How to วิธีแก้สมองตันของนักเขียนแต่ละท่านคืออะไรคะ
ตั้งกระทู้ใหม่
แล้วจะกลับมาแต่งนิยายอีกครั้งแต่หัวตัน แต่งไม่ออก ภาษาเปลี่ยน จำพล็อตไม่ได้ จินตนาการหด
นักเขียนท่านอื่นมีวิธีแก้ปัญหานี้อย่างไรบ้างคะ
ขอบคุณค่ะ
5 ความคิดเห็น
อย่างแรกเตรียมสิ่งที่จำเป็น เขียนอะไร? เขียนยังไงอารมณ์ไหน? วัตถุดิบพอรึยัง?
ค่อยๆทำทุกอย่างที่ทำได้ทีละสิ่งทีละอันสะสมความมั่นใจทีละน้อย อย่าหยุดเขียน เขียนได้ดีไม่ดีมากน้อยไม่สำคัญในช่วงแรก พยายามสร้างความเคยชิน พอชินก็จะคิดน้อยลงและเขียนได้มากขึ้น เขียนได้มากขึ้นความกังวลน้อยลง ความกังวลน้อยลงความกดดันก็จางลงไป ความกดดันจางลงไปก็สบายตัวแล้ว
ตอนนี้กลับมาจับนิยายใหม่อีกรอบ
พอตันมากๆเข้าก็อยากรีไรท์ของเดิมค่ะ
แต่คิดว่าจะพยายามแต่งให้จบแล้วกลับมาแก้ไขดีกว่า
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ
บอกยากแฮะ มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นทางความรู้สึกล้วน ๆ เลย
เพราะบางทีการแก้สมองตันมันก็ไม่ได้เกิดจากตัวเรา
บางทีมันก็แว๊บเข้ามาเอง แบบจู่ ๆ สมองก็โล่งงี้
แต่ถ้าจะเอาเป็นวิธี สำหรับเราคืออ่านของตัวเองซ้ำ ๆ
แล้วก็คิดเกี่ยวกับเรื่องนั้น ๆ อยู่ตลอดเวลา คล้ายกับว่าเราต้องอินกับมันอยู่ตลอด
และถ้ามันตันแบบตื้อมาก เราคงหาเพลงฟังที่มันเข้ากับเนื้อเรื่องสุด ๆ จะได้อินและก็ผ่อนคลายในเวลาเดียวกัน
แต่หายไปสองปีกลับมาแต่งนี่ก็ต้องปรับอีกเยอะเลยค่ะ
กว่าจะจูนกลับมาได้ คงต้องหาอะไรที่ จขกท ชอบแล้วล่ะ
ทั้งสไตล์การเขียน แนว เนื้อเรื่อง
เช่น ชอบดราม่า ก็ลองเสพดราม่าดู ไม่ว่าจะนิยาย ซีรีส์ละคร
หรือถ้าชอบขำขัน ก็ต้องหาไรบิ้วตัวเองให้ได้
ก็ช่วยไม่ได้มาก ก็อยากให้ จขกท ไม่จิตตก จะได้เขียนนิยายสนุก ๆ
สู้ ๆ นะคะ
ของเก่าที่เราเขียนไว้ยาวมากเลยค่ะ เคยอ่านทวนหลายรอบแล้ว
มีอยู่หลายช่วงที่ดองแล้วกลับมาแต่งใหม่ก็กลับไปอ่านทวน
แต่ครั้งนี้ดองยาวไปหน่อย เริ่มขี้เกียจอ่านทวน
ปกติชอบแต่งนิยายแนวตลกเบาสมองค่ะ แต่ช่วงนี้อารมณ์เบาสมองไม่มี
มรสุมงานเยอะพาลไปเรื่องเครียดก็เลยตันแต่งไม่ออกค่ะ
กำลังคิดว่าจะงอกเรื่องใหม่เพิ่มมาลับฝีมือให้หายฝืดก่อนแล้วค่อยกลับไปแต่งเรื่องเดิมต่อ
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ
อย่างแรกต้องใช้ความกล้าค่ะ กล้าที่จะกลับมาเขียน กล้าที่จะลงมือเขียน เพราะถ้าเจ้าของกระทู้ไม่กล้า หรือ 'กลัว' แค่คำนี้คำเดียว ก็จะไม่สามารถทำให้งานเขียนเกิดขึ้นมาได้นะคะ
ประมาณแต่งให้จบไปก่อนแล้วค่อยกลับมาตรวจทานใช่มั๊ยคะ
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ
ผมใช้วิธีตั้งกระทู้ขอนิยายอ่านครับ นอกจากนิยายจากเพื่อนในบอร์ด ก็จะสุ่มอ่านนิยายจากหมวดที่ตัวเองกำลังจะแต่งอยู่ จากทั้งที่ติดท้อปและไม่ติดท้อป แล้วกลุ่มสุดท้ายก็คืองานเขียนชั้นครูและนิยายต่างประเทศ
หลังจากอ่านเพื่อเรียนรู้สถานการณ์ปัจจุบันและเรียนรู้เทคนิคแล้ว ทีนี้ค่อยกลับมาสำรวจงานตัวเอง อ่านงานตัวเองไปพร้อมๆ กับพล็อตเรื่องที่วางแผนไว้ ตอนที่กลับมาแต่งอีกที ผมอ่านหลายครั้งมากเลยครับ อ่านจนกว่าจะคืนสำนวน พอพร้อมจริงๆ ถึงค่อยลองเขียนครับ
อ่านนิยายหลายแนวเหมือนกันค่ะ
มีอยู่ช่วงนึงติดนิยายจีนสำนวนก็เขวไป
นิยายที่เคยแต่งช่วงนั้นบางทีสำนวนก็โดดไปโดดมา คิดแล้วก็อยากรีไรท์ค่ะ
QAQ
กะว่าจะลองงอกเรื่องใหม่มาสักเรื่องฝึกแต่งจนกว่านิยายจะกลับเข้าที่ค่ะ
ถ้าตันแบบไม่รู้จะเขียนต่อไปทางไหน จะรีบไปวางโครงเรื่องให้แน่นขึ้น หรือแก้โครงเรื่องใหม่ซะเลย ถ้าทำแบบนี้เราจะรู้ว่าเราต้องการเขียนอะไร แก่นเรื่องคืออะไร
วางแบบมายแมพปิ้งก็ได้ ทำแบบนี้เราจะเห็นความสัมพันธ์กันในจุดต่างๆ ของเรื่อง
แต่ถ้าวางโครงเรื่องแล้วยังไม่รอดเพราะหมดไอเดีย จะไปอ่านข่าว อ่านบทความที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวที่กำลังเขียน ดูหนัง หาไอเดียใหม่ๆ
ถ้าตันแบบฉันบรรยายไม่ถูก จะแอบไปส่องนิยายของคนอื่น ไม่ก็กลับไปอ่านนิยายเรื่องโปรด และกลับมาเขียน เขียนไปเรื่อยๆ เขียนมันแบบภาษาทื่อๆ ทึมๆ นั่นแหละ ไม่ก็เขียนแค่บทพูดยังไม่เขียนบรรยาย เขียนไปจนจบตอน แล้วค่อยกลับมาแก้ใหม่ มาเขียนบรรยายเพิ่มทีหลัง
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?