Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

(ขอคำแนะนำ) ใครมีวิธีปรับอารมณ์เมื่อแต่งนิยายพร้อมกันหลายเรื่องบ้างครับ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
กราบสวัสดีทุกท่านครับ
     วันนี้ผมมีปัญหาอยากจะสอบถามวิธีแก้หรือคำแนะนำจากทุกท่านครับ พอดีตอนนี้ผมกำลังเขียนนิยายอยู่ 2 เรื่องครับ ซึ่งทั้งสองเรื่องนั้นให้อารมณ์ภายในที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง อีกทั้งรูปแบบการบรรยายยังไม่เหมือน จึงทำให้ตัวผมนั้นกำลังประสบกับปัญหา "การปรับอารมณ์ไม่ทัน" คือปกติผมตั้งใจว่าจะอัพนิยายสองเรื่องนี้สลับกันวันละ1ตอน แต่เมื่อลองเขียนดูจริงๆ ก็พบว่า พอผมเขียนอีกเรื่องหนึ่งเสร็จ วันถัดมากำลังจะเขียนอีกเรื่อง มันกลับเขียนไม่ได้ ความรู้สึกไม่มา อารมณ์ร่วมในนิยายไม่มี อีกทั้งยังทำให้ภาษาเขียนเริ่มรวน
     ผมเลยอยากจะขอคำแนะนำจากทุกท่านในบอร์ดนี้ ว่าทุกท่านมีวิธีรับมือกับปัญหานี้เช่นไร นอกเรื่องจากเลิกเขียนเรื่องใดเรื่องหนึ่งบ้าง (ทนไม่ไหว หัวใจมันเรียกร้อง)

กราบขอบพระคุณทุกคำแนะนำล่วงหน้าครับผม

แสดงความคิดเห็น

>

16 ความคิดเห็น

ศุกร์13 27 พ.ย. 58 เวลา 19:21 น. 1

ปกติผมจะเขียนเมื่ออยากเขียนอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่ค่อยเจอปัญหาเรื่องการปรับอารมณ์เท่าไหร่ ...ถ้าอารมณ์ยังค้างอยู่กับเรื่องเก่าก็เขียนเรื่องเดียวสองวันติดเลยก็ได้นี่ครับ การสร้างข้อผูกมัดกับตัวเองก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้การเขียนรวนนะครับ มันจะรู้สึกเหมือนมีหลายสิ่งกระจัดกระจายและหมุนวนอยู่ในหัวครับ
แต่ถ้าจะทำแบบเดิมต่อ หลายคนก็ใช้วิธีการฟังเพลงที่เข้ากับเรื่องที่เขียนครับ
บางคนก็ใช้วิธีอ่านตอนเก่าสักตอนสองตอนครับ แต่ต้องอ่านอย่างละเอียดจริงๆไม่ใช่แค่ผ่านๆครับ ผมเองก็ทำแบบนี้บางครั้งครับ
ของผมก็มีแค่นี้ครับ รอความเห็นต่อไปละกันครับ♣

1
Whiteflower Ri 27 พ.ย. 58 เวลา 19:25 น. 2

พี่ริก็เขียนอยู่ 2 เรื่องเหมือนกัน คือ เรื่องแนวปัจจุบัน กับแฟนตาซี  แต่จะเขียนเป็นอาทิตย์นะ เรื่องนี้แนวปัจจุบันก็เขียนให้จบตอน (ประมาณ 10 หน้าขึ้นไป)  ตรวจทาน  แล้วลงเวป  ซึ่งใช้เวลาเขียนประมาณ 2-3 อาทิตย์  หลังจากนั้นจะเริ่มเขียนแนวแฟนตาซี ประมาณ 2-3 อาทิตย์ ก็ลงเวป  แล้วก็กลับไปเขียนเรื่องแนวปัจจุบันใหม่ สลับกันไปแบบนี้จ้า

เขียนได้ไงอ่ะ  วันละตอน?  ทำไม่ได้ ><

3
Whiteflower Ri 27 พ.ย. 58 เวลา 19:33 น. 2-2

พี่ริมีเวลาเขียนนิยายจริง ๆ อาทิตย์ละ 3 วันจ้ะ เต็มที่แล้วนะ

ลงตอนละกี่หน้าจ๊ะเนี่ย...

0
ฟอกขาวถมดำ 27 พ.ย. 58 เวลา 19:50 น. 3

วันละตอน ตอนละ8-11หน้า!

คนหรือเครื่องจักรครับนั่น!?

ผมคงแนะนำอะไรไม่ได้ แค่เรื่องเดียวยังเอาไม่ค่อยรอดเลย แต่นับถือในความพยายามจริงๆครับ

ผมแนะนำให้แบ่งช่วงในการแต่งครับ อย่างอาทิตย์นี้เรื่องนั้น อาทิตย์หน้าเรื่องนี้เป็นต้น น่าจะแก้ปัญหาอารมณ์ร่วมได้พอสมควร

7
หยดหมึกสีหมอก 27 พ.ย. 58 เวลา 19:51 น. 3-1

ยังไม่ได้วันละตอนเลยครับ ฮ่าๆ พยายามจะทำให้ได้อยู่ครับ ทุกวันนี้ก็2-3วันต่อ1ตอนอยู่ครับ

0
Whiteflower Ri 27 พ.ย. 58 เวลา 19:59 น. 3-2

ถ้าทำได้นะ แสดงว่า ไม่ต้องทำมาหารับประทานแล้วกระมัง เขียนนิยายอย่างเดียว ฮา...
แต่...มีผู้ทำได้นะ และประสบความสำเร็จด้วย เขาเขียนได้วันละ 8 หน้า สุดยอดดด!
แต่คิดว่า คงจะเขียนนิยายเป็นอาชีพกระมัง ถึงทำได้ขนาดนั้น เราเขียนหน้าละชั่วโมง
ถ้า 8 หน้าก็ 8 ชั่วโมง โอ้วววว!!

0
ฟอกขาวถมดำ 27 พ.ย. 58 เวลา 20:01 น. 3-3

โอย ตกใจหมดเลยครับ

ก็เห็นมีบอกว่าแต่งสลับกัน ผมก็ดันเข้าใจอีกแบบนึง

ที่จริวไม่ต้องถึงกับวันละตอนก็ได้ครับ ไม่งั้นอัตราความผิดพลาดจะพุ่งไปหลายเท่าเลย(จากประสบการณ์ตรง)

0
หยดหมึกสีหมอก 27 พ.ย. 58 เวลา 20:06 น. 3-4

3-2 ผมก็คิดว่าจะลาออกมาเอาดีในอาชีพนี้เหมือนกันครับ ถ้าไม่ติดว่าต้องใช้หนี้ให้ครอบครัวเสียก่อน

3-3 ขออภัยด้วยครับที่ทำท่านเข้าใจผิด แต่นั้นมันคือความปรารถนาที่ผมตั้งเอาไว้อยากจะทำให้ได้ แหะๆ

0
Whiteflower Ri 27 พ.ย. 58 เวลา 20:11 น. 3-5

ใจเย็น ๆ ว่าแต่มีมรดกเหรอจ๊ะ ถึงจะลาออกจากงานมาเป็นนักเขียน "อย่างเดียว" หรือว่ามีเงินเก็บเพียงพอต่อการดำรงชีวิตแล้วเนี่ย...

0
หยดหมึกสีหมอก 27 พ.ย. 58 เวลา 20:17 น. 3-6

เงินเก็บพอมีครับ แต่คงจะเอาไปลงทุนอะไรสักอย่างเพื่อให้เงินมันทำงานแทน(ซึ่งกำลังวางแผนอยู่ครับแหะๆ)

ปล.ก็แค่คิดหน่ะครับ ถ้าจะทำจริงผมคงต้องวางแผนให้ดีกว่านี้ครับ

0
Arkari Yumi 27 พ.ย. 58 เวลา 19:51 น. 4

อย่างที่ท่านศุกร์13ได้กล่าวไว้แล้ว
คือให้อ่านตอนเก่าๆ
เราแนะนำให้อ่านตอนก่อนหน้าของเรื่องที่จะแต่งนะ จะได้รู้สึกมีอารมณ์ร่วมกับเรื่องมากขึ้น แถมยังทำให้ผู้อ่านที่อ่านรวดเดียวรู้สึกว่าแต่ละตอนอารมณ์ต่อเนื่อง ไม่สะดุดด้วย

สู้ๆนะคะ^^/

3
หยดหมึกสีหมอก 27 พ.ย. 58 เวลา 20:00 น. 4-1

ผมก็ว่าเป้นความคิดที่เข้าท่าเลยดีเดียวครับ แถมอ่านไปเจอจุดบกพร่องของตอนเก่าๆด้วย //ว่าแล้วก็เศร้าใจ

เศร้าจัง

0
Arkari Yumi 27 พ.ย. 58 เวลา 20:19 น. 4-2

4-1
คนเราย่อมมีจุดบกพร่องบ้างอยู่แล้ว หากพบก็รีบแก้ไขให้เรียบร้อย เพื่องานเขียนที่มีคุณภาพ อิอิ
สู้ๆนะคะ

0
นักเดินทางแห่งสายหมอก 27 พ.ย. 58 เวลา 20:33 น. 5-2

อยากอะไรของคุณ เราเขียนอยู่เรื่องเดียวเป็นชาติแล้วก็ยังไม่จบ อีกเรื่องก็ดองอยู่อ่ะ จะให้แนะนำอะไรได้ โธ่
เศร้าจัง

0
หยดหมึกสีหมอก 27 พ.ย. 58 เวลา 20:46 น. 5-5

ประชดที่ไหน ก็คุณแนะนำให้ผมเขียนเรื่องใดเรื่องหนึ่งให้จบก่อนไม่ใช่รึ หรือผมตีความผิดไป //เดี๋ยวดราม่าใส่ซะเลยนิ

0
SilverPlus 27 พ.ย. 58 เวลา 21:54 น. 6

ผมเขียนทีละเรื่องครับ

จากประสบการณ์การเขียนมาหลายปี โฟกัสทีละเรื่องดีที่สุดครับ 

หากเขียนหลายเรื่อง มันเหมือนเราไม่เต็มที่ให้กับมัน แทนที่จะแต่งพรวดๆไปเลย ครึ่งเรื่อง อารมณ์จะได้ปล่อยไปแบบสุดๆ แต่ดันกลับไปแต่งอีกเรื่อง ซึ่งก็ต้องจูนอารมณ์ใหม่กันอีก 

และที่ไม่แนะนำให้เขียนสองเรื่อง เพราะโลกมันจะทับกลืนกัน คนอื่นผมไม่รู้นะ แต่ถ้าเป็นผม เรื่องหนึ่งเขียนต่างโลก อีกเรื่องเขียนอวกาศ หากเขียนสลับไปสลับมา บรรยากาศมันจะกลืนกัน และไหนจะตัวละครที่มีบุคลิกอารมณ์หลากหลายอีก

แนะนำให้เขียนทีละเรื่อง จะเขียนให้จบ หรือเขียนไปสักหลายๆเดือนก็ได้ แต่อย่าแต่งสลับไปสลับมา

//ทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ เจ้าของกระทู้อาจเป็นคนไฟแรง ไอเดียพุ่งพล่าน จับปากกาสองมือ(จับปลาสองมือนั้นแหละ) ได้อย่างไม่มีปัญหา ก็สามารถแต่งสองเรื่องได้เช่นกัน เช่นคนเขียนซอร์ดอาร์ตออนไลน์ ก็เขียน เอ็กเซลเวอร์ไปพร้อมๆกันด้วย (ไลท์โนเวล)

1
แก้วน้ำสีฟ้า 27 พ.ย. 58 เวลา 22:14 น. 7

ของเราก็เขียนสองเรื่องควบเหมือนกันค่ะ ซึ่งคนละแนวกันเลย 

เวลาแต่งเรื่องนึงจบ เราก็จะพยายามทบทวนเนื้อเรื่องอีกเรื่องในหัว ว่าจะเขียนอะไรต่อ เวลาเดินขึ้นบันไดหรือว่างๆ  พอมีเวลาว่างมาพิมพ์ก็ไปได้เรื่อยๆ ค่ะ

# แต่บางทีก็ชอบเขียนชื่อพระเอกผิดเขียนของเรื่องเมื่อวานแทนซะงั้น

1
อัญยา 27 พ.ย. 58 เวลา 22:17 น. 8

ถ้าเข้าใจแกนหลักของเรื่องนั้นๆ เมื่อไหร่ ก็ง่ายๆ

ถ้าตราบใดผู้เขียนยังเข้าถึงนิยายไม่ได้เอง สวมบทบาทให้ตัวละครไม่ได้

แนะนำว่า อย่าเพิ่งเขียน 2 เรื่องพร้อมกัน

ไม่งั้นนิยาย จะพังทั้ง 2 เรื่องนะจ๊ะ



ทางลัดง่ายๆ แต่ละเรื่องเขียนเรื่องย่อตั้งแต่ต้นจนจบ ถึงตอนนั้น แม้อารมณ์จะหลง ก็กลับมาได้ล่ะน่า ไม่ออกทะเล :D

4
หยดหมึกสีหมอก 27 พ.ย. 58 เวลา 22:21 น. 8-1

ขอลองนำทางลัดมาใช้นะครับ (ไม่รู้จะได้ผลมั้ย) ถ้าไม่ได้ผลก็คงเขียนเรื่องเดียวแล้วล่ะครับ แหะๆ

0
อัญยา 27 พ.ย. 58 เวลา 22:46 น. 8-2

ข้าพเจ้ามาให้กำลังใจเพิ่มค่ะ


"อย่าเชื่อคนอื่น เพราะคนอื่นไม่ใช่เรา อันตัวเรา รู้ตัวเราเองที่สุด"

และ คำคมที่ข้าพเจ้าเคยอ่านผ่านตาจากหนังสือมีคุณทางพงศาวดารทั้งหลาย มีคำกล่าวจากผู้ยิ่งใหญ่ว่า

"ลิขิตฟ้า ฤาจะสู้มานะตน"

แน่นอนค่ะ ข้าพเจ้าเองก็เชื่อมั่นในตัวเองมาตลอดว่า "ไม่มีใครช่วยเราได้ หากเราไม่ช่วยตัวเองก่อน" (อย่าคิดลึกนะฮ่าๆ)

ถ้าท่านมีอุสาหะ ท่านจะพบทางลัดของท่านเอง

0
หยดหมึกสีหมอก 27 พ.ย. 58 เวลา 22:51 น. 8-3

ขอบคุณมากครับ คำคมนั้นเหมือนจะเคยเห็นใน สามก๊ก เลยนะครับ ไม่รู้ว่าใช่ขงเบ้งเป็นคนกล่าวไว้หรือเปล่า

ปล.ไม่คิดลึกหรอกครับ(มั้ง แหะๆ)

0
อัญยา 27 พ.ย. 58 เวลา 23:03 น. 8-4

เพราะจำไม่ได้ว่าใครกล่าว ข้าพเจ้าจึงละไว้.... อิอิ

0
clara2 28 พ.ย. 58 เวลา 00:16 น. 9

เป็นเหมือนกันค่ะ อารมณ์มันไม่ไป แต่งไม่ออก เลยหยุดเขียนอีกเรื่องหนึ่งไปเลยค่ะ 

1
nังหัuลม 28 พ.ย. 58 เวลา 18:08 น. 10

เขียนสองเรื่องเหมือนกันแต่ยังไม่ได้ลงเลยย ลองทำแบบนี้ดู
-เขียนเรื่องย่อสองเรื่องไว้
-แต่งเรื่องแรกขึ้นมา แล้วหยุดแต่ง สักวันสองวัน
-ไปอ่านเรื่องย่อที่สอง แล้วเริ่มแต่งเรื่องที่สอง แล้วก็หยุด
-วันสองวันต่อมากลับไปอ่านเรื่องย่อของเรื่องที่หนึ่งแล้วอ่าน ตอนที่แต่งไปแล้วของตัวเอง
-ทำแบบบรรทัดบนๆ สลับกันไปเรื่อยๆ 
ปัจจุบันไปถึงตอนที่ 17 แล้วทั้งสองเรื่องเสียเวลาไป ร่วม 2 เดือน
ผล ทั้งสองเรื่องดำเนิไปได้ ภาษาที่ใช้ดีขึ้นบ้างอะไรบ้าง คำผิดหายเกลี้ยง

2
หยดหมึกสีหมอก 29 พ.ย. 58 เวลา 18:39 น. 10-1

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ ตอนนี้เขียนเรื่องย่อของทั้งสองเรื่องไว้เรียบร้อยแล้วครับ

0
nังหัuลม 29 พ.ย. 58 เวลา 21:26 น. 10-2

ไม่แนะนำให้คิดว่า ต้องเขียน แต่ให้คิดว่า อยากเขียน มากว่า การบังคับตัวเองทำให้ผลออกมาแย่กว่าที่คิดนะเออ

0
แฮมสเตอร์ 29 พ.ย. 58 เวลา 13:16 น. 11

ในส่วนของเรานะ เรารู้สึกว่าสติกับสมาธิคือสิ่งสำคัญ เพราะงานเขียนมันต้องใช้ความรู้สึกต่อเรื่องที่เราเขียน แต่ถ้าเราตั้งสติและเตรียมใจอยู่ตลอดว่าเราแต่งสองเรื่องนะ การ swicth มันก็จะไม่ใช่เรื่องยากเพราะมันคืองานเขียนของเรา เราต้องรู้จักมันดีกว่าใคร ถ้าเราแม่นพอ ไม่หลุดออกจากตัวเอง เราไม่จำเป็นต้องอ่านทวนงานเขียนของเราเลยด้วยซ้ำ แต่เราจะจำความรู้สึกตอนเขียนเรื่องนั้นได้ และเราก็จะรู้ทันทีว่าจะต้องใช้สำนวนแบบไหน ดังนั้น ควรฝึกสมาธิเยอะๆ เพื่อจะได้มีสติตลอดเวลาว่าเราทำเรื่องไหนอยู่ และควรจะต้องทำอะไร

ปล. บางทีเราต้องใช้ความมืออาชีพด้วย เหมือนดารา เล่นเรื่องไหนก็เป็นตัวนั้น เราคิดซะว่างานเขียนคือการแสดง สับเปลี่ยนได้ ความมืออาชีพจะไม่ทำให้เราเอามันมาปนกัน เริ่มจากสะกดตัวเองก็ได้ นั่งอยู่กับตัวเอง แล้วพูดกับตัวเองว่ากำลังจะเขียนอะไร ต้องฟีลไหน ใช้สำนวนแบบไหน การย้ำกับตัวเองมันก็ช่วยเรียกเรากลับมาได้เช่นกัน ง่ายๆ ก็คือ ดึงสติออกจากเรื่องนึงเพื่อเขียนอีกเรื่องนึงนั่นแหละ

1
หยดหมึกสีหมอก 29 พ.ย. 58 เวลา 18:40 น. 11-1

ด้วยความที่ผมยังเป็นแค่นัก(หัด)เขียนคนนึง สงสัยยังคงต้องฝึกอีกเยอะเลยครับ ถึงจะสลับอารมณ์ได้เก่งๆ

0
Makhawan Khumpai 29 พ.ย. 58 เวลา 14:39 น. 12

ของผม ผมจะลืมเนื้อเรื่องของนิยายที่เพิ่งแต่งเสร็จให้เร็ว แล้วลองอ่านนิยายอีกเรื่องที่แต่งค้างไว้ เพื่อป้องกันสำนวนเดิมๆ และอารมณ์ที่ค้างด้วยครับ (ผมเองก็เคยเป็น นิยายผมมีห้าเรื่อง ไม่เสร็จสักเรื่องเพราะอารมณ์ค้างนี่แหละ)

1
minivenuz 29 พ.ย. 58 เวลา 17:40 น. 13

เราก็แต่งสองเรื่องพร้อมกัน ^^ 

เราทำงี้นะ เวลาแต่งเรื่องใดเรื่องหนึ่งแล้วมันลื่น [คือแบบว่าแต่งต่อได้ไม่ติดขัดอะไร] เราจะแต่งยาวๆไปเลย บางครั้งสามชั่วโมงปาเข้าไปสามบท [บทละ25 หน้าเวิร์ด]  แล้วค่อยๆทะยอยลงวันละบท หรือวันเว้นวัน 

แล้วเราเอาเวลาเนี่ย ที่ว่างจากการแต่งอีกเรื่องเนี่ยไปแต่งเรื่องที่เหลือ คือเราจะหมดกังวลไปแล้วเรื่องนึง [เพราะแต่งไปไกลแล้ว] แล้วเราจะมอบเวลาและสติให้กับเรื่องที่แต่งอยู่เพียวๆไปเลย 

ปรับอารมณ์ทันแน่นอน ! >< 

สู้ๆนะ 

1
Kangsombyun 29 พ.ย. 58 เวลา 18:29 น. 14

สิ่งแรกที่อยากจะบอกกับจขกท.นะคะ คือ ถ้าจขกท. อัพนิยายสลับกันแล้วปรับอารมณ์ไม่ได้ เราแนะนำให้อัพอาทิตย์ละเรื่องจะดีกว่านะคะ (อันนี้คือวิธีที่เราทำอยู่ปัจจุบัน ซึ่งมันก็ได้ผลดี แถมมีเวลาให้นอนพักผ่อน)

จขกท. บอกแต่ง 2 เรื่องพร้อมกัน แต่เราแต่ง 4 เรื่องพร้อมกันแถมคนละแนวอีก (แต่ก็แต่งได้และไม่ออกทะเล) แต่เดี๋ยวเราจะมาแนะนำวิธีที่เราใช่มาตลอดละกันนะคะ

ก่อนอื่นเราอยากให้จขกท.เปลี่ยนการอัพนิยาย (แต่ต้องแจ้งคนอ่านก่อนนะ) เพราะถ้าเราอัพถี่เกินไปอาจทำให้เครียดจนสุดท้ายก็แต่งไม่ออก (อันนี้เคยเป็น) เราเลยเปลี่ยนมาอัพอาทิตย์ละครั้งดีกว่าเนอะ

อย่างที่สอง ถ้าในกรณีที่นิยายมีพล็อดที่ต่างกัน (ยกตัวอย่างของเราละกัน ตอนนี้เราแต่งแนวโรแมนติกกับแนวดาร์กกับดราม่าแล้วก็แนวมาโซ) วิธีแยกแยะของเราคือ เราจะมีสมุดหนึ่งเล่มแล้วเขียนแนวเรื่องในแต่ละตอนเอาไว้ (เพราะเวลามาแต่งมันจะมีส่วนช่วยเยอะมากเลย) พยายามอย่าแต่วันเดียวจนจบค่อยๆแต่งไปทีละนิด (อย่างเราก็แต่งวันละฉากแค่นั้นเอง แต่ต้องแต่งภายในห้าวันเพราะวันที่หกจะต้องมาตรวจคำแล้วอัพลงเลย ส่วนวันที่เจ็ดก็เริ่มคิดอีกเรื่องโดยจดลงใส่สมุด) เราใช้วิธีนี้มาโดยตลอด (ถึงจะเพิ่งเริ่มแต่งก็เถอะ) แต่วิธีนี้เราทำแล้ว เราไม่ปวดหัวแถมยังมีเวลาไปทำอย่างอื่นอีกด้วย

3) ถ้าเกิดว่าแต่งไปแต่งมาแล้วตันล่ะทำไงดี? อันนี้เราเคยเป็น แถมเป็นบ่อยมากๆ แต่วิธีของเราคือจะเซฟในส่วนที่แต่งไปก่อนหน้านี้แล้วก็พักเครื่องเอาไว้ แล้วหาอย่างอื่นทำ เช่น วาดรูป อ่านหนังสือแนวที่เราชอบ (ยกตัวอย่างเลยก็หนัวสือการ์ตูนไม่ก็นิยายของสำนักพิมพ์ต่างๆ) ดูรูปธรรมชาติ หรือไม่ก็ออกไปเดินเล่น (การเดินเล่นทำให้เราคิดพล็อตที่ต้องอธิบายถึงธรรมชาติของสิ่งต่างได้ด้วยนะ)

4) เพลง.. จขกท. อาจจะส่งสัยว่าเพลงมันเกี่ยวอะไรด้วย แต่เราก็ใช้วิธีนี้นะ แบบว่า..ถ้าสมมติว่าจะแต่งแนวรักหวานแหววก็เลือกเพลงในจังหวะที่ฟังสบายๆ และเมื่อเราฟังเพลงนั้นแล้วมีอารมณ์เราจะทำการลูปเพลง (เล่นซ้ำ) ให้เล่นเพลงเดิมไปเรื่อยๆจนเราแต่งเสร็จนั่นเอง ถ้าเป็ฯแนวแฟนตาซี ก็ควรจะเป็นประกอบอนิเมที่เป็นแนวแฟนซีไม่ก็พวกกันดั้มอะไรแบบนี้นะคะ

5) ลองปรึกษาเพื่อนดู เพื่อนเราเป็นคนที่ไม่ชอบอ่านนิยายเลยแต่เขาชอบถามว่าวันนี้คิดพล็อตมายังไง แล้วเขาก็จะช่วยเราแก้ปรับเปลี่ยนให้จนสำเร็จในที่สุด

อันที่จริงมีมากกว่านี้ แต่เราคิดว่า 5 วิธีนี้อาจจะพอมีประโยชน์สำหรับจขกท.บ้าง ไม่มากก็น้อย แต่ยังไงในฐานะที่เป็นนักเขียนด้วยกันก็อยากจะแนะนำเท่าที่จะทำได้นะค่ะ

สุดท้ายก็อยากจะบอกจขกท.ว่า สู้ๆนะคะ อย่าหักโหมตัวเองมาก เพราะถึงนักอ่านจะไม่ได้ใส่ใจเรามากไปกว่าการทวงแต่อย่างน้อยคนที่อยู่ข้างหลังก็ยังห่วงเราอยู่นะ

สู้ๆ ...

1
หยดหมึกสีหมอก 29 พ.ย. 58 เวลา 18:43 น. 14-1

ขอบคุณมากครับ แนะนำได้จุใจมากเลยทีเดียว โดยเฉพาะข้อ4นี่โดนใจผมมากครับ เพราะทุกวันนี้ผมก็ใช้วิธีนี้อยู่ครับเวลาแต่งนิยายแต่ล่ะเรื่อง

0
Tong-Ch 29 พ.ย. 58 เวลา 20:47 น. 15

ถึงแต่งเรื่องเดียว ลงวันเว้นวันยังยากเลยนะคะ ปกติก่อนอัพนิยายเราจะตรวจทานและปรับแก้อย่างน้อยหนึ่งครั้ง ซึ่งโดยทั่วไปถ้าแต่งจบแล้วอ่านทวนในทันทีตอนนั้นเดี๋ยวนั้นยังไงก็พลาดค่ะ มันต้องมีช่วงเว้นวรรคพักหายใจอ่ะ บางคนอาจจะนอนตื่นนึงแล้วค่อยมาอ่านทวน ทั้งแก้คำผิดทั้งปรับอารมณ์ปรับภาษาไปในตัว
.
ถ้าพูดถึงแต่งนิยายหลายเรื่องพร้อมกัน เราใช้เป็นทำพล็อตละเอียดไว้ก่อน หลายคนจะมีวิธีวางพล็อตไม่เหมือนกัน แต่ส่วนตัวจะทำเป็นแบบเรื่องย่อตั้งแต่ต้นจนจบค่ะ มันจะง่ายต่อการส่งผลงานให้ สนพ. ต่างๆ ด้วย แต่คือเป็นย่อละเอียด ใคร ทำอะไร ที่ไหน ตัวละครแต่ละตัวรู้สึกยังไง ไม่เคยมีนิยายเรื่องไหนทำเรื่องย่อต่ำกว่าสี่หน้าเลยตอนนี้ - -; เวลาจะแต่งเรื่องไหนเราจะอ่านสแกนเรื่องย่อที่วางไว้เร็วๆ หนหนึ่ง แล้วก็อ่านละเอียดช่วงฉากที่กำลังเขียนหนหนึ่ง
.
แต่จริงๆ นะ วันเว้นวันสม่ำเสมอตลอดๆ ทำยากมาก ใครทำได้ตลอดๆ แสดงว่ามีวินัยและสมาธิเลิศอ่ะ

0
ศกุลตรา 29 พ.ย. 58 เวลา 21:46 น. 16

เปลี่ยนไปเขียนเรื่องหนึ่งให้จบก่อนก็ดีนะค่ะ 
เห็นบอกว่า ใจมันเรียกร้อง
บางทีสมองคนเราก็รับอะไรได้ไม่มาก ในบางช่วงที่มันเกิดการตัน(เดี๋ยวมันจะดองเอาได้นะค่ะ ไหคงนั่งรออยู่55)
ควรจะหยุดพักสักหน่อยให้สมองผ่อนคลาย เมื่อคุณเขียนนิยายเรื่องแรกเสร็จ(อาจจะเขียนได้หนึ่งตอนหรือสองตอน แล้วแต่ จขกท เลย)
จากนั้นก็นั่งทบทวน แล้วประเดิมเรื่องที่สองได้เลย
น่าจะดีขึ้นมาหน่อยถ้าได้พักผ่อนสักแปร๊บบบบ


บายๆคะ
ไฟท์ติ้ง!!!


0