Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

อายุเท่านี้ปฏิบัติธรรม เราว่ามันดูแปลกๆ เลยต้องแอบทำ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
แม่พยายามถามว่าเราปฏิบัติธรรมไปทำไม พยายามเช็คว่าเรางมงายหรือป่าว แม่เราอายุ 50 กว่าอยู่บ้านเราบอกให้แม่เราปฏิบัติธรรม แม่รู้สึกว่าเรางมงาย พูดให้ไปนั่งสมาธินั่นนู่นนี่อิทธิฤทธิ์

แต่เหตุผลจริงๆของเรา... ต้องบอกก่อนว่าเรานับถือศาสนาพุทธ เราไม่รู้เรื่องศาสนาอื่นเลยว่าตำนานหรือคำสอนเป็นยังไง เหตุผลที่เราสนใจ ก็คือเราสงสัยว่ามีเราได้ยังไง เราเกิดมาได้ยังไง มีโลกใบนี้ได้ยังไง(เชื่อเหอะทุกคนต้องสงสัย) เราจะเกิดไปเรื่อยๆแบบนี้โดยไม่รู้อิโหน่อิเหน่หรอ เราก็เลยอยากลองหาคำตอบดู ก็มีศาสนาที่สอนอะไรแบบนี้อยู่แล้วเราก็ว่าว่างๆจะลองปฏิบัติดู เราคิดว่ามันเป็นเรื่องพิศวงมากที่เรามาอยู่บนโลกตอนนี้ คิดดูสิ จุดเริ่มต้นมันอยู่ตรงไหน

แสดงความคิดเห็น

>

5 ความคิดเห็น

Amnesiaa 29 เม.ย. 60 เวลา 19:33 น. 1

เราก็ทำนะแต่ไม่มีใครว่าไรอ่ะ ถามว่าจขทกอายุเท่าไหร่ครับ? เราอายุ16ครับ แต่เริ่มทำจริงจังๆตั้งแต่15ละครับ ส่วนที่แม้ว่าก็อย่าสนใจครับ ไม่ก็บอกแม่ว่า เป็นวิธีที่ทำให้เราใจเย็นลงและมีความสุขอีกแบบหนึ่งก็ได้ เชื่อว่าคุณแม่ทุกคนอยากให้ลูกมีความสุข

0
สุวิทย์ 3 พ.ค. 60 เวลา 16:03 น. 2

เกิดมาเป็นคนสิ่งสำคัญที่สุดของความเป็นมนุษย์คือ อริยสัจ 4 ไปหาคำตอบให้ได้ในพระพุทธศาสนา ก่อนจะตายก็ต้องรู้ให้ได้นะ หลานๆเอ้ย

1
- prangie 4 พ.ค. 60 เวลา 01:42 น. 2-1

T^T น่ากลัว แต่เอาเป็นว่าขอบคุณละกันนะคะ

0
FatherMonster 18 พ.ค. 60 เวลา 16:41 น. 3

การปฏิบัติธรรมไม่เกี่ยวกับอายุนะ เป็นการยกระดับจิตใจเราขึ้นไป ไม่ได้งมงายซะหน่อย

เราเองก็ปฏิบัติธรรมตั้งแต่เด็กๆแล้ว

1
- prangie 19 พ.ค. 60 เวลา 23:20 น. 3-1

ไม่งมงายจ้า แต่ภาพลักษณ์จะดูน่าเขินหน่อย

0
muisun 8 มิ.ย. 60 เวลา 18:23 น. 4

พระพุทธเจ้าพระองค์ทรงตรัสไว้ว่า ธรรมอันใดแลย่อมเกิดแต่เหตุ พระองค์ทรงสอนให้รู้จักเหตุแห่งธรรมเหล่านั้น ในเมื่อเค้าจะเกิดก็เกิดที่ตา ในเมื่อเค้าจะดับก็ดับที่ตา ในเมื่อเค้าจะเกิดก็เกิดที่ใจ จะดับก็ดับที่ใจ เกิด แก่ เจ็บ ตาย นรก ภพภูมิ สวรรค์ อยู่ตรงปัจจุบันทุกๆ ขณะจิต ถ้าตราบใดยังคิด ยังสงสัย ยังค้นหา ก็ชื่อว่าเข้าสู่ขบวนการแห่งการเกิด แก่ เจ็บ ตาย 

ภพภูมินรก สวรรค์ แต่ถ้ารู้ทัน จะคิดหนอๆ จะสงสัยหนอๆ ก็ได้ชื่อว่าดับสังขารในปัจจุบันก็เป็นอันว่าหลุดพ้นจากความทุกข์ทรมานได้ด้วยการรู้ทันได้ทุกเรื่อง จะคิดหนอๆ ก็ดับความสงสัยได้ทั้งหมด จะได้รู้เอง เห็นเอง โดยที่ไม่ต้องถามใคร

เพราะได้ปฎิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม รู้ทันปัจจุบันทุกความรู้สึก เห็นชัดว่าความรู้สึกเก่าดับไปแล้วความรู้สึกใหม่เกิดขึ้นเป็นแต่สักแต่ว่ารู้ทันเท่านั้น ไม่ได้มีความยึดถือในชอบ ชัง เฉย ให้มาว้าวุ่น กังวล เดือดร้อน ได้อีกต่อไป

จากสายสืบนิสัยศาสตร์

0
ฉฬภิญโญ 11 ส.ค. 61 เวลา 20:22 น. 5

ได้ฟังแล้วชื่นใจนะครับ ถ้างั้นฝากของแถมให้ผุ้ที่ปฏิบัติจริงให้นะครับจะได้รู้ได้ด้วยตนไปเลย


ขั้นแรกเริ่มจากทำความรู้สึกทั้งตัว(ความรู้สึกตัวใต้ผิวหนัง) โดยเริ่มจากหายใจเข้าช้าๆและหายใจจนเต็มปอดจะเกิดความรู้สึกแน่นนี่แลคือความรู้สึกตัวและค่อยๆผ่อนลมออกแต่อย่าให้ความรู้สึกที่จุดนั้นหายไป


พอผ่านระดับนี้ให้เคลื่อนความรู้สึกตัวโดยการคุมมันให้ไหลเหมือนน้ำให้ทั้งตัวให้ได้ พอทำไปแล้วสำหรับบุคคลทั้วไปจะพบว่าระดับของความรู้สึกตัวมันไม่เท่ากันบางที่ก็แน่นกว่า ให้ทำให้แน่นเท่ากันทั้งตัว


พอทำได้ทั้งตัวให้สังเกตุอาการเร่งและอาการผ่อนลงของความรู้สึกตัว ให้เร่งจนเร่งเพิ่มไม่ได้แล้วและตรึงมันไว้ พอตรึงได้จนชินจะเกิดอาการอยู่กับสภาวะอาการนั้นได้ 


พอทำได้แล้วจะพบว่ามันมีสติ(รู้ตัว)ของจริงที่ไม่ใช่สติแบบทางโลก และลองไปเล่นดูโดยการขยับแขนของความรู้สึกตัวข้างใน(ไม่ใช่กายเนื้อ) มาจับแขนตัวเองดูก็จะได้คำตอบเองว่าธรรมของพระพุทธเจ้าเป็นของจริงหรือไม่นะครับ



หลังจากทำแบบข้างต้นได้แล้วในสภาวะความรู้สึกตัวใต้ผิวหนัง(กายเวทนา) จะพบว่าจิตไม่สอดส่ายภายนอกรู้สึกตัวตลอดเวลาอารมณ์ไม่สอดส่ายเป็นอารมณ์เด่นอารมณ์เดียว(เอกคัตารมณ์) นั่นแหละคือฌาน และในสภาวะที่ปรากฏของกายเวทนานั้น จะมีอาการ ซ่านออกไปปรากฏอยู่ให้เราย้ายตรึงแช่และอยู่ในสภาวะซ่านออกไป นั่นคือปิติ ในสภาวะปิติจะมีสุขอยู่ และในสุขจะมีเฉยอยู่ นี่คือรูปฌาน



หากทำแบบข้างต้นได้แล้วก็ให้ลองเล่นย้ายสภาวะ และสามารถกำหนดกายเวทนาได้เลย ทำจนสามารถกำหนดเป็นได้เลยหรือจะเรียกว่าคล่องหรือชิน (วสี)


นี่คือสติปัฏฐาน 4 คือ หมวด กาย เวทนา จิต ธรรม



เมื่อทำได้แล้วให้หด ความรู้สึกตัวให้เล็กที่สุดจากสภาพกายเวทนาจะพบว่ามันคืออัตตาจิต นั่นแหละ


แค่นี้ก่อนครับ ขอให้เจริญในธรรมนะครับ




0