เขียนเพราะขายได้ หรือเขียนเพราะอยากเขียนกันคะ?
ตั้งกระทู้ใหม่
ทั้งความรู้สึกเริ่มแรกที่เขียน จนถึงปัจจุบันเขียนเพราะอะไร
มีใครเขียนเพราะมีเป้าประสงค์อื่นๆ บอกกล่าวกันได้นะคะ
รออ่านทุกความเห็น
46 ความคิดเห็น
ของผมยังไม่เคยขายได้ เลยยังเป็นแค่เขียนเพราะอยากเขียนอยู่ครับ
เราเป็นนักเขียนที่นิยายไม่ค่อยมีแววจะขายออกค่ะ // นั่งคุดขู้เอามือเขี่ยพื้น
//นั่งเขี่ยพื้นเป็นเพื่อน
เข้ากลุ่มนั่งเขี่ยพื้นด้วยค่ะ เขียนเพราะอยากเขียน
เราเขียนเพราะอยากเขียนคะ ไม่ได้อยากหารายได้จากตรงนี้ การเขียนนิยายมันได้อะไรหลายๆ อย่างนะ อย่างแรกเลยก็คือภาษา จากคนเขียนไม่ได้อ่านไม่ออกมาแต่งนิยายนี่เก่งเลยนะจริงๆ 555+ สองความรับผิดชอบและความอดทน จะแต่งนิยายให้จบเลยต้องอดทน อดทนกับทุกอย่างรอบๆ ตัว อดทนกับตัวเอง....พูดมานี่เหมือนตัวเองทำได้นะ 555+
สรุป...เราแต่งเพราะความชอบและสนองตัณหาตัวเองเท่านั้นล่ะไม่ได้คำนึงถึงอะไรหรอก จริงๆ นะ
เขียนเพราะอยากเขียนและอยากแต่ง
อยากเล่าเรื่องราวผ่านตัวอักษรที่ปรากฏ
อยู่บนหน้าจอ
เขียนเพราะสนุก คลายเครียดดี เลยเขียนน่ะ จบไม่จบช่างมัน
เขียนเพราะอยากเขียนค่ะ
ขาย สนพ.ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เพราะรู้อยู่ว่าเขียนเพราะอะไร
:)
เราคิดอะไรเป็นเหตุเป็นผล เรียนค่อนข้างหนัก และอยู่ในสายวิทยาศาสตร์ สมองซีกขวาที่เป็นด้านจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์เลยแทบไม่พัฒนา เราเลยเริ่มเขียนนิยาย และรู้สึกว่ามีความคิดส้รางสรรค์เพิ่มขึ้น มีความสุขมากขึ้นค่ะ
รู้สึกว่าพรสวรรค์ของตัวเองคือด้านการเขียน การใช้ภาษและความคิดสร้างสรรค์ ถ้าหากไม่เขียนนิยาย คงไม่รู้ตัวว่ามีพรสวรรค์ค่ะ
อีกอย่างเขียนเพื่อเรียนรู้โลกกว้าง เวลาเขียนแต่ละเรื่องต้องค้นหาข้อมูลเยอะมาก ๆ เลยทำให้เป็นคนชอบสังเกต ชอบค้นหาไปเสียแล้ว
ปล.เราเกิดราศีคนคู่ด้วยค่ะ ราศีที่มีพรสวรรค์ด้านภาษา เลยคิดว่าชอบการเขียนตั้งแต่เกิด พอมาเขียนเลยหยุดเขียนไม่ได้
คล้ายๆเราเลย แต่เราหนักไปทางใช้ลายเส้นซะมากกว่า ราศีคนคู่นี่มาทั้งศาสตร์และศิลป์จริงๆค่ะ
แสดงว่าเขียนการ์ตูนใช่ไหมคะ ^ ^ ชอบจัง เจอคนเหมือนกันแล้ว
ผมเขียนเพราะอยากเขียนครับไม่มีอะไรเลยนอกนั้น แต่ติดตรงที่คำผิดเยอะไปหน่อยไม่สิมากเลยต่างหาก
เขียนเพราะอยากเขียนครับ :]
ผมก็เขียนเพราะอยากเขียนเหมือนกันครับ มันเป็นความรู้สึกง่ายๆที่ผลักดันทุกคนมาจนทะกวันนี้ เพราะความเชื่อ ความรัก ความศรัทธา ควบคุมพฤติกรรมมนุษย์ได้มากกว่าเหตุผล(จิตวิทยาอีกแล้ว5555 เพราะงั้นแหละถึงรู้เหตุผลให้ตาย คนก็เลิกบุหรี่หรือลดความอ้วนไม่ได้ ถ้าไม่มี'แรงจูงใจ')
ถ้าวันไหนเกิดลงมือทำด้วย'เหตุผล'อาจจะเป็นเงินขึ้นมา มากกว่าความรัก ผมว่าแย่เลยครับอย่างนั้น
แต่ผมก็เคยนะช่วงนั้นฟัง พี่illslick มาก(แรปเปชื่อดัง เจ้าของเพลงรักเมียที่สุดในโลกจ้า) รู้สึกพี่เขาเจ๋ง อยากรวยแบบพี่เขาบ้าง เราเลยตั้งหน้าจอโทรศัพท์เป็นแลมโบเลยจ้าา เป็นเป้าหมายในการทำงานไรงี้
แต่คิดดูดีๆแล้วก็เอาออกละ สุดท้ายอยากเขียนเพราะความรักในงาน ความศรัทธาในความเป็นนักเขียนมากกว่า ควรเอาใจไปผูกไว้ที่แก่น ไม่ใช่ที่เปลือก ถึงมีตังซื้อแค่จักรยานก็จะเขียน (จักรยานก็พอใจแล้วละจริงๆ5555 แลมโบคันละสามสิบล้าน แต่นั่งได้สองคน! จักรยานยังซ้อนสามได้เลยด้วยซ้ำ// คุ้มกว่าแลมโบ!55555)
ยิ่งเขียนแนวให้ข้อคิดแนวคิดแบบผม แล้วมีเป้าหมายว่าเขียนเพราะอยากได้รถ เหอะๆ ตลกตัวเองจริงๆ แต่ก็ดีแล้วล่ะ มันก็ทำให้ผมคิดได้ และจะไม่เป็นแบบเดิมอีก ฮึบๆ^^
ปกติเขียนเพราะอยากเขียน แต่ถ้าอยากได้ตังค์ ก็จะเขียนเรื่องที่ขายได้หาตังค์กินหนม (แม้ไม่แฮปที่จะเขียนเท่าไร)
นี่ล่ะความจริง
แต่สิ่งที่คนเขียนทุกคนต้องการคือ งานที่เขียนเพราะอยากเขียนขายได้ขอรับ แต่ใช่ว่าทุกคนจะทำแบบนั้นได้ จะด้วยความสามารถ รสนิยม ความชอบ หรือแม้กระทั่งอัตตาหรือทิษฐิของคนเขียนเองก็ตามทีขอรับ
อุ่ย ถูกทุกข้อเลยยยย
ความสามารถ รสนิยม ความชอบ หรือแม้กระทั่งอัตตาหรือทิษฐิของคนเขียนเอง
เขียนเพราะอยากเขียน
พอมันขายได้ ก็มีความอยากเขียนเพิ่มเรื่อย ๆ 555
แต่ไม่เคยเขียนเพราะอยากขาย
ขอบคุณสำหรับคำตอบนะคะ
อ่านเร้นรอยจบแล้ว กำลังเก็บตังค์รอเล่นเล่ห์ของพี่อยู่
ในความคิดเรานะคะ ไม่ว่าจะเขียนด้วยสาเหตุใด ลึกๆในใจก็ต้องมีเรื่องเงินแอบแฝงอยู่บ้างล่ะไม่ว่ามันจะเป็นเหตุผลหลักหรือรอง
เมื่อเขียนเพราะอยากเขียนแล้วงานที่ออกมาสามารถขายได้ ก็เป็นกำลังใจให้คนเขียน เขียนต่อชิ้นต่อๆไปได้อีกเรื่อยๆ
ในฐานะผู้บริโภค เราก็ยินดีที่จะจ่ายและอุดหนุนนิยายของผู้เขียนเราคิดว่าสนุกและดี คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป
ไม่ว่าคนเขียนจะเขียนด้วยเหตุผลไหนก็ตาม
ส่วนตัวพี่นะคะ (คนอื่นจะยังไง ก็ไม่รู้กับเขาเนอะ)
อยากขาย มาทีหลัง ๆ ค่ะ
ตอนแรกเลย มีความอยากเขียนก่อน เขียนไปสักพักอยากให้มีคนอ่าน
พอมีคนอ่าน ก็เริ่มคิดแระ น่าจะขายได้เนาะ ก็ค่อยทำออกมาขาย
แต่ก็น่าจะมีคนที่เขาตั้งใจเขียนเพื่อให้มันขายได้ ซึ่งก็ไม่ผิดนะ
เพราะกว่าจะขายงานได้แต่ละเรื่อง ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ
ยิ่งตั้งเป้าจะขายให้ได้ พี่ว่า...
ต้องใช้ความอุตสาหะวิระยะ พยายาม อดทน อดกลั้น อดกิน อดนอน และอาจจะเครียด (กลัวขายไม่ได้)
เพราะงั้นพี่เลือกทางง่าย(สำหรับพี่ค่ะ) ตูอยากเขียนค่อยเขียน ขายได้ไม่ได้ว่ากันทีหลัง แฮ่ ๆ
ด้วยเหตุฉะนี้ บางทีพี่ก็ขึ้นกระทู้ยาวววววววววววว เวอร์ ใช้เวลาเขียนน๊าน นาน มีคนจิกหัวด่า มีคนค่อนแคะ มีเกรียนป่วนก็เยอะ ตังค์ก็ไม่ได้
แต่นางก็ยังหน้าด้านเขียน 5555555555
2คำครับ สำหรับผมคือ 'ใจรัก' ผมชอบการเขียนที่ผ่านจิตนาการมากครับ อิอิ
ตอนแรกเขียนเพราะหงุดหงิดเวลาไปอ่านนิยายคนอื่นแล้วขัดใจ
เลยเปิดเรื่องเขียนเองซะเลย ตัวละครเป็นของเรา เนื้อเรื่องเรากำหนดเอง
ส่วนขายได้เนี่ย ผลพลอยได้มากกว่า ซึ่งก็เป็นเรื่องดีนะ
คนเขียนจะได้มีกำลังใจปั่น ฮ่าๆ
จุดหมายทุกคนคงเมือนกันนั้นแหละครับ สุดท้ายก็หวังให้นิยายที่เขียนสามารถหารายได้ให้กับตัวเอง ถึงจะเริ่มจากการอยากเขียน อยากระบายความคิดของตัวเอง แต่มันก็อดไม่ได้อยู่ดีที่จะแอบหวังเล็กๆ ว่าสักวันคงมีคนสนใจ แต่ถึงกระนั้นก็จริงสิ่งที่เจ้าของกระทู้ถาม มันคงหาคำตอบได้ยาก เพราะทุกคนคิดไม่เหมือนกันดังนั้น ผมคิดว่าถามตัวเราเองดีกว่าครับว่าเราต้องการแบบไหน
อันนี้จริงที่สุด แม้จะมีงานประจำที่ต้องทำ จะบอกว่าไม่แคร์ก็ไม่ใช่ เรายังแอบหวังเล็กๆเลยค่ะ ว่างานเราจะมีคนยอมรับ (ทั้งที่ส่วนใหญ่ไม่ได้เขียนนิยายตามกระแส ฮ่าๆ แล้วจะมีคนยอมรับมั้ยนั่น)
เริ่มแรก เขียนเพราะอยากเขียนครับ
เวลาผ่านไป...
ตอนนี้จับของยากขึ้น คือเขียนงานที่มันขายได้ งานที่มีคนสนใจ ใครผ่านมาอ่านถึงกับต้องร้อง "ว้าว"
แต่ไม่ว่าจะเขียนเพราะอะไร ความรู้สึก "สนุก" ที่ได้เขียนยังคงมีอยู่เสมอครับ ^^
ยังอยู่ในขั้นเขียนเพราะอยากเขียน
แต่ตั้งเป้าหมายไว้ว่า สักวันต้องเขียนให้งานขายได้
ผมอยากมีโมเม้นท์ ที่มีคนยินดีจ่ายเพื่อเสพผลงานของเรา (ฮา)
เตรียมทรัพย์ไว้โดน สองปีแล้วนะครับ
เรื่องแรกที่แต่งอยู่นี่ เขียนเพราะอยากเขียนล้วนๆเลย 55555 ขายได้มั้ยอีกเรื่อง ขายได้ก็ดีใจแหละ ทำปก ebook รอรีไรท์งานเสร็จไว้ละ ขายไม่ได้เราก็ไม่ซีเรียส ดีใจที่ได้แต่งมันจบก็สุดๆละ
เรื่องสองนี่ อบากอ่านเองผสมกับอยากขาย 555555 เลยมาทางตลาดบ้าง
แต่เมนหลักของทุกเรื่อง คือตัวเราอยากอ่านเองที่สุด ^^
เขียนเพราะอยากเขียนค่ะ เคยขายอยู่เหมือนกันแต่แค่เรื่องเดียวนะ เป็นหนังสือทำมือด้วย กำรี้กำไรไม่ค่อยมี
เคยเขียนส่งสนพ. โดนปฏิเสธกลับมา แต่พอมาลงเว็บ ผลตอบรับดีเกินคาด ดีเกินจนตัวลอยเลยค่ะ
ตอนนี้แต่งฟิคเกาหลีอยู่ค่ะ ไม่คิดจะขาย แค่อยากแต่งให้อ่านกับฝึกเขียนฝึกใช้ภาษาฝึกวางแผนวางโครงเรื่องนั่นแหล่ะค่ะ ที่ผ่านมาไม่เคยเขียนนิยายลงเว็บ แต่เขียนการ์ตูน ดังนั้นการใช้ภาษาในการบรรยายเรื่องจะแตกต่างกัน การ์ตูนสื่อสารผ่านลายเส้น นิยายผ่านตัวอักษรและจินตนาการ
มันค่อนข้างท้าทายสำหรับเรา จากที่เคยเล่าเรื่องด้วยภาพกลายเป็นถ่ายทอดด้วยตัวหนังสือ ได้สัมผัสความยากง่ายในการเขียนแต่ละแบบ ได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆทุกครั้งที่เขียน
ถามว่าอยากขายไหม? เราก็อยากขายนะ ความฝันนึงคือการได้ตีพิมพ์ มันคือที่สุดของที่สุดจริงๆค่ะ แต่ก็อีกนั่นแหล่ะ แนวการเขียนเราคือเขียนเรื่องที่อยากเขียน ไม่ค่อยสนใจตลาดสักเท่าไหร่ ถึงจะเป็นเช่นนั้นเราก็จะสร้างสรรค์ผลงานต่อไปเรื่อยๆ คนมีหลากหลาย นักอ่านก็มีหลากหลาย มันต้องมีสักวันที่เป็นของเรา ไฟท์ติ้ง
เขียนเพราะอยากเขียนค่ะ อีกอย่างยังไม่เคยขายนิยายได้ซักเรื่องด้วย ฮ่าๆ
เขียนเพราะอยากเขียนค่ะ
เวลาอยากดองก็จะได้ดองเลย...
เขียนเพราะว่าอยากระบายความเครียดให้ไปอยู่กับจินตนาการค่ะ
เขียนเพราะว่าอยากระบายความเครียดให้ไปอยู่กับจินตนาการค่ะ
เขียนเพราะอยากเขียนค่ะ ตามมาทีหลังคือเรื่องการขาย แต่ยังขายไม่ได้หรอกค่ะ ฮ่าๆๆ แต่ความอยากเขียนก็มีเต็มอัตราตลอดเวลา
เขียนเพราะอยากเขียนค่ะ เพราะอ่านมาเยอะ บางทีจินตนาการมันออกมาวิ่งกันให้วุ่นวายในหัว พอมันล้นก็อยากบันทึกไว้มันดันเยอะขึ้นเรื่อย ๆ พอจะส่งพิมพิ์ก็ไกลเกินเอื้อม เลยเอาใกล้ ๆด้วยขายในอีบุ๊ค ตอนนี้การขายนิยายได้อะไรเยอะกว่าที่คิด เพราะได้ทั้งการลองผิดลองถูกได้ทั้งการพัฒนาฝีมือให้มีความชัดเจนขึ้น ใส่อารมณ์ ลงรายละเอียดมากขึ้น ที่สำคัญมีนิยายอ่านฟรีด้วย ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
เขียนเพราะอยากเขียน อยากถ่ายทอดประสบการณ์ทำงานบางแง่มุม
อยากถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิด หรือมุมมองที่มีต่อสังคม
และก็หวังว่างานเขียนแนวนี้จะพอขายได้บ้าง
หรือถึงขนาดขายได้จนเป็นรายได้เลี้ยงตัว และกลายเป็นทรัพย์สินทางปัญญาที่เราจะเก็บกินได้ยามแก่
แต่ก็นั่นแหละ เพิ่งเขียนจบเรื่องแรกไปยังไม่ถึงสองเดือนเลย
ขั้นแรกก็เรียกว่าบรรลุแล้ว ได้เขียนอะไรที่อยากเขียน
ส่วนจะไปถึงขั้นต่อๆ ไปหรือไม่คงไม่ได้อยู่ที่เราแล้ว คงอยู่ที่สำนักพิมพ์แหละค่ะ
เราเขียนเพราะอยากเขียนค่ะไม่ต้องการเงิน
เลยลองเขียนดูพอเขียนแล้วมันสนุกก็เขียนต่ะไปค่ะมันอาจเป็นเพราะเราชอบมันรักมันค่ะ
เขียนเพราะรัก แต่ถ้าสำนักพิมพ์ทักจะรีบตอบตกลงทันที 555 กำไรสองต่อดีครับ
เขียนเพราะอยากเขียนครับ ขายได้นั่นผลพลอยได้
หวังเล็กๆแค่ขอให้มีใครสักคนอ่านงานของเราบ้างก็พอใจแล้ว 'v'
เราเขียนเพราะเราเพียงแค่ชอบเท่านั้น
ตอนเรกไม่รู้ว่าเขียนไปแล้วได้อะไร
เราอยากเป็นคนใดคนหนึ่งในตัวละครนั้นเลยลองเขียนออกมาผ่านไปไม่กี่วันมีคนเข้ามาอ่านมีคนเข้ามาเป็นแฟนคลับ เอ่อ..มันรู้สึกอย่างนี้นี้เอง เขาเป็นใครก็ไม่รู้แล้วเข้ามาอ่านนิยายของเราเเละมาบอกว่าชื่นชอบบ้างติบ้างเท่านั้นแหละ เฮ้ย!ใจมันเต้นๆ มันรู้สึกดีและเราอยากจะทำให้มันออกมาดีที่สุด
อยากเขียนครับ
ส่วนขายได้นั้น ยากนะครับ การจะเป็นนักเขียนชื่อดังได้สักคน มีเพียงแค่ 1 ในล้านเท่านั้นเองครับ
เขียนเพราะชอบเขียนค่ะ เคยมีช่วงที่อ่านเยอะจนไม่เจออะไรใหม่เลยเขียนเอง ฝึกภาษา ฝึกความคิด เก็บไว้อ่านเองด้วย อยากรู้ว่าตอนนั้นตัวเองคิดอะไร :)
อยากเขียนมีคนมาอ่านบ้างแค่นั้นก็ดีใจแล้ว
เดิมทีอยากทำหนังกับเพื่อน อยากเป็น ผกก. เเต่ปรากฏว่าเพื่อนก็น้อยเวลาก็ไม่ค่อยมี บ้าน
ตอนนั้นก็ไม่ซื้อกล้องให้ เเต่เราก็ยังอยากจะสร้างหนังของตัวเอง ในเมื่อเครื่องมือไม่มี ง่ายที่
สุดท่คิดได้ตอนนั้นก็คือนิยายนี่เเหละ ฮ่าๆๆ จากนั้นก็เริ่มละเลงผลงานเลยครับ รู้ตัวอีกทีก็ติด
การเขียนจนสุดท้ายก็เข้าเอกวารสารฯไปซะเเล้ววววว
เขียนเพราะอยากเขียน เพราะใจรักใจชอบเป็นหลัก รู้สึกดีที่คนอ่านสนุกสนานไปกับเรื่องราวของเรา เงินเป็นเรื่องรอง และเอาจริงๆ ถ้าอยากรวย ไปทำอาชีพอื่นดีกว่า หุหุ
เขียน เพราะ อยากเขียน (หรือเพราะบอกตัวเองว่า ต้องเขียน เพื่อไม่ให้ขาดช่วง)
ส่วนเขียนจบแล้ว ค่อยพิจารณาค่ะว่าชิ้นไหนดีพอจะขายได้ ชิ้นไหนควรปรับปรุง หรือชิ้นไหนแหวกตลาดจนไม่น่าจะขายได้ก็เก็บไว้อ่านเอง หรืออาจปล่อยให้คนอื่นอ่านฟรีๆ (ถ้าแน่ใจว่าส่งไปไหนก็คงไม่ผ่าน)
ตอนนี้เขียนเพราะอยากเขียน เพราะชอบอ่านหนังสือเป็นทุนเดิมอยู่แล้วเลยอยากมาลองเป็นคน
ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านตัวอักษรดูบ้าง อยากรู้ว่าสำนานการเขียนของเรานั้นมีคนสนใจบ้างมั้ย พอลองเขียนดูก็เริ่มสนุกกับมัน ถึงแม้ว่าตอนนี้ยังเป็นนักเขียนเด็กน้อยอยู่ก็ตาม แต่ก็หวังว่างสักวันหนึ่งงานเขียนของเราจะขึ้นไปอยู่บนแผงหนังสือบ้างเหมือนกัน^^
ปล. เด็กที่ชอบเรียนวิทยาศาสตร์ เรียนมาทั้งชีวิตเรียนจนตอนนี้จบป.โทแล้ว แต่ก็มีอีกมุมหนึ่งที่ชอบอ่านนิยายเพ้อฝัน ซึ่งบางคนบอกว่าแปลก ชอบมีคนพูดว่าเรียนวิทย์แล้วอ่านแบบนี้ด้วยเหรอ ในใจก็คิดไม่เห็นจะแปลกนี่นา 55555
เราเขียนเพราะอยากเขียนค่ะ เพราะว่าแค่อยากระบายความคิด แล้วก็ไม่คิดว่านิยายเราจะขายได้หรอก555555
เคยเขียนเพราะอยากเขียนอย่างเดียว
ตอนนี้ เขียนเพราะอยากเขียนและขายได้ด้วย 55555+
$__$
ไม่ว่าจะแฝงไปด้วยอะไร ตอนเด็กๆ ที่เริ่มเขียนเพราะอยากเขียนจริงๆ ค่ะ เขียนเป็นงานอดิเรกยามว่างผ่อนคลายจากการเรียน
แต่ว่าตอนนี้โตแล้วต้องทำงานหาเงิน ถ้างานอดิเรกอันนี้สามารถต่อยอดเป็นหนึ่งในช่องทางรายได้นี่ก็จะเวิคมากค่ะ 555
สรุปแล้ว จุดประสงค์ก็แปรผันไปตามอายุแฮะสำหรับเรา แต่ยังไงถึงตอนนี้จะโตจนเริ่มแก่แล้ว จุดประสงค์แรกที่ทำให้เริ่มต้นก็ยังอยู่นะ ก็ยังเขียนเพราะอยากเขียนอยู่ดี แค่มีเรื่องกำไรจากงานอดิเรกอันนี้เข้ามาแจมด้วยนิดๆ หน่อยๆ ให้พอกระชุ่มกระชวยว่า เออ ก็มีคนอ่านแฮะของเรางี้ค่ะ :)
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?