Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ขอบทเศร้าๆกระชากน้ำตาหน่อยค่ะ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
เรียนท่านนักเขียนทั้งหลายที่หลงเข้ามาให้กระทู้นี้

เนื่องจากว่าเราเขียนฟิคเรื่องนึงซึ่งเราพยายามเขียนให้เศร้าแล้วแต่ก็รู้สึกว่ามันไม่ค่อยโอเท่าไหร่ อยากให้ท่านทั้งหลายช่วยยกตัวอย่างการเขียนหน่อยค่ะ จะแต่งว่านางเอกกำลังจะตายต่อหน้าพระเอกไรงี้ก็ได้ค่ะ หรือเอามาจากนิยายตัวเองก็ได้ค่ะ ด้วยเกียรติของลูกหมู(?) สัญญาว่าไม่ก็อปปี้เด็ดขาดค่ะ

แสดงความคิดเห็น

>

36 ความคิดเห็น

massacre 14 เม.ย. 59 เวลา 09:48 น. 1

บทเศร้าๆ กระชากน้ำตา...
คงต้องมีอารมณ์เศร้าก่อนค่ะ แนะนำให้ไปดูโฆษณาไทยประกันชีวิต #ผิด

เราก็แต่งไม่ค่อยเป็น แต่เวลาเราแต่งฉากพวกนี้ เราจะมีแต่อารมณ์อยากแกล้งตัวละครน่ะค่ะ แบบว่าจงเศร้ากว่านี้อีกสิ เจ็บปวดเข้าไป อย่างนางเอกตายต่อหน้าพระเอก เราก็จะให้พระเอกโทษตัวเองให้ถึงที่สุด... อารมณ์ประมาณ "ทำไมถึงปกป้องเอาไว้ไม่ได้"   อะไรแบบนี้น่ะค่ะ 

ส่วนจากนิยายของเรา รอสักเดี๋ยวนะคะ ตอนนี้พิมพ์ในมือถือ ไม่ค่อยสะดวก T^T 

คุณดิท : ขอหลังไมค์แทนนะคะ เรากลัวสปอย 55555

0
Tastarus 14 เม.ย. 59 เวลา 10:27 น. 2

  ของเราเอามาจากเรื่องที่เขียน(ขอพิมแค่เศษเสี้ยวเดียวนะครับ จริงๆยังพิมไม่ถึงฉากนี้เลย)  ประมาณนี้ครับ

“คุณพ่อคะ ช ช่วยหนูด้วยเถอะค่ะ ข ขอร้องล่ะค่ะ น หนูไม่รู้จะไปพึ่งใครแล้วจริงๆ”

      “จะให้ช่วยแกน่ะเหรอ!? ฝันไปเถอะฉันไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาจับแกกลับเข้าคุกก็ดีแค่ไหนแล้ว เพราะงั้นไปให้พ้นซะ!

     พลักก!!

    คุณพ่อจัดการเตะหน้าของหนู ทำให้ร่างกลิ้งไปตามแรงเตะ จากนั้นเขาก็กลับเข้าไปในบ้านแล้วก็ปิดประตูไม่ต้อนรับหนูในทันที ทางหนูเองก็พยายามกัดฟันลุกขึ้นไปเคาะประตูขอร้องเขาอีกครั้ง แต่ผลที่ได้กลับมีเพียงคำก่นด่าขับไล่เท่านั้น

      “ไปให้พ้นฉันไม่อยากเห็นหน้าแกอีก!! ไปตายซะไป!!

    แสงแห่งความหวังอันริบหรี่ได้ดับวูบลง หนูทำอะไรไม่ได้อีกต่อไปนอกจากสะอื้นไห้ด้วยความเจ็บปวดยิ่งกว่าโดนมีดนับล้านเล่มทิ่งแทง แล้วก็ยอมเดินจากไปอย่างไร้จุดหมาย

    หนูได้แต่เดินไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมาย เรี่ยวแรงค่อยๆลดลงเรื่อยๆจากพิษบาดแผลทั่วร่างกาย ท้องก็หิวโซเพราะไม่ได้กินอะไรมาสามวันแล้ว แต่ไม่ว่าแผลกายจะบอบช้ำขนาดไหน ไม่ก็เทียบไม่ได้กับความเจ็บปวดในจิตใจเลยแม้แต่นิดเดียว

      นี่หนูทำอะไรผิดมางั้นเหรอทำไมทุกคนถึงได้ต้องเกลียดหนูขนาดนี้ด้วย ทำไมการมีเพื่อนสักคนมันถึงได้ยากเย็นถึงเพียงนี้ ทำไม?

    หลังจากที่เดินดุปัดตุเป๋มาได้สักระยะหนึ่ง สายตาของหนูก็เริ่มพร่ามัว ขาเริ่มไร้ซึ่งเรียวแรง จนในตอนสุดท้ายแล้วหนูก็ฝืนเดินต่อไปอีกไม่ไหว ร่างของหนูล้มลงหัวฟาดกับพื้นแล้วก็หมดสติไปในที่สุด

1
ญญญญ 14 เม.ย. 59 เวลา 10:31 น. 3

ฉาก นางเอกโดนยิงแล้วกันเนาะ

ปั้ง..ปั้ง
เสียงกัมปนาทของปืนสันวอร์เทอร์ พีพีเค สองกระบอกจากเขาและ-บ้านั้นดังขึ้นพร้อมกันสองนัดก่อนที่ร่างกายบอบบางของคนตรงหน้าเขาที่วิ่งมารับคมกระสุนแทนเขาก็ค่อยๆ ทรุดลงพื้นเขาวิ่งไปรับร่างกายไร้เรี่ยวก่อนที่มันจะร่วงลงกับพื้นซีเมนต์ โลหิตสีแดงฉานไหลปรี่ซึมออกมาจากคมกระสุนที่เจาะทะลุบริเวณช่องท้องด้านขวาอย่างไม่ขาดสาย
"ไม่ ไม่ อย่าเป็นอะไร นะ เธอต้องไม่เป็นไร"
เสียงร้องแหบพร่าและสั่นเครือของเขาดังกึกก้องทั่วทั้งบริเวณ ก่อนพยายามโอบกอดเธอเอาไว้ด้วยมือที่สั่นเทา มือบางสั่นระริกพยายามเอื้อมมือเรียวเล็กที่บัดนี้ชุ่มโชกไปด้วยเลือดของเธอ ค่อยๆ มาจับใบหน้าหล่อเหลานั่นอีกครั้งอย่างอ่อนแรง แล้วฝืนยิ้มบางๆ ออกมา
"อย่าร้องไห้ นายร้องไห้แบบนี้ไม่แมนเลยนะ สัญ..ญะ...สิสัญ...ญากับฉันว่านายจะต้องรอดออกปจะ...จากที่นี้"
เธอพยายามพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ขาดหายเป็นห้วงๆ ความเจ็บปวดกัดกินไปทั่วทั้งบริเวณ หากพยับกายเพียงน้อยนิดก็เจ็บแทบจะปางตาย นัยน์ตาพร่ามัวเม่อมองใบหน้าของเขาที่พยักหน้าตอบรับคำของของเธอพร้อมกับพูดออกมาแต่เธอกลับไม่ได้ยินมันอีกครั้ง ก่อนสติที่มีอยู่จะค่อยๆ ดับวูบลง
"ไม่ อย่า ไม่อย่าไป ขอร้องได้โปรดอย่าไป เธอต้องไม่เป็นอะไรไม่มมมมมมมมม"
เขาโอบกอดเธอไว้พร้อมกับเรียกคนรักให้ฟื้นคืนมาทั้งน้ำตา เขาพยายามเขย่ารางไร้สติของเธออีครั้งพร้อมทั้งพูดออกมาว่า "ไม่มันต้องไม่เป็นแบบนี้ คนที่สมควรจะนอนอยู่ตรงนี้คือฉันไม่ใช่เธอ ได้โปรดอย่าไป" น้ำตาลูกผู้ชายพรั่งพรูออกมาอย่างไม่อายใคร ไม่มันต้องไม่เป็นแบบนี้

เราด้นสดเอาไม่ค่อยเศร้าเท่าไร ฮือคงมาได้แค่นี้แหละ บีบอารมณ์ออกมาไม่ได้เง้อ



0
Whiteflower Ri 14 เม.ย. 59 เวลา 13:32 น. 5

ความเศร้ามันจะเกิดจาก เรารู้สึกว่า เราจะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว  อันนี้เป็นฉากที่เพื่อนของพระเอกตาย  ลองอ่านดูได้ค่ะ

http://writer.dek-d.com/risait444/writer/viewlongc.php?id=1352873&chapter=5

0
Octory 14 เม.ย. 59 เวลา 15:27 น. 7

นางเอก : ขอบคุณที่ดูแลฉันเป็นอย่างดี มันคือช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตฉัน แต่ตอนนี้เรา 2 คนคงต้องจากคุณไปแล้ว
พระเอก : เรา?
นางเอก : ใช่ค่ะ ฉัน กับลูกของเรา
พระเอก : คุณท้อง! ไม่นะ! ไม่ ไม่ ไม่

เศร้าพอไหมครับ พระเอกเพิ่งรู้ความจริง

1
R@ji 14 เม.ย. 59 เวลา 15:46 น. 8

ถ้าทนอ่านจนถึงตอนที่สี่ได้ท้ายตอนจะเศร้าฮะหงิงๆ เป็นความเศร้าที่เกิดจากความตายของพี่น้องฮะพอจะใช้ได้ไหมเอ่ย

http://my.dek-d.com/greamon/writer/view.php?id=1438713

0
harley_quinn 14 เม.ย. 59 เวลา 17:10 น. 9

พระเอก "ผมขอโทษที่ปิดบังคุณมาตลอด...ผมมีบางอย่างจะต้องบอกคุณ"

นางเอก (ยิ้มบาง) "อะไรเหรอคะ? ถ้าเกี่ยวกับคุณล่ะก็ฉันรับได้ทุกอย่าง"

พระเอก (ทำหน้าตื้นตัน) "จ...จริงเหรอ ผมกลุ้มใจมาตลอดเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ถ้าคุณบอกรับได้ล่ะก็..." หยุดพูดแล้วเดินไปพาผู้ชายอีกคนที่ยืนหลบมุมมานานออกมา

นางเอก "อ...เอ๋?" ทำหน้าสงสัยมองผู้ชายแปลกหน้ากับพระเอกสลับกัน

พระเอก "นี่คือแฟนอีกคนของผม ผมกลุ้มใจเรื่องนี้มาตลอดว่าคุณจะรับได้มั้ย แต่ถ้าคุณรับได้....เรามาทำสามพีกันเถอะ"

.
.
.
.

นางเอก "ม่ายยยยยย กรี๊ดดดดดดดด" กรีดร้องน้ำตานองหน้าอย่างโศกเศร้าแล้ววิ่งหนีออกไปทันที



#ขำๆนะคะ5555555555555 

1
Col.WindFlow Lovely 15 เม.ย. 59 เวลา 01:14 น. 10

นิยายเราก็มีเศร้านะ (ขอสปอยนิยายตัวเอง ฮา)
...พระเอกถูกโจรแทงตายต่อหน้านางเอก โจรผลักร่างพระเอกตกหน้าผา แล้วนางเอกก็กระโดดตามลงไป...

ถ้าสนใจ คลิกอ่านตอนนั้นตามลิงค์นี้เลยฮะ
http://my.dek-d.com/windflow/writer/viewlongc.php?id=1362894&chapter=25


0
laotukwaก๋าหยั่น 16 เม.ย. 59 เวลา 11:45 น. 11

ก่อนอื่นข้าน้อยขอรบกวนถามว่า..จะให้นางเอกตายด้วยอะไร
มีด.พร้า.หน้าไม้.ใสกบ.ยางลบ.ประทัด.ไหมขัดฟันหรือ..เพราะวันนั้นของเดือนเลือดจงไหลไม่หยุด  กรุณายกตัวอย่างที่ต้องการเขียนเพราะจะสามารถบอกได้ว่าเธอนั้นต้องสาหัสจัดหนักขนาดไหนก่อนที่จะสิ้นลมลงไป  แล้วปฏิกิริยาตอบสนองของชายหนุ่มที่มีก็จะแสดงออกตามเหตุการณ์นั้นๆ ขอรับ  ส่วนการพรรณนาใช้ภาษาเป็นเผาเต่านั้นถือเป็นส่วนย่อยที่เสริมเข้าไป(สำหรับข้าน้อย)ขอรับ

ปล.ต้องขออภัยหากไม่ได้ดั่งใจที่สมปรารถนา

0
นิรนาม 16 เม.ย. 59 เวลา 13:42 น. 12

ไม่เคยแต่งอะไรเศร้าๆ เลยค่ะ 5555555
เอ้า ด้นสดเลยแล้วกัน

เสียงหอบหายใจถี่ระรัว ดวงตาทั้งสองข้างเห็นสิ่งตรงหน้าได้เพียงเลือนลางเพราะน้ำตา หัวใจเจ็บปวดราวกับกำลังแตกสลาย เขาพร่ำภาวนาให้สิ่งตรงหน้ามันไม่จริง

ร่างหญิงสาวแน่นิ่ง ถ้าไม่มีเลือดที่ไหลอยู่รอบกายคงจะนึกว่าเธอแค่หลับไป แต่การหลับไหลครั้งนี้ คือการจมลงสู่ห้วงนิทราที่ไม่มีวันได้ตื่นขึ้นมาอีก

"ตื่นขึ้นมาสิคุณ ตื่นขึ้นมาสิ" ชายหนุ่มรีบพุ่งตรงเข้าไปหาร่างบอบบางพลางเขย่าร่างนั้น เผื่อว่าหญิงสาวที่รักจะฟื้นอีกครั้ง เสียงขาดห้วงเพราะการสะอื้นเอ่ยซ้ำไปมา เขาทั้งร้องไห้ ทั้งส่งเสียงขอความช่วยเหลือ แต่มันสายไปแล้ว

เธอตายจากเขาไปแล้ว ตายจากไปตลอดกาล...

ค่ะ สั้นมาก ไม่เคยแต่งอะไรแบบนี้มาก่อน กลัวไม่ดราม่าจังค่ะ ;w;

2
laotukwaก๋าหยั่น 16 เม.ย. 59 เวลา 13:51 น. 12-1
เยี่ยม ยอดเยี่ยมกระเทียมเจียวไปเลยขอรับ ถ้าหากเพิ่มรายละเอียดเกี่ยวกับสาเหตุการสิ้นลมหายใจลงไปก็จะสวดยอดไปเลยตลกจัง(อันนี้ คห. สต.นะขอรับ)
0
~hirari@yurari~ 16 เม.ย. 59 เวลา 13:45 น. 13

สำหรับเราจะเศร้าได้ตัวเองต้องรู้สึกก่อนค่ะ เอามาจากประสบการณ์ของตัวเองก็ได้ อย่างประสบการณ์อกหักรักคุดอะไรแบบนี้ รู้สึกยังไงก็เอามาเล่าตามที่รู้สึกทั้งหมด

สำหรับฉากนางเอกตายหน้าประเอกนี่ต้องบอกได้ด้วยว่านางเอกมีความสำคัญกับพระเอกยังไง เธอสำคัญขนาดทำให้ร้องไห้ได้หรือเปล่า ถ้าเป็นตามนั้นก็เล่าไปว่าร้องไห้นะ แต่เราว่าเรื่องที่เศร้าอึดอัดตัวเอกจะไม่ค่อยร้องไห้เท่าไร คือแต่ละคนมันก็ต้องมีบ้างที่อยากร้องไห้แต่ร้องไม่ออก หรือให้ตัวเอกบอกว่าตัวเองยังแข็งแกร่ง ไม่ร้องไห้หรอก แต่ปฏิกิยามันตอบสนองไปแล้วอะไรแบบนั้น คือให้ตัวละครแสดงออกอย่างเป็นธรรมชาติที่สุด อย่าพยายามฝืนให้ตัวละครร้องไห้หรือแสดงบทโศกเกินไปทั้งที่ตัวละครอาจช็อคและไม่ร้องไห้จริงๆ ก็ได้

เราพูดมันก็ยังไงอยู่นะคะ เร็วๆ นี้เราก็เพิ่งเขียนเรื่องสั้นของเด็กผู้ชายที่ถูกแม่เกลียดไว้ ไม่แน่ใจว่าจะเข้าแก็บหรือเปล่า หรือมันจะเศร้าหรือเปล่า ลองเข้าไปอ่านดูก็แล้วกันค่ะ

ลืมบอกไป อ่านด้านบนเสร็จแล้วถ้าไม่อยากเสียความรู้สึกอย่าอ่านด้านล่างนะคะ

http://writer.dek-d.com/fuyuno-hirage/writer/viewlongc.php?id=1361089&chapter=56

0
Nightmare 16 เม.ย. 59 เวลา 15:21 น. 14

เราชอบแต่งบทดราม่ามีคนตายนะ แต่คิดว่าตัวเองแต่งแย่ตลอด ปกติจะมโนว่าตัวเองกำลังตาย(บางทีก็ลองสวมบทดูบ้างอะไรบ้าง)
อันนี้ถ้านางเอกตาย มีเรื่องที่แต่งเหมือนกัน แต่ดันไม่มีพระเอกค่ะ... ถ้าให้แต่งก็คงจะ...
ดวงตาคมกริบมองภาพตรงหน้าด้วยความเจ็บปวด ชายหนุ่มวิ่งเข้าไปหาเธอ หญิงสาวผู้เป็นที่รักที่เหลือเพียงลมหายใจรวยริน
"นี่...ถ้าฉันตาย นายอย่าร้องได้ไหม" หญิงสาวเอ่ยถามด้วยเสียงแผ่วเบา
"อย่าพูดแบบนั้น ฉันไม่ให้เธอตายเด็ดขาด อดทนไว้นะ เดี๋ยวรถพยาบาลก็จะมาแล้ว" ชายหนุ่มโอบกอดร่างเธอไว้แน่น
"ฮะๆ เอาแต่ใจจังนะ" หญิงสาวพูดอย่างอารมณ์ดี แม้จะอยู่ในสถานการณ์อันเลวร้าย แม้เธอต้องตาย เธอก็จะไม่เสียใจ และไม่อยากให้ใครเสียใจ โดยเฉพาะคนที่เธอรัก
"ใช่ เพราะฉะนั้นเธอต้องห้ามขัดใจฉันนะ" ชายหนุ่มกระซิบข้างหูเธอเบาๆ
"ขอโทษ..." นั่นเป็นคำพูดสุดท้ายของเธอ ก่อนที่จะหลับใหลไปตลอดกาล
"ไม่นะ เธอจะตายไม่ได้ ขอร้องล่ะ ฟื้นขึ้นมาเถอะนะ ฉันสัญญาจะไม่แกล้งเธอ ไม่เอาแต่ใจ ได้โปรด ตื่นขึ้นมาสิ จะด่าฉัน ทุบตียังไงก็ได้ แต่ว่าอย่าจากฉันไป..." ชายหนุ่มอ้อนวอน ขอเพียงให้เธอกลับมา เขาจะยอมทุกอย่าง ทุกอย่างจริงๆ เพียงแต่คำขอของเขาไม่อาจส่งไปถึง คนรักของเขาตายไปแล้ว ไม่มีวันย้อนคืนมา
"ฉัน ต้องไม่ร้อง สบายใจ...เถอะนะ" ชายหนุ่มกล่าวเสียงสั่น พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล จะต้องไม่ร้อง จะให้เธอไม่สบายใจไม่ได้
"ฉันรักเธอนะ รักที่สุด และตลอดไป..."

อื้อ... ตายตามนางเอก คิดคำยากจริงๆค่ะ ได้ประมาณนี้ค่ะ ต่อไม่ถูกแล้ว หวังว่าจะถูกใจบ้างนะ^^

0
Valentin 16 เม.ย. 59 เวลา 15:45 น. 15

คือต้องบอกก่อนว่าจริงผมไม่ค่อยชอบโมเมนท์ที่คนจะตายแล้วมาพร่ำพรรณาอะไรกัน... เพราะในนาทีนั้นน่าจะเป็นเรื่องของความพยายามช่วยชีวิตมากกว่า...
แต่ฉากที่ผมจะทำให้เศร้าจริงๆในจะเป็นหลังความตายเกิดขึ้นแล้ว... เช่นกรณีนี้ อ๊อดกับเมืองฟ้าเป็นคนที่รักกันมาประมาณ 3 ปี แต่เมืองฟ้าที่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังจะตายเพราะโรคประจำตัว ก็พยายามจับคู่อ๊อดกับคนอื่นโดยไม่ให้อ๊อดรู้ว่าจริงๆแล้วเขาเองอยู่เบื้อง หลัง แล้วก็แกล้งทำเป็นรู้ความจริง แล้วทะเลาะกัน เพื่อตัวเองจะสามารถเดินจากอ๊อดมาได้ ตอนหลังเมืองฟ้าก็ตายเพราะโรคประจำตัว และอ๊อดที่ตอนแรกรู้ความจริงทั้งหมดแล้ว โกรธจนไม่ยอมมางานศพ แต่ในวันเผา ก็ยอมมาเล่นไวโอลีนส่งวิญญาณให้ตามคำขอสุดท้ายของเมืองฟ้าที่ฝากเอาไว้ก่อน สิ้นลม...

มาจากตอนไวโอลีนร้องไห้ ในเรื่องดวงใจของสายน้ำนะครับ

อ๊อดในชุดสีขาวล้วนเดินมาพร้อมกับไวโอลีนของเขา  เขาไม่ได้พูดกับอาราอิตอนเดินผ่านมายืนข้างๆจุ้ย เขาหันไปมองฮ้อย ก่อนจะหันไปสบตาจุ้ยแล้วก็ตั้งท่าพร้อมหนีบไวโอลีนตัวเอกเอาไว้ด้วยคาง หันไปหารูปของเมืองฟ้า

แล้วเขาก็เริ่มต้นสีเพลงที่ทำให้เขาได้พูดคุยกับเมืองฟ้าเป็นครั้งแรก

Sad Romance ของ Ji Pyeongkeyon..

เสียงไวโอลีนนั้นยิ่งทำให้บทเพลงที่ประพันธ์อย่างเศร้าสร้อยอยู่แล้วก็ยิ่งเศร้าไปมากกว่าเดิม  เสียงของมันพริ้วไหวและคล้ายกับการครวญสะอื้นของสายลมที่อยู่รอบตัว

เราพึ่งย้ายมาน่ะ

ทำไม อ๊อดเศร้าจังเลย คือเมืองอาจเล่นดนตรีสากลไม่เป็นนะ แต่ชอบฟังมากๆ  โดยเฉพาะไวโอลิน  แต่เสียงไวโอลินของอ๊อด เมืองว่ามันเศร้าจัง มีเรื่องอะไรรึเปล่า

โอ๊ยแล้วจะเสียใจทำไมเนี่ย... ได้ที่สองจากคนเป็นร้อยก็เก่งจะแย่แล้ว

อ๊อด บางอย่างมันไม่ต้องมีเหตุผลหรอก เราก็แค่ทำตามหัวใจของเรา เราอยากเป็นอะไร หรือไม่อยากเป็นอะไร  มันอยู่ที่ตัวเราตัดสินใจไม่ใช่เหรอ... ในโลกของเมืองไม่มีพระเจ้ากำหนด  แม่บอกว่าเราเป็นคนตัดสินใจด้วยตัวเองทั้งหมด

สำหรับเมือง... เมืองไม่อยากรู้ว่ามันผิดหรือถูกแต่ เมืองแค่อยากจะอยู่ใกล้คนที่เรารักเท่านั้นเอง

แล้วน้ำตาก็อาบลงมาอย่างห้ามไม่ได้ ในม่านน้ำตา ดวงตาที่จับไปรูปของเมืองฟ้า อ๊อดคล้ายจะเห็นเทวดาตัวน้อยของเขา  เทวดาที่ยืนเคียงข้างเขาในตอนที่ต้องเผชิญหน้ากับช่วงเวลาที่อัดอั้นตันใจ  เทวดาดูแลเขาด้วยความรักตลอดมา และเทวดาที่โอบกอดเขาอย่างอ่อนโยนในคืนที่เหน็บหนาว

สรรค์เห็นน้ำตาที่ไหลออกมาได้จากในระยะไกล  น้ำตานั้นมาจากความเศร้าเสียใจอย่างสุดซึ้งแน่นอนที่สุด

สิทธิ  เมืองไม่ใช่แค่เพื่อนของอ๊อดใช่ไหม...เขาหันมาถามกับน้องชาย

เสียงไวโอลีนท่อนสุดท้ายหวีดขึ้นกรีดความรู้สึก  แล้วอ๊อดก็ทิ้งกายลงกับพื้นอย่างสิ้นไร้เรี่ยวแรง

จุ้ยส่งฟรุ๊ตให้อาราอิ แล้วก็นั่งลง พอเขาวางมือบนบ่าของเพื่อน อ๊อดก็กอดเขาไว้แน่น

ทำไมจุ้ย ทำไมเมืองทำแบบนี้กับข้า ข้ารักเขามากเลยรู้ไหม ทำไมเขาไม่ให้ข้าดูแลเขานาทีสุดท้าย  ทำไมเขาไม่ให้กูได้บอกลาเขา ทำไมล่ะจุ้ย  ทำไมเขาต้องทำกับข้าแบบนี้  ข้าไม่ใช่สิ่งของจุ้ย  ข้าเป็นคน คนที่รักเขา.. ทำไมเขาทำกับกูแบบนี้

จุ้ยมองหน้าฮ้อยที่ย่อเข่าลงมาข้างๆ ก่อนเขาจะตอบออกไป

แล้วถ้าเอ็งได้อยู่จริงๆ  เอ็งทำได้ไหมล่ะที่จะส่งเขาด้วยรอยยิ้ม เอ็งทำได้ไหมที่จะปล่อยเขาโดยดีโดยไม่พยายามรั้งเขาไว้ทั้งที่รั้งไม่ได้ เอ็งทำได้หรือเปล่าจุ้ยกล่าว เมืองรักเอ็งมากอ๊อด สิ่งที่เมืองทำอาจแปลกๆ  แต่เขารักเอ็งมากจนไม่รู้จะทำยังไง แล้วเขาก็เป็นห่วงเอ็งมาก ด้วยหัวใจที่อ่อนแอของเขา แต่เขากลับกลั่นใจทำในสิ่งที่เขาเจ็บปวดที่สุด" 

"-คิดว่าเขาทำได้เพราะอะไรหล่ะ  นี่มันไม่ใช่ความใจร้ายนะอ๊อด  แต่เขาทำเพราะเขาเป็นห่วงเอ็ง และเขาทำเพราะเขาทนเห็นเอ็งเสียใจไม่ได้  เขาทนที่จะจากเอ็งไปทั้งที่เอ็งกำลังร้องไห้ครำครวญไม่ได้ ทั้งหมด มันคืออะไร มันคือความรักที่เสียสละไม่ใช่เหรอ... ความรักของคนที่อยากให้-มีความสุขที่สุดในชีวิตของเขาไม่ใช่เหรออ๊อด

อาราอิต้องเบือนหนีไปจากภาพนั้น  เขามองขึ้นฟ้าเพื่อไม่ให้น้ำตาตัวเองไหลออกมา

ความเสียสละอย่างนั้นหรือ  นี่คือรูปแบบหนึ่งของความรักที่เสียสละใช่หรือไม่... เพราะรู้ว่าไม่อาจเคียงข้างจึงทนเห็นเขาไปกับคนอื่น  เพราะรู้ว่าไม่อาจจากไปโดยต้องเห็นคนรักต้องเสียใจ  ก็เลยยอมทนจากไปอย่างเดียวดาย ตายไปในความเงียบงันที่เจ็บปวด...

อย่างนี้เรียกว่าอะไร... ใช่ความรักหรือไม่ ความรักมีคำจำกัดความหลากหลาย หลากหลายเกินไปจริงๆ

0
ขนมปังแพ 16 เม.ย. 59 เวลา 17:04 น. 16

อย่าหาว่าผมโปรโมทของตัวเองเลยนะ ลองเอาไปดูก็ได้ครับ ส่วนมากก็ฟังเพลงเศร้า เน้นว่าต้องหาแบบเศร้ามากๆให้ได้ อกหักไม่เอา อาจจะเป็นการจากลาของคนสองคนที่ไม่มีวันได้พบกันอีก หรือความทุ่มเทที่ไม่ได้รับการยอมรับนะครับ
เข้าไปดูก็ได้ครับ อันนี้คัดมาแล้ว 555+

http://writer.dek-d.com/pon7020/story/viewlongc.php?id=1428230&chapter=52
และ
http://writer.dek-d.com/pon7020/story/viewlongc.php?id=1428230&chapter=54
ขอให้เสียน้ำตาดูนะมันเพิ่มมุมมอง ให้กับนิยายของตัวเองได้ดีด้วย

0
Tatakai Kiyoshi 16 เม.ย. 59 เวลา 19:14 น. 17

พริกเข้าตาครับ //โดนกระทืบ 

จริงๆผมแต่งบทเศร้าไม่เป็นนะ งั้นจะลองดูก็ได้ครับ อันนี้มาจากเรื่องสั้นที่เป็นฟิคเกมโทเค็น รันบุ (เห็นมีคนคอมเม้นว่าซึ้งตอนจบ แต่ก็ไม่แน่ใจ)

.....

กลิ่นคาวเลือดฟุ้งกระจาย ของเหลวสีแดงสดเปรอะเปื้อนไปทั่วเสื้อผ้าของข้า สีหน้าของท่านเรียวมะนั้นนิ่งเฉยแต่กลับมากมายไปด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส ใบดาบสีเงินจากบุคคลผู้ไม่ทราบชื่อเฉียดแขนของข้าและมันได้แทงทะลุร่างของท่านเรียวมะจนเห็นหยดเลือดไหลลงพื้นเสื่อทาทามิราวกับหยดน้ำฝน

  “มุตสึข้าขอโทษ” น้ำเสียงแหบพร่าของผู้เป็นนายข้าเอือนเอ่ยออกมาอย่างยากลำบาก แต่เสียงนั้นเบามากจนแม้แต่ข้ายังใช้ความพยายามกว่าจะจับใจความได้ มือทั้งสองข้างของท่านเรียวมะโอบกอดข้าไว้ในก้อมแขนอันแสนอบอุ่น ความรู้สึกตกใจจนแทบไม่อาจตั้งตัวก่อเกิดเป็นหยาดน้ำค้างดวงตาทั้งสองข้าง

  “ขอโทษนะที่ข้าไม่อาจจะเป็นนายของเจ้าได้จนถึงแก่เฒ่า แต่ข้าก็อยากขอบคุณเจ้าจริงๆ” เสียงของท่านเรียวมะเบาลงทุกที

 “ท่านเรียวมะ” สมองข้าไม่สามารถสั่งการอะไรได้ ร่างกายรู้สึกชาไปทั้งร่าง น้ำตามันหลั่งออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ถึงจะพยายามข่มมันไว้ แต่ทำไม

ทำไมมันถึงไม่ยอมฟังเจ้าคำขอร้องของข้าเสียที

  “ช่วงเวลาที่ข้าได้อยู่กับเจ้า มันช่างเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดในโลกเลยล่ะ มุตสึ ขอบใจนะที่เจ้าอยู่เคียงข้าตลอดจนถึงตอนนี้” มืออุ่นๆของท่านเรียวมะลูบผมของข้าอย่างอ่อนโยน ท่านเรียวมะยิ้มบางๆให้ข้าเหมือนเป็นสัญญาณบอกลาจาก “ลาก่อนมุตสึ”

ก่อนที่ร่างที่เต็มไปด้วยเลือดจะถลาลงไปข้างหน้า โดยที่ข้าไม่อาจจะทำอะไรได้

  “

เหมือนจิตใจข้านั้นแตกสลายลง ณ บัดนั้น ความรู้สึกเสียใจจนหาคำอธิบายไม่ได้ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ร่างกายที่รู้สึกชาเมื่อตอนต้นเปลี่ยนเป็นความรู้สึกร่างกายอ่อนแรงอย่างกะทันหัน

  “ท่าน....เรียมะ” ปากของข้าสั่นระรึกพร้อมกับน้ำตา สิ่งที่ข้าทำได้ในตอนนี้ คือการจ้องมองร่างปราศจากลมหายใจของท่านเรียวมะ ถึงแม้ข้าจะเรียกให้ท่านเรียวมะกลับมา แต่ก็ไม่อาจทำให้ท่านเรียวมะได้ฟื้นจากความตายได้อีกครั้ง  ข้าได้แต่จับมือที่ยังอุ่นๆอยู่ของท่านเรียวมะที่โอบกอดข้าเป็นครั้งสุดท้าย กลิ่นเลือดติดอยู่ปลายจมูกไม่หาย

ทำไมกัน ทำไมฟ้าถึงลิขิตให้เราสองคนต้องแยกจากกันด้วย

  “ท่านเรียวมะขอรับได้โปรดฟื้นขึ้นมาเถอะขอรับได้โปรด!!” ถึงจะตะโกนเรียกจนคอแห้ง ท่านเรียวมะก็มิอาจจะฟื้นจากความตายได้เช่นเดิม มือของข้าคว้านหาอีกหนึ่งสมบัติของท่านเรียวมะ

   Smith & Wesson…

มือที่สั่นของข้าหยิบสิ่งนั้นขึ้นมา ประทับมันแนบอกจนสัมผัสได้ถึงเสียงหัวใจที่ยังเต้นอยู่ของตัวเอง

  “…ท่านเรียวมะ” น้ำตานั้นยังไม่มีแววว่าจะหยุดไหล ข้านั้นได้โอบกอดสิ่งที่พอจะเป็นตัวแทนของท่านเรียวมะเหมือนกับที่ท่านเรียวมะได้โอบกอดข้า

ดาบมุตสึโนะคามิ โยชิยูกิได้รำไห้ต่อการตายของซากาโมโตะ เรียวมะผู้เป็นนายด้วยใจที่แตกเป็นเสี่ยงๆ แม้นดาบจะไม่เกิดรอยร้าวที่ใบมีด มีเพียงรอยทะลุที่ปลอกเท่านั้น แต่นั้นก็ทำให้ดาบเล่มหนึ่งรู้สึกเสียใจจนไม่อาจหาคำพรรณนาความรู้สึกนี้ได้

  “ถึงชีวิตของข้าอาจจะเลือกเกิดมาเป็นดาบที่ดีและสมบูรณ์แบบไม่ได้ แต่ข้าก็จะเลือกเป็นดาบที่ภักดีต่อท่าน แม้กระทั้งวาระสุดท้ายของท่าน ข้าก็จะไปหนีไปไหนเด็ดขาด” ดาบแห่งซากาโมโตะ เรียวมะกล่าวเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่หลายร้อยปีให้หลัง ดาบเล่มนี้จะได้ตั้งแสดงในพิพิธภัณฑ์ ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาและยลโฉม

 

0
Crimson Rose 16 เม.ย. 59 เวลา 20:30 น. 18
อ่า ไม่รุ้ใช้ได้รึเปล่า ลองดูแล้วกัน แต่อันนี้คนตายคือผู้ชายนะ

“หนาว...ผมหนาว...”

เสียงของไมลส์ซึ่งครางต่ำๆสลับกับเสียงไออย่างรุนแรงในช่วงกลางดึกปลุกให้อังเกลิคตื่นขึ้นมาอีกครั้งหลังจากที่เพิ่งพักผ่อนไปได้ไม่ถึงสองชั่วโมง หญิงสาวเดินตรงไปยังเตียงของอีกฝ่ายโดยไม่เปิดไฟเพราะเกรงว่าลูกน้อยจะงัวเงียตื่น ก่อนที่จะค่อยๆ เลิกผ้าห่มของอดีตผู้เป็นสามีลงพร้อมกับเขย่าตัวเรียกเขาให้ลืมตาตื่น

“ไมลส์...ไมลส์...เป็นอะไรหรือเปล่า?”

อีกฝ่ายไม่ตอบ หากแต่เสียงหอบหายใจติดๆ ขัดๆ และอาการไอที่รุนแรงกว่าครั้งก่อนๆ ทำให้หญิงสาวเฉลียวใจว่าอาการของเขาคงจะทรุดลงอีกเป็นแน่ ดังนั้นเธอเริ่มต้นควานหาผ้าห่มในความมืดเพื่อห่มให้เขาคลายหนาว 

แวบหนึ่งในความรู้สึก เธอสงสารเขาเสียจับใจ...สงสารที่ต้องทำให้เขาต้องทนทรมานทั้งกายและจิตใจด้วยการมาติดอยู่กับเธอที่นี่ ถ้าหากเขาเลือกที่จะทิ้งเธอไว้ที่แอลไพเนีย...เขาอาจจะได้เจอใครสักคนที่รักและพร้อมจะดูแลเขาอย่างจริงใจก็เป็นได้ ไม่ใช่ต้องมาทนอยู่กับผู้หญิงที่อยากให้เขาตายอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันอย่างเธอ!

“อุ่นขึ้นไหม?”

อังเกลิคห่มผ้าผืนหนาให้กับอีกฝ่าย ไมลส์สะลึมสะลือลืมตาขึ้นมองหน้าภรรยาก่อนที่จะสั่นศีรษะ ชายหนุ่มไอออกมาอย่างหนักเสียจนดูเหมือนว่าอวัยวะภายในจะหลุดออกมาจากลำคอ เลือดสีแดงสดปนเสมหะกระเซ็นเปื้อนผ้าห่มสีขาวและเสื้อของอังเกลิคเป็นหย่อมๆ หญิงสาวหน้าซีดด้วยความตื่นตระหนก...เขาไอออกมาเป็นเลือดแบบนี้อีกแล้ว ก็ครั้งล่าสุดที่ไปโรงพยาบาลก็ดูเหมือนว่าจะไม่ไอออกมาอย่างนี้แล้วนี่...

“ไม่ต้องกังวลหรอก...ยังไงเกมนี้ผมเป็นฝ่ายแพ้อยู่แล้ว ทนๆ เอาหน่อย...เดี๋ยวอีกไม่นานคุณก็กำจัดผมได้”

อังเกลิคพยายามไม่คิดถึงคำพูดของเขา ไมลส์ส่งเสียงครางฮือๆ ในลำคอสลับกับไอออกมาอย่างหนักหน่วง สองมือไขว่คว้าไปมาในอากาศราวกับพยายามฉวยเอาสิ่งใกล้มือเป็นที่พึ่งพิงสุดท้าย อังเกลิคทนเห็นภาพอันน่าเวทนาตรงหน้าไม่ไหว...หญิงสาวโอบกอดร่างของชายหนุ่มไว้แนบอกจนได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะของอีกฝ่าย...สัมผัสได้ถึงร่างสูงใหญ่ซึ่งสั่นระริกด้วยความเหน็บหนาวราวกับลูกนกตกน้ำอยู่ในอ้อมแขนของเธอ

“อัง...เก...” ไมลส์ดูเหมือนจะได้สติขึ้นมาบ้าง น้ำเสียงแผ่วเบาเอ่ยย้ำชื่อเธออีกครั้งราวกับลูกน้อยพยายามเอ่ยเรียกผู้เป็นแม่ “อังเกลิค?”

“ไมลส์...” หญิงสาวกระซิบข้างหูเขา น้ำเสียงเร่งร้อนสั่นระรัว “คุณ...ไม่ต้องพูดอะไร ฉันจะไปหาคนมาช่วย คุณต้องไปโรงพยาบาล!"

ไมลส์ส่ายหน้าช้าๆ ชี้นิ้วตรงไปยังเบาะเล็กๆ ของลูกชายวัยสามขวบซึ่งนอนหลับปุ๋ยไม่รู้เรื่องรู้ราว “ลูก...”

อังเกลิคย้อนคิดถึงตอนที่เธอเห็นผู้เป็นพ่อเสียชีวิตกลางสมรภูมิรบด้วยสภาพอันน่าสยดสยองเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ภาพนั้นยังคงติดตามหลอกหลอนเธอมาจนถึงทุกปัจจุบัน ถึงเธออยากจะให้ไมลส์ได้เห็นหน้าลูกชายเป็นครั้งสุดท้าย...หากแต่เธอก็ไม่อยากให้ลูกเห็นพ่อตัวเองในสภาพแบบนี้...สภาพที่เต็มไปด้วยเลือดเปรอะเปื้อนเสื้อผ้าและผ้าห่มจนกลายเป็นสีแดงฉาน มันโหดร้ายมากเกินกว่าที่เด็กสามขวบซึ่งยังไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรจะรับมันไหว

เขาเร่งเสียงดังขึ้น "ลูก...อังเกลิค!"

อังเกลิคเผลอกำมือแน่นด้วยสะกดกลั้นน้ำตาอย่างสุดความสามารถ หญิงสาวได้แต่กอดเขาไว้โดยไม่พูดอะไรในขณะที่เลือดอุ่นๆ กระเซ็นเปื้อนต้นแขนของเธอพร้อมกับเสียงขอร้องแหบโหยของผู้เป็นอดีตสามี หากแต่จนแล้วจนรอด...หญิงสาวก็ไม่สามารถทนกล้ำกลืนความรู้สึกไว้ในอกได้...เธอระเบิดเสียงร้องไห้ออกมาอย่างสุดกลั้น...พร้อมๆ กับไมลส์ที่น้ำตาไหลออกมาเงียบๆ ดวงตาซึ่งค่อยๆ หรี่ปรือลงยังคงจ้องมองลูกชายซึ่งนอนหลับใหลอยู่บนเบาะมุมห้องด้วยความห่วงหาอาทร

“ไม่...” ในที่สุดอังเกลิคก็แข็งใจตอบปฏิเสธอีกฝ่ายไปพร้อมกับส่ายหน้า “ฉันไม่อยากให้ลูกต้องเห็นคุณในสภาพแบบนี้ มัน..."

“ขอร้อง....” ไมลส์ไม่รอให้อีกฝ่ายพูดจนจบ เขาส่งสายตาวิงวอนอดีตภรรยา เสียงหอบหายใจอย่างยากลำบากแทบจะดังกลบเสียงพูดแหบพร่าของเขาไปเสียสิ้น “ผมอยากกอดลูก...”

             อังเกลิคยังคงยืนกรานที่จะไม่ให้เขาทำตามสิ่งสุดท้ายที่ต้องการ เธอพยายามผละออกมาจากอีกฝ่ายเพื่อที่จะไปหยิบกุญแจห้องและโทร.เรียกรถพยาบาล ทว่าไมลส์กลับยึดข้อมือของหญิงสาวไว้ ดวงตาแดงช้ำของเขามองลึกลงไปในตาเธอราวกับมันเป็นที่พึ่งพิงสุดท้ายก่อนที่ลมหายใจจะขาดห้วง ก่อนที่เสียงโอดครวญด้วยความเจ็บปวดของเขาจะจางหายไปจนเหลือแต่เสียงถอนหายใจลึกยาวออกมาอย่างหนักหน่วง อังเกลิคสัมผัสได้ถึงจังหวะชีพจรที่ค่อยช้าลงจนกระทั่งหยุดนิ่งไปของเขา...หากแต่มือเย็นเฉียบของผู้เป็นสามียังคงเกาะกุมมือเธอไว้แน่นราวกับจะไม่ยอมปล่อยให้เธอจากไปไหน

ฉันเคยลองจินตนาการถึงชีวิตที่ไม่มีคุณอยู่ มันแปลกๆเหมือนขาดอะไรไปสักอย่าง...คุณว่าจริงไหม


0
เขี้ยวอสูร 16 เม.ย. 59 เวลา 20:31 น. 19
อืมมม 
ไม่รู้ว่าใช้ได้หรือเปล่านะครับ ^^

 
           ชายหนุ่มโอบกอดร่างเล็กของผู้หญิงที่เขารักที่สุดไว้ในอ้อมแขน  ชุดสีอ่อนที่เธอสวมอยู่เปรอะเปื้อนไปด้วยสีแดงของโลหิต  ดวงหน้าเล็กๆซีดขาวแต่ถึงอย่างนั้นริมฝีปากของเธอก็ยังคงประดับด้วยรอยยิ้ม  ดวงตากลมโตมองมาที่เขาอย่างอ่อนแรง
           
อย่าทำสีหน้าแบบนั้นสิ  ไม่เหมาะกับท่านเลยสักนิดเสียงของเธอแผ่วเบาเหลือเกินแต่เขากลับได้ยินอย่างชัดเจน  มือเรียวพยายามยกขึ้นแต่กลับไม่มีเรี่ยวแรง  ชายหนุ่มกุมมือเธอเอาไว้แล้วแนบมือเล็กๆกับแก้มของตนเอง
           
อย่าพูดอะไรอีกเลย  อีกเดี๋ยวหมอก็จะมา  เจ้าจะต้องไม่เป็นอะไร  อดทนไว้นะเขาพยายามคุมเสียงของตนเองไม่ให้สั่น  มันไม่ง่ายเลย  ทั้งๆที่เขาเคยเห็นคนตายต่อหน้าต่อตายมาหลายร้อยหลายพันครั้ง  แต่เมื่อต้องมาเห็นภาพเธอที่กำลังจะจากเขาไปเขากลับทำใจไม่ได้
            หญิงสาวยิ้มอย่างอ่อนแรง  รู้สึกได้ว่าภาพตรงหน้าเริ่มพร่ามัว  ขอบตาเริ่มเอ่อล้นด้วยหยดน้ำตา
           
ข้าเคยคิดว่าความตายนั้นช่างน่ากลัว มาวันนี้ข้ากลับคิดว่ามันไม่น่ากลัวเลยสักนิดเธอกล่าวเสียงแผ่วเบาน้ำเสียงยังคงแฝงไปด้วยความซุกซนเหมือนทุกครั้ง
           
เพียงแต่รู้สึกเสียดายนิดหน่อยที่จะไม่ได้เจอท่านอีกแล้วหลังจากที่กล่าวจบประโยคน้ำตาของเธอก็ไหลออกมาจากหางตา  ปลายนิ้วเรียวสัมผัสได้ถึงหยดน้ำที่ออกมาจากดวงตาคมของชายหนุ่ม  เธอเห็นเขาพยายามจะยิ้มแต่รอยยิ้มนั้นกลับดูตลกมาก  และเศร้ามากเช่นกัน
            หญิงสาวรู้สึกว่าเปลือกตาช่างหนักเหลือเกิน  หนักเสียจนลืมตาแทบไม่ขึ้นทั้งยังรู้สึกง่วงมากด้วย  ถ้าเธอหลับไปตอนนี้เขาจะโกรธไหมนะ  เปลือกตาบางค่อยๆปิดลงอย่างช้าๆ  เธอได้ยินเสียงของเขากำลังเรียกชื่อของเธอ  แต่เธอไม่เหลอเรี่ยวแรงมากพอที่จะตอบ
            ขอโทษนะที่ข้าไม่อาจอยู่เคียงข้างท่านได้อีกแล้ว…

            ชายหนุ่มยังคงกุมมือเรียวไว้แน่น  ริมฝีปากเอ่ยเรียกหญิงสาวนับครั้งไม่ถ้วนแต่เธอกลับไม่ลืมตาขึ้นมา 
          
ดวงตาคู่งามที่มองเขาเวลานี้กลับปิดสนิท  ปากเล็กๆที่เคยเรียกชื่อเขาเวลานี้คงเหลือเพียงรอยยิ้มบาง  ความจริงที่ว่าเธอจากเขาไปแล้วทำให้ชายหนุ่มหลับตาอย่างปวดร้าว  ไหล่กว้างสั่นเทิ้มอย่างควบคุมไม่ได้
            เขาบรรจงวางมือเธอลงอย่างนิ่มนวล  มือใหญ่เช็ดคราบเลือดที่เปรอะเปื้อนใบหน้างดงามออกอย่างอ่อนโยน  เขาโน้มศีรษะลงจุมพิตริมฝีปากสีซีดของคนในอ้อมแขนช้าๆ  จุมพิตแรกและเป็นจุมพิตสุดท้ายของเขาและเธอ

ปล. ฝากผลงานด้วยนะครับ >> The legend of causehalf ตำนานอาณาจักรมนตรา ครับ
http://writer.dek-d.com/tailmon/story/view.php?id=225297
0
lovemypen 16 เม.ย. 59 เวลา 20:40 น. 20

ผมแนะนำงี้ดีกว่า คนอ่านบอกผมเขียนแล้วเขาร้องไห้กันหลายคนอยู่แต่ผมก็ใช่ว่าเก่งอะไร
เวลาจะเขียนบทให้เศร้ามันไม่ใช่ว่าจะเศร้ากันได้บุป มันอาศัยบรรยากาศของเรื่องการปูพื้นมาแต่แรก เคยดูแม่อ้ายสะอื้นไหมครับฉากที่พี่นุ่นวรนุชรำดาบในงานศพพ่อไปแล้วสำนึกผิดไป สุดท้ายจึงเอาดาบที่รำอยู่ปาดคอตัวเอง พี่นุ่นไม่ได้พูดสักคำแต่คนร้องไห้กันทั้งประเทศ
สิ่งที่จะบอกคือที่คนร้องไม่ใช่เพราะเห็นพี่นุ่นปาดคอตัวเอง แต่เข้าสะเทือนอารมณ์จากการที่ตัวละครคิดย้อนไปตั้งแต่ชีวิตในวัยเด็กที่อยู่ในวงดนตรีกับพ่อจนกลายเป็นดาราทิ้งพ่อกับน้องให้ทุกข์ได้ยากจนมาสำนึกได้เมื่อสายเพราะพ่อเสียไปแล้ว ด้วยความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ตัวละครตัดสินใจปาดคอตัวเองซึ่งคนดูไม่คิดว่าดาวนิล(พี่นุ่น)จะทำ จากที่น้ำตาปริ่มกลายเป็นฟูฟายกันทั้งบ้านทั้งเมือง แม้ไม่ได้พูดอะไรเลยก็ตาม
หวังว่าจะเป็นประโยชน์ครับ

2
ศศิวิมาน 16 เม.ย. 59 เวลา 21:21 น. 20-1

พูดปุ๊ป ฉากนั้นวิ่งเข้ามาในหัวเลยค่ะ (บ่งบอกอายุเหลือเกิน -////-) จำได้ว่าเสียน้ำตาไปหลายปี๊ปกับฉากนั้นเหมือนกัน

0
lovemypen 16 เม.ย. 59 เวลา 22:36 น. 20-2

ผมจำได้ว่าไม่นานเท่าไหร่หรอกครับ ไม่กี่ปีมานี่เอง (เหรอออ)555 #ตอนนั้นร้องไห้หนักมากเหมือนกัน

0