เคยมั้ยครับ คิดนิยายเรื่องหนึ่งอยู่ดีๆ จู่ๆก็มีความคิดที่จะแต่งอีกเรื่องขึ้นมา
ตั้งกระทู้ใหม่
เคยมั้ยครับ
แบบว่าคือเรากำลังคิดนิยายหรือ แต่งเรื่องหนึ่งอยู่ดีๆ จู่ๆก็มีความคิดว่าอยากจะแต่งอีกเรื่องหนึ่งขึ้นมาอีก ทั้งๆที่เรื่องเก่า ยังแต่งไม่เสร็จนะครับ
คือที่จริงผมมีปัญหาตรงนี้แหละครับ หึๆ
เลยแต่งนิยายแต่ล่ะครั้งไม่เคยจบชะที ใครมีวิธีแก้ยังไงกันบ้างล่ะครับ
43 ความคิดเห็น
อืมมม ผมคิดว่าเวลาที่เราอยากจะแต่งอีกเรื่องนึงขึ้นมา แสดงว่าตอนนั้นเรามีไอเดียสำหรับเรื่องใหม่แล้วใช่ไหมครับ
ผมใช้วิธีเอาไอเดียของเรื่องใหม่นั่นแหละ ไปจับยัดลงในนิยายเรื่องเดิม หรือถ้าไม่เข้าท่าจะดัดแปลงยังไงก็ได้ครับ
ปล. เรื่องของผมมันกว้างด้วยน่ะนะก็เลยทำได้ง่าย ถ้าเป็นเรื่องที่สเกลแคบแล้วไอเดียเรื่องใหม่มันคนละทิศกับเรื่องปัจจุบันก็คงลำบากหน่อยมั้งครับ
เหมือนเราเลยแฮะ เวลาคิด plot ใหม่ๆ idea ดีๆออก แล้วเกิดความรู้สึกอยากแต่งอีกเรื่อง เลยไปเขียนเรื่องใหม่และดองเรื่องเก่าไว้ จนตอนหลังๆต้องท่องในใจ 'แต่งให้จบเรื่องเก่าก่อนตัวเธออออออ' แต่สุดท้ายก็ตัดใจทิ้ง idea อันแสนบรรเจิดนั้นไม่ได้ เลยเอามายัดใส่เรื่องเก่าเลย บางทีมาในรูป flash back, ตำนาน, ตัวละครลับ หรือข้อมูลเสริม เพิ่มไปเพิ่มมารู้สึกได้ว่าเนื้อเรื่องเก่าสมบูรณ์มากขึ้น ตอนหลังเลยใช้วิธีนี้บ่อยๆ ดีที่เรื่องที่เราแต่งเป็นระดับมหากาพย์ เพิ่มข้อมูลมาก็ยังแทบไม่กระทบเนื้อเรื่อง
เคยเป็นเหมือนกัน ตอนนี้ก็พยายามแต่งเรื่องเก่าให้จบก่อน ไม่งั้นมีดองแหงมๆ
คงต้องจดไอเดียไว้ก่อนอะครับ แล้วค่อยกลับ
ไปเขียนหลังเรื่องเดิมจบครับ ไม่งั้นก็คงไม่พ้น
ต้องเข้าไหไปตามระเบียบ
เป็นอยู่เลยตอนนี้
กะว่าร่าง ๆ ไว้ก่อน จบเรื่องนี้ จะได้ได้เริ่มเขียนพอดี
เป็นบ่อยๆครับ
แต่ทุกครั้งที่ผมคิดเรื่องใหม่ได้ ผมจะวัดอะไรหลายๆอย่าง ทั้งความสนุก ความแปลกใหม่ เรียกคนอ่านได้ไหม? นิยายมีสิทธิ์ขึ้นท็อปหรือเปล่า? บก.ตาลุกวาวทันทีที่เห็นเรื่องนี้หรือไม่?
หากตอบคำถามพวกนี้ได้ไม่หมด หรือไม่เป็นที่น่าพอใจ พอที่จะทุ่มแรงทุ่มกำลังเขียนละก็ ผมจะพับเก็บเรื่องนั้นทันที แล้วก็รอไอเดียใหม่ๆโผล่ออกมา
แต่ถ้าเจอเรื่องที่ตอบคำถามทั้งหมดได้ และมีวี่แววว่าจะรุ่งมาก ผมจะแต่งทันทีอย่างไม่รีรอครับ ^^
แล้วถ้ามันไม่รุ่งตามที่คิดไว้ล่ะครับท่าน จะทำยังไงต่อไปอ่ะ
แล้วถ้ามีหลายเรืองที่ตอบคำถามได้หมดออกมาพร้อมกันล่ะครับ?
เป็นบ่อยค่ะ และไม่ได้เด้งขึ้นมาแค่เรื่องเดียวด้วย มันต่อยอดออกไปเป็นเซ็ตได้เลยค่ะ วิธีแก้ไม่มีค่ะ เพราะตั้งใจว่าจะแต่งตามที่คิดได้ แต่บางเรื่องที่คิดว่าไม่โอเคก็ตัดออกไปค่ะ แต่เอาในส่วนที่คิดว่าน่าจะดีมาใส่ในนิยายที่แต่งอยู่เหมือนความเห็นแรกอ่ะค่ะ
เคยค่ะและตอนนี้ก็เป็นอยู่ แต่งอยู่เรื่องแต่อีกเรื่องนึงดันผุดขึ้นมาอยู่ในหัวจนตอนนี้ตีกันมั่วไปหมด เริ่มจะแยกแยะไม่ออกว่าอะไรเป็นอะไร แต่ก็พยายามแต่งเรื่องหลักให้จบก่อน แล้วค่อยเขียนเรื่องรองเสริมทีหลัง
ช่ายเราก็มีเเบบนั้น พอคิดไปคิดมา มันกลายเป็นเรื่องใหม่ เเล้วรวมเป็นเรื่องเดียวกันเลยอะ
เล่าเลยนะ เพิ่งเริ่มคิดพวกนิยายตอนม.2 คราวนี้ก็ตัั้งตัวละครไว้2ตัวก่อน พล็อตก็จินตนาการไป สักพักไปเจอเรื่องเเบบใหม่ เลยเอามาผสม จนมี5คน เเล้วไปในทางเเนวเเฟนตาซี ต่อจากนั้นก็พักเรื่องนี้ไป ไปคิเรื่องใหม่กับเพื่อน เเต่ไปไม่รอด จนต้องกลับมาขุดเรื่องเดิม ไม่รู้อีท่าไหนกลับเอาพล็อตเรื่องที่เเต่งกับเพื่อนมารวมอีก เนื้อเรื่องก็เริ่มเปลี่ยนไปเรื่อยๆ จนกระทั่งปัจจุบัน ตอนนี้มีตัวละคร 24 คน พล็อตเรื่องก็เปลี่ยนออกมานิดหน่อยเเต่ให้เค้าโครงเดิม
จนกระทั่งตอนนี้ก็มีพล็อตเรื่องขึ้นมาใหม่เหมือนกัน ขยันคิดซะจริง!
อืม...
ผมคิดว่านักเขียนหลายคนเจอเหตุการณ์แบบนี้กันทั้งหมดล่ะครับ
และนั้น...
ก็ทำให้นิยายหลายเรื่องถูกดองออกไปเป็นทอดๆๆๆๆๆๆๆๆ
แถมไม่มีกลับมาชุปแป้งทอดใหม่ให้อีกต่างหาก....
คนที่ติดก็เลยต้องนั่งรอๆๆๆๆๆๆ ต่อไป
ผมว่า ถ้าเรื่องใหม่ผุดขึ้นมา ก็พยายามเขียนเอาไว้ก่อนดีกว่าครับ ใน MS Word ก็ได้ครับ
แต่ถ้านิยายดีจริง (ผมก็คิดว่า เรื่องที่แต่งอยู่ก็น่าจะคิดเหมือนกันในตอนเริ่ม)
ก็เริ่มทำไปเถอะครับ เพราะถึงยังไง ก็เป็นความสุขของคนเขียนอยู่วันยันค่ำ
ถึงต่อไปภายภาคหน้าจะกลายไปเป็นความทุกข์ของคนติดนิยายเรื่องนั้นๆก็ตาม
คงต้องแก้ไขพล็อตให้มันแน่นกว่านี้ และมีวินัยทางการเขียนมากขึ้น
ไม่งั้นคงได้ดองไปตลอดเลยล่ะ...
ก็เป็นอยู่ครับ
แต่ทีนี้ก็มาพิจารณากันอีกทีว่าไอเดียที่เกิดนั้นเป็นแนวเดียวกันกับเรื่องที่แต่งหรือไม่
ถ้าใช่ผมจะหาทางจับมาลงเป็นอีกพล็อตหรือเหตุการณ์หนึ่งของเรื่องครับ อาจทำให้ยาวขึ้นกว่าที่วางไว้ตอนแรก แต่มันก็คือรสชาติเด็ดๆที่เพิ่มเข้ามาได้อย่างแน่นอน (อนึ่ง... ทีต้องระวังคืออย่าให้เรื่องใหม่จัดจ้านกว่าโครงเรื่องเดิมครับ)
แต่ว่าถ้าเป็นคนละแนวเลย แล้วอยากแต่งมากๆล่ะก็ ถึงตอนนั้นก็อาจลองเปิดเรื่องใหม่แล้วแต่งดูสักระยะครับ ถ้าสนุกก็ลุยต่อ ถ้าไม่ไหวก็พักก่อน
เคยค่ะ ตอนนี้เลยเขียนอยู่ 4 เรื่อง แหะๆ เดิม 5 เรื่อง พึ่งจบไป 1 เรื่องค่ะ
เมื่อก่อนจะใช้วิธี เรื่องนี้ไม่จบ ห้ามเขียนเรื่องใหม่ แต่ตอนหลังบางทีมันตัน ก็เขียนอีกเรื่องไปก่อน มันเลยกลายเป็นเช่นนี้ค่ะ (T T)
ปัจจุบันเป็นอยู่ค่ะ แฮ่
แต่เราพยายามบอกตัวเองว่า เอาเรื่องปัจจุบันให้เสร็จก่อนสิ
ซึ่งก็มีแอบไปแต่งๆอีกเรื่องใส่สมุดบ้าง แต่หลักๆก็ยังแต่งเรื่องปัจจุบันเป็นหลัก
มันเกิดขึ้นบ่อยกว่าที่เราอยากจะยอมรับค่ะ555
เกิดบ่อยมากสำหรับเรา ฮ่าา ที่เราทำคือจดอันที่คิดได้ไว้ก่อน แต่งเรื่องเก่าให้จบแล้วค่อยมาแต่งอันนี้ แต่ถ้าเรื่องเก่ามันคิดไม่ออกจริงๆ จะเค้นยังไงก็เค้นไม่ออก เราจะไปแต่งเรื่องใหม่ที่คิดได้
ไม่เชิงนะ
ส่วนมากจะเป็นแนวแต่งๆ ไป แล้วดันเกิดไอเดียอยากเขียนพาร์ทเสริมของตัวละครรองในเรื่องมากกว่า
เป็นบ่อยเลยค่ะ
แนะนำให้ลองแต่งเรื่องใหม่ไปเลย แต่งเรื่องใหม่อย่างมากไม่เกิน 10 ตอน รับรองว่าคุณอยากกลับมาแต่งเรื่องเก่าต่อแน่นอนค่ะ เราเป็นบ่อย
ต้องรู้จักยับยั้งชั่งใจอะ คือเราเขียนเรื่องนี้มาแล้ว ถ้ามีเรื่องใหม่เข้ามา ก็บอกตัวเอง 'รอก่อน ยังไม่ถึงเวลา' แล้วเขีบนเรื่องปัจจุบันไปจนจบ เอากันง่ายๆ นะ มันคือการรับผิดชอบอะ แล้วก็เป็นการรู้จักบริหารจัดการไปทีละเรื่อง เพราะถ้าเขียนไม่จบสักเรื่อง มันคือไม่ใช่ละ แบบนี้มันผิดละ ไม่โอเค
เราเป็นทุกวันเลยค่ะ อิๆ เขียนนิยายเดิมอยู่ดีๆ แบบพล็อตใหม่ เรื่องใหม่ผุดออกมาเยอะ...ตรึม จดและก็เขียน ควบไปสัก 2-3 เรื่องเลยค่ะ ก็สนุกดีนะคะ เบื่อเรื่องนี้ก็โดดมาหาเรื่องนี้ เบื่อเรืื่องนี้ก็โดดมาหาเรื่องนี้ จนจบหมดแล้วก็ หันมาหานิยายที่ดองเอาไว้ และตั้งใจว่านิยายที่เปิดปีนี้ ต้นปีและกลางปี ห้ามดองจนถึงปีหน้าเด็ดขาดนะ ไม่งั้นนิสัยเสียหมดค่ะ เราก็ยังพยายามเคลียร์ให้เสร็จไล่ๆกันค่ะ
วิธีนี้ก็ดีนะครับ.เบื่อเรื่องหนึ่งก็ไปอีกเรื่อง หึๆ
ค่ะ ใช้ได้ผลดี แต่ถ้าช่วงตันและเหนื่อยก็จะหนักหน่อย แต่มีไฟก็จะได้นิยายมาอยู่ในมือหลายเรื่องทีเดียวค่ะ ^^)
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?