Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

3 เคล็ดลับ ทำให้ทาครีมแล้วผิวใส รอยสิว จุดด่างดำจางลงไวขึ้น

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
เชื่อว่าสาวๆหลายๆคนต้องเคยเจอปัญหานี้แน่นอน
ซื้อครีมมา ไม่ว่าจะถูกจะแพง อะไรก็ไม่ดี ไม่เห็นผลสักที
จนหมดหวังต้องไปฉีดผิว หรือทำเลเซอร์แทน ซึ่งค่าใช้จ่ายแพงกว่าการทาครีมบำรุงมากๆ
วันนี้ปาล์มเลยจะมาบอกเคล็ดลับที่ปาล์มทำมาตลอด 4 ปี
ว่าทำยังงัยให้ทาครีมแล้วเห็นผลลัพธ์ได้ดีขึ้น ให้รู้กันนะคะ



เมื่อก่อนปาล์มจะเป็นคนไม่ค่อยสนใจเรื่องผิวหน้าเท่าไหร่

เพราะคิดว่าเราโชคดีเป็นคนไม่มีปัญหาสิวแต่เกิด

ด้วยความชะล่าใจทำให้ขี้เกียจล้างหน้า ขี้เกียจบำรุง แต่ขยันแต่งหน้า

ทำให้ผิวหน้าพัง และเป็นสาเหตุของรูขุมขนบริเวณหน้าแก้มที่กว้างมากมาจนถึงปัจจุบันนี้



จากรูปจะเห็นเลยว่ารูขุมขนกว้างมากกกกกกกก

เกิดจากการแต่งหน้าทุกวัน แต่ไม่ยอมล้างหน้าให้สะอาด 



สำหรับตอนนี้ผิวปาล์มจะค่อนข้างฟู อิ่มน้ำ เพราะได้รับการดูแลอย่างดี

ทำให้ไม่มีฝ้า กระ แต่อาจจะมีจุดด่างดำจากสิวบ้างประปราย

ซึ่งปาล์มถือว่าผิวปาล์มค่อนข้างดีนะคะ เมื่อเทียบกับวัยที่ใกล้จะเลข 3 แล้ว

(อวยตัวเองเบาๆ 555X)

 

สำหรับเทคนิคทั้ง 3 ขั้นตอนจะมีอะไรบ้าง

และทำง่ายแค่ไหนมาดูกัน

 

1. ทำความสะอาดหน้าให้สะอาด หมดจด



ของที่จะใช้หลักๆมี 3 อย่างคือ

- Cleansing water ของ Collection ปาล์มว่าตัวนี้เช็ดเกลี้ยงพอๆกับของ Bifesta ไม่ทิ้งความเหนอะหน้า

- Perfect Whip Foam ของ Senka ตัวนี้เขาปรับสูตรมาใหม่ ให้เหมาะกับสภาพน้ำของเมืองไทย ล้างแล้วหน้าไม่แห้ง แถมฟองนุ่มละเอียดยังช่วยทำความสะอาดรูขุมขนได้ดี

- Hot Foam ของ Biore ตัวนี้เป็นโฟมที่นวดแล้วจะอุ่นๆ มันเหมาะกับการเคลียร์สิ่งสกปรกที่ตกค้างตามรูขุมขนได้ดี




เวลาล้างหน้าก็จะใช้ Cleansing water เช็ดเครื่องสำอางออกจนสำลีขาว

และล้างต่อด้วยโฟมล้างหน้าเลย

แต่ถ้าวันไหนแต่งหน้าแน่น หรือออกไปเจอมลภาวะนอกบ้าน

ก็จะใช้ Hot foam จะใช้นวดหลังจากเช็ด Cleansing แล้ว จากนั้นก็ล้างออก แล้วล้างตามด้วย Whip foam อีกที
 

2. ขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วเป็นประจำ


 

การที่เรามีเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วบนผิวหน้า จะทำให้ผิวดูหมองคล้ำ ไม่สดใส

และเจ้าเซลล์ผิวที่ตายแล้วก็จะทำให้ผิวหน้าหยาบกร้าน

จากรูปจะเห็นได้เลยว่า มันยังบล็อกผิวชั้นบนของเรา ทำให้เวลาทาครีมอะไรลงไป

ครีมก็ไม่บำรุงถึงชั้นผิวที่เราต้องการ แต่กลับถูกปิดกั้นไว้โดยเซลล์ผิวที่ตายแล้ว

จึงเป็นที่มาของการทาครีมแล้วไม่เห็นผลนั่นเอง

 

เพราะฉะนั้นเราจึงต้องทำการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป

เพื่อทำให้ผิวดูสว่างใสขึ้น ลดเลือนพวกฝ้า กระ จุดด่างดำ และทำให้ทาครีมบำรุงเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นนั่นเอง

 

สำหรับวิธีการที่ปาล์มเลือกใช้ในการขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว

ก็จะเป็นการสครับผิว ร่วมกับการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของ AHA

โดยปาล์มจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของ Nami Tamarind Whitening Scrub Mask



 ที่ปาล์มเลือกใช้ตัวนี้เนื่องจากเม็ดสครับเขาเล็ก ละเอียด ไม่บาดหน้า

ไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองหลังสครับ และเขายังมี AHA จากมะขามอีกด้วย

ตัวนี้ปาล์มจะใช้อาทิตย์ละ 2 ครั้ง



หลังใช้สครับตัวนี้ปาล์มรู้สึกว่ารอยสิวดูจางลงไวขึ้น

พอลูบหน้าดูหน้ามันจะนุ่มๆ ไม่หยาบกร้านเหมือนก่อน

เวลาแต่งหน้าถึงโบกแป้งหน้าก็จะไม่เห็นรอยขรุขระบนผิวหน้าเลย

 

3. เลือกใช้ครีมบำรุงให้เหมาะกับสภาพผิวหน้า


 

ก่อนที่เราจะไปเลือกครีมบำรุงนั้น เราต้องทำการวิเคราะห์สภาพผิวของเราก่อน

ว่าเราเป็นคนผิวประเภทไหน

จากนั้นค่อยเลือกเนื้อครีม และสารสกัดที่อยู่ในครีม

ให้เหมาะสมสำหรับการบำรุงผิวหน้าของเรา



สำหรับปาล์มเป็นคนที่ผิวมัน แต่ก็มีความแห้งขาดน้ำ

เพราะอยู่ในห้องแอร์ทั้งวัน

ปาล์มเลยจะเลือกใช้ครีมบำรุงที่เป็นเนื้อเจลของ Senka ที่ซึมซาบง่าย

ไม่ทำให้เหนียวเหนอะหนะ หากวันไหนปาล์มต้องการฟื้นฟูผิวอย่างเร่งด่วน

ปาล์มก็จะเพิ่มการมาส์กหน้าเข้าไป โดยมาสก์ที่ใช้จะใช้เป็นแบบ Sheet

เพราะใช้งานง่าย และมีหลายสูตรให้เลือกค่ะ

 

ใครอยากดูแบบคลิปคลิ๊กเลย



ทั้ง 3 ข้อที่ได้แนะนำไป ก็เป็นเคล็ดลับที่สาวๆหลายๆคนอาจละเลยไม่ได้ให้ความใส่ใจ

จึงทำให้เราดูแลผิวไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็นนะคะ

ยังงัยลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกันดูใหม่ แล้วได้ผลยังงัยอย่าลืมมาบอกกันบ้างนะคะ

แสดงความคิดเห็น

>