เพิ่งรู้ว่าแต่ละมหาลัยมีวิธีการให้เกรดไม่เหมือนกัน O.o
ตั้งกระทู้ใหม่
คุณต้องการจะลบกระทู้นี้หรือไม่ ?
20 ความคิดเห็น
ผมว่าไม่มีหรอกนะครับ การตัดเกรดแบบหลัง ได้เท่าไหรก็เท่านั้นไปเลย เรื่องสอบแก้หรืออะไรพวกนี้คงเล้วแต่ อ.แต่ละท่านจะเมตตาล่ะครับ แต่ไม่มีแน่นอนครับแบบหลัง อาจจะมีการลดเกรดคะแนน อย่างเช่นปกติจะตัดเอฟที่ 49 คะแนน อาจจะลดลง เหลือ 40-45 อะไรแบบนี้มากกว่า
น่าจะขึ้นกับวิชาด้วยนะครับ เพราะมหาลัยเดียวกันบางวิชาตัดปกติ (A-F) บางวิชามีแค่ A กับ F เลยก็มี
แต่ประเด็นที่อยากพูดคือ เกรดมันไม่ใช่ที่สุดของการเรียน
สิ่งสำคัญที่สุดคือเราได้ความรู้และสามารถนำความรู้นั้นไปประยุกต์ใช้ในสายวิชาชีพของตัวเองได้
อย่าเลือกมหาลัยเพียงเพราะได้เกรดง่ายเลยครับ
แบบหลังนี่แย่มากนะ ดูไม่มีคุณภาพเลย
ของเรา จะกำหนดเกณฑ์เอไว้ บางวิชา 90 85 80 แล้วแต่ ส่วนเอฟก็เหมือนกัน 50 40 35
เรียนที่ไหนก็เหมือนกันนี่คือโคตรหลอกลวงอะ
การตัดเกรดแบบหลังไม่เคยได้ยินนะ มีแต่ถ้าได้ F แล้วก็ F เลย ไม่ก็ให้ซ่อมแล้วได้ D ไม่ได้เกรดสูงไปมากกว่านี้ ส่วนวิธีการตัดเกรดมันขึ้นอยู่กับวิชาด้วยนะ ไม่ใช่แค่สถาบันอย่างเดียว บางวิชาตัดอิงเกณฑ์ อิงกลุ่ม -ส่วนคะแนนก็ไม่เหมือนกัน
แบบหลังเอาจากไหนมาพูดครับ หมายถึงรุ่นพี่คนนั้น
จะบอกว่า มีครับแต่ไม่ทั้งหมดครับ เช่นคณะผม เกณฑ์ตัด E หรือ F ในแต่ละวิชามีไม่เท่ากัน บ้าง 40 บ้าง 35 บ้าง 50 แต่หากนักศึกษาคนใดทำเกรดได้ไม่ถึง C จะต้องลงเรียนวิชานั้นใหม่ครับ ทางคณะให้เหตุผลว่า คณะไม่สามารถปล่อยนักศึกษาที่มีผลการเรียนแบบนี้ออกไปประกอบวิชาชีพได้ครับ ซึ่งเกรดใดมหาวิทยาลัยแต่ละแห่งก็เอามาเทียบกันไม่ได้จริงๆครับ แต่ถ้ามหาวิทยาลัยที่ผมเรียนนั้น เกรดต่ำกว่า 2.75 เป็นพวกคนทั่วไปครับ ทั้งนี้ทั้งนั้น เกรดไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต พี่มาเรียนไม่เคยหวังเกรดเลย แต่ก็ยอมรับนะว่าแหล่งที่ทำงานเค้าก็ดูเกรดประกอบการพิจารณาอยู่ดี สู้ๆนะน้อง
ไม่มีสอบแก้ครับของม.ผม เกรด A B+ B C+ C D+ D E ไม่มีFครับตัดที่E แต่ถ้าเทียบกับม.ที่มีFคงเท่ากัน ตัดที่80 กับ 50 กเว้นบ้างวิชาที่ตัดแตกต่าง ต่ำกว่าCคนส่วนใหญ่จะลงใหม่ครับ
แล้วแต่คณะด้วย
คณะเราอิงกลุ่มส่วนใหญ่ ทำได้เกิน 80 % ข้อสอบก็ไมได้ A นะ ถ้าค่ามีนสูงน่ะ
เต็ม 80 มีน 70 งี้ ตัดคะแนนมา ถ้าได้แถว 70 ก็ซีไปสิ
#อยากตัดคะแนนแบบอิงเกณฑ์จังเลย ToT
ที่มหาลัยมีเกรด a b+ b c+ c d+ d ถ้าติดi คือยังไม่ได้สอบแต่ปกติไม่สามารถแก้ได้ต้องไปลงเรียนใหม่อยู่ดี กับติดeคือคะแนนไม่ผ่านเกณฑ์ต้องไปลงเรียนใหม่ ที่บ้านชอบถามว่าทำไมไม่ได้เกรดa-คือมหาลัยไม่มีไง แต่เห็นมหาลัยแห่งนึงมีเกรดsคือยิ่งกว่าa
ปล.เรียนอยู่บัญชีซึ่งอ.บางท่านตัดเกรดaบัญชีที่98คะแนนเต็ม100
คณะเราเรียนสายการแพทย์เนาะ ตัดอิงกลุ่มทุกวิชาเลย ส่วนวิชาแลปจะอิงเกณฑ์
คนตกก็มี อาจารก็จะให้ซ่อมมากกว่า เกรดต่ำสุดก็เป็น D D+ ไรงี้
คนที่ผ่าน Mean ตลอด ผ่านแบบเยอะๆหน่อย ก็จะได้ A แต่ก็ต้องถึงเกณฑ์ที่อาจารย์ตั้งไว้
หลายวิชาที่อาจารย์จะเป็นกำหนดเลย ไม่มีเกณฑ์ออกมา แต่ว่าเขาก็ไปประชุมกันนะ ดูเป็นกรณีๆไป
เช่นอีก 0.5 คะแนนจะได้อยู่ในกลุ่มที่ได้ A ในที่ประชุมก็จะคุยกันว่าจะสมควรจะให้ A คนนี้ไหม
ซึ่งจิตพิสัยก็จะมาดูตรงนี้ แม้เช็คชื่อไม่มีคะแนนก็ตาม ส่วนใหญ่สอบ 90 งาน 10 ไม่ก็สอบ 100 เลย
คนเรียนสายแพทย์ถึงจบด้วยเกรด 3+ เยอะ เพราะมันอิงกลุ่มมากๆเลยล่ะจ้า
ที่ม.ตัดแล้วแต่วิชาครับบางวิชาอ.ใจดีหน่อยไม่เคร่งตัดA-C แต่ถ้าแย่มากจริงๆก็มีคนได้ Dมา แต่ไม่มีเอฟ บางวิชาตัดเกณฑ์ เอฟกันเป็นแถบก็ไม่สนใจเรียนใหม่อย่างเดียว แต่ส่วนใหญ่ตัดเกณฑ์ที่ AกับF นอกนั้นอิงกลุ่มครับ
จุฬา ตัดF50ครับในวิชาส่วนใหญ่นะครับบางวิชา60ก็มี
ส่วนรูปแบบการตัดเกรดบางวิชาอิงเกณฑ์ บางวิชาอิ่งกลุ่ม ซึ่งมีนสูงมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
อ้อ ไครได้FเทอมไหนเอาFมาคิดเกรดเฉลี่ยไปเลยเทอมนั้นคือมีหน่วยกิตเต็มเเต่หาร0ไปเลยดึงเกรดกระจุยเเล้วไม่มีซ่อมครับต้องลงใหม่ปีหน้าสถานเดียว
ช่าย จุฬาตัดเกรดโหดมากๆจริงๆ ด้วยหลักเกณฑ์การเอา F มาเฉลี่ยเกรด ทำให้เกรดยิ่งฉุดไปอีก แต่หลังอาจารย์แจก F น้อยนะ ถ้าเทียบกับเมื่อหลายปีก่อน สังเกตุได้จากคณะนึง.... ไปเสิร์ชดูได้ คณะนึงที่จุฬา รับปริญญาปีที่แล้วว ได้เกียรตินิยมไปครึ่งคณะ จนกลายเป็้นว่า คนที่ได้เกียรตินิยมไม่แปลกเลย แต่คนไม่ได้สิแปลก 5555+ อย่างที่บอกขึ้นกับคณะ และมหาวิทยาลัย เพราะจุฬาบางคณะก็ตัดเกรดยาก แต่บางคณะก็ปล่อยเกรดสุดๆ เช่นกัน ดังนั้นอย่างที่กล่าวไว้ เกรดไม่ได้บ่งบอกทุกอย่าง การเรียนที่ถูกต้องคือเราควรรู้ว่าจะเอาความรู้ที่ได้ไปในการทำงานอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุดนั่นเอง
ผมเรียนที่มหาลัยชื่อดังแถวๆศาลายา ปี1จะมีวิชานึงที่เรียนรวมกับเพื่อนๆต่างคณะคละกันไป แล้วเขาจะจัดกลุ่มให้ทำโครงงาน กลุ่มละประมาณ14คน ตอนท้ายเขาจะให้เราประเมินคะแนนเพื่อนในกลุ่มตัวเองทุกคนยกเว้นตัวเอง แบ่งเป็นคะแนน 1 2 3 4 5 (ดีที่สุดคือ1) แต่มีเงื่อนไขว่าคะแนนที่ให้นั้นแต่ละระดับให้ได้ไม่เกิน8คน... ถือคะแนนเป็นการตัดเกรดกันเลย รักใครชอบใครเกลียดใครในกลุ่ม เกรดก็อยู่ตรงนี้แหละ555
วิชาเมเจอร์ตัด A 85
วิชาศึกษาทั่วไปตัด A 80 ครับ มอผม
ของเรามีเกรดA A- B B+ B- C+ C C- D+ D D- F
Aนี่ตัด86 หรือ90แร้วแต่อาจารย์
สาขาที่พี่เรียนเกรดบางวิชาต้องห้ามต่ำกว่าC ไม่งั้นจะสอบใบประกอบวิชาชีพไม่ได้(เค้ากำหนดมางี้)
อ.ก็เลยกำหนดขั้นต่ำว่าต้องสอบให้ได้เท่าไร ใครทำไม่ถึงก็ซ่อม
ไม่ใช่ว่าเกรดต่ำสุดแค่Cแล้วเกรดน้องจะสวยนะคะ เพราะถ้าน้องต้องซ่อมจนผ่านยังไงเกรดน้องก็ไม่สูงเท่าเพื่อนอยู่ดี
แต่ถ้าซ่อมแล้วได้ C ก็ยังดีกว่าคนที่สอบได้เกรด D แน่นอน ดังนั้น บางคณะที่ห้ามเด็กเกรดต่ำกว่า C และถ้าต่ำกว่าให้ซ่อมจนได้ C ก็ยังดีกว่าบางที่ที่ไม่มีเกณฑ์นี้ เพราะเกณฑ์นี้อย่างต่ำคุณก็ได้เปรียบ เพราะวิชายากๆ ได้ C ก็ยังดีกว่าได้ F แน่นอน เพราะ F ฉุดเกรดมาก เนื่องจากคนได้ C บางคนสามารถอัพเกรดจนลุ้นเกรดสูงได้เลย แต่คนติดเอฟ ลุ้นยากๆจริงๆ ดังนั้ มหาลัยแต่ล่ะที่ คณะแต่ละคณะ ใช้เกณฑ์ต่างกัน ดังนั้น เกรดที่เราได้ๆกันจึง ไม่มาตรฐานเท่าไร พูดง่ายๆ อย่างเช่น ป.โท หลายๆที่ห้ามต่ำกว่า B ไม่งั้นไม่จบ ป.โท ดังนั้นนักเรียนจงอย่าแปลกใจเลย คนที่จบ ป.โท ได้เกรดเฉลี่ย 3 ขึ้นไปอยู่แล้วว ไม่ได้เก่งอะไรมากมาย เพราะเค้ามีเกณฑ์ว่าไม่ถึง 3 ไม่จบไง ดังนั้นทุกคนที่จบก็ถึง 3 อยู่แล้ว บางคน 4.00 ด้วยซ้ำตอน ป.โท ซึ่งก็ไม่แปลก แต่ถ้าใครได้ 4.00 ตอน ป.ตรี อันนั้นนับว่าเก่งมาก เพราะ ป.ตรี เกณฑ์ตัดเกรดจะหนักมาก แต่ล่ะที่ไม่ค่อยเหมือนกันอีก ดังนั้นบางทีเกรดมันไม่ได้แสดงทุกอย่างหรอก หลังจากจบมาแล้วนักเรียนได้นำความรู้ไปใช้นั่นแหละ คือประโยชน์สูงสุด
ที่โดม มีทุกรูปแบบทั้งอิงเกณฑ์ อิงกลุ่ม เกณฑ์ผสมกลุ่ม แต่รูปแบบที่ต่ำกว่าCสอบแก้ไม่มี อย่างเราเรียนสายวิทยาศาสตร์วิชาศึกษาทั่วไปที่เรียนหลายๆคณะจะอิงเกณฑ์ F50 A80 แต่อังกฤษเราเรียนแบบเกณฑ์ผสมกลุ่ม คือF50แต่Aอิงกลุ่ม ซึ่งเซคชั่นเราตัดที่95 ส่วนวิชาสาขาอิงเกณฑ์คือF35 A80 แถมถ้าติดFเรียน5ปีจ้าเพราะลงวิชาต่อไม่ได้(เช่นเคมี2) ก็สนุกสนานดี ทรานสคริปตอนนี้มีตั้งแต่AถึงD(โชคดีไม่มีFไม่เคยดรอป555) ขอให้ทุกคนจบแบบ เกรดสวยงาม55555
มหาวิทยาลัย แต่ละที่ใช้วิธีการตัดเกรดไม่เหมือนกันอย่างแน่นอน 100 % เพราะขนาดมหาวิทยาลัยเดียวกัน คณะเดียวกัน ภาควิชาเดียวกัน ในแต่ล่ะปี ยังมีวิธีการตัดเกรดไม่เหมือนกันเลย บางปีอิงกลุ่ม บางปีอิงเกณฑ์ ดังนั้น เกรดที่นักเรียนได้มาแต่ละคน จะใช้เทียบกับรุ่นพี่ รุ่นน้องเพื่อแสดงว่าใครได้มากกว่ากันไม่ได้ เพราะเกรดคือเกณฑ์ในการชีวัดการทำข้อสอบแบบปีต่อปี นอกจากนี้ในแต่ละมหาวิทยาลัยก็เอามาเทียบกันไม่ได้ เพราะวิธีการตัดเกรดต่างกันนั่นเอง แต่หากคุณได้เกรดสูงมากๆ ในปีนั้นๆที่คุณเรียน นั่นก็ย่อมแสดงถึงความตั้งใจเรียน ความรับผิดชอบของนักเรียน ซึ่งจะส่งผลต่อการทำงาน และเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้นนั่นเอง
แบบหลังถ้ามีจริงนี่คงเป็นพวกมหาลัยระดับล่างแบบต่ำเตี้ยเลยแหละ
การตัดเกรดเป้นแบบไหน ทุกคนท่ีเรียนย่อมรู้กันอยู่แล้วล่ะ ส่วนที่เกี่ยวกับมหาวิทยาลัยนั้น ผู้เขียนคิดว่าไม่จริง จะมหาวิทยาลัยระดับบน หรือ ระดับล่าง มันก็มีเกณฑ์ของเค้า ซึ่งมีรายละเอียดปลีกย่อยเยอะแยะ ซึ่งก็แล้วแต่อาจารย์จะตัดนั่นแหละ อาจารย์แต่ละปี คนสอนก็เปลี่ยนวิธีการก็เปลี่ยน จะมหาวิทยาลัยดังไม่ดัง ก็มีการตัดหลายแบบทั้งนั้นแหละ ผู้เขียนว่าไม่ได้เป็นเฉพาะมหาวิทาลัยไม่ดัง เหมือนที่คุณ หุหุ บอกเลยนะ ผู้เขียนว่าเป็นทุกที่
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?