Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เรียนต่อแพทย์ที่อังกฤษ ถ้าสนใจ ลองอ่านเพิ่มคะ

ตั้งกระทู้ใหม่

สวัสดีคะ จริงๆเขียนไว้นานละ เพิ่งจะเอามาลง ถ้ามีอะไรผิดพลาดหรือไม่ครอบคลุม เมล์มาบอกได้นะคะ จะได้เพิ่มเติมได้ ถ้าน้องๆอยากจะเขียนเรื่องอะไรอีกก็บอกได้ เม้นมาได้นะคะ 

วันนี้จะมาตั้งกระทู้แนะนำเกี่ยวกับการเรียนต่อแพทย์ในประเทศอังกฤษนะคะ เห็นว่ามีน้องๆหลายๆคนเคยแอดมาคุยสอบถามเกี่ยวกับการเรียนแพทย์ที่อังกฤษเลยอยากจะเอามาลงเป็นข้อมูลให้น้องๆเอาไปพิจารณาดู

ตัวพี่เองตอนนี้ยังอยู่อังกฤษนะคะ เป็น Registrar in Emergency Medicine คะ (ฉุกเฉิน) อีกปีนึงถ้าสอบผ่าน fellowship ก็เป็น consultant emergency medicine คะ มาอยู่ที่นี่ได้จะ 16 ปีแล้ว มาตั้งแต่ประมาณ ม.4 คะ มาแลกเปลี่ยนปีแรกกับทุน YES เนี่ยละคะ ปีแรกก็อยู่กับ Host ก่อนแล้วสอบได้ทุนที่โรงเรียนประจำเอกชนแห่งหนึ่งที่ Kent จบ A-levels ที่นี่คะ 

ขอบอกก่อนนะคะ พี่สอบเข้ามหาลัยแพทย์ที่อังกฤษเมื่อ 12 ปีที่แล้ว เพราะฉะนั้นเนี่ยอะไรๆอาจจะเปลี่ยนไปบ้างแต่เนื้อความสำคัญจะคล้ายๆกันคะ จะมาชี้แจงด้วยว่าระบบแพทย์อังกฤษเป็นยังไง เผื่อน้องๆที่คิดอยากจะมาเรียนต่อที่นี่จะได้เอาไว้เป็นความรู้นะคะ ถ้าพี่พิมผิดหรืออะไรไม่ถูกต้อง แนะนำบอกมาได้นะคะ ถ้าน้องสนใจจะถามอะไรเพิ่มก็เมล์มาได้นะคะ

ที่อังกฤษมีมหาลัยแพทย์ทั้งหมด 33 แห่งคะ มี University of Buckingham ที่เป็น Private med school ด้วยรู้สึกเพิ่งจะเปิดหรือจะเปิดในอีกไม่นาน ไม่แน่ใจคะ แล้วอีกปีสองปีจะมี Aston Medical school, Birmingham อีกที่คะ

อยากจะเรียนแพทย์อังกฤษ ทำยังไงบ้าง

ก่อนอื่นถ้าน้องอยากจะมาต่อแพทย์ พี่แนะนำให้มาเรียนต่อเป็น A-levels หรือ IB ที่อังกฤษคะ พี่ไม่รู้เรื่อง IB มากเท่าไหร่เลยแนะนำไม่ได้คะ

แต่ถ้า A-levels นี่คือสามารถเลือกได้จริงๆกี่วิชาก็ได้แต่ส่วนมาก โรงเรียนจะแนะนำให้เลือกสี่วิชาตอน AS (Year 12) แล้วก็สามวิชาตอน A-levels ถ้าอยากเรียนแพทย์

เลือกง่ายๆคือ วิชาที่ต้องเรียนแน่ๆคือ Biology + Chemistry คะ ส่วนวิชาอื่นๆจะเอามาเป็นจุดเสริมก็ได้ ตอนพี่เรียน พี่เลือก Biology/Chemistry/Maths/Fine Art อ่ะคะ

ทางมหาลัยแพทย์ส่วนมากจะไม่รับ Foundation programme นะคะ แต่จะรับ Cambridge Pre-U Diploma ซึ่งจะต้องเรียนวิชา Biology/Chemistry แล้วก็อีกวิชานึงด้วย

มหาลัยแพทย์บางที่อาจจะรับพิจารณา International qualifications แต่ไม่ทุกมหาลัยแล้วก็เป็นคนๆไปอ่ะคะ แต่ม.6 เมืองไทยจะเทียบเท่ากับ Year 12 ของที่นี่ ซึ่งยากที่เขาจะรับเลยจากม. 6 อ่ะคะ

มหาลัยแพทย์ที่อังกฤษส่วนมากจะปิดรับสมัครก่อนวิชาอื่นๆคะ สมมติว่าสาขาอื่นปิดรับสมัครเดือนมกรา มหาลัยแพทย์ deadline จะอยู่ที่ตุลาคะ เลยต้องเตรียมตัวสมัครแต่เนิ่นๆ เดี๋ยวนี้บางมหาลัยจะต้องใช้ผลสอบ UKCAT ยื่นด้วยคะ (น่าจะคล้ายๆสอบเตรียมความพร้อมแพทย์อะไรประมาณนั้นคะ)

ตอนน้องสมัคร น้องต้องสมัครผ่าน UCAS อ่ะคะ ของแพทย์นั้นเลือกได้มากที่สุด 4 แห่งคะ แต่จะเลือกสาขาอื่นอีกสองแห่งเป็นตัวเลือกได้คะ

เมื่อส่งใบสมัครเสร็จแล้วก็รอสัมภาษณ์จากมหาลัยนั้นๆ แล้วแต่จะโดนเรียกไวหรือช้า บางคนรอเดือนสองเดือนก็ได้รับตอบรับให้สัมภาษณ์ บางคนก็นานกว่านั้นอ่ะคะ

แต่ละมหาลัยก็จะมีเกณฑ์พิจารณาแตกต่างกันคะ ตอนที่พี่ไปสอบ เขาก็ถามประมาณว่าทำไมเลือกมหาลัยเขา รู้ไหมกว่าจะได้เป็น consultant อายุประมาณเท่าไหร่ มีงานอดิเรกอะไรบ้าง อะไรประมาณนี้อ่ะคะ 

ถ้าสอบสัมภาษณ์ผ่าน ทางมหาลัยก็จะส่ง offer มาให้อ่ะคะ ถ้าสอบ A-levels ไปแล้วก็จะได้เป็น Unconditional offer แต่ถ้ายังก็จะได้เป็น conditional offer คือต้องสอบให้ได้เกรดตามที่เขากำหนดไว้แล้วเขาจะรับอ่ะคะ ถ้าได้ offer มาหลายที่ น้องก็จะมีเวลาที่จะต้องตอบรับภายใน ซึ่งก็จะเลือกได้สองที่ firm คืออยากไปที่แรก กับ insurance คือถ้าไม่ได้ที่แรกก็จะเอาที่นี่

offer ตอนที่พี่ได้มาคือ AAB ของทั้งสองมหาลัย ไม่นับ Fine Arts (แต่ถึง offer มาอย่างนี้ ตอนสอบก็ต้องพยายามตั้งใจที่สุดนะคะ เพราะเราไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง เด็กส่วนมากที่นี่ก็ได้ A หมดทุกตัวอยู่แล้ว แล้วหลังๆมาตอนนี้มีเกรด A* เข้ามาเพิ่มด้วยสำหรับคนที่สอบได้ 90 คะแนนขึ้นไป offer อาจจะเปลี่ยนแล้วไหม อันนี้ต้องเช็คนะคะ)


(เดี๋ยวนี้บางที่เขาจะดูถึงเกรดก่อนหน้า A-Levels ด้วยอ่ะคะ ซึ่งที่นี่จะเรียก GCSE จะบอกว่าของพี่เกรด GCSE วิทย์แบบแย่มาก เพราะตอนปีแลกที่มาเรียนแบบแลกเปลี่ยน ไปขอเขาเรียนวิทย์หลังเลิกเรียน สอบในปีเดียวในขณะที่คนอื่นเตรียมการสองปี ได้เกรด C มา ถ้าเขาดูเกรด GCSE ตอนสมัยนั้นอาจจะแย่เอาเหมือนกัน)

เขารับเด็กต่างชาติเยอะไหม

ตอนที่พี่สมัครมหาลัยแพทย์ที่พี่เรียนอ่ะคะ admission tutor เคยบอกพี่ว่ามีโควต้ารับเด็กต่างชาติประมาณ 7% อ่ะคะ ถ้าเราอยากทราบ ให้ถาม admission tutor ที่มหาลัยที่สนใจอ่ะคะ เขาจะบอกให้เราคร่าวๆ ตอนที่พี่สมัคร เอาจริงๆนะ ไม่ได้คิดถึงตรงนั้นเลย คิดแต่ว่าอยากไปเรียนที่ไหนมากที่สุดแล้วสมัครเลย 555 (เอาตามใจตัวเองมาก)


แล้วเรื่องภาษาละคะ

มหาลัยส่วนมากเขาจะเอา IELTS อย่างน้อย 7.5 คะ  (overall + each skill ไม่ต่ำกว่า 7) หรือ GCSE อย่างน้อยเกรด B อ่ะคะ แต่ต้องดู entry requirement ของแต่ละมหาลัย


วิธีการเรียนการสอนเป็นยังไง

วิธีการเรียนการสอนของมหาลัยแต่ละที่ก็ไม่เหมือนกันทั้งหมดนะคะ บางทีเป็น System based บางที่เป็น problem based ซึ่งก็แล้วแต่ว่าชอบไปทางไหน เรียนแบบไหนแล้ว get มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน ต้องไปหาเอาแต่ละมหาลัย ใน prospectus เขา (prospectus เขานี่อ่านดีๆนะคะ ยิ่งถ้าจะสมัครมหาลัยนั้นๆด้วย เขาจะเอามาถามตอนสอบสัมภาษณ์เนี่ยละ ดูว่าเราเข้าใจการเรียนการสอนที่เขาจะสอนเราไหม)

มหาลัยแพทย์ที่อังกฤษส่วนมากเรียน 5 ปีคะ มีบางมหาลัยที่ต้องเรียน 6 ปี (เพิ่ม BMedSci เข้าไปอีกตัว) ปริญญาที่ได้ส่วนมากไม่เป็น MBBS ก็ MBChB คะ

ระบบการแพทย์ที่นี่จะเป็นแบบ competency based อ่ะคะ ซึ่งจะไม่เหมือนกับเมืองไทย แบบที่ไทยเห็นเพื่อนๆที่ไทยเคยบอกมาว่า extern นี่ทำหมด ทั้งผ่าคนไข้เอง อะไรเอง ที่อังกฤษไม่มีคะ ทุกอย่างจะอยู่ใน supervision ของแพทย์ทั้งหมด final yr อย่างมากก็อาจจะได้เจาะเลือด ช่วยถือเครื่องมือเวลาผ่าตัด ค่อนข้างจะ protected คะ (ดีหรือไม่ดีนั้นแล้วแต่คนจะคิดคะ)

เรียนจบมาแล้วไปไหนต่อ

ระบบที่นี่จะต่างกับอเมริกากับไทยนะคะ การเรียกระดับขั้นเทรนนิ่งของแพทย์ก็ต่างกัน

หลังจากจบแพทย์แล้ว สองปีแรกจะเรียกว่า Foundation training programme ซึ่งสองปีนี้ จะได้ทำงานในแต่ละ specialty ต่างๆแล้วแต่เลือก specialty ละ 4 เดือนเพื่อดูว่าจะไปเฉพาะทางทางไหนต่อ สองปีนี้เราก็เป็นแพทย์เต็มตัวคะ ทำงานได้เงิน เข้าเวร แต่จะอยู่ในความควมคุมของแพทย์ที่อาวุโสกว่า ในปีที่สองของ foundation training programme ก็สามารถสอบเลือกเฉพาะทางได้ สอบที่ก็คือเหมือนสมัครงานทั่วไปเลยคะ เอา portfolio กับ CV ที่เรามี ไปยื่น ตอบคำถามของแต่ละสาขานั้นๆ ถ้าเขาเลือกเราก็ได้เข้าทำงานใน specialty นั้นๆได้เป็น specialty trainee ที่นี่ต่อเฉพาะทางไม่ได้ขึ้นตรงกับทางมหาวิทยาลัยนะคะ แต่จะขึ้นตรงกับทาง deanery (คือส่วนภูมิภาคของสาขานั้น) แล้วก็กับราชวิทยาลัยอีกที (Royal colleges) เดี๋ยวนี้ส่วนมากจะสอบด้วยกันทั้งประเทศแล้วพอได้แล้ว เราสามารถเลือก deanery ได้อีกที

การต่อเฉพาะทางที่นี่ ก็เหมือนกับทำงานไปเรื่อยๆ เก็บ portfolio เก็บ competency เพื่อที่ไปสอบ membership ของแต่ละราชวิทยาลัยคะ (น่าจะคล้ายๆสอบบอร์ดที่ไทย) ระยะเวลาในการเทรนนิ่งก็แล้วแต่คน โดยประมาณจะ core training เพื่อสอบ membership ใช้เวลาประมาณ 2-3 ปี หลังจากได้ membership บางสาขาก็จะทำงานต่อไปได้เลย บางสาขาก็ต้องสมัครใหม่อีกทีเพื่อต่อเป็น higher specialty training อีก 3-4 ปี ทำงานไป เก็บ competencyไปอีก เมื่อพร้อมก็ไปสอบ fellowship ถ้าสอบผ่านก็สามารถได้ใบประกาศ Certificate of completion of training (CCT) เพื่อที่จะเอาไปสมัครเป็น consultant ได้

consultant นี่คือระดับอาวุโสสูงสุดของที่อังกฤษ มีความรับผิดชอบมากที่สุดอ่ะคะ คนไข้ที่เข้ามาในรพ ในวันที่ consultant คนนั้นอยู่ก็เป็นความรับผิดชอบของ consultant คนนั้นคนเดียว (ใน specialty นั้นๆนะคะ)

เรียงง่ายๆก็คือ

Medical school (5-6ปี) => Foundation training programme (FY1 (House officer)/FY2 (Senior House officer) - 2ปี) => Specialty training programme (Core training CT/ST 1-3 (Senior House officer) แล้วแต่สาขาเฉพาะทาง 2-3 ปี) => Higher Specialty programme (ST3-ST6/ST7 (Specialist Registrar) 3-4 ปี) => Consultant

เรียนจบแพทย์อังกฤษแล้วกลับไทยได้ไหม - ได้คะ แต่ต้องสอบใบประกอบการแพทย์ของแพทยสภา อาจจะต้องมีการปรับตัวอะไรบ้างเพราะระบบต่างกันมากพอควร แต่ถ้าอยากจะกลับก็กลับได้แน่นอนคะ

ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่

เอาแค่ค่าเรียนก่อนนะคะ ถ้ามหาลัยนอกลอนดอนจะ ปี pre clinical จะอยู่ประมาณ £20000 ต่อปี ปี clinical จะอยู่ที่ประมาณ £32000-35000 ต่อปี (คูณประมาณ 55 บาทต่อปอนด์) มหาลัยในลอนดอน อาจจะแพงเพิ่มมาอีก £5000-£10000 ต่อปี

ค่ากินอยู่ ถ้าแชร์บ้านกับเพื่อน เฉลี่ยๆ เดือนนึงค่าเช่าบ้าน ค่ารถ ค่าอาหาร ค่าเดินทาง เผื่อๆไว้น่าจะสัก £800-1000 คะ

เอาแค่นี้ก่อนละกันเผื่อใครอยากจะมาเรียนต่อแพทย์ที่อังกฤษนะคะ เอาไว้เป็นข้อมูลละกันเนอะ

#แพทย์ศาสตร์ #medicine #med #เรียนหมอ

แสดงความคิดเห็น

>

1 ความคิดเห็น

น้องสาวมหาเฉินแห่งวงเด็กดาว 28 มี.ค. 59 เวลา 20:29 น. 1

คือสนใจอยากเรียนหมอที่อังกฤษค่ะ ช่วยแนะนำหน่อยได้มั้ยคะ มีช่องทางติดต่อยังไงบ้าง เช่นพวก เมลล์ หรือว่าเฟซบุคค่ะ รบกวนด้วยนะคะ

0