่อแยก ก.กับข.ที่น่าจะมีคนใดคนหนึ่งเป็นโจร
ซึ่งหากดูข้อง.ที่บอกว่าข.ไม่ได้เป็นโจร นั่นจะทำให้เราได้ว่า ง.เป็นผู้บริสุทธิ์เพราะพูดความจริง แล้วข.จะกลายเป็นผู้บริสุทธิ์ไปด้วยเพราะง.พูดความจริง
ดังนั้นโจรก็จะมีก และค โดยไม่ผิดต่อคำให้การที่กล่าวมา... เอวัง
สมมติฐานเราเองน้า ผิดพลาดหรือไม่เข้าใจอย่าถือสากันเลยนะ
https://onedrive.live.com/redir?resid=97C969A8CF2F77AB!37492&authkey=!AIFUzviTX6oLjn4&ithint=file%2Cxlsx
อันนี้ผมทำเป็นตัวดำเนินการทางตรรกศาสตร์ ไว้ละลองเข้าไปดูครับ ผิดถูกยังไงก็ช่วยดูหน่อยนะครับ อิอิ
ก กับ ค รึเปล่าคะ?
1.ดูจากข้อ ค. หากค.พูดจริงว่าก.และข.เป็นโจร ก็จะทำให้มีโจรสามคน เนื่องจากถือว่า ง.โกหกด้วย
2.หาก ค.พูดเท็จแล้วคิดว่า ก.และข.เป็นผู้บริสุทธิ์ทั้งคู่ ก็จะขัดกับข้อง.และทำให้มีผู้บริสุทธิ์สามคน
3.หากว่าค.พูดเท็จ เนื่องจากมีใครคนใดคนหนึ่งระหว่าง ก.และข.ไม่ใช่โจรล่ะ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจะทำให้ค.เป็นโจรแล้วเราก็มาดูข้อที่เหลือเพื่อแยก ก.กับข.ที่น่าจะมีคนใดคนหนึ่งเป็นโจร
ซึ่งหากดูข้อง.ที่บอกว่าข.ไม่ได้เป็นโจร นั่นจะทำให้เราได้ว่า ง.เป็นผู้บริสุทธิ์เพราะพูดความจริง แล้วข.จะกลายเป็นผู้บริสุทธิ์ไปด้วยเพราะง.พูดความจริง
ดังนั้นโจรก็จะมีก และค โดยไม่ผิดต่อคำให้การที่กล่าวมา... เอวัง
สมมติฐานเราเองน้า ผิดพลาดหรือไม่เข้าใจอย่าถือสากันเลยนะ
คำตอบถูกแจ่วิธีการคิดช่วงสรุปค่อนข้างสับสนวงไปวนมาครับ
ช่วงที่บอกว่า "ซึ่งหากดูข้อง.ที่บอกว่าข.ไม่ได้เป็นโจร นั่นจะทำให้เราได้ว่า ง.เป็นผู้บริสุทธิ์เพราะพูดความจริง แล้วข.จะกลายเป็นผู้บริสุทธิ์ไปด้วยเพราะง.พูดความจริง" เป็นการสรุปเอาจากข้อสรุปที่สมมติขึ้นทำให้มันดูสอดคล้องกัน จากที่บอกมาท่านได้ สมมติว่า ง. บริสุทธิ์ แปลว่า ข. บริสุทธิ์ แปลว่า ง. บริสุทธิ์เพราะพูดจริง <-- อันนี้มันแค่วนกลับมาสมมติฐานเท่านั้นเองครับ ไม่ได้ช่วยพิสูจน์อะไรเลย มันอาจจะผิดได้ถ้าสมมติที่ ง. บริสุทธิ์ ผิดครับ
ท่านควรจะมองในกรณีที่ถ้า ง. เป็นโจรด้วย ซึ่งหมายความว่า ถ้า ง. เป็นโจร ง. จะพูดโกหก แปลว่า ข. ต้องเป็นโจรด้วย แปลว่าโจรจะมี 3 คนรวม ค. ทำให้ ง. บริสุทธิ์แน่ๆ ท่านต้องได้ข้อนี้มาก่อนครับ ถึงไปสรุปว่า ข. บริสุทธิ์ได้
ปืนยิง200m/s ให้โดนจรวด กระสุนสูงจากจรวจ600กว่าๆ ใช้เวลากี่วินาที ข้อนี้ตอบไรหลอ
เราตอบ ก และ ค เปนโจร
เราแทนดูละมันจะขัดตรงที่ ค บอกว่า ก และ ข เป็นโจร
คือ ก เป็นโจรแต่ ข ไม่เป็น
แต่จากโจทย์มันใช้คำว่า "และ" นั่นก็คือทั้ง 2 ก และ ข ต้องเป็นโจร
แต่ ข เป็น บริสุทธิ์ แสดงว่า ค ก็พูดเท็จ ก็เลยตอบ ก ค เราคิดแบบนี่อ่ะ
ไม่รู้ถูกเปล่านะ 555555
เคยเห็นโจทย์แบบนี้อยู่ในหนังสือเล่มละ9บาทของนามีบุ๊ค
ก ข ครับผมว่า ถ้า ค เป็นโจรแสดงว่า ก ไม่เป็นโจรเพราะ ค บอกว่า ก เป็นโจร
>>>>>> เฉลยยยย <<<<<<
ก = โจร
ค = โจร
ง = คนดี
ข = คนดี
โจรคือคนที่พูดโกหก โกหกในที่นี้คือพูดความจริงไม่หมดครับ
ลองคิดง่ายๆครับ แทน ค เป็นทั้งคนที่ พูดโกหก เเละ พูดความจริงดูครับ ถ้าแทนเเล้วจะพบว่าไม่ได้คำตอบที่สมเหตุสมผลเลย นั้นเพราะว่า ค พูดทั้งเรื่องจริงเเล้วเรื่องโกหกครับ(สรุปเราจะได้ข้อสรุปที่ 1 ว่า ค เป็นคนโกหกครับ เพราะพูดเรื่องจริงไม่หมด) ที่นี้เราจะได้ข้อสรุปที่ 2 คือ ไม่ ก หรือ ข จะต้องมีคนหนึ่งเป็นโจร อีกคนหนึ่ง เป็นคนดี (เพราะ ค พูดทั้งเรื่องจริงและโกหก)
ข้อสรุปสุดท้ายคือ เราจะได้ว่า ง เป็นคนพูดความจริงครับ (เพราะ คนดีมี 2 คน อาจเป็น ก หรือ ข ก็ได้คนใดคนหนึ่ง แสดงว่า ไม่ ค ก็ ง ต้องเป็นคนดีสักคน แต่ ค เป็นโจร สรุป เราจึงได้ ง เป็นคนดีครับ หลังจากนี้ก็คิดง่ายเเล้วครับ)
คำถามโง่ๆ การศึกษาประเทศไทย ไม่เจริญสักที
นี่มันปัญหาตรรกศาสตร์ทั่วไปนะครับ
ถ้าเข้าใจคณิตศาสตร์มองแปบเดียวก็ดูออกแล้วครับ
ส่วนตัวผมว่าคำถามแบบนี้ค่อนข้างสร้างสรรค์นะครับ
ไม่ใช่อะไรก็เอาแต่สูตร เอาแต่การคำนวน แทนค่าสูตรลัด แบบนั้นผมว่ามันไม่สร้างสรรค์
เราแทนเอาเลยทีละตัวแบบ ก.บริสุทธิ์ ต่อไป ก็ลอง ข. บริสุทธิ์ 555555555
แต่คำตอบได้เป็น ก กับ ค ที่เป็นโจร
เราคิดอย่างนี้อะ
ก. ง เป็นโจร
ข. ค เป็นโจร
ค. ก กับ ข เป็นโจร
ง. ข ไม่ได้เป็นโจร
ความคิดเห็นผมนะ : ก. บอก ว่า ง เป็นโจร. แต่ : ข. บอกว่า ค. เป็น โจร และ ค. ก็บอกว่า ก. กับ ข. เป็นโจร ส่วน ง. บอกว่า ข ไม่ได้เป็น โจร แสดงว่า ค. พูดเท็จ เพราะว่า ก. บอกว่า ง. เป็นโจร ซึ่ง ค. บอกว่า ก. กับ ข. เป็นโจร ส่วน ง. บอกว่า ข ไม่ได้เป็นโจร เท่ากับ มี ค. แค่คนเดียว ที่ บอกว่า ข. เป็นโจร หมายความว่าทีเหลือไม่มีคนบอกว่า ข. เป็นโจร(เข้าใจใช่ไหม) และก็ ก พูดเท็จเหมือนกัน เพราะว่า ข. และ ค. ไมไ่ด้บอกว่า ง เป็นโจรเหมือนกัน ก็เท่ากับ ก. บอกว่า ง. เป็นโจรคนเดียว(เหมือนกับ ค.) สรุปว่า ก. และ ค. เป็นโจร ''ความคิดเห็นของผมนะผิดถูกมาบอกผมกันได้นะผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าเป็นอย่างที่ผมคิดหรือเปล่าหรือแบบไหนบอกกันได้นะครัช''
ก: นาย ง เป็นโจรคนนึง
ข:นาย ค เป็นโจรคนนึง
ค:นาย ก และ ข เป็นโจร
ง:นาย ข ไม่ใช่โจร
10100001 = ก 10100010 = ข 10100100 = ค 10100111 = ง
จริง คือ โจร เท็จ คือ ไม่ใช่โจร
จาก 10100001 ฐาน 2 บอก 10100001 เป็นโจร แสดงว่าค่า รหัสแอสกี บอกว่า 10100111 เป็นจริง
ส่วน 10100111 บอกว่า 10100010 เป็นเท็จ วงจรตรรก ของ 10100100 บอกว่า 10100001 และ 10100100
เป็ยจริง และ 10100010 กล่าวว่า 10100100 ตามตรรกวิทยาเป็นจริง ดังนั้น
คำตอบคือ แปลตัวเลขฐานสอง ดังนี้
10100001 11011001 10100001 11100111 11100100 11000001 11101000 11000011 11101001
ก ู ก ็ ไ ม ่ ร ้ 11011001 10101000 10111010
ู จ บ
สตอง สตอง สตอง!!!!! (11001010 10110101 11001101 10100111!!!)
ข้อนี้ไม่ยากโจทย์บอกโจรมี2คน มี ค. ข้อเดียวที่ตอบ 2 คน
1. ค ต้องเป็นโจร เพราะถ้า ค พูดจริง กข ต้องโจร จะย้อนแย้งกับ ง
2. จาก 1. แปลว่า ข. พูดจริง
3. จาก 2. แปลว่า ง. พูดจริง
ตอบ ก ค จบ
อะไรเป็นตัวยืนยันว่า ง. พูดจริง
เพราะถ้า ข. พูดจริง แปลว่า ข. ไม่ใช่โจร แปลว่า ง. พูดจริง ไงครับ
ง และ ข เป็นโจร
1. ถ้า ก เป็นผู้บริสุทธิ์ ง จะเป็นโจร ถ้า ง เป็นโจร ข จะเป็นโจร ถ้า ข เป็นโจร ค จะเป็นผู้บริสุทธิ์ ซึงจะขัดแย้งกับคำพูดที่ว่า ก ละ ข เป็นโจร ข้อนี้จึงตัดไป
2. ถ้า ก เป็นโจร ง จะเป็นผู้บริสุทธิ์ ถ้า ง เป็นผู้บริสุทธิ์ ข จะเป็นผู้บริสุทธิ์ ถ้า ข เป็นผู้บริสุทธิ์ ค จะเป็นโจร ยืนยันด้วยคำพูดที่ว่า ก และ ข เป็นโจรที่เป็นเท็จเพราะว่า ก และ ข เป็นโจร "ไม่เป็นจริง" เพราะ ง และ ข ต่างหากที่เป็นโจร
พูดมาถูกหมดนะครับ มาผิดตรงสรุปครับ
เพราะว่าถ้า ค พูดโกหก ค ต้องเป็นโจรด้วยครับ
เอาใหม่ๆ
ก และ ค เป็นโจร
ถ้า ก เป็นโจร ง จะเป็นผู้บริสุทธิ์
ถ้า ง เป็นผู้บริสุทธิ์ ข จะเป็นผู้บริสุทธิ์
ถ้า ข เป็นผู้บริสุทธิ์ ค จะเป็นโจร
ยืนยันด้วยคำพูดที่ว่า ก และ ข เป็นโจรที่เป็นเท็จเพราะว่า ก และ ข เป็นโจร "ไม่เป็นจริง" เพราะ ง และ ข ต่างหากที่เป็นโจร
5555+ อันนี้ผิด แต่ที่เม้นใหม่ข้างล่างถูกแล้ว
ลองสมมติว่า ค. พูดจริง จะได้ว่า ก. และ ข. เป็นโจร
แปลว่า (ง. ไม่ใช่โจร (จากคำพูดของ ก. ที่โกหก)) และ (ค. ไม่ใช่โจร (จากคำพูดของ ข. ที่โกหก))
แปว่า (ข. ไม่ใช่โจร (จากคำพูดของ ง. ที่ไม่ใช่โจรจึงเป็ความจริง)) และ (ก. และ ข. เป็นโจร (จากคำพูดของ ค.))
สรุป ข. ไม่ใช่โจร และ ก.เป็นโจร และ ข. เป็นโจร
จะเห็นว่าเกิดข้อขัดแย้ง ประพจนี้เป็นเท็จแน่นอนครับ ดังนั้นคำพูดของ ค. จึงเป็นเท็จแน่ๆ แสดงว่า ค. เป็นโจรแน่ๆ
เพราะงั้นเราได้แล้วว่า ค. เป็นโจร เราก็เอามาคิดต่อครับ
พอ ค. เป็นโจร แสดงว่า ก. หรือ ข. เป็นโจร (จากคำพูดของ ค. ที่โกหก)
และได้ว่า ข. พูดความจริง (เพราะ ค. เป็นโจร) แสดงว่า ข. บริสุทธิ์ แน่ๆครับ
จากอันนี้จริงๆเราจะสรุปได้เลยครับว่า ก. ต้องเป็นโจรอีกคน(จากคำพูดของ ค.) ดังนั้น ง. ต้องบริสุทธิ์(เพราะมีโจรแค่ 2 คน) แต่เรามาคิดต่ออีกหน่อยครับ เผื่อบางคนไม่เข้าใจ
พอ ข. บริสุทธิ์ แสดงว่า ง. พูดความจริง แปลว่า ง. บริสุทธิ์
พอ ง. บริสุทธิ์ แสดงว่า ก. โกหก แสดงว่า ก. เป็นโจร ครับ
สรุปว่า ก และ ค. เป็นโจรครับ
ก และ ค เป็นโจร
1.
ถ้า ก เป็นผู้บริสุทธิ์ ง จะเป็นโจร
ถ้า ง เป็นโจร ข จะเป็นโจร
ถ้า ข เป็นโจร ค จะเป็นผู้บริสุทธิ์ ซึงจะขัดแย้งกับคำพูดที่ว่า ก ละ ข เป็นโจร ข้อนี้จึงตัดไป
2.
ถ้า ก เป็นโจร ง จะเป็นผู้บริสุทธิ์
ถ้า ง เป็นผู้บริสุทธิ์ ข จะเป็นผู้บริสุทธิ์
ถ้า ข เป็นผู้บริสุทธิ์ ค จะเป็นโจร ยืนยันด้วยคำพูดที่ว่า ก และ ข เป็นโจรที่เป็นเท็จเพราะว่า ก และ ข เป็นโจร "ไม่เป็นจริง" เพราะ ก และ ค ต่างหากที่เป็นโจร
เอ่อ เราคิดแบบไม่มีหลัก แต่เทียบไปเรื่อยๆอ่ะ เราตอบ ก ค เป็นโจร
ก: "ง เป็นโจร"
ข: "ค เป็นโจร"
ค: "ก และ ข เป็นโจร"
ง: "ข ไม่ใช่โจร"
โดยที่คนเป็นโจรจะโกหกเสมอ คนไม่ใช่โจรจะพูดความจริงเสมอ
เราเริ่มที่ สมมติให้ ค พูดจริงอ่ะ เพราะมันมีสามารถเอาไปเทียบต่อได้
1) สมมติว่า ค พูดจริง
- ก และ ข เป็นโจร แสดงว่า ก,ข จะโกหก และ ค,ง จะพูดความจริง
- แต่ ง พูดว่า ข ไม่ใช่โจร แสดงว่า ง โกหก
- จากที่โจทย์ให้มา คนโกหกเป็นโจร แสดงว่า ง ต้องเป็นโจรด้วย
** ดังนั้นแสดงว่า ค พูดโกหก (ไม่ work กับคำให้การของ ง)
2) สมมติว่า ค พูดโกหก
- "ก และ ข เป็นโจร" --> "ก และ ข ไม่ใช่โจร" / อันนี้ต้องคิดดีๆหน่อยเพราะว่า อาจจะแค่คนใดคนหนึ่งเป็นหรือไม่เป็นโจรเท่านั้น
- แยกออกเป็นกรณี สมมติว่า ค พูดโกหกว่า ทั้ง ก และ ข เป็นโจร --> ทำให้ได้ว่า "ก และ ข ไม่เป็นโจร"
- ไปหา ก ก่อน ถ้า ก ไม่ใช่โจร แสดงว่าพูดจริง "ง เป็นโจร"
- ไปดู ง ต่อ ถ้า ง เป็นโจร แสดงว่า ง มันต้องโกหก ซึ่งทำให้คำให้การที่ว่า "ข ไม่ใช่โจร" เป็นคำโกหก
- ง โกหกว่า ข ไม่ใช่โจร --> ข เป็นโจร
- ขัดกับคำให้การของ ค ที่ว่า ข ไม่เป็นโจร
** แสดงว่า ค กรณีที่ ค โกหกว่า ทั้ง ก,ข เป็นโจร ไม่ใช่ความจริง งั้นก็ต้องมาดูว่า ในระหว่าง ก กับ ข, ค โกหกว่าใครเป็นโจรกันแน่
3) จากคำให้การเท็จของ ค เมื่อกี้รู้ว่าแล้ว หนึ่งใน ก หรือ ข ใครซักคนต้องเป็นโจร ( ค มันเกรียน พูดโกหกแบบ ให้มาสองชื่อ ชื่อหนึ่งถูกไม่ถูก )
- ลองให้ ก เป็นโจร --> ก ต้องโกหก แสดงว่า ง พูดจริง
- ไปดู ง/ ง พูดจริงว่า ข ไม่ใช่โจร แสดงว่า ข ต้องพูดความจริงอีก
- ไปดู ข/ ข พูดความจริงว่า ค เป็นโจร
จากการสมมตินี้ทำให้รู้ว่า ทั้ง ก และ ค เป็นโจร เลยตอบได้ว่า ก,ค เป็นโจร
ในห้องสอบคิดแบบนั้น แต่พอมานั่งพิมพ์แล้วเจอวิธีใหม่ที่เร็วกว่าเยอะ
- จาก 1) ค โกหกแน่ๆ งั้นก็สมมติว่า ทั้ง ก และ ข ไม่ใช่โจร ตามข้อสอง
- แต่ไปดู ข ก่อน--> ขอ เป็นคนดี พูดจริง แสดงว่า เจ๊ ง ก็พูดจริงด้วย เพราะ ง บอกว่า "ข ไม่ใช่จร"
- ข,ค พูดจริง เป็นคนบริสุทธิ์
- ก โกหกบอกว่า ง เป็นโจร
- จบเลย ก,ค เป็นโจร
ตอนแรกนั่งงอยู่นานไม่ได้อ่านตรงที่ว่า โจรพูดโกหกตลอด คนบริสุทธิ์พูดจริงตลอด 555
เอ้ย แก้ๆ พิมผิดๆ
ตอนท้ายๆ "ข,ค พูดจริง เป็นคนบริสุทธิ์" ต้องเป็น "ข,ง พูดจริงเป็นคนบริสุทธิ์" อ่ะ
ไม่รู้จะยังมีคนอ่านมั้ยแฮะ 5555
เจอโจทย์แบบนี้ให้ดูข้อที่ให้เรามามากที่สุดก่อน เพราะถ้าถูกจะจบเลย ถ้าผิดก็จะตัดออกได้เยอะสุด ของข้อนี้คือ
>>"ค พูดว่า ก และ ข เป็นโจร" ถ้าเรามองว่า(ค)พูดจริง ก็จะเหลือ(ง)อีกคนที่ไม่ใช่โจร แต่คำพูดของ(ง)ขัดแย้งกับ(ค) ดังนั้นกรณีที่(ค)ไม่ใช่โจรไม่มีทางเกิด (ค)เป็นโจรแน่ๆ
>>"ข พูดว่า ค เป็นโจร" ซึ่งเป็นความจริง แปลว่า (ข)ไม่ใช่โจร
>>"ง พูดว่า ข ไม่ใช่โจร" ซึ่งก็เป็นความจริง แปลว่า (ง)ก็ไม่ใช่โจร
ตอบ ก และ ค เป็นโจร
เราตอบว่า ก. กับ ค.
มีโจรสองคน ผู้ต้องสงสัย 4 คน คนบริสุทธิ์พูดความจริงเสมอ และโจรจะพูดความเท็จเสมอ
ก. : ง. เป็นโจร
ข. : ค. เป็นโจร
ค. : ก. และ ข. เป็นโจร
ง. : ข. ไม่ใช่โจร
ค.บอกว่า ก. กับ ข. เป็นโจร
แต่ ง. บอกว่า ข. ไม่ใช่โจร
- ถ้า ข. พูดจริง โจรก็จะกลายเป็น ก.กับ ข.
*แต่ผู้บริสุทธิ์จะพูดความจริงเสมอ ซึ่ง ง.บอกว่า ข. ไม่ใช่โจร หากตีความว่า ค.พูดความจริง คำตอบจะแย้งกัน *
เพราะฉะนั้น : ค. พูดโกหก เป็นโจรแน่นอน
ตัด ค. ออก (เพราะเป็นโจรแน่ๆแล้ว 1 คน)
เหลือ
ก. : ง. เป็นโจร
ข. : ค. เป็นโจร
ง. : ข. ไม่ใช่โจร
ข. พูดความจริง (เพราะ ค. พูดความเท็จ เลยเป็นโจร)
เพราะฉะนั้น ข. ไม่ใช่โจร จะเหมือนกับที่ ง. บอกว่า ข. ไม่ใช่โจร
ก็จะเหลือ ก.
เพราะฉะนั้น ก. กับ ค. เป็นโจร
ตอนผมทำผมสมมุติให้ทุกคนพูดความจริง
ก.บอกว่า ง. เป็นโจร ก. ข. ค. จึงบริสุทธ์
ข.บอกว่าค. เป็นโจร ก. ข. ง. จึงบริสุทธ์
ค.บอกว่าก.และข. เป็นโจร ค. ง. จึงบริสุทธ์
ง.บอกว่าข. ไม่ใช่โจร จึงรู้อย่าเดียวว่าข. ไม่ใช่โจร
ถ้าดูจากคำให้การจะรู้ว่าข. เป็นคนบริสุทธ์ เพราะเรายังไม่เชื่อว่าคำให้การทุกคำเป็นจริงแต่ที่รู้คือโจรมีเพียง2คนแต่คำให้การมีข. มากกว่า2จึงแน่ใจเลยว่าข.บริสุทธ์ คราวนี้ก็จะหาคนบริสุทธ์อีกคนได้เลยโดยดูจากคำให้การว่าข.ไม่ใช่โจร ที่ตอบคือ2.ข.และง.ไม่ใช่โจร
ปล.pat2วันนี้เดามันไก่มาก55
ก และ ค เป็นโจร
ก พูดโกหก ว่า ง เป็นโจร
ข พูดจริงว่า ค เป็นโจร
ค พูดโกหกว่า ก และ ข เป็นโจร จริงๆ แล้ว ก และ ข มีโจร 1 คน
ง พูดจริง ว่า ข ไม่ใช่โจร
ถ้าแบบนี้สอดครองกันไหมครับ
ก. ง เป็นโจร
ข. ค เป็นโจร
ค. ก และ ข เป็นโจร
ง. ข "ไม่ใช่" โจร
ถ้า ค .พูดความจริง แสดงว่า ง. โกหก แต่สองคนนี้ไม่ลงลอยกันแสดงว่า ค. ไม่ได้พูดความจริง แล้วแสดงว่า ค. พูดความเท็จแล้ว ค. ก็คือโจร แล้ว ข. พูดความจริงแสดงว่า ข. ไม่ใช่โจรแน่นอน แล้วก็จะรู้ว่า ง. พูความจริงทำให้ ง. บริสุทธิ แล้วก็เหลือแต่ ก. แสดงว่า ก. เป็นโจร
เรื่องนี่ ง่ายๆ ครับ..
ก พูดว่า ง เป็นโจร
ข พูดว่า ค เป็นโจร
ค พูดว่า ก กับ ข เป็นโจร
ง พูดว่า ข ไม่ใช่โจร = พูดว่า ก กับ ค เป็นโจร
สรุป คือ
ข. กับ ง. พูดว่า ค เป็นโจร
ค. กับ ง. พรูดว่า ก. เป็นโจร
ข. มีแต่ ค ที่พูดว่าเป็นโจร
ง. มีแต่ ก ที่พูดว่าเป็นโจร
ดังนั้น ก กับ ค มีพยานยันว่าเป็นโจร 2 ปาก ขึ้นศาล ก. กับ ค. ติดตารางแน่นอนครับ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?