Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ทำไมฟิสิกส์ต้องพิสูจน์สูตร

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
เห็นตามเว็บหรือ พี่ๆบอกว่าอยากเก่งฟิสิกส์ต้ิงทำโจทย์เยอะๆ แล้วต้องเข้าใจสูตรด้วย ทำไมต้องพิสูจน์อ่าาาา

แสดงความคิดเห็น

3 ความคิดเห็น

Shalnark T Diabolus 16 มิ.ย. 60 เวลา 22:45 น. 1

งั้นถ้าผมบอกว่า s = vt กับ s = ut + (1/2)at^2 คือสมการเดียวกันในสถานการณ์ที่ต่างกัน

หรือ

v = u + at กับ a = (v - u)/t กับ t = (v - u)/a คือสมการเดียวกัน


น้องอธิบายได้มั้ยครับว่าทำไมมันถึงเป็นสมการเดียวกัน


ถ้าไม่เข้าใจว่ามันเป็นสมการเดียวกันได้อย่างไร เวลาจำน้องก็ต้องจำ5สมการ แต่ถ้าเข้าใจจำแค่2สมการก็จบ

4
Alice P pecky 17 มิ.ย. 60 เวลา 09:55 น. 1-1
s = vt กับ s = ut + (1/2)at^2 คือสมการเดียวกัน เพราะ s = ut + (1/2)at^2 มีความเร่งมาเกี่ยวข้อง แต่s = vt ไม่มีความเร่งมาเกี่ยวข้อง สถานการณ์เลยต่างกันคะ


v = u + at กับ a = (v - u)/t กับ t = (v - u)/a

เวลาเราแก้สมการไปมา มันก็คือสมการเดียวกันคะ เช่น

a = (v - u)/t

at=v-u

u+at=v หรือ v=u+at นั้นเองคะ


ส่วน

t = (v - u)/a เช่นเดียวกันคะ แก้สมการแล้วจะได้ v=u+at คะ


อย่างงี้หรือเปล่าคะ

0
The LightHouse 17 มิ.ย. 60 เวลา 19:34 น. 1-2

ันนั้นมันแค่ย้ายข้างหาค่าตัวแปรนะน้องนะ (จริงๆไม่ใช่ย้ายข้างแต่นึกคำไม่ออกละ) การพิสูจน์สูตรมันต้องมีการดำเนินการระหว่างสมการด้วย


การแทนที่ตัวแปร การเอาสมการ 1 มาหารกับสมการ 2 อะไรแบบนั้น หรือแม้กระทั้งดิฟเฟอเรนเชียล และอินทิเกรต

0
Shalnark T Diabolus 18 มิ.ย. 60 เวลา 14:04 น. 1-4

ก็ถือว่าเข้าใจถูกนะ

v = u + at กับ a = (v - u)/t กับ t = (v - u)/a

เวลาครูอาจารย์เขียนเป็นสูตรขึ้นกระดานมันดูเป็นอะไรที่เยอะแยะมาก แต่เอาจริงๆมันก็คือสมการเดียวที่ย้ายข้างไปมา


ส่วน s = vt กับ s = ut + (1/2)at^2 ก้ถือว่าถูกครับ ตัวนึงเป็นสมการมีความเร่ง อีกตัวไม่มี หรือก็คือ s = ut + (1/2)at^2 ที่ไม่มีความเร่ง(a = 0)

จะได้เป็น s = ut + (1/2)(0)t^2 >> s = ut + 0 >> s = ut

และเมื่อไม่มีความเร่งก็จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงความเร็ว v จึงเท่ากับ u

ดังนั้นจะเขียนในรูป s = ut หรือ s = vt ก็ได้


1-2 ไม่ต้องนึกคำอะไรให้วุ่นวายครับ มันก็คือการแก้สมการปกตินั่นละ แค่ปกติเราเขียนกันแบบลดรูปจนมันดูเหมือนกลายเป็นการย้ายข้างแล้วก็เรียกกันติดปาก

ตัวอย่างเช่น v = u + at กับ a = (v - u)/t ถ้าเขียนด้วยรูปเต็มก็จะได้เป็น

v = u + at

ต้องการ a ดังนั้นต้องกำจัดตัวอื่นที่ไม่ใช่ a ออกไปจากฝั่ง เริ่มต้นด้วย u ที่บวกอยู่ priority ต่ำสุด

v - u = u + at -u

+u กับ -u ก้จะตัดกันหายไปได้เป็น

v - u = at

จากนั้นเพื่อกำจัด t ที่คุณอยู่ ก็ต้องเอา t มาหาร

(v - u)/t = (at)/t

tคูณกับtหารก็จะตัดกันเหลือ1 ได้เป็น

(v - u)/t = 1a หรือก็คือ a = (v - u)/t

เวลาขะทำอะไรจริงๆต้องทำเหมือนกันทั้ง2ข้างเพื่อรักษาสมดุลของสมการไว้ แต่มันยาวปกติเราก็เลยเขียนลดรูปกันเพื่อความรวดเร็ว ซึ่ง...ผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าเดี๋ยวนี้เค้ายังสอนที่มาของมันอยู่มั้ยน่ะ - -

0
TheGreatManatee 17 มิ.ย. 60 เวลา 11:43 น. 3

ถ้าการแก้โจทย์ปัญหาหนึ่งโจทย์มีหนึ่งหมื่นกรณี

พวกสูตรเนี่ยแก้ได้แค่ 2000 กรณีแค่นั้นแหล่ะครับ

โจทย์หลายอย่างต้องแก้โดยการตั้งสมการ

0