ไม่เข้าใจเพื่อนที่อยากเรียนหมอ!!

มอง2แง่
1.มันหวงความรู้
ไม่ต้องสนใจหรอก
เราก็มีเพื่อนแบบนี้ในห้อง
แค่อยาไปยุ่งกะคนแบบนี้มาก
จขกทก็พยายามชนะมันให้ได้เพื่อความสะใจ
2.แง่ที่ว่ามันทำโลกสวยปากบอกอยากช่วยคนอื่น
อย่าได้แคร์ๆ

ตามกระแสสังคมประเทศไทยครับทุกคนอยากให้คนอื่นชมว่าเก่งทั้งนั้นโทษเค้าไม่ได้หรอกคนโดนใครกรอกหูมาแบบนี้

เปิดใจครับ มองโลกให้กว้างๆ อย่าเห็นแก่ตัว
ผมเดาว่าอิจฉาเพื่อนอยู่

มันก็เป็นแค่เหตุผลบังหน้าแหละครับ ใครจะกล้าตอบว่า ได้เงินเยอะ. อยากเรียนตามเพื่อน. ตามที่ทางบ้านต้องการ. ตามคนอื่นๆ. หรือแม้แต่ตามหนังหนือ ซีรีย์ต่างๆ. หละครับ. อารมณ์ประมาณนางงามต้องรักเด็กนัานแหละ

คนที่พูดแบบนี้มีสองประเภทค่ะ 1.อยากช่วยด้วยใจจริง 2.พูดไว้ดูดี

บางคนอยากเป็นหมอเพราะว่ารักในหน้าที่นี้ใน แต่บางคนอยากเป็นเพราะแค่ขึ้นชื่อว่าหมอ แค่นั้นเอง

เจอเหมือนเราเลย จขกท. 5555
คือเพื่อนในห้องเราคนนึงอยากเป็นหมอเหมือนกัน แต่งานห้องไม่ช่วย เห็นแก่ตัว ถามอะไรก็ไม่ค่อยตอบ แต่เกรดเทอมที่ผ่านมาม.6เทอม1 มันกลับไม่ได้ที่ 1 ละหน้ามันตกใจมาก 5555555 คนที่อยากเข้าบัญชีได้ที่ 1 ซึ่งไม่เห็นแก่ตัวเลย งานห้องช่วยตลอด งานโรงเรียนก็ช่วยเพราะเป็นคณะกรรมการโรงเรียน รู้สึกดี 5555

เขาจะเรียนแล้วจะทำไม ช่วยคนอื่นมีหลายวิธี จขกท. ล่ะ

ช่วยตัวเองดีกว่าไหม อย่ารอคนอื่นเลยค่ะ คนที่เขาอยากเรียนหมอเขายังพยายามด้วยตัวเองเลย แนะนำห่างๆๆเถอะค่ะถ้าไม่ชอบแล้วอ่านหนังสือ ทำการบ้านเอง

ไม่รู้สิ ถ้าเป็นเราอ่ะ เราจะไม่ยุ่งกับคนนี้เลย เห็นแกตัวมาก็เห็นแก่ตัวกลับ แต่อีกแง่คือ ดูตัวเองก่อนอ่ะว่าตั้งใจเรียนแบบเขาไหม? ถ้าไม่ได้ครึ่งของเขา เราจะไม่โทษใครนอกจากตัวเอง

สิทธิของเขาอ่ะ เรียนก็เรียนด้วยกันแต่เวลามีงานนี่ไม่รู้เหรอ? เวลาสงสัยอะไรถ้าเขาไม่อธิบายก็ไปถามอาจารย์ดิ

จขกท.อายุเท่าไหร่เนี่ย55555

อย่างน้อยทำงานคนเดียว ไม่บอกคนอื่น ไม่ได้ทิ้งให้คนอื่นทำงานตัวเองมันก็ดีนะ
งานห้องส่วนรวมก็ขึ้นอยู่กับว่างานอะไร เขาอาจจะไม่เห็นด้วยว่ามันมีประโยชน์อะไรกับเขาก็ได้นะถ้าพูดถึงกิจกรรม เช่นกีฬาสีหรืออะไรอื่นๆ
เอาแต่อ่านหนังสือ อาจจะมองได้ว่าอยากรู้มากๆจนลืมตัว หรือมีความกดดันกลัวสอบไม่ติด
คิดกว้างๆน้อง แต่ละคนมีเหตุผลของตัวเองทั้งนั้นแหละ

 ในสถานการณ์ สนามแข่งขัน แบบนี้ บางคนก็มองเพื่อนเป็นคู่ต่อสู้ ด้วย แต่บางคนกลับมองตัวเองนี่หล่ะเป็นคู่ต่อสู้ แล้วต้องชนะตัวเองให้ได้ ทางที่ดีก็ห่างๆไปเลยดีกว่า สบายใจไม่ต้องรกหูรกตา

อย่าตัดสินคนจากมุมมองเพียงแค่มุมมองเดียว คนเรามักมองคนอื่นและเชื่อในสิ่งที่ตัวเองเห็น บางครั้งความจริงมันก็ไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไป

อีกอย่างเป็นหมอเพราะอยากช่วยคน แต่คนบางคนที่ช่วยตัวเองได้แต่กลับเรียกร้องขอแต่ความช่วยเหลือ พอไม่ได้ดั่งใจก็ด่า ถ้าช่วยคงเสียใจแย่เลย


*อยากให้จขกทลองเปิดใจดู คนทุกคนมีส่วนดีและไม่ดี อย่าตัดสินคนอื่นจากสิ่งที่เราคิดไปเอง

ขอเสนอในอีกแง่ เราก็เป็นคนนึงที่มีภาพลักษณ์คล้ายๆเพื่อนจขกทนะ. เพื่อนบางคนก็ชอบมองว่านี่อ๋อเด็กเรียนเรียบร้อย บางทีมันก็ไม่ใช่อ่ะ ใช่ว่าคนที่เรียนดีแล้วดูเงียบๆจะเห็นอก่ตัวหมดซะเมื่อไหร่ บางครั้งก็มีนะแบบ เพื่อนในห้องทำงาน แต่เราไม่ค่อยเสนอเพราะเสนอไปเพื่อนก็ไม่ฟัง ส่วนงานอะไรยากๆเค้าก็จะโยนมาให้เราทำละออกหน้าว่าตัวเองทำอ่ะ

สุดท้ายอยากฝากบอกไว้ ลองเปิดใจมองโลกให้กว้างๆอย่าอิจฉาคนอื่นในสิ่งที่เจาดีกว่า เอาตรงนั้นมาเป็นแรงผลักดันที่ดีให้ตัวเราเองดีกว่า แตาก็ไม่ใช่ว่าพอชนะเค้าแล้วทับถมคนอื่น เพราะคนชนะจริงๆไม่มีใครมาหาเรื่องคนแพ้หรอก มีแต่คนขี้แพ้เนี่ยแหละที่ทำอะไรไม่ได้นอกจากปากมากไปวันๆ

อย่าไปสงสัยอะไรแบบนี้เลยค่ะ เสียเวลาของเราเองเปล่าๆ เวลาในอนาคตจะพิสูจน์เองว่าเค้ามีความตั้งใจอย่างที่พูดรึเปล่า :)

เราก็อยากเป็นหมอนะ แรงบันดาลใจคนเรามันมีหลายอย่าง เช่นเราอ่ะ เราอยากเป็นหมอเพราะไปดูหนังมาแล้วประทับใจอย่างสุดๆ เลยคิดว่า เราต้องไปยืน ณ จุดๆนั้นให้ได้ ก็เหมือนที่เพื่อน จขกท.บอกว่าเพราะอยากช่วยคน อาจเพราะเขาถนัดและมั่นใจว่าเขาช่วยเรื่องนี้กับคนอื่นได้แน่นอน เขาจึงอยากเป็น
-เรื่องเพื่อนมาถามอ่ะ มันแล้วแต่คนนะ เราเป็นคนที่จะไม่ค่อยอยากช่วยคนอื่นเวลาเราทำของเรายังไม่เสร็จอ่ะ เราต้องมั่นใจว่าคำตอบของเราถูก เราถึงจะไปสอนคนอื่นหรืออธิบายให้เขาฟังได้ ที่เขาไม่อธิบาย เขาอาจไม่มั่นใจก็ได้ค่ะ
-เรื่องงานห้อง ปกติเราก็ทำนะ ทำเท่าที่ทำได้ ทำเท่าที่เพื่อนสั่งให้ทำอ่ะ บางทีเราก็ไม่ค่อยช่วยเพราะเราไม่ถนัดหรือทำไม่เป็น

*เรื่องนี้มันแล้วแต่เหตุผลส่วนตัวของแต่ละบุคคลเลยค่ะ

อิจฉาคนนั้นอยูาใช่มั๊ย