#รีวิว สอบสัมภาษณ์ มนุษย์จีน @มมส60 ปล. ละเอียดยิบ

เพิ่งนึงได้ว่าอยากรีวิว การสอบสัมภาษณ์เข้าคณะมนุษย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม สาขาวิชาภาษาจีน ซึ่งมันผ่านมาเกือบ6เดือนละเห้ๆๆๆ ตอนตัวเองไปสัมภาษณ์ก็ไม่รู้เลยว่าต้องทำอะไรยังไง เสิร์ชหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตก็ไม่มีเลยซักนิด ไปแบบงงๆ และผ่านมาแบบงงๆ เพราะงั้น เลยอยากมีรีวิวให้เด็กปีต่อๆไปไว้เป็นกรณีศึกษา หรือกรณีห้ามทำตาม อิอิ

เข้าเรื่องเลยย เอาแบบละเอียดยิบนะ

เริ่มต้นที่ ขอนแก่นละกัน เราปก่อนวันสัมภาษณ์วันนึง นั่งรถสีชมพูจากขอนแก่นไปสารคาม ค่าตั๋ว 48 บาท ตอนนั้นไปกับเพื่อน รุ่นพี่กำชับว่าให้บอกพนักงานว่า “มอใหม่” เพราะถ้าบอกว่าไปมมส เฉยๆ อาจจะได้ไปมอเก่า. ก็จะได้นั่งรถอ้อมไปโกสุมพิสัย จอดส่งผู้โดยสารที่โกสุมพิสัยก่อน กว่าจะมามอเก่าซึ่งอยู่ในเมืองก็เกือบ 2 ชม.กว่า  แต่ถ้าบอกว่าไปมอใหม่ซึ่งอยู่อ.กันทรวิชัยก็จะใช้เวลาประมาณ1ชม.นิดๆ  นี่ก็รีบทำตามเลย เพราะไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร แถมไปแบบงงๆ

                                                         รถสีชมพู มุ้งมิ้งไปอีก
 
                                คนเยอะมากกกกกกกกก                
พอรถจอดที่รอรถหลังมอ (ปกติเด็กมอใหม่จะลงที่นั่น) ตอนนั้นคนเยอะมากกกกกก พี่หลายๆคณะก็มารอรับเด็กคณะตัวเอง นี่ไม่เห็นพี่คณะตัวเองอีก แล้วก็ไปแบบมึนๆอีก ดีที่พี่ที่รู้จักมารับไปหอ ไม่งั้นยืนงงในดงรุ่นพี่แหงๆ                                                      จุดรอรถตอนกำลังสร้างใหม่ๆ        
พอถึงหอพัก (cat living room ญ้อภูไท) พี่ที่รู้จักจองไว้ให้ ห้องก็ถือว่าโอเค มีตู้เย็น เครื่องทำน้ำอุ่น แอร์ ทีวี ไวไฟ ครบครัน ติดถนนใหญ่ ยืนอยู่หน้าหอก็เห็นป้ายหลังมอ ราคา ตึกB ก็ประมาณ 350บาท ถือว่าโอเคสุดๆแล้วในตอนนั้น

55555555555

ชอบบรรยากาศมากครัช

หลังจากทริปร้านฉลวยก็แอบไปดูสถานที่สัมภาษณ์ที่มอก่อน เพื่อความไม่ประหม่า และไม่วิ่งหาตึกในวันสัมภาษณ์จริง ซึ่งตรงนี้ถือว่าดีที่ไปดูสถานที่ล่วงหน้าก่อน และพอกลับหอพัก ต่างคนต่างทำภารกิจส่วนตัว ก่อนจะท่องสคริปต์ของตัวเองที่เตรียมมา เพื่อรอสัมภาษณ์ในวันพรุ่งนี้ อยากบอกว่าตื่นเต้นมากกกกกก




วันสัมภาษณ์ ตื่นเต้นหนักกว่าเมื่อวาน 55555555555 แต่ก็ถือว่าโอเคเพราะเมื่อวานได้มาดูสถานที่ไว้แล้ว พอลงจากหอก็ไปรอรถสองแถวที่หน้าหอ รถวิ่งเข้าในมออยู่แล้ว แต่คนเยอะมากกกกกกก อัดกันจนจะเป็นปลากระป๋อง ค่าสองแถวคนละ 8 บาท แล้วกดกริ่งลงที่หน้าคณะมนุษย์ศาสตร์
พอถึงหน้าคณะ คนเยอะมาก รุ่นพี่ก็มายืนรอกันรับน้องคณะตัวเอง มองหาคณะตัวเองก็ไม่มี (รุ่นพี่เค้าติดสอบ) เลยตัดสินใจเดินขึ้นไปหาห้องเองซึ่งอยู่ชั้น 3 พอถึงชั้น3 ก็ไม่เจอใครอีก แต่มีป้ายติดไว้ว่าเป็นห้องสัมภาษณ์ ไม่นานมีรุ่นพี่มา เพื่อนๆก็เริ่มทยอยมา รุ่นพี่เลยพาลงไปชั้น2 ไปที่ห้อง เพื่อรวมตัวกันก่อน
เด็กสัมภาณ์ตอนนั้นมีประมาณร้อยกว่าคนน พี่เค้าจะเรียกชื่อตามตัวอักษรให้ขึ้นไปรอที่ชั้น 3 ทีละ 5 คน  นี่ได้คิวเกือบสุดท้าย รอวนไปค่ะ ดีที่รุ่นพี่เค้าเอนเตอร์เทรนเก่ง เปิดวีดีโอให้ดู ไม่ว่าจะเป็นเพลงจีน เพลงเกาหลี ทุกแนวเลย แม้กระทั่งหน้ากากทุเรียนที่ช่วงนั้นกำลังเป็นกระแสพี่เค้าก็เปิดให้ดู 55555555555  รวมทั้งพูดคุยเกี่ยวกับตอนซัมเมอร์ที่ต้องไปเรียนที่จีน แม้ว่าจะติดสอบ แต่พี่เค้าก็ผลัดเปลี่ยนกันมาเอนเตอร์เทรนให้น้องๆผ่อนคลาย หรือแม้กระทั่งแก้ง่วง 
   
รอวนไป.........





เพื่อนที่สอบสัมภาษณ์ด้วยกัน

  เมื่อถึงคิวตัวเอง ฉี่แบบจะราด แล้วก็เดินไปต่อแถวเพื่อน เดินขึ้นไปชั้นสาม ก่อนจะไปเปิดโทรศัพท์อัดเสียงไว้ด้วย เวลาสัมภาษณ์อยากรู้ว่าอาจารย์จะถามไรบ้าง พอถึงห้อง ก็ยืนรอ โดยพี่เค้าจะเรียกเข้าห้องทีละ 3คน เพราะอ.มี 3คน คนไทย 2 คนจีน 1ทำเป็นใจดีสู้เสือ  แถมเจอแจคพอตคือไปเจอครูจีนซึ่งเป็นผญ หน้าตาน่ารักมากกกก ในใจเริ่มหวั่นๆละ จะไหวมั้ย จะติดมั้ย จะได้เรียนมั้ย ...... แล้วก็ยื่นพอร์ตให้อาจารย์ แล้วอาจารย์ก็เริ่มถามทีละคำถาม เข้าไปทีแรก อาจารย์ถามก่อนเลยว่า 你会说汉语吗 พอบอกว่า 我自学了三年 会一点儿แล้วอาจารย์ก็รัวเลย เปิดดูพอร์ตแปบเดียว แล้วให้แนะนำตัว เรานี่เกร็งมากกกก แต่ก็เก็บอาการไว้ แล้วอาจารย์ก็ให้แนะนำตัว เราก็ท่อง-ที่จำๆมา บางอันก็ด้นสดไปเลย พอแนะนำตัวเสร็จอาจารย์ก็ให้อ่านภาษาจีนที่อาจารย์เค้าเตรียมไว้ให้ เราก็อ่านได้ พอมาอีกบรรทัดก็อ่านได้ พอมาบรรทัดที่3อ่านได้ แต่ไปติดคำศัพท์คำสุดท้าย อาจารย์ก็ไม่ว่าอะไร แล้วก็พาอ่าน แล้วก็ถามคำถามต่อไป ประมาณว่าบ้านอยู่ไหน มาไกลมั้ย พ่อแม่สนับสนุนหรือเปล่า ถ้ามาเรียนแล้วรู้สึกยากจะทำยังไง รู้มั้ยว่าต้องไปจีน ตอนซัมเมอร์ ไปหนานหนิง กว่างซี จะอยู่ได้มั้ย เคยสอบ hsk มั้ย ถามสารพัด -ที่เตรียมไปแทบไม่มี เพราะพอเราตอบอะไรไป -ที่เราตอบนั่นแหละ อาจารย์เค้าจะเอามาถามเราต่อ แต่อาจารย์ใจดีมาก เวลาเราตอบไม่ค่อยได้เค้าจะช่วยขยายความ ประมาณว่าเข้าใจที่เราพูด  พอสัมภาษณ์เสร็จ ก่อนจะลุกออกมา อาจารย์ถามชื่อว่าไหนชื่อเรา -เราก็ชี้ให้ดู ก่อนจะลุกออกมาก็กล่าวขอบคุณ พร้อมกับความหวังเล็กๆว่าจะติด ว่าจะได้เรียนที่นี่แน่ๆ  แต่ก็เผื่อใจไว้อยู่ ถ้าได้ก็ดีใจ ถ้าไม่ได้ก็สัญญากับตัวเองไว้ว่าจะไม่เสียใจนาน
555555555555555

 




                   ก็ติดอยู่นะ 555555555555555555555555







                                                             
                          เพื่อนคนนึงได้สัมภาษณ์คู่กับดร.ที่คณะ นางบอกว่าอาจารย์เค้าถามไม่เกี่ยวกับสาขาที่จะเรียนเลยด้วยซ้ำ ให้พูดภาษาอีสานให้ฟัง ให้ร้องเพลงให้ฟังก็มี 555555555555555




 
เพราะฉะนั้น อย่าตื่นเต้นจนเกินไป อย่าประหม่าเกินไป เพราะถ้าเตรียมไปดีแค่ไหน ถ้าตื่นเต้น ถ้าประหม่า -ที่เตรียมๆไว้ก็อาจจะจำสลับกันมั่วไปหมดก็ได้ ต้องกะเวลาเดินทางด้วย เพราะไปแบบนั้นแน่นอนว่าเราไม่ได้ไปคนเดียว ไปก่อนเวลาเพื่อเตรียมตัว ดูสถานการณ์ล่วงหน้าไว้เลยยิ่งดี และที่สำคัญต้องเชื่อมั่นในตัวของตัวเอง ตอบคำถามหนักแน่น มีความมั่นใจ อาจารย์เค้าแค่อยากวัดความรู้ วัดความกล้าแสดงออก และทักษะนิดๆหน่อยๆของเราเท่านั้น อย่ากลัวที่จะทำตามฝัน สู้ๆนะเคิ๊บบบบบบ