Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

สุดเศร้า แม่ใจสลายกอดศพลูกสาว ม.5 น้อยใจไม่มีเงินเรียนกวดวิชาเข้าแพทย์ ผูกคอดับ!

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ไปเจอมาน่าเศร้ามาก ทุกปัญหามีทางออกนะ ให้กำลังใจเพื่อนๆ ที่จะสอบปีนี้ทุกคน

เครดิตข่าวเว็บข่าวสด https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_102640

เมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 16 พ.ย. ร.ต.อ.ชัยณเรศ สุพร รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ รับแจ้งมีเด็กนักเรียนใช้เชือกผูกคอตัวเองเสียชีวิต อยู่ภายในบ้านพัก หมู่ 6 ถนนเทพารักษ์ ต.บางเมือง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ภายหลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่กู้ชีพมูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ

ที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น บริเวณกลางห้องโถงชั้นล่างพบศพนักเรียนหญิง ซึ่งได้ถูกนำร่างลงมานอนบนพื้นก่อนเจ้าหน้าที่จะไปถึง อายุ 17 ปี เป็นนักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนในพื้นที่ สภาพศพอยู่ในชุดพละ โดยมีมารดา อายุ 45 ปีนั่งร้องไห้กอดศพลูกสาวปานจะขาดใจ ใกล้กันพบโต๊ะเครื่องแป้งได้ถูกลากมาอยู่บริเวณกลางบ้าน ส่วนบริเวณที่ตะข้อเหล็กซึ่งทำไว้สำหรับเกี่ยวพัดลมเพดาน พบเชือกในล่อนสีน้ำเงินผูกคาอยู่

น้องสาวผู้ตาย อายุ 14 ปี ซึ่งพบศพเป็นคนแรก เปิดเผยว่า วันนี้ตนไม่ได้ไปโรงเรียนเนื่องจากไม่สบาย จึงได้นอนพักผ่อนอยู่บนห้องนอนชั้น 2 จนกระทั่งเวลาประมาณ 16.00 น.ตนเดินลงมาจากห้องและพบเห็นพี่สาวกลับมาจากโรงเรียนตามปกติ ก่อนที่พี่สาวจะถามตนว่าทำไมวันนี้กลับเร็ว ซึ่งระหว่างนี้ตนก็พบพี่สาวมีอาการปกติดี ยังได้ชักชวนกันไปเดินซื้อของที่โลตัสศรีนครินทร์อยู่เลย

จากนั้นตนจึงได้เดินขึ้นไปนอนบนกระทั่งเวลาผ่านไปไม่ถึง 1 ชั่วโมงจึงได้ตะโกนเรียกพี่สาวแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ จึงได้เดินส่องดูบริเวณลาวบันได ก็เห็นร่างพี่สาวห้อยต่องแต่งอยู่บนเพดาน ด้วยความตกใจจึงได้รีบวิ่งขึ้นไปบนห้องก่อนที่จะตั้งสติ และออกไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านมาช่วยเหลือนำร่างพี่สาวลงมา แล้วโทรบอกแม่รีบกลับมาที่บ้าน

ขณะที่ผู้เป็นแม่ เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ตนทำงานเป็นพนักงานขายจิวลี่ ปกติลูกสาวเป็นคนนิสัยดีและตั้งใจเรียน จนได้ผลการเรียนดี ได้อันดับต้นๆของห้องมาตลอด ซึ่งอนาคตลูกสาวใฝ่ฝันอยากจะเรียนหมอ จึงได้มาขอเงินตนเพื่อไปเรียนพิเศษอยู่เป็นประจำ ซึ่งตนก็ให้ไปเรียนตามที่จะมีกำลังส่งได้ จนเมื่อล่าสุดลูกสาวมาขอเงินตนไปเรียนพิเศษกับสถาบันกวดวิชาแห่งหนึ่ง เพื่อเตรียมสอบเข้าคณะแพทย์ โดยครั้งนี้ต้องเสียค่าเรียนกว่า 5 หมื่นบาท แต่ตนก็ไม่มีให้ จึงทำให้ลูกสาวค่อนข้างน้อยใจมาตลอด และไม่คิดมาก่อนว่าลูกสาวจะกลับมาคิดสั้นถึงขั้นฆ่าตัวตายในวันนี้

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่า สาเหตุน่าจะมาจากปัญหาเรื่องส่วนตัว และจากการตรวจสอบเฟซบุ๊กของผู้ตาย ยังได้พบข้อความในลักษณะน้อยใจ โดยมีข้อความว่า ”ทำไมแม่ไม่เคยเข้าใจ” ซึ่งผู้ตายได้โพสต์ลงก่อนที่จะเกิดเหตุประมาณ 3 ชั่วโมง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ส่งศพไปชันสูตรอย่างละเอียดที่สถาบันนิติเวช เพื่อหาสาเหตุการตายอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนให้ครอบครัวรับศพไปประกอบพิธีทางศานาต่อไป

แสดงความคิดเห็น

>

32 ความคิดเห็น

No-maj 17 พ.ย. 59 เวลา 10:23 น. 2

คิดสั้นไปนะน้อง คิดว่าตัวเองตายแล้วจะจบปัญหาได้ ที่จริงมันไม่ใช่เลย เรื่องเงินห้าหมื่นมันไม่ใช่จะหากันได้ง่ายๆ เสียดายชีวิต

0
ความจริง 17 พ.ย. 59 เวลา 10:57 น. 3

บาปนะ ทำแม่ร้องไห้ แม่คงเสียใจตลอดชีวิตแน่เลย ทำไมคิดสั้นจังน้อง แต่ตอนนี้ทำอะไรไม่ได้แล้ว
ขอให้น้องไปดีนะ
ขอฝากพวกหน่วยงานหน่อย เรียนตั้งแต่อนุบาลถึงมัธยมมันกี่ปีเสียเงิน เสียเวลาไปเท่าไร ความรู้มันไม่ได้ ใช้ต่อไม่ได้ จากใจ ที่เรียนในระบบเพราะได้วุฒิ เเต่พออยากเข้ามหาลัย คณะ ที่นิยมอย่างเเพทย์ วิศวะ เอะอะต้องเรียนพิเศษ มันใช่ไหม อย่ามาบอกว่าคนไม่เรียนก็เข้าได้ ใช่เข้าได้ แต่เรียนต่อไม่ได้ ช่วยสร้างมาตรฐานทางการศึกษาให้เท่าเทียมกันทั่วประเทศหน่อย ไม่ใช่พวกมีตังค์ถึงมีโอกาส แล้วปัญหาเกิดเนี่ย ใครแก้ ความผิดใคร ทำให้เด็กต้องเป็นแบบนี้ ทำให้พ่อแม่เด็กเหนื่อยแค่ไหน เสียใจแค่ ไหน นี่ไงผลของความไม่เท่าเทียมทางการศึกษา ค่านิยมผิดๆของคนไทย
#ไทยแลนด์โอนลี่
#จากเด็กบ้านนอกที่สอบติดคณะที่นิยมแต่เรียนทุกวันนี้จะตาย เพราะไม่มีพื้นฐาน ไม่เคยเรียนพิเศษ
#ทำร้ายชีวิตคนไปเท่าไรแล้ว
โกรธแล้วนะ

1
Aemmy 18 พ.ย. 59 เวลา 15:14 น. 3-1

เพราะระบบการศึกษาไทยมันไม่เท่าเทียมไง ข้อสอบด้วย คนที่มาจากโรงเรียนแถวบ้าน พื้นฐานไม่ดี หรือครูในโรงเรียนสอนแบบเช้าชามเย็นชาม ก็ต้องเหนื่อยมาเรียนเสริมเพื่อให้ตนเข้าใจและแข่งขันได้

0
ff123 17 พ.ย. 59 เวลา 12:48 น. 4

แค่ความคิดก็ไม่ผ่านจริยธรรมการเป็นแพทย์แล้วครับ คิดสั้นเกินไป สู้ๆครับเป็นกำลังใจให้ครอบครัวของเขา

2
ลันตา 18 พ.ย. 59 เวลา 21:13 น. 4-1

เป็นกำลังใจให้ครอบครัวของน้องและอีกหลายๆคนที่ประสบปัญหาเช่นเดียวกันค่ะ
เพียงแต่สงสัยว่าอะไรคือ'จริยธรรมการเป็นแพทย์' ในที่นี้หรอคะ

0
VioletVelvet 20 พ.ย. 59 เวลา 17:44 น. 4-2

น่าจะหมายถึงจรรยาบรรณของแพทย์นะครับ แค่รักตัวเองยังไม่รักเลย ถ้าเกิดได้ไปเป็นหมอจริงชีวิตของคนไข้ที่อยู่ในมือเราจะเป็นยังไงล่ะครับ


#ไม่ได้ว่าเขานะครับ ผมเขาใจแบบนี้

0
centskill 17 พ.ย. 59 เวลา 13:03 น. 5

ต้นทุนชีวิตแต่ละคนมันไม่เท่ากัน ขอให้เธอไปสู่ภพภูมิที่ดีแล้วกัน คนเป็นแม่คงเสียใจและเหนื่อยมากๆ เงินมันไม่ใช่หากันได้ง่ายๆเลย

0
รอยตะวัน 17 พ.ย. 59 เวลา 15:47 น. 7

ดีแล้วหล่ะที่เขาตาย  ขนาดเรื่องแค่นี้ยังแยกแยะไม่ได้ ไม่ยอมรับกับสภาพที่มีอยู่ก็ปล่อยให้เขาตายไปเถอะค่ะ 
ปล.ความเห็นอาจไม่โดนใจใครหลายๆขอต้องขอโทษด้วย คหสต.

12
งุงุ 17 พ.ย. 59 เวลา 16:36 น. 7-1

คนที่ยินดีกับความตายของคนอื่น เป็นบุคคลที่น่าขยะแขยงมากเลยครับสำหรับผม ความเห็นส่วนตัวของผมเหมือนกันครับ แต่พิมพ์ในที่ส่วนรวมแล้วนี่

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกโหวตลบโดยเพื่อนสมาชิกชาวเด็กดี เพราะมีเนื้อหาไม่เหมาะสม

edelweiss 17 พ.ย. 59 เวลา 18:15 น. 7-3

คนที่ยินดีกับการสูญเสียของคนอื่นนี่ไม่ทราบว่าถูกเลี้ยงดูมาในสังคมแบบไหนเหรอคะจิตใจถึงได้สกปรกแบบนี้ แย่จังค่ะ

0
อย่าซ้ำเติม 17 พ.ย. 59 เวลา 21:32 น. 7-4

อย่างน้อยความเห็นนี้ก็สอบตกจริยธรรมแพทย์แล้ว คุณคิดได้แค่นี้ก็แสดงถึงจิตใจที่ไร้เมตตาไม่พร้อมจะช่วยเหลือคนที่ลำบากไม่ว่าจะทางกายหรือใจอย่างแท้จริง ถ้าเป็นหมอ แม้แต่คนบ้า คนป่วยจิต โจร ก็ยังต้องรักษา หาทางแก้ปัญหาโรคภัยให้พวกเขาเหล่านั้น คุณไม่คิดบ้างหรอว่าน้องเค้าอาจเป็นโรคซึมเศร้า หรือมันอาจจะมีเบื้องหลังที่เรายังไม่รู้ก็ได้ การดีใจกับการตายของคนมันก็แสดงให้เห็นถึงสภาวะจิตใจที่ย่ำแย่ของคุณ อาการนี้ก็ควรไปพบจิตแพทย์เหมือนกัน
ความเห็นส่วนตัว...

0
ใครกันนะ☆ 17 พ.ย. 59 เวลา 22:09 น. 7-5

เห็นด้วยกับ7-1ค่ะ ซ้ำเคิมคนนี่ก็เเสดงให้เห็นว่าคุณก็ยังไม่ได้รับการอบรบที่ดีพอนะคะ ถ้าเรื่องเเบบนี้เกิดกับคนที่คุณรักคุณจะยังพูดอย่างนี้ได้รึเปล่าคะ?

0
ทศพล จุลพรรณ์ 18 พ.ย. 59 เวลา 00:04 น. 7-6

ขำกับอีพวกที่บอกว่าความคิดแบบนี้ไม่ผ่านจริยธรรมทางการแพทย์จริงๆนะคะ สงสัยเหมือนกันค่ะว่าทุกวันนี้จะมีหมอสักกี่คนเชียวที่จะคำนึงถึงสิ่งนี้มาเป็นอันดับแรกๆ คุณลองไม่มีจะกินเป็นคนข้างถนน หรือคนไร้บ้าน ไปยืนให้รถเฉี่ยวชนคุณให้กระเด็นเหมือนหมาเลือดอาบตัวก่อนสิคะ แล้วจะรู้เองค่ะว่าตัวคุณมีค่าให้หมอรักษาสักแค่ไหนกันเชียวถ้าเกิดหมอเค้ารู้ว่าคุณเป็นพวกใกล้ตาย อยากมีชีวิตรอดแต่ดันอาภัพไม่มีเงิน 5555+

0
Minnnn 18 พ.ย. 59 เวลา 08:18 น. 7-7

เสียใจกับแม่นะ แต่คนแบบนี้ไม่สมควรเป็นหมออะ เราก็อยากเป็นนะแต่คำนึงถึงความเหมาะสมและฐานะ 5 หมื่น แค่เอ่ยปากยังไม่กล้าเลยอะ แค่หมื่นกว่าๆตามสถาบันติวเตอร์ดังๆก็น่าจะพอแล้ว ช็อค

0
Aemmy 18 พ.ย. 59 เวลา 15:30 น. 7-8

คห 7 กับ 7-2 ต่างหากที่สมควรตายนะ เหยียบซ้ำคนตายอย่างสนุกปาก ระวังตัวเองโดนเหยียบแบบนี้บ้างนะ อย่างพวกเธอน่ะเก็บปากไว้ดื่มน้ำทองแดงในขุมนรกเถอะ เหนื่อยใจแทนพ่อแม่ที่มีลูกทั้งปากและใจเหมือนสัตว์นรกแบบนี้จริงๆ

ป.ล ความเห็นส่วนตัวนะจ๊ะ

0
ลันตา 18 พ.ย. 59 เวลา 21:28 น. 7-9

7-6 นี่พยายามทำตัวเหมือนฉันฉลาด ฉันแตกต่าง ฉันไม่โลกสวย.. พยายามแล้วแต่ยังไม่ผ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ ขอให้มีความมั่นคงทางอารมณ์ไวๆ หาตัวเองเจอ เป็นตัวของตัวเองได้โดยไม่ต้องพยายามทำตัวเองให้แตกต่างนะคะ สู้ๆ

ปล. การมีชีวิตอยู่เป็นเรื่องน่าอัศจรรย์นะคะ จขคห ^^ วันนั้นเขาอาจมองไม่เห็นทางออกของปัญหา แต่ถ้าได้ใช้เวลา ได้มีประสบการณ์ ได้รู้จักโลกที่กว้างใหญ่ขึ้น เขาอาจจะโตขึ้นและสามารถ"แยกแยะ"อะไรๆได้ในสักวันค่ะ อย่ารีบตัดสินใครว่าสมควรตาย หรือยินดีกับความตายของใครเลยนะคะ ตราบเท่าที่ยังมีชีวิตอยู่คนเราเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ทุกๆคนมีวันที่ผิดพลาดและอ่อนแอ อย่าผลักไสใครไปสู่ความตายเลยค่ะ

กลัวจริงๆว่าทัศนคติแบบนี้จะเผลอไปพูดใส่หูใครเข้า ว่า'อยู่ไปก็รกโลก ตายๆไปซะดีกว่า' คำพูดคืออาวุธอย่างนึงนะคะ กลัวเหลือเกินว่าคุณจะกลายเป็นฆาตรกรเข้าสักวัน

0
ทศพล จุลพรรณ์ 19 พ.ย. 59 เวลา 14:08 น. 7-10

7-9 เบื่อกับมนุษย์โลกสวยแบบคุณที่มีปัญญาปากปาวๆว่าคนที่เห็นต่างเป็นอย่างเดียว สุดท้ายก็แค่พวกชูหางตัวเองเหยียบคนอื่นให้ต่ำลงในทุ่งลาเวนเดอร์ ขี่ม้าโพนี่ ก็พอๆกันกับชาวบ้านเค้านั่นแหละค่ะ หรือที่คุณว่าดิชั้นว่าพยายามจะ"แตกต่าง" แต่จะทำไมหล่ะคะถ้าคนอย่างดิชั้นจะแสดงความเห็นออกมาใส่คนที่ขยะแขยงในชีวิตตัวเองและผูกคอตาย? รับความเห็นดิชั้นไม่ได้ก็ผูกคอตายตามเด็กในข่าวไปสิคะ 555555555

0
อย่าทำเป็นรู้D 21 พ.ย. 59 เวลา 22:17 น. 7-11

ไม่รู้อะไรจริงก็อย่าสอใส่เกือกค่ะ คุณจะเห็นต่างก็ได้ไม่มีใครว่า แต่การซ้ำเติมและยินดีกับความตายของคนอื่นเป็นสิ่งที่ไม่สมควรทำอย่างยิ่ง

0
ลันตา 22 พ.ย. 59 เวลา 23:25 น. 7-12

7-10
สำคัญตัวไปค่ะ555 ทำไมฉันต้องผูกคอตายเพียงเพราะคุณไม่เห็นด้วยไม่ทราบคะ? มีความสำคัญอะไรคะเนี่ย เพ้อเจ้อ 5555
นี่มาพิมพ์ตอบคุณก็ถือว่าให้เกียรติที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้แล้วค่ะ 555

โอเคค่ะโลกของเราคงต่างกันเกินไป แค่อยากแชร์ประสบการณ์ว่าทุ่งลาเวนเดอร์ก็สวยดีนะคะ จะรับไปประดับบ้านสักต้นสองต้นให้ดูจรรโลงใจขึ้นบ้าง พูดดีๆ คิดดีๆบ้าง ลองดูก็ไม่เสียหายนะคะ แค่เสนอเฉยๆค่ะ แต่สุดท้ายจะคิดยังไงก็เรื่องของคุณค่ะ ชีวิตเป็นของคุณ จะอยู่จะตายก็เรื่องของคุณ ขอบคุณที่สละเวลามาคุยกันนะคะ 555

ป.ล. ไม่ได้มีปัญญาแค่พูดไปวันๆค่ะ มีความสามรถพอจะช่วยให้คนมีชีวิตอยู่ต่อได้ค่ะ เลยรังเกียจฆาตรกรที่ชอบใช้ปากเป็นอาวุธฆ่าคนอื่นค่ะ เพราะต่อให้เราช่วยชีวิตเขาได้ เราก็รักษาแผลเป็นจากฆาตรกรไม่ได้ค่ะ

0
กัลย์ 17 พ.ย. 59 เวลา 16:38 น. 9

โรงเรียนกวดวิชา จงจำไว้ อย่าเรียกค่าเรียนพิเศษแพงเกินไป

ค่าเรียนกวดวิชาทั้งหมดหลายวิชารวมประมาณ 50,000 บาท
มันเป็นจำนวนเงินที่สูงมากเกินไป(ครึ่งแสนบาท)

เสีย 50,000 บาทแล้ว ก็ไม่ได้รับประกันแน่นอนว่าจะสอบติดแพทย์
บางคนไม่ได้เรียนพิเศษเลย หรือเรียนพิเศษเพียง 1-3 วิชา ก็สอบติดแพทย์ก็มี

ถ้าน้องเข้ามาปรับทุกข์ในเว็บเด็กดี ก็อาจจะไม่มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นก็ได้
เพราะในเว็บเด็กดี มีคนให้คำแนะนำดีๆ ให้กำลังใจ ให้อดทน ต่อสู้ เยอะแยะไป
สงสารแม่น้อง อาจจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต คิดว่าเป็นความผิดของตัวเอง
ที่ไม่ให้น้องเงินไปเรียนกวดวิชา

ถ้าพ่อแม่รวย เงินจำนวนมากประมาณครึ่งแสนบาท ก็เป็นเรื่องเล็กน้อย
กรณีนี้แม่เป็นลูกจ้าง พนักงานขายจิวลี่ เงินครึ่งแสนบาท ถือว่าเป็นที่ก้อนใหญ่มาก
กว่าจะเก็บออมได้จำนวนครึ่งแสนบาท อาจจะใช้เวลาเป็นปี ๆ

เด็กคนอื่นๆ ถ้ามีปัญหาแบบนี้ อย่าลืมเข้ามาปรับทุกข์ในเว็บเด็กดี บอร์ดแพทย์
จะมีผู้ให้คำแนะนำ ปรึกษาดีๆ จำนวนมาก อาจจะไม่เกิดเรื่องเช่นนี้ก็ได้
เพราะเท่าที่สังเกตุดู ส่วนใหญ่ให้แนะนำดีๆ ให้กำลังใจ อดทน สู้ๆ กันทั้งนั้น

สรุป เรียนพิเศษ 50,000 บาท ไม่สามารถทำให้สอบติดแพทย์ได้
บางคนไม่ได้เรียนพิเศษเลย แต่ขยัน อดทน สามารถสอบติดแพทย์ได้

เยี่ยมเยี่ยมเยี่ยม

0
R.I.P 17 พ.ย. 59 เวลา 17:09 น. 10

อ่านกระทู้นี้แล้วรู้สึกผิดเลย นี่ลงเรียนคอร์สแอดไปทุกวิชา ก็ยังสอบไม่ติด 5555 ขนาดโอกาสเยอะกว่าคนอื่นๆ เห้อออ
#สู้ต่อไปDek60
#เสียใจกับครอบครัวน้องด้วยครัย ^^

0
cakekirah 17 พ.ย. 59 เวลา 17:35 น. 11

อย่าซ้ำเติมน้องเขาเลยค่ะ ลองอ่านดูดีๆจะรู้สึกว่ามันแปลกๆ
เราว่าบางทีน้องเขาอาจจะเป็นโรคซึมเศร้ามาก่อนแล้วก็ได้ เพียงแค่ว่าไม่ได้แสดงออกมาให้ครอบครัวรับรู้ พอมีเรื่องสะสมมาเรื่อยๆเจอเรื่องที่ว่าแม่ไม่ให้เงินไปเรียนพิเศษเข้าไป อาจจะเป็นอารมณ์แบบฟางเส้นสุดท้ายของเขาก็ได้ อย่าตัดสินคนๆนึงด้วยข่าวไม่กี่ย่อหน้าเลยค่ะ

0
สงสัย 17 พ.ย. 59 เวลา 17:37 น. 12

มีเบื้องหลังอะไรหรือเปล่า แค่นี้ไม่น่าฆ่าตัวตาย อกหัก หรือไปถูกใครรังแกมาหรือเปล่า แค่น้องปิดไว้ไม่ให้ใครรู้

0
R.I.P 17 พ.ย. 59 เวลา 17:52 น. 13

สาเหตุแท้จริงอาจไม่ใช่แค่เรื่องเงิน หรืออาจจะไม่ใช่เรื่องเงินด้วยซ้ำ บางทีน้องเค้าอาจจะเป็นโรงซึมเศร้าก็ได้ บวกกับความเครียดที่สะสมมานาน สิ่งสำคัญคือ คนรอบข้างต้องสังเกต โรคซึมเศร้่ามันน่ากลัวแต่รักษาหายได้ มีคนหลายคนที่สอบติด หรือเรียนจบมาได้โดยที่เค้าเคยเป็นโรคซึมเศร้ามาก่อน คนตายไปแล้วก็อย่าซ้ำเติม เราขอให้กำลังใจครอบครัวน้องนะคะ แล้วก็ขอให้ทุกๆคนลองมองรอบข้างตัวเอง ไม่ว่าจะเพื่อนหรือญาติ บางทีคนใกล้ตัวเราเนี่ยแหละอาจจะมีภาวะเครียด ใส่ใจคนรอบข้างกันให้มาก มีปัญหากันก็ต้องเปิดอกคุยกันให้เคลียร์ และกำลังใจสำหรับคนท้อแท้นั้นสำคัญสุด...

0
Phet 17 พ.ย. 59 เวลา 18:04 น. 14

ขอแสดงความเสียใจด้วยคะ
มองในมุมเราล่ะ เราคิดว่าการที่ระบบเปลี่ยนเป็น Entrance 4.0 ที่มีสอบแค่ครั้งเดียว อาจจะไปกดดันเขาก็ได้นะ แล้วความกดดันนั้นมันอาจส่งผลให้อยากขอเงินไปเรียนพิเศษ เพราะกลัวสอบไม่ติด โอกาสมีครั้งเดียว เพราะอย่างงั้นรึป่าว แล้วอีกอย่างสื่อบางอย่างเกี่ยวกับการสอบ อาจจะกดดันด้วยรึเปล่า นี่คือสิ่งที่เราคิด แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอย่างงั้นรึเปล่านะ ยังไงก็ขอแสดงความเสียใจอีกครั้งด้วยคะ

0
อารา ฮานะ 17 พ.ย. 59 เวลา 18:41 น. 15

ขอโทษนะคะ คือเราพยายามแจ้งข่าวไปในเว็บไซต์ที่ จขกท.เอามาแชร์เอาโพสต์. แต่คือเขาไม่มีข้อความตอบกลับมาเลย เพื่อนๆหลายๆคนที่เป็นเพื่อนของผู้เสียชีวิตก็พยายามชี้แจ้งความจริง คือผู้เสียชีวิตเขาเสียหายนะคะ คือเขาเป็นคนดี เป็นร่าเริง เป็นคนนิสัยดี เป็นมิตรกับทุกคน และเขาก็คงมีเหตุผลของเขา เขาเป็นคนเรียนเก่ง เขาไม่น่ามาเสียชีวิตด้วยเงิน 50000 หรอกค่ะ สถาบันที่สอนดีๆก็มีเยอะแยะ เขารู้จักแยกแยะค่ะ วอนผู้ใหญ่ที่อาบน้ำร้อนมาก่อนและผู้ต้องการแสดงความคิดเห็นโปรดอ่านข้อความนี้เพื่อวิเคราะห์และได้คิดนะคะ ขอบคุณค่ะ และเราของแจ้งลบโพสต์นี้นะคะ 

0
ชะชะชะชะชะชะชิ 17 พ.ย. 59 เวลา 19:03 น. 16

น้องคงถูกเป่าหูเรื่องกวดวิชาเอามาก ๆ เราก็เคยเอาตัวเองไปผูกกับกวดวิชาเลย คือคิดว่า"ไม่ได้เรียนยังไงก็สอบไม่ได้แน่นอน" แต่ตอนนี้เราเรียนรู้วิธีที่จะเรียนด้วยตัวเองแล้ว ได้ผลดีพอ ๆ กับเรียนกวดวิชาเลย แต่มีตังค์เหลือ ๆ
.
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้แต่เพียงหวังจะให้หน่วยงานเกี่ยวกับการศึกษา จะจัดการกับเรื่องที่เด็กพึ่งพากวดวิชามากเกินไปครับ

2
asdf 17 พ.ย. 59 เวลา 21:12 น. 16-1

เห็นด้วยครับ ทำไมเด็กบ้าเรียนพิเศษขนาดนั้นอะครับ ผมลองๆดูเอกสารก็ไม่ต่างอะไรกะในหนังสือคู่มือทั่วไปเลย (ยกเว้นข้อสอบใหม่ๆแต่จริงๆก็หาโหลดได้นะ)

ผมบอกเลยครับคนที่ติดเรียนหรือไม่เรียนก็ติดครับ เช่นเดียวกันคนไม่ติดเรียนหรือไม่เรียนก็สอบไม่ติดครับ
เรียนนี่ช่วยแค่เรื่องประหยัดเวลาลงบ้างแค่นั้นแหละครับ

เสียใจกับครอบครัวด้วยนะครับ

0
ชะชะชะชะชะชะชิ 18 พ.ย. 59 เวลา 21:40 น. 16-2

ที่แพงอยู่ที่ค่าตัวติวเตอร์ครับ ติวเตอร์ต้องแข่งกับติวเตอร์สถาบันอื่น ต้องพัฒนาตัวเองอยู่ตลอด ไม่งั้นจะขายคอร์สไม่ออกเนื่องจากไร้ความสามารถ เลยส่งผลให้ติวเตอร์มีความสามารถในการสอนมากกว่าครูในโรงเรียนทั่วไปครับ

0
เด็กซิ้ว 17 พ.ย. 59 เวลา 19:16 น. 17

ยังเด็กอยู่เลย
ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวน้องด้วยน่ะค่ะ

ถ้าใครเครียดก็เข้ามาปรับทุกข์ในเด็กดีได้น่ะค่ะ

0
มัณทนา 17 พ.ย. 59 เวลา 19:28 น. 18

อายุ 17 แล้วยังแก้ไขปัญหาชีวิตของตัวเองไม่ได้เลย
ทำไมไม่คิดว่าจะออกไปทำงานพิเศษหารายได้เพื่อส่งตัวเองเรียนต่อหมอ
บางคนที่สอบติดหมอที่ไม่ได้ไปเรียนพิเศษอาจจะออกไปทำงานพิเศษหารายได้
คนที่ฆ่าตัวตายต้องชดใช้กรรมโดยการเกิดใหม่และฆ่าตัวตายซ้ำๆอีก 500 ชาติ
อีก 500 ชาติข้างหน้า
น้องคนนี้จะต้องฆ่าตัวตายเพื่อชดใช้กรรมที่ฆ่าตัวตายไปเรื่อยๆจนกว่าจะครบ 500 ชาติ

0
CloRenThiA 17 พ.ย. 59 เวลา 23:05 น. 19

เราว่าอย่าตัดสินว่าเขาคิดน้อยไปเลย เพราะกว่าคนๆนึงจะตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง เขาคงคิดแล้วคิดอีก ทรมานจนทนไม่ได้แล้วมากกว่า ซึ่งสาเหตุอาจจะไม่ใช่เรื่องเงินตามข่าวก็ได้ อาจจะมีเบื้องลึกเบื้องหลังที่มากกว่านั้น มีเหตุผลที่ทำให้เขาไม่กล้าหรือไม่สามารถจะพูดปรึกษาใคร บางทีเขาอาจจะป่วยอยู่ก็ได้นะคะ เราไม่อาจจะรู้รายละเอียดหรือสาเหตุจริงๆได้จากเนื้อข่าวเพียงอย่างเดียวหรอกค่ะ 

0
ทศพล จุลพรรณ์ 18 พ.ย. 59 เวลา 00:15 น. 20

น่าสมเพชเวทนานะคะ ที่เกิดมาใช้ชีวิตทั้งทีก็ต้องเจอมารผจญ เจอคนฆ่าตาย หรือตายเพราะอุบัติเหตุ ตายเพราะธรรมชาติ สงคราม โรคภัยนาๆเป็นธรรมดา นี่ยังนับได้ว่าตายอย่างน่าระลึกถึง ตายพอที่จะให้ผู้คนแสดงความเสียใจค่ะ แต่ตายเพราะมารผจญตัวเองนี่น่าขยะแขยง ไม่อยากจะนึกถึงสุดๆเลยค่ะว่าทำไมเห็นคุณค่าในตัวเองต่ำขนาดนี้ ไม่รู้ว่านึกมั้ยนะคะว่ามีคนข้างถนน ภารโรงกวาดพื้น ขัดห้องน้ำ คุณป้าที่ใกล้เกษียณทำงานงกๆ บางคนการศึกษาน้อย โอกาสน้อยกว่าผู้ตายตั้งหลายเท่า ทำไมไม่คิดบ้างว่าคนกลุ่มนี้เค้าชีวิตแย่กว่าขนาดไหน แล้วไม่ทำใหตัวเองมีแรงผลักดันต่อไปโดยตั้งคำถามว่า ขนาดคนพวกนั้นยังลำบากแต่ก็สู้ชีวิต แล้วทำไมตัวเองไม่สู้บ้างหล่ะคะ เหตุผลทุกอย่างมันไม่จบที่แค่ทำให้ตัวเองตายไปก็จบๆหรอกนะคะ แค่ปล่อยวางไม่ได้สุดท้ายก็ได้แต่ถือมันไว้ ในตอนจบก็ถ่วงคอตัวเองจนตายไงคะ 55555+

7
Pedmonxee 18 พ.ย. 59 เวลา 21:32 น. 20-1

ระวังหน่อยนะคะ ครอบครัวเขาแจ้งความได้นะ

0
โตเเล้วคิดเองได้ 19 พ.ย. 59 เวลา 09:25 น. 20-2

คุณนี่พูดตาดูถูกคนอื่นจังเลยนะคะ เข้าใจค่ะว่าอินกับข่าว หลายคนก็บอกว่าอย่าซ้ำเติม ทำไมคุณซ้ำเติมเขาจังเลย ถ้าคนเป็นพ่อเป็นเเม่มาเห็นคงเสียใจนะคะ อีกอย่างข่าวมันเดี๋ยวนี้มันน่าเชื่อถือได้เหรอคะ คุณรู้จักน้องเขาดีเหรอคะ บางทีเขาอาจจะมีเหตุผลมากกว่าสิ่งที่เรายังไม่รู้อีกก็ได้นะคะ

0
ทศพล จุลพรรณ์ 19 พ.ย. 59 เวลา 14:15 น. 20-3

20-1 คงอีกนานค่ะกว่าจะโดนจับเพราะต้องจัดงานศพให้กับคนในข่าวก่อนสิคะ ถึงเวลานั้นจะมีเงินตั้งทนายมาฟ้องมั้ยน้าาา คงไปกับค่างานศพแล้วกระมัง

อุ้ย แต่ลืมไปค่ะว่า เงินใส่ซองอาจจะกลายเป็นค่าตั้งทนายก็ได้ ว้ายทำไงดีค๊าาา555555+

0
หัวร้อนหรอคะ 20 พ.ย. 59 เวลา 12:42 น. 20-5

คนแบบนี้ก็พูดเก่งแค่หลังคีย์บอร์ดแหละค่ะ
ดูจากการแสดงความคิดเห็นแล้วคงเติบโตมากับสังคมที่ด้อยคุณภาพ ต่ำตมหาอะไรเปรียบไม่ได้ น่าเวทนาจริงๆค่ะ

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

มีข้อความหยาบคาย ใช้ภาษาไม่เหมาะสม

white rabbit 21 พ.ย. 59 เวลา 22:10 น. 20-7

น่าเวทนาจริงๆค่ะ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
หมายถึงเจ้าของเม้นที่20นะคะ ไหวมั้ยเอ่ย กลับบ้านไปกินยาแล้วนอนพักซะนะ ใจเขาใจเรา ถ้ามีคนในครอบครัวของคุณคิดสั้นฆ่าตัวตายแล้วมีคนมาย่ำยีซ้ำเติมแบบที่คุณกำลังทำบ้างคุณคงรู้สึกไม่ต่างกันกับพ่อแม่เขาหรอกค่ะ ถ้าไม่รู้จักเขาดีพอก็อย่าไปด่วนสรุปตัดสินอะไรง่ายๆเลย ใจร่มๆเป็นกลางไว้เถอะ ถ้าอยากจะด่าเราก็ด่ามาเลยค่ะ เพราะคุณก็ไม่รู้จักเราดีพอเหมือนกัน

ปล.อยากบอกว่าตัวอักษรแต่ละตัวที่คุณพิมพ์มันช่างส่อสกุลลุนชาติว่าคุณถูกเลี้ยงดูมาแบบไหนจริงๆ
ตลกจัง

0
Am a Girl 18 พ.ย. 59 เวลา 13:53 น. 23

จะสอบติดหมอไม่จำเป็นต้องเรียนกวดวิชาเสมอไปนะคะ มีหลายคนที่ไม่เคยเรียนกวดวิชาแต่ติดหมอก็มีมาก พี่ว่าหนังสือสสวท.ดีมากเลยนะน้อง ถ้าน้องตั้งใจเรียนในโรงเรียน แล้วหมั่นทบทวนและหาโจทย์ทำเพิ่ม ถ้าไม่เข้าใจแนะนำให้ไปถามคุณครูหรือตามกลุ่มต่างๆบนเฟสก็ได้นะคะ ซึ่งบางทีน้องอาจได้คะแนนเยอะกว่าไปเรียนอีก เพียงแต่ว่าน้องจะแบ่งเวลาได้ดีไหมแค่นั้นเอง สุดท้ายนี้ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวน้องคนนี้ด้วยนะคะ

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกโหวตลบโดยเพื่อนสมาชิกชาวเด็กดี เพราะมีเนื้อหาไม่เหมาะสม

dfsd 18 พ.ย. 59 เวลา 19:44 น. 25

เข้าใจน้องเขานะ หลักสูตรแต่ละโรงเรียนไม่เหมือนกัน พวกข้อสอบพวกแพทย์ ทันตะ รู้สึกจะยากเป็นพิเศษ แต่ก็อย่างว่าแหละว่าซื้อหนังสือมาหัดทำข้อสอบเอาก็ได้แต่เรียนด้วยตัวเองมันก็จะไปได้ช้ากว่าที่ให้มีคนสอน เด็กบางคนไม่สามารถเรียนรู้ด้วยตนเองได้ อันนี้พูดจริงอย่าคิดว่าสมองทุกคนจะเท่ากัน สามารถเรียนรู้ได้เท่ากัน เพราะถ้าเท่ากันจริงคงหมอ ทันตะ ทั้งประเทศแล้ว แต่ถึงจะเรียนพิเศษได้ก็ต้องหาโจทย์มาเสริมอยู่ดี สรุปคือ น้องอาจเพิ่งมาเร่งตอน ม.5 เทอม 2 หรือไม่น้องอาจเพิ่งเริ่มจริงจัง และก็คิดว่าไม่ทันแล้ว แล้วอีกอย่างน้องอาจคิดไปถึงอนาคต ที่อาจทำอย่างอื่นแล้วไม่สุขสบายพอที่ตัวเองฝัน แล้วคิดว่าถ้าชีวิตนี้ฉันคงไม่ได้เป็นหมอก็ขอตายในวันนี้ ฉันไม่อยากจะเผชิญอนาคตที่ต้องดิ้นรนหาเงินได้ทีละไม่กี่หมื่นและรวยช้า ไม่อยากเห็นว่ามีเพื่อนคนอื่นสอบติดได้เป็นหมอแต่ฉันไม่ติด ไม่อยากเห็นเพื่อนเป็นหมอหาเงินได้เยอะๆแต่ฉันก็ทำงานในระยะเวลาที่เท่ากันแต่ได้น้อยกว่า ไม่อยากเห็น ไม่อยากคิด หรือจินตนาการในวันที่ฉันจะต้องเห็นคนที่ทำอาชีพนี้แต่คนคนนั้นไม่ใช่ฉัน เราว่ามันทรมาณจริงๆนะ แต่ก็โทษใครไม่ได้โทษตัวเองเลยคิดสั้นแบบนี้

0
คำำควร คงควรคอย 18 พ.ย. 59 เวลา 20:45 น. 26

ทำไมน้องไม่คิดบ้างละ แม่ทำให้ทุกวันนี้แม่ไม่เข้าใจอีกเหรอ คิดโง่ๆ ตายไปถือว่าทำบุญมาแค่นี้...น้องหมดเวร..แต่แม่สิ มีกรรม...

0
Pedmonxee 18 พ.ย. 59 เวลา 21:17 น. 27

บางทีคนบางคนก็ไม่เข้าใจว่ามันเป็นโรค มันเป็นสารเคมีบางอย่างในร่างกายที่ผิดปกติ ทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการจิตตกถึงขีดสุดถึงขั้นไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป ไม่ใช่ว่าเขาคิดไม่ได้ แต่ตัวโรคมันทำให้ระบบความคิดเขาแปรปรวน จนสุดท้ายควบคุมไม่ได้ ลองนึกว่าเขาเป็นผู้ป่วย ที่ถูกกระตุ้นจนอาการกำเริบ สุดท้ายเขาหาทางออกไม่ได้ก็ต้องไปจบลงที่ความตาย ครอบครัวก็ผิดที่ให้แต่การศึกษาแต่ไม่ใส่ใจลูกมากพอ โรคซึมเศร้าไม่ใช่ปัญหาเล็ก ๆ นะ ทำลายชีวิตคนไปเยอะแล้ว ควรมีผู้เชี่ยวชาญออกมาให้ข้อมูลกันเยอะ ๆ คนจะได้ไม่มานั่งด่าคนที่ตายไปแล้วทั้งที่ไม่เข้าใจอะไรเขาเลย น่าสงสารเขานะ เป็นโรคซึมเศร้าสุดท้ายต้องฆ่าตัวตาย ตายไปแล้วยังโดนด่า ถ้ามีใครให้คำปรึกษาเขา รับรู้ถึงอาการที่เขาเป็น เขาคงไม่ต้องทำร้ายตัวเองแบบนี้ เป็นอุทาหรณ์ให้คนเป็นพ่อแม่ต้องดูแลลูกให้ดีกว่านี้ อย่าสักแต่ว่าให้เรียนเก่ง ๆ สุขภาพจิตสำคัญที่สุด เรียนเก่งแล้วไง ถ้าเรียนเก่งแล้วจะอ่อนแอต่อโลกขนาดนี้ ถ้าสังเกตคนรอบข้างว่าเริ่มซึมเศร้า ร้องไห้บ่อย ๆ ให้เข้าไปช่วยเขา อย่าให้เขาอยู่คนเดียวลำพัง อย่าคิดว่าเขาเรียกร้องความสนใจ อะไรที่มันจะเกิดขึ้นร้ายแรงกว่าทีคุณคิดเยอะ โรคซึมเศร้าคือปัญหาสังคมที่เราต้องร่วมมือกันแก้ไข
แล้วหยุดด่าเขาซะที ทนไม่ไหวแล้วนะ เห็นคนใจแคบเยอะขนาดนี้ในสังคมของเราแล้วมันสลด คำพูดของคุณไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย ถ้ารู้ว่าไม่สร้างสรรค์ก็อย่าพิมพ์ออกมา พ่อแม่เขาอยากให้ลูกมาโดนด่าอย่างนี้หรือไงกัน แค่นี้สภาพจิตใจเขาก็แย่มากพอแล้ว คิดกันบ้างสิ
แล้วไม่ต้องเปรียบเทียบกับคนข้างถนน คนจน ยายแก่ รู้ค่ะว่าคนเหล่านั้นเขาลำบากกว่ามาก เขายังสู้ชีวิต แต่คุณณณณณณ นี่มันโรคคคคค มันห้ามกันได้มั้ยยยย จิตใจคนเรามันลึกลับซับซ้อน อย่าตัดสินสิ่งที่คุณเห็นเพียงแค่ตาแต่ไม่ได้ใช้ใจสัมผัส โปรดเข้าใจผู้ป่วยโรคซึมเศร้าที่มีอยู่มากมายบนโลกนี้เถอะค่ะ เขาต้องการความเข้าใจจากทุกคนนะ ไม่ต้องเข้าใจว่าเขาเป็นอะไรก็ได้ แค่อย่าซ้ำเติมกันก็พอ
เอาล่ะ จบค่ะ เขียนมายาวมาก จากใจคนที่เข้าใจคนซึมเศร้าค่ะ

0
lloMamell 18 พ.ย. 59 เวลา 21:43 น. 28

เรื่องตลกคือ สมาชิกเว็บเด็กดีสามารถแสดงความเห็นเป็นคุ้งเป็นแคว ตัดสินน้องเค้าจากเนื้อข่าวแค่นิดเดียวนี่..

เอาความมั่นใจมาจากไหนว่าน้องเขาฆ่าตัวตายเพราะเรื่องเรียนพิเศษเรื่องนี้จริงๆ

ข่าวข้างเดียว แถมไม่ใช่ข้างของเด็ก ของแม่ หรือของใครด้วย แค่เอาบทสัมภาษณ์ของแม่มาผูกกับเหตุการณ์ แล้วตีความเอาเองว่าน้องเค้าฆ่าตัวตายเพราะไม่มีเงินเรียนพิเศษ เนื้อความในเฟสน้องก็ไม่ได้เกี่ยวโดยตรงกับเรื่องเรียนพิเศษด้วยซ้ำมั้ง เท่าที่อ่านได้จากบทความเนี้ย

ด่าเค้าไปแล้ว ตัดสินเค้าไปแล้ว รู้จักหรือก็ไม่ได้รู้จักกันเลย โถ


แต่ถ้าบังเอิญมีน้องคนไหนผ่านมาแล้วเครียดเรื่องเรียนพิเศษอยู่ พี่ขอยืนยันนะคะว่าเรียนพิเศษมีประโยชน์จริง แต่ไม่ได้จำเป็นสำหรับการสอบติดเลย ถ้าทุนน้อย ทุนไม่พอไปเรียนเหมือนใครเขา ลงทุนกับหนังสือที่รีวิวดีๆคุ้มกว่าเยอะค่ะ แล้วใช้social network ให้เป็นประโยชน์ มีพี่ๆครูบาอาจารย์หลายท่านคอยให้ความรู้ฟรีๆบนนี้ค่ะ 
อีกอย่างก็googleค่ะ ใช้ให้เป็นก็เหมือนได้ครูเก่งๆทั่วโลกมาสอนฟรีๆ เสียแค่ค่าเนตแล้วค่ะ

0
RIBBiNZZZ5678 18 พ.ย. 59 เวลา 22:09 น. 29

เอาแบบตรงๆเลยนะคะ ปัญหานี้จะบอกว่าพ่อแม่ทุกคนเขาก็คงอยากเห็นลูกตัวเองจบมีงานทำได้คณะดีๆกันนะคะ แต่คุณก็อย่าลืมว่าต้นทุนชีวิตของแต่ละคนมันไม่เหมือนกันนะคะ แต่แก้ปัญหาผิดวิธีนะจะเอะอะว่าจะเรียนพิเศษอย่างเดียวเพื่อเข้าคณะแพทย์นะ มันมีวิธีอื่นนะที่ไม่ต้องเสียคาเรียนแพงๆอย่างเปิด Youtube หรือซื้อหนังสือเก็งดีๆ ก็ทำได้เหมือนกันนะ ติวเตอร์ในอินเทอร์เน็ตบางคนยังดีกว่าคนที่สอนในห้องหรือโรงเรียนกวดวิชาด้วยแหละ แต่ถ้าเรียนแล้วไม่รู้จักทบทวนหรือทำโจทย์นะมันก็ไม่มีคุณค่าอะไรหรอกคะที่จะเรียนนะคะเสียดายเงินพ่อแม่คะ และอีกอย่างการทำแบบนี้มันบาปมากๆนะคะ การฆ่าตัวตายมันไม่ได้ช่วยปัญหาว่าคุณจะได้เป็นหมอได้นี่คะ แค่นี้จริยธรรมแพทย์นะยังไม่ได้เลยนะ สงสารพ่อแม่ที่เลี้ยงคุณมานะคะเขาคงเสียใจมากๆและผิดหวังเป็นความผิดเขาไปทั้งชีวิตเลยนะคะ มันสะท้อนถึงสังคมไทยที่มีค่านิยมแบบยกย่องอาชีพที่มีรายได้สูงอย่างแพทย์ วิศวะ และอาชีพอื่นคือไม่มีคุณค่าเลย การศึกษาไทยนะควรเปลื่ยนได้แล้วนะคะระบบมันไม่เท่าเทียมกันนะคะ เด็กที่เรียนโรงเรียนตามนอกเมืองกับเด็กในเมืองมันต่างกันมาก มันทำให้เกิดความเลื่อมล้ำทางการศึกษานะคะ ทำไมต้องไปเน้นกับพวกโรงเรียนที่ได้รางวัลมากๆละคะ แต่ไม่ได้สนใจโรงเรียนหรือเด็กที่เรียนเลย โรงเรียนมันสอนเราไม่ได้เต็มที่หรอกนะเด็กมันเลยต้องเอาเวลาไปเรียนพิเศษกันนะคะ ถ้าเป็นแบบนี้อยู่ก็จะเกิดปัญหาเช่นนี้นะคะ #อย่าว่าเรานะ #อันนี้มันเป็นความคิดเห็นเรานะ

0
Nutt'ke 19 พ.ย. 59 เวลา 20:54 น. 30

1.เสียใจแทนแม่ค่ะ เราเคยงอนแม่เหมือนกันนะที่แม่ไม่ให้ไปเรียน
เพราะแม่ก็ไม่ได้ไม่มีตังอะค่ะ เราเลยพยายามเก็บเอง
เอาไปเรียนเอง สุดท้ายมันก็ผ่านไปได้ และกลายเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก
2.สงสารตัวเด็กถ้าหากว่ามีใครอยู่ด้วยตอนนั้นคงไม่เป็นไร และคิดว่า
น่าจะเป็นโรคซึมเศร้าจริงๆ และจิตใจยังอ่อนไหวมากเลยค่ะ
คงเห็นเพื่อนมี เพื่อนได้เรียน ตัวเองอยากเป็นหมอมาก และเอามากดดันตัวเอง

ขอให้ไปสู่ภพภูมิที่ดีค่ะ

0
สู้ๆ 20 พ.ย. 59 เวลา 18:25 น. 31

- น้องเค้าตัดสินใจแบบนั้น เพราะน้อยใจเรื่องเรียนนั่นจริงๆ ซึ่ง น้องเค้าอาจเป็นโรคจิตเภทบางอย่าง ทำให้อ่อนไหวง่าย อาจสั่งสมมาจากพื้นฐานครอบครัว ,หรือ ไม่รู้ครอบครัวเป็นไง ครอบครัวอาจจะแย่ ไม่ค่อยรับฟัง
- อาจจะมีปัญหาอื่นซ่อนอยู่
0
ระบาย 20 พ.ย. 59 เวลา 21:25 น. 32

อยากให้อ่าน คือเห็นข่าวมาสักพักละเพิ่งเข้ามาอ่านรายละเอียด
อยากจะบอกว่าคนที่คิดจะทำแบบนี้ได้ต้องเจอเรื่องเครียด กดดัน มาเป็นเวลานานพอสมควร
จนกระทั่งสะสม และสามารถทำร้ายตนเองได้ ซึ่งกรณีนี้คาดว่าคงไม่ใช่แค่เรื่องเงินเรียนพิเศษ
ที่ส่งผลให้ผู้ตายกระทำแบบนี้ แต่หากเป็นเรื่องความกดดันจากสังคมการเรียนเสียมากกว่า

เพราะจากข่าวผู้ตายต้องการจะเรียนในคณะแพทย์ฯซึ่งแน่นอนว่ามีอัตราการแข่งขันที่สูงมาก
ประกอบกับระบบการศึกษาภายในโรงเรียนของประเทศไทยนั้น ปัจจุบันไม่เพียงพอต่อการใช้สอบเข้ามหาลัย
จึงเป็นเหตุทำให้นักเรียนหันไปเพิ่งกวดวิชากันเป็นจำนวนมาก

เอาจริงๆกรณีนี้น่าจะเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นชัดว่าสถาบันกวดวิชา
ในสายตาของนักเรียนมีความสำคัญอย่างยิ่งยวด
ผมมองว่าผู้ใหญ่ในบ้านเราล่าหลังจนเกินไป ทุกวันนี้เราสร้างระบบการศึกษาเพื่อผลิตนักเรียนป้อนเขา้สู่โรงงาน
เราอัดทุกอย่างให้เด็กตาดำๆ ซึ่งบางคนแทบไม่รู้ตัวเองเลยด้วยซ้ำว่ากำลังถูกระบบบ้าๆลบล้างพรสวรรค์และความสามารถที่ตนเองมี เราเน้นที่เกรดเฉลี่ยมากกว่าผลที่เป็นรูปธรรม ผมเป็นเด็กก่ำกึ่งระหว่างเด็กเรียนกับเด็กกิจกรรมทำให้เห็นข้อแตกต่างอย่างมาก คือเด็กบางคนใช้ชีวิตเป็น ทำงานเป็น รู้หน้าที่ในงานต่างๆของโรงเรียนแต่อาจจะมีความสามารถทางการเรียนเชิงวิชาการน้อย กลับกัน เด็กบางคนเรียนเก่ง เนื้อหาเป๊ะ แต่พอให้มาทำงานบางอย่าง
กับทำไม่ได้ ไปไม่ถูก ไม่รู้จะทำอย่างไร แต่สังคมไทย ค่านิยมของประเทศไทยกลับเชิดชูนักเรียนที่เกรดเฉลี่ย
ผมมีพี่และเพื่อน หลายต่อ หลายคน ที่เสียสละเวลาต่างๆ ทั้งเวลาในการเรียน เวลาในวันหยุด เพื่ออุทิศตนทำงานจิตอาสาให้กับสังคม หลายต่อหลายงาน แต่สิ่งที่เราทำไม่มีใครเหลียวแลเลยด้วยซ้ำ ซึ่งจนถึงทุกวันนี้พวกเรายังคงทำงานนอกเวลาเรียนอย่างต่อเนื่อง ที่พิมพ์ไปทั้งหมดผมเพียงแค่จะบอกว่า ' โรงเรียนไม่ใช่โรงงานและเด็กไม่ใช่ผลผลิต ไม่ใช่เครื่องจักร ที่พวกคุณจะมาป้อนอะไรก็ได้'

0