คนที่เป็นโอตาคุ ติดอนิเมะ จะโดนรังเกียจมั๊ย
ตั้งกระทู้ใหม่
เราก็งงว่าจะโดนจริงรึปล่าว เราเครียดกับเรื่องนี้มาก หวังว่าคงไม่ใช่เรื่องจริง ที่คนไม่ชอบคนที่ติดอนิเมะเป็นโอตาคุ
35 ความคิดเห็น
ไม่รู้ และไม่สน เงินผมหา ค่าไฟผมจ่าย จะทำอะไรก็เรื่องของผม สังคมไม่ได้หาเงินให้ผมใช้ ทำไมต้องแคร์
โห ขอบคุณมากจ้า ก็จริงอย่างที่คุณว่าเราจ่ายค่าไฟเอง ไม่ต้องแคร์ก็ได้
พูดว่าไม่แคร์มันพูดง่ายนะคะ ถ้าสมมติว่าวันนึงน้องทำอะไรแล้วโดนทุกคนรังเกียจ มันก็อึดอัดรึเปล่า
คนจะโอเคหรือไม่โอเคมันอยู่ที่การวางตัวค่ะ
ถ้าน้องทำตัวปกติ มันไม่มีใครคิดอะไรกับน้องหรอก แต่มันก็มีพวกที่Overacting ทำอะไรเยอะๆเวอร์ๆ แล้วก็ทำตัวน่ากลัว คลั่งไคล้มากจนดูโรคจิต แบบนี้มีปัญหาแน่ๆล่ะ
เอ่อ พอดีผมแค่ดูแล้วติดเฉยๆ ไม่ได้แอคติ้งประมาณว่า เราชอบตัวนั้นตัวนี้แบบเว่อร์ครับ ชอบแบบปกติ
คือสมมติ ผมชอบตัวละครจากอนิเมะเรื่องนึง ผมแค่จะบอกว่าชอบตัวนั้น ชอบอนิเมะเรื่องนั้น แต่ไม่ได้ดี๊ด๊า
แบบว่า ""เฮ้ยเราชอบมากแกติดมาก เราจะสะสมเซ็ตนั้น วี้ดว้ายๆ" ผมไม่ได้เป็นแบบนั้น
สำหรับวัยเรียนมันก็คงยากจริงๆละมั้ง แต่วัยทำงานมันคนละเรื่อง เพราะเราจะไม่สนิทสนมกะคนในที่ทำงานมากกว่าระดับ 'เพื่อนร่วมงาน' ก็ได้ เพราะงั้นการไม่แคร์จึงเป็นอะไรที่ง่ายมากๆ
ก็เหมือนคนที่ชอบเกาหลี ก็โดนหาว่าติ่ง บางคนก็ออกตัวแรงแอนตี้ เอาจริงๆ ความชอบใครความชอบมันค่ะ ถ้าเรารู้จักวางตัวและแสดงออกให้เหมาะสม ไม่ได้ทำใครเดือดร้อน และไม่ได้ไปยัดเยียดความชอบเราให้ใครต้องมาชอบตาม แค่นี้ก็ไม่มีปัญหาแล้วจ้า ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ ทุกวันนี้พี่แก้วเองก็ยังชอบดูการ์ตูนอยู่เหมือนกันก็ไม่เคยโดนรังเกียจน้า
ถ้าขนาดนั้นไม่เรียกว่าติ่งค่ะ จะเรียกว่าซาแซงแทนค่ะ พวกเรียกความสนใจ
ตอนย้ายโรงเรียนที่แรกก็กลัวพอนานๆ ไป เพื่อนสนิทด้วยก็เข้าใจแถมได้เพื่อนโอตาคุด้วยกันด้วย โอคาตุไม่ได้ผิดอะไรซะหน่อย มันก็ความชอบเรา ถ้ามีคนทำท่ารังเกียจหรืออะไรก็เมินคนพวกนี้ไปเถอะ ใจแคบเกิ๊น คบไม่ได้
พวกที่โดนรังเกียจ เพราะว่าวันๆเอาแต่ดูอนิเมะเวลามีงานกลุ่มก็ไม่ช่วย
หรือทำเผามาส่ง เวลามีกิจกรรมอะไรก็ไม่เข้าร่วม หนีบ้าง อะไรบ้าง
ผมก็เป็นคนดูเมะคนนึง แต่ก็ไม่เคยโดนเรียกว่าโอตาคุหรืออะไรเลยนะ
เพราะอยู่ รร.ก็ตั้งใจเรียน มีพูดคุยเรื่องเมะกับเกมกับเพื่อนในกลุ่มแทบทุกวัน
แต่ก็ไม่เคยโดนเรียกโอตาคุ หรือพวกติดอนิเมะนะ
ก็ถ้าคุณไม่ได้เอาอนิเมะมาก่อนชีวิตจริงเราว่ายังไงก็ไม่มีปัญหา
ปล่อยอีพวกที่ว่าไป
หรือ Make joke จากการล้อของเพื่อนอีกต่อ จะดูชิคและคูลในเวลาเดียวกัน
อันนี้เป็นเรื่องความชอบส่วนบุคคลค่ะ เพื่อนไม่ควรก้าวก่ายเยอะ เป็นโอตะแล้วไง ผิดกฎหมายมั๊ยก็ไม่ ตราบใดที่เราไม่เบียวจนถึงทำร้ายบุคคลอื่นทางร่างกายและทรัพย์สินก็ไม่เป็นไรแล้วเหอะ (ทรัพย์สินของพ่อแม่เป็นข้อยกเว้นค่ะ) ส่วนปห.ที่ยืนในสังคม... อย่าไปสนค่ะ ทุกวันนี้เป็นฟุโจชิยังไม่สนใครเลย...
อันนี้ขึ้นอยู่กับความชอบเราท่าเกิดสังคมนั้นเกลียดคนที่ชอบการ์ตูนบางครั้งการไม่แสดงออกก็เป้นหนึ่งในทางเลือก แล้วพยายามหาสังคมที่ชอบการ์ตูนเหมือนๆกันจะดีกว่าครับ สบายใจกว่าเยอะแถมสนุกด้วย 555+
โอตาคุคือความหมายของพวกที่คลั่งไคล้สิ่งหนึ่งจนเกินพอดีไม่ได้หมายถึงพวกดูการ์ตูนเท่านั้น นั้นเลยทำให้สังคมไม่ค่อยชอบคนประเภทนี้ แต่เท่าที่ผมได้อ่านท่านก็ดูธรรมดาไม่ได้กรี๊ดกร้าดจนคนเขารำคาญ สบายใจได้ท่านเป็นแค่คนที่ชอบดูอนิเมคนหนึ่งไม่ได้เป็นโอตาคุหรอกครับ =w=
แคกชอบดูอนิเมะไม่ถึงกับเป็นโอตาคุกหรอกน้อง=∆=;
เพราะโอตาคุจะเป็นพวกบ้านเมะมากจนไม่คอยจะสนใจโลก(ความจริง)สนแต่เมะปชะการตูนที่ชอบตัวลครที่ชอบ
ชอบซื้อฟิกเกอร์(ตัวลคนที่ชอบ)หรือของสะสม นี้คือสิงที่เรียกว่าโอตาคุ
แถมโอตาคุก็มีิยู่หลายระดับ
ระดับ 1-3 ยังถือว่าพอสนใจโลกแต่ละดับ4-5นี้เรียกว่าอาการหนัก=∆=;
(สำหลับคนที่ไม่ดข้าใจความหมายของระดับ โอตาคุ )
1-2 คือ พวกที่ชอบอะนิเมะมากๆ(ระดับพื้นถาน)
3 ระดับนี้จะเริ่มชอบซื้อของพวกเมะมาเก็บสะสมไว้
4-5 หลุดโลก(ขอละไวในความเข้าใจพอ)
(โดนสวนตัวแล้วการเป็นโอตาคุไม่ได้โดนสังคมรังเกรียนนะเพราะมีรุ้นพี่ของพี่เองก็เป็นโอตาคุระดับ4=∆=; ทุกคนใจคณะรู้หมดว่ารุ่นพี่ชอบอะไรแต่ว่าก็ไม่เห็นจะโดนลังเกลียนอะไรเลยนะ คิดว่าคนที่เป็นโอตาคุที่โดนลังเกลียดคงจะทำความประพึกไม่ดีไว่มากกว่า เพราะงันการเป็นโอตาคุนั่นไม่ได้ทำให้สังคมรังเกลียดหรอก แต่ก็ต้องพอเหมาะนะประมทนว่าต่องรู้ว่าเราสามาดแสดงความชอบออกมาได้มากขนาดไหน และแยกให้ออกระหวางความอบกับการใช้ชีวิต ถ่ากำหนดเรื่องนี้ได้รับรองว่าไม่โดนลังเกรียดแน่นอน =^=/ <[เป็นโอตาคุกเหมือนกันแต่ก็ยังใช้ชีวิตได้ตามปกติ ระดับ2]
ความหมายของ โอตาคุ
คือพวกที่หมกหมุนกับสิงที่ชอบ ไม่ว่าจะเป็นการตูน ดารา หุนยน บลาฯ จะถูกเรียกว่าโอตาคุ
แต่สวนใหญ่จะคำนี้จะใช่กับพวกที่ชอบพวกเมะมากกว่า =^< เพราะงันสบายใจได้แคกไม่ทำให้ใครเดือกรอนก็ไม่ตองไปกลัวว่าจะโดนลังเกลียดหรอกนะ
คนเราไม่สิทธิรังเกียจความชอบของคนอื่นหรอกนะ มันเป็นความชอบของแต่ละคน อย่ายัดความชอบของเราไปใส่ให้คนอื่นและอย่ายัดความชอบของคนอื่นมาใส่เรา ไม่ต้องสนใจสิ่งพวกนั้นแต่แค่รู้จักวางตัวให้ถูกก็พอ
เพื่อนเราที่ห้องก็รู้ว่าเราเป็นโอตาคุ แต่ก็ไม่มีใครว่าอะไรเพราะทุกคนมีสิทธิ์ที่จะชอบไม่เหมือนกัน บางครั้งเราก็เปิดให้เพื่อนดูบ้าง แนะนำการ์ตูนที่มาใหม่บ้าง ก็ไม่เห็นมีใครว่าอะไร เราสบายใจแบบที่เป็นอยู่
มันว่ากันได้ด้วยเหรอ มันความนิยมความชอบของตัวเราเองอะ ไม่ต้องแคร์หรอกคะ เรายังเป็นเพื่อนยังเฉยๆกับเราเลย เป็นแล้วไงละ
แล้วแต่ว่าน้องจะวางตัวยังไง
ความชอบมันเป็นสิทธิ์ส่วนบุคคลนะ
แต่ถ้าเราเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในโลกนั้น จนลืมโลกจริงๆที่เป็นอยู่
ก็ห้ามไม่ได้หรอกที่คนทั่วไปเขาก็จะมองว่าเป็นตัวประหลาด
เราก็ดูทั้งการ์ตูน ทั้งฟังเพลงเกาหลี แต่เราก็ไม่ได้อินกับมันมากเกินไป
ดูการ์ตูนก็รู้ว่ามันเป็นการ์ตูนอ่ะ เป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น
เพื่อนเราบ้าโปเกม่อนเรายังนั่งฟังมันคุย(แบบมึนๆ+ไม่เข้าใจ)ได้เลย มันอยู่ที่การวางตัว ถ้าวางตัวดีมันก็ไม่เป็นไรหรอก ถ้าจะโดนรังเกียจต่อให้ไม่เป็นโอตาคุก็โดนรังเกียจได้เหมือนกันนะ
Thank ขอบคุณจ้าา
ช่วงที่เราติดอนิเมะช่วงนั้นเรานี่แบบรู้สึกเเย่เลยคือเพื่อน(เก่า)บางคนที่เป็นโอตาคุย้ำว่า 'บางคน' ไม่ชอบพวกติ่งเกาหลี(เห้ย!ชั้นเป็นติ่งน่ะแต่ชั้นก็ดูอนิเมะได้!!)เค้าคอยพูดว่าติ่งเกาหลีไม่ดียังงู้นยังงี้ มันก็ความชอบป่ะว่ะค่ะหืม?-.- ก็ชอบทั้งสองอย่างทั้งอนิเมะทั้งเกาหลีมันก็ไม่เห็นจะน่ารังเกียจตรงไหนส่วนตัวก็ไม่รังเกียจโอตาคุไม่ต้องกังวลค่ะสู้ๆมันจะผ่านพ้น!!วางตัวแบบพอดีทำที่สบายใจ!! (โอ้ปป้าชั้นยังชอบเซเลอร์มูนกับดราก้อนบอลเลยแกรนั้ลร้ากกก)
ชอบอ่านการ์ตูน ชอบดูอนิเมะ ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็น "โอตาคุ" นะคะ
ในญี่ปุ่นอ่ะโดน แต่โอตาคุจริงๆมันบ้าและกล้าลงทุนค่ะ แต่ใช่ว่าจะไม่ดีน้าาา ไม่ต้องแคร์หรอกใครว่าก็บอกเรื่องของกู จบข่าว.
แค่ติดอนิเมะใช่ว่าจะเป็นโอตาคุสักหน่อย ทำไมต้องสน เค้าไม่ได้ให้เงินเราสักหน่อย ค่าบ้านค่าน้ำค่าไฟเค้าจ่ายให้เราเหรอ ทำไมต้องสนถามเพื่อนไปเลยถามไปเลย ใครจะรังเกียจกัน ขนาดคนอายุ25ยังติดวันพืชเลยแล้วจะนับประสาอะไรกับเพื่อนคุณค่ะ?!
ติดอนิเมะไม่ได้แปลว่าโอตาคุสักหน่อยนิ ใครบ้างไม่เคยดูอนิเมะญี่ปุ่น เซลามูน ฮันเตอร์Xฮันเตอร์ เด๊ตโน็ต เป็นต้น เราเชื่ออ่ะว่าต้องมีนเคยดู ถามไปเลยว่าดูโดราเอม่อนป่ะ ใครบ้างไม่เคยดูอนิเมะจนติด บ้างคนยังติดโดราเอม่อนเลย น้าเราเนี้ยแหละติด นารูโตะเอ่ยอีกล่ะ
โดเรม่อนเลย ทุกคนต้องเคยดู555
โอตาคุไม่ได้แปลว่า สาววายค่ะ โอตาคุคือคนที่คลั่งไคล้อะไรอย่างนึงมากๆๆๆๆๆๆๆจนเกินพอดี และทำตัวให้สังคมรู้สึกว่าน่ารังเกียจไม่น่าคบหา แต่เดิมไม่ได้ใช้กับแค่สายการ์ตูนเท่านั้นด้วย คนที่คลั่งไคล้เครื่องเสียง คลั่งไคล้พระเครื่องก็เรียกได้ว่าเป็นโอตาคุเหมือนกัน เพียงแต่หลังๆนิยมใช้ในสายการ์ตูนเท่านั้นเองค่ะ
สาววายคือฟุโจชิ คือคนที่ชอบดูหรืออ่านความสัมพันธ์แบบชายรักชายหรือหญิงรักหญิง(ไม่ได้แปลว่าคนเหล่านั้นเป็นเกย์เหรือเลส) เป็นรสนิยมการดูอย่างนึง เหมือนคนที่ชอบฮาเร็ม ชอบแนวแอคชั่น ชอบแนววออนไลน์ ชอบแนวโรงเรียน เป็นสาววายไม่ได้แปลว่าต้องเป็นโอตาคุ ดูอนิเมก็ไม่ได้แปลว่าต้องเป็นโอตาคุเหมือนกันค่ะ
ชอบแล้วไม่ได้เดือดร้อนใครนี่น่า เดือดร้อนแค่เงินกับเวลานอนของตัวเอง ไม่ต้องไปสนใจหรอกฮะ =v=
เราว่านะการเป็นโอตาคุไม่ได้จะถูกสังคมรังเกียจเสมอไป หากเรารู้จักการวางตัวให้ไม่ดูเกินหน้าเกินตาจนหน้าหมั่นไส้ก็โอเคแล้ว
เราเป็นโอตาคุ แถมพวงด้วยเป็นสาววายที่เพื่อนๆ ก็รู้ดีกัน แต่ที่เราไม่โดนใครรังเกียจก็เพราะรู้ว่าเขาอาจจะไม่ชอบสิ่งที่เราชอบ พูดถึงสิ่งที่ชอบได้แต่จะพยายามไม่ให้เข้าคนอื่น เพราะการยัดเยียดสิ่งที่ตนเองชอบเข้าไปให้คนอื่น เขาจะอึดอัดเอา
แล้วก็นะคะ คำว่าโอตาคุเนี่ยใช้สำหรับบุคคลที่คลั่งไคล้บางสิ่งบางอย่างมากๆ หากใครเคยดูรายการแฟนพันธุ์แท้ก็ขอเลยค่ะว่าพวกเขาก็เป็นโอตาคุเหมือนกัน แต่จะเป็นพวกโอตาคุหนังสือ โอตาคุประวัติศาสตร์ เป็นต้นค่ะ แต่คนส่วนใหญ่จะชอบเรียกคนที่ติดพวกมังงะ อนิเมะ การ์ตูนหรืออะไรเทือกๆนี้มากๆว่าโอตาคุแค่นั้นเองค่ะ
แค่ดูอนิเมไม่ได้แปลว่าต้องเป็นโอตาคุค่ะ โอตาคุจริงๆคือคนที่คลั่งไคล้ชื่นชอบสิ่งใดสิ่งนึงมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ หมกหมุ่นและจริงจังแบบสุดๆจนบางทีก็เกินพอดีไป เดิมทีก็ไม่ได้ใช้แค่ในแวดวงการ์ตูนอย่างเดียว คนที่คลั่งไคล้อะไรมากๆก็ถือว่าเป็นโอตาคุหมดค่ะ เครื่องเสียง รถ หนังสือ อนิเม นาฬิกา ดังนั้นคำว่าโอตาคุแต่เดิมใช้กับเรื่องใดก็ได้
เพียงแต่เขานิยมใช้กับคนที่บ้าการ์ตูน และพฤติกรรมของโอตาคุส่วนมากจะเหมือนๆกันคือ คลั่งไคล้มากจนเกินพอดี หมกหมุ่น จริงจังจนน่ารำคาญ ทำตัวไม่เข้าสังคม สุดโต่ง เก็บตัว คนรอบข้างเลยรังเกียจไม่อยากคบหา
ซึ่งบ้านเราก็รับเอาคำเขามาแบบผิดๆ มีช่วงนึงที่เด็กคิดว่าเป็นโอตาคุคือเท่ห์คือเจ๋ง โดยที่ไม่รู้ว่าโอตาคุจริงๆนั้นเป็นยังไง คนในสังคมทั่วไปก็เลยเข้าใจกันว่า ชอบการ์ตูน ดูการ์ตูน เล่นเกม = โอตาคุ พอตอนนี้สังคมเรารู้ว่าโอตาคุไม่ใช่คำที่ดีเลยมักจะมีการเอาไปใช้กันผิดๆแบบนี้แหละค่ะ
ดังนั้นแค่ดูอนิเมไม่ได้แปลว่าจะต้องเป็นโอตาคุค่ะ สังคมจะรังเกียจเราหรือไม่อยู่ที่ตัวเราทำตัวเองค่ะ ถ้าเรามั่นใจว่าสิ่งที่ทำไม่ได้มีคนเดือดร้อน ไม่ได้ไปทำกิริยาน่ารังเกียจอะไรใส่ใครก็ไม่จำเป็นต้องสนใจความเชื่อผิดๆค่ะ จริงๆต่อให้เราเป็นโอตาคุแต่ถ้าเราใช้ชีวิตอย่างปกติในสังคม ไม่ได้ไปทำให้ความเดือดร้อนให้ใครก็ไม่มีอะไรต้องกังวลหรอกเน้อ
สู้ๆนะงับ
การที่คนเราชอบอะไรเป็นพิเศษ คนภายนอกมองว่าน่าชื่นชมมากกว่าค่ะ
ส่วนคนที่มองในแง่ไม่ดีก็ปล่อยเขาไปเถอะค่ะ
สงสัยเขาจะไม่เคยชอบอะไรมั้ง ไร้ซึ่ง
เคยมีรุ่นพี่ที่เป็นโอตะ ด่าติ่งเกาหลีกับวงบอยแบรนด์ชื่อดังหลายๆ วงให้ฟัง เราก็เลิกคบอะค่ะ ตัวเองก็ชอบอนิเมะ คนอื่นชอบเพลงเกาหลีแล้วมันผิดรึไงคะ พี่พวกนั้นตรรกะห่วยแตกมากค่ะ บอกเลย
ก็นั่นแหละค่ะ ต้องวางตัววให้เหมาะสม ถึงจะมีเพื่อนแต่ถ้าเรื้อนใส่เขาแบบที่รุ่นพี่เราทำกับเรา เขาอาจจะเลิกคบก็ได้นะคะ
ดูกรณีเราไว้ค่ะ เราเลิกเลยค่ะ เลิกคอสเพลย์ เลิกดูอนิเมะ ไปติ่งเทเลอร์ยาวๆ 5555555555555555555
ไม่เห็นจะหน้ารังเกียจอะไรเลย เราก็เป็นโอตาคุนะ เราคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติที่เราชอบสิ่งใดสิ่งหนึ่ง มันคือชีวิตของเรา เราก็ควรที่จะชอบในสิ่งที่เราชอบไม่จำเป็นต้องเเคร์ ที่พวกติ่งเกาหลี พวกบ้าดารา ยังไม่มีใครรังเกียจเลย เราก็เเค่เป็นโอตาคุ ไม่เห็นต่างกันตรงไหน เเค่คนเราชอบไม่เหมือนกันเท่านั้นเอง
จริงๆ มันอยู่การมองและความเข้าใจของคนครับ
ถ้าไปอยู่ในสังคมหรือกลุ่มคนที่เข้าใจว่า "โอตาคุ" หมายถึงคนเนิร์ดๆ ใส่แว่น อยู่แต่กับอนิเมะ หรือเกม ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร เข้าสังคมไม่เก่ง เขาอาจจะแสดงท่าทีที่ไม่ถูกจริตกับเราเท่าไรก็ได้ (ซึ่งถ้าเราไม่ได้เป็นซะขนาดนั้นก็ไม่น่าจะโดนมองหรือรังเกียจหรอกครับ)
จริงๆ คำว่าโอตาคุหมายถึงคนที่ชอบอะไรมากๆ จะว่าติ่งก็ได้ ฝรั่งเรียก crazy กับสิ่งๆ นั้น โอตาคุเกม โอตาคุอนิเมะ โอตาคุหมากกระดาน โอตาคุอะไรก็ได้นะ เอาจริงๆ 555
นั่นมันสิทธิของเรานี่นา เราจะทำอะไรก็ได้ถ้ามันไม่ทำให้ใครเดือนร้อน เราอยู่ของเรา จริงไหม นี่ก็ติดหนักมาก แต่ไม่ขั้นโอตาคุ ไม่สิ เราไม่ชอบให้ใครมาเรียกเราว่าโอตาคุเพราะมันดูเหมือนพวกโรคจิตมากกว่า สำหรับเรานะ เพื่อนเราก็ชอบถามไม่เบื่อบ้างเหรอ แต่นางก็เข้าใจเพราะความชอบเราไม่เหมือนกัน แล้วอีกอย่าง อยู่ใครอยู่มันไม่ก้าวก่ายสิทธิส่วนบุคคลนี่ก็โอแล้วค่ะ ถ้า จขกท.กลัวไม่มีคนคุยหรือเหงา มาคุยกับเราในทวีตได้นะ เพราะนี่ก็คุยกับคนที่อยู่คนละทิศละทางแต่ดัชอบอะไรเหมือนกัน
TW : @kangsom27 ถ้าเล่นก็ลองเข้ามาคุยกันดูนะคะ อ่านไบโอก่อนล่ะ 5555555
สู้ๆ
บางคนพูดไปไม่รู้หรอกว่าคนฟังรู้สึกกับมันมากแค่ไหน
จขกท.อย่าไปสนใจคนแบบนี้เลย เราไม่ได้เป็นโอตาคุ แต่ไม่เคยรังเกียจโอตาคุเลยนะเออ
แค่ชอบดูเมะไม่ถือเป็นโอตาคุหรอกใครๆก้อดูป่ะ เพื่อนเราสิโอตาคุจิงมีทุกอย่างอ่ะหนังสือการ์ตูน novel ฟิกเกอร์ พวงกุญแจ เคส นี้สิของจริง หนักสุดๆสังคมยังไม่รังเกียจเลยอีกอย่างสังคมไทยไม่เยอะขนาดรังเกียจโอตาคุหรอกญี่ปุ่นหรอกที่ซีเรียสเรื่องนี้ สู้ๆจ้ะ #เราก้อติดการ์ตูน
แค่ชอบดูอนิมะไม่ได้เรียกว่าโอตาคุหรอกค่ะ โอตาคุหมายถึงคนที่คลั่งสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากจนเกินไป ไม่สุงสิงกับใคร เอาแต่ขลุกอยู่กับสิ่งที่ชอบค่ะ แต่คำว่าโอตาคุส่วนใหญ่เนี่ยมักจะนำมาใช้กับพวกอนิเมะมากกว่าค่ะ
เราก็ติดอนิเมะเหมือนกันค่ะ ชอบนารูโตะมากๆแต่ก็ไม่คลั่งขนาดที่ว่ายัดเยียดให้ใครชอบซักหน่อย เพื่อนในห้องเราส่วนใหญ่ก็ดูอนิเมะ บางคนก็ชอบเกาหลีหรือฝรั่งยังอยู่ด้วยกันได้เลยค่ะ ขนาดพี่ญาติเรายังติดแฟร์รี่เทล วันพีช กับวันพัชแมนเลยค่ะ
เราว่ามันก็เป็นสิทธิของจขกท.นะคะที่จะชอบอนิเมะ ขอแค่ไม่ไปทำให้ใครเดือดร้อนก็พอค่ะบางครั้งก็ไม่ต้องไปสนใจคำพูดคนอื่นบ้างก็ได้นะคะ แค่คิดว่าสิ่งที่เราทำอยู่ไม่ได้ทำความเดือดร้อนให้ใครก็พอค่ะ
เรื่องติดการ์ตูน ติดอนิเมะไม่เห็นน่ารังเกียจเลย ส่วนเรื่องน่ารังเกียจหรือไม่ เราว่ามันอยู่ที่คุณทำตัวยังไงมากกว่า เราบอกเลยนะว่าเราเป็นติ่งเกาหลี(แต่เราก็ดูอนิเมะบ่อยนะ555) ติ่งเกาหลีอย่างเราๆเคยโดนรังเกียจนะ5555 ตอนนี้ก็ยังโดนรังเกียจอยู่555 สุดท้ายนี้แค่อยากบอกว่า ความชอบของใครมันบังคับกันไม่ได้หรอกค่ะ ทุกๆอย่างไม่ได้น่ารังเกียจไปหมดหรอกนะคะ สู้ๆค่ะ ทำในสิ่งที่คุณชอบและไม่เดือดร้อนใคร เท่านั้นก็พอค่ะ
เราว่ามันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นอ่ะ น่าจะแล้วแต่คนมากกว่า หมายถึงคนที่มองเรานะ เพราะเราก็เป็นคนนึงที่ไม่ได้แฮปี้กับโอตาคุเท่าไหร่ คือเป็นความเห็นส่วนตัวอ่ะนะ แต่ว่าก็มีเพื่อนในกลุ่มอ่ะ เรียกว้่โอตาคุได้เลย ก็ไม่ได้อะไรนะ เวลามันกรี๊ดๆ ดูอนิเมะงี้ ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันแย่เท่าก่อนหน้าที่รู้สึกอ่ะ จนตอนนี้ชอบให้มันเล่า ให้มันพูดให้ฟังด้วย มันสนุกดีอ่ะ จริงๆนะ มันแล้วแต่คนมองจริงๆ บางคนก็ไม่ชอบคือไม่ชอบ บางคนก็ไม่ได้อะไรอ่ะ สู้ๆ
ไม่โดนรังเกียจหรอกค่ะ เเต่ถึงโดนคุณก็ห้ามเปลี่ยนความชอบเด็ดขาดนะ เราก็เป็นโอตาคุเหมือนกันเราชอบอนิเมะมาก จนเเบบต้องเอามามโนทุกคืน บางทีก็ถึงขั้นตกหลุมรักตัวละครเลยด้วย เพื่อนเราชอบพวกวงเกาหลี เเล้วก็อย่างอื่นที่เราเกลียดมาก ส่วนเพื่อนผู้ชายก็ติดอนิเมะที่เราไม่ชอบ เราเลยไม่ค่อยมีเพื่อนคุย ส่วนใหญ่ก็ได้เเต่คิดเอาเองคนเดียว
แล้วคุณคิดว่า ผู้หญิงวัย53ปี ที่เคยออกรายการ ครต่างวัย ที่ชอบสะสมตุ๊กตา และอีกหลายๆคนที่บางคนเอาของสะสมลงในช่องของเขาคุณคิดว่าพวกเขารังเกียจจากสังคมหรือเปล่าคะ? คำว่าโอตาคุ เป็นคำที่ใช้เรียกบุกคนที่ชอบสิง1มากๆเท่านั้นแหละคะ ถ้าคุณไม่ได้ไปละเมิดสิทธิคนอื่นหรือเป็นอันตรายกับคนอื่นเช่น การกระทำ วาจา และอื่นๆที่ผิดกฎหมาย คุณก็ไม่ต้องไปคิดมากคะ เรื่องการตูนและอื่นๆมันแล้วแต่ความชอบ ขนาดพี่จอมขวัญ ที่เป็นนักข่าวพิธีกร ยังมีมุมหน้ารักๆแบบโอตาคุเลยนะคะ
คือมันเป็นสิทธิ์ของเรานะ เราจะชอบมันก็เรื่องของเราไม่ต้องไปเเคร์หรอก ถ้าคุณเพื่อนเป็นเพื่อนที่ดีจริงๆเเละเป็นเพื่อนที่รักคุณจริงใจกับคุณ เอาตามตรงคือไม่ควรพูดว่าพูดไม่ครบได้เพราะคุณก็เป็นเพื่อนกับเรา มีสิทธิ์อะไรมาพูด เอาตามตรงเราว่าเราเป็นโอตาคุจริงๆที่ค่อนข้างรุนเเรงอยู่นะ อย่างนิสัยเราคือเเบบถ้าทางอนิเมะออกหมดเลย ซื้อฟิตเกอร์ มังงะเต็มบ้าน เเต่มันก็สิทธิ์ของเรา เพราะถ้าไม่มีอนิเมะคือเราอยู่ไม่ได้อ่ะ เรามีชีวิตอยู่เพื่ออนิเมะอ่ะ วันๆของเราคือหมกตัวอยู่กับอนิเมะเกือบทั้งวันอ่ะ เอาตามตรงคือมีคนมากมายบอกว่าตัวเองเป็นโอตาคุ เเต่เราเห็นชัดเลยว่าไม่ใช่คือเเค่คุณดูไม่กี่เรื่ิองเเล้วบอกว่าชอบมันไม่ใช่อ่ะ คุณต้องชอบทุกอย่างที่เป็นอนิเมะ ถ้าไม่มีอนิเมะคุณต้องเป็นเหมือนเราคืออยู่ไม่ได้ เเต่ของเราอาจเป็นอาการคลั่งหนักหน่อยนะ คือห้องเรามีของอนิเมะทั่วห้องเลย เราไม่ชอบคนที่มาอ้างว่าตัวเองเป็นโอตาคุ อยากให้มาดูบ้านเรามากเลยในตู้ที่มีของอนิเมะทั้งตู้ ทั้งบ้านนี่คือมีเเต่อนิเมะเเละคุณต้องหลงรักตัวละครอนิเมะด้วยต้องชอบเเบบคลั่งเลยอ่ะ ถ้าไม่มีเค้าคือคุณจะใช่ชีวิตไม่ได้ เเละถ้าโอตาคุเเบบหนักๆเลย คือคุณจะไม่โอเครกับความเป็นจริง คุณจะอยากไปที่โลกอนิเมะเหมือนอารมณ์ประมาณถ้าไม่มีอนิเมะคืออยู่ไม่ได้
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?