Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

อยากติดหมอ แต่ขี้เกียจจัง ทำไงดีน้า? By นักศึกษาแพทย์คนนึง(อยากเข้าคณะอื่นๆก็อ่านได้น้า)

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

**********ตอนนี้พี่เปิดเพจแล้วนะคะ**********
'อยากเรียนหมอจริงดิ?'
ตามเข้าไปอ่านกันได้เลยที่ลิงค์ข้างล่างนี้!
https://www.facebook.com/earnmars/
มีบทความ(ดีๆ!?)ให้ติดตามกันอีกเพียบ
ตั้งใจจะให้เป็นสังคมของคนมีความฝัน
เข้ามาปรึกษา มาถาม มาพูดคุยกันผ่านทางนี้ได้เลยค่าาา #ก่อนเพจจะดัง 55555555(ถุ้ยยย!)
รักน้าาาาาาา

สวัสดีค่าาาาาา
น้องๆหลายคนคงมีความฝันกันใช่ไหม(แหงหล่ะ
!นี่ก็เลยตี3มาแล้ว5555555)

ไม่ใช่!!!! หมายถึงฝันที่ว่าอยากจะทำอะไรซักอย่าง อยากจะมีอะไรซักอย่าง หรือว่าฝันอยากจะได้อะไรมาซักอย่าง

วันนี้เรามาพูดถึงฝันๆนึงกันดีกว่า เป็นฝันที่พี่เชื่อว่าน้องหลายๆคน(โดยเฉพาะคนที่หลงเข้ามาอ่านเนี่ย)ได้วาดเอาไว้เป็นอย่างดี นั่นก็คือ อยากเป็นหมอออออออออ นั่นเองงงงงงง

                อยากจะเกริ่นก่อนว่าพี่จบปี3แล้วนะ เรียนคณะแพทย์แห่งหนึ่งอยู่ ตอนนี้ก็อยู่ในช่วงปิดเทอม ว่างๆ(หรอ?)เลยอยากจะมาเปิดโปงความจริง เอ๊ย! อยากจะมาสร้างแรงบันดาลใจให้น้องๆทุกคน ส่วนชื่อพี่ก็ข้ามมันไป ไม่สำคัญอะไร 55555555555

                เสียเวลามาหลายวินาทีแล้ว(ไม่เริ่มซักที ฮา) เรามาเริ่มทำตามความฝันไปพร้อมๆกันเลยดีกว่าจ้า

1. ทบทวนเป้าหมาย

                หลายๆคนอยากเป็นหมอเพราะสังคม ค่านิยมค่ะ อันนี้ต้องยอมรับเลยนะ พี่ก็คนนึงที่เติบโตมากับประโยคที่ว่า เป็นหมอเถอะ สบายยยยย ตรวจแปปเดียวก็ได้เงินแล้ว(หึหึหึหึ) เนี่ยยย เรียนให้เก่งๆแล้วสอบหมอให้ติด ชีวิตจะดีเองนั่นแหละค่ะท่านผู้ชม ทุกคนน่าจะโดนกรอกหูกันมาไม่มากก็น้อยว่าอาชีพหมอดีอย่างนู้น อาชีพหมอดีอย่างนี้ อยากจะให้น้องลองมองอย่างไม่มีอคติดูค่ะ เปิดใจกว้างๆ มองแต่ความจริง เพราะสิ่งที่ผู้ใหญ่พูด มักมีมูลความจริงอยู่ไม่มากก็น้อย(อย่างน้อย เค้าก็หวังดีกับเรานะ บางคนอาจจะตั้งแง่ว่า ผู้ใหญ่ไม่เคารพความฝันของเราเลย ก็หนูอยากเป็นนักร้องอ่ะ! หนูอยากเป็นคุณครูค่า! บลาๆๆ) น้องต้องออกไปค้นหาด้วยตัวเองเลยค่ะ ลุย! สมัยนี้มีค่ายเยอะเน๊อะ  ลองสมัครไปเลยค่ะ อยากเป็นอาชีพอะไร สายไหน เลือกได้เลย ไปถามจากพี่ๆที่มีประสบการณ์ตรงกับการเรียน หรือถามจากญาติพี่น้อง คนรู้จักที่ทำอาชีพนั้นๆอยู่

                นอกจากนั้น ลองหาหนังสือเกี่ยวกับอาชีพนั้นๆมาอ่านดูค่ะ เช่น หนูอยากเป็นแอร์โฮสเตรด ก็ไปซื้อมาอ่านเลยค่า ว่าแนวทางการทำอาชีพแบบนี้มันใช่ไหม๊ หรือน้องอยากจะเรียนจิตวิทยาก็ลองไปซื้อหนังสือหมวดนี้มาอ่านดู ถ้าน้องรู้สึกว่าลุ่มหลงไปกับมัน เนื้อหามันน่าติดตามจังเลย อาชีพมันน่าสนใจจริงๆนะ น่าจะเหมาะกับเรา ก็ถือว่าผ่านค่ะ!

                ยุคสมัยนี้ก็โลกาภิวัฒน์แล้วเน๊อะ! น้องๆก็สามารถหาบทความหรือแฟนเพจหรือแม้แต่googleเกี่ยวกับเรื่องที่น้องๆสนใจอ่านดูได้เลยค่า เสิร์จคีย์เวิร์ดลงไป เช่น นักศึกษาแพทย์ อยากเป็นหมอ แล้วก็เลือกอ่านตามที่สนใจเลย ศึกษาไปเรื่อยๆ

            โดยส่วนตัวพี่แล้ว(จะมีใครอยากรู้ไหมนะ) พี่ลองทำทุกอย่างตามที่เขียนไว้ด้านบนมาหมดแล้ว พี่ก็มั่นใจว่าคงต้องอาชีพนี้แล้วหล่ะ รู้สึกว่าอาชีพนี้มันมั่นคงดี แล้วก็รู้สึกว่าเป็นอาชีพที่ดีค่ะ ได้ช่วยคนอื่น แค่นั้นแหละ(สวยไหม5555 ขอมงที)

            สุดท้ายจะมีน้องๆกลุ่มนึงที่มีความฝันที่พ่อแม่ไม่เห็นด้วยค่ะ อยากให้น้องๆพิสูจน์ตัวเอง ไม่ใช่ว่าเถียงอย่างเดียวนะคะ ทำให้มันเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาไม่ใช่แค่พูดลอยๆ ไม่มีหลักฐาน เช่น ถ้าน้องชอบวาดรูปก็ลองฝึกวาดค่ะ วาดพอได้แล้วลองขายเลยค่ะ รู้จักสร้างผลงานให้ตัวเอง พ่อแม่จะได้มั่นใจว่าเราชอบทางนี้จริงๆ และสามารถเอาตัวรอดได้จากเส้นทางนี้ และที่สำคัญคือตัวน้องๆเองมีความสุข พ่อแม่ทุกคนย่อมมีความสุขเมื่อเห็นลูกตัวเองยิ้มได้ค่ะ แต่เรื่องนี้อาจต้องใช้เวลาหน่อยนะ ยังไงพี่ก็เชื่อว่าน้องๆจะผ่านไปได้แน่นอนหากมันเป็นสิ่งที่น้องรักและตั้งใจจริงๆ

            เมื่อน้องๆมั่นใจในเป้าหมายของตัวเองแล้ว ก็ไปข้อต่อไปกันเลยดีกว่าเน๊าะ

2. ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน

                การที่เราจะทำอะไรซักอย่างให้มันดี ให้มันบรรลุผล เราต้องมีเป้าหมายค่ะ ไม่อย่างนั้น เราจะกลายเป็นคนมีชีวิตไปวันๆ หายใจทิ้งไปวันๆ เพราะเราไม่รู้ว่าเราจะทำสิ่งๆนึงไปเพื่ออะไร? ไปโรงเรียนก็ไม่ตั้งใจเรียน(เหยยย ด่าตัวเองรึป่าว555 มันก็ช่วงชีวิตนึงของพี่เหมือนกันนะ!)

อ่ะ ตั้งไปเลยค่ะ เช่น เป้าหมายใหญ่คือ สอบติดหมอที่... แล้วหลังจากนั้นให้เราซอยเป็นเป้าหมายย่อยๆ เช่น จะตั้งใจเรียนในห้อง จะทำการบ้านทุกวันไม่ให้เป็นดินพอกหางหมู จะทบทวนหนังสือวันละชั่วโมง จะไปหาที่เรียนพิเศษเพิ่มเติม เหนือสิ่งอื่นใด น้องๆต้องมีเวลาพักผ่อนด้วยนะคะ เช่น ไปออกกำลังกาย หาอะไรอร่อยๆกิน ไปตลาด ไปเที่ยว ไปช้อป(ไปไกลแล้ว กลับมาเขียนให้จบก่อน!) และก็ไม่ใช่เวลาพักผ่อนจนเกินพอดีนะ น้องๆต้องรู้จักแบ่งเวลาให้มันสมดุลกันด้วยนะคะ ไม่เครียดไป ไม่หย่อนหรือตึงจนเกินไป

3. ทำให้ตลอดรอดฝั่ง

                ข้อนี้ดูจะคล้ายหัวข้อกระทู้มากที่สุดแล้วก็คือ โอ๊ยยยยยย ขี้เกียจอ่านหนังสือจัง อยากทำอะไรที่มันไร้สาระอ่ะ จะทำอย่างไรดี

                อยากจะบอกว่าพี่เป็นนักศึกษาแพทย์ที่กากๆคนนึง 555555 ขี้เกียจมากกกก แต่ก็ดึงตัวเองกลับมาได้ทุกครั้งและยังอยู่รอด ไม่ตก ไม่ซ้ำชั้นมาจนถึงทุกวันนี้ และเกรดก็พอใช้ได้ค่ะ

                วิธีแก้ขี้เกียจของพี่ ง่ายๆเลยก็คือ ลงมือทำ ค่ะ เชื่อไหมว่าหลายต่อหลายครั้ง หลายต่อหลายคนมัวแต่นั่งคิดว่า เฮ้ออออ แย่จัง เรานี่มันแย่ โง่มาทั้งชีวิตแล้ว จะไปติดหมอได้ยังไง แกกกกก เราอ้วนอ่ะ อ้วนมาทั้งชีวิตแล้ว จะให้เราผอมได้ไงกันขอให้เลิกอาลัยอาวรณ์ได้แล้วค่ะ! แล้วลงมือทำเลย เพราะอดีตก็คืออดีต เราต้องยอมรับให้ได้ว่ามันผ่านไปแล้ว กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด และอนาคตของเราก็จะดีเอง(สุภาษิตเก่ายังใช้ได้เสมอเลยนะคะ!) หลายคนมากๆที่เสียเวลาไปกับการนั่งผิดหวังกับตัวเองในอดีต เสียเวลาไปกับการดูถูกตัวเอง เสียเวลาไปกับการที่คิดว่ายังไงก็ไม่ทันแล้ว ยังไงก็เป็นไปไม่ได้ ขอให้หยุดคิดแล้วลงมือทำทันทีเลยค่ะ

                คิดอะไรแล้วทำเลยตอนนั้น เช่น อยากวิ่ง ก็ออกไปวิ่งเลยค่ะ ตอนนี้แหละ เปลี่ยนชุด ใส่รองเท้าผ้าใบไปวิ่งเลย(เดี๋ยวๆ ดูอากาศก่อนไหม๊ ฮ่าๆ) หรืออยากเก่งก็หยิบหนังสือมาอ่านตอนนั้นเลยค่ะ แม้บางทีอาจจะต้องลดละเลิกสิ่งที่สนุกแต่ทำให้เราถึงเป้าหมายช้าลงไปบ้างค่ะ เช่น การเล่นsocialต่างๆ(สมัยนี้ก็คงเป็นสิ่งนี้แหละที่ดูดเวลาชีวิตเราไปมากๆ) เป็นต้น การหักห้ามใจตัวเอง การจัดสรรเวลาที่ดีก็เป็นขั้นตอนนึงของการเดินทางไปสู่ความสำเร็จนะ จำไว้!

                เคยได้ยินไหมว่า การทำอะไรติดต่อกัน 21 วัน จะทำให้สิ่งๆนั้นเป็นนิสัยของเรา เพราะฉะนั้น เมื่อเรามั่นใจในเป้าหมาย ชัดเจนในเป้าหมายแล้ว ลุยอย่างเดียวเลยค่ะ สุดท้ายเราก็จะทำมันได้ดีเองแหละ ถ้าเราเชื่อในตัวเองและเป้าหมายนั้นๆมากพอ

สู้ๆนะ พี่เชื่อว่าน้องๆทุกคนมีทางเป็นของตัวเอง รวมถึงเรื่องการอ่านหนังสือ เรื่องจัดการชีวิตตัวเอง เรื่องจัดการความเครียดด้วย วางแผนดีๆเพื่อชีวิตที่น้องชอบ ชีวิตที่น้องอยากเป็น ลองจินตนาการดูว่าถึงวันนั้นแล้วเราจะมีความสุขขนาดไหนดูนะ พี่ก็คิดเสมอว่า เมื่อถึงเวลาที่จบหมอแล้ว พี่จะช่วยคนได้หลายๆคนเลย มันยิ่งใหญ่มากเลยนะ ไม่ใช่แค่เรื่องความฝันของพี่ แต่เป็นความฝันของน้องๆทุกคนด้วยที่จะทำให้ชีวิตของตัวเองรู้สึกมีคุณค่าขึ้นมาอ่ะ จำไว้ว่า “You only live once” เกิดมาชีวิตเดียว ทำให้มันสุดๆไปเลยยยยย อย่าทำอะไรครึ่งๆกลางๆ ไปค่ะ! ลุย!

ป.ล. สุดท้ายจริงๆแล้ว มีอะไรก็ถามได้นะ หรืออยากให้เล่าเรื่องอะไรเพิ่มก็บอกได้(เช่น ความจริงของการเป็นนักศึกษาแพทย์ที่ผู้ใหญ่ไม่เคยบอกก่อนให้เรามาเรียน 55555555 เดี๋ยวๆ ชื่อหัวข้อยาวไปไหม๊ เหมือนพี่อยากจะมาระบายเองอะไรอย่างนั้น) แล้วก็ขอขายของหน่อย(ขายกันโต้งๆแบบนี้แหละ ไม่รู้จะเนียนยังไงเหมือนกัน55555) พี่เคยเขียนblogไว้เมื่อ 3 ปีที่แล้วเกี่ยวกับวิธีเตรียมตัวสอบเข้าหมอ ทั้งเรื่องที่ว่าอ่านหนังสือยังไง เรียนพิเศษที่ไหน ชีวิตพี่เป็นยังไง ทำไมถึงคิดแบบนี้ ทำแบบนี้ บลาๆๆๆ ก็ฝากด้วยจ้า 

https://my.dek-d.com/earn_/writer/view.php?id=1063282

แสดงความคิดเห็น

33 ความคิดเห็น

Yutawan 27 มี.ค. 60 เวลา 16:30 น. 1

พึ่งอายุ14จะขึ้นม.3เนี่ยยยจะทันไหม แต่ร.รไม่ได้สอนอะไรยากๆเลยแถมห่างไกลความเจริญ เอิ่มแต่จะพยายามหาอะไรที่แบบมาฝึกตัวเองให้ตัวเองยกระดับขึ้นบ้างนะคะ

3
ม๋าฝ้าย 27 มี.ค. 60 เวลา 18:53 น. 1-1

ทันจ้า เหลือเวลาอีกเยอะมากๆเลย

เริ่มตั้งแต่ตอนนี้

ค่อยๆเก็บสะสมไปเรื่อยๆ

ทำพื้นฐานให้ดี ให้แน่น!

สู้วววววววว^^'


0
Koko2450 27 มี.ค. 60 เวลา 20:17 น. 1-2

สบายมากๆๆ....ขอให้อ่านหนังสือทุกๆๆวันจนติดเป็นนิสัย

0
Kewinbigjjnew 27 มี.ค. 60 เวลา 17:29 น. 2

อยากให้เล่าว่า ตอนเรียน นศพ. หรือติดยศ นพ. แล้วจะต้องสอบใบประกอบวิชาชีพอะไรบ้างอย่างไร สอบตอนไหน ย้ข้อสอบเป็นไง ประมานนี้ครับ

1
ม๋าฝ้าย 27 มี.ค. 60 เวลา 19:04 น. 2-1

รายละเอียดมีค่อนข้างเยอะเลยทีเดียวค่ะ

เล่าคร่าวๆแบบนี้แล้วกันนะคะ^^

ใบประกอบโรคศิลป์มีทั้งหมด3ขั้นตอนค่ะ

สอบตอนเป็นนักศึกษาแพทย์ปี3

(ตอนนี้เลยยย กำลังเตรียมสอบอยู่ ฮือออ)

ปีนี้จะสอบเนื้อหาที่เรียนมาในชั้นpreclinic(ก่อนฝึกงาน) ทั้งหมด คือตั้งแต่ปี1-ปี3

และอีก2ครั้งคือตอนปี5และปี6 จะเน้นปฏิบัติ

ตรวจคนไข้ ทำหัตถการต่างๆค่า

หลังจากนั้นก็เรียบจบไปทำงานใช้ทุนแตกต่างกันไป อาจจะมีโอกาสได้เรียนต่อเฉพาะทาง

ก็ขึ้นกับสาขาที่ได้เรียนว่าจะเรียนกี่ปี

แล้วก็สอบให้ผ่านได้ใบรับรองกันต่อไปค่า

(หนทางนี้ยังอีกยาวไกลนักกก :))))))))

0
KHANOMPANGPING 27 มี.ค. 60 เวลา 19:10 น. 4

อยากรู้ว่าตอนไปเวชศาสตร์ชุมชน ต้องเลือกเองหรือว่าเขาแรนดอมให้ค่ะ สงสัยมานานแล้ว แฮร่

2
ม๋าฝ้าย 27 มี.ค. 60 เวลา 21:35 น. 4-1

อ่อ เราเรียกกันเป็นภาษาอังกฤษว่า community medicine

ตอนไปออกชุมชนจริงๆ ทางรายวิชาจะสุ่มเด็กมาให้เลย

ในกลุ่มๆนึงจะมีหลายคณะ ทั้งแพทย์ พยาบาล เภสัช ทันตะ เทคนิค

คละๆกันไปค่า บางคนก็ได้แฟนมาจากตรงนี้แหละ 555555

(บางคนที่ไม่ใช่พี่อ่ะนะ ฮาาาาา)

0
ม๋าฝ้าย 27 มี.ค. 60 เวลา 21:27 น. 5-1

ขอบคุณน้าที่เตือน

พี่คงเบลอมากตอนนั้น มันตี 3 ฮ่าๆๆๆๆ

พี่แก้แล้วววว ซอรี่ ^^'

0
DARK WALL 27 มี.ค. 60 เวลา 22:02 น. 6

พี่คะ หนูสงสัยมานานแล้ว

ถ้าแพทย์ตัวสูงไม่ถึง 150 ซม. อาจสูงเพียงแค่ 148 ซม. อะไรประมาณนี้ เวลาตรวจคนไข้จะเป็นอุปสรรคต่อการรักษาไหมคะ พอดีเพื่อนหนูมันเคยกรอกหูว่าเวลารักษาต้องต่อเก้าอี้ด้วยจะได้ดูสูงขึ้น ถถถ แล้วก็ถ้าแพทย์ออกเสียงพยัญชนะไม่ชัดหรือเพี้ยนอ่ะ จนอาจทำให้การสื่อสารผิดพลาดได้ พี่คิดว่าเขาจะมีโอกาสเป็นแพทย์ได้รึเปล่าคะ?

1
ม๋าฝ้าย 27 มี.ค. 60 เวลา 23:50 น. 6-1

เพื่อนพี่ตัวเล็กๆประมาณนี้ก็มีนะ รุ่นพี่ของพี่ก็มี(ไม่งงใช่ไหม ฮา)

เดี๋ยวมันก็มีวิธีเองจ้า^^

อาจจะต้องใช้อุปกรณ์เสริมจริงเวลาตรวจคนไข้

ส่วนคนพูดไม่ชัด&สื่อสารภาษาไทยงงๆก็มี มีหมดเลย ทุกรูปแบบแหละ เหมือนคนในสังคมของเรามันก็มีคนหลายประเภทเน๊อะ

แต่สุดท้ายก็จะถูกฝึกให้คุยกับคนไข้รู้เรื่องได้เองแหละ ทุกคนก็จะถูกหล่อหลอมเป็นเทียนพรรษา เอ๊ย! เป็นหมอ(ที่ดีและเก่ง)ได้เอง//คำถามนี้น่ารักกกกก อิอิ ชอบๆ

0
บาบิQ 28 มี.ค. 60 เวลา 08:42 น. 7

เป็นนสพ.ที่ขี้เกียจคนนึงเหมือนกันจ่ะ.._ _ ผ่านพรีคลินิกมาแบบงง ๆ ว่าเขาให้ฉันผ่านได้อย่างไร55 ตลอดทางก็เป๋ไปเป๋มา คือความรู้มันกว้างมาก ๆ ท้อจนอยากลาออกทุกปีอะ


แต่พอขึ้นคลินิกแล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไป

จากเรียนเลคเชอร์แต่ในห้อง ทุกวันนี้อาจารย์คือคนไข้เราเอง เหนื่อยกว่าพรีคลินิกเยอะ แต่ก็ทำให้เราใกล้ความเป็นหมอมากขึ้น

จากที่บ่นว่าเหนื่อยว่าท้อ ตอนนี้ก็ชัดเจนว่าที่เราอดทน ต่อเวลาที่หายไป (โดนขโมยชีวิตวัยรุ่น ไม่ได้ไปที่ๆอยากไปอย่างคนอื่น ชีวิตติดเรียนติดสอบ) ก็ดูจะคุ้มค่านะ : )


อดทนอย่างเดียวค่ะ

ถึงน้อง ๆที่กังวล ว่าตัวเองจะมีศักยภาพพอไหม

ไม่ต้องตั้งคำถามหรอก ลงมือทำให้ดีที่สุดนะ

พยายามทำข้อสอบเยอะๆ ตอนนั้นพี่ก็ฟิตมากๆๆที่สุดในชีวิตละเหมือนกัน 55 (ส่วนตอนนี้เหรอ..)

เรารู้ตัวเราที่สุดเนอะ ว่าต้องการเรียนจริง ๆ ใช่ไหม ถ้าคำตอบคือใช่ แล้วทำไมไม่ทุ่มให้สุดๆไปเลยล่ะ

-น้องที่เขียนกระทู้นี้เขียนดีมาก ๆอยู่แล้วทำแบบนี้เลย เยี่ยม











1
ม๋าฝ้าย 28 มี.ค. 60 เวลา 10:00 น. 7-1

commentดีมากๆเลยค่ะ

พูดได้โดนใจทุกประโยค

ขอบคุณมากๆนะคะที่มาแชร์กัน^^

สู้กันต่อไปค่ะ 55555



0
KPkanompang 28 มี.ค. 60 เวลา 09:53 น. 9

พี่คะ คือหนูอายุ14กำลังจะขึ้นม.3คะ หนูอยากเป็นหมอ แต่คือหนูเป็นคนไม่เก่งคณิต คือ ได้แค่เกรด3 ส่วนเพิ่มเติมได้3.5 วิชาอื่นๆโอเคหมดคะ หนูยังพอมีหวังไหมคะ

3
ม๋าฝ้าย 28 มี.ค. 60 เวลา 10:06 น. 9-1

ยังเหลือเวลาอีกมากค่ะ

แต่ก็ห้ามชะล่าใจนะ

เริ่มตั้งแต่ตอนนี้เลย

เกรดที่ได้มันผ่านไปแล้วเน๊าะ

(ซึ่งพี่คิดว่าเกรดก็โอเคแล้วนะ เก่งมากๆ)

ต่อไปก็อยากให้น้องตั้งเป้าหมายกับเกรดเทอมหน้า

อาจจะตั้งว่าขอให้เพิ่มไปอีกวิชาละ 0.5

แล้วเริ่มลงมือทำวันนี้ เดี๋ยวนี้เลย

เพราะหลายรอบมากๆที่คำว่า'พรุ่งนี้'มันไม่มีจริง

เพราะเราขี้เกียจ(555555ตัวพี่เองก็เป็นบ้าง เอ๊ะ! รึเป็นอยู่บ่อยนะ)

ซอยเป็นเป้าหมายย่อยๆเลย เช่น

หลังจากนี้จะอ่านหนังสือให้ได้ทุกวัน

ตั้งใจไปกับมันนะ ถ้าหลุดก็ดึงสติกลับมา

แล้วอ่านหนังสือต่อไป

เอาชนะใจตัวเองให้ได้ สู้ๆๆๆๆจ้า

เป็นกำลังใจให้น้องๆทุกคน

พี่เชื่อว่าทุกคนทำได้นะ^^

0
KPkanompang 30 มี.ค. 60 เวลา 19:21 น. 9-3

พี่คะ คือวิชาภาษาอังกฤษฟัง พูด อ่าน โอเคหมด แต่ว่าหนูมีปัญหาตรงการเขียนอ่ะค่ะ คือเขียนไม่ค่อยถูก แบบนี้จะมีผลอะไรไหมคะ

0
ม๋าฝ้าย 28 มี.ค. 60 เวลา 17:10 น. 10-1

พี่เขียนไว้ในblogที่แชร์ไว้ด้านท้ายกระทู้แล้วน้า

ลองไปอ่านดูได้^^

คร่าวๆก็คืออ่านเก็บเรื่อยๆมาตั้งแต่ม.4

แล้วช่วงปิดเทอมใหญ่ขึ้นม.6ก็อ่านตลอดเวลาเลยจ้า(ตอนนั้นฟิตมากก555)

0
แคนต้าลูปปปป ^^ 28 มี.ค. 60 เวลา 16:42 น. 11

เราเป็นแบบหัวข้อเลยค่ะ อยากเป็นหมอ แต่ขี้เกียจ555555555555555 เรายังเด็กอ่ะ อยู่ม.ต้นอยู่เลย เราคิดมาตลอดว่าม.ปลายก็ทัน คือสำหรับเรามันเป็นความคิดที่แย่มาก แต่ก็ยังทำ โคตรย้อนแย้ง55555555555555 บางครั้งเราก็ท้อนะคะ เพราะว่าโรงเรียนของเราเป็นโรงเรียนที่เล็กๆ เรากลัวที่จะเรียนแล้วไปสอบหมอไม่ได้ เพราะใครๆก็บอกว่าสอบหมอยากมาก พอมาเจอกระทู้นี้ที่ขี้เกียจๆเหมือนกับเรา(เอ๊ะ!! เดี๋ยวนะ55555555 ขอโทษล่วงหน้าเลยค่ะ) เป็นแรงกระตุ้นให้เราได้ดีมากค่ะ เดี๋ยวจะไปเปิดวาร์ปบล็อคของพี่ดวย ขอบคุณสำหรับบทความดีๆค่ะ

1
ม๋าฝ้าย 28 มี.ค. 60 เวลา 17:11 น. 11-1

55555 พี่ขี้เกียจจริงๆอ่ะแหละ ข้อนี้ยอมรับเลย

สู้ๆนะน้องงงงง

0
น.หนุ่ม 28 มี.ค. 60 เวลา 16:50 น. 12

หนูจะขึ้น ม.6 หนูต้องเตรียมตัวยังไงบ้างคะ หนูกลัวไม่ติดมากเลย เรียนก็พอไปได้ ความขยันก็พอตัวคะ มีวิธีเตรียมตัวยังไงบ้างคะ

1
ม๋าฝ้าย 28 มี.ค. 60 เวลา 17:12 น. 12-1

ลองไปอ่านในblogที่พี่แชร์ไว้ตรงท้ายกระทู้เลยยย

พี่เขียนไว้หมดแล้วจ้า สู้ๆ

0
ดวงตาราชันย์ 28 มี.ค. 60 เวลา 19:14 น. 13

กำลังจะขึ้นม.6 แล้วค่ะ ยังไม่รู้เลยว่าจะเข้าอะไร เรียนที่ไหน คณะอะไร จบไปจะทำอะไร ทุกวันนี้ก็ได้แต่พยายามอ่านหนังสือให้มากที่สุด แต่ก็คิดนะคะว่าไม่น่าจะสอบติดเพราะไม่รู้เป้าหมายที่แน่นอน ทำยังไงดีคะ ทุกวันนี้เห็นรุ่นพี่ที่เรียนจบมีมหาลัยเข้าแล้วก็อยากทำได้อยากเข้าได้บ้าง ตอนนี้มันทั้งเครียด ทั้งกดดัน ทั้งอะไรต่างๆมากมายเลยล่ะค่ะ

1
ม๋าฝ้าย 28 มี.ค. 60 เวลา 19:55 น. 13-1

เข้าใจความรู้สึกกดดันของเด็กม.6มากๆเลย

จำไว้ว่าตอนนั้น ก็มีร้องไห้บ้างเหมือนกัน

แต่ว่าหดหู่เสร็จ ร้องไห้เสร็จ เศร้าเสร็จแล้วก็รีบดึงสติกลับมาแล้วอ่านหนังสือต่อนะ

วิธีที่ทำให้ความกังวลหมดไปก็คือลงมือทำอย่างเต็มที่จนเราไม่มีเวลามานั่งคิดมาก

ลุยไปเลย แล้วทุกอย่างจะดีเอง

เรื่องคณะที่จะเข้าเรียน ลองคิดดูดีๆว่ามีอะไรที่เราอยู่กับมันได้นานๆบ้าง พี่คิดว่าเราคงไม่ชอบทุกๆเรื่องเท่ากันไปซะหมด ลองคิดดูดีๆน้า รายละเอียดในชีวิตของน้อง น้องรู้ตัวเองดีที่สุด บวกกับคำแนะนำของพ่อแม่ก็ดีจ้า

สู้ๆน้าาาาาา^^


0
shool love 28 มี.ค. 60 เวลา 20:22 น. 14

เรียนแพทย์ต้องใช้ภาษาอังกฤษเยอะมั้ยคะ ถ้าไม่เก่งอังกฤษจะสอบติดมั้ยคะ

1
ม๋าฝ้าย 28 มี.ค. 60 เวลา 21:27 น. 14-1

ใช้เยอะมากเลยจ้าาา ทั้งชีทเรียน

ทั้งtext book ทั้งข้อสอบก็เป็นภาษาอังกฤษหมด

รวมทั้งยังมีวิชาภาษาอังกฤษให้เราเรียนอีกด้วย


ไม่เก่งภาษาเข้าได้แน่นอนค่ะ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นน้องก็ต้องฝึกฝน ขวนขวาย

อาจไปเรียนพิเศษเพิ่มเติม ทำโจทย์เยอะๆ

หรือฝึกเอาจากสื่อออนไลน์

เดี๋ยวนี้อะไรๆก็ง่ายขึ้นเน๊อะ

ถ้าน้องใช้ประโยชน์จากโลกออนไลน์ให้ถูกทาง

(ลดเวลาเล่นเฟซลงบ้างไรงี้ #พี่นี่แหละ!!!! 5555)


ด่านแรกที่น้องต้องผ่านให้ได้คือข้อสอบภาษาอังกฤษที่ต้องสอบเข้ามา


เริ่มจากทัศนคติในวิชานี้ก่อนเลย เปิดใจให้กว้างๆ โลกนี้กว้างมากนะ การที่น้องสื่อสารภาษาอังกฤษได้ ใช้ภาษาอังกฤษได้ดี น้องย่อมได้เปรียบในทุกเรื่องๆ ขอให้สนุกไปกับมัน แล้วจะเรียนได้ดีเองจ้าาา


เอาใจช่วยให้น้องก้าวผ่านความกลัวภาษาอังกฤษของน้องไปให้ได้นะ สู้ๆ เริ่มจากการท่องศัพท์วันละคำสองคำก็ได้


มีหลากหลายวิธีมากที่จะทำให้เราเก่งในเรื่องอะไรซักอย่าง แต่ความสำคัญคือการฝึกฝน ทำมันซ้ำๆจนชำนาญ และไม่ย่อท้อกับมัน


น้องทำได้แน่นอนนนนน เย่ ลุยค่า!

0
0879859354 28 มี.ค. 60 เวลา 21:50 น. 15

พี่คัช จำเป็นต้องสอบ สอวน.ไมคัช? แล้วถ้าในแฟ้มสะสมผลงาน ผลงานน้อย แล้วจะเป็นอะไรไมคัช

#กำลังจะขึ้น ม.5

2
ม๋าฝ้าย 28 มี.ค. 60 เวลา 22:54 น. 15-1

ไม่จำเป็นต้องสอบ สอวน น้า

แต่พี่ก็สอบ(ติดอยู่แต่ไม่ได้ไปเข้าค่ายกับเค้า)

ถ้าน้องชอบวิชาในสอวน อยากเข้า อยากเรียน

สนใจวิชาอะไรก็ไปลองสมัครสอบดูได้ :)))


สัมภาษณ์ของคณะแพทย์ไม่ได้เน้นportเลย

แค่สอบข้อเขียนผ่านก็พอแล้วจ้า

(+สัมภาษณ์ดูทัศนคติแล้วเราดูเป็นคนปกติด้วย)

ไม่จำเป็นต้องมีportไปโชว์ก็ได้(แต่คนส่วนมากก็ทำกันไปอยู่)


ทั้งนี้ทั้งนั้นพี่ก็ยังสนับสนุนให้น้องๆทำกิจกรรมอยู่ดี ทำอะไรที่มันสร้างสรรค์ ถือว่าเป็นการพักผ่อนจากการเรียน(ที่หนักหน่วง?)ของเราก็ได้ เพื่อเสริมทักษะ ประสบการณ์ สังคมให้ตัวของน้องเอง^^เพราะชีวิตมีหลายด้าน หลายแง่มุมเน๊อะ ไม่ใช่แค่การเรียน


^_______^รักกกกก

0
ม๋าฝ้าย 29 มี.ค. 60 เวลา 21:32 น. 16-1

คำถามนี้เป็นคำถามยอดฮิตเลยก็ว่าได้

คำตอบก็คือออออ........

.......ขึ้นอยู่กับพยายามของแต่ละคนค่ะ

ถ้าน้องตั้งใจจริงๆ พี่ก็ยังยืนยันว่ามันเป็นไปได้แน่นอน

เมื่อรู้ตัวแล้วว่าเราไม่เก่งตรงไหน

นั่นถือว่าเป็นข้อดีนะ จะได้เอาไปพัฒนาปรับปรุงตัวเองได้

ไม่มีใครเก่งเลข หรือวิทย์มาตั้งแต่เกิด

ทุกคนล้วนต้องผ่านการฝึกฝน ผ่านโจทย์มาไม่รู้กี่ข้อ

ถึงเห็นเพื่อนๆเก่งวิชานั้นๆได้


หลายคนมีคำพูดว่า.....

ก็หนูหัวไม่ดีหนิ ไม่ฉลาด หัวไม่ไว

ใช่ค่ะ พี่ไม่เถียงเลย มันเป็นเรื่องจริง

เพราะพี่ก็ไม่ใช่คนที่หัวดีที่สุดในรุ่นหรือในห้องอะไรเลย

แต่ความพยายาม(ที่มากพอ)ไม่เคยทำให้ใครต้องผิดหวังค่ะ

อย่าดูถูกตัวเอง ทำให้เต็มที่ก่อน

ตั้งคำถามว่าที่ผ่านมาพยายามมากพอหรือยัง


สู้ๆนะะะะะะ ได้เวลาลุยยยยยย!


ดูซีเรียสเน๊อะ 5555 แต่พี่อยากให้น้องๆที่ตั้งคำถามนี้ได้กลับไปคิดใหม่ ฟิตใหม่

เพื่ออนาคตของตัวเองนั่นแหละ^________^รักกกกกกก

0
chidah 29 มี.ค. 60 เวลา 13:45 น. 17

พี่คะ จะขึ้นม.5 แล้ว แต่จะเตรียมตัวยังไงดีคะ อ่านหนังสือก็ไม่รุ้จะเริ่มอ่านอะไรดี ขอคำแนะนำหน่อยค่ะ

1
ม๋าฝ้าย 29 มี.ค. 60 เวลา 21:34 น. 17-1

กลับไปอ่านลิงค์ที่พี่แนบไว้ในท้ายกระทู้น้าาา

พี่เขียนไว้ละเอียดมากๆแล้ว

ถ้ามีคำถามอะไรเพิ่มเติมนอกเหนือจากที่พี่เขียนไว้แล้วค่อยมาถามทีหลังอีกทีก็ได้จ้า

0
ม๋าฝ้าย 3 เม.ย. 60 เวลา 08:51 น. 18-1

มีคำถามคล้ายๆกันอยู่ข้างบน

ลองเลื่อนขึ้นไปอ่านดูน้า

ตอบสั้นๆก็คือ

ได้แน่นอนถ้าน้องพยายามมากพอ

ยังไงก็สู้ๆจ้า

0
ม๋าฝ้าย 3 เม.ย. 60 เวลา 22:47 น. 19-1

สู้ๆนะคะ ถ้าอยากเรียนจริงๆ

ในคณะนี่มีติดมาตอนอายุ 28 ปีด้วยยย ^___^

0
orylove51 2 เม.ย. 60 เวลา 20:36 น. 20

การที่สอบเข้าแพทย์เราต้องอ่านหนังสือวิชาอะไรบ้าง เนื้อหาอะไรบ้าง มีไหมคะที่ต้องฟิกวิชานี้ๆเป็นหลัก

1