Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เมื่อผมลอง "ช่างมัน" อะไรก็ดีขึ้น #bullying

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีครับชาวเด็กดี วันนี้มีอะไรมาเล่าให้ฟัง เนื้อหายาวเกิน 8 บรรทัดนะครับ
 

เกริ่นก่อนเลยครับว่าที่มาตั้งกระทู้เพราะอยากจะเล่าอะไรในสิ่งที่ชีวิตจริงๆของผมไม่สามารถเล่าให้คนอื่นฟังได้ เพราะอะไร? เพราะผมช่างมันไงครับ(ฮา)

แน่นอนว่าปัญหาการแกล้งมันมีทุกที่ ทุกสังคม ทุกเวลา สืบจากกระทู้ ถ้ามีคนถูกกลั่นแกล้งแบบนี้ คุณคิดว่าเรื่องจะจบแบบไหน? ที่ช่วงนี้เต็มฟีดข่าวผมเลยครับ (แต่ผมตกเครื่องบินพึ่งได้อ่าน)

และผมก็ย้อนกลับมามองที่ตัวเอง เราผ่านมันมาได้ยังไงนะ?

จริงๆแล้วก็ไม่ได้ผ่านมาได้หรอกครับ ตอนนี้ยังโดนอยู่ แต่เป็นการโดนเมิน หรือการถูก "เพื่อนเท" นั่นเองครับ

สำหรับพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ที่เจอปัญหาเดียวกับผมอยู่ตอนนี้ อย่าพึ่งคิดมากครับ คิดซะว่าเดี๋ยวมันก็ผ่านไป(แต่เอาจริงๆความคิดแบบนี้ก็ใช้ไม่ได้กับทุกคนครับ) 

ก่อนอื่นเลย แค่มานั่งทบทวนตัวเอง ว่า ทำไม เราถึงโดนแกล้ง ทำไม เพื่อนๆต้องเอาปมด้อยของเรามาจุดประเด็นให้มันลุกลามใหญ่โต ทำไม เราถึงไม่เป็นแบบนี้ แบบนั้น แบบโน้น เพื่อให้คนอื่นเลิกแกล้งเรา เลิกเมินเรา และเราจะเปลี่ยนมันยังไง

และการที่ผมเคยตั้งกระทู้ปัญหาวัยรุ่นเกี่ยวกับการถูกแกล้ง ถูกเพื่อนเท ไม่มีเพื่อน หรือโดนเพื่อนเมิน หลายๆคอมเม้นต์เข้ามาให้กำลังใจผม และบอกว่าไม่ต้องคิดมาก เดี๋ยวมันก็ผ่านไป หาอะไรที่เป็นตัวของตัวเองทำตามเสต็ป ซึ่ง...บางทีก็ใช้ได้ผลแค่แปดสิบเปอร์เซนต์ครับ

เพราะอะไร? เพราะบางคนเป็นมนุษย์ที่เรียกว่ามนุษย์ค่าเฉลี่ยครับ ไม่มีอะไรโดดเด่น ไม่มีกิจกรรมที่ชอบทำเป็นพิเศษ เหมือนจะถูกมองข้ามกลายๆ//ใครเป็นแบบนี้ยกมือ!!(เพื่อนร่วมห้องผมเอง)


และสิ่งที่ผมอยากจะแนะนำที่สุดเลย ถ้าใครเจอปัญหาการโดนแกล้งในกรณี โดนเมิน โดนทำร้ายจิตใจทางคำพูด โดนประจานในที่สาธารณะหรือโลกโซเชียล โดนทำร้ายร่างกาย 

กรณีย์แบบนี้ คุณโชคดีมาก ถ้าคุณมีคนที่ให้ความช่วยเหลือ แต่ถ้าไม่มีล่ะครับ?


คุณต้องทนอยู่กับเรื่องพวกนี้จนกลายเป็นโรคซึมเศร้าหรือเปล่า? หรือจะลอง "ช่างมัน" ดู

การ "ช่างมัน" กับการ "ไม่คิดมาก" นี่ต่างกันครับ สำหรับผม ไม่คิดมากคือการฝืนตัวเองไม่ให้กลับมาคิดทำอะไรก็ได้ให้ไม่ต้องกลับมาคิด(แต่สุดท้ายมันก็คิดอยู่ดีอ่ะ) แต่การ ช่างมัน ก็เหมือนกับการให้คนมาพูดสุนทรพจน์ยาวๆให้ฟัง แต่คุณไม่ต้องไปสนใจและเก็บรายละเอียดมาคิดเลย ปล่อยมันลอยผ่านไปเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา ใครจะด่าหรือนินทาก็อย่าไปฟัง สร้างโลกของตัวเองขึ้นมาซะ ไม่ต้องสนใจอะไรที่มันไม่จรรโลงใจที่รู้ไปก็เสียสุขภาพจิต

แน่นอน ว่าผมใช้วิธีนี้แล้วผลกระทบตามมาคือการโดนคนอื่นหาว่าเป็นโรคเอ๋อ(5555) โดนหาว่าโลกส่วนตัวสูงบ้าง เห็นแก่ตัวบ้าง ซึ่งผมก็ใช้วิธีเดิม คือการ "ช่างมัน"

เพราะไม่มีเพื่อนให้ระบาย เพราะไม่มีใครรับฟัง แม้แต่คนที่บ้านก็ไม่กล้าพูดด้วย อาจารย์ยิ่งแล้วใหญ่ ไม่เคยสนิทกับอาจารย์ท่านไหนสักคน ระบายทุกอย่างผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ค 

มันทำให้ผมใช้เวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้น สนใจตัวเองมากขึ้น กลายเป็นคนเห็นแก่ตัวเล็กน้อย แต่ก็ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใครครับ ใจเขา ใจเรา 5 ปีแล้วครับที่ผมใช้ชีวิตแบบนี้ ถือว่านานมากสำหรับเด็ก ม.ปลายคนนึง และทุกวันนี้ก็อยู่อย่างสงบ ถึงจะไม่มีเพื่อนสนิท ก็ใช้ตัวเองนี่แหล่ะครับเป็นเพื่อนสนิทที่สนิทสุด ไม่มีใครรู้จักเราดีไปกว่าตัวเราเอง

ขอบคุณที่อ่านจบครับ ^^


 

แสดงความคิดเห็น

>

1 ความคิดเห็น

Mishino_Chan 4 ก.พ. 60 เวลา 02:15 น. 1

พูดเหมือนจะง่ายแต่ก็ยากนะคะ 5555 จะลองทำตามดู 
//ไม่คิดอะไรแต่เก็บเอามาคิดตลอด[ตามที่จขดท.เขียน] ประจำเลย สุดท้ายก็เหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เราเป็นแบบนี้ตลอด  ถึงจะคิดว่าช่างมันก็เถอะ แต่มันก็คิด ฮือออ T__T 

0