Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

อยู่ในกลุ่มเพื่อนก็เหมือนตัวเองเป็นคนแปลกหน้า....

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีครับ ผมขอมาระบายความในใจในนี้นะครับ

ผมชื่อว่านัท(ชื่อสมมติ)เป็นคนที่ไม่ค่อยมีใครคบไม่

ค่อยมีใครเข้าหา ถ้าเห็นผมเกาะกลุ่มกับใครนั่น

หมายความว่าผมเข้าหาเอง แล้วยังไม่มีใครคุยด้วย 

เหมือนเราเป็นอากาศ แถมยังไม่รู้จะคุยเรื่องอะไรอีก

เพราะผมเป็นคนพูดไม่เก่งตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ ทุก

วันนี้ผมไม่อยากไปโรงเรียน อยากอยู่บ้านมากกว่า 

เพราะไปโรงเรียนก็รู้สึกเหมือนอยู่คนเดียว 

เหมือนไม่มีใครต้อนรับผมเลยแม้แต่คนที่ผมมั่นใจ

และเชื่อใจมากที่สุด 

ผมคงเกิดมาเพื่ออยู่คนเดียวบนโลกหรือปล่าว?


ตอนผม ป.6 ผมก็ใช้ชีวิตเล่นๆเรียนๆแบบเด็กคนอื่น 

มีเพื่อนเล่นแบบคนอื่น แต่เดิมแล้วผมเป็นคนที่ขี้แย

มาก เป็นมาตั้งแต่เด็ก พอถูกแกล้งเล่นๆหน่อยก็ร้อง 

ผมจึงรู้สึกงอนเพื่อนจนถึงขนาดวันสุดท้ายของ ป.6 

เพื่อนๆนัดไปเที่ยวงานวัดกันเราก็ไม่ไปทั้งที่จริงๆแล้ว

อยากไปมาก แต่เพราะอารมงอนชั่วคราว 

นี่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องทุกอย่างครับ


หลังจากนั้นผมตัดสินใจย้ายแผนการเรียนซึ่งแต่เดิม

ผมเรียน IEP. ย้ายเป็นแผนการเรียนธรรมดา นี่เป็น

การตัดสินใจที่ผิดพลาดมากที่สุดในชีวิตเพราะ

เป็นการทิ้งเพื่อนที่อยู่กับตัวเองมาตั้งแต่ ป.1-2 เพียง

เพราะงอนแค่เรื่องนิดเดียว


---------------------วันเปิดเทอม ม.1 ----------------
วันนี้เป็นวันแรกของชีวิตมัธยม เรารู้สึกตื่นเต้นมาก

ที่จะได้อยู่ในสังคมใหม่แต่ก็ยังมีความกังวลนิดหน่อย

พอเรามาถึงห้อง ก็เจอเพื่อนเก่าคนนึงที่เคยอยู่ห้อง

เดียวกันเมื่อปีที่แล้ว เราก็ไม่ได้โกรธไนมากเพราะ

เขาไม่ค่อยแกล้งเรา ถึงแม้จะเป็นเพื่อนกับคนที่ชอบ

แกล้งเราบ่อยๆก็เหอะ เราก็ทักตามมารยาท แล้ว

เลือกที่นั่ง เมื่อเคารพธงชาติเสร็จ เพื่อนคนนั้นก็ย้าย

โต๊ะมาอยู่ข้างเรา ซึ่งเป็นโต๊ะคู่ เราก็ไม่ได้คิดไรมาก

แต่พอหลังจากนั้นต่างคนก็ต่างมีกลุ่มกัน มันก็ไม่ค่อย

คุยกับเรา เราก็ไม่รู้สึกอะไร เพราะเรามีกลุ่มแล้ว

คนที่น่าจะสนิทกับเราที่สุดในกลุ่มคือ นน (ชื่อสมมุติ)

กับเพื่ิอนมันอีก 2-3 คน มันเป็นคนเฟรนลี่ ชอบชวน

เราคุยเรื่องไร้สาระไปทั่ว 

เวลาครูให้จับกลุ่มเราก็อยู่กลุ่มเดียวกับมัน คุยเฟส

กันทั้งคืน  เล่นเกมด้วยกัน เล่นปิงปองด้วยกัน

ไปไหนไปกัน 


อย่างที่บอก เราเป็นคนขี้แยแถมยังคิดมาก เรามักจะ

ถูกเด็กกลุ่มอื่นแกล้งเพราะเราเป็นเด็กใหม่

เราเองกก็เป็นคนที่ไม่ชอบให้คนที่ไม่สนิทมายุ่งด้วย

เลยไม่พอใจซักเท่าไรเลยอยากิยู่คนเดียวจน

เรากลายเป็นคนชอบอยู่คนเดียว

หลังจากนั้นเราก็โดนรังแกมากขึ้น จนต้อง

แอบไปร้องไห้คนเดียวในห้องน้ำ แล้วถ้าคืนไหนเกิด

คิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาก็จะต้องน้ำตาไหลทุกที


เมื่อผมเริ่มอยู่ตัวคนเดียว พวกเพื่อนมันก็เริ่มห่างจาก

ผมเช่นกัน ต่อทาผมจึงอยู่คนเดียวในห้องอย่าง

สมบูรณ์ แต่นั้นก็ไม่ได้หมายความว่าผม

ไม่มีเพื่อนเลย แต่ผมยังแอบไปหาเพื่อนเก่าที่เคยอยู่

ด้วยกัน เล่นด้วยกัน พักกลางวันก็เปลี่ยนไปกินข้าว

กับเพื่อนเก่าจากที่เคยกินกับพวกนน

เวลาในห้องมีกิจกรรมอะไร เช่นจับของขวัญปีใหม่

ผมก็จะเปลี่ยนสถานะเป็นอากาศที่ไม่มีใครมองเห็น

แม้กระทั่งครูประจำชั้น

ตอนใกล้จะจบ ม.1 ผมก็อยากจะย้ายกลับไปอยู่ที่

เดิมที่ๆเรามีตัวตน แต่


ความฝันก็ถูกความจริงมาบดบัง เพราะเราไม่

สามารถย้ายไปไหนได้ จึงต้องทนอยู่ที่นี่อีกซัก

ปีสองปี

---------------------ม.2--------------------

ผมวางแผนไว้ว่า จะทำตัวให้ดีกว่าเดิม แล้วก็จะกลับ

ไปอยู่กลุ่มนั้นเหมือนเดิม แต่ผมทำมันไม่ได้

เพราะ ด้านมืดของผมที่มันคิดแต่จะสั่งให้เราอยู่คน

เดียวไปตลอดมันบดบังไปทั้งหมด ผมจึงต้องอยู่คน

เดียวและพยายามต่อสู้กับด้านมืดให้ได้

ผมเริ่มมีความหวังขึ้นมาเพราะเพื่อนคนหนึ่ง 

ชื่อ ดิน (ชื่อสมมุติ) เป็นคนที่เฟรนลี่โครตๆ 

มานั่งใกล้เราเพราะครูจัดโต๊ะให้ พอมานั่งกับเราก็

ชวนเราคุยไปทั้งวัน คุยจนรู้นิสัยของเรา

 นิสัยที่อันเฟรนลี่แบบมากๆที่ด้านมืดของเราสร้างมา

เพื่อป้องกันตัวเองจากคนที่จะมาแกล้งเรา

ดินจึงค่อยๆห่างเราไปเรื่อยๆความหวังเราจึงหริบหรี่

ลง

จนมาถึงคาบคณิตวันหนึ่ง ครูใหไปเรียนที่

ห้องเรียนใหญ่ ทุกคนต่างเลือกโต๊ะใผ้อยู่ใกล้กับ

กลุ่มตัวเอง ส่วนผมก็ต้องนั่งคนเดียว

จนในที่สุดก็ร้องไห้ออกมา ครูคณิตเลยขอคุยกับเรา

ว่าเป็นอะไร เราก็บอกความจริงไปว่าเกิดอะไรขึ้น

ครูก็เล่าทุกอย่างให้ครูประจำชั้นเรา

หลังจากนั้นเราก็โดนแกล้งเรื่อยมาจนวันหนึ่งเราทน

ไม่ไหว ด่าพวกที่แกล้งเราไปด้วยคำหยาบ

เรื่องจึงไปถึงหูครูฝ่ายปกครอง เราโดนเรียกไปคุยที่

ห้องปกครอง เราร้องไห้จนตาบวมในห้องนั้นพร้อม

กับบอกทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้นกับเรา

ครูฝ่ายปกครองจึงแนะนำให้เราไปหาหมอจิตแพทย์

เราก็คิดว่า ครูเขาบอกอ้อมๆว่าเราบ้าหรอ

เราก็ถามกับตัวเองว่า เราไม่ใช่คนปกติ เป็นคนวิปริต

หรือปล่าว มาตลอด ยิ่งเวลาผ่านไปผมก็ยิ่งอาการ

หนักขึ้น เครียดมากขึ้นถึงขนาดร้องไหเในห้องน้ำ

บ่อยๆ อารมณ์ขึ้นๆลงๆ พ่อก็ไม่

ไม่พาไปหาหมอ จนสุดท้ายเรามีเรื่องต้องเข้าห้อง

ปกครองอีกครั้ง คราวนี้ต่างจากเดิมคือครูโทรหาพ่อ

แม่ ในที่สุดก็ได้ไปโรงพยาบาล

หมอก็บอกว่า เป็นโรคเกี่ยวกับวิตกกังวล เครียด 

ซึมเศร้า ต้องใช้เวลาในการรักษา

เราก็รับยามา ทานยามั่งไม่ทานมั่งเพราะเป็นคนขี้ลืม

อาการเลยหนักขึ้น

วันนึงเราถึงกับเกิดอาการข้างเคียงเพราะยาตัวนึง
 
ที่เรากินไปเกินขนาดด้วยความสะเพร่าที่ไม่อ่านข้าง

ซองก่อนกิน จนต้องเข้าโรงพยาบาล นอนหนึ่งคืน

กว่าเราจะนอนได้ก็โดนยานอนหลับไปสองเข็มแล้ว



ส่วนนน ผมก็ไม่รู้ว่ามันคิดยังไงกับผมกันแน่ มันยัง

คิดว่าเราเป็นเพื่อนมันอยู่หริอความเป็นเพื่อนของเรา

มันจบตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว ทำให้ผมเอาเรื่องนี้เก็บมา

คิดทุกคืน

ที่ผมผ่านชีวิตช่วงนั้นมาได้ต้องขอบคุณครูประจำชั้น

ที่ดีที่สุดและเพื่อนผู้หญิงกลุ่มหนึ่งที่ไม่อคติกับผม

 

------------------ม.3-----------------

ถึงตอนนี้ ผมก็ได้ย้ายแผนมาเป็น IEP. แล้ว เพราะ

อะไรก็ไม่รู้ครูให้โอกาศผมสอบภาษาอังกฤษให้ได้ 4

เท่านั้นและผมก็ทำได้ ในที่สุดดราม่าน้ำเน่านี้ก็จะจบ

ซะที ผมคิดอย่างนั้น แต่ที่จริงแล้วมันยังไม่จบ





ผมย้ายมาจึงหวังว่าที่นี่จะเป็นที่ๆเรามีตัวตนซะที

ตอนแรกทุกคนก็ดีใจที่เรากลับมา เราก็มีความสุขที่

ทุกคนยังรักเราเหมือนเดิม

เราเคยมีเพื่อนสนิทตอนประถมคนนึง 

เราก็หวังกับมันมากว่าเราจะกลับมาสนิทกันเหมือน

เดิม ตอนแรกๆมันก็ดีกับเรา แต่พอหลังๆมันรู้จักด้าน

มืดเรามากขึ้นมันก็เริ่มห่างจากเรามากขึ้น

ความืดจึงกลับมาครอบงำอีกครั้ง 


เราเริ่มบาดหมางกับคนอื่นมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเหตุ

ผลงี่เง่าบางอย่าง แล้ว-คนนั้นมันเป็นเพื่อนกันกับ

เพื่อนคนนั้นอยู่แล้ว มันก็อาจทำให้เราโดนมองว่าแย่

ในสายตาคนอื่นเพราะคนที่เราไม่ชอบมันอาจจะไป

ชักจูงผรือมันสนิทกับคนอื่นมากกว่าเรา 

พวกนั้นเลยเลือกที่จะไม่ยถ่งกับเรามากกว่า

เลยทำให้เราต้องกลายเป็นคนอโลนแบบนี้

ขอบคุณครับ ที่ให้ผมระบายที่นี่ แต่มีอีกอย่างที่อยากจะขอคือ
ขอคำปรึกษาได้ไหมครับ คือผมควรจะทำยังไง ในเมื่อปีหน้าผมก็จะขึ้น ม.4
ระหว่าง
-เรียนที่เดิม กลับไปหาเพื่อนเก่า 
-เรียนที่เดิม อยู่กับเพื่อนปัจจุบัน
-เรียนที่เดิม อยู่กันทั้งเพื่อนเก่าและเดิม
-ย้ายโรงเรียน หาเพื่อนใหม่สังคมใหม่
-หยุดเรียนรักษาตัวซักปี

หรือช่วยแนะนำทีครับว่า
ผมควรทำตัวอย่างไรให้น่าคบหาเป็นเพื่อน
หรืทำตัวยังไงให้มีเพื่อนเยอะหรือมีเพื่อนแท้
และทำยังไงครับให้ผมมีบทบาทในกลุ่มเพื่อน

ปล. ผมอาจพิมพ์ไม่รูเรื่องเพราะ จขกท. เขียนกระทู้ตอนดึก

แสดงความคิดเห็น

>

32 ความคิดเห็น

cocoluch-dee 31 ธ.ค. 59 เวลา 02:17 น. 1

หนูก็เคยเป็นเเบบนั้นนะคะ เป็นอากาศไม่มีใครสนใจก้เลยละทิ้งโลกมืดเเละความอโลนคือหาความสุขให้ตัวเองอ่ะค่ะ เเต่ความสุขเนี้ยต้องไม่เบียดเบียนใครนะคะ หนูว่าพี่ลองปรับตัวไปตามสภาพเเวดล้อมไปเรื่อยๆอ่ะค่ะ ลองเปลี่ยนตัวเองไปเรื่อยๆถ้าเป็นหนูหนูก็ดูคนในห้องอ่ะค่ะ สังเกตุไปเรื่อยๆเเล้วก็ลองค่อยๆเปลี่ยนเรื่องที่เปลี่ยนได้อ่ะค่ะ ถ้าวันนึงพี่ทำได้พี่ก็จะประสบปัญหาอีกข้อเเบบหนูตอนนีี้คือ ไม่มีตะวตนเป็นของตัวเองเเต่ไม่เป็นอากาศเเละไม่อโลนเเล้ว ส่วนเรื่องเียนต่อของพี่ อันนี้ต้องคิดอีกทีอ่ะค่ะลองๆปรับตัวเองเข้าหาคนอื่นพยายามลบจุดด้อยเเละโลกมืดของเราถึงเเม้ว่าเราจะมีความสุขกับโลกอโลนของเราในบางทีเเต่ถึงวันๆนึงก็ต้องงก้าวออกไปอยู่ดี เป็นกำลังใจให้นะคะ :) (อันนี้อ้างอิงจากตัวเองเเล้วก้รวมกับที่พี่บอกมาอ่ะค่ะ) ความคิดเห็นส่วนตัวน๊าคะ ถ้าไม่เห็นนด้วยก็ขอโทษนะคะ

0
น้อย 2 ม.ค. 60 เวลา 21:20 น. 3

ไม่อยากให้จขกท คิดมากอะว่าเค้าจะคิดไงกะเรายิ้มเข้าไว้ ทำดีกับคนอื่น เราว่าถ้าเรามีทัศนคติที่ดีนะคนอื่นก็จะเข้าหาเราเองแหละ สู้ๆ

0
เดียวดายแต่ไม่ท้อ 5 ม.ค. 60 เวลา 20:31 น. 4

เลิกขี้งอน เลิกคิดมาก อย่าคาดหวังกะเพื่อนมากนัก ปล่อยวางบ้าง หากิจกรรมทำ แล้วไม่ต้องย้ายที่ใหม่ เพราะย้ายไปก็เป็นแบบเดิม จากที่เขียนมา ดังนั้นเลือกแผนการเรียนที่เราคิดว่าเหมาะกับตัวเราที่สุดแล้วเรียนไป ส่วนเพื่อนก็ไม่ต้องอะไรมาก ให้เราทำตัวปกติ แคร์มาก ทุกข์มาก เลิกงอน กล้าที่จะเผชิญความจริง โมโห น้อยใจ ขี้งอน ทำได้ แต่ต้องรู้จักปล่อยวางคือพอหอมปากหอมคอ อย่าเยอะ อย่าเรียกร้องความสนใจมากจนน่ารำคาญ สุดท้ายนี้เป็นกำลังใจให้นะ วิธีแก้มันอยู่ที่นาย ไม่ใช่คนอื่น เข้าใจไว้ด้วย สู้ไม่สู้?

0
ภานุเดช 5 ม.ค. 60 เวลา 20:40 น. 5

ถ้าเป็นผม เอาจริงๆนะตรงๆเลย ผมอยากให้ย้าย รร. ใหม่มากกว่า แล้วเปลี่ยนตัวเองใหม่ เริ่มเป็นคนเข้าหาเพื่อนก่อน แล้วอย่าเอาด้านมืดของตัวเองมาเป็นกำเเพงชีวิตของเรา ถ้าคุณทำลายกำแพงนั้นได้ คุณก็จะเปลี่ยนเป็นคนใหม่อย่าคิดว่าทำไม่ได้ถ้ายังไม่ลองทำ สู้ๆครับเป็นกำลังใจให้

0
คนๆนึง 5 ม.ค. 60 เวลา 20:44 น. 7

โหลๆ เราก็เป็นแบบนายเลย เหมือนเปี๊ยบเลยอะ55555 ก็เข้าใจนะเรื่องตอนย้าย ชั้นเรียนแล้วดันคิดถึงเพื่อนตอน ป 6 แทบบ้า และก็พอเข้าใจด้านมืดนะ แต่ทางเดียวที่จะจัดการกับปัญหาแบบนี้ได้คือ "หาทางจัดการกับมันด้วยตัวเอง " นายดูพึ่งเพื่อนเก่าๆเพื่อหาความสุขสมัยอดีตมากไปอะ
และก็เลิกคิดว่าตัวเองเป็นเหยื่อของเหตุการณ์ต่างๆด้วย ความสุขไม่ได้เริ่มจากคนรอบข้างแต่มันต้องเริ่มมาจากตัวเอง ใครจะไปอยากพูดจากับคนที่เคียดแค้น โหยหาอดีต ดาร์คๆละ? จิงไหม
สุดท้ายนี้ จริงๆเราไม่อยากพูดจาสั่งสอนไรนายนะ แต่นายดูเหมือนเรามากเลยอะ แต่เราผ่านมาได้ด้วดี สุดท้ายไม่ว่าจะเกิดไรขึ้นมาก็ขอให้โชคดีนะครับ.

0
23813k 5 ม.ค. 60 เวลา 20:51 น. 8

เปิดใจแล้วลบ อคติ ตัวเองให้หมดก่อนจะไปหาเพื่อนดิ
หรือถ้าไม่มีคนคุยจริงๆ ก็ควรไปหาใครคุยในเน็ตก็ได้นะ
หาตัวเองให้เจอแล้วไปหาเพื่อนแบบเดียวกัน จะได้คุยกันง่าย สู้ดิ ใครไม่สนใจเรา เราก็แคร์ตัวเองก่อน แล้วค่อยสนใจคนอื่น หาเพื่อนให้ได้ อย่างน้อยๆก็สักคนก็พอ อย่ารีบ

0
hope 5 ม.ค. 60 เวลา 21:05 น. 9

เป็นคนที่พูดให้กำลังใจใครไม่เก่งค่ะ555555 อย่างแรกที่จะพูดเลยคืออยากให้คิดว่าการไปหาจิตแพทย์ไม่ใช่แปลว่าเราเป็นคนบ้าค่ะ ส่วนตัวคิดว่าถ้าเกิดเก็บสะสมความเครียดนั้นไว้มันจะทำพาไปสู่โรคร้ายแรงต่างๆได้ค่ะ ไม่ต้องไปกลัวว่าเพื่อนจะล้อนะค่ะทำเพื่อร่างกายค่ะ ส่วนตัวเราแล้วเราเป็นคนขี่แยแล้วก็คิดมากเหมือนกันค่ะตอนเด็กๆเพื่อนจะชอบแกล้งเรามาก ตอนนี้ก็ยังมีคนเกลียดเราอยู่5555 อยากจะให้ จขกท ลองทำใจนิ่งๆทิ้งทุกอย่างไปก่อนแล้วลองคิดว่าตัวเองมีข้อเสียอะไรรึป่าว(จะจดข้อเสียนั้นก็ได้ค่ะ)แล้วลองค่อยๆแก้ไขมันดู อยากจะให้จขกทมีความหวังที่จะเปลี่ยนแปลงค่ะ อย่าสร้างกำแพงนะคะเพราะว่ามันจะทำให้คนอื่นไม่อยากเข้าหาเรา อยากจะให้ลองเปิดใจยอมรับในบางเรื่องค่ะ ลองคิดแง่บวกค่ะการคิดแง่บวกจะทำให้จิตใจดีขึ้นค่ะ วิธีนี้เหมาะสำหรับการเริ่มต้นใหม่ค่ะ ส่วนตัวเห็นด้วยกับความคิดเห็นของคุณcocoluch-dee นะคะ

สุดท้ายนี้ไม่ว่า จขกทจะผ่านอะไรมาเท่าไหร่อยากจะให้เอาสิ่งเหล่านั้นมาเป็นประสบการณ์ใการดำเนินชีวิตต่อไปค่ะ คิดแง่บวก สร้างความหวังให้กับตนเอง พร้อมที่จะเดินหน้าต่อ ถ้าเกิดมีเรื่องเครียดอีกการหาคนระบายเป็นเรื่องที่ดีนะค่ะเขาอาจจะสามารถให้คำปรึกษากับเราได้ค่ะ ถ้าเกิดไม่มีก็ลองเขียนใส่กระดาษแล้วทิ้งมันก็ได้ค่ะ อาจจะเขียนสิ่งที่อยากจะพูดออกมาไม่หมดและอาจจะให้คำปรึกษาที่ไม่ดีพอ แต่ก็จะเป็นกำลังใจในการก้าวเดินใหม่ของ จขกทค่ะสู้สู้
จะทิ้งเว็บไซต์เอาไว้นะคะอาจจะแก้ปัญหาการแกล้งได้ค่ะลองเอาไปประยุกต์ใช้ดูนะคะ
https://books.google.co.th/books?id=5IvoCgAAQBAJ&pg=PA140&lpg=PA140&dq=%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%87&source=bl&ots=Dr0kW6ks7x&sig=ZBa-q-gSHoB6EhgslcNKyzKG0b0&hl=th&sa=X&ved=0ahUKEwjC3pOU1IfRAhWDqI8KHbsoAgMQ6AEIPDAG#v=onepage&q=%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%87&f=false

0
Wynn 5 ม.ค. 60 เวลา 21:07 น. 10

กอดๆจขกท. อ่านแล้วเข้าใจนะ รู้สึกตั้งแต่ต้นๆเรื่องเลยว่าเหมือนเป็นโรคซึมเศร้ารึเปล่า
จริงๆเราว่าควรคุยกับหมอ ว่าหยุดเรียนไปรักษาตัวก่อนดีมั้ย
แลเวมอสี่ค่อยย้ายโรงเรียนใหม่
แต่ยังไงก็ขอให้สู้ๆนะคะ เพื่อนจขกท.ไม่ได้ผิด ตัวจขกท.ไม่ได้ผิด แต่มันเป็นเพราะโรคซึมเศร้า อยากให้เอาชนะมันให้ได้ แล้วมันจะดีขึ้นเอง
ปล. อย่าลืมกินยา สำคัญมากๆ

2
OoAu 14 ม.ค. 60 เวลา 14:14 น. 10-1

หาหมอแล้วครับ พ่อก็แนะนำให้หยุดพักก่อนค่อยต่อ ม.4

0
OoAu 14 ม.ค. 60 เวลา 14:20 น. 10-2

แล้วผมก็กลัวอีกว่า ถ้าหยุดเรียนไปกลัวจะเรียนไม่ทัน กลัวอ่านหนังสือไม่ทัน กลัวจะเหลวไหลเกินไป เพราะผมก็เป็นเด็กที่ติดเกมง่ายมาก กลัวติดนิสัยขี้เกียจ ช่วยแนะนำด้วยนะครับ
ปล .เหมือนผมขี้กังวลอะ
เศร้าจัง

0
นิรนาม 5 ม.ค. 60 เวลา 21:08 น. 11

ตอนนี้อยู่ม.6 ผมก็มีนิสัยที่ชอบอยู่คนเดียวนะแบบ ในห้องก็นั่งฟังเพลงเงียบๆ วาดรูป เล่นโทรศัพท์ ใครถามคำตอบคำ แต่เพื่อนเราก็ไม่ได้อะไรนะ พวกเพื่อนมันชอบเตะบอล แต่เราเป็นคนเดียวที่ไม่เตะ พวกเพื่อนก็คุยกับเราปกติดี แต่ตอนม.4อ่ะ เราไม่ค่อยสนิทกับเพื่อนหรอก แต่เวลาเพื่อนขอให้ช่วยอะไรเราก็ช่วย สอนอะไรเราก็สอน จนเพื่อนมันชวนเล่นนู่นเล่นนี่ จนมันเปิดใจรับเรา ส่วนตัวคิดว่าน่าจะใช้เวลาด้วยล่ะ จขกท ก้สู้ๆนะเปนกำลังใจให้ ของแบบนี้มันต้องใช้เวลา และสถานการณ์บางอย่างในกานเพิ่มความสัมพันธ์

0
มิกกี้เม้า 5 ม.ค. 60 เวลา 21:09 น. 12

เคยเป็นช่วงๆเหมือนกัน พยายามอย่าคิดมากนะคะ
คอยหาอะไรทำก็ได้ที่เรารู้สึกมีความสุขกับมัน
มันจะทำให้เราอารมณ์ดีขึ้น คนอารมณ์ดีใครก็อยากเข้าหาคะ การเข้าสู่ด้านมืดมันจะไม่ทำให้อะไรดีขึ้น เคยแล้ว สู้น้าา เป็นกำลังใจให้

0
หิวแล้ว!! 5 ม.ค. 60 เวลา 21:34 น. 13

จขกท ลองพยายามอย่าไปคิดเล็กคิดน้อย อย่าไปงอนกับเรื่องนิดๆหน่อยๆ เพราะว่าถ้าเรางี่เง่าเกินไปคนรอบข้างจะเบื่อเอา
แล้วก็ลองชวนเพื่อนๆ คุยบ่อยๆ ลองสนุกไปกับเพื่อนให้มากๆ แล้วก็ใช้ชีวิตให้มีความสุขอะไรที่ทำแล้วทุกอะไรที่คิดแล้วเครียดก็อย่าทำ อาจจะทำให้อะไรๆดีขึ้นก็ได้
ปล. กอดปลอบ จขกท

0
G_GG 5 ม.ค. 60 เวลา 21:43 น. 15

เราก็เป็นคล้ายๆกันค่ะ อย่าคิดมากนะคะ ให้กำลังใจ จขกท. นะคะ สู้ๆค่ะ เดี๋ยวมันก็จะผ่านไป

0
มู มิน .♛ 5 ม.ค. 60 เวลา 22:16 น. 16

ที่อยากรู้นี่ก็คือด้านมืดของเจ้าของกระทู้นี่คืออะไร 
ไม่ได้อะไรนะจะได้ให้คำปรึกษาถูก ถ้าเป็นโรคเครียดคิดมากจริงๆ ล่ะก็นะ 
ก็คงต้องลองไปพบจิตแพทย์ดูอ่ะ

0
Farm 5 ม.ค. 60 เวลา 22:26 น. 17

จะว่าอะไรไหมถ้าเราบอกว่า เราเป็นเหมือนกันเป็นแบบนี้เลย แต่ของเราไม่ถึงกับขั้นย้ายแผนการเรียน เราก็เป็นแบบนี้เราค่อนข้างที่จะงี่เง่า แบบต้องการให้คนเอาใจใส่เราอยู่ตลอด งี่เง่าจนลืมคิดถึงคนอื่น จนมีปัญหาแบบเดียวกันเลย นี่ร้องไห้ตลอดเหมือนกัน แต่ตอนนี้เรากำลังจะผ่านมันมาได้แล้ว เราใกล้จะเรียนจบม.ต้นแล้ว อีกแค่เดือนกว่าๆก็จะจบแล้ว ด้านมืดของเราลองเปลี่ยนเป็นตรงกันข้ามกับที่คนอื่นมองเราไม่ดีดูสิ อาจจะช่วยได้นะ ถึงจะไม่มากแต่ก็ช่วยได้ สู้สู้นะ

0
อุบอิบ 5 ม.ค. 60 เวลา 22:44 น. 18

นายย เราก็เป็นคล้ายๆนายแหละ แต่ของเรายินดีที่จะอยู่คนเดียวมากกว่า เพราะบางทีเราก็ขี้เกียจพูด อยู่คนเดียวมันดีคือเราไม่ต้องไปนั่งรออะไร แต่ถามว่าเราโดนแอนตี้ไหม ก็ไม่ เพราะเราสามารถคุยได้กับทุกคน เราวางระดับความสนิทเอาไว้ ใครสนิทมากๆเราจะพูดไปเลยว่าเรารู้สึกยังไงบ้าง เราไม่ชอบแบบนี้นะ
เรามีสองด้านให้มองนะ
ด้านแรก
เพื่อนน่ะ โตมา จบมา ก็แยกย้ายกันไปหมดแล้ว มีหน้าที่ที่จะต้องทำกันหมด เอาจริงๆพอเราทำงานกันแล้ว เวลาที่เราจะเจอเพื่อนก็น้อยจนแทบไม่มี เพราะต่างคนต่างมีภาระที่ต้องดูแลตัวเอง และครอบครัว ต่อให้จะสนิท ซี้ปึ้กแค่ไหนก็ตาม
ฉะนั้น นายแค่ทำวันนี้ให้ดีที่สุด ค้นหาตัวเอง รักตัวเอง อย่าดูถูกตัวเอง ใครมองเราแย่ยังไง นายช่างมันเหอะว่ะ คนพวกนั้นไม่รู้ว่าเราต้องเจออะไรบ้าง เอาเวลาที่ร้องไห้ ให้คนพวกนี้ไปใส่ใจคนที่รักเราดีกว่าเนอะ พ่อแม่คงรู้สึกไม่ดีที่เห็นนายเป็นแบบนี้

ด้านที่สอง
ชีวิตวัยมัธยม มันเป็นช่วงเวลาที่สนุกมากกว่าช่วงเวลาอื่น เป็นช่วงที่อยู่กับเพื่อนมากที่สุด เวลาอะ มันหวนกลับมาไม่ได้ สร้างความทรงจำดีๆให้ตัวเองในช่วงเวลานี้ แล้วเอาความเจ็บปวดมาสั่งสอนให้เราโตขึ้น ไอที่นายเรียกว่าด้านมืดน่ะ มันคือกำแพงที่นายสร้างเพื่อกั้นความเจ็บปวด ไม่อยากให้มันเจ็บซ้ำๆ แต่ No pain No gain นะ จำไว้ เรียนรู้ความเจ็บปวด เพื่อให้ตัวเองเติบโตขึ้น
ฉะนั้น นายลองสังเกตุตัวเอง เรื่องอะไรที่มันไร้สาระอะ อย่าเอามันมาคิดให้ปวดหัว มันแกล้งมา แกล้งกลับได้แต่อย่าแรง อย่าให้ถึงขั้นชกต่อย หรือไม่ก็ทำฮาๆกลับไป เพื่อนเราคนหนึ่ง โดนด่าที่เราฟังแล้วยังเจ็บแทน แต่มันทำไงรู้มั้ย มันหัวเราะแล้วเล่นมุขกลับ เรารู้ว่าข้างในมันเจ็บ แต่ทุกคนต้องมี poker face ยิ้มสู้เอาไว้ รู้จักให้อภัย ถ้านายควบคุมอารมณ์ตัวเองได้แบบเพื่อนเรา นายเติบโตไปอีกขั้นแล้ว

นายเปลี่ยนความเกลียดคนอื่นไม่ได้ แต่นายเปลี่ยนตัวเองได้
นายเลิกดูถูก เลิกให้ค่าตัวเองต่ำ ด้านไหนที่คนไม่ชอบ นายเปลี่ยนมัน เอาใจเขามาใส่ใจเรามากขึ้น จงมีความมั่นใจในตัวเอง ให้เวลาตัวเอง คิดที่จะพัฒนาตัวเองต่อไป

ถามว่าย้ายโรงเรียน หรือ หยุดเรียนดีมั้ย เราว่า มันเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ถูกต้องเท่าไหร่ ถ้านายไปทำงานแล้วเจอแบบนี้ หมายความว่าต้องย้ายไปเรื่อยๆงั้นเหรอ หรือลาออกจากงาน แค่คิดก็ไม่ใช่แล้ว อย่าหนีปัญหา ลุกขึ้นมาสู้กับมันแบบแมนๆ

ปัญหาอะ ไม่ได้อยู่ที่ใครเว้ย มันอยู่ที่ตัวนายเอง อยู่ที่ทัศนคตินายเองต่างหาก อย่าปิดกั้นตัวเองจากความเจ็บปวด รู้จักให้อภัย

ป ล. จิตแพทย์ไม่ได้รักษาคนบ้าอย่างเดียวนะจ๊ะ นายไม่ได้บ้า อย่ามองแบบนั้น

เป็นกำลังใจให้เว้ย

0
เรา(ขอไม่บอกละกัน) 5 ม.ค. 60 เวลา 23:45 น. 19

เป็นเหมือนกันเลย โคตรจะเกลียดเพื่อนเพราะเรื่องบางเรื่องจนเริ่มอคติมากๆ รู้เลยว่าผ่านมา4ปี(ที่จริงก็5แล้วมั้ง)ก็ยังแก้ไม่ได้5555 เรา(ขอแทนตัวเองงี้ละกันนะ)ก็รู้แหละมันหยุดไม่ได้แต่ที่สำคัญสุดคืออะไร มันอยู่ที่ใจเราเองว่าเราจะเป็นแบบนี้ คนเป็นไม่อยากหรอกแต่ตัวเองมันก็พยามให้เป็นแหละ... เพราะกลัวมั้ง
ถ้าจะให้พูดถึงเรื่องใหญ่ๆ ก็ตอนป.6(อยากบอกว่าคิดอยากตายตั้งแต่ป.6อะ)เหมือนกัน แต่ว่าวันนั้นแปลกดี งานกลุ่มจับกลุ่มอีท่าไหนไม่รู้ไม่มีกลุ่มอยู่ อย่าเพิ่งงงน้า ก็ห้องมี30คนรวมตัวเองด้วย จับ3คนไม่มีได้ไง555 ทำไงดี ก็ถามครูสิ ครูก็ถามห้องใครกลุ่มไม่ครบ ไม่มีใครยกมือ อ่าว...ทำคนเดียวก็ได้ ช่วงที่ผ่านๆมาก็รู้นะว่าเพื่อนไม่ชอบแต่ก็ไม่คิดว่าจะขนาดนี้. โชคร้ายหน่อยนึงที่เรื่องไม่จบแค่นั้นบังเอิญว่าความเศร้าทำให้ซึมไม่เป็นอันทำไรเลย(การบ้านด้วย)ครูเลยโทรบอกพ่อแม่ พ่อก็เลยมาคุยด้วยถามเหตุผล แต่เราดันไม่กล้าบอก(ไม่กล้าบอกว่าเพราะเพื่อน)ไม่กล้าพูดซักคำพ่อเลยโกรธบอกว่าถ้าไม่คุยก็จะไม่พูดด้วย ทีนี้ก็ไปโรงเรียนคือไม่อยากคุยกับใครอยู่บ้านก็ไม่มีคนคุยด้วย(พ่อโกรธอย่างนั้น แม่กับน้องก็ไม่กล้าคุยเลย) อยู่คนเดียวโดยสมบูรณ์... วันนั้นก็เลยตัดสินใจว่า 'จะไม่ต้องการมีใครอีก จะได้ไม่ต้องเจ็บ' สุดท้ายมาคิดได้ตอนหลัง(ประมาณ2เกือบ3ปี) เรามันสัตว์สังคมอยู่คนเดียวไม่ได้หรอก แต่ก็ความเคยชินอะนะ มันอยู่กับคนอื่นไม่ได้แล้ว // เชื่อเถอะมาต่อเส้นทางนี้ลำบาก
ก็ขอพูดไว้แค่ว่า 'มันอาจจะเลิกไม่ได้ หรือ ยากมากๆ(สุดๆอะ) แต่ขอแค่อย่ายอมแพ้กับเรื่องนี้'
*ยาวชิบหาย*

1
MissLittleBear 6 ม.ค. 60 เวลา 00:20 น. 20

อยากบอกนะว่าเข้าใจความรู้สึกแย่ๆแบบนั้นนะ อ่อนไหวมากโดนว่านิดหรือรู้สึกโดนเมินทีแทบจะร้องไห้ ถึงไม่เหมือนกัน แต่เรื่องโดดเดี่ยว ถูกทิ้งไว้คนเดียว ไม่มีใครเข้าใจ พยายามเข้าหาไปก็เหมือนโดนผลักออกมา(กรณีผมนี่เคว้งคว้างหนักมาก โดนว่าจากคนที่คิดว่าเพื่อนว่าไม่ใช่เพื่อน) โดนแกล้งเหมือนตัวอะไรไม่รู้ จากสิ่งที่เจอมามันทำให้เราเป็นอย่างงี้อ่ะเนอะ อยากบอกอยากระบาย แต่ไม่มีใครอยากฟัง ต้องไปร้องไห้เงียบๆคนเดียว แล้วก็นะ จิตแพทย์อ่ะ ไม่ได้รักษาแค่คนบ้า คนป่วยเขาไม่ได้เป็นบ้ากันหมด มีอีกหลายโรคเลย อยากให้เข้าใจ พวกที่ว่าอย่างงั้น พยายามอย่าสนใจ เขาพูดเพราะไม่รู้จริง ไม่คิดเข้าใจเราก็อย่าไปฟังมัน(อิน มันเจอพวกเดียวกันน) ถ้าเลือก เลือกตามที่คิดว่าเราอยากอยู่ใคร เราสบายใจกับพวกไหนกว่ากัน ถ้ามันแย่มากๆ ไม่ไหวแล้ว ก็ย้ายไปเจอที่ใหม่ๆ หยุดไปก่อนก็ได้ หยุดไปรักษาตัวรักษาจิตใจตัวเองให้พร้อมก่อน อ่อ ยังไงก็อยากให้คุยกับเพื่อนที่สนิทก่อน อธิบาย คุยดีๆ เขาอาจห่วงเราแต่ยังตกใจกับการเปลี่ยนไปของเราก็ได้นะฮะ สู้ๆ แล้วมันจะผ่านไป//กอดดดด
ปล.รู้สึกแย่ มาระบายกับเราได้นะฮะ;-; เราเข้าใจ พอก่อนยาวกว่านี้ งงๆกับคำพูดหน่อย มันเบลออ่ะ---

0