Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

[รีวิว] สอบตรงนิเทศศิลป์/มีเดียอาตส์/ฯลฯ ฉบับคนไร้สติ+บ่น(คำเตือน ยาวมากก) #

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

[คำเตือน กระทู้นี้ยาวมาก และสาระก็อยู่กลางๆท้ายๆ โปรดใช้เวลาในการอ่าน]

สวัสดีค่ะ!!
แฮ่... อย่าเพิ่งตกใจแล้วคิดว่าอินี่บ้าหรือเปล่านะคะ(...)
ไหนๆก็ติดมหาลัยแล้ว อยากมารีวิวการสอบของแต่ละที่ให้เด็กรุ่นต่อไปได้รู้ค่ะ
(ถึงปีหน้าจะเปลี่ยนระบบแล้วก็เถอะ........ orz)

ถามว่ารีวิวทำไม ได้ประโยชน์อะไรแก่ชีวิตบ้าง
ไอเราก็ไม่ได้จะเข้าคณะที่มันมีรีวิวทั่วไป กว่าจะหารีวิวหรือวิธีการไปสอบของแต่ละมหาลัยนี่แทบพลิกแผ่นดินหา บางอันก็ของตั้งแต่สองสามปีที่แล้ว ไม่รู้จะยังเหมือนเดิมบ้างมั้ย โธ่ชีวิต...

และก็เข้าสู่ช่วงรีวิวสักที...
เราสอบทั้งหมด " 8 โครงการ" ค่ะ (ใช้คำว่าโครงการเพราะบางอันเป็นมหาลัยเดียวกัน)
ได้แก่..แอ่..แอ่...แอ่...
1. มหาวิทยาลัยศิลปากร คณะมัณฑนศิลป์ /รับตรงรอบที่1
2. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี โครงการร่วมฯ สาขามีเดียอาตส์ /โควต้าเรียนดี
3. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขานฤมิตศิลป์ เอกเรขศิลป์ /รับตรง(พิเศษ)
4. สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น คณะเทคโนโลยี สาขาเทตโนโลยีมีเดีย /รับตรงรอบที่1
5. มหาวิทยาลัยศิลปากร คณะมัณฑนศิลป์ สาขาออกแบบนิเทศศิลป์ /รอบโควต้าภูมิภาค
6. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี โครงการร่วมฯ สาขามีเดียอาตส์ /ใช้GATPATรอบที่1
7. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สาขาออกแบบนิเทศศิลป์(หลักสูตรนานาชาติ) /Direct Admission รอบที่1
8. มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาออกแบบสื่อสาร /รับตรงโครงการผู้มีความสามารถพิเศษด้านศิลปกรรม

ปล. ความจริงเราสมัครรับตรงของคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สาขาออกแบบนิเทศศิลป์ ของลาดกระบังไปด้วยค่ะ แต่ไม่ได้ไปสอบ สาเหตุจะบอกในวรรคถัดๆไป

เริ่มจากอันดับแรก เราเรียงอันดับจากเวลาที่เราไปสอบนะคะ

มหาวิทยาลัยศิลปากร คณะมัณฑนศิลป์ /รับตรงรอบที่1
ต้องบอกว่าศิลปากรเป็นมหาลัยที่เราและเพื่อนหวังค่ะ เพราะว่ามีทั้งรุ่นพี่เรียนด้วยแล้วก็ผลงานของนักศึกษาด้วย แต่ถามว่าผลเป็นยังไง...
ถ้าติดก็คงไม่ไปสอบรอบโควต้าหรอกค่ะ orzz
เดี๋ยวว อย่าเพิ่งปิดกระทู้หนี เราไม่ได้มาบ่นแค่นี้นะ!
ตอนแรก ที่ติวของเราส่งเรากับเพื่อนไปติวพิเศษที่กรุงเทพก่อน เป็นสตูดิโอที่เจ้าของเป็นเพื่อนกับครูเรา และเราก็เคยไปติวช่วงปิดเทอม ถือว่าสอนดีเลย
แต่ความลำบากคือ การนอนสิงสถิตที่ติวเป็นเวลา10วัน!
ความซวยคือ เราปวดหลังค่ะ...
ปวดหลัง ปวดเอว ปวดตัว เพราะต้องนั่งพื้นวันละ9ชั่วโมงอย่างต่ำ แถมนอนพื้น เอาเบาะมารองก็ไม่ช่วย พอสุขภาพมันไม่เป็นใจ อารมณ์เราก็ไม่ค่อยดี ผลคืองานจากที่ยังเคยโอเคก็แย่ลง นอยด์โลกด้วย เอาเข้าไป..
ก่อนวันสอบ เราย้ายไปนอนกับเพื่อนจากที่ติวเดียวกัน(จากจังหวัดเรา จองที่พักไว้ด้วยกัน) มีรุ่นพี่ที่ติดศิลปากรมาช่วยติวให้โค้งสุดท้าย ก่อนจะไปเผชิญชะตากรรมค่ะ...
เราสอบที่โรงเรียนวัดดุสิตาราม เรากับเพื่อนก็แบ่งกันไป เพราะบางคนก็สอบอีกโรงเรียน

วันแรก สอบวิชาการ และ drawing
สารภาพว่าไม่ได้อ่านวิชาการไปเลยค่ะ...นอนก็ดึกเพราะมัวแต่เหลาดินสอEE(ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่าง...) ปวดท้องก็ปวด วิชาการเขาก็ไม่ได้ปล่อยผ่านนะคะ เขาบังคับให้ผ่านเกณฑ์30%เลยนะ...(250คะแนนต้องได้75คะแนนอัพ)
ผลคือ หลับๆตื่นๆในห้องสอบค่ะ ข้อสอบมี250ข้อ แบ่งเป็น5วิชา ไทย สังคม อังกฤษ คณิต วิทย์ อย่างละ50ข้อค่ะ เราก็เลย อาศัยบุญเก่าที่เรียนวิทย์มา นั่งทำแล้วก็หลับไป...ตื่นมารีบทำ100ข้อสุดท้ายตอนเหลือครึ่งชั่วโมง...
ผลคือ121คะแนนค่ะ น่าจะได้มาจากคณิตกับวิทย์ซะมากกว่า...

*สำคัญคือ นอนให้พอค่ะ ไม่ใช่ว่าทุกคนจะหลับในห้องสอบได้นะคะ ไม่งั้นจะซวยทำไม่ทันเอานะ...*

เที่ยง เรากับเพื่อนก็ไปหาอะไรกิน มาเตรียมสอบดรออิ้งภาคบ่าย
เอาเว้ย ซ้อมมาอย่างดี ถึงกับบนให้ออกวาดมือ...
ซึ่งก็ใช่ค่ะ เขามีแบบมาให้ เป็นตัวหนีบกระดาษสีดำในถุงที่คล้ายถุงลูกอม "ให้วาดมือถือถุงใส่ตัวหนีบ"ค่ะ...
สำหรับเราก็.. ดีใจนะที่ออกมือ แต่งานเข้า เราไม่ถนัดของใสเลยค่ะ ฮือ...
สุดท้ายก็นั่งวาด ถอยเช็คๆจนงานเสร็จก่อนหมดเวลาแค่15นาที นั่งแก้งานจนหมดเวลา
สำหรับนิเทศศิลป์แล้ว การแข่งขันสูงมากเลยนะคะ ควรทำคะแนนดรออิ้งให้ดีเลยล่ะ (เราได้ 65/100 เท่ากับเพื่อนที่ติด แต่ทำไมไม่ติด อ่านต่อค่ะ...)
จบวันแรกไป กลับไปซ้อมโจทย์นิเทศศิลป์ต่อ ซึ่ง งานก็ยังไม่ดีเหมือนเดิมค่ะ ร้องไห้หนักด้วย นอยด์ตัวเองมากๆ

วันที่สอง สอบออกแบบนิเทศศิลป์ค่ะ
สอบภาคบ่าย ยังพอได้ตื่นสายหน่อย เรากับเพื่อนที่สอบนิเทศศิลป์ก็เตรียมของ นั่งแท็กซี่ไปโรงเรียน ไปเจอรุ่นพี่ คุยกันสักพักแล้วก็ขึ้นไปสอบ
ตอนแรกเราเก็งไปมากว่าต้องออกเรื่องสำคัญๆ เช่น6ตุลา 14ตุลา หรืออะไรอีกอย่างที่ตอนนี้..ลืมไปแล้วค่ะ orz
สุดท้าย โจทย์คือ "ออกแบบโปสเตอร์งานประกวดสุดยอดนักออกแบบ" ผิดคาดไปเลยทีเดียว...
เราก็ทำงานค่ะ แต่ก็เครียดในระดับหนึ่ง สุดท้ายถึงงานเสร็จ แต่งานโล่งมาก... คะแนนเลยพอผ่าน แต่ไม่ผ่านไปสัมภาษณ์ค่ะ แป๋ว...(55/100 คะแนน)
จบวันไป เรากับเพื่อนก็กลับไปนอนอืดกันต่อค่ะ...
แต่ของเรา เราลงสอบออกแบบประยุกต์ศิลป์เพิ่มไปด้วย  แต่ทำงานประยุกต์ไม่เป็น คะแนนก็เลย...ตามนั้นแหล่ะค่ะ ฮา(20/100 คะแนน) สอบวันถัดมา บ่ายเหมือนเดิม สอบเสร็จ เรากับเพื่อนก็ยกก๊วนไปดูหนังกันเลยค่ะ ประดุจติดแล้ว(เปล่า มีคนนึงติด เราไม่ติด ฮา)

กลับมา เราก็เริ่มทำportfolioกันต่อ เพราะไม่รู้ว่าจะติดหรือเปล่า แล้วเราที่สมัครเรียนดีของบางมดไปด้วยก็ต้องขึ้นไปสอบเป็นอาทิตย์(เด็กต่างจังหวัดนี่ลำบากจังเลย orz) เลยต้องทำไปสองเล่ม เพราะเล่มหนึ่งไปยื่น อีกเล่มไว้ไปสัมภาษณ์ถ้าติดบางมด(เพราะสอบสัมภาษณ์ภายในอาทิตย์เดียวกันเลย...เลยเอาไปเผื่อ)
ผลออกมา ไม่ติด เราก็เพื่อนส่วนหนึ่งก็นั่งซึม ร้อง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มาก ต้องรีบปาดน้ำตาไปพิมพ์พอร์ตต่อค่ะ เดี๋ยวพอร์ตเสีย ไม่ได้ๆ
เย็บเล่ม ขึ้นเครื่อง ไปกรุงเทพค่ะ อีกสองที่ต่อไปปปป

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี โครงการร่วมฯ สาขามีเดียอาตส์ /โควต้าเรียนดี
เราเป็นคนเดียวในที่เรียนที่มาสอบที่นี่ค่ะ เพราะมันไม่เชิงนิเทศศิลป์ แต่เป็นมีเดียอาตส์ พอดีเราสนใจเอกแอนิเมชั่นค่ะ เราเลยมาสอบ
บางมดนี่ก็สอบเร็วมากเลยค่ะ สอบจันทร์ พุธประกาศ ศุกร์สัมภาษณ์ ประกาศอีกทีศุกร์ถัดไป
เร็วเนอะ... แต่ก็ดีค่ะ ไม่ต้องรอลุ้นนาน
เพราะว่าเป็นโครงการเรียนดีค่ะ เลยไม่มีสอบวิชาการ เขาเอาเกรดมาตัดสินแล้วส่วนหนึ่ง(ซึ่งของเราผ่านแบบฉิวเฉียดมากๆ เกณฑ์รับ2.70ขึ้น เกรดสี่เทอมตอนนั้นเรา2.70พอดีเป๊ะ...ช่างน่าอัศจรรย์)
วันสอบแบ่งออกเป็นเช้ากับบ่ายค่ะ
เช้าไปที่มหาลัย ไม่ได้ไปสอบที่วิทยาเขตบางมดนะคะ สอบที่"วิทยาเขตบางขุนเทียน"ค่ะ
สงสัยว่าไปยังไง เข้ากูเกิ้ลแมปพิมพ์ชื่อมหาลัยต่อด้วยบางขุนเทียน-ชายทะเลต่อได้เลยค่ะ
หรือมีรถรับส่งระหว่างวิทยาเขตอยู่นะคะ รุ่นพี่จะไปรอรับ
พอดีพ่อเรายืมรถเพื่อน เลยขับไปส่งเราที่มหาลัยได้
รุ่นพี่ที่มารับน่ารักมากเลย คอยดูแลน้องไปเช็ครายชื่อ ลงทะเบียน แล้วก็นั่งรอค่ะ
เราสอบชั้น6 เดินกันจนเหนื่อย... o<-<
เช้า สอบDrawing
ไปสอบแบบมั่นใจเหลือเกิน โจทย์ออกมาแถบน้ำตาไหล ให้"วาดธนบัตรชนิดใดก็ได้1ใบ กับอุปกรณ์เครื่องเขียนใดก็ได้1ชิ้น" โอ้พระพุทธ ชีวิตนี้ไม่เคยวาดพอร์ตเทรดมาก่อน แล้วต้องมาวาดธนบัตร แทบกรีดร้องกลางห้อง(เว่อร์...)
เราเลือกเอาแบงค์20บาท(ถามว่าทำไม ไม่มีเงินค่ะ มีแค่นี้...) กับปากกาดำหัวใหญ่ตราม้าค่ะ สาเหตุคือ จะได้เทียบสีได้(...)
ให้เวลาสามชั่วโมง เราทำเสร็จก่อนเวลามาก แล้วก็เดินออกจากห้องก่อนค่ะ เห็นรุ่นพี่หน้าห้องแซว ว่าบางคนวาดอันใหญ่มากกก(เต็มกระดานA2) บางคนเก็บรายละเอียดดีมาก แต่... เธอ มันเหลืออีกครึ่งชั่วโมง...เพิ่งได้ครึ่งแบงค์...

พักเที่ยง จะมีรุ่นพี่คอยพาไปโรงอาหาร แต่เราดันไม่เข้าสังคม หนีไปกินที่ส่วนร้านค้าเล็กๆใกล้ๆตึกสถาปัตย์แทน เลยได้มื้อเที่ยงเป็นผลไม้ล้วนๆ...

เอาเถอะ...
บ่าย สอบออกแบบสร้างสรรค์
ไม่ต้องสงสัยค่ะ เราก็สงสัย ฮา
ตอนแรกก็รู้สึกแบบ เอ๊ะ สอบอะไร ออกแบบแบบไหน เลยลองไปหาข้อมูลมา เจอรุ่นพี่คนหนึ่งเคยมาสอบแล้วตั้งบอร์ดไว้ ก็ถึงบางอ้อค่ะ สอบคล้ายๆของนิเทศศิลป์เลย ออกแบบโปสเตอร์
เอาล่ะ ใจชื้นขึ้นนิดหนึ่ง เข้าห้องสอบ มา โจทย์มา!
ให้เรา"ออกแบบโปสเตอร์โฆษณารถยนต์คันใหญ่" โดยที่มีคุณสมบัติตามที่โจทย์ให้มาค่ะ
ด้วยความที่รู้ตัวว่างานโล่งและงานดรอป เลยพยายามคิดแนวคิดงานดีๆ แล้วก็เลยหยิบเอามาจากไททานิคซะเลย-----
งานนี้เราทำเสร็จเร็วมาก แบบ เหลือเวลาเป็นชั่วโมง...
กลับที่พักค่ะ รอประกาศผล เราขึ้นมายาว1อาทิตย์เลย เพราะมีสอบจุฬาต่อด้วย จนครูที่โรงเรียนบางคนแซะ...
วันพุธมาถึง เราตื่นสายมาก และแม่ก็โทรมาจากที่บ้านว่าเรามีชื่อ พอเราไปเช็คชื่อดู เห้ย ติดจริง ชื่ออยู่คนสุดท้ายเลยด้วย(...)
ถามว่าเราเตรียมตัวไปสัมภาษณ์ยังไง บอกตามตรงเลยค่ะว่า ไม่ได้เตรียมตัวไปเลย... ไปแบบมั่นหน้ามั่นโหนกมากว่าฉันติดน่า
วันสัมภาษณ์
ไปที่วิทยาเขตบางขุนเทียนตามเดิมค่ะ ไปถึงก็ลงทะเบียน ถ้าวันที่มาสอบเอาเอกสารมาไม่ครบก็เอามาเพิ่มได้วันนี้ เราส่งครบแล้วก็ขึ้นไปรอห้องรอสัมภาษณ์ รุ่นพี่เขาก็เข้ามาคุย มาถาม มาเปิดงานรุ่นพี่ปีก่อนๆให้ดู ยิ่งดูยิ่งอยากเรียนเข้าไปใหญ่
รุ่นพี่ทุกคนเทคแคร์น้องดีมากเลย ชอบตรงนี้มาก /// v ////
เนื่องจากชื่อเราอยู่คนสุดท้ายค่ะ เลยรอยาวไป จนเที่ยงเพิ่งได้เรียกไปรอหน้าห้อง
ในห้องจะแบ่งออกเป็นสามโต๊ะ โต๊ะละสองคน และก่อนหน้านี้รุ่นพี่บอกว่า เข้าไปแล้วต้อง แนะนำตัว บอกเอกที่อยากเข้า และ'แสดงความสามารถ'ให้กรรมการดู
เอาแล้วเหวยเรา...ทำไรล่ะ พากย์หนัง ร้องเพลง จะเต้นก็ไม่มีเพลงไป ก็ทำใจสงบๆ กะว่าจะพากย์หนังให้เขาฟังแหล่ะค่ะ ปรากฏว่าเข้าไป อาจารย์เป็นอาจารย์ผู้ชายทั้งคู่ ถามเรานิดๆหน่อยๆ อาจจะเป็นเพราะหน้าเราดูอารมณ์ไม่ดี(เป็นคนหน้าบึ้งมาก) แล้วก็เป็นคนสุดท้ายแล้วด้วย อาจารย์คงจะหิวข้าว เราก็ตอบคำถามไม่น่าสนใจด้วย ตอบแบบทั่วไปมากๆ แถมนึกสภาพคนที่หน้าตาบูดบึ้งที่มั่นหน้าตอบคำถามแบบมั่นหน้าสิคะ ความสามารถก็ไม่ได้แสดง สัมภาษณ์ก็ไม่ถึงห้านาที ผลก็เลย...
"ไม่ผ่านสัมภาษณ์ค่ะ"
ตอนรู้ผลตอนนั้นกลับบ้านมาโรงเรียนแล้ว นั่งร้องกลางห้องเรียนเลย หลังจากนั้นก็บอกกับตัวเองว่าจะไม่ประมาทเรื่องสัมภาษณ์

บอกตรงๆเลยว่า การสัมภาษณ์อย่าคิดแค่ว่า เราแค่ตอบให้ดูเป็นคนปกติแล้วจะผ่านนะคะ เราต้องแสดงความเป็นตัวเอง ที่น่าสนใจให้กรรมการดูด้วยค่ะ ที่สำคัญ ทำหน้าตายิ้มแย้มอารมณ์ดีเข้าไว้

อ๋อ อีกเรื่องที่อยากจะบอกคือ คนส่วนใหญ่ที่มาสอบมีเดียอาตส์ จะเป็นคนที่เราตามงานในเฟสด้วยค่ะ แต่ละคนเขาจะมีเพจเป็นของตัวเองไว้ลงงาน เราเองก็ไม่ได้งานดีมากเท่าเขาเลยไม่มี อาจารย์ก็บอกว่าเนี่ย แต่ละคนเขามีเพจมีงานทั้งนั้นเลยนะ ตอนนี้เราเลยมานั่งทำเพจของตัวเองค่ะ ไว้เก็บงานด้วย ไว้ประชาสัมพันธ์ตัวเราเองด้วย เพราะงานสายนี้ต้องมีคอนเนคชั่นหรือเป็นที่รู้จักในระดับนึงด้วย อย่าอายที่จะทำเลยค่ะ

โอเค ก่อนจะไปไหน ย้อนมาตอนที่สัมภาษณ์มีเดียอาตส์เสร็จ
วันเสาร์ เราก็สอบที่ต่อไป
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขานฤมิตศิลป์ เอกเรขศิลป์ /รับตรง(พิเศษ)
แบ่งเป็นสอบสองวันค่ะ เสาร์อาทิตย์ วันแรกเช้าสอบทฤษฎีศิลปะ วันที่สองบ่ายสอบปฏิบัติ
เราไปกับเพื่อนส่วนหนึ่ง เพราะบางคนสมัครไม่ทัน...

วันแรก สอบทฤษฎีศิลปะ
ถามว่ายากมากไหม สำหรับเราคิดว่ายากกว่าPAT6ที่เคยสอบตอนรอบแรกโคตรๆ... ทำแบบง่วงก็ง่วงเพราะแอร์เย็นเหลือเกิน เป็นร้อยข้อก็ทำไปเรื่อยๆ เอื่อยๆ ทำแบบผ่านๆไป(ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่าง...)
สอบที่จุฬาเลยค่ะ ตึกไหนเขาจะบอกในเว็บให้
ผลคือ คะแนนทฤษฎีเราผ่านครึ่งแบบฉิวเฉียด 50.00 คะแนนเป๊ะๆ...
กลับที่พัก เตรียมสี เตรียมสอบวันต่อไป

วันที่สอง สอบปฏิบัติ เรขศิลป์
สอบที่จุฬาเช่นเดิม แต่เปลี่ยนตึก
ตอนแรก เราคิดว่าต้องสอบดรออิ้งด้วยใน3ชั่วโมง เลยเตรียมดินสออีอีไป ปรากฎว่าเตรียมเก้อ...
และมหาลัยบังคับให้เราเอารูปถ่ายตัวเองในชุดนัดเรียนครึ่งตัวไปด้วยค่ะ เลยนึกว่าให้ดรออิ้ง... เปล่าเลย เขาให้เอาไปทำโจทย์เฉยๆ
โจทย์สามโจทย์ เวลาสามชั่วโมง อมก... ตอนนั้นเราแทบกรีดร้อง
ไม่มีดรออิ้งค่ะ เตรียมไปเก้อมาก สุดท้ายมีกระดาษวาดเขียนขนาดA4ให้สามแผ่น กับชุดโจทย์และกระดาษให้สเก็ต
ห้ามเอาทุกอย่างยกเว้นเครื่องเขียนเข้าไปค่ะ กระดานก็ไม่ใช้ เราก็ยัดทุกอย่างลงถุงใสแบกกันต่อไป...
โจทย์คร่าวๆดังนี้ค่ะ
"ออกแบบหน้าปกหนังสือ วัยเด็กของฉัน"
"ออกแบบสัญลักษณ์ที่สื่อถึงคำที่กำหนด" เป็นชุดคำที่ความหายตรงข้ามกันค่ะ เช่น รัก-เกลียด
และสุดท้าย...
"วาดตัวเองจากรุปที่นำมา พร้อมสิ่งของที่สื่อถึงเรา ลงสีด้วย'เทคนิคกระจกสี'"
เราก็แบบ ห้ะ? กระจกสี -ที่มันมีหลายๆสีในโบสถ์อะไรพวกนี้อ่ะนะ?!
แล้วจะลงยังไงวะ!?!?
ตอนนั้นเอาไปแค่สีโปสเตอร์ค่ะ เราเลยวาด แล้วทำเป็นช่องๆลงสีโมโนโทนในแต่ละช่องไป
ผลคือ...
อ้าว กรรมการชอบเหรอ?... ได้คะแนนมาอยู่ที่90คะแนนหน่อยๆ
ตอนนั้นรอผลนานมากกกกกกกกกก สอบพฤศจิกา ออกกุมภา... รอจนรากงอก
สุดท้าย เราติดสำรองอันดับ1ค่ะ คงเพราะคะแนนทฤษฎี50คะแนนเป๊ะๆ...
อ๋อ ลืมบอก เขาใช้GATมาคิดด้วยนะคะ
แต่เราไม่ได้ไปสอบสัมภาษณ์ค่ะ ทุกคนก็แบบ เห้ย จุฬาเลยนะ ทำไมไม่ไป บลาๆๆ
โดนเพื่อนแม่ว่าซะรู้สึกผิดเลยค่ะ...
เอาจริงๆถ้าไปสัมภาษณ์ก็มีสิทธิ์ติดนะคะ
สาเหตุที่ไม่ไปนั้น เดี๋ยวจะบอกอีกทีค่ะ


อ่ะต่อไป

สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น คณะเทคโนโลยี สาขาเทตโนโลยีมีเดีย /รับตรงรอบที่1
เรียกว่าเป็นอะไรที่ก็ไม่ได้ตั้งใจจะเอาในตอนแรก แต่เห็นว่ามีคณะที่เกี่ยวกับแอนิเมชั่น เกม แล้วเพื่อนในห้องก็ไปสอบกันด้วย เลยไปด้วยค่ะ(เพื่อนไปสอบวิศวะหมดเลย...) สอบที่สถาบันเลยค่ะ
เป็นสอบทฤษฎีอย่างเดียว ไม่มีสอบวาดค่ะ สอบสามวิชา
คณิตศาสตร์พื้นฐาน
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับเทคโนโลยี
ภาษาอังกฤษ

ถ้าให้เราพูดแต่ละวิชา ในความเห็นเราแล้ว คณิตเป็นคณิตพื้นฐาน ไม่ใช่คณิตเพิ่มที่วิศวะสอบ เลยไม่แอดวานซ์เท่า แล้วเราเป็นคนเรียนคณิตได้ เลยทำได้ค่ะ
ความรู้พื้นฐานเรื่องเทคโนโลยี ถามเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และโปรแกรมที่มักใช้ทำงานค่ะ เช่นphotoshopเป็นต้น โดยรวมก็ไม่ยากเท่าไหร่
ภาษาอังกฤษ เรารู้สึกว่าตั้งแต่ทำGATอังกฤษมา เราจะง่วงกับพาร์ทreadingเป็นพิเศษเลยค่ะ(ไม่เกี่ยว...) แต่ไม่ยาก ออกจะง่ายเลยในระดับนึง
ผลคือเราผ่านข้อเขียนค่ะ รอสัมภาษณ์ต่อไป

ตอนสัมภาษณ์ เราขึ้นมาสัมภาษณ์กับเพื่อน แต่เราขึ้นมาก่อนเพราะเรามีสอบโควต้าภูมิภาคของศิลปากรด้วย
ปรากฎว่าวันสัมภาษณ์ของไทย-ญี่ปุ่นเราดันไม่สบายค่ะ แถมทะเลาะกับพ่อด้วย เลยอารมณ์ไม่ดีสุดๆ ลงทะเบียนแล้วรอสัมภาษณ์อยู่สักพัก รุ่นพี่ก็เรียกไปรอหน้าห้องค่ะ
ในห้องสัมภาษณ์มีกันสี่โต๊ะถ้าจำไม่ผิด เราได้โต๊ะอาจารย์ผู้ชายคนนึง อาจารย์ก็ถาม ให้แนะนำตัวอะไรตามปกติ เปิดพอร์ทเราดูนิดหน่อย(พอร์ทมีแต่งานวาดล้วนๆเลยค่ะ...) ก่อนจะถามเกี่ยวกับสกิลภาษาอังกฤษ และภาษาญี่ปุ่น


กลับบ้านค่ะ กลับไปเรียนต่อ เดี๋ยวอาจารย์ที่โรงเรียนจะแซะหนักกว่านี้ ฮา
(เราโดนแซะว่า ถึงเธอจะติดวิศวะแล้วไม่ใช่ว่าเธอจะไม่ตั้งใจเรียนแคลคูลัสได้นะ
คือ อาจารย์คงเห็นว่าเราไปสอบไทย-ญี่ปุ่นกับเพื่อน(ซึ่งเพื่อนสอบวิศวะ) แกเลยเหมารวมว่าเราสอบวิศวะค่ะ ฮา)

ผลออกมาคือติดค่ะ แต่ไม่ได้ทุน เพราะเราสมัครชิงทุนไปด้วย เลยไม่ได้เอา

จบพาร์ทแรกก่อน เพราะยาวไปค่ะ เด็กดีไม่ให้ตั้งยาวเกิน โธ่

แสดงความคิดเห็น

>

3 ความคิดเห็น

paew 17 เม.ย. 61 เวลา 19:54 น. 1

บางมดอินเอตร์มีสอบ ดรออิ้งมั้ยคะ แล้วก็สอบออกแบบมีแค่นั้นใช้มั้ยคะ เห็นอีกกระทู้นึงเขามีออกแบบแสตมด้วย แต่กระทู้เขาคือตอนเดือน พฤษภา 60

0
REAL LIFE IS NOT LIKE THAT 22 ก.ย. 61 เวลา 09:02 น. 2

ขอบคุณนะคะ รู้สึกมีกำลังขึ้นมาเลย แถมรู้ด้วยว่าชะตากรรมตีวเองในอนาคตจะเป็นยังไง;-; คาแรคเตอร์ของพี่ดูเป็นคนที่จับต้องได้มาก คือไม่ได้ตั้งกระทู้มาโชว์ว่าโห้เก่งได้คะแนนดีเว่อร์หมด ไม่รู้จะเรียนไรดีตัวเลือกเยอะ แต่คือมีความผิดพลาด มีข้อคิด และคำแนะนำที่เป็นกันเอง ขอบคุณมากนะคะ

0
Kiki 11 ส.ค. 62 เวลา 19:39 น. 3

กำลังสนใจค่่ะ แต่กลัวว่าตัวเองทำไม่ได้มากๆเลยค่ะ เรื่องภาษานี่ยิ่งอ่อนมากเลยค่ะ แต่เรื่องดรออิ้งเราพยายามจะฝึกให้มากๆเลยค่ะ คืออยากรู้ว่าเราไม่มีผลงานประกวดอะไรเลยมีสิทธิ์ผ่านรอบพอร์ตไหมคะ แต่มีงานที่วาดประจำๆอยู่ที่บ้านอะค่่ะ เรารู้สึกว่าอาจารย์กดดันมากเกินไป ทำให้เราเครียดมากๆ คือเราเป็นคนหนึ่งที่ไม่กล้าแสดงออกคืออยากบอกอาจารย์ว่าเราจะเรียนมีเดีย ก็กลัวว่าเขาจะว่าเราไม่เหมาะเพราะยังไม่เห็นฝีมือเรา เพราะในห้องมีคนเก่งทางด้านนี้สามสี่คน ทำให้เรารู้สึกด้อยไปเลยค่ะ แต่เราก็พยายามต่อค่ะ มีเป้าหมายให้พุ่งชนก็พุ่งให้เต็มที่เลยค่ะ ขอบคุณค่ะ

0