Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

Muse Pass บัตรเดียวเที่ยวคุ้มพิพิธภัณฑ์ 40 แห่ง

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

     สวัสดีค่าาา หลังจากตั้งกระทู้เกี่ยวกับAdmissionไปติดๆกันถึง 2 กระทู้ ตอนนี้ก็เลยอยากตั้งกระทู้เกี่ยวกับเที่ยวๆบ้าง เพราะน้องๆหลายคนที่ได้ที่เรียนและผ่านช่วงเวลาเครียดๆกันไปแล้ว ก็คงจะอยากออกไปเที่ยวผ่อนคลายความเหนื่อยก่อนจะถึงเปิดเทอมครั้งต่อไปในเดือนสิงหาคมใช่ไหมล่ะคะ วันนี้พี่เลยจะแนะนำให้รู้จัก
 
[[ Muse Pass ]]

     Muse Pass คือ บัตรผ่านเข้าพิพิธภัณฑ์กว่า 40 แห่งในประเทศไทย ซึ่งพิพิธภัณฑ์ที่ให้เข้าได้ก็ไม่ใช่พิพิธภัณฑ์น่าเบื่ออย่างพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เสียทั้งหมด มีทั้งพิพิธภัณฑ์ของเล่น ของสะสม สวนสัตว์ พิพิธภัณฑ์3มิติ อัญมณี และอีกมากมาย
     โดยเจ้าบัตรนี้มีราคา 199 บาท มีอายุใช้งาน 1 ปีนับตั้งแต่วันที่ซื้อ ซึ่งพี่บอกตรงนี้เลยว่าคุ้มค่าม๊ากกกกกกมากกกกกก เพราะพิพิธภัณฑ์บางแห่งใน 40 แห่งที่สามารถให้เข้าชมได้ บางที่มีราคาค่าเข้าปกติถึง 300 บาทเข้าไปแล้ว แต่เพียงน้องซื้อบัตรนี้น้องๆจะได้เข้าชมฟรี แถมยังเข้าที่อื่นฟรีได้อีกถึง 39 แห่ง และภายใน Muse Pass ยังมีบัตรส่วนลดร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึกตามพิพิธภัณฑ์ต่างๆให้อีกด้วย คุ้มแสนคุ้มค่ะ
     (Muss Pass สามารถใช้เข้าพิพิธภัณฑ์ได้ที่ละ 1 ครั้ง ต่อ 1 คนเท่านั้นนะคะ แปลว่าเหมาะสำหรับคนที่อยากเที่ยวแบบหลายๆที่นั่นเองค่ะ)

 
นี่คือหน้าตาของเจ้า Muse Pass ค่ะ
อย่างที่เห็นคือถ้าเราไปที่ไหนมาแล้ว เขาก็จะปั๊มให้เราค่ะ เพราะไปได้แค่ที่ละ 1 ครั้งนอะ ^__^

     ต่อมาพี่ขอนำเสนอ รายชื่อของพิพิธภัณฑ์ทั้ง 40 แห่ง ที่เจ้า Muse Pass นี้สามารถเข้าชมได้นะคะ
1. มิวเซียมสยาม จ.กรุงเทพฯ
2. นิทรรศการภายในอาคารพระมหามณฑปฯ วัดไตรมิตรวิทยาราม จ.กรุงเทพฯ
3. นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ จ.กรุงเทพฯ
4. บ้านหมอหวาน จ.กรุงเทพฯ
5. แบทแคท มิวเซียม แอนด์ ทอยส์ ไทยแลนด์ จ.กรุงเทพฯ
6. พระราชวังพญาไท จ.กรุงเทพฯ
7. พิพิธบางลำพู จ.กรุงเทพฯ
8. พิพิธภัณฑ์กรงที่ดิน กรุงเทพฯ
9. พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศและการบินแห่งชาติ จ.กรุงเทพฯ
10. พิพิธภัณฑ์ของเล่นของสะสม ตูนนี่ (Tooney Museum) จ.กรุงเทพฯ
11. พิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก จ.กรุงเทพฯ
12. พิพิธภัณฑ์ตราไปรษณียากร สามเสนใน จ.กรุงเทพฯ
13. พิพิธภัณฑ์ต้านโกง จ.กรุงเทพฯ
14.พิพิธภัณฑ์ตำรวจ วังปารุสกวัน จ.กรุงเทพฯ
15. พิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว จ.กรุงเทพฯ
16. พิพิธภณฑ์ภาพยนตร์ไทย จ.นครปฐม
17. พิพิธภัณฑ์ภาพวาด 3 มิติ อาร์ท อิน พาราไดซ์ จ.กรุงเทพฯ
18. พิพิธภัณฑ์เครื่องถ้วย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จ.ปทุมธานี
19. พิพธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยาแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จ.กรุงเทพฯ
20.พิพิธภัณฑ์สื่อสาธารณะ จ.กรุงเทพฯ
21.พิพิธภัณฑ์สุขสะสม จ.กรุงเทพฯ
22. พิพิธภัณฑ์เหรียญ จ.กรุงเทพฯ
23. พิพิธภัณฑ์อัญมณีและเครื่องประดับ จ.กรุงเทพฯ
24. ศูนย์ประติมากรรม จ.กรุงเทพฯ
25. หอศิลป์กรุงไทย จ.กรุงเทพฯ
26. หอศิลป์ร่วมสมัย ราชดำเนิน จ.กรุงเทพฯ
27. หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จ.กรุงเทพฯ
28. 3 ศิลป์รัตนโกสินทร์และพิพิธภัณฑ์อาคารสายสุทธานภดล มรภ.สวนสุนันทา จ.กรุงเทพฯ
29. ศูนย์เรียนรู้ตันแลนด์ ดินแดนแห่งความสมดุล จ.พระนครศรีอยุธยา
30. เรียลซู สวนสัตว์แปลก จ.พระนครศรีอยุธยา
31. หอนิทรรศการ ศ.ศ.ป. จ.พรนครศรีอยุธยา
32. พิพิธภัณฑ์ตราไปรษียากร จ.ขอนแก่น
33. พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านจ่าทวี จ.พิษณุโลก
34. พิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัว จ.ภูเก็ต
35. พิพิธภัณฑ์ซับจำปา จ.ลพบุรี
36. พิพิธภัณฑ์ริบลี่ส์ เชื่อหรือไม่! จ.ชลบุรี
37. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติธรณีวิทยา เฉลิมพระเกียรติ จ.ปทุมธานี
38. ศูนย์การเรียนเมืองฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา
39. หมู่บ้านโขน จ.นครปฐม
40. อุทยา ร.2 อัมพวา จ.สมุทรสงคราม

     ครบ 40 แห่งแล้ว!! เป็นไงคะน้องๆ มีที่ไหนที่อ่านชื่อแล้วอยากไปบ้าง สำหรับพี่นี่มีเยอะแยะเลยแหละค่ะ ทั้งอาร์ท อิน พาราไดร์ ทั้งพิพิธภัณฑ์อัญมณี ทั้งเรียลซู โอยยย เยอะแยะมากมาย แล้วพี่ขอแอบกระซิบนิดนึงว่า พิพิธภัณฑ์ริบลี่ส์นี่แหละค่ะตัวคุ้มเลย เพราะปกคติค่าเข้าที่รีบลี่ส์แห่งนี้อยู่ที่ 390 บาทเลยค่ะ
    จากรายชื่อทั้งหมดที่พี่ว่ามา หลายคนคงสังเกตว่าพิพิธภัณฑ์บางที่ก็อยู่ต่างจังหวัดใช่ไหมคะล่ะ หรือไม่บางที่ก็ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน แต่ไม่ต้องกลัวจะไปไม่ถูกหรอกนะคะ เพราะพอเราซื้อบัตร Muse Pass เขาจะให้เแผนที่พร้อมกับรายละเอียดวิธีการเดินทางพร้อมเวลาเปิดทำการของพิพิธภัณฑ์แต่ละที่มาให้ เพราะงั้นไม่ต้องกลัวหลงแน่นอนค่ะ!! และอีกอย่างคือพิพิธภัณฑ์ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในสถานที่ที่สามารถเดินทางไปได้ง่ายอยู่แล้วล่ะค่ะ 

    ส่วนสามารถซื้อบัตร Muse Pass ได้ที่ไหนนั้น ก็ซื้อได้ตามพิพิธภัณฑ์ที่อยู่ในโครงการเลยค่า หรือจะซื้อที่ KTC Touch ก็ได้ค่ะ ทุกสาขาเลย ซึ่งบัตรนี้จะมีระยะเวลาจำหน่ายถึงแค่วันที่ 30 กันยายนปีนี้เท่านั้นนะคะ 


     ไหนๆก็ไหนๆแล้ว พี่ขอเล่าที่มา Muss Pass ของพี่ให้น้องๆฟังหน่อยเนอะ ที่พี่มารีวิว Muse Pass นี่พี่ไม่มีผลได้จากการช่วยโฆษณาใดๆ เป็นความประทับใจที่อยากมาเล่าให้ฟังล้วนๆ 5555
     เริ่มจากวันนั้นพี่อยากไป Tooney Museum ค่ะ พอไปถึงเจ้าหน้าที่ก็แนะนำให้พี่ซื้อ Muse Pass เพราะค่าเข้าปกติของตูนนี่อยู่ที่ 150 บาท เพิ่มอีกไม่กี่บาทก็ได้ Muse Pass แล้ว จากที่ชอบเที่ยวพิพิธภัณฑ์อยู่แล้วเลยเลือกซื้อMuse Passมาค่ะ พอกลับบ้านมาเอามาเล่าให้คุณพ่อฟัง ท่านก็เห็นดีเห็นงามโดยการพาไปพิพิธภัณฑ์ที่อยู่ต่าางจังหวัดที่พี่คงไปด้วยตัวเองไม่ได้ พี่ก็เลยได้มา Tan Land ศูนย์การเรียนรู้ของบริษัท อิชิตัน ที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ บอกตามตรงว่าประทับใจมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เพราะที่นี่ให้เราดูกระบวนการผลิตน้ำชาอิชิตันเลยค่ะ สุดยอดมากๆๆๆๆ แล้วเนื่องจากที่นั่นเข้าชมฟรีอยู่แล้ว เขาเลยบอกว่าสำหรับคนที่มาเข้าชมด้วย Muse Pass จะได้รับของที่ระลึกกลับไปด้วยและสามารถซื้อสินค้าที่ระลึกได้ในราคาลด 15 เปอร์เซ็นต์ มันเลยทำให้พี่ยิ่งประทับใจกับบัตร Muse Pass ใบนี้มากขึ้นไปอีกค่ะ ก็เลยอยากมาแบ่งปันความประทับใจนี้ในทุกๆคนได้ลองไปสัมผัสบ้าง อิอิ 


อันนี้รูปที่ถ่ายจาก Tan Land ค่ะ ไลน์ผลิตอลังการมาก O[_]O

   สุดท้ายนี้ของฝากไว้ว่า พิพิธภัณฑ์ไม่ใช่ที่ๆมีแต่ของโบราณน่าเบื่อเสมอไปนะคะ บางทีเราอาจได้พบเจอกับสิ่งใหม่ๆที่ทำให้เราประหลาดใจ หรือได้ลองทำอะไรที่ไม่เคยทำมาก่อนก็ที่พิพิธภัณฑ์นี่แหละค่ะ นอกจากน้องๆจะได้รู้จักสิ่งรอบตัวมากขึ้น มันยังทำให้น้องๆรู้สึกตื่นเต้นสนุกสนานไปกับมันด้วยค่ะ เพราะงั้นมาเที่ยวพิพิธภัณฑ์กันเถอะนะคะ  ^_____^

Let's GO!!!!
 


ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความสนใจกระทู้นี้และอ่านมาถึงตรงนี้นะคะ

P' Nam

แสดงความคิดเห็น

>

3 ความคิดเห็น

อองฟอง 17 มิ.ย. 59 เวลา 07:15 น. 1

เราก็เคยอยากซื้อ muse pass เหมือนกันค่ะ มีช่วงนึงเที่ยว 4 พิพิธภัณฑ์ในอาทิตย์เดียว พอจะซื้อก็กลายเป็นว่าไม่มีเวลาได้ไปแล้ว เห็นอย่างนี้ก็อยากได้มาไว้ในครอบครองเลยค่ะเผื่อว่างๆก็ขับรถไปชมชิวๆได้

อนึ่งเราติดใจสงสัยเรื่องรูปที่ จขกท.นำมาลงค่ะ เราไม่ทราบว่าที่นั่นเขาอนุญาตให้ถ่ายรูปแล้วเผยแพร่ได้หรือเปล่า (เรายังไม่เคยไป) เพราะอาจจะเกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิตของเค้า คือเราเคยฝึกงานที่โรงพิมพ์แห่งหนึ่งแล้วมีโอกาสได้เข้าไปอยู่ส่วนที่จัดออร์เดอร์หนังสือระยะนึงเขามีกฏว่าห้ามถ่ายรูปด้วยค่ะเพราะหากถูกนำไปเผยแพร่แล้วจะกระทบกับระบบการทำงานของเค้า(ประมาณว่าเดี๋ยวคู่แข่งมาเห็นเข้ามันจะไม่ดี)
ที่นำมายกตัวอย่างเพราะเห็นว่าเป็นโรงงานผลิตเหมือนกัน เราก็ไม่ทราบว่าที่ตันแลนด์ให้เผยแพร่รูปเป็นสาธารณะได้ไหมก็อยากฝากจขกท.ไว้
หากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยค่ะ

1
Tsuji Nami 17 มิ.ย. 59 เวลา 14:22 น. 1-1

สามารถถ่ายรูปได้ค่ะ ทางตันแลนด์อนุญาตให้ถ่ายรูปได้หมด แต่ไม่อนุญาตให้ถ่ายวิดิโอค่ะ
อีกอย่างทางตันแลนด์เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมบริเวณนี้ได้ฟรีอยู่แล้ว
เราคิดว่าถ้าเขากังวลเรื่องเครื่องจักรกระบวนการผลิตรั่วถึงคู่แข่ง เขาคงไม่ทำแบบนี้ค่ะ
เพราะมีโอกาสที่บริษัทคู่แข่งจะเข้ามาชมในฐานะนักท่องเที่ยวอยู่เยอะ
ทางตันแลนด์คงคิดมาแล้วว่าในส่วนที่ให้ดูจะไม่กระทบกับความลับทางการค้าค่ะ ^^
(สำหรับโรงงานอาหารแล้ว เรื่องที่เป็นความลับทางการค้า น่าจะอยู่ในส่วนLabที่ไม่เปิดให้เข้าชมมากกว่าน่ะค่ะ
เพราะเราก็เรียนสาขาที่ฝึกงานสายโรงงานมาเหมือนกัน พอจะทราบอยู่ค่ะว่าบางบริษัทซีเรียสเรื่องถ่ายภาพภายในบริษัท
ยังไงก็ขอบคุณที่ทักท้วงนะคะ ^_^)

0
minkntc 14 พ.ย. 62 เวลา 15:53 น. 3

คุณรู้จัก ‘สีลม’ มากแค่ไหน ?

เมื่อพูดถึง ‘สีลม’ แล้วคุณนึกถึงอะไร ?...

ความบันเทิงยามราตรี แสงสีแห่งมหานคร การสัญจรที่แสนจะสะดวกสบาย... ใช่หรือเปล่า ?

รู้หรือไม่... ว่านอกจากนั้นแล้ว สีลมยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ทางการค้าของสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับอีกด้วย

มีร้านค้าอัญมณีมากกว่า 100 ร้านในย่านนี้... โดยมีสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ(องค์การมหาชน) เป็นจุดศูนย์กลาง...

ใช่ครับ ! นี่คือที่ที่ผมจะแนะนำให้ทุกท่านได้รู้จักกัน...

สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ตั้งอยู่ที่อาคารไอทีเอฟ-ทาวเวอร์ ถนนสีลม แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก จ.กรุงเทพฯ ที่นี่นับได้ว่าเป็นจุดศูนย์กลางของงานอัญมณีเลยล่ะครับ ทั้งมีบริการให้ความรู้ผ่าน ‘หลักสูตรฝึกอบรม’ ‘พิพิธภัณฑ์อัญมณีและเครื่องประดับ’ และ ‘ห้องสมุดอัญมณีและเครื่องประดับ’ มีบริการจำหน่ายสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ ในชื่อ ‘Temp pop-up store by GIT’ และนอกจากนั้น ยังมีบริการตรวจสอบอัญมณีและโลหะมีค่าอีกด้วย

สำหรับการเดินทาง หากท่านเดินทางด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส ให้มาลงที่สถานีช่องนนทรี แล้วเดินต่อประมาณ

300 เมตรก็จะพบอาคารไอทีเอฟ-ทาวเวอร์ครับ

เอาล่ะครับ... ได้เวลาที่ผมจะพาทุกท่านเดินสำรวจแต่ละหน่วยงานของสถาบันฯ แห่งนี้ไปพร้อมๆกันแล้ว

ล่ะครับ !

เริ่มจากพิพิธภัณฑ์อัญมณีและเครื่องประดับ ที่นับว่าเป็น ‘ไฮไลต์’ ของที่นี่ละกันนะครับ... เมื่อเดินเข้ามาถึง สิ่งแรกที่ทุกท่านจะเห็นคือ ‘อเมทิสต์’ - อัญมณีสีม่วงก้อนใหญ่ที่ตั้งเอาไว้กลางห้อง ประหนึ่งว่าจะตระเตรียมไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนพิพิธภัณฑ์แห่งนี้... นอกจากนั้น เมื่อมองออกไปรอบข้าง ก็จะเห็นว่ารอบกายของท่านถูกรายล้อมไปด้วยตัวอย่างอัญมณีมากมายที่แพรวพรายและงามระยับรับกับแสงไฟ ชวนให้เราหลงใหลเหมือนต้องมนต์สะกด เคียงคู่ไปกับองค์ความรู้ที่ถูกจัดแสดงผ่านทางป้ายนิทรรศการ ซึ่งให้ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับอัญมณี ตั้งแต่เรื่องการจำแนกประเภท การจัดระดับคุณภาพ คุณสมบัติ ระบบผลึก ปรากฏการณ์ทางแสง ตลอดจนเส้นทางการเดินทางของอัญมณี ตั้งแต่ ‘ต้นน้ำ’ อันได้แก่ กำเนิดอัญมณีและการทำเหมือง ไปจนถึง ‘ปลายน้ำ’ ซึ่ง

ก็คือ ขั้นตอนในการเจียระไน การออกแบบ และการปรับปรุงคุณภาพอัญมณีก่อนออกจำหน่ายส่งถึงมือผู้บริโภค นอกจากนี้ ยังช่วยชี้ให้เห็นถึงบทบาทของอัญมณีในสังคมไทย ตั้งแต่ในอดีตที่นิยมใช้กันในราชสำนัก ในฐานะที่เป็นสิ่งมงคลและมีค่า ตราบจนถึงปัจจุบันที่ธุรกิจอัญมณีได้เจริญเติบโตและพัฒนาจนกระทั่งมีบทบาทในฐานะที่เป็นอุตสาหกรรมสำคัญซึ่งนำรายได้เข้าสู่ประเทศเป็นจำนวนเงินมหาศาลในแต่ละปี

ต่อมา คือ ห้องปฏิบัติการตรวจสอบอัญมณีและโลหะมีค่า ซึ่งได้รับการรับรองจากสมาพันธ์อัญมณีโลก (CIBJO) มีหน้าที่ในการตรวจวิเคราะห์จำแนกอัญมณีธรรมชาติ อัญมณีสังเคราะห์ อัญมณีเลียนแบบ รวมถึงตรวจสอบการผ่านการปรับปรุงคุณภาพของอัญมณี และค่าความบริสุทธิ์ของโลหะมีค่า ด้วยเครื่องมือที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของโลกและนักอัญมณีศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมทั้งมีการออกใบรับรองซึ่งเป็นที่ยอมรับและเชื่อมั่นกันในวงการอัญมณีไทย

ในส่วนของศูนย์ฝึกอบรม สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ได้จัดให้มีหลักสูตรฝึกอบรมด้านอัญมณีศาสตร์ ธุรกิจทองคำและโลหะมีค่า รวมไปถึงการออกแบบและการตลาด เพื่อพัฒนาบุคลากรทางด้านอัญมณี ซึ่งจะช่วยพัฒนาศักยภาพและยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับไทยในตลาดโลก

ส่วนถัดไป คือ ร้าน ‘Temp pop-up store by GIT’ อีกหนึ่งงานบริการของสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ที่ทำหน้าที่จัดจำหน่ายสินค้าในโครงการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับในส่วนภูมิภาค ซึ่งช่วยเพิ่มช่องทางในการจัดจำหน่ายสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับของผู้ประกอบการในทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย นอกจากนี้ ยังมีช่องทางการจำหน่ายในรูปแบบออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ zilingo อีกด้วย

และสุดท้าย คือ ห้องสมุดอัญมณีและเครื่องประดับ ซึ่งเก็บรวบรวมวารสาร นิตยสาร บทความ และหนังสือเกี่ยวกับอัญมณีศาสตร์ ที่นับได้ว่าเป็น ‘คลังความรู้’ ด้านอัญมณีแห่งหนึ่งที่น่าสนใจทีเดียวเลยล่ะครับ

เห็นแล้วใช่ไหมครับ ว่าสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) แห่งนี้น่าสนใจเพียงใด...

สำหรับท่านใดที่สนใจ หรือมีข้อสงสัยเพิ่มเติม ท่านสามารถสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

https://www.git.or.th หรือติดต่อได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 0-2634-4999 ในวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 9.00 - 17.00 น.

เว้นวันเสาร์ - อาทิตย์ วันนักขัตฤกษ์ และวันหยุดตามประกาศของสถาบันได้เลยครับ ^^

0