ม.6แล้วแต่ครูยังสั่งงานเยอะเหมือนเดิม ไม่เข้าใจเด็ก

+1 เลย รรก็เอาแต่ค่าเฉลี่ยโอเน็ตให้ขึ้นเพื่อเป็นหน้าเป็นตา งานก็ให้เยอะไม่ไหวๆ

ร.ร. นว ป่าวเนี้ย555

onet มันโจทย์หมูๆไม่ต้องติวหรอก

ความจริงประเด็นนี้มีคนพูดบ่อย พี่ๆdekd น่าจะขึ้นหัวข้อนะน่าให้ความสำคัญ แบบนี้ล่ะคนตั้งใจสอบเขาก็เตรียมตัวลำบากทุกปี เพราะพูดไปก็เงียบ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ต่างจากกรณีพูดเรื่องตัดรับตรงจากมหาวิทยาลัยเล่นกันเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต ....

เทอมก่อนเราก็มีติวเช้า สภาพยิ่งกว่าซอมบี้
ส่วนงาน เราอาศัยค่อยๆปั่นไป คาบไหนครูไม่สอนก็ทำงาน
แต่อยากตินิดนึงตรงที่ครูเรายังสั่งให้ทำบันทึกการอ่านอยู่เลย ไม่รู้ที่อื่นรู้จักกันมั้ย 5555 ทำเป็นเล่ม มีขั้นต่ำบรรทัดด้วยนะ ความคิดเห็นส่วนตัว คิดว่างานนี้สำหรับนักเรียนม.6 ที่จะสอบเข้า เป็นงานที่ไม่สมเหตุสมผลสักเท่าไร

จขกท ก็ไม่ต้องสนใจครูพวกนี้สิคะ
คือที่บอกว่าครูตำหนิว่าขี้เกียจทั้งที่หยุดไป 2 ครั้ง ก็ไม่ต้องสนใจสิคะ ชีวิตเป็นของเรา ถ้าเกิดเราสอบไม่ติดขึ้นมา ครูจะรับผิดชอบกับหนึ่งปีที่เสียไปยังไงคะ
ส่วนใครมาสายเกิน 7 โมงไม่ให้ร่วมการติว ก็ดูเหตุผลสิคะ ว่าถ้าไม่ติวเป็นอะไรมั้ย มันก็ไม่คอขาดบาดตายหรอกคะ ถ้ามาฟังอะไรที่ง่ายและน่าเบื่อ ดิฉันขอมาโรงเรียน 9 โมงแล้วมีประโยชน์ดีกว่าค่ะ
แล้วอีกอย่างเรื่องงาน ลองคิดดูสิคะ สมมติว่าคะแนนเก็บ 20 คะแนน ถ้าสั่งแค่ 1 งาน 20 คะแนนเลยถ้าไม่ทำก็เดี้ยงใช่ไหมคะ แต่ถ้าสั่ง 5 งาน งานละ 4 คะแนนถ้าไม่ทำ 1 งานมันก็ไม่มีผลต่อชีวิตในอนาคตหรอกค่ะ
อยากจะบอเกว่าระบบและครูเปลี่ยนยากและแทบจะเปลี่ยนไม่ได้เลย
สิ่งที่ต้องทำ คือ สละคำติเตียนของบางคนที่ดูว่าไร้เหตุผล และทำสิ่งที่เราคิดว่ามีสาระดีกว่าค่ะ

เหมือนกันเลยค่ะ ครูสั่งงานเยอะมาก 7โมงครึ่งติวโอเนต ตอนเย็นซ้อมกีฬาสี ลดเวลาพักกลางวันลงด้วย เลิกเรียนช้ากว่าเดิมอีก ตารางเรียนแน่นมากมีคาบว่างแค่คาบเดียวต่อสัปดาห์ ชีวิตพังค่ะตอนนี้ โหดร้ายกับพวกเราเกินไปแล้ว 

โรงเรียนเราก็เหมือนกันค่ะ เบื่อมากกก เรียนโอเน็ต  เน้นแต่โอเน็ต สั่งงานกลุ่มเยอะมากๆๆๆ ด้วยแล้วคืองานกลุ่มมันต้องใช้เวลามากกว่างานเดียว เซงมาก

เหมือนกัน โดนหนักมาก แต่ละอย่างนี่แบบอาจารย์คะ สมัยนี้ไม่ได้มีแค่สอบเอนฯอย่างเดียวนะคะ ไม่ได้มีแค่โอเน็ตด้วย คือเพลีย คือไม่ไหว ทุกวันนี้เหมือนกบฎ หยุดจนกว่าจะครบโควต้า เพราะติดสอบตรง นู่นนี่นั่น แล้วทุกวันนี้คือเรียนข้อสอบเพื่อติวโอเน็ต+การบ้านที่แสนจะเว่อวังอลังการ 

สงสารเด็กม.6 เพราะข่วงนี้ทั้งจะเตรียมตัวสอบ9วิชาสามัญ บางคนต้องไปติวกว่าจะเลิก 2 ทุ่มก็มี ไหนจะไปวิ่งสอบตามมหาวิทยาลัยอีก แต่ครูก็ยังสั่งๆงานเยอะแยะไปหมด เดี๋ยวก็จะมีกิจกรรมโน่นนี้นั่นให้รับผิดชอบอีก คือเป้นครูควรเข้าใจไหมว่าช่วงนีเควรให้เด็กๆเค้าได้เตรียมตัวไปติวไปสอบ จะมาเยอะอะไรช่วงนี้คิดซิถ้าลูกครูไปสอบมั้งจะไหวไหม

เช่นกันเลยค่ะ
อะไรๆก็โอเน็ต จะติวแต่โอเน็ตอย่างเดียว
การบ้าน งานนี่ก็สั่งอย่างกับกลัวว่าอีกไม่นานโลกจะแตก
เป็นเด็กมอหกต้องอดทนค่ะ! จขกท สู้ๆน้าาาา

โรงเรียนเธอดีนะยังมีติว โรงเรียนเรานี่ไม่มีหรอกติวไร แถมบ่นเด็กเรียนพิเศษ แล้วก็สั่งงานเยอะแบบ เอาแต่ผลงาน เอาหน้า บลาๆๆ

แค่เห็นหัวข้อกระทู้ ก็รีบเข้ามาดูแทบไม่ทัน !!
รู้สึกเข้าใจจขกทนะ เพราะรร.เราก็เป็นแบบนี้
มีติว แต่สั่งงานอย่างกับเด็กไม่สอบ
แล้วส่วนใหญ่เป็นงานกลุ่ม
ซึ่งงานกลุ่มนี่...ไม่มีใครทำเลย นอกจากเรา
ไหนจะอ่านหนังสือ ไหนจะติวที่รร. ไหนจะการบ้าน
เฮ้ออออออ ! ชีวิตเด็กม.6 นี่ลำบากเนอะ

สงสารพวกรุ่นน้องม.6นะ พี่เข้าใจความรู้สึกของพวกน้องนะ เพราะของพี่ก็เป็นเหมือนกัน คือแบบอาจารย์บางคน แบบให้เด็กทำงานเพื่ออาจารย์จะได้มีผลงานเข้าแฟ้มตัวเองเพื่อส่งห่า -อะไรก็ไม่รู้ และที่แย่กว่าคือดันเอาวันสอบปลายภาคปิดจบม.6มาอยู่หลังสอบGATPATเสร็จ พวกพี่อ่ะหรอทำไงรู้มั้ยพวกพี่อ่ะดักประท้วงหน้าห้องฝ่ายทะเบียนวัดผล(ย้ำนะ ถ้าจะประท้วงม.6ทั้งห้องนะ ถึงจะทำได้) แล้วพอพวกพี่เข้าไปหารองฯฝ่ายกิจการนักเรียน รู้มั้ยเกิดอะไรขึ้นรองฯแกหน้าเหวอเลยแหละที่เห็นพวกพี่มากันประท้วงทั้งม.6(ตอนแรกเพื่อนพี่ที่เป็นตัวแทนของม.6ไปคุยนะ รองฯแกไม่คุยกับเพื่อนพี่ จนสุดท้ายพี่และเพื่อนๆพี่ตัดสินใจเข้าแม่งทั้งหมดนี่แหละเพื่อคุยกับรองฯ) จนสุดท้ายก็ได้เลื่อนสอบเร็วขึ้นตามความตั้งใจของพี่และเพื่อนๆของพี่ รวมถึงรองฯแกยังไปบอกกับพวกอาจารย์ด้วยว่าห้ามสั่งงาม.6 ก่อนสอบอีกเด็ดขาด ถึงพี่จะจบม.6มาแล้วแต่พี่ก็อดเป็นห่วงน้องๆที่กำลังสอบเข้ามหาลัยไม่ได้จริงๆ รวมถึงบางคนก็มีปัญหากับทางบ้านมาแล้วยังมาเจอปัญหากับความคิดของอาจารย์บางคนที่คิดแค่หางอึ่งอีก พี่อยากจะบอกน้องๆว่าสู้ๆนะ อย่าพึ่งยอมแพ้นะ

ปล.พี่ขอแนะนำให้น้องลองทำแบบพี่ดูนะ(การประท้วง) รับรองจะเป็นประวัติศาสตร์ของร.ร.น้องไปตลอดกาลแน่ๆ 555555 ขนาดพวกพี่ๆจบแล้วยังมีอาจารย์ รุ่นน้อง หรือแม้กระทั่งผอ.ร.ร.และรองฯยังจำเหตุการณ์ที่พวกพี่เข้าไปประท้วงห้องฝ่ายทะเบียนวัดผลได้เลย555 ถ้ามันพอจะระเบิดก็จะเจอแบบนี้

พี่ก็ผ่านมาแบบน้องนี่หละ ไม่ต่างอะไรกันเล้ยยย
แค่ของน้องมีสอบเพิ่มขึ้นตรงจาก 7 วิชา เป็น 9 วิชาสามัญ
งานพี่ก็เยอะไม่ต่างจากน้องเลยน่าาา 
เชื่อไหมเวลาเราบอกครูว่าไม่ว่างอ่านหนังสืองานเลยไม่เสร็จ
ครูเขาก็จะว่าเรากลับมาว่าไม่แบ่งเวลาให้ดีใช่ไหม

พี่อยากแนะนำน้องๆว่า น้องๆต้อง "อดทน"
ครูเขาสั่งงานอะไรมาก็พยายามเคลียร์ๆให้เสร็จภายในวันที่เขาสั่ง
บางวิชาอาจจะกำหนดส่งวันอื่นที่ไม่ใช่วันที่เขาสั่ง 
เราก็รีบๆทำให้เสร็จก่อนวันกำหนดส่งก็ได้
พี่ก็ใช้วิธีนี้นะ งานเลยเสร็จไว มีเวลาว่างเยอะเลย
แต่พี่ เล่นแต่โทรศัพท์ไม่อ่านหนังสือเพราะความขี้เกียจของพี่ทำให้ไม่ได้คณะที่อยากเข้าจริงๆ

สู้ๆนะ #dek59 
พอน้องๆผ่านจุดนี้มาได้ น้องก็ต้องเจอจุดที่ยากกว่าเดิม นั่นคือ 'มหาลัย'

ขอให้น้องๆอดทนอีกนิด เวลาที่น้องจบจากโรงเรียนน้องแล้ว
น้องจะรู้สึกคิดถึงครูทุกคนที่เขาสั่งงานเยอะๆ ว่าเราเยอะๆ

พี่เป็นกำลังใจให้นะน้องๆ #dek59 จากใจพี่ #dek58

(มีอะไรอยากปรึกษาหรืออยากระบายคุยกับพี่ได้ พี่ยินดีรับฟังน้องทุกคนคะ ^^))

ของเรามีงานส้วมค่ะ555555555 ป่วงมาก
คือเหมือนเขาจะให้ประหยัดน้ำเลยให้ม.6 แต่ละห้องจัดการ ส่วนห้องเราได้ห้องน้ำชั้นที่เรียนกัน แล้วให้อีกห้องคอยดูว่าพังมั้ย ถ้าพังจะมาบอกห้องเราให้ห้องเราซ่อม (อันนี้งงมาก ห้องเราห้องวิทย์ แต่ต้องรับผิดชอบทั้งหมดคืออะไร คะแนนได้เท่ากันทุกห้อง)
จริงๆ มีอีกสิบกว่างานนะ แต่งานนี้ป่วงสุดแล้วล่ะ55555
ม.6 อย่างเราต้องสู้นะ ต้องสตรวองเข้าไว้ อย่ายอมแพ้มารผจญ

คะแนน O-net มันจะบอกถึงผลงานของโรงเรียนครับ เวลาศึกษาเขตเค้าประเมินโรงเรียน(รวมทั้งครูและผู้บริหารโรงเรียนด้วย) เค้าจะใช้คะแนน O-net นี่หละ น้องลองสังเกตค่าสถิติในใบ O-net ตอน ม.3 ดีดีนะ มันมีค่าหลายค่าที่เค้าเอามาประเมิน ประเมินทำมัย ก็ เป็นผลงานของ ผ.อ. และคณะครูในโรงเรียนไง เงินเดือนขึ้น ขั้นขึ้น ตำแหน่งขึ้น อะไรพวกนี้หละ

คำแนะนำ ให้น้องเรียนลำดับความสำคัญด้วยตัวเองนะครับ O-net มันง่ายและมันสอบหลังสุดไม่ใช่หรือ
เอาที่สอบก่อนเป็นสำคัญ ถ้าเกรดน้องดีอยู่แล้ว 9 วิชาสามัญ ต้องลุยอย่างหนักแล้วตอนนี้ งานที่ส่งเอาพอถูๆไถก็ยังได้
ก็แล้วแต่นะ จะเอาผลงานตัวเอง หรือ ให้ครูได้ผลงาน

อาจารย์ที่โรงเรียน ก็เอาแต่ใจ เอาแต่ผลงานตัวเอง(ลืมไปว่าเด็กต่อมหาวิทยาลัยดีๆแยะๆก็เป็นผลงานแต่เอาไปเสนอผู้บริหารไม่ได้)
อาจารย์ มหาวิทยาลัย ก็จัดสอบมันทุกอาทิตย์ เอาแต่ดึงเด็ก ดึงเงิน (อยากเข้าก็ต้องมาสอบ แบ่งเศษๆที่เรียนมาล่อ)

เด็ก และผู้ปกครอง ก็กลายเป็นกล้วยทับ บี้แบนไป เพราะไม่มีใครรับผิดชอบ

สู้ต่อไปทาเคชิ

มอหกไม่ควรมีการบ้านไร้สาระแล้วอ่ะเอาจริงๆ
อยากอ่านหนังสือ 

กดโหวต+1 

ใช่เลยค่ะ 
ตอนนั้นก่อนอาทิตย์หนึ่งจะสอบ Gat/Pat 
ครูพละสั่งให้ทำรายงานเขียนเอา 7หน้าห้ามปริ้นรูปมาติด ซึ่งตอนนั้นแบบ ครูคะ เลื่อนได้ไหม มันใกล้จะสอบแล้ววววววว ครูก็บอกเออยิ่งจะสอบนั้นแหละต้องรีบส่ง แบบ โหยยย 
จะสั่งอะไรขอส่งหลังสอบได้ไหม 55555 
ม.6 นี้จะสอบเยอะมาก แต่การบ้านก็เยอะเช่นกัน บางที การสอบกับการบ้านอาจจะกำลังแข่งกัน ฉันต้องเยอะกว่าแกอะไรแบบนี้ จะ #ทีมการบ้าน หรือ #ทีมสอบ เลือกเลยค่ะ 55555 ไม่เท ไม่ทิ้ง ทีม #สิ่งศักดิ์สิทธิ์ค่ะ #พนมมือแรง 55555
ขอบ่นนิดนึงค่ะ แต่ความจริง เราก็ขี้เกียจเยอะมากเหมือนกัน ยอมรับค่ะ 5555555555555 

ร.ร.ก็มี โดนสั่งการบ้านอลังมาก เขียนข้อสอบสังคมส่ง50ข้อ ทำงานไม้2ชิ้น ทำเว็บ ทำโพลสำรวจนู่นนี่ในร.ร. คือเทอมสองแล้วเหวย ไม่นึกถึงเด็กเลย เป็นอาจารย์เองก็คงไม่อยากได้การบ้านแบบนี้ตอนช่วงเวลาแบบนี้เหมือนกันเหอะ เพลียค่ะ

โฮฮฮฮฮฮฮ ใช่เลยล่าสุดเราต้องส่งงานห้างานภายในวันเดียว อารมณ์แบบเคลียร์งานใกล้ปิดเทอม แต่มันไม่ใช่ ครูชอบพูดว่าม.6 เทอม2 เกรดจะลดกัน เราก็ไม่แปลใจหรอก
เดือนธันวานี้เรามีสอบสามอย่างเลย โควต้ามช. กลางภาค วิชาสามัญ ถ้างานยังเยอะเราคงต้องยอมเสียคะแนนส่งช้า เพราะแค่หนังสือก็อ่านไม่ทันแล้ว TT

สู้ๆนะน้องๆ พอผ่านช่วง ม.6มา น้องๆจะรู้เองว่านรกมีจริง ถ้าเทียบช่วงสอบของมหาลัยกับของ ม.6 มันต่างกันลิบลับจะเหมือนกันก็ตรงที่ใกล้สอบแล้วแต่อาจารย์ยังสั่งงานเหมือนเดิม

ของโรงเรียนเราก็จะเอาแค่คะแนนโอเน็ตของรร.ให้ดี ไม่พูดถึงคะแนน7วิชาหรือคะแนนที่ใช้อื่นๆ
และยังสั่งให้ไปทำสมุดเล่มเล็กที่ข้างในเป็นนิทานหรืออะไรก็ไม่รู้ คือเซ็ง ==
ทุกเสาร์อาทิตย์เราจะอยู่บ้าน เพื่ออ่านหนังสือเตรียมท่องศัพท์ทวนแกรมม่าภาษาอังกฤษอะไรต่างๆนาๆ (เพราะมันยากไงจึงต้องตั้งใจ) และก็อ่านวิชาอื่นด้วย
แต่ก็ต้องเอาเวลามาทำอะไรก็ไม่รู้ที่ไม่ได้ให้ความรู้ที่จะไปเข้ามหาลัยเลยย T_____T

จะอ่านหนังสือไม่ทันก็คงเพราะการบ้านนี่แหละกระมัง.. =0=

ตอนนี้เข้ามหาลัยมาแล้วค่ะ แต่ตอนม.6 นี่อารมณ์ประมาณนี้เหมือนกัน 
ที่บอกว่าอ.กำหนดส่งงานและไม่ยอมทำความเข้าใจ ตอนนั้นเพื่อนทั้งห้องตกลงกันเลยค่ะว่าจะไม่ส่งงานอ.คนนี้พร้อมกัน เป็นการประท้วงเล็กๆค่ะ แล้วเราก็กำหนดส่งช้าหลังจากนั้น2-3วัน 
เอาความจริงตอนนั้นแกก็ไม่ได้พูดหรือบ่นอะไรนะ พอเอางานไปส่งพร้อมกันทั้งห้องแกก็รับอ่ะ แบบกดดันเบา

ที่ รร. เราก็เน้น o-net เพราะแข่งกับ รร. อื่น เรื่องคะแนนo-net อยู่ เป็นทุกปีแหล่ะ
จัดติว ทุกวันพุธ ติวที4ชม.รวดเลย รู้สึกเหนื่อย แต่ก็เข้าใจว่า คะแนน o-net มันติดตัวเราไปโต จนทำงาน แต่การบ้านถามว่าเยอะมั้ย มันไม่เยอะหรอก การบ้านจริงๆมีไมีกี่วิชาหรอก แต่ถึงจะน้อยแต่งานยากทั้งนั้นเลย นี่ต้องทำโครงงานคอมด้วย มันดูง่ายนะ แต่แค่เสนอเรื่องที่จะทำโครงงานก็ท้อแล้วอ่ะ เสนอไป5เรื่องยังไม่ผ่านเลย เพื่อนเรายิ่งแล้วใหญ่ เสนอเรื่องไป8เรื่องแล้วอาจารย์ยังไม่อนุมัติเลย ท้อมาก ไหนจะกีฬาสีอีก เหนื่อย งานห้องก็ไม่ค่อยสามัคคีกันเลย ยิ่งตอนนี้เพื่อนไหนห้องมีปัญหากันอีก งานจะออกมาเป็นยังไงก็ไม่รู้ เดี๋ยวก็ต้องสอบ9วิชาสามัญอีก รู้สึกเหนื่อยอ่ะ 
ปล.ม.6ไม่น่ามีการบ้านด้วยซ้ำไป

ม.5 นะ
เราโดดเรียนไปเรียนพิเศษ (วันที่มีคาบเรียนน้อย)
โดดกีฬาสีไปเรียนพิเศษ
โดดกิจกรรมรร.ไปเรียนพิเศษ
บ่อยมาก

จะจบม.5แล้ว เรียนไม่ทันซักที

คือเราอยู่ EP เรียนเป็นหลักสูตรภาษาอังกฤษแล้วมันง่ายมาก ได้เกรดง่าย แต่ว่าเอาความรู้ไปใช้สอบมหาลัยไม่ได้ เราเจอข้อสอบ PAT ครั้งแรกคือเงิบเลย ทำไมมันยากขนาดนี่้ เลยต้องไปเรียนพิเศษ
ไม่มีขาดเรียนด้วย เพราะ... เราเป็นคนเช็คชื่อ

ปล.ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่างนะ เล่าให้ฟังเฉยๆ555555
ปลล.ผู้ปกครองกับครูที่ปรึกษาเราไม่ว่านะ

จริง ม.6 ช่วงนี้มักจะมีปัญหาเรื่องภาระงานต่างๆเยอะมาก โรงเรียนเราก็เคยเป็นนะแต่ว่าปีนี้เป็นปีแรกล่ะมั้งที่ผ่อนคลายลงมา (แต่ก็มีเงื่อนไขมหาโหดผูกมัดอยู่)

โรงเรียนเราอยู่ในเขตภาคเหนือตอนบน ซึ่งโรงเรียนมัธยมศึกษาที่อยู่ในเขตภาคเหนือนอกจากโรงเรียนจะให้นักเรียนเน้นคะแนน O-NET แล้ว ยังมีโควต้า มช. ที่เน้นสุดๆ คล้ายเหมือนว่าในโรงเรียนภาคเหนือจะชอบประชันศักยภาพกันจากโควต้า มช. ซึ่งทำให้คนที่ต้องรับภาระหนักก็คือนักเรียน ม.6 ซึ่งเมื่อปีก่อนๆบรรดาครูก็สั่งงานตามปกติและจำนวนค่อนข้างเยอะเหมือนว่านักเรียนไม่มีภารกิจสอบที่ไหน แต่ก็ตลบหลังด้วยพูดแกมบังคับเรื่องโควต้า มช.

จนกระทั่งปีนี้เป็นปีแรกที่ในภาคเรียนที่ 2 ของ ม.6 ที่โรงเรียนยอมยกตารางเรียนธรรมดาออกจัดจ้างติวเตอร์จากเชียงใหม่มาติวให้ในช่วงนึง แต่ด้วยเงื่อนไขมหาโหดว่า "ถ้า ม.6 ปีนี้ไม่ได้คณะดีๆ หรือมีจำนวนที่มากในโควต้า มช. รุ่นต่อไปก็จะอด" ง่ายๆคือเหมือนจับรุ่นน้อง ม.5 เป็นตัวประกันเพื่อกดดัน ม.6 ทำโควต้า มช.ให้ได้ เพราะมีคำว่า "โรงเรียนประจำจังหวัด" ค้ำคออยู่

อย่างในปี 2556 จำได้ว่าเป็นปีแรกที่โรงเรียนเราได้ที่นั่งโควต้า มช. น้อยกว่าโรงเรียนประจำอำเภอใหญ่อีกที่นึง มีครูเอาพี่ ม.6 รุ่นนั้นมาจิกกัดนินทาให้เรา (ซึ่งอยู่ ม.4) ฟังใหญ่เลย เหมือนกับว่าโควต้า มช. คือสิ่งที่สำคัญที่สุดของชีวิตทั้งที่ มช. ก็มีให้อีกตั้ง 2 รอบ

เช่นกันที่ว่าโรงเรียนแทบไม่ให้ความสำคัญกับ GAT/PAT เลยทั้งที่มันสำคัญต่อแอดมิชชั่นมากๆ มีแค่ฝ่ายแนะแนวที่ตามมากำกับเรื่องการสมัคร-จ่ายเงิน ส่วนการเตรียมตัวสอบเหมือนปล่อยไปตามยถากรรม // เชื่อว่าหลังจากสอบโควต้า มช. คงกลับมาให้นักเรียน ม.6 เรียนตามปกติเต็มตารางเหมือนเดิมทั้งที่ยังมี 9 วิชาสามัญที่ตามหลังมาจากนั้นอีก 2 อาทิตย์

โดยภาครวมปีนี้รุ่นเราก็เริ่มผ่อนคลายเรื่องงานลงไปบ้าง เรื่องการแกมบังคับ ศักดิ์ศรีโควต้า มช. ค้ำคอนี้ยังมีให้พบเห็น O-NET ก็กำชับทุกปีเพราะต้องใช้ประเมิน คล้ายกับว่าเหมือนเปลี่ยนการให้งานมาเพิ่มภาระมาเป็นการกดดันต่อตัวนักเรียนมากขึ้นมากกว่า

อาจจะยาวหน่อย แต่ขอระบายนิดนึง 5555
ไม่กล้าไปแสดงความเห็นที่ Fan Page เลยต้องมาลงในนี้ เพราะตอน ม.3 - ม.4 เคยวิจารณ์ครูกับโรงเรียนแรงมากจนโดนจับไปอบรม (โรงเรียนรักษาความมั่นคงภายในขั้นสูงก็งี้ล่ะนะ 55555)

ของเรานาฏศิลป์เยอะสุดละ ให้ออกข้อสอบ 300 ข้อ เนื้อหาม.4-6 กลุ่มละสามคน จดลายมือล้วนเป็นอัตนัยห้ามพิมพ์ให้ส่งก่อนสอบกลางภาค (ประมาณช่วงเดือนมกรา) ไม่พอ ยังมีสอบรำจินตลีลา ซึ่งผ่านยากมากกกก ไม่ผ่านต้องมาสอบใหม่และไม่ให้สอบในคาบเรียนต้องหาเวลามาสอบเองด้วย เพราะในคาบเรียนต้องสอบท่ารำมาตรฐานและออกแบบท่ารำมาสอบเองด้วย ใครไม่ส่งงานหรือไม่เข้าสอบก็ติด ร. หรือไม่สอบแล้วรำไม่สวยได้คะแนนน้อย เกรดไม่ดี เป็นอันว่ากดเกรดไปอีก อ้อ มีสอบการจัดการแสดงบนเวทีด้วยนะ คือทั้งห้องต้องจัดการแสดงหนึ่งชุดในวันสำคัญเช่น ลอยกระทง วันพ่อ วันปีใหม่ไรงี้อ่ะ ต้องออกค่าแต่งหน้า ค่าชุดเองแล้วอาจารย์จะให้คะแนน แต่มีตัวเลือกด้วยนะ คือถ้าไม่สอบจัดการแสดงก็ต้อง ออกเงินคนละ 60 บาทให้ตัวแทนจากชมรมรำหรือไม่ก็น้องๆม.5 ไปแสดงแทน แล้วจะให้พวกเราเอายังไงล่ะ ถ้าจัดแสดงเองก็เสียเวลาซ้อม บลาๆๆ เสียค่าชุดเยอะกว่าออกคนละ 60 จริงมั้ย? มันแบบบีบทางเลือกมากอ่ะ เลือกทางไหนเราก็เสียเปรียบอยู่ดีค่ะ แล้วอาจารย์ก็คิดว่าห้องเราไม่สนใจวิชานี้ เห็นว่าวิชานี้ไร้สาระ ไม่สำคัญเท่าคณิต-วิทย์ (เราเรียนสายวิทย์คณิตค่ะ) ไม่ต้องเอาคะแนนก็ได้ ไม่ใส่ใจ คืออะไร? ยอมรับว่าตกใจที่อาจารย์คิดกับพวกเราแบบนั้น เพราะเราไม่ได้คิดแบบที่อาจารย์พูดเลยนะ เราตั้งใจเรียนทุกวิชา ใส่ใจทุกงาน แต่ความสามารถมันไม่เท่ากันป่ะ ห้องเรามีคนที่รำสวยๆไม่กี่คนเอง ซ้อมทุกวันหลังเลิกเรียน แถมไปสอบแต่ละทีก็ไม่ผ่านสักที พวกเราไม่มีเวลาไปสอบปรับคะแนนเพราะมันใกล้สอบปลายภาคด้วย งานวิชาอื่นก็เยอะ กลายเป็นว่าอาจารย์คิดว่าเราไม่สนใจวิชาท่าน พาลโกรธห้องเรามาจนถึงเทอมนี้ เยี่ยมจริงๆค่ะ ยอมใจท่าน #เหลือใจ #ซ้อมรำต่อไป

เราสายวิทย์ แต่ต้องมานั่งทำโครงงานคอมจนเหงือกเเห้งอะน่าเบื่อมาก  เเละห้องเราเน้นสังคมมากเพราะครูประจำชั้นเป็นครูสังคม เพลียเเรงงงงงงงㅠㅠ

โรงเรียนยังสอนไม่จบ ก็ต้องสอบรับตรง ตลกมาก แบบนี้ก็มี

โรงเรียนยังสอนไม่จบ ก็ต้องสอบรับตรง ตลกมาก แบบนี้ก็มี

โรงเรียนยังสอนไม่จบ ก็ต้องสอบรับตรง ตลกมาก แบบนี้ก็มี

เคยเจอมาเหมือนกันเข้าใจเลย ระบบการศึกษาของไทยไม่ไปถึงไหนเพราะความคิดแปลกๆของพวก ‪#‎เปลือกครู‬ พวกนี้แหละ หวังแต่จะเป็นราชการกินเงินเดือนไปวันๆ ถ้าเป็นครูมาจากในจิตวิญญาณจริงๆ ไม่เป็นแบบนี้หรอก
‪
#‎Strongนะเด็กๆ‬

ติวโอเน็ตๆๆๆๆๆ ไม่ต่างกับ รร เราเลย แต่ของเรา เข้าเรียนปกติ แต่มีติวถึง 5 โมง ตอนแรก เปิดเทอม 19 ตุลา(ตอนปิดก็ปิดช้า) ทำให้เด็ก ม.6 รร เราไม่มีใครมา รร เลย แบบ จะสอบแกทแพทอยู่แล้วดันเปิดเรียนก่อนอีก(ตอนนั้นมีผู้ปกครองด่าเยอะมาก เพราะลงเรียนพิเศษแล้ว แต่เปิดเทอมก่อนปิดคอร์ส) ตอนแรกขอนะ แล้ว ผอ บอกว่า มาเรียนก่อนอาทิตย์นึง ค่อยหยุดอ่านหนังสือ (ที่สำคัญ ติวโอเน็ตแบบไม่สนใจแกทแพทเลยจ้า ตอนเทอม 1 อะ) พวก ม.6 เลยพากันหยุดเลย เพราะขอแล้วไม่ให้ ครูที่ รร บางคนก็เห็นด้วย เข้าใจเรา แต่ไม่มีอำนาจมากพอ สุดท้าย ครูก็เลยไม่เช็คชื่อช่วงที่เด็ก ม.6 ไม่มา รร 

ตอนนี้ เหนื่อยกับการเรียนโอเน็ตมากๆ แบบ จะสอบ 9 วิชาสามัญอยู่แล้วอะ แต่ รร เราแทบไม่สนใจ จะเอาแต่โอเน็ต เพราะอันนั้นมันประเมิน รร ได้ คือ ความคิดเรานะ โครตไร้สาระ โอเน็ตควรหายไปจากประเทศไทยซะ

รร. เราก็เหมือนกัน
ที่เค้าเน้นโอเน็ตสูงขึ้น เพราะถ้าคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าเดิม โรงเรียนก็จะได้เลื่อนอันดับขึ้นไปอีก
ที่ รร. เราน่ะ ผอ. บอกว่าถ้าคะแนนกลุ่มสาระไหนดีกว่าปีก่อนๆ 5 คะแนนขึ้นไปจะมีการจัดทริปไปเที่ยวต่างประเทศ(ใกล้ๆ)ให้ครูทั้งกลุ่มสาระนั้น ครูแต่ละกลุ่มสาระเหมือนแบบมีการแข่งขันกัน(จะไปเที่ยว)
ดูนักเรียนสิ นั่งหัวปั่นกันเพื่ออะไร
โรงเรียนจะเอาแต่ชื่อเสียงหน้าตาของโรงเรียน (ดูหน้าตาของนักเรียนบ้างยัง)
กิจกรรม งาน การบ้านสั่งยั่งกะจะไม่อยู่เป็นเดือน
พอนักเรียนสอบไม่ติด ครูก็ถามว่ามันยากหรอข้อสอบน่ะ ทำไมทำไม่ได้(...ครูเคยสอนป่ะละเรื่องที่มันออก ถ้านักเรียนไม่ไปหาเรียนพิเศษเอาเองคะแนนคงได้น้อยกว่านี้อ่ะค่ะ )...เราไปเอาเรกดกับใบสำเร็จเร็จการศึกษากับกวดวิชาได้ป่านี้คงไม่มีใครไปโรงเรียนแล้วล่ะ
ครูแต่ละคนกลัวไม่มีผลงานเป็นของตัวเอง(ทั้งๆผลงานที่ครูมีคือฝีมือนักเรียน ครูแค่แนะนำ)
เอาหน้าตาของโรงเรียน ประชุมนั่นประชุมนี่ จัดนั่นจัดนี่ สร้างนั่นสร้างนี่(เงินนักเรียนนกับผู้ปกครองทั้งนั้น)
สนามฟุตบอล 10 ล้าน สร้างเพื่อศักดิ์ศรีชื่อเสียงของโรงเรียนแบบมีการให้เช่าจัดแข่งขันฟุตบอล แต่!!นัดเรียนอย่าเหยียบสนามฟุตบอลนะเดี๋ยวหญ้าตายยย(เงินใครสร้างกันแน่ว่ะ) ทีนักฟุตบอลใส่สตั๊ดิว่งเตะบอลจนหญ้าหลุดเป็นหย่อมๆโอ๊ยดีใจเค้ามาเตะที่โรงเรียนเรา เพื่อ?
ประเมิณ โรงเรียนพระราชทาน นักเรียนไมได้เรียนเป็นเดือนนน (ไปโรงเรียนทำไม ถ้าไม่ได้เรียน) ทั้งๆที่ทั้งภาค..มีแค่สองโรงเรียน ส่งมาชิง เพื่อ? จัดแบบเวอร์อ่ะ เสียเงินเป็นสิบๆล้าน เพื่อถ้วยๆเดียว แล้วบอกว่าเพื่อประกาศให้โรงเรียนอื่นและประชาชนได้รับรู้ถึงเกียรติศักดิ์ของโรงเรียนเราาาา (นักเรียนได้อะไรล่ะ?)
กีฬาสี!! บอกว่าเราจะจัดแบบยิ่งใหญ่ให้ทุกคนได้รับรู้ งบให้มาแค่นี้จัดได้เท่านี้ก็บุญหัวแล้วค่ะ(ถ้านัดเรียนไม่เก็บเงินกันเองออกคนละเป็นพั..ก็คงไม่ได้ขนาดนี้หรอก)ทำไปเพื่ออะไรทุ่มเทไปเพือ่อะไรกับแค่ถ้วยที่ได้มา(แล้วคืน) เงินแค่ไม่กี่หมื่น(กับที่เสียไปเป็นเกือบครึ่งล้าน)เพื่อ? เหนื่อยก็เหนื่อย
===ตั้งแต่รร.เราตั้งมาเกือบจะร้อยปีล่ะ สอบติดหมอแค่2-3คน นอกนั้นยังไม่มีเล๊ยยย
ก็ดูสิค่ะ ดูความฝันความตั้งใจของนักเรียนเพื่ออะไรถ้าทำไม่ได้?
นักเรียนมาโรงเรียนเพื่อทำตามฝันของตัวเองหรือทำตามความต้องการของครูกับของโรงเรียนกันแน่
ไปสอบมา 4-5 ที่ยังไม่ติดซักที่เลยยยยย #ม.6 โรงเรียนแห่งหนึ่งในประเทศไทย

สำหรับเราเป็นเด็ก #58 บอกได้คำเดียวว่า ขอให้น้องสู้ และอดทนค่ะ

โรงเรียนพี่ก็เคยเป็นแบบนี้แหละ ทรมานมากกกก มีติวอะไรก็ไม่รู้เยอะแยะไปหมด การบ้านก็แยะ กิจกรรมก็แยะ ที่ทำได้คือเลือก เลือกเอาสิ่งที่ทำแล้วจะดีสำหรับตัวเรา ส่วนอันที่ไม่ค่อยสำคัญก็ไม่ต้องไปสนใจมาก

ที่สำคัญอีกอย่างคือเรื่องสุขภาพและการพักผ่อน จริงๆนะ พี่เคยเป็นแบบอันนู้นก็จะทำ อันนี้ก็จะทำ แล้วอยากทำให้ทุกอย่างดีที่สุด ไม่หลับไม่นอน สุดท้ายสมองเบลอ เอ๋อไปเลย พังทุกงาน 55555555555555555

แต่สุดท้ายทุกอย่างมันก็เป็นเหมือนพื้นฐานสำหรับการเข้ามหาลัยด้วยนะ ทำให้เรารู้จักเรื่องการแบ่งเวลา จัดการกับตัวเอง อะไรสำคัญสำหรับเราอะไรไม่สำคัญ

คือตอนเข้ามหาลัยก็ตกใจเหมือนกันว่าทำไมมันยิ่งกว่ามัธยมเลย กิจกรรม งาน การบ้าน ไหนจะคิดถึงบ้าน เรื่องการปรับตัวอีก โอ้ยยยยย เยอะะะ (แล้วตัวเองก็เลือกสาขาที่งานเยอะซะด้วย T^T)

ยังไงชีวิตไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันต่อไป สู้ลูกสู้!!!!!! เพื่ออนาคตที่สดใส แสงแดดแสดส่องรำไร
สู้ค่ะสู้!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
[bb-009][bb-009][bb-009][bb-009][bb-009][bb-009]