Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เรียนราชภัฏไม่ดีตรงไหน

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
เรียนราชภัฏไม่ดีตรงไหน ทำไมคนรอบข้างผมไม่อยากให้เรียน ทั้งทีปีนี้ราชภัฏแต่ละทีเข้าก็พัฒนาขึ้นตั้งเยอะ ขนาดเกรดขั้นต่ำยังเพิ่มเป็น 3 เลย

แสดงความคิดเห็น

70 ความคิดเห็น

Nex Tri 4 ม.ค. 59 เวลา 13:46 น. 1

ตอบไม่ดี  คงมีกินมาม่า  
แต่ก็อยู่ที่ผู้เรียนแหละครับ  เหมาไม่ได้หรอก

0
BEE190 4 ม.ค. 59 เวลา 15:25 น. 4

เขาไม่ได้วัดว่าเรียนจบสถาบันไหน แต่เขาวัดกันตอนทำงานค่ะ..ใครหาเงินเก่งคนนั้นแหละtop five55555

0
ฉันสวยและรวยมากก 4 ม.ค. 59 เวลา 16:41 น. 5

อันนี้ผู้ใหญ่เล่าให้ฟัง ที่ทำงานบางแห่งไม่รับเด็กที่จบจากราชภัฎ เราว่าถ้าจบไปไม่ได้ต้องการสมัครเป็นลูกน้องใคร ใครหาเงินเก่งคนนั้นแหละtop five อย่าง คห.4

1
Tong 13 พ.ค. 63 เวลา 21:03 น. 5-1

ที่อื่นยัง ไม่รับก็ไม่เป็นไร หาประสบการณ์ สร้างผลงานที่เป็นประจักษ์ไปเลยยยๆๆๆๆๆ

0
InMaKu 4 ม.ค. 59 เวลา 17:29 น. 6

ตามที่ได้ยินมา
ที่เรียนเเต่ละที่มันใช้เป้นเเบคกาวในตอนหางานคับ.จบที่ดี ก้คงมีอะไรดีๆกว่า
#เฮ้อออออ

0
Asw 13 พ.ค. 63 เวลา 21:04 น. 7-1

เเล้วเเต่คนจิเรียน

เรียนเเล้วขอตั้งใจเรียน พัฒนาตนเองอยู่เสมอ

0
Tinapus 4 ม.ค. 59 เวลา 21:05 น. 8

ขอตอบน้องๆจากมุมมองประสบการณ์คนทำงานสายวิชาการในมหาวิทยาลัยนะค่ะ

พี่เป็นบุคคลากรทางการศึกษา...เลยมีโอกาสได้ให้คำปรึกษาเเก่น้องๆลูกๆของคนรู้จักอยู่บ่อยครั้ง
คำถามที่เจอเสมอ สิ่งหนึ่งคือการเปรียบเทียบระหว่าง ม.รัฐเก่าแก่ ม.รัฐเลือดใหม่ ม.ราชภัฏ และม.เอกชน ที่ไหนดีกว่า

พี่จะตอบเเบบแฟร์ๆเสมอว่า...มันเเล้วเเต่ว่าเลือกเรียนสาขาไหน

สาขานี้ บางที่ม.เอกชนดี ก็มีมาก ม.รัฐเลือดใหม่ก็มีดี ม.รัฐเก่าเเก่ก็อาจจะเพิ่งเปิดสอน

ในอดีต พี่เคยเลือกเรียนในม.รัฐเก่าเเก่ เเต่สาขาที่พี่เลือกเพิ่งเปิดสอนในขณะนั้นอยู่ที่รุ่นเลขตัวเดียว บอกเลยว่าลำบากมาก...ทั้งเรื่องการวางตัว เเนวทางการเรียนการสอนที่ไม่นิ่ง เเละที่ยากกว่าคือหลังจากจบ...หางานยังไง มีรุ่นพี่รุ่นน้องเเนะนำบ้างมั้ย บลาๆ

ในส่วนของม.ราชภัฏ พี่ว่าในสาขาเด่นๆหลายๆที่สู้ม.รัฐเลือกใหม่ได้สบายๆ เผลอๆยังเทียบชั้นกับม.รัฐเก่าเเก่ได้อีกด้วย(เช่น การโรงเเรมของสวนดุสิต ) เเต่ในทางกลับกันภาพลักษณ์ เเละโอกาสหลังเรียนจบของสาขาเปิดใหม่...ก็ไม่ต่างจากที่จบสาขาใหม่ๆในม.รัฐเก่าเเก่มากนัก(ยกเว้นว่าจะเจอที่ทำงานบ้าสี หรือไว้วางใจผลงานจากรุ่นพี่สู่รุ่นน้อง) โกรธแล้วนะ


ส่วนเรื่องเกรดขั้นต่ำ....น้องจ๋า...พี่พูดเลยตอนนี้เกรดม.ปลายได้2.5 มาพี่เเทบจะกัดลิ้นตายเวลาสอน อ.ผู้ใหญ่บอกพี่เสมอๆว่า...อย่าใช้วิธีวัดผลสัมฤทธิ์แบบที่ตนเคยผ่านมาสมัยเรียน ตรวจงานตามเนื้อผ้า ดูพัฒนาการทางวิชาชีพ....ที่เหลือต้องให้เขาเจอเองจากประสบการณ์ทางการทำงานจริง

สรุปว่า ราชภัฏไม่ใช้ไม่ดี ในสายตาพี่ คิดว่าเป็นเเค่การติดภาพ เเต่เรื่องจริงที่ต้องยอมรับ...เราวัดผลคนละมาตราฐานกันในเเต่ละสถาบัน ความเชื่อมั่นจึงเเตกต่างกันคะ

4
กฤษดา สิงหาคม Programmer 6 ม.ค. 59 เวลา 18:18 น. 8-3

"เราวัดผลคนละมาตราฐานกันในเเต่ละสถาบัน ความเชื่อมั่นจึงเเตกต่างกันคะ " ชัดเจนดีครับ

0
powermiin 4 ม.ค. 59 เวลา 21:39 น. 10

เอาจริงๆ มันแล้วแต่คนนะเราก็เรียนที่นี้ถามว่าเป็นแบลคกราวน์ในการหางานมั๊ย ไม่เลยยแล้วแต่คนแล้วแต่สมองว่าเราจะพยายามแค่ไหน แล้วยิ่งคนมาว่าราชภัฏเป็นราชภัฏไม่น่าเรียนมันก็เลยโดนมองว่าคนเรียนราชภัฏโง่ จริงๆ ก็ไม่ทุกคนนะราชภัฏเกรด 4.00 เกือบครึ่งมหาลัยไม่ใช่ว่าปล่อยเกรดหรืออะไรนะนศ.วิ่งกันเองทั้งนั้น อาจารย์ก็เข้มงวดมาก อยากตบปากคนที่ว่าราชภัฏมากเลยนะ

4
ALIVE 5 ม.ค. 59 เวลา 10:49 น. 10-1

สมัยนี้ ม.รัฐดังๆ เขาเริ่มสอนเนื้อหาหลักสูตรเป็นภาษาอังกฤษหมดแล้วคับ

ลองเอา เด็ก ราชภัฏ ที่ได้ 4.00 เกือบครึ่งมหาลัยไป เรียนดูสิคับ

0
ตามนั้นค่ะ 5 ม.ค. 59 เวลา 19:04 น. 10-2

เราไม่รู้นะ แต่เพื่อนที่เรียนมัธยมเกรดไม่เคยถึงสาม ไปมรภได้ 3.5+ ทุกคนเลย

0
Vanc 5 ม.ค. 59 เวลา 19:18 น. 10-3

มั่นใจหรอครับว่า ม. ที่จบไม่เป็นแบลคกราวน์ในการหางาน ?

0
กาว 13 พ.ค. 63 เวลา 21:06 น. 10-4

คนพูดดี ไม่ดี ก็เหมือน กับ คนชั่ว คนดี

มันเป็นสัจธรรมไปเเล้ว

เก่งเเต่เลวกะมี อย่าให้ฉานรู้ ม.ดังนิคนนั้นอ่า

0
สงสัยอารัยให้ถาม M_-P 5 ม.ค. 59 เวลา 03:05 น. 11
อยากจะตอบมาเลยค่ะ แต่ไม่รู้คำตอบไหนจะดีที่สุด

ขี้เกียจอ่านก็ข้ามไปเลยค่ะ อยากระบาย มันยาวววว
ถ้าเป็นราชภัฎในกรุงเทพ แล้วแต่สาขาที่เรียนค่ะ ต้องดูสาขาที่เรียนก่อน

พี่เรียนจบราชภัฎ มา 2 ปีแล้วค่ะ ไม่แน่ใจถึงความเปลี่ยนแปลง
(ด้วยความที่แม่อยากให้เรียนใกล้บ้าน จึงตัดสินเรียน)

ปฎิเสธยากว่าคนทั่วไปยังติดกับภาพลักษณ์เดิมๆซึ่งปัจจุบัน ก็แตกต่างแต่ไม่ได้มากในสายตา...
พี่เรียนการตลาดค่ะ จบออกมาเกรดเฉลี่ยรวม 3.35 เกือบได้เกียรตินิยมเลย เสียแต่ปีหนึ่งเทอมแรกเอาหมาบัญชีมา 2 ตัว 

พี่ไม่ใช่คนขยัน ทำกิจกรรมบ้างนิดหน่อย ไม่เคยอ่านหนังสือก่อนสอบ เกิน 2 วัน อาศัยทำความเข้าใจตอนเรียน ทำงานส่งครบตามกำหนด แค่นั้นจริงๆค่ะ (พี่ไม่ใช่อัจริยะ เรียนมาเรื่อยๆของแท้เลยค่ะ)

เพื่อนสมัยมัธยมปลายพี่เรียนอยู่มหาวิทยาลัย เอเกรด ...ไม่บอกชื่อน่ะ
เค้าอ่านหนังสือก่อนสอบ 1-2 เดือน ก็มี ทำกิจกรรมยัน สี่ห้าทุ่ม ดูเหนื่อยตลอดเว เกรด ออกมา 2 ปลายๆ

ที่พูดไม่ได้หมายความว่าราชภัฎปล่อยเกรดน่ะ ไม่ได้ปล่อยค่ะ คะแนนแต่ละคะแนนไม่ได้มาง่ายๆแต่จะสื่อให้เห็นว่า... มันคนละมาตราฐานกันมากกว่าค่ะ 

ข้อด้อยของราชภัฎ ในความเห็นส่วนตัวน่ะค่ะ
1 ราชภัฎนักศึกษา มีเยอะเกินไปค่ะ รับเข้ามาง่าย ลาออกเยอะ 
2 ตอนรุ่นพี่เรียน ไม่มีปรับพื้นฐานนักศึกษาก่อนเข้าเรียน (ไม่รู้ปัจจุบันน่ะ) เพื่อนพี่ในคลาส มีตั้งแต่ บางกอกนาดาว ยันโรงเรียนวัดมะปริงขบ ??? พื้นฐานต่างกัน เทอมแรกหัวขวิดเลยค่ะ เหมือนอาจาร์ยพูดภาษาต่างดาว
3 ราชภัฎ ไม่ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ของ รุ่นพี่รุ่นน้องในมหาลัย (ยกเว้นคณะครูที่เห็นเด่นชัด) น้องจะไม่ได้ฟิลลิ่งแบบ พี่เทค สายรหัส ฯลฯ ซึ่งต่างจากมหาลัยอื่นๆ ที่เรื่องแบบนี้เหนียวแน่น
4 เรื่องภาษา ปานกลางถึงน้อยมากๆ ยกตัวอย่างน่ะคะ ม...เรียน เขียน แผนการตลาด พรีเซนต์ เป็นภาษาอังกฤษ ตอน ปี 2-3 พี่เรียนมา 4 ปี ไม่เคยค่ะ (พี่เรียนตลาด แต่ไม่เคยเขียนแผนการตลาดเป็นภาษาอังกฤษ คิดว่ายังไงกันบ้างค่ะ)
ฯลฯ

พี่เรียนจบมา ใหม่ๆ ตอนสัมภาษณ์งาน HR ถามพี่ละเอียดมากกกกก ค่ะ
จบด้วยคำถามสุดท้ายว่า ทำไมไม่เลือกเรียน... คิดยังไงถึงเลือกเรียนราชภัฎ

อึ้งค่ะ  แต่ไม่ใช่บริษัทแรกที่ถามพี่แบบนี้ พี่ไปสัมภาษณ์4 ที่ มีถามคำถามประมาณนี้มา 3
พี่ก็ตอบไปว่า 
"นู๋ว่าขึ้นอยู่กับตัวเรามากกว่าค่ะ อยู่ที่ไหนเราก็เก่งได้ ถ้าเราพยายาม เช่นเดียวกัน เมื่อไหร่ที่เราไม่พยายาม การอยู่เฉยๆก็เท่ากับการถอยหลัง เพราะฉะนั้นอยู่ที่ไหนก็เหมือนกันค่ะ"


พี่เริ่มทำงานที่ 15000  บาท ตอนนี้ 23000 บาท เพื่อนพี่ ทุกคนชื่นชมค่ะ ว่าเราเก่ง ทำงานได้เงินเดือนดี งานไม่ตายตัว สนุกได้เที่ยวบ่อย

พี่ก็ยิ้มรับค่ะน้อง แต่ในใจอ่อนไหวพอสมควรเรื่องนี้ เพราะ เฉพาะสาขาในที่ทำงานมี 50 คน มีราชภัฎ อยู่ 3 นอกนั้น มอ. เกษตร ม.รังสิต หอการค้า ม.ทักษิณ ธรรมศาสตร์ ฯลฯ

เพื่อรุ่นๆเดียวกันในที่ทำงานเค้าใช้ที่นี่แบบทางผ่าน ทำกัน 2- 5 ปีให้โปรไฟล์ เรซูเม่ตัวเองดูสวยขึ้นค่ะ เพื่อ... ที่จะหางานทำที่ใหม่ ที่สบายกว่านี้ ชิลกว่านี้ เงินเยอะกว่านี้ มีเวลามากกว่านี้ งานแบบนี้อย่าคิดว่าไม่มีนะคะ งานแบบนี้มีจริงๆ แต่งานแบบนี้จะอยู่ในบริษัทดังๆ องค์กรใหญ่ๆ แค่เริ่ม 30000 ขั้นต่ำ ขึ้นทั้งนั้น 

แต่งานแบบนี้ ไม่มีให้เด็กราชภัฎน่ะค่ะ
ไม่ประกาศว่าไม่รับ แต่ไม่พิจารณาค่ะ 

toeic 550 คือมาตราฐาน ไม่ใช่ดีเลิศ เรียนราชภัฎกับเรียนมหาลัยดัง ฐานไม่เท่ากันจริงๆน่ะค่ะ 
ตอนพี่เข้าทำงานแรกๆ เหมือนต้องไปเรียนภาษาอังกฤษกับคอมพิวเตอร์ใหม่เลยคะ

เด็กราชภัฎ เก่งแค่ไหน 99% ตกม้าตายตอนสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษค่ะ (นี่คิดเอาเองน่ะ)

ราชภัฎ สถานที่พัฒนา บุคลากร พัฒนา ความสะดวกสบาย พัฒนา ที่ไม่พัฒนาคือ นักศึกษาค่ะ

คำถามเพื่อตอบคำถามของน้องคือ
- น้องมั่นใจหรือเปล่าว่าจะไม่หวั่นไหว กับสังคมรอบด้าน
- มั่นใจหรือเปล่าว่าอยู่ที่ไหนฉันก็เก่งได้ 

หรือ
น้องตั้งเป้าหมายในชีวิตคืออะไร ???
- การทำงานองค์กรใหญ่ๆเงินเดือนเยอะๆ
- หรือได้ทำงานใกล้บ้าน แข่งขันน้อย สบายๆ
- รับราชการ ธุรกิจส่วนตัว


แต่สุดท้ายแล้ว มันก็เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของพี่ อาจจะไม่ได้ช่วยอะไรน้องเลย
แต่ช่วยพี่ได้มาก เพราะพี่อยากระบายค่ะ 555 
คนเรียนเก่งไม่ได้หมายถึงทำงานเก่ง ตอนที่เราทำให้เห็น ต่างหาก ที่จะเป็นสิ่งวัดเรา

บางทีก็หวังให้มหาลัยเห็นนะคะ อย่างน้อยก็เป็น ประสบการณ์ที่เคยพบเจอ ค่ะ
ใครไม่ชอบ ก็ผ่านๆไปล่ะกัน


6
Poopan 5 ม.ค. 59 เวลา 08:09 น. 11-1

ในทางกลับกันนะคะ. เราจบราชภัฏ ในสาขาที่พึ่งเปิด เรียน้ป็นรุ่นที่ 3 สายใยรุ่นพี่รุ่นน้องแน่นมากกกกก. จนปัจจุบันสายรหัสยังมีอยู่เลย. รุ่นเรา รุ่นพี่ รุ่นน้อง จบไปเข้าราชการ ทำงานเอกชน เงินเดือนเกิน 20,000 ทุกคน คุณอาจไม่เคยเจอ เด็กราชภัฏ ที่ได้ทุนรัฐบาลญี่ปุ่น แบบไม่ติดสัญญา เมิ่อเรียน โท เอก โดยทุนญี่ปุ่นจบ ก็เลือกที่จะกลับมาสอนในราชภัฏ หรือ. คนที่จบราชภัฏ ไปเรียน โท เกียรตินิยมจากที่อื่น และเลือกกลับมาสอนราชภัฏ...ภาษา และทักษะอื่นๆ เป็นเรื่องที่นักศึกษาแต่ละคนควรพัฒนาตนเอง อย่างน้องเรา จบตรีราชภัฏ ก็บรรจุราชการสอบแข่งกับมหาวิทยาลัยอื่นๆ ก็ได้อันดับ 1 ... จากที่จบราชภัฏมาตั้งแต่ปี 49 ไม่เคยได้ยินว่าใครโดนกีดกันเพราะจบ ราชภัฏนะคะ...แต่คำถาม ทำไมถึงเรียนราชภัฏ เป็นคำถามปกติ ที่ไม่ว่าคุณจะเรียนที่ไหน เขาก็ถาม เพื่อทดสอบ EQ ในการตอบค่ะ...สุดท้ายนี้ อยากเรียนที่ไหนเรียนเลย เพราะหากคุณเล่อกเรียนที่ใด คุณจะไม่ได่สัมผัสที่อื่นแน่นอน...เยี่ยม

0
Tera-Nateenam 5 ม.ค. 59 เวลา 16:10 น. 11-2

ผมคนตั้งกระทู้นะ
- น้องมั่นใจหรือเปล่าว่าจะไม่หวั่นไหว กับสังคมรอบด้าน
ANS ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไร
- มั่นใจหรือเปล่าว่าอยู่ที่ไหนฉันก็เก่งได้
ANS มั่นใจเต็มร้อย
น้องตั้งเป้าหมายในชีวิตคืออะไร ???
ANS ผมอยากเป็นครู เงินเดือน 9000 ผมก็อยู่ได้ถ้าไม่อยู่ในเมือง

0
kKKK 6 ม.ค. 59 เวลา 22:33 น. 11-3

จากที่อ่านแล้ว
ส่วนตัวผมติดมหาลัยดังในเชียงใหม่ คณะหนึ่งตอนแรกผมตัดสินใจจะเข้ามอนั้นแล้ว ซึ้งผมอยากเรียนคณะนี้มาก แต่พอผมติดคณะครุ ราชภัฏ ผมตัดสินใจทิ้งมอดังมาเรียนราชภัฏ เพื่ออนาคตที่ดีกว่า คนเราเลือกได้ครับ ว่าอยากให้อนาคตของเราเป็นแบบไหน ลองเลือกดูครับ แล้วคุณจะไม่ผิดหวังกับสิ่งที่คุณเลือก
- ที่บอกว่าความสัมพันธ์ไม่แน่นพอ ไม่จริง
ผมเรียนอยู่ราชภัฏเชียงใหม่ สายรหัสคือเรื่องสำคัญมาก พี่รักน้องน้องก็รักพี่มากเช่นกัน มันแล้วแต่มหาลัยมากกว่าผมว่า สายพี่น้องเผลอสำคัญกว่าสิ่งต่างๆที่เราเจออีก พี่ช่วยเราทุกอย่าง
- ส่วนเรื่องงาน ถ้าไม่เลือกงานก็มีงานทำแหละครับ คนเราเรียนเก่งไม่ได้แปลว่าจะทำงานเก่งนะครับ
- ทีมราชภัฏ คนของพระราชา ข้าของแผ่นดินเยี่ยม
- ผมรัก ที่ที่ผมเรียนอยู่ครับ

0
สงสัยอารัยให้ถาม M_-P 6 ม.ค. 59 เวลา 23:39 น. 11-4

ขอตอบรวมๆน่ะ

เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้อง คงไม่เถียงค่ะ เพราะแต่ละที่ไม่เหมือนกัน

ส่วนเรื่องเด็กราชภัฎเก่งๆ ก็ต้องมีอยู่แล้วค่ะ ดิฉันไม่ได้บอกว่าเด็กราชภัฎโง่น่ะค่ะ เพราะตัวเองก็จบราชภัฎ คงไม่ด่าตัวเอง แค่ยอมรับและอธิบายถึงประสบการณ์ของตัวเองค่ะ

เด็กที่เรียนเก่ง ได้ไปแปลกเปลี่ยนก็มีให้เห็นบ้าง
แต่ที่แสดงความคิดเห็น คือมุมมองที่มีต่อ นักศึกษาราชภัฎส่วนใหญ่ค่ะ

เนื่องจากเป็นคนกลางๆไม่ได้ขี้เกียจ และไม่ได้ขยันค่ะ เลยพูดถึงนักศึกษาทั่วๆไป เพราะเด็กที่ได้ทุน ได้ที่ 1 นั่นคือ ที่สุดของด้านใดด้านนึง ซึ่งไม่ใช่ส่วนใหญ่
แต่งงเรื่อง ทักษะภาษาที่ควรพัฒนาด้วยตนเอง แล้วเราจะเรียนภาษาอังกฤษไปเพื่ออะไรคะ ถ้าทุกอย่างทำได้ด้วยตัวเองหมดโดยที่ไม่ต้องมีการเรียนการสอน มันควรจะควบคู่กันไปหรือเปล่า

แต่ ที่ต้องการจะสื่อให้เห็นก่อนหน้านี้ คือ มาตรฐานการศึกษาที่ไม่เท่ากัน

ส่วนเรื่องเงินเดือนสตาร์ทเกิน 20,000 ถือว่าหรูเลยนะคะ

0
สงสัยอารัยให้ถาม M_-P 7 ม.ค. 59 เวลา 00:11 น. 11-5

ตอบเจ้าของกระทู้ค่ะ

สังคมรอบข้างในที่นี้หมายถึงเพื่อนฝูง ตัวแปรสำคัญของคำว่าจบไม่จบ

เป้าหมายในชีวิต แท้จริงของพี่คือ ความสุขในทุกช่วงเวลาของชีวิตค่ะ

พี่ทำงานออฟฟิศ เพราะเงินค่ะ เงินที่เเลกมาจากความทุ่มเท
ความสุขไม่ได้สร้างด้วยเงิน แต่เงินสร้างความสุขได้ :)
พี่เลยมุ่งที่จะหาเงินโดยไม่ทำลายความสุข เพื่อสร้างความสุขให้กับพ่อแม่และตัวเอง

ความสุขของพี่ คือการได้ท่องเที่ยว ได้ผักผ่อน อ่านนิยายวาย
ความสุขของพ่อแม่พี่คือ การที่พี่มีพร้อมทุกอย่าง (ยกเว้นผู้ชาย ที่ยังไม่มี)
และมีพี่อยู่ใกล้ๆ

พี่อยู่ภาคใต้ เงินเดือน 2 กว่าๆ มันไม่พอที่จะให้พ่อแม่หยุดทำงาน (บ้านพี่ก็ฐานะแบบพอมีพอกินวันๆอ่ะน่ะ)
เป้าหมายของพี่ต่อไปคือ เลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่ให้ได้ ต้องให้อยู่สบายให้ได้

เงินจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพี่ ในหัวพี่คิดเรื่องทางหาเงินตลอด ไม่ใช่ความมั่นคง
พอมีพอกินแบบมั่นคง คงไม่ไหว

แต่ถ้าน้องอยากเป็นครู ราชภัฎคือทางเลือกที่ดีค่ะ
พี่เชื่อว่าคณะครุศาสตร์ เป็นคณะที่ดีที่สุดของ ราชภัฎ

แต่สุดท้าย
คนเรียนเก่งไม่ได้หมายถึงทำงานเก่ง ตอนที่เราทำให้เห็น ต่างหาก ที่จะเป็นสิ่งวัดเรา

ถึงแม้ฐานคนเราอาจไม่เท่ากัน แต่คุณค่าในตัวทุกคนเหมือนกันค่ะ ต่างมีดี แตกต่างกันไป
สู้ๆนะค่ะ

0
กาย 13 พ.ค. 63 เวลา 21:08 น. 11-6

ใช่ เเล้วเเต่มุมมอง ความเชื่อคนก็คล้อยตามพวกเราม่า ก็ยัง สังคมไทยเชื่อง่ายตั้งเเต่ลูกเทพ ปยอ. Shipหาย

0
Sata 5 ม.ค. 59 เวลา 04:46 น. 12

เรียนใหนก็เหมือนกันเหละ ถ้าคนมันไม่ดี 
แต่ถ้าคนมันดี เรียนใหนก็เก่งหมดเหละ

0
สู้ๆ 5 ม.ค. 59 เวลา 05:25 น. 13

ชอบความคิดเห็นที่11 นะ เอาจริงๆการทำงานเป็นนั่นแหละเก่งสุดดีสุด แต่ถามก่อนว่าจะผ่าน HR เขาไปทำงานให้เขาดูมันต้องเทียบหลายอย่าง คุณสมบัติบลาๆ บนโลกนี้มันก็มีบริษัทที่ดึงเด็ก ม.ดัง เท่านั้น(บริษัทเหล่านี้ล้วนเงินดีสวัสดิการดี มีทุนเรียน เช่น ปูน น้ำมันบ้าง). ม.เกรดอื่นอย่างหวัง เห็นได้จากข่าวจัดอันดับมหาลัยนั่นแหละ

ชื่อมหาลัยมันใช้เป็นฐานแรกเท่านั้นแหละ ตอนทำงานครั้งแรกหลังจบปริญาตรี มันไม่ประสบการณ์ใช่มั้ย เราก็ต้องวัดจากตรงนั้น ส่วนที่ต่อๆๆมามันวัดจากประสบการณ์เราความเก่งของเรา

<เริ่มต้นดีมันก็ดีกว่านะคะ>

เราไม่รู้ว่าเจ้าของกระทู้มองเรื่องภาษีด้านเรียนต่อ ทุนต่างประเทศหรือเปล่า ถ้าคิดจะก้าวหน้าแล้ว ขอให้ไปม.รัฐเกรดดีนะคะ ชื่อมหาลัยสำคัญมากจริงๆในด้านนี้

ปล. เราเรียนมรภ.ในกทม.ที่ว่าเป็นอันดับ1และกำลังที่จะซิ่ว รับตรงเกรดเยอะจริง3++ แต่จะบอกว่าเด็กมัธยมรัฐชื่อดังหาในนี้ไม่ได้นะคะ เกรดแต่ละโรงเรียนมันเทียบกันไม่ได้นะ เอาข้อสอบกลางแกทแพท9วิชามาเทียบดีกว่าคะ ยุติธรรมสุด < ที่เราเรียนอยู่มันก็สบายดีคะการเรียนการสอนก็พอประมาณ ถ้าไม่ชอบการแข่งขันก็เรียนได้นะคะเท่าที่เห็นไม่ดุเดือดมาก > โชคดีนะคะ ซิ่วอีกปีไม่สนุกนะเปลือง เยี่ยม. อวสานโลกสวยไปด้วยนะคะ มันคือความจริง เทียบง่ายๆสิ่งไหนดีคนก็จะไปแย่งไปชิงจะเอานั่นแหละ

0
kkkk 5 ม.ค. 59 เวลา 06:01 น. 14

เราเป็นเด็กรุ่น 58 อะ เคยคิดจะเข้าราชภัฏเหมือนกัน แต่โดนเบรกตัวโก่งเลย

คือไม่ใช่เกรดไม่ดีหรืออะไรนะ เกรดตอนนั้นเราเข้าม.ดังๆได้สบายมาก แต่อยากประชดสังคม 555+
แต่ตอนนั้นต้องหยุดความคิดนี้แทบไม่ทันเลย

คือมีญาติทำงานเป็น HR บริษัทใหญ่ๆเยอะมาก (ทั้งน้ำมัน ทั้งปูน รวมถึงบริษัทบริหารใหญ่ๆ ฯลฯ)
ทุกคนพูดเหมือนกันว่า จบราชภัฏทำงานดีก็มีเยอะ แต่บริษัทของพวกเค้าไม่รับ
คือคัดออกตั้งแต่อ่านมหาลัยในใบสมัครเลย ไม่ได้รับมาดูจากที่ว่าทำงานได้รึเปล่าหรือยังไงอะ

พวกผู้ใหญ่เลยไล่ไปเรียนม.อื่น แต่ก็ยึดความคิดเดิม ไม่ต้องดีก็ได้ 5555+
เป็นคนเดียวในห้องที่เข้า ฬ มธ ได้ แต่ก็ไม่ได้เข้าอะ รู้สึกว่าเข้าไปก็คงเป็นหางแถว เลยเข้าที่ระดับกลางๆแล้วเป็นแถวหน้าดีกว่า

เศร้าจัง

2
Rainy-Kaelyn 5 ม.ค. 59 เวลา 22:16 น. 14-1

สถานการณ์เหมือนเราเลย เข้ามาดังได้แต่ไม่เข้า เราเลือกเข้าราชภัฏใกล้บ้าน ที่คิดว่าไม่เดือดร้อนเพราะเราเลือกเป็นครู

0
ดาม 13 พ.ค. 63 เวลา 21:12 น. 14-2

ใช่ เราก็เข้า ม.ดัง ได้เเต่สละสิทธิ์ ไกลบ้าน ค่าเทอมเเพงไม่ไหว จึงจัดสินใจมาที่ ม.ราชภัฏเีกว่า เราจะตั้งใจเรียน พัฒนาตน สร้างผลงานให้ชัดไปกันเลย...

0
Wipp 5 ม.ค. 59 เวลา 06:33 น. 15

ผมคิดว่าอยู่ที่สังคมด้วยรึเปล่าครับ เรื่องนี้พูดไปก็มีแต่ดราม่าจริงๆ ลองนึกภาพถึงเด็กม.ปลายหลายจำพวกที่อยู่ชั้นม.6และแต่ละคนต้องสอบเข้า เด็กกลุ่มแรกเรียนเก่ง อ่านหนังสือเยอะมาก เรียนพิเศษเยอะ สามารถเข้าฬได้ เด็กอีกหลายๆกลุ่มที่รองลงมา เมื่อคะแนนดีไม่เท่ากลุ่มแรก ก็ต้องลดหลั่นไปอยู่มออื่น ซึ่งฬ มธ มก มหิดล พวกนี้คือเอาเด็กระดับเก่งเข้ามาเรียนในมอไว้จำนวนมาก สังคมของมหาลัยเหล่านี้เลยมีแต่นักเรียนที่ขยันและแกร่งพอที่จะเข้าเรียนได้ ทีนี้พอไปมองมหาลัยอื่นๆ ไม่ได้บอกว่าไม่เก่ง แต่คุณภาพเด็กเก่งๆจำนวนหนึ่งเค้าไปเรียนในม.รัฐดังๆไปแล้ว ซึ่งจำนวนนั้นเมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ มันดูน้อยถ้าเทียบกับเด็กทั้งประเทศ แต่ว่าคนเก่งพวกนั้นไปกระจุกอยู่ที่เดียวกันแล้ว เด็กที่เหลือที่ไม่ได้เข้าไปเรียนม.รัฐชื่อดัง ก็ต้องลดหลั่นไปตามมออื่นๆ ทีนี้เลยเกิดการเปรียบเทียบ กลายเป็นเก่งเท่านั้นคือม.รัฐชื่อดัง นอกนั้นก็ถูกมองไปอีกแบบ ทีนี้เด็กเก่งจากม.รัฐดังๆเข้าทำงานก็ย่อมถูกเลือกจากบริษัทไป อาจเป็นเพราะหลายๆบริษัทจะมีผู้บริหารที่เป็นศิษย์เก่าจากสถาบันเดียวกัน เค้าก็ช่วยเหลือหรือมั่นใจว่าเด็กสถาบันนี้มีความสามารถพอจะทำงานกับเค้าได้. เรื่องนี้ผมว่าแล้วแต่คนจะมองอะครับ มันมีปัญหามาตั้งนานแล้ว

1
ก้าม 13 พ.ค. 63 เวลา 21:13 น. 15-1

เด็กเส้น กะมี ม.ดังๆ อย่าให้ข้าพเจ้าบอก มธ

0
...... 5 ม.ค. 59 เวลา 07:09 น. 16

เราเคยถามแม่เราเรื่องนี้อยู่ครั้งนึงค่ะ แม่เราเป็นผู้จัดการฝ่ายHR อยู่บริษัทโรงไฟฟ้าเอกชน

แม่บอกคนใหญ่ๆในบริษัทบางคนก็ยังมีความเชื่ออยู่ค่ะ ว่าเด็กราชภัฏเก่งสู้เด็กมหาวิทยาลัยอื่นไม่ได้ (แม่เราก็เป็นหนึ่งในคนที่มีความเชื่อนั้น...)
จากประสบการณ์ที่แม่เราเคยทำHR บริษัทไฟฟ้า น้ำ อาหาร ถ้าฝ่ายHR บริษัทใหญ่ๆได้รับใบresume จากเด็กราชภัฏ HRบางคนไม่คิดจะหยิบกระดาษแผ่นนั้นมาอ่านด้วยซ้ำค่ะ...

กับจากที่ถามคนรู้จักอื่นๆที่จบม.ดังๆ และรับเด็กม.เดียวกันเข้ามาทำงานในบริษัท เขาก็ให้เหตุผลเราว่า จบม.เดียวกัน มันเหมือนคุยกันรู้เรื่องกว่าค่ะ แบบคุยกันถูกคอไรงี้ บ้างก็ว่าเด็กมีความสามารถ จะได้ไม่ต้องสอนงานเด็กเยอะ

แต่เราก็เห็นทุกวันนี้แม่ก็บ่นแต่ว่าเด็กม.ดังบางคนเก่งทฤษฎี ทำงานเชิงปฏิบัติไม่ได้บ้างแหละ ติดสบายบ้างแหละ แล้วแม่ก็มาบ่นที่หลังคนเดียวอยู่ดี ฮ่าาา

เอาเป็นว่าในความคิดเรานะ เลือกเข้ามหาวิทยาลัยที่เก่งในเรื่องที่เราจะเข้าเรียนอ่ะ เพราะทุกมหาวิทยาลัยก็ต้องมีสาขาดังๆที่เป็นที่รู้จักอยู่แล้ว ถ้าทำอย่างนั้นจะได้ตัดปัญหาเรื่องการหางานครั้งแรกออกไป

คือใครหาเงินเก่งสุดชนะตามความเห็นบนๆมันก็ถูกค่ะ แต่ในขณะที่คุณอยู่ในสภาพพึ่งจบมาใหม่ๆ ไม่มีประสบการณ์ทางการทำงาน สิ่งที่บริษัทจะพิจารณาคุณได้ก็มีแค่เกรด กิจกรรมที่ทำในสมัยเรียน และความเก่งของมหาวิทยาลัยนี่แหละค่ะเศร้าจัง

1
เเย้ม 13 พ.ค. 63 เวลา 21:15 น. 16-1

อย่า-เเค่เด็กบางกลุ่ม เด็กเก่ง ไม่เก่ง ก็เหมือนคนดี คนชั่ว มีปนกันไป

ชอบเด็กดีมากกว่าเก่ง .... เก่งเเต่ใช้ความรู้ในทางที่ผิดก็มีเยอะไป......

0
moosom 5 ม.ค. 59 เวลา 07:21 น. 17

จากที่เราเอง จบที่มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร เรารู้สึกมีความภูมิใจอยู่เสมอ ถึงแม้ไม่ได่เกียรตินิยมอะไร แต่วันนี้เราได้ทำงานในองค์กรที่ดี ดูแลครอบครัวได้ ไม่มีใครสามารถมาดูถูกการศึกษาของเราได้ เพื่อนๆของเราที่จบมาจากสถาบันเดียวกัน ต่างทำงานในสถานที่ที่ดี บ้างก็มีธุรกิจ จงภูมิใจในสถาบันที่เราเลือกเรียนเถอะค่ะ ไม่ว่าสถาบันไหน ถ้าเราตั้งใจเรียน ตั้งใจทำกิจกรรม เรียนรู้สังคม เราก็จะมีความสุขกับทางเลือกของเรา การตัดสินใจอย่างมีสติ มีชัยไปกว่าครึ่งนะค่ะ

0
Teacher SP 5 ม.ค. 59 เวลา 07:41 น. 18

เรียนให้จบครับ แล้วพิสูจน์ตัวเองซะ เรียนที่ใหนไม่สำคัญมากเท่าเราคิดว่าจะพัฒนาตัวเองอย่างไรครับ ถ้าเราพัฒนาตัวเองอย่างสม่ำเสมอ ขยันและก็ตั้งใจ เรียนที่ใหนก็ไม่ไดส่งผลมากครับ สู้ๆ ครับ

0
_POP 5 ม.ค. 59 เวลา 08:19 น. 19

ผมก็เรียนอยู่ราชภัฏนะ แต่ตอนนี้ไม่ใช่ละ เข้ามาได้1ปีอยู่ดีดีไม่ใช่ราชภัฏละ 5555 เรียนไปเหอะครับ ดีหมดทุกที จะไม่ดีก็ตัวเรานี่แหละ ง่อวววววว ! 


1
เจ้าเป็ด 5 ม.ค. 59 เวลา 08:25 น. 20

เราเคยไปอ่านในพันทิปมา มีคนแสดงความเห็นเรื่องนี้เยอะเหมือนกัน ลองไปหาอ่านดูนะ เพราะเราจำไม่ค่อยได้แล้ว แหะๆ

0