กำลังใจในการเขียนนิยาย ของทุกคนมาจากไหน
ตั้งกระทู้ใหม่
เเล้วเพื่อนๆล่ะ กำลังใจที่อยากจะเขียนต่อคืออะไร...
33 ความคิดเห็น
แค่อยากรู้ว่าเรื่องมันจะจบยังไงเท่านั้นเอง
คือที่ผมแต่งนิยายเพราะแก้เซ็ง คลายเครียดน่ะ
ไม่ได้อาศัยกำลังใจเลย
เหมือนกันเลย 5555+
รักแบบหลงรัก อยากเป็นคนรักของคนๆ นั้นด้วยซ้ำ
มันเลยคล้ายเป็นกำลังใจให้อยากยืนหยัดเขียน
เหมือนอยากขอเข้าไปอยู่เป็นคนสำคัญในโลกนิยายให้ได้
ถ้าไม่ได้มีใจรัก คงยืนหยัดจนป่านนี้ไม่ได้แน่
มาจากอารมณ์ล้วนๆ ค่ะ ฮะฮะฮะ
สำหรับเรานักอ่านก็มีส่วนนะคะ คือปกติเราจะเป็นคนแต่งนิยายตามใจฉัน อยากแต่งก็แต่งบางทีสามเดือนกว่าจะอัพสักตอน ที่ดองเป็นปีก็มี แต่เมื่อเห็นคอมเม้นท์ของนักอ่านมันจะมีแรงจูงใจให้แต่งตอนต่อไปนะ ฮ่าๆ
ไม่รู้ว่า 'กำลังใจ' กับ 'เป้าหมาย' มันคืออันเดียวกันไหม
แต่ทุกวันนี้ที่ยังเขียนนิยายอยู่ก็เพราะมีเป้าหมายอยากจะเป็นนักเขียนในสนพ. สถาพร(ก็ยังหวังต่อไป) พี่ในกลุ่มที่สนิทกันเข้าไปอยู่กับสถาพรหมดแล้ว เหลือเราคนเดียว T__T
ความอิจฉาค่ะ คนอื่นเขียนจบไป สองเรื่องแล้ว เรายังไม่ถึงไหน หึยๆ
มาจากตัวเองล้วนๆ เพราะไม่มีใครช่วย ตอนนี้ไม่พึ่งคนอื่นแล้วใครมายุ่งถีบกระเด็น
เราเคยท้อ ท้อจนหงุดหงิด หงุดหงิดจนพานโกรธคนอื่น โกรธจนเบื่อ เบื่อจนรำคาญตัวเอง
ก็เลยขี้เกียจท้อแล้วเสียเวลาเปล่า
ดุจัง....><
เมื่อเราเปิดเรื่องมา เราก็จะรักตัวละครรักทุกอย่างในตัวนิยาย อยากสร้างให้มันไปถึงจุดฝั่งฝันค่ะ ถึงแม้ระหว่างทางจะต้องเจออุปสรรคมากมาย ทั้งช่วงพล็อตตัน ภาระหน้าที่ในโลกความจริง
ส่วนนักอ่านจะชอบหรือไม่นั้น ก็แล้วแต่ความชอบส่วนตัวของนักอ่านค่ะ
นักอ่านก็มีส่วนอย่างมากทีเดียวค่ะ ถ้าเป็นเมื่อก่อนนะ แต่ตอนนี้ไม่(อยาก)คิดอะไรแล้ว
แม้จะมีคนๆ เดียวที่แสดงความเห็นเราก็จะเขียนมันต่อไป
ว่าแล้วก็ไปปั่นต่อ ฮึบๆ
ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ตอนนี้ตันๆ ไปหมด
แต่งเพราะต้องการเสนอความคิดบางอย่าง
ถ่ายทอดความรู้สึกของตัวเองออกไป
ที่สำคัญสุดคืออ่านและดูหนังมาเยอะ
ถ้าพูดถึงกำลังใจ สำหรับผมคือคนอ่านเลยครับ ยิ่งถ้าเมนต์ด้วยนะ โอ๊ ชื่นจาย
กำลังใจจากตัวเองล้วนๆเลยค่ะเวลาเราอารมณ์คงที่หรือที่เรียกว่าอารมย์ดีก็จะเริ่มแต่ง ถ้าไม่มีอารมย์ก็ทำสมาธิ หรือฟังเพลงเคยมีนิยายเรื่องหนึ่งแต่งไปจนจบ คือหลายตอนแต่เราก็ฟังเพลงที่เราชอบซ้ำๆ ฟังเพลงไปแต่งไปมันลื่นสุดๆเลย
กำลังใจในการแต่งของผมมาจากการฟังเพลงครับ
เวลาเราฟังเพลงสนุกๆมันส์ๆ มันจะคิดโครงเรื่องแบบบู๊ หรือแนวแฟนตาซีออกได้
พอฟังเพลงหวานๆ มันจะคิดฉากน่ารักๆออกนะครับ
//ความเห็นส่วนตัวน่ะ หุๆๆๆ^^
เราว่าสำหรับเราคือตัวเราเองค่ะ เพราะนิยายที่เรากำลังเขียนนั้น base on true story มาจากชีวิตจริงเราเลยค่ะ มันสะท้อนมาจากจิตใจเราน่ะค่ะ คือไม่ใช่แค่หยิบยืมนิสัยของตัวละครมาจากแค่ตัวเองกับคนที่รู้จัก แต่เหตุการณ์ ความคิด อารมณ์และความรู้สึกนี่มาจากชีวิตจริงเราค่ะ
แล้วมันทำให้เราได้รู้ว่า อดีตก็คืออดีต ปัจจุบันก็คือปัจจุบัน อนาคตก็คืออนาคต อะไรผ่านมาแล้วก็ปล่อยมันไป แต่ให้เอามาใช้เตือนสติตัวเองให้ก้าวต่อไปค่ะ เป็นคนที่มีอดีตไม่ค่อยดีเท่าไหร่ 555 แล้วเราก็อยากถ่ายทอดออกมาเตือนสติคนอ่านเหมือนกันน่ะค่ะ แต่ไม่น่าจะมีใครรู้ว่าตรงไหนมาจากเรื่องจริง ตรงไหนมโน
#มาซะคมเชียว....
เพราะมีความฝัน และอยากไปให้ไกลที่สุด แม้ว่าความฝันจะไม่เป็นจริง ก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย
ขอแค่ได้เดินไปเฉียดมันก็พอ ><
ใช้คำสัญญาที่เคยให้ไว้เป็นทั้งแรงผลักดันและกำลังใจค่ะ
เคยสัญญากับเพื่อนเอาไว้ว่าถ้าเขียนนิยายจบแล้วได้ตีพิมพ์ เราจะให้มันฟรีเล่มนึง 555 แถมยังเคยบอกกับไอดอลของเราคนนึงเอาไว้ว่า "สักวันหนูจะเป็นนักเขียนแบบพี่ให้ได้" พี่เขาก็บอกว่าสู้ๆ นะ
เพราะงั้น...เราจะไม่ยอมผิดคำพูดเด็ดขาด 'ทุกสิ่งเป็นไปได้ หากเราไม่ละความพยายามค่ะ' :)
คอมเม้นท์จากแฟนคลับที่น่ารัก ที่มาอ่านประจำค่ะ ที่คอยให้กำลังใจ ให้คำแนะนำ หรือแม้แต่ปรึกษาว่าเอาไงต่อดี ฮา... คิดไม่ออกถามคนอ่าน ^^
ทำให้รู้สึกว่า ยอดวิวไม่เยอะก็ไม่เป็นไร คอมเม้นท์ไม่มากก็ไม่ไม่เป็น ขอคนอ่านตัวจริงไม่กี่คนก็พอแล้ว แบบว่า มันโดนใจ ประทับใจในมิตรภาพมากกว่าค่ะ
ทำให้เข้าใจมากขึ้น และเราจะรอ คนที่ชอบเหมือนกันมาอ่านค่ะ
ไม่รู้เราจะตอบตรงคำถามไหม... แต่ถ้าจะให้บอกว่าทำไมถึงเขียนไปเรื่อยๆ ก็เพราะชอบค่ะ รู้สึกสนุกที่ได้เขียนในสิ่งที่อยากเขียน เหมือนได้ระบายออกไป 5555555 นี่คือเหตุจากเรา
แต่ถ้ากำลังใจจากภายนอกของเราคือคอมเมนต์จากนักอ่านน้าาา สำหรับเราคอมเมนต์มันมีกำลังใจมากจริงๆ เพราะมันเหมือนคนอ่านเขาโลดแล่นไปกับเรา (?) คือถ้าถามว่าไม่เมนต์ยังจะเขียนต่อไหม ก็เขียนนะ เพราะเราชอบ แต่มันอาจจะช้า หรือทำได้ไม่ดีพอ เพราะเราก็ไม่รู้ว่ามีใครที่อยากจะอ่านต่อหรือเปล่า อะไรทำนองนี้ค่ะ -3-
เด็กอายุ14 มีเพื่อนเอานิยายมาให้อ่าน ก็ลองอ่าน ช่วงนั้นก็ช่วงสอบไฟนอลด้วย สรุปเป็นคนที่ไม่ค่อยแยกแยะเท่าไหร่ เกรดตกค่ะ แต่ไม่มาก หลังจากนั้นก็เป็นลีดมาเรื่อยๆ จนมโนเรื่องราวต่างๆนาๆจากเรื่องที่ได้อ่าน เนื่องจากตัวเองคิดว่าเป็นนางเอกค่ะ [มันคือสัจธรรมของคนอ่าน อิอิ] ในหัวคิดพล้อตออกตลอด เลยลองเขียนลงในสมุดแล้วให้เพื่อนในห้องอ่าน มันบอกสนุก ชอบ ก็ดีใจค่ะ ปั่นเขียนจนมือหงิกแต่ก็มีความสุข
- จนอยากลงในเว๊ปบ้าง ตอนแรกพอกดเปิดหน้านิยายมีคนมาถูกใจหน้า 2 คน กรี๊ดบ้านแตก คือดีใจมาก แต่เปิดหน้านิยายมาก็มีคนมาเม้นต์ว่ารอ ตอนนั้นคือดีใจสุด
- เขียนๆพิมพ์ๆอัพๆไก่ๆกาๆไป จนติดท๊อปอันดับโหวต 5 ของนิยายรักวัยรุ่น (ลงอีกเว๊ปนะไม่ใช่ในเด็กดี) คือปริ่มมากค่ะ สุดท้ายเรื่องนี้ที่เป็นเรื่องแรกที่พิมพ์ลงเวิร์ดคือได้ทำหนังสือเอง ไม่คิดว่าเด็กเท่านี้จะมีได้อะไรมากมายขนาดนี้
#พล่ามอะไรมาเยอะแยะวะเนี้ย 5555555
กำลังอยู่ที่คนอ่านค่ะ มียอดวิวคนเข้ามาอ่านก็ดีใจ มีโหวตให้ก็ดีใจ มีคอมเม้นต์ให้โคตรดีใจ ชอบสูบคอมเม้นต์มากๆ เมื่อเรามาอยู่ที่จุดนักเขียนเราก็ได้รู้ว่าการที่เราได้เขียนให้เขาอ่าน เราก็อยากได้กำลังใจจากเขา เหมือนกับนักเขียนที่เราเคยไปอ่านนิยายเขาแล้วเขาบอกขอเม้นต์หน่อย เราเข้าใจความรู้สึกนั้น แต่สำหรับเราจะบอกว่าถ้าชอบก็เป็นกำลังใจให้กันนานๆ ไม่ว่าเขาจะให้กำลังใจในช่องทางไหน เราก็ดีใจหมดค่ะ
อ่านได้ไงถึงนี้คะเนี้ย? บร้ายยยย ไปแล้วนะฮ้าบบบบบบบบบบบ
เด็กอายุ14 มีเพื่อนเอานิยายมาให้อ่าน ก็ลองอ่าน ช่วงนั้นก็ช่วงสอบไฟนอลด้วย สรุปเป็นคนที่ไม่ค่อยแยกแยะเท่าไหร่ เกรดตกค่ะ แต่ไม่มาก หลังจากนั้นก็เป็นลีดมาเรื่อยๆ จนมโนเรื่องราวต่างๆนาๆจากเรื่องที่ได้อ่าน เนื่องจากตัวเองคิดว่าเป็นนางเอกค่ะ [มันคือสัจธรรมของคนอ่าน อิอิ] ในหัวคิดพล้อตออกตลอด เลยลองเขียนลงในสมุดแล้วให้เพื่อนในห้องอ่าน มันบอกสนุก ชอบ ก็ดีใจค่ะ ปั่นเขียนจนมือหงิกแต่ก็มีความสุข
- จนอยากลงในเว๊ปบ้าง ตอนแรกพอกดเปิดหน้านิยายมีคนมาถูกใจหน้า 2 คน กรี๊ดบ้านแตก คือดีใจมาก แต่เปิดหน้านิยายมาก็มีคนมาเม้นต์ว่ารอ ตอนนั้นคือดีใจสุด
- เขียนๆพิมพ์ๆอัพๆไก่ๆกาๆไป จนติดท๊อปอันดับโหวต 5 ของนิยายรักวัยรุ่น (ลงอีกเว๊ปนะไม่ใช่ในเด็กดี) คือปริ่มมากค่ะ สุดท้ายเรื่องนี้ที่เป็นเรื่องแรกที่พิมพ์ลงเวิร์ดคือได้ทำหนังสือเอง ไม่คิดว่าเด็กเท่านี้จะมีได้อะไรมากมายขนาดนี้
#พล่ามอะไรมาเยอะแยะวะเนี้ย 5555555
กำลังอยู่ที่คนอ่านค่ะ มียอดวิวคนเข้ามาอ่านก็ดีใจ มีโหวตให้ก็ดีใจ มีคอมเม้นต์ให้โคตรดีใจ ชอบสูบคอมเม้นต์มากๆ เมื่อเรามาอยู่ที่จุดนักเขียนเราก็ได้รู้ว่าการที่เราได้เขียนให้เขาอ่าน เราก็อยากได้กำลังใจจากเขา เหมือนกับนักเขียนที่เราเคยไปอ่านนิยายเขาแล้วเขาบอกขอเม้นต์หน่อย เราเข้าใจความรู้สึกนั้น แต่สำหรับเราจะบอกว่าถ้าชอบก็เป็นกำลังใจให้กันนานๆ ไม่ว่าเขาจะให้กำลังใจในช่องทางไหน เราก็ดีใจหมดค่ะ
อ่านได้ไงถึงนี้คะเนี้ย? บร้ายยยย ไปแล้วนะฮ้าบบบบบบบบบบบ
มาจากน้ำตา ล้วนๆ ค่ะ ตอนนั้นไม่รู้ฟังเพลงอะไรที่ทำให้ความคิดเด้ง
กำลังใจของผมคือเพื่อนทุกคนที่เอามาเป็นแบบในนิยายครับ พวกเขาจะคอยอ่านนิยายที่เราแต่งเสมอ
แต่ถ้าเราดองนาน ...สายตากดดันแกมบังคับจะมาหาเราโดยไม่รู้ตัว
แรงบันดาลใจของเราคือรอยยิ้มของคนที่อ่านค่ะ เพราะว่าตอนแรกเราแต่งแค่เล่นๆเฉยๆแล้วลองให้พี่ๆเพื่อนๆอ่านดูแล้วเขาก็สนุกไปกับมัน เขายิ้ม เขาหัวเราะ เขามีอารมณ์ร่วมกับงานเขียนของเรา มันทำให้เรารู้สึกมีความสุขมากๆเลย ทำให้เราอยากเขียนตอนต่อไปเรื่อยๆให้เขาได้มีความสุขและสนุกกับการอ่านแบบนี้ตลอดไป
คงรัก ตัวละครและเรื่องราวมั่งครับ เวลาที่เขียนเหมือนกำลังดูหนังอยู่มันก็เล่นของมันไปเอง ก็แค่เขียนเรื่องที่กำลังเล่นอยู่ในหัวออกมา..
คงเหมือนกำลังดูหนัง มั่งครับ สนุกดี เพราะขนาดเขียนเอง ยังไม่รู้ว่าเรื่องจะดำเนินไปแบบไหน...ตื่นเต้นไปหมด
แต่งนิยาย แต่งฟิค นี่เพื่อสนองนีดตัวเองล้วนๆ อยากให้เป็นแบบนั้นแบบนี้ แต่พอมีคนสนใจและได้รับคอมเม้น ติชม แบบ เฮ้ย กำลังใจมันมาเพียบเลยจริงๆ บางทีนั่งอ่านเม้นซ้ำไปมา ทำเหมือนว่าเม้นมันอาจจะงอกออกมาอีกสักเม้นสองเม้นประมาณนั้นเลย
สำหรับผมมาจากหลาย ๆ ส่วนนะครับ
1.จากแฟน ๆ ที่เข้ามาอ่าน อันนี้สำคัญเลย
2.หวังที่จะสร้างผลงานชั้นยอด แม้ไม่ประสบความสำเร็จคนอ่านน้อยก็ไม่เป็นไร
3.ความรักในตัวละคร ผมมีตัวละครที่ชอบ ในวัยเด็กเช่น โกคู(โงกุน) , 007 , คินอะอิจิ และเพื่อสืบทอดเจตนารมณ์นั้นต่อไป จึงต้องสร้างสรรค์เป็นงานเขียนขึ้นมาครับ
ต้องบอกเลยว่ากำลังใจในการเขียนนิยาย ส่วนหนึ่งคือคนอ่าน อีกส่วนคือแต่งแก้เครียด แรกๆแต่งนิยายเพราะอยากแต่ง แต่งแก้เครียด พอมีคนอ่านมาเม้นให้กำลังใจ เม้นติชมก็มีแรงฮึดอยากรีบแต่งรีบอัพ 555555 แต่ยอมรับว่าแรงผลักดันแรกในการเขียนนิยายคือตัวศิลปินที่นำมาเป็นตัวละครในเรื่องค่ะ^^
อืม...
ของผมคงจะเป็น
จะได้เขียนฉากที่อยากเขียนแล้ว!!!
อีกนิด...อีกไม่กี่บท...อีกนิดเดียว....
เชื่อว่าหลายคนคงจะมีฉากที่อยากเขียนเหมือนผมล่ะนะ
เวลาคิดพล็อตแต่ละเรื่องออกมา ;w;
มาจากตัวเองค่ะ แต่กำลังใจในการอัพตอนต่อไปส่วนใหญ่ก็มาจากคอมเม้นค่ะ ถึงจะน้อยนิดแค่คนสองคน แต่ก็ดีกว่าไม่มีใครเม้นเลย = =
เพราะว่ากว่าจะอัพนานมากกก บางทีก็ดองเลย (สรุปทำตัวเองทั้งนั้น เพราะงั้นเวลาจะเขียนทีเลยต้องพึ่งกำลังใจตัวเองก่อนอย่างแรกค่ะ)
กำลังใจในการเขียน? มันคืออะไรเหรอคะ...
//ทำหน้าเจ็บปวด
เปรียบพล็อตดั่งเปลวไฟ ถูกการบ้านสาดน้ำใส่ก็มอดดับไปในเสี้ยววินาที
มาจากความทรงจำกับคนๆนั้นที่เราไม่เคยลืม จึงนำมาแชร์ต่อให้โลกภายนอกรู้ ไหนๆก็ไหนๆล่ะ ฝากไปอ่านนิยายเรื่อง จากเพื่อนเลือนเป็นคนรู้ใจ ของเราหน่อยนะ พึ่งหัดแต่งอ่ะ ฝากด้วย
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?