แต่งนิยายรักร่วมเพศ อิงศาสนายังไงไม่ให้ดราม่า
ตั้งกระทู้ใหม่
คุณต้องการจะลบกระทู้นี้หรือไม่ ?
13 ความคิดเห็น
ไม่แต่ง จบ
ศาสนาเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ไม่สมควรเข้าไปแตะต้อง
หรืออยากฆ่าตัวตายทางโลกโซเชียลก็ลองแต่งแล้วเอามาลงดูครับ
แล้วจะรู้ว่า จิตจะตกขนาดใหน
ขอขอบพระคุณมากๆนะครับที่ให้คำตอบที่ดีมากๆ
คำถามคือพร้อมรับแรงสะท้อนแค่ไหนน่ะครับ
เอาจริงๆยุคนี้การพาดถึงประเด็นอ่อนไหว เป็นอะไรที่เปิดกว้างพอตัวเลย
ถึงจะยังไม่เป็นที่ยอมรับ แต่ก็มีช่องทาง หรือมีคนหยิบประเด็นพวกนี้มาตั้งคำถาม ล้อเลียน บ่อยๆในเฟสบุ๊ค
แน่นอนว่าคอมเม้นต์ก็มีทั้งชอบและไม่ชอบ (แต่ส่วนใหญ่จะเชิงต่อว่าแรงๆมากกว่า)
เพราะฉะนั้นแล้วถามถามว่าแต่งยังไงไม่ให้ดราม่า ก็ตอบก่อนได้เลยว่าไม่ว่ายังไงมันก็ดราม่าครับ
ส่วนควรแต่งหรือใหม่อันนี้ต้องถามใจดูว่าพร้อมรับแรงสะท้อนระดับไหน
และถ้าจะลงจริง อาจควรใช้พื้นที่อื่นเช่นเฟสบุ๊คส่วนตัวจะเหมาะสมกว่า
เพราะดูแล้ว dek-d จะไม่สนับสนุนนิยาย บทความที่อิงประเด็นอ่อนไหวสักเท่าไหร่ครับ ปัญหาเกิดแล้วจะวุ่น เลยใช้วิธีป้องกันก่อนจะเซฟตัวเองกว่า
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆนะครับ ผมคิดว่าอาตตะพักไว้ก่อน รอให้ใช้ภาษาในการแต่งดีกว่านี้ และรอให้เปิดกว้างมากกว่านี้ก่อน ยังไงก็ขอบคุณมากๆนะครับ
สวัสดีค่ะ
ก่อนอื่นขออนุญาตแนะนำตัวนะคะ ดิฉันเป็นเพียงเด็กนักเรียนหัดเขียนค่ะ ยังเขียนนิยายไม่เป็น ยังไม่สามารถเขียนได้ ทั้งเรื่องของพล็อต หรือเรื่องของปมต่างๆ หรือแม้การใช้คำต่างๆนั้นก็ยังไม่มีความสามารถค่ะ
เห็นๆว่าโจทย์ของคุณเป็นโจทย์ที่น่าจะหัดฝึกการคิดจึงอยากร่วมด้วยช่วยๆวิธีคิดในเรื่องของความสมควรหรือไม่...เหมาะสมหรือไม่...อย่างไร...ในเรื่องซึ่งเกี่ยวกับ...แนวต่างๆของนิยาย...และไม่เคยคิดด้วยค่ะ ว่า...นิยายที่จะเขียนนั้นจะเป็นอะไรที่เกิดดราม่าได้หรือไม่...
ในความที่ไม่มีประสบการณ์ในหลายๆด้านเกี่ยวกับการเขียนนิยายจึงเห็นว่ากระทู้นี้เป็นกระทู้ที่ทำให้ต้องฝึกคิดๆตามไปด้วยค่ะ
เมื่อคิดๆตามไปแล้วก็อยากที่จะเข้ามาลองช่วยๆตอบเพื่อออกความเห็นค่ะ...
คือว่า ตอนนี้มีพลอตเรื่องที่ แต่งนิยายรัด(ก...รัก...หรือเปล่าเอ่ย)ร่วมเพศ ช-ชอะครับ ปมคือเรื่องศาสนา แต่ศาสนาเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก เลยอยากจะมาสอบถามว่าควรแต่งดีไหมครับ หรือปิดโปรเจคนี้เลย
เมื่ออ่านๆ...คำถามแล้ว...ก็อยากบอกคุณว่า...หากคุณมีความเข้าใจในแก่นแท้ของศาสนานั้นๆที่คุณจะนำมาเขียนเป็นอย่างดีนะคะ เจ้าของเม้นต์นี้เข้าใจว่าไม่น่าจะมีปัญหาค่ะ
หากคุณจะเขียนให้เห็นความเป็นไปได้ หรือไม่ได้ หรือปมต่างๆอย่างชัดเจน คือมีที่ไปที่มาแบบชัดเจนนะคะ
ยกตัวอย่างเช่น...ศาสนาพุทธ...แก่นแท้ของชาวพุทธ...คือการเรียนรู้...ความเพียร เพื่อให้ตน(ผู้ที่จะ) ศรัทธาในพุทธให้จงได้นั้น...มีอาการ หรือให้ตนบังเกิด...ความเชื่อ ความศรัทธา...ในกฎอันศักดิ์สิทธิ์แห่งธรรมชาติ...ยกตัวอย่างเช่น...การเกิด แก่ เจ็บ ตาย ซึ่งเป็นเหตุอันศักดิ์สิทธิ์ของธรรมชาติที่เป็นไปได้หรือสามารถเกิดขึ้นได้
ความที่ต้อง...เกิด แก่ เจ็บ ตาย...นี้ก็มีพื้นฐานมาจากแก่นสารอันแท้จริงซึ่งเป็นสัจธรรม...นั้นเอง...นั้นคือ...ธรรมะ..คือ... ธรรมชาติ...หรือธรรมชาติ คือธรรมะ...นั้นเอง
ทั้งหมดนี้คือ...ปรัชญา...ของพุทธนะคะ (ข้างบนนะคะ เพียงยกตัวอย่างค่ะ)
และเมื่อมาถึง...คำถามที่ว่า...หากจะเป็นเรื่องของความรัก...ในรูปแบบของ ชายรักชายดังที่คุณยกมา...หากจะเกิดขึ้นได้ในโลกหรือในสังคมของชาวพุทธนั้นจะเป็นอย่างไร? (สมมุตินะคะ...เช่นหากคุณจะเขียนแนวดังกล่าวนี้โดยมีศาสนาพุทธเข้ามามีส่วนร่วม)
เจ้าของเม้นต์...ลองๆคิดแล้ว...ก็เข้าใจว่า...เรื่องของ ชาย รัก ชาย นั้นแท้จริงก็เป็นเรื่องธรรมดา ธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นได้ในผู้ชายค่ะ เป็นธรรมชาติค่ะ เหตุนี้แท้จริงเป็นธรรมชาตินะคะ เพราะฉนั้นเจ้าของเม้นต์นี้เข้าใจว่า หากคุณจะเขียนเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับชาย รัก ชาย ชาวพุทธนั้นไม่น่าจะมีปัญหาค่ะ
เพียงแต่ขออย่าได้ให้ขาดไป หรือหลุดไปจนขาดซึ่งศีลธรรมและคุณธรรม เพราะนั้นที่ชาวพุทธจะขาดไม่ได้ค่ะ นั้นที่เป็นสิ่งสำคัญค่ะ
พุทธ...เชื่อว่าในธรรมชาติอันมีกฎของตนที่ศักดิ์สิทธิ์นี้...มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปได้ด้วยค่ะ เพราะฉนั้นเรื่องราว...ที่คุณจะยกมาเขียนนี้...หากมีที่ไปที่มาที่ไม่ขัดต่อศีลธรรมหรือคุณธรรมเจ้าของเม้นต์นี้เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาแต่อย่างใดค่ะ
หากคุณมีพล็อตซึ่งคุณรู้สึกว่าดี มีคุณธรรม มีศีลธรรม มีคติ สามารถเป็นแบบอย่างที่ดี หรือไม่ดีให้กับผู้อ่านได้ และคุณมีพลัง กำลังใจที่จะเขียนนะคะ เจ้าของเม้นต์เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาค่ะ
"คือว่า จะแค่อ้างอิงหลักคำสอนว่ารักร่วมเพศ ไม่เหมาะสม เลยคิดว่าจะเอามาสร้างปมอะไรประมาณนี้อะ"...มาวันนี้แท้จริง หรือความเป็นจริงเรื่องของความรักนั้นเกิดเป็นปัญหามากมายค่ะ
เกิดเป็นทุกข์ทรมานแสนสาหัสของคนส่วนมากถ้วนหน้าในโลกนี้...สาเหตุมาจาก...เพราะแท้จริงแล้วคนส่วนมากไม่รู้จัก...ธรรมชาติของความรัก...นั้นเองค่ะ (หลายๆคนในวันนี้เข้าใจผิดค่ะ เขาหลายๆคนคิดเพียงว่า...อาการความรู้สึกตื่นเต้น หวั่นไหวนั้นเป็นอะไรที่บังคับให้เขากระโดดกอดกันและจบลงบนเตียงนั้นเป็นความรัก นั้นเกิดเป็นธรรมชาติที่เขาหลายคนเข้าใจผิดคิดว่านั้นคือความรัก
แท้จริงนั้นเป็นเพียงการปลดปล่อยอารมณ์อยาก อารมณ์ตัญหา ราคะเท่านั้นเอง และนั้นก็เกิดเป็นธรรมชาติของคนที่ไม่มีความอดกลั่นค่ะ
และหลายๆคนก็ทำทุกอย่างให้ตนเป็นที่ตื่นเต้น หวั่นไหวของหลายๆคนเพื่อผลในการเสพที่จะนำมาของมันเพียงความบันเทิงเท่านั้น...คือจบลงบนเตียง และจบลงบนเตียง และก็จบลงบนเตียง แบบนั้นนะคะ
ซึ่งแท้จริงอาการที่เกิดขึ้นนี้สาเหตุเพราะเขาส่วนใหญ่ ไม่ศรัทธาในปรัชญา หรือคำสั่งสอนของศาสนาค่ะ แท้จริงศาสนาทุกศาสนาสอนให้ผู้คนมีความอดกลั้น อดทนที่จะไม่ให้เหตุเหล่านี้เกิดขึ้นที่จิตใจของคนเพราะแท้จริงนั้นคือ ทุกข์ ทรมาน กิเลส ตัญหา ความอยาก ความกำหนัด อาการเหล่านี้แท้จริงเกิดขึ้นมากมาย หรือเกิดขึ้นในคนส่วนใหญ่ซึ่งไม่ศรัทธาศาสนาค่ะ
มาวันนี้หลายๆคนเพียงต้องการสนองความต้องการของตนในรูปแบบต่างๆเพียงผ่านการกระทำ(ที่หลอกลวง) ด้วยการใช้คำว่า รัก เป็นสื่อเท่านั้นเอง เช่น หลายคนแต่งงานเพียงเพราะสถานการณ์ทางการเงิน....
หรือเพียงเพื่อเชื่อเสียง หรือเพียงเพื่อสังคมเพื่อหน้าตา หรือมากกว่านั้นที่ยํ่าแย่ แต่งงาน(นำวัฒนธรรมการแต่งงานที่สวยงามมาใช้ในทางที่ผิดๆด้วย)
หรือโดยการแต่งเพื่อ...ความต้องการทางเพศ แต่งๆ เลิกๆ ลาๆ จากกันไปๆและแต่งใหม่อีกครั้ง สอง หรือสามครั้ง สี่ครั้ง ห้าครั้ง...หรือบอกว่ารักๆไปวันๆเพื่อลากคนที่หลงเชื่อลงสู่เตียง นั้นก็มีอยู่มากมาย เหตุการณ์เหล่านี้เกิดเป็นปัญหานำความทุกข์ระทมมาสู่สังคมมากมาย
ซึ่งนั้นแท้จริงเหตุการณ์ต่างๆทั้งหลายนั้นไม่ใช่ความรัก เราๆเห็นๆอยู่นะคะ และดูเหตุการณ์จะยํ่าแย่ลงทุกวันอีกด้วย
ไม่ว่าจะเป็นความรักของ ชาย-หญิง ชาย-ชาย หญิง-หญิง หรือของไบ(ได้ทุกเพศ) ก็ตามที คุณเคยสังเกตุไหมคะ แบบนี้สิที่น่าเป็นห่วง และน่าสงสารเขาเหล่านี้ค่ะ ชาติเดียวเกิดมาเพื่อทุกข์แท้ๆนั้นจริงหรือ?
หรือเพราะเขาเหล่านี้ไม่มีศาสนา ไม่มีความเชื่อ ไม่มีความศรัทธาว่า...ความรักที่แท้จริงอันเป็นเช่นความรักที่จะนำมาซึ่ง ความสุข ความสมหวัง นั้นเกิดขึ้นได้ในคนในโลกนี้ นั้นเอง
หลายๆคนในวันนี้...ได้เวียนว่ายในวังวลของความทุกข์ทรมานสาเหตุเพราะ...ความเข้าใจที่ผิดๆเกี่ยวกับความรัก เพียงเชื่อที่ผิดๆเกี่ยวกับความรัก หรือไม่รู้จักธรรมชาติของความรักเขาก็ทุกข์ทรมานได้ น่าสงสารค่ะ
สรุปนะคะ...เมื่อเข้ามาอ่านๆและลองๆคิด พิจารณาประเด็นของคุณแล้ว และก็เกิดเป็นข้อความยาวๆข้างบนนั้น (ยาวจริงด้วยสิ ขออภัยค่ะ) อยากจะบอกกับคุณว่า...หากคุณรู้จักกับศาสนานั้นๆที่คุณจะนำมาเขียน เป็นพื้นฐานได้เป็นอย่างดี รู้ว่าแก่นสารของศาสนานั้นๆมีจุดมุ่งหมายอย่างไร...เกี่ยวกับธรรมชาติของความรัก ซึ่งแท้จริงเป็นธรรมชาติของคนบนโลกนี้ด้วย...แล้ว อยากบอกว่า...คุณเขียนนะคะ
เพราะเมื่อคุณรู้ว่าอะไรควรไม่ควรหรือผิด ถูก เหมาะสมหรือไม่อย่างไรต่อศาสนานั้นๆ เจ้าของเม้นต์นี้เชื่อว่า...คุณมีพล็อต...หรือคุณจะสามารถสร้างพล็อต...ที่ดี มีคติได้อย่างแน่นอนค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของความรัก ร่วมเพศ หรือชาย-ชายนี้ก็ตามที เจ้าของเม้นต์นี้เชื่อแบบนั้นค่ะ
ยังเชื่อด้วยว่าเราๆเหล่ามนุษยชาติมาวันนี้เราได้เดินทางมาไกลพอสมควรแล้วในวิธีการคิด-อ่าน มาวันนี้หลายๆคนที่เขามีศาสนาในจิตใจของเขาก็พลอยเจริญมากหรือมากยิ่งขึ้นไปด้วยค่ะ
เชื่อว่าเรื่องที่คุณจะเขียนนะคะหากมีคติสอนใจที่ดีแฝงหรือเป็นหลักแกนของปมในพล็อตเป็นแนวทางการนำเสนอ เจ้าของเม้นต์นี้เข้าใจว่า...ไม่น่าจะเป็นผลงานที่น่าถูกยํ่ายีด้วยการดราม่าของคนที่มีเหตุผลเป็นที่ตั้งค่ะ
เชื่อด้วยว่า...นักเขียนทุกคนรู้ว่า...หนังสือหรืองานเขียนของตนนั้นแท้จริงต้องมีคติสอนใจ...เป็นแบ็คกราวน์ เป็นเบื้องหลังของงานที่เขาทั้งหลายตั้งใจเขียนหรือสร้างนั้นเป็นธรรมชาติอันดีของนักเขียนไม่ว่าเรื่องราวเหล่านั้นจะเขียนขึ้นด้วยแนวไหนก็ตามทีนะคะ (หรือว่าดิฉันจะเข้าใจผิดไปนะ)
เรื่องของศาสนาเปราะบาง...คงไม่ใช่ค่ะ...เรื่องของศาสนาแท้จริงเป็นเรื่องของความดี เป็นเรื่องของการแนะแนว แนะนำให้ผู้คนพบความสุขและความดี และศาสนาทุกศาสนามีจุดประสงค์ มีจุดมุ่งหมายเดียวกันทั้งหมดค่ะ แม้ว่าทุกศาสนาจะมีอุบายการสอน การแนะนำ ที่แตกต่างวิธีก็ตามที เจ้าของเม้นต์นี้เข้าใจแบบนั้นค่ะ
เพียงแต่ศาสนานั้นเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่สำหรับหลายๆคนที่เขาเชื่อ เขาศรัทธา เป็นสิ่งสูงสุด เป็นที่เคารพนับถือ และบูชา ของเขา การที่จะนำมาเขียนนั้นแน่นอนที่คุณต้องละเอียดละออและต้องแกะให้เห็นชัดเจน เพื่อไม่ให้ศาสนานั้นๆเสื่อมเสียจากจุดหมายเดิม หรือของปรัชญาเดิมๆของศาสนานั้นๆเท่านั้นที่สำคัญยิ่งค่ะ
หากคุณจะเขียนให้เห็น...เป็นข้อดี หรือข้อเสีย ด้วยการสื่อที่มีเหตุ มีผล มีที่ไปที่มาอย่างชัดเจนได้เกิดเป็นคติสอนใจภายใต้ปรัชญาของศาสนานั้นๆ เจ้าของเม้นต์เชื่อว่าหลายๆคนในศาสนาที่คุณจะนำมาแต่งนั้น จะภูมิใจในผลงานของคุณเสียมากกว่าค่ะ
"คือว่า จะแค่อ้างอิงหลักคำสอนว่ารักร่วมเพศ ไม่เหมาะสม เลยคิดว่าจะเอามาสร้างปมอะไรประมาณนี้อะครับ กลัวจะเกิดดราม่ามากๆ ขอคำแนะนำหน่อยนะครับ"
...ฮา ฮา ฮา อ่านตรงนี้แล้วเข้าใจคุณค่ะ (ที่หัวเราะเพราะชอบใจตรงที่ว่ารู้สึกว่าคุณมีความเกรง หรือที่เราเรียกว่าเคารพแบบนั้นนะคะ คุณเกรงหรือเคารพสังคม เป็นคติที่ดีของนักเขียนที่ดีค่ะ ดิฉันเคยได้คำแนะนำจากผู้ที่มีประสบการณ์ค่ะ)
และเข้าใจด้วยว่า...หากรักที่จะเป็นนักเขียน...ที่มีอุดมการณ์หรือเขียนเรื่องราวที่มีคติพจน์ในรูปแบบหรือในแนวที่อาจจะมีการนำเสนอผ่านอะไรๆที่หลายคนคิดว่ารุนแรง (ซึ่งแท้จริงหลายคนอาจจะคิดว่าไม่รุนแรงก็เป็นได้ค่ะ) เช่นผ่านแนวศาสนาหรือมีศาสนามามีส่วน คุณคงต้องฝึกความแกร่ง ความพร้อมที่จิตใจพร้อมการวางพล็อตไปด้วยค่ะ
การเป็นนักเขียน...เจ้าของเม้นต์นี้เข้าใจว่าต้องแกร่ง ต้องมีความเชื่อมั่น ต้องนิ่ง ต้องหนักแน่นนั้นเป็นอะไรที่ดูจะยากหรือหนักหนาสาหัสกว่าการเขียนอีกด้วยค่ะ (เพราะแบบนี้ละมั้งที่จิตใจเรานักเรียนหัดเขียน คือดิฉันนะคะไม่ยอมออกศึกสู้เพื่อวาดเขียนเรื่องราวของตนต่อ ฮา ฮา ฮา คือเป็นคนที่อ่อนแอค่ะ มีนิยายหลายๆเรื่องที่ทิ้งค้างเติ่ง อ่อนแอมากๆค่ะ)
หรือ...หากคุณไม่แน่ใจ...มีความรู้สึกว่ายังไม่พร้อมก็อยากจะบอกว่า...พักไปก่อนก็ได้ค่ะ (พักไปก่อนเช่นเจ้าของเม้นต์ค่ะ เพียงแค่คิดก็เหนื่อยเนอะ พักยาวๆเลย ฮา ฮา ฮา) มีความพร้อมเมื่อไรคุณก็กลับไปเขียนต่อค่ะ
แต่งนิยายรักร่วมเพศ อิงศาสนายังไงไม่ให้ดราม่า
นิยายดีมีคติธรรม ศีลธรรม ไม่ว่าจะนำเสนอในรูปแบบไหน หรือเกี่ยวกับอะไร ไม่น่าจะมีปัญหานะคะ ดราม่าหรือคะ...คนที่เขาชอบดราม่าเป็นธรรมชาติของเขา เขาก็จะดราม่าไปเรื่อยเปื่อยเป็นธรรมชาติของเขาค่ะ คุณคงหยุดเขาไม่ได้อยู่แล้วเป็นธรรมชาติด้วยค่ะ แต่คุณจะปล่อยให้เขาเหล่านี้หยุดคุณหรือคะ? นั้นเป็นอีกเรื่อง หรือคนละเรื่องค่ะ
เพราะฉนั้น...คุณลองพิจารณาดูนะคะ เพราะคุณค่ะที่จะเขียน และคุณจะสามารถควบคุณตัวคุณเองให้รู้สึกอย่างไรต่อผลทั้งอาจจะดีและไม่ดีที่จะเกิดขึ้นนั้น
แต่สำหรับความเห็นส่วนตัวของเจ้าของเม้นต์นี้เข้าใจว่า...หากคุณเองเชื่อว่าเป็นเรื่องที่ต้องการส่งผ่าน...คติ...ที่ดีๆ ก็อยากจะบอกว่า...เขียนนะคะ เพราะเรื่องแบบนี้น้อยคนที่จะกล้าหยิบมาเขียน คือต้องเป็นนักเขียนที่มีความแยบยล มีความสามารถมากด้วย ผลงานจึงจะไม่ทำร้ายตัวเขา(ตัวคุณ)และสังคมค่ะ ตรงกันข้ามจะเป็นผลงานที่จะช่วยจรรโลงสังคมได้เป็นอย่างดีด้วยค่ะ
อยากให้หนังสือซึ่งมีแก่นสาร ปม พล็อต แนวการนำเสนอในแนวนี้เกิดขึ้นมามากๆค่ะ เพราะแท้จริงหนังสือแบบนี้ แนวนี้ที่สังคมต้องการอย่างยิ่งยวดค่ะ ในวันนี้ (เป็นมุมมองส่วนบุคคลนะคะ)
สุดท้าย...เห็นคุณบอกว่ามีพล็อต... เจ้าของเม้นต์นี้อยากเป็นกำลังใจให้คุณค่ะ หากคุณจะเขียน สู้สู้นะคะ
ปล.เม้นต์นี้ เป็นความคิดเห็นของนักหัดเขียนที่ไม่มีความสามารถนะคะ ขอให้คุณใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยค่ะ
ขอขอบคุณมากๆเลยนะครับ ได้คำแนะนำเยอะจริงๆ ขอบคุณคำแนะนำมากๆเลยนะครับ ก่อนอื่นก็คงต้องเว้นไปก่อน ตอนนี้ก็กำลังศึกศาศาสนานั้นอยู่ครับ เพราะเพื่อนๆก็ถือศาสนานั้น ต้องหาข้อมูลอีกเยอะเลยครับ
ยังไงก็ขอขอบคุณมากๆเลยนะครับ
สวัสดีค่ะ
สู้สู้นะคะ เป็นกำลังใจค่ะ ^___^
ดราม่าแน่นอน แต่ตามที่คห.2 กล่าว จขกท.รับผลลัพธ์ที่จะตามมาได้ไหมล่ะครับ
ต้องเข้าใจว่าเรื่องศาสนามีความละเอียดอ่อน
หากนำเสนอผิดพลาดหรือขัดหลักคำสอนก็ย่อมมีเสียงต่อต้าน มากหรือน้อยก็ว่ากันไป
ไม่แน่ใจว่าศาสนาที่จขกท.จะอิงคือศาสนาใด
แต่จุดสำคัญคือจขกท.ต้องมีความเข้าใจคำสอน วิถีปฏิบัติของศาสนาอย่างเชี่ยวชาญหรือถ่องแท้
หากมีการท้วงติงจากนักอ่าน ก็สามารถอธิบายได้ เชื่อว่ามีการถกเถียงกันแน่นอน
สรุปเขียนได้นะครับนิยายอิงศาสนา
แต่ความรับผิดชอบต้องสูง ทำการบ้านหาข้อมูลหนักและรอบด้าน
สามารถรับแรงเสียดทานจากนักอ่านที่เห็นต่างได้
// สำหรับผม ไม่คืดเขียนแนวนี้อย่างแน่นอน ผมไม่ถนัดเรื่องขัดศรัทธาของใคร (ฮา)
ใช่ครับ ต้องหาข้อมูลอีกเยอะเลย และต้องระวังการใช้ภาษา ให้เหมาะสมด้วย อาจจะใช้เวลาปรับอีกนานเลยครับ เลยมาสอบถามข้อมูลความเห็นจากนักเขียนท่านอื่น ขอบพระคุณมากๆนะครับ
คงจะเหมือนเรื่องเทวากับซาตาน คนชอบก็ชอบ คนไม่ชอบก็เกลียดแรงมาก
ครับ คนชอบก็มี คนไม่ชอบก็มี แต่ผมก็กังวลมาก เพราะเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนจริงๆ เลยมาสอบถามไว้ก่อน เดี๊ยวต้องกลับไปพิจารณาอีกรอบก่อน
มีศาสนาไหนบ้างล่ะ ที่รักร่วมเพศโดยไม่ผิดศีล ขนาดคนไม่เคร่งครัดก็น่าจะรู้คำตอบอยู่แล้ว
อันนี้ผมก็ยังไม่ได้สืบค้นข้อมูลเท่าไหร่ ขออนุญาตไม่กล่าวถึงนะครับ
ตามความเห็นของเรานะ
ศาสนาเป็นความเชื่อ เป็นวิถี เป็นสิ่งที่มีคนศรัทธา มากน้อยว่ากันไปเนาะ
ไม่ว่าจะแต่งออกมายังไง ก็ต้องมีดราม่าค่ะ จะระวัง จะอะไรแค่ไหน ยังไงก็ต้องมีดราม่าค่ะ
เพราะความเชื่อทางศาสนา แม้จะเป็นศาสนาเดียวกันก็แยกออกไปได้หลายแบบเหลือเกิน ยกตัวอย่างเช่น พุทธนิกายต่างๆ (ธรรมกาย/พุทธทาส และอื่นๆ) ศาสนาเป็นไอเดียความคิดหนึ่งที่คนเลือกไปยึดถือ คนที่เคร่งในสิ่งที่ตัวเองเชื่อมากๆยังไงก็จะต้องดราม่าถ้ามีการนำเสนอแง่มุมที่แตกต่างออกมา บางคนอาจจะเชื่อในอะไรที่ไม่ใช่กระแสหลักมากๆ อาจจะเป็นพุทธชนกลุ่มน้อย แต่จะบอกว่าพวกเขาผิด มันก็ไม่ได้ล่ะมั้งคะ ในเมื่อทุกศาสนามันก็เป็นความเชื่อและคนทุกคนก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกเชื่อในอะไรที่ต่างกัน มีสิทธิ์จะยึดถือในคัมภีร์เล่มที่ตัวเองต้องการ
ที่เจ้าของกระทู้ถามว่า ควรแต่งไหม เราว่าแต่งเถอะค่ะ นักเขียนมีสิทธิ์นำเสนอไอเดียของตัวเองนี่นา
สิ่งที่เราคิดว่าควรทำก็คือ จั่วหัวว่าเรื่องนี้มีประเด็นอ่อนไหวทางศาสนา และอาจมีการนำเสนอความคิดหรือมุมมองทางศาสนาที่แตกต่าง อะไรทำนองนั้น คนที่ไม่ชอบไม่อยากม่าก็จะได้หลบเลี่ยงได้
อีกอย่างประเด็นที่นักเขียนจะเล่นเราว่าไม่หนักนะ เรื่องจะเอาการห้ามรักร่วมเพศของศาสนามาเป็นปมนี่ เรารู้สึกว่าเป็นปมที่เล่นกันสนุกสนานมากสำหรับต่างประเทศ แต่ต้องยอมรับแรงต้านจากคนที่เคร่งมากๆนิดนึงอะแหละ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนี่คือสังคมไทยที่นับถือพุทธ(และเคร่ง)กันเยอะ
ถ้าเกิดดราม่าจริงๆมันไม่จบสิ้นแน่ค่ะ เพราะมันคือการเอาความเชื่อมาเถียงกัน เราเปลี่ยนความเชื่อคนอื่นไม่ได้หรอก แต่ต้องมีจุดยืนของตัวเองค่ะ บอกเลยว่านี่เป็นมุมมองที่ต้องการนำเสนอ ไม่ใช่มุมมองที่เขียนเพื่อให้ใครมาเชื่อตามและรับไปเป็นข้อเท็จจริงของตัวเอง
คนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญ เป็นนักวิชาการด้านศาสนา เขาก็เชี่ยวชาญลงไปในสิ่งที่เขาเชื่อว่ามันเป็นจริง แต่มันไม่จำเป็นต้องเป็นความจริงสำหรับคนอื่นนะคะ คนเรายังไงก็เชื่อไม่เหมือนกันอยู่แล้วล่ะ /แม้จะเป็นความเชื่อกระแสหลักแต่ก็ต้องมีคนที่ไม่อยู่ในกลุ่มนั้นอยู่แล้ว
นักอ่านมีสิทธิ์เลือกที่จะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองยึดถือ แต่ก็ไม่มีสิทธิ์มาเปลี่ยนความเชื่อของนักเขียนเช่นกันค่ะ นั่นคือความคิดของเรานะ
ถ้าหนังสือทุกๆเล่มจะต้องเดินตามรอยศาสนาที่คนส่วนใหญ่บอกว่าถูกต้องและเห็นชอบ คงน่าเบื่อค่ะสำหรับเรา อาจเป็นความคิดเห็นที่ไม่ถูกใจคนที่นับถือศาสนาอย่างเคร่งครัดไปบ้าง แต่ก็เป็นสิ่งที่เราคิดจริงๆค่ะ
สรุปว่าเราให้กำลังใจค่ะ แต่งเลย เราจะรออ่าน 5555555
แต่ต้องแกร่งจริงๆนะครับ การสืบค้นข้อมูล การใช้ภาษา การนำเสนอ ผมต้องระวังมากๆ ถ้าจะแต่ง ต้องฝึกอีกเยอะเลยครับ ขอบคุณมากๆสำหรับคำแนะนำนะครับ
ถ้ากลัวจะเกินดราม่าเราว่ายังไงก็ดราม่าแน่ค่ะ
แต่ทำการบ้านดีๆน่าจะเขียนได้นะ เราก็อยากอ่านเรื่องแนวนี้เหมือนกัน จริงๆเคยเห็นคนเขียนแต่เป็นของคริสต์ ก็ดูไม่มีปัญหาเท่าไหร่นะ หรือเพราะที่นี่ส่วนใหญ่เป็นพุทธก็ไม่รู้
เป็นกำลังใจให้ค่ะ
ความจริงผมก็พล็อตจากศาสนาคริสต์ครับ แต่ยังไม่กล้าบอกว่าศาสนาไหน กลัวจะเกิดดราม่า รบกวนขอชื่อนิยายเรื่องนั้นหน่อยได้ครับไหม ผมจะได้ไปหาข้อมูลมาปรับปรุง ปรับใช้
เอาความอยากเขียนกับความกลัวดราม่ามาชั่งน้ำหนักดูค่ะว่าแบบไหนมีน้ำหนักมากกว่ากัน
ส่วนตัวเราก็เคยเขียนเรื่องที่ Controversial นะ แต่การนำเสนอต้องระมัดระวังค่ะ ทีนี้คนเขียนแต่ละคนมีวิธีการเลือกนำเสนอที่ต่างกัน เราเลือกที่จะนำเสนอแบบเป็นกลางโดยการไม่ตัดสิน แต่ใช้ตัวละคร 3 กลุ่มมาเป็นตัวแทน แต่ละกลุ่มได้ผลกระทบที่ต่างกันไปที่ไม่อาจบอกได้ว่าสรุปคือ สิ่งนี้ควรจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย เป็นเรื่องที่คนอ่านไปตัดสินเอาเอง
ถ้าคุณต้องการจะเล่นที่ประเด็นศาสนา คุณอาจจะต้องคิดก่อนว่าคุณจะวางตัวแบบไหนในเรื่อง อาจจะนำเสนอในความเชื่อนั้นไปเลย และแสดงให้คนอ่านเห็นว่าคุณเชื่ออย่างไร หรืออาจจะนำเสนอแบบเป็นกลาง ถูกหรือผิดไม่มีใครบอกได้แค่สะท้อนให้เห็นเฉยๆ หรืออาจจะนำเสนอแบบเอนๆ ไปฟากใดฟากหนึ่ง แล้วตัดบทเอาดื้อๆ แบบไร้ข้อสรุป
จะไม่ให้ดราม่า มันทำได้หลายแบบ แต่ต้องทำการบ้านหนักและรอบคอบมากๆ โดยเฉพาะให้ลองดูว่าความเชื่อนั้น มี Arguments อะไรบ้างที่อาจจะเกิดขึ้น และเรื่องของคุณปิดความคิดคนกลุ่มนี้หรือไม่อย่างไร กลุ่มนั้นได้้หรือไม่อย่างไร ครอบคลุมพอไหม ถ้าคุณมีคำตอบให้ Arguments เหล่านั้นได้มากพอ พวกเขาจะเข้าใจสิ่งที่คุณสื่อ จะลดแรงเสียดทานจากคนอ่านที่มีความเชื่อหลากหลายลงได้ค่ะ
ขอบคุณมากๆเลยนะครับ ผมว่าจะวางแบบ รักวัยรุ่น พ่อแม่ ตายาย เป็นคนที่เคร่งนิดหน่อย ประมาณนี้อะครับ เดีียวผมจะลองกลับไปทำการบ้าน สืบค้นข้อมูล ฝึกการใช้ภาษา การอธิบายต่างๆก่อน รอให้อะไรคงที่แล้วจะลองดูนะครับ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆนะครับ
ดราม่าแน่นอนค่ะ...
เราไม่คิดจะแต่งเลย เพราะรู้ผลที่จะตามมาดี
หากจขกท.อยากจะแต่งก็เตรียมใจไว้หน่อยก็ดีนะคะ
ขอให้โชคดีค่ะ ^^
ขอบคุณมากครับ
ถ้าพูดเจาะถึงตัวศาสนาจริงๆ ดราม่าเป็นเรื่องธรรมชาติครับ งานแนวความคิดเชิงสังคมเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับว่าเราพร้อมจะศึกษาและรับศึกแค่ไหน
แต่ถ้าดูจาก คคห 9-1 แบบนี้ไม่ได้เน้นศาสนาอะไรมากนะครับ เป็นเรื่องทัศนคติของบุคคล ซึ่งได้รับอิทธิพลจากศาสนามากกว่า ถ้าเรื่องแตะแค่ระดับบุคคลแค่นี้ ไม่ค่อยมีปัญหาหรอกครับ มันเป็นข้อเท็จจริงที่เห็นกันอยู่ทั่วไปอยู่แล้ว
ขอบคุณมากครับ ผมจะสื่อประมาณนั้น ขอโทษที่ไม่ได้แจ้งให้ละเอียด ถ้าตาม9-1 พอได้ใช่ไหมครับ
ไม่ควรนำศาสนามายุ่งด้วยครับ
แต่เราสามารถสร้างศาสนาขึ้นมาในนิยายของเราเองได้นะ ถ้าแบบนั้นจะดีกว่าที่ไม่ต้องพาดพิงศาสนาอื่น แต่อย่าให้มีส่วนเกี่ยวข้องที่เชื่อมโยงได้ก็พอครับ อย่างสมัยกรีก นับถือเทพเจ้า แต่รสนิยมเรื่องชอบผู้ชายก็ยังมีอยู่ เราต้องเข้าใจว่าเรื่องของรสนิยมมันบังคับกันได้ยาก แม้ว่าจะมีศาสนาหรือว่าความเชื่อเข้ามาก็ตาม
ตามเม้น9-1อะครับ ถ้าประมาณนั้นได้ไหมครับ
ขออภัยที่ไม่ได้แจ้งให้ละเอียดนะครับ
จะแต่งประมาณว่า ทางผู้ปกครอง ครอบครัว เป็นคนเคร่งมาก ไม่ยอมรับรักร่วมเพศ แต่รุ่นลูก เริ่มเปิดกว้าง แต่อุปสรรค์คือทางผู้ปกครอง แอนตี้มากๆ ประมาณนี้อะครับ จะใส่ความรู้แล้วก็ข้อมูลของศาสนานั้นเข้ามา เพื่อให้ความรู้แก่คนอ่าน
ผมจะสื่อประมาณนี้อะครับ
ตรง "ใส่ความรู้และข้อมูลของศาสนา" ต้องดูว่า จำเป็นต่อเนื้อเรื่องและปมเรื่องของเรารึเปล่านะครับ ถ้าไม่จำเป็น ก็ไม่ควรใส่ตรงนี้มาก เพราะยิ่งใส่มาก ก็จะยิ่งดูเหมือนโจมตีศาสนา มันก็จะกลายเป็นเรื่องของศาสนาไป
ถ้ามันจำเป็น ก็ต้องเข้าใจว่านี่เป็นเรื่องศาสนาแล้วล่ะ ไม่ใช่เรื่องของบุคคล ก็กลับขึ้นไปที่คำตอบต้นๆ ว่าความขัดแย้งต้องเกิดขึ้นแน่ ไม่ว่าเราจะระวังแค่ไหนครับ
โอเคครับ ขอบพระคุณมาก นะครับ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?