Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เบาะแสเรื่องความหมายของสีและสิ่งของต่างๆในอัลบั้ม Wings Bts {4}

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ก่อนอื่นขอขอบคุณหลายๆคอมเม้นที่เพิ่มเติมเรื่องของข้อมูลเพิ่มเติมที่ได้มานะคะ

กระทู้อันนี้จะเริ่มพูดถึงเรื่อง ทีเซอร์แต่ละตัวกันและเรื่องหนังสือเดเมียนกันแล้วนะคะ ย้อนความเดิมกันอีกสักหน่อยนะคะ

ขอบคุณมากเลยค่ะ คัมซา รูปที่เรางงหาข้อมูลไม่เจอ ตอนนี้เจอแล้วค่ะ






ส่วนอีกภาพคือรูปนี้ที่คอมเม้นนี้พูดถึง




รูปที่วีขูด ไม่ใช่อันที่บอกไปในกระทู้ที่แล้วนะคะ


อันนี้คือ อะบราซัส อะบราซัสคือเทพที่อยู่กํ้ากึ่งระหว่างความดีกับความชั่ว เรียกง่ายๆก็คล้ายจิตใจของมนุษย์ที่มีใจเป็นสีเทาซะส่วนใหญ่ อะบราซัสเนี่ยมีร่างของ พระเจ้ากับซานตานอยู่รวมกันในร่าง

ต่อมา



มันคือรูปปั้น ปีเอตา รึเปล่าไม่แน่ใจนะคะ แต่ก็อาจจะใช่



รูปปั้นนี้คือ


ปีเอตะ (อิตาลี: Pietà; ละติน: PIETAS) มาจากภาษาอิตาลี ที่แปลว่า ความสงสาร 
คือหัวเรื่องของศิลปะในศาสนาคริสต์ที่เป็นรูปพระแม่มารีย์ประคองร่างพระเยซูที่เพิ่งอัญเชิญลงจากกางเขน ส่วนใหญ่จะพบในงานประติมากรรม Pietà เป็นหัวเรื่องหนึ่งในชุด “แม่พระระทมทุกข์” (Our Lady of Sorrows) และเป็นฉากหนึ่งใน “พระทรมานของพระเยซู” ซึ่งเป็นฉากที่มีพระแม่มารีย์ นางมารีย์ชาวมักดาลา และบุคคลอื่นล้อมพระศพพระเยซู (หลังจากที่อัญเชิญลงจากกางเขน) ด้วยความความโศกเศร้า ฉากนี้ตามความเป็นจริงแล้วควรจะเรียกว่า “Lamentation” แต่บางที่ก็จะใช้คำว่า “Pietà” แทน

คำว่า “pietas” สืบมาจากประเพณีของชาวโรมันราวคริสต์ศตวรรษที่ 7 ที่มีการตึอกชกหัวและ "แสดงอารมณ์...ความรักอันใหญ่หลวงและความกลัวอำนาจของเทพเจ้าโรมัน"

ปีเอตะเริ่มขึ้นที่เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี ราวต้นคริสต์ศตวรรษที่ 16 ปีเอตะแบบเยอรมันและโปแลนด์จะเน้นรอยแผลของพระเยซู


ต่อมาาาาา อันนี้เป็นการเดา เรื่อง BTS WINGS Short Film #1 BEGIN 

 เริ่มแรกจะมีเสียงพี่นัมจุนพูด ประโยคนั้นก็คือ "อาณาจักรแห่งกลางวันและกลางคืน สองโลกที่แตกต่างซึ่งมาจากขั้วตรงข้ามกันนั้น ตอนนี้มันปนกันแล้ว" ซึ่งประโยคจากหนังสือนวนิยายที่มีชื่อเรื่องว่า "เดเมียน (Demian)"นวนิยายเรื่องนี้เขียนโดย แฮร์มันน์ เฮสเซอ นักเขียน โดยเรื่องเดเมียนนี่ถูกเขียนขึ้นในปี 1919 ะโยคนี้เป็น


 Cr.
@saipaystore (หนังสือเดเมียน)
 

เนื้อเรื่องย่อ (หนังสือเดเมียน)

เป็นเรื่องราวที่กล่าวถึง เอมิล ซินแคลร์ ที่ถูกเลี้ยงดูในบ้านที่มีฐานะระดับกระฎุมพี ซึ่งเคร่งศาสนาตั้งแต่สมัยยังเด็ก และได้เรียนรู้เกี่ยวกับโลกในสองแง่มุม นั่นคือทางด้านความดีจากศาสนาคริสต์ที่ใสสว่าง กับด้านแห่งความชั่วที่มืดมน กระทั่งเข้าสู่วัยรุ่นเขาได้พยายามแสวงหาวิถีชีวิตของตนเองโดยปราศจากครอบครัว และมิตรสหาย เมื่อเติบโตขึ้น เขาได้ค้นพบตนเอง และพยายามระงับความขัดแย้งทางจิตที่สะสมมาตั้งแต่สมัยยังเด็กที่นำมาซึ่งความเจ็บปวด โดยมี เดเมียน ซึ่งเป็นเพื่อนทางจิตวิญญาณ คอยใช้วิธีต่าง ๆ ให้เขาได้ตระหนักถึงความหมายของชีวิตกับจิตวิญญาณของตนเอง

 

ตัวละครหลัก (ในเรื่องเดเมียน)

  • เอมิล ซินแคลร์ เป็นตัวละครสำคัญของนวนิยาย โดยซินแคลร์ได้มีความสับสนกับบางอย่างในชีวิต และสิ่งที่เป็นไป อันเป็นสิ่งที่นำเสนอในนวนิยายโดยตลอด
  • พ่อกับแม่ของซินแคลร์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แรกของซินแคลร์ในการพึ่งพิง แต่ก็เป็นผู้ที่เขาทำการขัดขืนในตอนท้าย
  • แมกซ์ เดเมียน เป็นเพื่อนในวัยเด็กและเป็นที่ปรึกษาของซินแคลร์ เดเมียนได้ชักนำให้ซินแคลร์ ได้ค้นพบการใช้ความสามารถของตนเองในช่วงท้าย
 

รูปแบบ

นิยายชุดดังกล่าวได้นำเสนอแนวคิดแบบไญยนิยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทพอแบร็กซัส ซึ่งได้แสดงอิทธิพลทางจิตวิทยาของคาร์ล จุง กล่าวคือ สิ่งที่น่าสนใจอย่างยิ่งในนิยายชุดนี้มาจากการที่เอสเสได้ศึกษาถึงจิตวิเคราะห์จากคาร์ล จุง กับนิทเช่ ซึ่งมีอิทธิพลต่องานประพันธ์ดังกล่าว



ไญยนิยม หรือลัทธินอสติก 

คือแนวคิดทางศาสนารูปแบบหนึ่งในสมัยโบราณ ซึ่งเชื่อว่ามนุษย์ควรสละโลกวัตถุ เพื่อมุ่งเน้นเรื่องจิตวิญญาณ

 แนวคิดเช่นนี้มีอิทธิพลอย่างมากต่อศาสนาสมัยโบราณ ดังเห็นได้จากการถือพรต ถือพรหมจรรย์ เพื่อให้ถึงการหลุดพ้น การตรัสรู้ ความรอด การกลับไปรวมกับพระเป็นเจ้า เป็นต้น อย่างไรก็ตาม รายละเอียดการปฏิบัติอาจแตกต่างกันไปในแต่ละกลุ่ม
 

ไญยนิยมเริ่มปรากฏรูปแบบชัดเจนขึ้นเมื่ออยู่ในบริบทของศาสนาคริสต์ ในอดีตนักวิชาการบางคนเชื่อว่าไญยนิยมเกิดขึ้นก่อนศาสนาคริสต์ และเป็นต้นกำเนิดของความเชื่อและการปฏิบัติหลายอย่างที่แพร่หลายอยู่แล้วในสมัยนั้น ทั้งในศาสนาคริสต์ยุคแรก ศาสนายูดาห์แบบเฮลเลนิสต์ ศาสนาโรมันโบราณ ศาสนาโซโรอัสเตอร์ และลัทธิเพลโต แต่เมื่อค้นพบหอสมุดนักฮัมมาดี กลับไม่ปรากฏตำราไญยนิยม จึงได้ข้อสรุปว่าไญยนิยมที่เป็นระบบ เป็นเอกภาพ เพิ่งถูกพัฒนาขึ้นมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 2





ภาพวาดนี้ บางคนก็บอกว่าเป็นจองกุก บางคน ก็บอกว่าเป็นยุนกิ และก็มีบางคนก็บอกว่าเป็นวี 
เดเมียน
ในนิยายเรื่องนี้ มีตัวละครผู้หญิงตัวหนึ่งชื่อว่า เบียทริคส์
 ซึ่งผู้หญิงคนนี้ เป็นคนที่ซิลแคลร์หลงรักตั้งแต่แรกพบเลย
     ซิลแคลร์ตั้งใจจะวาดรูปเบียทริคส์ แต่นานวันไป ซิลแคลร์ก็เริ่มรู้สึกว่าหน้าที่อยู่บนรูปมันไม่ใช่เบียทริคส์ แต่เป็นเดเมียน..   รูปนี้ประกอบไปด้วยหน้าของคนสามคน คือจองกุก ที่แทนตัวซิลแคลร์ ยุนกิ ที่แทนตัวเดเมียน และวี ที่แทนตัวเบียทริคส์นั่นเอง




มาแลกเปลี่ยนความเห็นกันได้เลยที่คอมเม้นเลยนะคะ รออ่านอยู่ๆ kiss 

แสดงความคิดเห็น

>

2 ความคิดเห็น

B beam 6 ก.พ. 60 เวลา 23:57 น. 1

สุดยอดนักสืบMV
ขอเดาว่ายูตั้งใจหาข้อมูลเรื่องนี้
มากกว่าตั้งใจสอบ

1
Bellymyy_1122 27 เม.ย. 60 เวลา 16:05 น. 2

วีกับยุนกิเปลี่ยนบทบาทกันค่ะ วีเป็นเดเมียน ส่วนยุนกิเป็นเบียทริคส์ค่ะเพราะตอนเเรกนางวาดรูปยุนกิเเต่นานๆเข้ากับกลายเป็นหน้าวีเเทน

0