"นางเอกฉลาด" สำหรับคุณคืออะไร?
ตั้งกระทู้ใหม่
คุณต้องการจะลบกระทู้นี้หรือไม่ ?
27 ความคิดเห็น
สำหรับเรานะคะ...
นางเอกที่เอาตัวรอดได้ทุกสถานการณ์
และจะไม่เอาตัวเองเข้าไปเสี่ยง ถ้าผลตอบรับไม่คุ้มค่า
หรือบางที อาจจะคิดหาวิธีที่ดีกว่านั้น
ถ้ามาแนวแม้แต่รีดเดอร์ยังคิดได้
ก็เตรียมรับ 'คำด่า' ค่ะ
มีเยอะนะคะ ที่ไรท์เตอร์ยังอ่อนประสบการณ์ และไม่หาข้อมูลให้ดี
โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับกฏหมายนี่แทบจะดิ้นไม่ได้เลย
บางอย่าง มันไม่มีความสมเหตุสมผลอะไรเลยนอกจาก 'พระเอกหล่อ รวย'
บุกเข้าบ้านนางเอก
ต่อยเพื่อนนางเอกยับเพราะคิดว่าเป็นแฟน
ขโมยโทรศัพท์นางเอก
แตะเนื้อต้องตัวนางเอกเกินควร
ข่มขู่เกินจำเป็น
นางเอกกรีดร้อง ทำอะไรไม่ได้ ด่าทอ จบลงด้วยการยอมแต่โดยดี...
อะไรวะ กฎหมายเมืองนี้เบากว่าเงินในกระเป๋าฉันไปได้อย่างไร
สวัสดีค่ะ
(โดยเฉพาะนิยายรัก) สำหรับคุณ "นางเอกฉลาด" เป็นยังไง?
เจ้าของเม้นต์นี้นะคะเป็นนักเรียนหัดเขียน ยังเขียนไม่ได้เขียนไม่เป็นค่ะ ยังไม่มีความสามารถ แต่ก็อยากเขียนนะ อยากมากๆด้วยโดยเฉพาะนิยายรักๆ โรแมนติค ดราม่านี่ชอบที่สู๊ดเลย ชอบอ่านชอบดูด้วย และก็ชอบดูนางเอกของเรื่องนั้นฉลาดๆด้วยจริงสิ
จากที่ดูมานะคะเห็นว่าความเฉลียวฉลาดมีวิธีการแสดงออกหรือภาคปฎิบัติที่จะสามารถเห็นได้ว่าเธอเฉลียวฉลาดนั้นก็เห็นมีอยู่มากมายหลายวิธีหรือหลายเทคนิคหรือหลายๆรูปแบบค่ะ
คือว่าที่เห็นมานะคะความเฉลียวฉลาดของคนนั้นนะคะดูจะตัดสินไม่ได้ตรงเป๊ะๆว่าแท้จริงมีรูปแบบที่จะบรรยายออกมาเป็นตัวอักษรได้ทั้งหมด สาเหตุอาจจะเป็นเพราะความที่จะต้องฉลาดในหลายๆเหตุการณ์นั้นดูคล้ายจะแตกต่างกันไปโดยธรรมชาติเลยค่ะ ตามที่ดู อ่านมานะคะ
เช่น...นางเอกบางคน ต้องไหลตามนํ้า บางคนเข้าเมืองตาหลิ่วแต่ไม่ยอมหลิ่วตาตาม(ตายังคงโตๆบ๊อกล๊อก5555) ซึ่งบางครั้งเธอต้องหลิ่วตาตามจนดูคล้ายตาจะบอดหรือปิดไปเลยก็มี บางคนไหลทวนนํ้า ทวนกระแส
และในบางครั้งเธอต้องเล่นเกมแกมโกงเพื่อหักมุม(ให้ตัวร้ายหรือนางร้ายต้องหลงทางไป(เพื่อความอยุติธรรม ซึ่งมีอยู่ในจิตใจของนางเอก เธอสามารถปิดทองหลังพระได้เพื่อความดีในบางเหตุการณ์ ที่จะเกิดขึ้นได้)
หรือเธอยอมนอบน้อม แสดงเป็นคนโง่เพื่อเปิดประตูให้ตนเองได้มีโอกาสเข้าสู่วงสังคมของตัวร้ายนางร้าย เพื่อการได้ข้อมูลที่แท้จริง นั้นเพื่อนำมาในการแก้ไขให้สิ่งเลวร้ายให้ดีขึ้น ทั้งหมดนี้จึงเกิดเป็นสาระ สำนวน เกิดเป็นเรื่องราว ดร่าม่าบ้าง แอ็คชั่นบ้าง ทริลเร่อร์บ้างแตกต่างกันไป (หรือเป็นพล็อตนิยายนั้นหล่ะ^ ^)
เธอสามารถทนหรือต้านทานอาการเจ็บทนปวดได้อย่างทรนง (อาการถึก5555) มีความอดทนร้อนทนหนาวได้เป็นสุดยอดคน
หรือการที่จะต้องทำทุกอย่างที่จะให้พระเอกเลวๆเปิดหูเปิดตาให้ได้เธอก็จะอดทนอกกลั่น เป็นกำลังใจ ให้โอกาส ไม่ว่าเขาจะหล่อเหลา หรือธรรมดา หรืออาจจะขี้หริ้วขี้เหร่เพียงไร หรือแม้เขาจะเกิดมารํ่ารวยหรือยากจนข้นแค้นสักเพียงไรก็ตามที
แท้จริงเอมมิจของพระเอกนั้นสมควรที่จะเป็นได้เช่นผู้ชายทุกคนแม้นว่ารูปร่างน่าตาฐานะที่แตกต่างก็ตามที ในความเป็นจริงนะจะเป็นไปได้หรือที่หล่อรวย รวย นั้นจะเป็นคนดีได้ทุกคน
และในทางกลับกัน คนที่หน้าตาธรรมดาฐานะปรกติพอมีพอกิน มีอยู่จริงจะเป็นคนดีไม่ได้เป็นเรื่องจริงหรือ เช่นเรื่องแบบนี้หากนางเอกฉลาดเธอจะเข้าใจค่ะ และรู้ได้ว่าแท้จริงพระเอกของเธอนั้นคือใคร...เธอจะรู้ได้ค่ะ
เช่นเมื่อสมัยก่อนๆตามที่เห็นละครซึ่งนำมาสร้างใหม่นั้นได้เห็นว่า นางเอก(ไทยส่วนใหญ่) จะมีความอดทนสูง จะมีความรัก ซื่อสัตย์ สุจริต มีความอดทนอดกลั่น มีความนอบน้อม มีความมั่นคง มีรักเดียวใจเดียวต่อพระเอก(หรือสามี)
ทั้งหมดนี้สามารถเห็นๆเป็นอีกมุมมองของการถ่ายทอดผ่านเรื่องราวผ่านตัวอักษรได้ว่า "นางเอกแบบนี้ฉลาด"ค่ะ
เพราะทั้งหมดนี้แท้จริงคือความดี หากเธอทำสำเร็จเรื่องราวจะจบลงสุขขีอิ่มเอมในทุกเรื่องตามที่เห็นๆมานะ
ทั้งหมดนี้เจ้าของเม้นต์นี้รู้สึกและเข้าใจว่า นางเอกเช่นนี้เฉลียวฉลาด แข็งแกร่ง มีคุณภาพและมีคุณค่าที่สมควรจะเป็นได้เช่นนางเอกที่ควรยกย่องค่ะ
และที่สำคัญอย่างยิ่งยวด นางเอกเหล่านี้ต้องมีที่มาจึงจะเป็นได้เช่นนี้ นั้นคือเธอมี... สติและ ปัญญา วิริยะ อุตสาหะ ค่ะ นี่คือคนฉลาดค่ะ คือความเข้าใจของเจ้าของเม้นต์นี้
เม้นต์นี้เป็นเม้นต์จากนักเรียนหัดเขียนนะคะ มุมมองแคแร็คเต่อร์ที่มีต่อนางเอกเห็นว่าควรจะเป็นเช่นนี้ค่ะ "นางเอกฉลาด"คงต้องเป็นแบบนี้ค่ะ
ความเฉลียวฉลาดนั้นแท้จริงสามารถแสดงออกมาในรูปแบบที่ต้องแตกต่าง ในเวลา โอกาส หรือเหตุการณ์ วาระ ที่แตกต่างกันไป แต่ผลที่ออกมานั้นคือความสงบสุข คือความดีได้นั้นคือคนที่ฉลาด เข้าใจแบบนั้นค่ะ^___^
เจ็บแล้วจำก็ฉลาดระดับหนึ่งสำหรับผมแล้วล่ะครับ
ถ้าอ่านสถานการณ์เป็น รู้หลบเป็นปีกรู้หลีกเป็นหาง ก็ได้คะแนนไหวพริบไปอีกหนึ่ง
และถ้าใช้สมองความคิด มากกว่าใช้อารมณ์นำเหตุผล ก็ได้คะแนนพฤติกรรมดีๆไปอีก
จะมีแก่นแก้วมีห้าวบ้างก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าไม่พาตัวเองไปเสี่ยง หรือมีไหวพริบพอจะพาตัวเองออกมาจากสถานการณ์นั้นๆก็ถือว่าฉลาดแล้วครับสำหรับผม
IQ สูงและเป็นจริงอย่างที่คนเขียนโม้ไว้ครับ
อ่านความเห็นนี้แล้วนะคะจะไม่อยากหัดเรียนเขียนนิยายอีกต่อไปแล้วค่ะ ฮื้อออออออออออ
การเป็นนักเขียนต้องโม้ด้วยเหรอ คำว่าคำโม้นะคะ เป็นคำที่ไม่เพราะเลย คำนี้ให้ความรู้สึกว่าการเป็นนักเขียนนะต้องเป็นคนที่ไม่ดี คนโม้เป็นคนที่ไม่น่ารักเลยค่ะ เป็นคนน่ารักอยากรักษาเอาไว้ เพราะฉนั้นจะไม่เขียนค่ะฮื้ออออออออออ จะไม่เขียนไม่เขียน
สวัสดีค่ะ คหที่4 เพราะแบบนี้หล่ะมั้งที่ทุกคนที่บ้านไม่เคยอนุญาตให้เขียนเพราะเป็นแบบนี้ใช่ไหมคะ ฮื้อออออออ:(
อ่านคห 4-1 แล้วงงแปลกๆ คห4 เขาหมายถึง เวลาคนแต่งบรรยายว่านางเอกฉลาดมาก ไอคิวร้อยเก้าสิบอัพ ตอนดำเนินเรื่องก็ต้องทำให้ดูฉลาดจริงๆ สมกับไอคิวสูงๆ ไม่ใช่ปากบอกว่าฉลาด แต่กลับโชว์โ ง่ในเรื่องที่ไม่ควรโ ง่อะไรแบบนี้ ไอคำว่า ที่คนเขียนโม้เอาไว้ นี่คือ คนเขียนบรรยายเอาไว้ว่าฉลาด
ไม่น่าใช่คำด่านะคะ 5555
ถ้าสปอยต้นเรื่องว่า นางเอกฉลาดเทพ แต่อ่านไปอ่านมา ไม่รู้สึกถึงความฉลาดเทพอย่างที่เกริ่นไว้
มันก็ดูอวยตัวละครตัวเองแต่ต้นเกินไป เค้าเลยใช้คำว่าโม้มั้งคะ
สวัสดีเจ้าของคหที่ 4-2 และ 4-3 ค่ะ
คือว่า คำว่าโม้ เคยถูกสอนมาว่าไม่ให้กล่าวค่ะ ถูกสอนมาว่าห้ามใช้คำว่า โม้ หรือโง่กับใครๆ ไม่อนุญาตให้ใช้ค่ะ เพราะเป็นคำที่เราผู้พูดเองนั้นตีผู้อื่นตํ่าด้วยการตัดสินจากเราเอง ซึ่งนั้นอาจจะเป็นอะไรที่เราผู้พูดอาจจะไม่รู้ก็ได้ว่าเขาผู้ที่เรากล่าวถึงหรือว่าให้เขานั้น เขาพูดความเท็จจริง หรือโม้หรือเปล่า คำว่าโม้ไม่เคยอนุญาตให้พูดค่ะ
และคำ คำนี้จะทำให้ผู้ที่ถูกหยิบยื่นให้นั้นเสียใจ เสียความรู้สึก หรือแม้เสียกำลังใจหากเขาพูดความจริงแต่ผู้ที่ว่าเขาโม้นั้นไม่มีภูมิพอที่จะรับสารที่เขาจะสื่อหรือบอกเล่าได้นั้นจะเกิดเป็นการทำร้ายนํ้าใจซึ่งกันและกัน
คำ คำนี้ไม่เคยถูกอนุญาตให้ใช้ค่ะ เป็นบาปถูกสอนมาแบบนั้นนะ เพราะเหตุนี้เห็นคำคำนี้เมื่อไรเจ็บปวดไปทั้งตัวค่ะ สงสารผู้พูดและสงสารผู้ที่ถูกกล่าวถึงค่ะ
ถูกสอนด้วยว่าแม้เราจะถูกเขาโกหกก็ต้องไม่โกรธแต่ต้องสร้างภูมิต้านทานขึ้นมาด้วยตัวเองด้วยอาการ รู้ เข้าใจ เท่าทัน ว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นเป็นจริงหรือไม่อย่างไร ด้วยการวิเคาะห์ ใช้หลักการ ใช้วิจารณญาณ ใช้เหตุผลและสติปัญญาด้วยตนเอง
และเมื่อรู้ว่าเขาโกหกหากเขาผู้พูดไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใครหรือไม่ทำผิดกฎหมายหรือศีลธรรมเราต้องไม่ใช้คำว่า คุณโหก หรือคุณโม้ ต่อเขาค่ะ
คำว่าโม้สำหรับดิฉันคือคำด่าค่ะ และผู้ที่พูดเองนั้นก็ดูจะเป็นอะไรที่ไม่ดีเท่าไรเลย คือเป็นคำที่ไม่ไพเราะทั้งผู้พูดและผู้ถูกกล่าวถึง นี้เป็นอาการยึดติดส่วนบุคคลค่ะ ซึ่งอาจจะแตกต่างจากหลายคนค่ะ
ถูกสอนและปลูกฝังด้วยว่าต้องเข้าใจและยอมรับให้ได้ว่าหลายๆคนมีเหตุผลเป็นส่วนบุคคลที่จะกระทำเหตุเหล่านี้ เพราะฉนั้นเมื่อเป็นอาการของเหตุของการกระทำส่วนบุคคลต้องไม่ก้าวก่ายโดยกล่าวให้เราเองเกิดเป็นบุคคลที่เสียหายค่ะ
"อย่างที่คนเขียนโม้ไว้ครับ"...เห็นตรงนี้แล้วสดุ้งเลย ฮา ฮา ฮา
ทำให้จำคำห้ามนี้ได้ว่า ไม่ให้เขียน ไม่อนุญาต ไม่ให้จิตนาการ การจินตนาการเป็นสิ่งไม่ดี ละเมอเพ้อพก ละเมอเพ้อฝัน เป็นสิ่งที่ไม่ดีต่อจิตใจ ไม่ดีต่อจิตสำนึก และยังบอกด้วยว่า เพราะรักนะจึงห้าม หากผู้ใหญ่พูดแบบนี้นะคะ เชื่อๆว่าเป็นอะไรที่ไม่ดี ต้องไม่ฝืน ต้องไม่ทำ อะไรทำนองนี้ค่ะ จำฝังใจเลย ให้ความรู้สึกว่าเป็นอะไรที่น่ากลัว กลัวบาป ฮา ฮา ฮา
และเมื่อคิดว่าการที่จะเป็นนักเขียนได้ต้องมีจิตนาการเป็นเลิศ การจินตาการหลายเรื่อง เช่น แฟนตาซี หากเราจะแปลไทยๆง่ายๆ คือเรื่องแต่ง คือเรื่องโกหก คือเรื่องโม้ดีๆนี้เองนะ หากไม่แล้วคงไม่มีพล็อตขึ้นมาได้อย่างแน่นอน (แต่เมื่อมาเห็นว่าหากจะแต่งแฟนตาซีคืออาการ-ลัวเป็นบาปหล่ะ^ ^)
จึงสับสนนิดหน่อยค่ะ ว่าการใช้คำหรือการนำคำนี้มาใช้นั้นเราควรจะใช้เมื่อไร ลงตรงไหม ใช้กับอะไร จึงจะเหมาะสมและถูกต้อง ทั้งหมดนี้เป็นความรู้สึก เคยชิน ยึดถือส่วนบุคคลค่ะ
หากเป็นนักเรียนหัดเขียนแล้วต้องเป็นแบบนั้นเป็นอะไรที่น่ากลัวนะ รู้สึกแบบนั้นค่ะ
เป็นคนซีเรียสหรือจริงจังเกินไปมั้งนะนี่เรา ฮา ฮา ฮา
แต่จริงแล้วเม้นต์นี้ไม่ซีเรียสนะคะ อธิบายเฉยๆค่ะ
ขออภัยค่ะที่เข้ามาตอบรับล้าช้าค่ะ
โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้โม้
bragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragfulbragful
ขอโทษมา ณ ที่นี้นะคะ หากดิฉันไม่ใช่คนอย่างที่คุณเคยพบเจอ หรือต้องการ
สวัสดีค่ะ หคที่4-5
คำตอบที่คุณตอบมายาวๆๆๆ นี้ ดิฉันก็รู้สึกว่าคุณไม่ได้ด่าค่ะ แต่คุณไม่ให้เกียรติ ไม่มีความเกรง เหยียบยํ้าซํ้าเติมดิฉันตรงๆเลยค่ะ
คือ เราคุยกันอยู่ตรงหน้านี้นะคะ หลังจากที่ดิฉันอธิบายความรู้สึกส่วนบุคคลที่มีต่อคำว่าโม้นี้แล้ว แทนที่คุณจะรับรู้ความรู้สึกส่วนตัวที่ดิฉันมีนี้ด้วยความสงบ คือคุณน่าจะเกรงดิฉันบ้างหรือเกรงการที่จะเป็นได้แบบคุณนี้บ้างแต่คุณกลับกระทำโดยการพิมพ์แบบถ่มนํ้าลายใส่หน้าด้วยคำที่ดิฉันรู้สึกไม่ดีนี้ เช่นที่เห็นๆนี้ค่ะ
เพื่อตัวคุณเอง คุณน่าจะรู้สึกถึงความยํ่าเกรงบ้างนะคะ จะเป็นเรื่องดีค่ะ คุณไม่รู้เรื่องนี้หรือคะ (หรือคุณจะบอกว่า รู้นะแต่ไม่มีให้กับดิฉันก็ได้นะคะ คงไม่ต่างกันเลย ฮา ฮา ฮา )
"ขอโทษมา ณ ที่นี้นะคะ หากดิฉันไม่ใช่คนอย่างที่คุณเคยพบเจอ หรือต้องการ"...ภายใต้เม้นต์นี้คุณเข้ามาทักทายก็เห็นๆอยู่นี่คะคุณ เราเจอกันทักทายกันในเม้นต์นี้ ดิฉันให้เกียรติคุณด้วยการอธิบายตอบรับจากเม้นต์แรกของดิฉันนะ คุณเห็นนะคะ รู้สึกได้นะคะ...
ไม่ว่าเพราะเหตุใดหรือจากอะไรก็ตามเม้นต์ของดิฉันคงทำให้คุณเดือดดาลได้สินะ เข้มแข็งหน่อยสิคะ ฝึกๆหน่อยเพื่อตัวคุณค่ะ ฝึกที่จะไม่ทำร้ายผู้อื่นและตัวคุณเองนั้นเป็นเรื่องดีนะคะ
สังคมเราได้อยู่ด้วยกันด้วยความเป็นสุขค่ะ
การพูดคุยแลกเปลี่ยนมีความแตกต่างอยู่เป็นความจริงนะคะคุณต้องยอมฝึกที่จะยอมรับและจำนนด้วยความยินดีนะคะเพื่อความสุขที่จะหาได้เพื่อคนรอบตัวคุณและตัวคุณเองค่ะ
ดิฉันถูกสอนมาแบบนั้นแบบที่อธิบายมาข้างบนจริงค่ะ ไม่ได้โม้หรอกนะ เพราะฉนั้นเป็นคนที่ยินดีที่จะรับฟังผู้คนที่ดิฉันพบเจอ ด้วยความตั้งใจเสมอ ไม่ว่าเขาจะพูดจริงหรือไม่ จะนำมาพิจารณาเท่านั้นเมื่อรู้ว่าที่เขาเล่ามาเป็นความจริงก็ยินดีอย่างยิ่งยวด เมื่อรู้ว่าเขาโกหกก็แผ่เมตตาให้เขาทุกครั้งค่ะ ไม่เคยตอบโต้นะ เพราะเชื่อว่าคนเราหากที่เขาโกหกทุกครั้งเป็นเหตุผลส่วนตัว ตราบใดที่เขาไม่ทำให้เราเดือดร้อน ปล่อยไป ไม่เกี่ยวกับดิฉัน คิดแบบนั้นจริงนะคะ
เชื่อด้วยว่าการที่เขาต้องโกหกนั้นเป็นบาปต่อตัวเขาเอง แต่ที่เขาต้องโกหกนั้นเพราะอะไรก็ไม่อยากรู้ด้วยนะ สงสารเขาด้วยค่ะ
แต่...หากจะใช้คำว่าโม้ หรือขี้โม้ หรือนำมาเล่นๆกันแบบแสลงเหน็บแนมต่อนักเขียนหรือนักเรียนหัดเขียนนี่ดิฉันเห็นว่าไม่สมควรอย่างยิ่งค่ะ โดยเฉพาะการเขียนเรื่องราวแฟนตาซี เป็นต้น
ดิฉันนะคะไม่ใช่นักเขียน ยังไม่ใช่นะคะ ดิฉันยังไม่เคยมีผลงาน (เม้นต์กระทู้อย่างเดียวเลย ฮา ฮา ฮา ) เพราะฉนั้น เหตุการณ์ที่นำคำเหล่านี้มาใช้กับนักเขียนนั้นไม่โดนดิฉันเป็นส่วนตัวแต่อย่างใด แต่ก็เห็นว่าไม่เป็นการสมควรต่อนักเขียนทั้งหลายอย่างยิ่งยวดค่ะ ทุกอย่างมีการเริ่ม ขึ้นตั้งอยู่ได้นะคะ มาพักหลังนี้เห็นๆคำว่าโม้ของนักเขียนนี้บ่อยๆขึ้นทุกๆวัน ดิฉันเพียงเแต่ก็รู้สึกว่าเป็นห่วงเท่านั้นเองค่ะ
เดี๋ยวนะวันหนึ่งจะเกิดเป็นแฟชั่นเป็นวัฒนธรรม เป็นคำแสลง เป็นคำฮิตติดปากว่านักเขียนไทยขี้โม้ขึ้นมาไม่ดีเลยเนอะ
การกระทำในเม้นต์ของคุณข้างบนนะคะ ดิฉันอโหสิให้ค่ะ ด้วยความเต็มใจนะ สาธุ ขอให้คุณได้สงบบ้างในบางโอกาสค่ะ ^_____^
ส่วนคุณนะคะรู้จักที่จะเรียนรู้และฝึกฝนความอดกลั่นอดทนเพื่อสร้างภูมิต้านทานส่วนตนบ้างจะดีต่อตัวคุณนะคะ นี้เป็นความหวังดีและห่วงใยค่ะ คุณจะรับหรือไม่ก็แล้วแต่คุณนะคะ หากไม่รับก็วางไว้ตรงนี้หล่ะ นะคะ...ยื่นให้ด้วยรอยยิ้มค่ะ ^___________^
บางที เราก็ไม่ได้อยากหวังให้นางเอกฉลาดเกินคนหรอก
แค่ไม่โง่กว่าคนปกติก็เพียงพอแล้ว
;-;
เห็นด้วยค่ะ 5555
นางเอกฉลาดเป็นยังไง มันอยู่ที่ว่าพล็อตเรื่องเป็นแบบไหนค่ะ มันมีฉลาดหลายอย่าง การเรียน การปรับตัว การใช้ชีวิต ไหวพริบ การต่อสู้ ความรู้สึก บลาๆๆ ถ้าถามว่า แบบไหนเรียกว่าโง่น่าจะง่ายกว่า ถถถถถถ
โดยส่วนตัวชอบนางเอกแกร่งค่ะ ทำนองว่าอยู่ได้ด้วยตัวเอง คือชอบเรื่องที่นางเอกแมนและแกร่งกว่าพระเอก เรื่องในห้องเรียนไม่เท่าไหร่แต่คือการตัดสินใจและปรับตัว วิธีที่จะเอาตัวรอด จะค่อนข้างฉลาดค่ะ มีไหวพริบในสถานการณ์ต่างๆ คือเอาตัวรอดได้สำหรับเราคือฉลาด
เราคิดว่านะคะ
ในสถานการณ์ที่ฉุกเฉิน หรือเสี่ยงต่อชีวิต หรืออะไรทำนองนั้น...
เธอสามารถเลือกสิ่งที่ถูก ในที่นี้หมายถึง
ไม่ก่อให้เกิดคำสบถในใจ "ทำไมโง่?" ทำไมเธอไม่ทำแบบนั้นแบบนี้ ที่มันทำให้เธอถูกมองว่าเลือกสิ่งที่ผิด
แบบนี้คง ฉลาดกว่าโง่แหล่ะค่ะ
(งงไหม...? อย่างงเลยเนอะ)
นางเอกที่ไม่มีความรัก.. นั่นแหละนางเอกฉลาด
55555
อีกอย่างคือ นางเอกที่ฉลาดรู้ทันแต่แกล้งโง่ให้เป็น เข้าใจสถานการณ์ได้ง่าย ซึ่งไม่จำเป็นต้องเจ้าเล่ห์เพทุบาย หรือเรียนเก่งเวอร์
คนฉลาดมักจะตั้งคำถาม แต่นางเอกฉลาดมักไม่ตั้งคำถามที่น่ารำคาญ
สัมหรับเราเลยนะ เป็นคนที่จับทาง-เดาทางคนอื่นออก รู้ว่าเวลาไหนสถานการณ์ไหนควรทำยังไง
รู้จักวางตัวในการเข้าสังคม แม้ว่าจะต้องเจอกับคนที่ไม่ชอบหรือเป็นศัตรูก็ตาม สามารถทำให้คนอื่นสับสน และหลงเชื่อเธอได้ง่ายๆ
นี่คือนางเอกฉลาดสำหรับเรานะ :)
ชอบแบบนี้มากด้วย (เพราะตัวเราเป็นไม่ได้ TT)
ฉลาดคิด (คิดรอบคอบ)
ฉลาดพูด (พูดจารู้กาลเทศะ)
ฉลาดที่จะเเสดงออก (แสดงออกตามสถานการณ์)
โดยส่วนตัวเราคิดว่านางเอกที่ฉลาดมาก สมบูรณ์แบบสุดๆ ทุกด้าน ดูมีเสน่ห์น้อยกว่าตัวละครที่ขาดหรือแหว่งอะไรบางอย่างไปนะ
ความคิดดี ใช้ชีวิตด้วยตัวคนเดียวได้ อย่างน้อยแค่ไม่พึ่งพระเอกทุกตอนก็พอแล้วค่ะ ตัวร้ายจะตบก็ฟาดด้วยไม้หน้าสามเลยไรงี้ 55555555555+
ถ้าฉลาดในด้านความรัก คือ ต้องมีเหตุผลค่ะ ไม่เอาแต่อารมณ์ แต่เท่าที่เห็น คนส่วนใหญ่ พอรักกันแล้ว จากที่ฉลาดๆก็จะโง่บรมทันที เพราะเอาอารมณ์นำ ไม่ได้ใช้สมอง คิดว่าคนมีความรักคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ทำให้มันน้อยลงได้ด้วยการมีความเข้าอกเข้าใจ และรักตัวเองเป็นที่ตั้ง (มั้งนะ)
สำหรับเรานางเอกแค่รู้จักเอาตัวรอดและมีวุฒิภาวะทางอารมณ์ก็ฉลาดแล้วค่ะ เพราะตามนิยายมักจะสร้างให้พระเอกฉลาดกว่า บางเรื่องเน้นให้นางเอกฉลาดมากๆรู้ไปซะทุกอย่าง แต่ผลสุดท้ายทุกอย่างที่นางเอกรู้นั้นพระเอกรู้อยู่แล้ว อย่างนี้เราหมั่นไส้พระเอกนะ จากอวยนางเอกมาผลสุดท้ายมาเจอฉลาดกว่าแล้วมันหมั่นไส้
ส่วนมากเหตุผลที่นางเอกไม่ฉลาดคือความงี่เง่าที่เป็นส่วนประกอบในอารมณ์ของผู้หญิงค่ะ แบบตัวร้ายพูดอะไรก็เชื่อไปหมด บางเรื่องพระเอกพูดเพราะหวังดีดันไม่เชื่อ บางเรื่องโดนกระทำแต่เก็บเงียบไม่บอกใคร อย่างนี้ล่ะค่ะที่โง่ สู้เขาไม่ได้ดันทำตัวเป็นคนดี ดีแบบผิดที่ผิดทาง
ของผม จะให้นางเอกมีไหวพริบปฏิภาน และเก่งกล้าสามารถ แต่ก็แฝงไปด้วยปมในใจกับความรู้สึกต่างๆที่ดูโง่ งี่เง่า แต่แฝงไปด้วยเหตุผลส่วนตัวที่ฟังขึ้น (เพื่อกันกับดักแมรี่ ซู) ถึงจะได้มีความ "ฉลาด" ในแบบของผมครับ
นางเอกที่ฉลาดสำหรับเรา = รู้ว่าตอนไหนตัวเองควรทำและไม่ทำอะไร ไม่เป็นภาระกับพระเอกค่ะ
รู้ทัน ช่างสังเกต ช่างวิเคราะห์ ไม่หลงกลอีกฝ่ายง่าย ๆ ใช้สมองมากกว่าใช้กำลัง
ท่านเรย์กะ จากเรื่อง "นอบน้อมและหนักแน่นคือคติประจำใจของฉัน"
ถึงเธอจะรั่วๆไปบ้าง แต่ก็เป็นนางเอกที่ฉลาดที่สุดเลยล่ะ~!♥
นางเอกสำหรับผมคือดูแลตัวเองได้ครับ ฉลาดแล้ว
ไม่ใช่อะไรก็กรีดร้องแล้ว ช่วยด้วยๆ ไม่ตั้งสติ หนีปัญหาไม่ได้ ฆ่าตัวตายอย่างเดียว ประเดี๋ยวพระเอกมาช่วย แล้วทำตัวสวยเงียบไปวันๆ ขำขันเป็นบางที พอมีของดีก็ให้เขาไปหมด ไม่ยอมจดสิ่งสำคัญ ไม่หมั่นตรวจสอบ ไม่รอบคอบกับปัญหา ไม่มาเวลาเด็ดๆ ไม่เข็ดเวลาโดนซ้ำ! 555
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?