Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ตัวเอก "ขงเบ้ง" มันเจ๋งหรือเจ๊ง?

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

     เปิดชื่อกระทู้มาก็ฟังดูแปลกๆและงงๆ แต่ถ้าใครคิดว่ากระทู้นี้จะมีดราม่ามาให้เสพ อันนี้ผมขอบอกเลยว่ามันไม่น่าจะดราม่านะ เพราะมันน่าจะดูขำๆซะมากกว่า
     คือ...สำหรับผม ผมมองว่ามันตลกและก็น่ารักดีอ่ะนะ แต่สำหรับคนอื่นๆจะมองยังไง อันนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน555

     เท้าความกันก่อนเลย อาจารย์ขงเบ้งที่ผมนำมากล่าวนี้ผมไม่ได้มีเจตนาจะล้อเลียนเขานะ เพราะเขาก็ขงเบ้งๆอยู่แล้ว
     ขงเบ้งที่ผมนำมาใช้นี้ ได้อ้างอิงมาจากสามก๊กตอนสงครามลิ้น ที่มันเป็นฉากการโต้คารมระหว่างอาจารย์ขงเบ้งกับกุนซือของซุนกวน ซึ่งในแต่ละประโยคนั้นก็ยาวโครตๆ ทว่าในความยาวโคตรๆมันก็แฝงไปด้วยการเฉือดเฉือนกันด้วยคำพูดอย่างดุเดือด
     แน่นอนว่าอาจารย์ขงเบ้งก็เอาชนะได้หมดทุกคน ไม่ว่ากุนซือคนไหนจะเปิดประเด็นอะไรมา อาจารย์ขงเบ้งก็สามารถสวนกลับจนพวกนั้นหน้าแหกไปตามๆกันเลยทีเดียว

     เกริ่นมาเหมือนจะไม่ตรงกับกระทู้ แต่ก็อย่างที่บอกนะครับว่าผมอ้างอิงคำนี้มาจากสงครามลิ้น ที่มีฉากการพูดที่ยาวมากๆ และแน่นอนว่าผมก็เคยเห็นตัวละครไม่น้อยในนิยาย ที่ชอบพูดกันยาวๆราวกับว่าเขาไม่เคยพักหายใจมาก่อน

     การขงเบ้งจะดูเท่มากๆ ถ้าตัวละครนำมันไปใช้ได้ถูกที่ถูกเวลา อย่างเช่นฉากการประชุม ฉากการวางแผนสงคราม การเจรจาหรือต่อรองข้อเสนอ และอีกหลายอย่างที่มันจำเป็นต้องใช้คำพูดยาวๆ
     ซึ่งมันจะดูไม่เท่เอามากๆ ถ้าตัวละครใดนำมันไปใช้แบบผิดที่ผิดทาง แถมยังใช้ราวกับว่าตัวเองสามารถอนุมานทุกสิ่งทุกอย่างได้หมด

     และที่ผมพบเห็นและจดจำได้เป็นอย่างดี มันก็มักจะเป็นฉากที่ควรมีการบรรยายเยอะๆ ทว่านักเขียนดันเอา-ที่ควรบรรยายมาใส่ในช่องคำพูดเสียหมด
    จนภาพต่างๆนาๆที่เราควรจะเห็นว่าพระเอกเดินเข้าไปสำรวจห้องทีละห้อง แต่เรากลับเห็นเป็นว่าตัวเอกยืนเฉยๆแล้วพ่นข้อมูลออกมาเหมือนมันรู้หมดทุกอย่าง

     อาจจะหาว่าผมพูดมั่วๆไม่มีหลักฐาน ดังนั้นผมจะขออนุญาตแบบไม่เป็นทางการในการนำตัวอย่างมากนะครับ และผมไม่ขอเอ่ยชื่อนิยายดีกว่า(ถ้าเจ้าของนิยายมาเห็น ผมขอให้เราคิดๆว่านี่จะเป็นส่วนช่วยให้นักเขียนหน้าใหม่บางคน ได้เขียนกันถูกๆ)

 

"นี่คือแผนผังของที่นี่

 ซึ่งที่เราอยู่ก็มีห้องโถงที่เชื่อมห้องเสบียง

ห้องสมุด ห้องนอนระดับหัวหน้า 

และก็บันไดขึ้นไปยังชั้นบน"
 

     เราคิดว่ายังไงครับ?

     อะไรนะครับ? หลักฐานยังไม่พองั้นเหรอ?
     โอเค ถ้างั้นก็จงเสพ...

 

"ข้างบนก็มีห้องวัตถุดิบ ห้องตรวจการณ์ 

ห้องทดลองและก็ที่พัก

ส่วนชั้นบนสุดนั้นเรียกว่าฟาร์ม

 พวกเราจะไปสำรวจกันว่ามีอะไรที่ใช้ได้บ้าง

แล้วค่อยดำเนินการณ์ต่อไป"
 

"มันมีข้อจำกัดอยู่ 

โดยทั่วไปก็ใช้เรียกพวกโครงกระดูกธรรมดาได้สักห้าสิบ

ตัวจิ๋วอย่างเจ้าพวกนี้สักแปดสิบ

แต่ตอนนี้แค่อัญเชิญเธอคนเดียว

 ก็กินช่องที่จะอัญเชิญตัวอื่นเกือบหมดแล้ว

เพราะงั้นห้าตัวนี่เต็มกลืนแล้วนะ"
 

"ยี่สิบสี่ตัว เป็นพี่เบิ้มสองอยู่ตรงด้านซ้ายและมุมขวาของตึกที่ห่างที่สุด

เกราะติดดาบสอง หอกห้าอยู่เป็นกลุ่ม

มีหนึ่งตัวที่ลักษณะคล้ายหัวหน้าหมู่ คอยสั่งการค่อยๆเลาะตามอาคารอย่างระมัดระวัง

นอกนั้นก็ตัวธรรมดาไร้สมอง ที่ไวและไกลที่สุด

ต้องขอบใจพวกพวกค้างคาวสอดแนมจริงๆ"


     ขอบอกก่อนนะครับว่านี่เป็นผลงานก่อนรีไรท์ของเขา และแน่นอนว่าผลงานรีไรท์ผมก็ยังเห็นความขงเบ้งแบบนี้อยู่เรื่อยๆ ล่าสุดผมได้เห็นฉากการพูดยาวถึง 7 บรรทัด...น่าจะมากกว่านั้นด้วย
     
     เอาเป็นว่าผมเคยถามเจ้าของผลงานเกี่ยวกับเรื่องนี้ และเขาบอกว่าตัวเองเป็นคนบรรยายไม่เก่ง(แต่ภาษาเขียนโคตรสุดยอด) งั้นเราก็มาดูกันเลยดีกว่าว่าทำยังไงถึงจะบรรยายได้เก่งๆ
     
      คือถ้าเรามีเวลามากพอ และเราอยากลองก็ลองดูนะครับ ผมก็ไม่รู้ว่าวิธีนี้จะมีคนทดลองกันหรือเปล่า?
     วิธีที่ว่ามานี้ ก็คือให้เราถือสมุดจดขึ้นพร้อมปากกา(หรืออะไรที่เขียนได้) จากนั้นเราก็ลองเดินสำรวจไปรอบๆบ้านของตัวเอง ลองนึกดูว่าเราเดินไปแบบไหน เดินสืบเท้าช้าๆหรือก้าวเร็วๆ
     ลองเปิดประตูห้องแล้วสังเกตดูว่าเราเปิดมันยังไง พอเปิดเข้าไปแล้วห้องมันมืดใช่มั้ย เราทำยังไงต่อเพื่อจะให้ห้องมันสว่าง
     ถ้าห้องมันสว่างแล้วเป็นไง ตอนไฟสว่างมันติดทันทีหรือว่ากระพริบติดๆดับๆก่อน
     จากนั้นลองสำรวจห้องนั้นดูครับ พร้อมนึกในใจด้วยว่าเราสำรวจแบบไหน จากใกล้มือสุดไปทางไหน และลองสำรวจบ้านตัวเองไปเรื่อยๆ ก่อนจะมาดูสมุดจดว่าเราจดการสำรวจลักษณะใดไปบ้าง(ถ้าใครไม่อยากจดก็ใช้การจำเอาได้เลยนะ)

     เมื่อสิ้นสุดการสำรวจบ้านตัวเอง เราจะพอรู้วิธีการบรรยายฉากพอคร่าวๆที่เป็นพื้นฐานของนักเขียนกันบ้างล่ะครับผม
     ผมก็ไม่รู้ว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์กันมากแค่ไหน เพราะผมตั้งใจจะทำให้นักเขียนหน้าใหม่ลองอ่านและฝึกฝนดู แต่ถ้าวิธีนี้มันยุ่งยากหรือมีวิธีที่ง่ายกว่านั้นในการฝึกฝน ก็สามารถกดความคิดเห็นกันเข้ามารัวๆเลยครับผม

     สำหรับกระทู้ก่อนหน้านี้เหมือนผมจะเอาแต่ใจตัวเองไปหน่อย อันนี้ก็ต้องฝากขอโทษขออภัยทุกคนเหมือนกัน
     งั้นผมก็ขอลาไปก่อนนะครับ

     ปล. เลิกเป็นขงเบ้งแบบผิดที่ผิดทางกันด้วยล่ะ 555

ปล.2 แถมอีกนิดนึงและขออภัยเจ้าของผลงานมากๆครับ

 

"ภารกิจสำรวจสุสาน ความยากระดับสองดาว เงินรางวัลสองซิลเวอร์ จำกัดจำนวนนักผจญภัยไว้ที่แปดสิบคน รายละเอียดคร่าวๆบอกไว้ว่า เนื่องมาจากมีผู้พบเห็นอันเดดและกูลออกเพ่นพ่านอยู่เป็นจำนวนมากใกล้กับบริเวณสุสานเก่าทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือเพื่อความปลอดภัยของชาวเมืองและผู้คนที่สัญจร...ย่อๆก็ประมาณว่าส่งพวกนักผจญภัยไปจัดการพวกอันเดดและค้นหาต้นตอที่ทำให้พวกมันเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างผิดปกติ ศัตรูที่คาดว่าจะเจอได้แก่ ซอมบี้ กูล และโครงกระดูก ภารกิจจะเริ่มต้นในวันมะรืนนี้และให้มารวมกันที่จุดนัดพบ"

แสดงความคิดเห็น

>

6 ความคิดเห็น

อัจฉราโสภิต 24 ก.พ. 60 เวลา 20:00 น. 1

เท่าที่ยกมาผมคิดว่ายังไม่ยาวมากครับ ชีวิตจริงเจอได้บ่อยๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าต้องอ่านช้าหน่อยถึงจะเข้าใจ และถ้าเจอคนแนะนำสถานที่แบบนี้จริงๆ ผมก็คงจำไม่ได้ แต่ถ้ายาวขนาดเจ็ดแปดบรรทัด จ้ออย่างเดียว โดยที่สถานการณ์ไม่ใช่การประชุมหรืออะไรที่พูดกันยาวๆได้ อันนี้ยอมรับ เอ็งสอบไม่ผ่านวิชานำเสนอ ไปซ้อมมาใหม่ ทำสไลด์มาใหม่ด้วย


พูดถึงขงเบ้งหน่อย ผมคิดว่าส่วนใหญ่ที่คนไทย (ที่สนใจสามก๊ก) ชอบขงเบ้งหรือเห็นว่าขงเบ้งเป็นตัวละครที่ฉลาด อาจจะเพราะเราชินกับฉบับหลอกว้านจงที่อวยเล่าปี่ครับ ลองอ่านๆดูในประวัติศาสตร์ ขงเบ้งฉลาดจริง แต่ไม่ฉลาดขนาดนั้น สู้ทีมของฝั่งโจโฉหรือซุนกวนไม่ได้เลย

5
Twenty SIX 24 ก.พ. 60 เวลา 20:04 น. 1-1

555 อันนี้ผมเห็นมาจากนิยายที่เจ้าของผลงานก่อนรีไรท์น่ะครับ


เพราะหลังรีไรท์มีอันหนึ่งที่ยาว7-8บรรทัด แต่ผมไม่อยากเอามาลงสักเท่าไหร่ เดี๋ยวมันจะกระทบจิตใจกัน ส่วนที่ผมอ้างอิงจากสงครามลิ้น นี่น่าจะเป็นวรรณกรรมแบบปรุงแต่งขึ้นมาหรือเปล่าผมก้ไม่แน่ใจ แต่มันก็คุยกันยาวพอสมควร^^

0
Twenty SIX 24 ก.พ. 60 เวลา 20:10 น. 1-2

ไหนๆก็ไหนๆแล้ว


ผมขอถือวิสาสะอย่างสุดซึ้งและจะกราบขออภัยด้วยนะครับ


"ภารกิจสำรวจสุสาน ความยากระดับสองดาว เงินรางวัลสองซิลเวอร์ จำกัดจำนวนนักผจญภัยไว้ที่แปดสิบคน รายละเอียดคร่าวๆบอกไว้ว่า เนื่องมาจากมีผู้พบเห็นอันเดดและกูลออกเพ่นพ่านอยู่เป็นจำนวนมากใกล้กับบริเวณสุสานเก่าทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือเพื่อความปลอดภัยของชาวเมืองและผู้คนที่สัญจร...ย่อๆก้ประมาณว่าส่งพวกนักผจญภัยไปจัดการพวกอันเดดและค้นหาต้นตอที่ทำให้พวกมันเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างผิดปกติ สัตรูที่คาดว่าจะเจอได้แก่ ซอมบี้ กูล และโครงกระดูก ภารกิจจะเริ่มต้นในวันมะรืนนี้และให้มารวมกันที่จุดนัดพบ"


ผมว่ามันก็ยาวพอสมควรนะ

0
skeleton-king 24 ก.พ. 60 เวลา 22:27 น. 1-5

ขอถือวิสาสะลองแก้นะครับ ไม่รู้จะเข้ากับคาแรกเตอร์คนพูดมั้ย


"ภารกิจนี้เราจะไปสำรวจสุสานกัน ความยากสองดาว เงินรางวัลสองซิลเวอร์ จำกัดคนไว้ไม่เกินแปดสิบ ข่าวมาว่ามีคนเห็นพวกอันเดดและกูลอยู่เต็มไปหมดตรงสุสานเก่าทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ พูดง่ายๆคือต้องส่งพวกนักผจญภัยไปจัดการพวกมันและหาต้นตอที่ทำให้พวกมันโผล่มาเพื่อความปลอดภัยของชาวเมืองและผู้คนที่สัญจร ส่วนศัตรูก็คงไม่พ้นพวกผีดิบทั้งหลายแหล่ งานเริ่มวันมะรืนนี้ แล้วเจอกันที่จุดนัดพบ"

0
White Frangipani 24 ก.พ. 60 เวลา 20:21 น. 2
ตัวเอก "ขงเบ้ง" มันเจ๋งหรือเจ๊ง?


ขงเบ้งที่ผมนำมาใช้นี้ ได้อ้างอิงมาจากสามก๊ก...


ผมก็ไม่รู้ว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์กันมากแค่ไหน เพราะผมตั้งใจจะทำให้นักเขียนหน้าใหม่ลองอ่านและฝึกฝนดู แต่ถ้าวิธีนี้มันยุ่งยากหรือมีวิธีที่ง่ายกว่านั้นในการฝึกฝน ก็สามารถกดความคิดเห็นกันเข้ามารัวๆเลยครับผม


มีประโยชน์มากมายเลยสำหรับ...นักเรียนหัดเขียนค่ะ


อ่านกระทู้นี้...คิดถึง(ระลึกถึง...) คุณป่า...สมาชิกท่านหนึ่งประจำบอร์ดมากๆเลยค่ะ ฮื้อออ


ไปอยู่ที่ไหนแล๊วววก็ไม่รู้พักนี้เงียบๆ หายไปเลย...




สวัสดีค่ะเจ้าของกระทู้...


อ่านๆเรื่องราว...ขงเบ้ง...(จากสามก็กนะคะ) เจ้าของเม้นต์ชอบมากเลยค่ะ เคยอ่านๆแต่ไม่จบ...นะ ว่างๆจะกลับไปอ่านต่อค่ะ...ตอนนี้มีความรู้สึกอึนๆๆๆ ค่ะ555


ที่คุณเขียนมานี้นะคะ...ยิ่งเป็นแรงบันดาลใจ...ทำให้อยากอ่านต่อ...บทบาท...ของขงเบ้งนี้...ค่ะ


คุณป่าไปอยู่ณ.ที่ใดนะ...ในวันนี้...คือว่า...คุณป่า...รู้เรื่อง...สามก็ก...หรือว่าขงเบ้ง...นี้ ชํ่าชองเลยค่ะ (เคยเห็นคุณป่ากล่าวๆถึงขงเบ้งบ่อยๆด้วยค่ะ) อยากให้คุณป่ามาช่วยเม้นต์กระทู้(...ขงเบ้ง...จาก สามก๊กตอนสงครามลิ้น...นี้มากเลยค่ะ)


อยากให้ผู้มีประสบการณ์...เกี่ยวกับเรื่องนี้...ช่วยเม้นต์และขยายความให้อ่าน...ค่ะ


คุณป่าติดกาแฟ...


เดี๊ยวก่อนนะ...


นำกาแฟ...มาอวด...ก่อน จะเห็นหรือไม่นะ


อากาศร้อนๆกาแฟเย็นๆบรรยากาศเย็นๆ...เป็นธรรมชาติท่ามกลางฤดูร้อนๆของไทย...แบบนี้...


คุณป่าจะชอบหรือไม่...นะ


(ปรกติเห็นดื่มแต่กาแฟดํ๊าๆดำค่ะ)




123374919



เย็นเฉียบเลย...น่าดื่มมากๆเลยด้วย ^_______^



และ (เกือบๆลืมสิ) ขอบคุณเจ้าของกระทู้สำหรับกระทู้ดีๆ มีประโยชน์ค่ะ ^___^


8
White Frangipani 24 ก.พ. 60 เวลา 20:48 น. 2-2

สวัสดีค่ะ เจ้าของกระทู้


คุณรู้จัก...คุณป่า...หรือว่าเคยเห็นสมาชิกท่านดังกล่าวนี้หรือไม่คะ


เขานะใช้คำติดปาก...ประโยคนี้..."ครับผม^^"...คล้ายๆคุณมากเลยด้วยค่ะ



0
TJ-12 25 ก.พ. 60 เวลา 19:07 น. 2-5

หิววววว อยากดื่มนมหรือโกโก้ ดันมาอ่านตอนนี้ซะได้

0
White Frangipani 25 ก.พ. 60 เวลา 19:46 น. 2-6

ฮ่า ฮ่า ฮ่า


สวัสดีค่ะ คหที่2-5 (สมาชิกท่านนี้ก็หายหน้าไปนานเช่นกัน...)


ดีใจที่เห็นคุณ...ในกระทู้มีสาระนี้...ด้วยเช่นกันค่ะ ^______^


ภาพข้างบนนั้นนะคะ "กาแฟเย็น...แต่งหน้าด้วยนมสด"...ค่ะ


อากาศร้อนๆที่เมืองไทยนะ...อะไรๆ แบบนี้...ดื่มแล้ว...คงชื่นใจมากเลยเนอะ


เม้นต์ข้างบนนั้น...ชวนให้อยาก...ขึ้นมาหล่ะ


ว่าแล้วก็อยากดื่ม...เดี๋ยวนะ...ต้มนํ้า...ชงดื่มเลยดีกว่า...


0
TJ-12 25 ก.พ. 60 เวลา 22:36 น. 2-7

ที่หายไปไม่ใช่อะไรหรอกครับ เพียงแต่....นรกที่เรียกว่าสอบกำลังจ่อก้นผมอยู่!

การหลุดพ้นจากนรกนี้ต้องอ่านหนังสือสถานเดียว......
0
White Frangipani 25 ก.พ. 60 เวลา 23:16 น. 2-8

5555


".นรกที่เรียกว่าสอบกำลังจ่อก้นผมอยู่!"...โอย โอยยย อ่านแล้วรู้สึกขมขื่นไปด้วยค่ะ คุณต้องไม่ปล่อยให้ตัวคุณเองรู้สึกแบบนั้นสิคะ


คิดแบบนี้ไม่สนุกสิคะ


" การหลุดพ้นจากนรกนี้ต้องอ่านหนังสือสถานเดียว"......5555


แน่นอนค่ะ และในขณะที่อ่านๆ คุณต้องพยายามสำรวมๆ และจดจ่อในทุกๆวิชา...ด้วยความสงบ และตั้งใจ...ด้วยนะคะ


พยายามตั้งอกตั้งใจจดจ่อเจาะลงไปลึกๆ(ด้วยจิตวิญญาณ)ในวิชานั้นๆ(ทำเป็นหรือเปล่าแบบนี้น่ะ5555)


ความสงบ...และอาการจดจ่อ...ในขณะเดียวกัน...มันจะทำให้ความทรงจำมีศักยภาพที่เยี่ยมมากๆค่ะ


มันจะก็อปทุกอย่างที่คุณได้อ่านผ่านตา ผ่านความรู้สึก...และมันจะนำเข้าไปเก็บไว้เป็นความทรงจำ ที่ดีเยี่ยม...หรือที่เราเรียกว่าคลังแมมโมรี่...ที่เยี่ยมยอดดีๆนี้เองค่ะ


...เท่านั้นก็สำเร็จ...วิชาไหนหล่ะ ฟิสิกส์ คณิต... หรือว่า เคมี...หรือทุกๆวิชา...จะไม่ใช่เรื่องยาก หรือน่ากลัวอีกต่อไปค่ะ ตรงข้ามคุณจะเกิดความสนุกสนาน และท้าทาย...มากมายค่ะ


ในห้องสอบนะ...คุณจะสามารถนั่งอมยิ้มด้วยเรียวปากที่เชิดด้วยความมั่นใจ...และเป็นสุขด้วยค่ะเมื่อคุณมีแมมโมรี่ที่ดีเยี่ยม...หลังจากการอ่านมาทั้งหมดนั้น


แต่...คุณต้องพยายามสร้างความสมดุลย์ให้สมอง...ในช่วงที่ต้องอ่านเยอะๆนี้ด้วยนะคะ หากคือคุณรู้สึกว่า...หักโหมมากไปก็พัก...เสียหน่อยโดยการออกไปรับลม หรือหาสิ่งที่ให้ความรู้สึกว่าสนุกผ่อนคลาย...สักแปปๆ แล้วกลับมาจดจ่อใหม่ค่ะ


เดี๋ยวนะสอบเสร็จ ผ่านไปแล้ว...(ด้วยคะแนนที่ดีๆด้วย) ก็สบายตัวแล้ว ได้ฉลองใหญ่...ไปเลยก็ยังไหวค่ะ5555



เป็นกำลังใจให้คุณค่ะ สู้สู้นะคะ ^____^



0
SilverPlus 24 ก.พ. 60 เวลา 20:44 น. 3

ถ้าผมเอาขงเบ้งไปเป็นตัวละครโลลิ แล้ววันๆ พูดแต่เรื่องขนม กับมีนิสัยชอบหลอกล่อขนมจากเด็กคนอื่นมาเป็นของตัวเอง แถมยังชอบพูดจาลามกเพื่อให้ตัวละครตัวหนึ่งหยุดชะงั้กด้วย


ผมจะใช้ผิดที่ผิดทางด้วยไหมหว่า....


ตัวละครหยิบมาใช้ได้ครับ ส่วนที่ว่าเหมาะสมกับความเป็นขงเบ้งหรือเปล่า อันนี้ขึ้นอยู่กับคนอ่านแต่ละบุคคล ไม่ใช่นักอ่านทุกคนที่นับถือขงเบ้ง และบางทีเขาไม่สนเรื่องคารมอะไรของขงเบ้งต้นฉบับเลยด้วยซ้ำ เรื่องนี้ ส่วนตัว.... ผมว่าควรให้อิสระในการปั้นแต่งตัวละครตามใจคนเขียนเถอะครับ


ผมคิดการเล่าโดยตัวละคร ไม่เป็นปัญหานะ ในกรณีที่ตัวเอกของเราไม่ได้เดินไปสำรวจด้วยตัวเอง ก็ให้ตัวละครสักตัวหนึ่งเล่ามันออกมาเนี้ยแหละ ดูเป็นธรรมชาติกว่าคนเขียนเล่าเยอะเลย


และดูจากที่ยกมา ผมว่าเขาบรรยายยังไม่เก่งจริงๆ นั้นแหละ ต้องให้เวลานักเขียนเขาฝึกฝนสักหน่อย ่ แนะนำเบาๆ ไม่ต้องจี้เหมือนอาจารย์สุดเข้มงวด บอกวิธีไป แล้วก็เฝ้าดูห่างๆ ก็พอ

1
Twenty SIX 24 ก.พ. 60 เวลา 22:11 น. 3-1

555 ของเราใช้ไม่ผิดหรอกครับ เพราะผมพูดแค่การบรรยายเฉยๆ พอดีเห็นว่าการบรรยายของเขาเป็นการพุดออกมาหมด ภาพที่เห็นก็เลยเป็นตัวละครยืนอยู่หน้าสถานที่ แต่สามารถบอกทุกสิ่งทุกอย่างออกมาได้ ซึ่งนั่นก็เลยเป็นเหตุให้ผมตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา เผื่อจะไม่มีใครผิดพลาดเหมือนเขานั่นเองครับผม


ปล. ขงเบ้งนี่ผมแค่ล้อเลียนตรงที่ชอบพุดอะไรยาวๆ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับอาจารย์ในเชิงลึกนะครับผม


พูดง่ายๆก็คือความเป็นขงเบ้ง(สำหรับผม) คือการพูดยาว(แบบมากๆ)

ถ้าตัวละครมันขงเบ้งถูกที่ถูกเวลา(พูดยาว) มันจะดูดีและเท่มากๆนั่นเองครับ

ประมาณนี้เนอะ

0
skeleton-king 24 ก.พ. 60 เวลา 22:32 น. 4

ผมเห็นด้วยว่าการพูดแบบนี้มันเหมาะเวลาที่ตัวละครพูดเรื่องที่ตัวเองรู้จริงหรือมีความจำเป็นตามสถานการณ์ เพียงแต่ว่าคุณพยายามเขียนให้เหมือนคนพูดจริงๆ อย่างอันนี้ที่ผมเขียนบทพูดยาวหน่อยในฉากการอบรมทหารใหม่


“สำหรับเจ้านี่ เราเรียกว่ามันเอ็กโซสเคเลตัน” แอนเซลอธิบายต่อ เขาก้าวไปข้างหน้าเล็กน้อยเพื่อให้ทุกคนเห็นชุดโครงที่เขาสวมอยู่ “ถึงแม้มันจะไม่ได้ปลุกพลังกล้ามเนื้อให้กับคุณ แต่เจ้าชุดโครงนี่จะมีเซ็นเซอร์ตรวจจับการทำงานของระบบประสาทของคุณและด้วยกลไกของมันทำให้มันแทบจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของร่างคุณเมื่อถูกติดตั้ง ชุดนี้จะเพิ่มพูนขีดความสามารถในกับใครก็ตามที่สวมมัน---คุณจะยกของได้หนักขึ้น วิ่งได้นานและเร็วขึ้น กระโดดได้สูงขึ้น นั่นคือความสามารถพื้นฐานของเอ็กโซฯเกรดกองทัพทั่วไป รุ่นที่พวกเรากำลังใช้อยู่นี้คือเอ็กโซฯ เอ็มอีเอส 1057 พวกเราเรียกมันว่าสไตรเดอร์ ความสามารถของมันไกลเคียงกับรุ่นที่พวกคุณกำลังสวม---สไตรเดอร์ถูกออกแบบมาเพื่อผ่านทุกสภาพพื้นที่ให้สะดวกและรวดเร็วที่สุด และเราก็จะสาธิตให้พวกคุณดูกว่ามันทำอะไรได้บ้าง---คลินท์!”


หรืออันนี้ “คุณสามารถพักฟื้นอยู่ที่นี้ได้จนกว่าร่างกายจะกลับมาสมบูรณ์ แน่นอนว่าคุณคงจะคิดว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่คุณควรจะเอาตัวเข้ามาเกี่ยวข้อง ผมเข้าใจ แต่คุณก็ต้องเข้าใจเรา---ยังมีอีกหลายอย่างที่คุณอาจคิดว่าผมจงใจปิดบังจากคุณ ซึ่งนั่นก็ถูก สำหรับพวกเราตอนนี้คุณก็คือคนภายนอก ผมไม่อาจเสี่ยงบอกความลับองค์กรแก่บุคคลภายนอกได้ เพราะฉะนั้นวินาทีที่คุณออกจากที่นี่ให้ถือว่าเราไม่เคยเจอกันมาก่อน คุณไม่เคยพบกับคนที่ชื่อแดเนียล, ลีอาห์หรือใครก็ตามที่คุณได้พูดคุยด้วยที่นี่ เราก็จะถือว่าไม่เคยมีคนที่ชื่อทรอย มัลลิแกนเคยมาที่นี่เช่นกัน เรารักษาความลับของคุณส่วนคุณก็รักษาความลับของเรา คุณจะตกลงมั้ย?”


คิดว่ามันยาวไปก็บอกผมด้วยนะครับ จะได้เอาไปปรับปรุง

1
Twenty SIX 24 ก.พ. 60 เวลา 23:10 น. 4-1

อันนี้สำหรับผมถือว่าโอเคแล้วนะ แต่อาจจะมีช่วงหยุดพักหายใจบ้างเล็กน้อยก็เป็นการดีครับ เช่นพูดไปสัก2-3บรรทัด แล้วตัดไปที่ตัวละครแสดงท่าทางอย่าง เขาเอามือกอดอกแล้วมองไปทางอื่น จากนั้นจึงพูดต่อ

อะไรประมาณนี้น่ะครับ


อันนี้บทพูดดูลื่นดีแล้วครับผม

0
White Frangipani 25 ก.พ. 60 เวลา 15:17 น. 6

สวัสดีคุณป่า และเจ้าของกระทู้ค่ะ


นี่ไง...ได้แล้วคำตอบ...


แท้จริงจูจัดเหลียง กับคนเบ้งเป็นคน คนเดียวกัน


แท้จริง...ขงเบ้ง...เก่งกาจฉลาดเฉลียวแบบนี้เลย...

เขาเป็น...ทั้งนักวิทยาศาสตร์ โหราศาสตร์ การเมืองการปกครอง การทูต นักปราชญ์ วิศวกร...ด้วยหรือนี่ (เก่งได้แบบนี้เลย อ่านแล้วสนุกมากๆ เดี๋ยวต้องไปค้นสามก็กกลับมาอ่านใหม่แล้วค่ะ)



...จูกัดเหลียงดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาด้านการยุทธนาการของพระเจ้าเล่าปี่ในตำแหน่งสมุหนายกและผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งจ๊กก๊ก รวมทั้งมีความสามารถในด้านการเมือง การทูต นักปราชญ์ วิศวกรและได้ชื่อว่าเป็นผู้ประดิษฐ์คิดค้นที่สำคัญ โดยคิดค้นหมั่นโถว หน้าไม้กล โคมลอยและระบบชลประทาน"



...ขงเบ้ง มีชื่อจริงว่าจูกัดเหลียง เป็นบุตรชายคนที่ 2 ของจูกัดฟ่ง ขุนนางตงฉินของพระเจ้าเหี้ยนเต้ จูกัดเหลียงมีพี่ชายและน้องชายอย่างละคนคือ จูกัดกิ๋นพี่ชาย เป็นที่ปรึกษาของง่อก๊กและน้องชายจูกัดจิ้น จูกัดเหลียงมีอุปนิสัยและความคิดที่ฉลาดปราดเปรื่อง รอบรู้สรรพวิชาอย่างแตกฉานทั้งวิทยาศาสตร์ โหราศาสตร์ การเมืองการปกครอง การทูต คุณธรรม ใจคอเยือกเย็นมีเมตตา ชอบอวดอ้างและลองดีกับผู้ที่มีนิสัยกล่าวโอ้อวดตนเอง อุดมด้วยวาทะศิลป์ ใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบกับชาวบ้านที่เชิงเขาโงลังกั๋ง โดยช่วยเหลือชาวบ้านในการทำนาต่าง ๆ จนเป็นที่นับถือของชาวบ้าน



ข้อความบางส่วนที่ยกมานี้...มาจาก...ประวัติขงเบ้ง...ค่ะ


http://www.samkokwiki.com/%E0%B8%82%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%87.html



ขอบคุณสำหรับกระทู้ความรู้...เกี่ยวกับเหล่าตัวละครผู้ปราดเปรื่อง เฉลียวฉลาดค่ะ เป็นแบบอย่าง เป็นแรงบันดาลใจได้เป็นอย่างดี และมากมายค่ะ


และ...เจ้าของเม้นต์ที่5.นั้นคือ...คุณ..ป่า...ที่เจ้าของเม้นต์กล่าวถึงในเม้นต์ข้างบนค่ะเจ้าของกระทู้

(ขออภัยคุณป่าที่ได้แนะนำคุณ...ต่อเจ้าของกระทู้นะคะ...ได้โอกาสฝึกๆๆหัดๆๆ...เจริญสัมพัธไมตรี ฝึกทำการทูตด้วยเลย...5555)




4
Twenty SIX 25 ก.พ. 60 เวลา 15:21 น. 6-1

ขอบคุณมากครับผม พอดีผมก็ไม่ค่อยรู้ข้อมูลเชิงลึกเท่าไหร่555

0
Twenty SIX 25 ก.พ. 60 เวลา 15:33 น. 6-3

555 ขอบคุณจ้า เราเองก็น่ารักเหมือนกันน๊า^^

0
White Frangipani 25 ก.พ. 60 เวลา 15:40 น. 6-4

ขอบคุณค่ะ....น่ารักค่ะ น่ารักมากด้วยค่ะ เกิดมาก็น่ารักแบบนี้เลยหล่ะ...555 (คุณแม่กับคุณพ่อ และทุกๆคนในบ้านบอกแบบนั้นตลอดเวลา และคงจะเป็นพยานได้เลยมั้ง...5555)


0